แชร์

บทที่ 22

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-24 14:36:01
คำพูดเหล่านี้ สะใภ้ใหญ่เฉินฟังจนไม่ระคายหูแล้ว

ที่ผ่านมานางกล้ำกลืนฝืนทนมาตลอด ใครใช้ให้นางเป็นสะใภ้คนอื่นเล่า อย่างไรก็ต้องถูกแม่สามีกดขี่อยู่แล้ว

ทว่าวันนี้ เมื่อนึกถึงบุตรสาวที่มีไข้สูง แต่แม่สามีกลับไม่ยอมออกค่ายาให้แม้แต่แดงเดียว

ส่วนที่บุตรสาวต้องตกใจจนไข้ขึ้นสูง เพราะเฉินเสียวเป่าแย่งพุทราที่บุตรสาวเด็ดมา แล้วกินเข้าไปโดยไม่ระวังทำให้พุทราติดคอ เป็นเพราะทำตัวเอง แต่ทุกคนกลับโทษว่าเป็นความผิดของบุตรสาวนาง

แม่เฒ่าเฉินที่เป็นย่า ยังบีบให้เฉินเหล่าต้าผู้เป็นพ่อตบตีลูกสาวตัวเอง เพื่อแก้แค้นให้หลานชายสุดที่รักของนาง

หนำซ้ำเฉินเหล่าต้ายังลงมือจริง

บนโลกมีลูกชายที่กตัญญูอย่างโง่เขลาเช่นนี้จริง และเป็นพ่อที่ใจร้ายมาก

ตอนนี้แม้แต่น้ำข้าวที่เฉินเสียวเป่ากินเหลือ แม่เฒ่าเฉินก็ไม่ยอมแบ่งให้ต้ายาแม้แต่น้อย

ทำให้ความโกรธของสะใภ้ใหญ่เฉินไม่อาจเก็บไว้ได้อีกต่อไป ทันใดนั้นจึงทะเลาะกับแม่เฒ่าเฉิน

มีคำกล่าวว่า หากไม่เป็นบ้าในความเงียบ ก็จะอาละวาดในความเงียบ สะใภ้ใหญ่เฉินคืออย่างหลัง

แม่เฒ่าเฉินจะยอมลูกสะใภ้ได้อย่างไร ทันใดนั้นจึงนั่งลงกับพื้น ตบขาตัวเองแล้วตีอกชกหัว ด่าว่าบ้านเฉินเหล่าต้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 23

    แม่เฒ่าเฉินมีแผนอยู่ในใจนางไม่ยอมให้ต้ายากินแม้แต่น้ำข้าวถ้วยเดียว หนึ่งเพราะรักเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง เพราะรู้สึกว่าเด็กหญิงอย่างต้ายาไม่คู่ควรกินน้ำข้าวสองเพราะอยากแสดงสีหน้าใส่สะใภ้ใหญ่เฉิน เพื่อกำราบอีกฝ่ายเมื่อนึกถึงสะใภ้ใหญ่เฉินใช้เงินหนึ่งตำลึงซื้อยาให้เฉินต้ายา นางก็รู้สึกจุกในอก รู้สึกเสียดายอย่างมากเงินหนึ่งตำลึงเอาไปทำอะไรไม่ดี กลับเอาไปซื้อยาให้เฉินต้ายาจนหมด น่าเสียดายยิ่งนักสามเพราะนางอยากจะฮุบสินเดิมที่เหลือทั้งหมดของสะใภ้ใหญ่เฉินนางไม่ยอมให้ของกินแก่สะใภ้ใหญ่เฉิน ด้วยความรักที่สะใภ้ใหญ่มีต่อลูกสาว ต้องเอาสินเดิมออกมาใช้ แล้วคิดหาวิธีซื้อของกินมาให้ลูกถึงตอนนั้น แม่เฒ่าเฉินค่อยฉวยโอกาสฮุบสินเดิมทั้งหมดของสะใภ้ใหญ่เฉินมาไว้ในมือแต่แผนการของนางเปิดเผยไม่ได้ โดยเฉพาะความคิดที่อยากจะครอบครองสินเดิมของลูกสะใภ้สินเดิมของฝ่ายหญิงเป็นสมบัติส่วนตัวหากครอบครัวสามียึดสินเดิมของสะใภ้ จะตกเป็นที่ครหาดังนั้นที่ผ่านมาแม่เฒ่าเฉินจึงคิดหาสารพัดข้ออ้างมากลบเกลื่อน บอกกับคนนอกว่าลูกสะใภ้นำออกมาให้ใช้เองสะใภ้ใหญ่เฉินไม่ใช่คนโง่ แค่ตรึกตรองให้ดีพลันรู้ถึงแผนการของแม่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 24

    นางสงสัยว่าอาจเป็นเพราะตอนคลอดลูกสาวคลอดยาก จึงทำให้ร่างกายบาดเจ็บ หนำซ้ำหลายปีมานี้ถูกแม่สามีกลั่นแกล้ง กินดื่มแต่ของไม่ดี ดังนั้นจึงทำให้ไม่ตั้งท้องอีกเลยสะใภ้ใหญ่เฉินคิดว่าจะไปให้หมอตรวจดู แล้วเอายามากินเพื่อปรับสภาพร่างกายความจริงก่อนหน้านี้แม่ของนางเคยบอกนางเรื่องนี้แล้ว ให้นางไปหาหมอในเมืองตรวจดู เพราะอย่างไรหญิงสาวต้องมีลูกชายสักคนแต่นางถูกแม่สามีใช้งานตั้งแต่เช้ายันค่ำ ทำให้ไม่มีเวลาไปหาหมอเมื่อนึกถึงคนทางฝั่งมารดา ทำให้สะใภ้ใหญ่เฉินเป็นห่วงขึ้นมาหมู่บ้านของมารดา อยู่เหนือหมู่บ้านหลินซานขึ้นไป ถือว่าไม่ห่างกันมากไม่รู้ว่าบ้านมารดานางจะเป็นอย่างไรบ้าง จะปลอดภัยจากน้ำท่วมหรือไม่?เฉินเหล่าต้าเห็นภรรยาไม่สนใจตัวเอง จึงหันมองลูกสาวเขายกมืออยากลูบหัวลูกสาวตัวเองแต่พอเขายื่นมือออกไป ปฏิกิริยาตอบโต้ของเฉินต้ายากลับถดตัวถอยหลังหนึ่งก้าวทันทีเพื่อหลบมือของเขามือของเฉินเหล่าต้าชะงักอยู่กลางอากาศ เมื่อเห็นว่าในดวงตาลูกสาวทั้งกลัวทั้งแค้น ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดในบ้านนี้ ความจริงเขาเองก็ลำบากใจมากแต่ไม่ว่าแม่ของเขาหรือภรรยาของเขา กระทั่งลูกสาวของเขาก็ล้วนไม่เข้าใจควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 25

    เดิมพวกชาวบ้านหนีขึ้นไปบนเขาเฟิ่งลั่ว ยังคิดว่ารอให้น้ำลดลงค่อยกลับไปแต่เมื่อเห็นบ้านที่อยู่เชิงเขาถูกน้ำพัดถล่ม ที่นาถูกน้ำท่วม ก็เข้าใจทันทีว่ากลับไปไม่ได้แล้วเพราะไม่มีบ้านเรือนให้พวกเขาพักอาศัยอีกแล้ว ส่วนที่นาที่ถูกน้ำท่วม ดินดีก็ไหลไปตามน้ำที่นาเช่นนี้ไม่เหมาะแก่การทำเกษตรกรรมอีกต่อไป อย่างน้อยก็ต้องดูแลรักษาอีกเจ็ดแปดปี ถึงจะกลับมาเป็นที่นาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหากต้องมาเสียเวลาเช่นนี้ สู้ไปเป็นผู้ประสบภัย แล้วขอจัดสรรที่นาใหม่ดีกว่าแม้จะแบ่งได้ที่รกร้าง แต่ก็ดีกว่าที่นาซึ่งเคยถูกน้ำท่วมมาแล้วหลังจากพวกชาวบ้านตรึกตรองแล้ว ค่อนข้างเอนเอียงไปทางเป็นผู้ประสบภัย แล้วจัดสรรที่ดินใหม่แต่ใครจะไปคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป น้ำที่อยู่ตรงเชิงเขากลับไม่ลดลงสักทีจึงทำให้พวกชาวบ้านร้อนใจขึ้นมามีคนแก่ที่อายุมากมองดูน้ำท่วมตรงเชิงเขาแล้วเอ่ยขึ้น “น้ำท่วมครั้งนี้ คงต้องใช้เวลาสักสองสามเดือน ถึงจะลดลง”เมื่อพวกชาวบ้านได้ยินดังนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีตอนนี้พวกเขาเหมือนถูกขังอยู่บนยอดเขา แม้ในป่าในเขาจะมีพืชผักประทังชีวิต แต่จะยืนหยัดได้นานเท่าใด?พวกเขามีกันมากมายขนาดนี้ เกรงว่าไม่ถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 26

    ชาวบ้านต่างคาดเดาว่าพวกเขาพ่อลูกเผชิญกับสัตว์ดุร้ายในเขาจนสิ้นชีพไปแล้วภรรยาของพรานหูตรอมใจจนล้มป่วย ผ่านไปไม่นานก็สิ้นใจตามไปด้วย กิจธุระหลังจากนั้นต่างมีชาวบ้านคอยช่วยกันจัดการ ต่อมามีชาวบ้านกลุ่มอื่นเข้าไปยังภูเขาอีก แต่ก็ต่างสูญหายไร้ร่องรอยไปด้วยโดยไม่มีข้อยกเว้น ทีละน้อยทีละนิดเช่นนี้ จนไม่รู้ข่าวลือว่าในหุบเขามีสัตว์ประหลาดกินคนผุดขึ้นมาได้อย่างไร ทว่าผู้ใดก็ตามที่เข้าไปยังหุบเขา ก็อย่าหวังจะมีชีวิตรอดกลับมานานวันเข้า เหล่าชาวบ้านต่างไม่กล้าเข้าไปยังหุบเข้าอีก โดยทั่วไปมักเก็บฟืนขุดหาของป่าเพียงบริเวณรอบนอกเขาเฟิ่งลั่ว เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหัวหน้าหมู่บ้านโจวจะเข้าไปยังหุบเขา ชาวบ้านก็เป็นกังวลไปก่อนแล้วอวิ๋นซานหูจ้องไปยังชาวบ้านที่คัดค้านเหล่านั้น แล้วกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “สัตว์ประหลาดกินคนที่ไหนกัน? ไร้สาระสิ้นดี!”“ในหุบเขามีก็แค่สัตว์ดุร้ายไม่กี่ตัว อย่างพวกเสือหรือหมีควาย พวกเรามีกันตั้งหลายคน ยังจะกลัวสัตว์ดุร้ายพวกนั้นได้หรือ? หากเจอมันเข้า ฆ่าเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว ทั้งยังได้กินเนื้ออีก! ”“หากพวกเจ้ากลัว ก็ยังมีองครักษ์ของข้าอยู่ด้วย แต่ละคนฝีมือล้วนไม่ธรรมดา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 27

    หัวหน้าหมู่บ้านโจวตีฆ้องทันที ร้องป่าวให้ทุกคนเตรียมพร้อมให้ดีสำหรับออกเดินทางในเช้าวันรุ่งขึ้นเดิมอวิ๋นฝูหลิงวางแผนว่าหากชาวบ้านไม่ยอมไป นางก็จะใช้เงินจ้างหัวหน้าหมู่บ้านโจวจูงใจให้พวกเขาออกไปจากเขาลูกนี้ นางไม่อยากจะอยู่ต่อแม้แต่สักวันเดียวอยากจะลงจากเขานี้เต็มแก่ และกลับไปยังชีวิตปกติสุขของนางตอนนี้ชาวบ้านต่างเต็มใจจะออกไปแล้ว จึงช่วยประหยัดร่นไปได้ไม่น้อยเมื่อชาวบ้านรู้กำหนดการแล้ว ต่างพากันเตรียมตัว อวิ๋นฝูหลิงเองก็เช่นกันช่วงที่ยุ่งอยู่นี้ นางเผลอเหลือบมองไปยังตำแหน่งของเซียวจิ่งอี้โดยไม่รู้ตัว กลับพบว่าไม่เห็นแม้แต่เงาคนอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ใส่ใจนักคนผู้นี้มักหายตัวไปบ่อยครั้ง ไม่รู้จะกลับมาอีกครั้งเมื่อใดลึกลับซับซ้อนยิ่ง ประเดี๋ยวหายประเดี๋ยวโผล่ชาวบ้านหมู่บ้านหลินซานต่างเตรียมตัวก้าวเข้าสู่เส้นทางหลบหนีความลำบาก ขณะเดียวกัน ห้องหนังสือของจวนเจียงโจวอ๋องกลับมีบรรยากาศตึงเครียดยิ่งเจียงโจวอ๋องกายสวมเสื้อคลุมลวดลายวิจิตรนั่งอยู่บนตำแหน่งสูง นัยน์ตาหงส์เนืองแน่นด้วยไฟโทสะแต่ไหนแต่ไรมาเขาร่างกายอวบอ้วน ไม่ทานทนร้อนไม่ต้านทานหนาว แม้ในห้องจะมีโถน้ำแข็ง ทว่าอากาศร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 28

    “อีกทั้งเจียงโจวเป็นหัวเมืองในปกครองของท่านอ๋อง อย่างไรท่านอ๋องก็ยากจะบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ”เจียงโจวอ๋องกัดฟันแน่น “หรือมีคนคิดจะใส่ร้ายข้า?”คนครอบครัวเดียวกันรู้เรื่องภายในครอบครัวดี เรื่องที่อี้อ๋องถูกลอบสังหาร ไม่เกี่ยวกับเขาจริงๆหากเขาสืบเจอว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของใคร เขาไม่มีทางละเว้นคนผู้นั้นแน่นอนจอมปราชญ์พึมพำ “คนที่ลงมือหนีคงไม่พ้นพวกคนเหล่านั้น”ปัจจุบันยังไม่ได้กำหนดรัชทายาท องค์ชายที่เติบใหญ่ทั้งหลายต่างกระเหี้ยนกระหือรือ จองตำแหน่งตำหนักบูรพาอี้อ๋องเป็นที่โปรดปรานที่สุดของฝ่าบาท และช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็ได้สร้างผลงานด้านสงครามในชายแดนเหนืออย่างต่อเนื่อง จนได้ฉายาว่าเทพแห่งสงครามฝ่าบาทเรียกอี้อ๋องกลับเมืองหลวงครั้งนี้ มีผู้คนไม่น้อยคาดเดาในใจ ฝ่าบาทจะแต่งตั้งอี้อ๋องเป็นรัชทายาทแล้วใช่หรือไม่องค์ชายท่านอื่นย่อมนั่งไม่ติดแล้วเพียงแต่ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นลงมือในเจียงโจว เป็นเพราะอยากชักนำภัยสู่ฝั่งบูรพา[1] หรือมีจุดประสงค์อื่นกันแน่?จอมปราชญ์ครุ่นคิดในใจ ทันใดนั้นก็ได้ยินเจียงโจวอ๋องกล่าว “ท่านจอมปราชญ์ ท่านว่าข้าช่วยอี้อ๋องสักครั้ง ให้พวกเขากัดกันเองเป็นอย่างไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 29

    หลายวันนี้ เซียวจิ่งอี้นำอาหารป่ามาให้เกือบทุกวันแรกเริ่มอาจเพื่อตอบแทนน้ำใจของแกงเห็ดรวมชามนั้น แต่ต่อมาเจ้ามาข้าไป ยิ่งอยู่ยิ่งพัวพันกันมากขึ้นโดยเฉพาะอวิ๋นจิงมั่ว เหมือนชอบเซียวจิ่งอี้เป็นพิเศษ มักจะไปเดินตามเขาต้อยๆส่วนท่าทางของเซียวจิ่งอี้ก็เย่อหยิ่งเย็นชาห้ามผู้คนเข้าใกล้ แต่ปฏิบัติกับอวิ๋นจิงมั่วกลับอ่อนโยนน่าคบหาอวิ๋นฝูหลิงก็ไม่เข้าใจเช่นกัน สุดท้ายได้แต่ยกให้เป็นวาสนาที่มีต่อกันกระมังอย่างไรก็ดีบางคนเกิดมาก็ไม่ถูกกันแล้ว บางคนกลับเหมือนรู้จักกันตั้งแต่แรกเซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นจิงมั่ววิ่งเข้ามา ก็ช้อนเขาขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนทันทีเขาเดินมาทางอวิ๋นฝูหลิงแล้วกล่าว “ข้าจะอุ้มเขาไว้ ไปกับพวกเจ้า”อวิ๋นฝูหลิงเห็นคนส่วนใหญ่เริ่มออกเดินทางแล้ว ประกอบกับอวิ๋นจิงมั่วกอดคอเซียวจิ่งอี้ไม่ยอมปล่อย จึงได้แต่พยักหน้าตอบตกลง“เป็นเด็กดี ห้ามดื้อนะ!” อวิ๋นฝูหลิงจ้องเขม็งอวิ๋นจิงมั่วแวบหนึ่งอวิ๋นจิงมั่วพยักหน้าทันที กล่าวรับประกัน “ข้าเป็นเด็กดีที่สุด”สายตาของลูกพี่อู๋และคนอื่นวนเวียนระหว่างทั้งสามคนชายหล่อ หญิงงาม เด็กน่ารัก สามคนนี้ยืนด้วยกัน เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 30

    ตอนนี้ยังต้องข้ามภูเขาอีก ต้องเดินด้วยขาทั้งสองข้างเมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ อวิ๋นซานหูก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยโฮร้องไห้อย่างขุ่นเคือง หัวหน้าหมู่บ้านโจวทำอะไรไม่ถูกทันทีนี่เหตุใดจู่ๆ ก็ร้องไห้แล้ว เขาก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้พัก จะบังคับให้นางเดินทางต่อนี่นา!ติงหมิงรุ่ยก็เหนื่อยจนหอบเช่นกัน สภาพของเขาดีกว่าอวิ๋นซานหูเพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงเข้าใจความขุ่นเคืองของอวิ๋นซานหูแต่เขาก็หมดหนทาง ทำได้เพียงปลอบใจอวิ๋นซานหูเบาๆเพราะอวิ๋นซานหูส่งผลให้ทั้งขบวนหยุดลงกะทันหัน ชาวบ้านจึงอดไม่ได้ที่จะบ่นและต่อว่าทุกคนล้วนอยากออกจากเขาเฟิ่งลั่วโดยเร็ว อีกทั้งชาวบ้านทำงานจนชินแล้ว เดินแค่นี้ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไรอีกทั้งระหว่างทางมานี้ ก็พักไปหลายรอบเพราะอวิ๋นซานหูแล้วพวกชาวบ้านไม่เข้าใจจริงๆอวิ๋นฝูหลิงเช็ดเหงื่อบนหน้า เงยหน้ามองดวงอาทิตย์ที่อยู่บนท้องฟ้าตั้งแต่ฝนตกลงมาอย่างหนัก อากาศก็ร้อนขึ้นทุกวันอย่างน่าประหลาดนี่ยังไม่เที่ยงก็ร้อนจนเหมือนรู้สึกโดนนึ่งแล้วอวิ๋นฝูหลิงเดินไปที่ข้างกายหัวหน้าหมู่บ้านโจว นางกล่าว “หัวหน้าหมู่บ้านโจว ให้ทุกคนหาที่พักผ่อนก่อนเถอะ อากาศร้อนเช่นนี้ ระวังเป็นโร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 204

    เมื่ออวิ๋นจิงมั่วกลับมา เห็นซี่โครงผัดเปรี้ยวหวาน ผักกาดขาวผัดลูกชิ้น และกุ้งผัดซอส ก็รู้วืท่านแม่เป็นคนทำอาหารด้วยตัวเองอวิ๋นจิงมั่วโผเข้าไปในอ้อมกอดของอวิ๋นฝูหลิงอย่างมีความสุข “ท่านแม่ ท่านดีที่สุดเลยขอรับ!”หลายวันมานี้อวิ๋นฝูหลิงยุ่งมากมาโดยตลอด จึงไม่มีเวลาและเรี่ยวแรงมาทำอาหารให้เขากินอวิ๋นจิงมั่วรู้ความจึงไม่ได้รบกวนแม่ แต่ในใจกลับอยากกินอาหารที่แม่ทำเป็นอย่างมากอาหารที่แม่ทำอร่อยที่สุดในใต้หล้า!วันนี้อวิ๋นฝูหลิงก็อารมณ์ดีเช่นกัน คิดว่าไม่ได้ทำอาหารมาหลายวัน จึงทำอาหารมาหลายจานยามนี้เมื่อเห็นท่าทางมีความสุขของอวิ๋นจิงมั่ว อวิ๋นฝูหลิงก็อดไม่ได้ที่จะใคร่ครวญตัวเอง หลายวันมานี้นางละเลยอวิ๋นจิงมั่วไปจริงๆตั้งแต่อวิ๋นจิงมั่วกับเซียวจิ่งอี้รู้จักกันในฐานะพ่อลูก อวิ๋นฝูหลิงก็มักจะให้อวิ๋นจิงมั่วไปอยู่กับเซียวจิ่งอี้ ในขณะที่นางให้ความสนใจอยู่กับเรื่องของตัวเองอวิ๋นฝูหลิงจิ้มจมูกของอวิ๋นจิงมั่ว “ดูดินบนตัวสิ สกปรกเชียว รีบไปล้างเร็ว”อวิ๋นฝูหลิงตักน้ำมาแล้ว ขณะที่อวิ๋นจิงมั่วล้างมือ ก็เล่าเรื่องที่ไปเล่นกับเพื่อนของเขาให้อวิ๋นฝูหลิงฟังอย่างมีความสุข“พวกพี่ฉางจี๋พาข้าไ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 203

    สวนสมุนไพรรวมถึงโรงปรุงยา จำเป็นต้องใช้แรงงานไม่น้อย แต่นี่หาใช่เรื่องเล็ก นางจะเป็นต้องวางแผนให้ดีอวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิด พลางสำรวจพื้นที่รอบหมู่บ้านซวงหลิน เพื่อดูว่ามีสถานที่ใดเหมาะแก่การสร้างสวนสมุนไพรกับโรงปรุงยาหลังจากสำรวจแล้ว ก็มีสถานที่ที่เข้าตาอยู่สองที่เมื่อกลับมา อวิ๋นฝูหลิงก็เรียกลูกพี่อู๋มาสั่งงาน “เจ้าลองไปสอบถามดูเสียหน่อย ว่ายอดเขาทางเหนือของหมู่บ้านมีเจ้าของหรือไม่? รวมถึงพื้นที่รกร้างใกล้แม่น้ำที่ท้ายหมู่บ้านด้วย หากไม่มีเจ้าของ ก็สอบถามราคาและทางเข้าที่นี่มา ดูด้วยว่าจะซื้อได้อย่างไร?”ลูกพี่อู๋กำลังจะตอบกลับ คาดไม่ถึงว่าจะเหยากวงจะเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน “นายท่าน เรื่องนี้ให้ข้าจัดการได้หรือไม่?”ก่อนหน้านี้ยามที่เหยากวงเคยไปเดินรอบหมู่บ้านกับอวิ๋นฝูหลิง ก็พบว่านางมองที่ดินรกร้างและยอดเขานอกหมู่บ้านอยู่ตลอดแม้จะเป็นที่ดินรกร้าง แต่หากต้องการซื้อก็ต้องผ่านทางการ เรื่องที่ต้องติดต่อกับทางการ ให้เขาจัดการย่อมดีกว่ามอบหมายให้ลูกพี่อู๋ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่น เพียงแค่เอ่ยนามของอี้อ๋อง ข้าราชการระดับล่างย่อมแย่งกันรับหน้าที่นี้ไปจัดการยิ่งไปกว่านั้นที่ยังเป็นโ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 202

    นางไม่เพียงแต่ลดความกังวลในใจได้ ทว่ายังแก้ไขปัญหาเรื่องงานของพวกชาวบ้านได้อีกด้วย ทำให้พวกเขามีรายได้ระยะยาวแต่ยามนี้ยังมิใช่เวลาที่ควรพูดเรื่องนี้นางนั่งอยู่ที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านโจวครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวลาและจากมาหลังจากอวิ๋นฝูหลิงออกไป ฟางซื่อภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านโจวก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านพูดยืดยาวถึงเพียงนั้น เหตุใดไม่บอกแม่นางอวิ๋นไปตามตรงเล่า”“นางทำงานเป็นหมออยู่ในเมือง ทั้งยังรู้จักคนใหญ่คนโต หากนางยอมช่วย การจะหางานให้คนในหมู่บ้านย่อมไม่ใช่เรื่องยากเป็นแน่”หัวหน้าหมู่บ้านโจวร้อนใจมาโดยตลอด หลายวันมานี้ก็ทอดถอนใจ ทั้งยังกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเรื่องการดำรงชีวิตของคนในหมู่บ้านฟางซื่อเห็นก็ทุกข์ใจเช่นกันนางคิดว่าหากอวิ๋นฝูหลิงช่วย ครอบครัวของตนย่อมได้ประโยชน์ไปด้วยพวกลูกชายย่อมล้วนออกไปทำงาน และมีรายได้มากขึ้นแม้ความเป็นอยู่ของสกุลโจวจะดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเช่นกันยามนี้มาอยู่อาศัยที่ใหม่ ย่อมมีค่าใช้จ่ายไปเสียทุกอย่างหากไม่คิดหาหนทางสร้างรายได้ ก็ทำได้เพียงนั่งกินนอนกินมิใช่หรือ?หัวหน้าหมู่บ้านโจวกลอกตาใส่ฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 201

    อวิ๋นฝูหลิงไปหานายช่างใหญ่อวี่เพื่อดูความคืบหน้าในการก่อสร้างเรือนและได้ทราบว่าอีกประมาณสองวันก็เสร็จแล้วหลังจากเดินชมเรือนหลังใหม่จนทั่ว อวิ๋นฝูหลิงจึงเพิ่งเก็บข้างของ และไปพูดคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านโจวเห็นอวิ๋นฝูหลิงนำขนมและผลไม้มา หัวหน้าหมู่บ้านโจวก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า ขณะที่พูดว่าแพงเกินไปและปฏิเสธที่จะรับไว้ แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งขนมกับผลไม้เหล่านี้แม้จะไม่มีราคาเท่าเนื้อปลา แต่ก็มิใช่ของราคาถูกเช่นกันโดยเฉพาะขนมซึ่งมีความประณีตเป็นอย่างมาก ซึ่งดูต่างจากขนมในร้านรวงธรรมดาทั้งยังมีลูกท้อสีชมพูขาวสดใหม่ที่แต่ละลูกมีขนาดเท่ากำปั้น และแตงโมเหลืองอร่ามซึ่งมีกลิ่นหอม ทุกอย่างล้วนเป็นผลไม้ชั้นดีที่พวกเขาไม่เคยกินมาก่อนอวิ๋นฝูหลิงกล่าวว่า “ทั้งหมดนี้ล้วนซื้อมาจากที่หัวเมือง ท่านกินตอนที่มันยังสด ๆ อยู่เถอะ”“หลายวันมานี้ที่ข้าไม่อยู่ในเรือน เรื่องมากมายในเหย้าก็รบกวนให้ท่านดูแล”“เรือนข้าสร้างเสร็จเร็วถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นเพราะท่านแล้ว”“ลูกพี่อู๋บอกข้าว่า ท่านพาคนไปช่วยสร้างเรือนหลายคน”หัวหน้าหมู่บ้านโจวโบกไม้โบกมือ ใบหน้าชราแดงขึ้นเล็กน้อย “หาได้ช่วย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 200

    หมอซุนก็มองเห็นอวิ๋นฝูหลิงเช่นกันสีหน้าหมอซุนดูไม่ดีนัก และไม่นานก็หันหน้าหนี แล้วขับรถล่อออกจากประตูเมืองฝั่งทิศใต้อย่างเร่งรีบแล้วค่อนข้างเหมือนการหนีเอาชีวิตรอดในใจอวิ๋นฝูหลิงก็รู้สึกไม่ดีนักแต่นางไม่ได้เห็นใจหมอซุน อย่างไรก็ตามหมอซุนเป็นคนเสนอประลองวิชาแพทย์ในเมื่อเขาทำได้ ก็ต้องยอมรับผลลัพธ์นี้ให้ได้สมมุติว่าคนที่แพ้การประลองวิชาแพทย์ในวันนั้นคือนาง เกรงว่าหมอซุนกับสำนักช่วยชีพมีแต่จะปรบมือตะโกนว่าดี หลังจากนั้นก็ขับไล่นางออกจากเขตปกครองเจียงหนิง ไม่มีทางเกิดความเมตตาต่อนางแน่นอนแม้อวิ๋นฝูหลิงไม่ถึงกับซ้ำเติมหมอซุน แต่นางก็ไม่ใช่แม่พระอยู่บนโลกใบนี้ ทุกคนล้วนต้องรับผิดชอบคำพูดและการกระทำของตัวเองต่างคนต่างมีการปฏิบัติของตัวเองหมอซุนสำหรับอวิ๋นฝูหลิง เป็นเพียงเหตุการณ์แทรกเล็กๆ ทำให้เกิดคลื่นในใจอวิ๋นฝูหลิงเพียงเล็กน้อย และไม่นานก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยรถม้าแล่นออกจากเมือง มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านซวงหลินจู่ๆ ชาวบ้านที่อยู่หน้าหมู่บ้านเห็นรถม้าที่หรูหราคันหนึ่ง ยังมีคนเดินตามข้างรถม้าหลายคน ขณะเดียวกับที่สงสัย ในใจก็ระแวงเล็กน้อยเช่นกันและมีคนในหมู่บ้านไปรายงานห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 199

    “ดังนั้นท่านพ่อให้ข้าไปสองสามวันก็กลับ และต้องพาท่านแม่กลับมาด้วย”“ท่านพ่อยังบอกอีกว่า ให้ข้าจับตาดูคนที่อยู่ข้างกายท่านไม่ให้ดี ห้ามมีคนมาแย่งท่านแม่กับเขา”“ถ้าหากมีคนเอาใจท่านแม่ ต้องแอบบอกท่านพ่อขอรับ”อวิ๋นจิงมั่วขายเซียวจิ่งอี้อย่างหมดเปลือกแม้เขาชอบเซียวจิ่งอี้พ่อคนนี้มาก แต่ลึกๆ ในใจยังสนิทกับอวิ๋นฝูหลิงมากกว่า อวิ๋นฝูหลิงฟังแล้วหน้าบึ้งทันที แต่ก็รู้สึกขำเล็กน้อยอย่างน่าประหลาดคิดในใจถ้าหากเซียวจิ่งอี้รู้ว่าอวิ๋นจิงมั่วลูกชายคนดีคนนี้ของเขาขายเขาจนหมดเปลือก ไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรนางหยิกแก้มของอวิ๋นจิงมั่ว กล่าวอย่างหยอกล้อ “เจ้าน่ะรู้จักช่วยพ่อของเจ้า และยังช่วยเขาดูข้า เหตุใดไม่ช่วยแม่เจ้าดูเขาบ้างเลย?”อวิ๋นจิงมั่วแสดงผลงานทันที “ข้าย่อมช่วยท่านแม่อยู่แล้ว”อวิ๋นจิงมั่วแอบกล่าวกับอวิ๋นฝูหลิง “วันนั้นมีขุนนางคนหนึ่ง ส่งพี่สาวสวยๆ มาให้ท่านพ่อหลายคน ท่านพ่อโกรธมาก จับขุนนางคนนั้นไปโบย และยังไล่พี่สาวสวยๆ พวกนั้นออกมาจากสวนด้วย”“ฮึ่มๆ ข้าเห็นทั้งหมด ข้าบอกกับท่านพ่อแล้ว ข้าไม่เอาแม่เลี้ยง!”“แม่เลี้ยงล้วนเป็นคนไม่ดี!”“ถ้าหากท่านพ่อจะหาแม่เลี้ยงให้ข้า ข้าก็ไม่เ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 198

    อวิ๋นฝูหลิงเห็นเสื้อผ้าอวิ๋นจิงมั่วเปียกไปหมดแล้ว จึงพาเขาไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดดีที่ตอนนี้เป็นหน้าร้อน ไม่เช่นนั้นสวมเสื้อผ้าเปียกๆ ต้องเป็นหวัดแน่อวิ๋นจิงมั่วเห็นท่านแม่เขม็งใส่ท่านพ่อเงียบๆ หลายที รีบอธิบายแทนท่านพ่อทันที “ท่านแม่ ท่านพ่อได้สั่งให้คนเอาเสื้อผ้ามาให้ข้าเปลี่ยนแล้ว แต่ข้ารู้สึกว่ามันยุ่งยากเกินไป กลับมาแล้วค่อยเปลี่ยนก็สิ้นเรื่อง”พลันเซียวจิ่งอี้อุ่นใจ คิดในใจว่าช่างเป็นลูกที่ดีจริงๆอวิ๋นฝูหลิงพ่นลมออกจากจมูกเบาๆ ทีหนึ่งโดยไม่พูดอะไรหลังจากอวิ๋นจิ่งมั่วเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ คนทั้งครอบครัวนั่งรวมกันกินฝักบัวเซียวจิ่งอี้นำฝักบัวกลับมาเยอะมากที่อวิ๋นจิงมั่วเก็บเองมีเพียงส่วนน้อย ส่วนใหญ่ล้วนเก็บโดยพวกเซียวจิ่งอี้อย่างไรเสียอวิ๋นจิ่งมั่วก็ตัวเล็กไม่มีแรง เก็บไม่ได้เท่าไรอวิ๋นฝูหลิงฉีกฝักบัว แกะเมล็ดบัวที่อยู่ข้างในออกมาเมล็ดบัวสดนุ่มหวาน ทำให้กินแล้วอยากกินอีกอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้กินเมล็ดบัวที่สดนุ่มหวานเช่นนี้มานานมากแล้วตอนวันโลกาวินาศ ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยอมนุษย์ พืชพันธุ์มากมายล้วนปนเปื้อนมลพิษ อวิ๋นฝูหลิงก็ไม่เคยเห็นสระบัวและเมล็ดบัวอีกเ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 197

    ฮูหยินถังพยักหน้าให้สามี จากนั้นเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “แม่นางอวิ๋นสามารถรักษาโรคของลูกได้ จ่ายเทียบยาแล้ว และทาขี้ผึ้งแล้ว อีกไม่กี่วันผื่นก็จะหายไปเอง”ในที่สุดหัวใจของท่านเจ้าเมืองถังก็สงบลงเขากังวลมากเกินไปแล้ว ที่จริงแค่เห็นเมื่อครู่ภรรยาเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม ก็รู้แล้วว่าแม่นางอวิ๋นสามารถรักษาโรคของลูกสาวท่านเจ้าเมืองถังรีบประสานมือขอบคุณแม่นางอวิ๋น ทำเอาฮูหยินถังเหลือบมองอวิ๋นฝูหลิงบอกลาท่านเจ้าเมืองถังกับฮูหยินถังสองสามีภรรยาท่านเจ้าเมืองถังส่งอวิ๋นฝูหลิงออกจากประตูด้วยตัวเอง และยังกำชับคนขับรถม้าส่งแม่นางอวิ๋นกลับสวนอิ่งดีๆฮูหยินถังจ่ายค่ารักษาสองเท่า และยังสั่งให้คนเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่หนึ่งส่วน ล้วนถูกขนขึ้นรถม้านานแล้วรอหลังจากอวิ๋นฝูหลิงไปแล้ว ฮูหยินถังสั่งให้คนรับใช้ถอยออกไป จึงจะถามท่านเจ้าเมืองถังอย่างไม่เข้าใจ “แม้แม่นางอวิ๋นฝีมือการแพทย์เลิศล้ำ แต่ก็เป็นแค่สตรีสามัญชน สุภาพหน่อยก็พอแล้ว”“ท่านเป็นถึงเจ้าเมืองขั้นสี่ชั้นเอก มีแต่นางที่ต้องคำนับท่าน นอบน้อมต่อท่าน เหตุใดจึงย้อนกลับมาเป็นท่านที่นอบน้อมต่อนางเช่นนั้น?”ฮูหยินถังแปลกใจตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว รู้สึก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 196

    อวิ๋นฝูหลิงกล่าว “ย้ายดอกดาวเรืองหม้อออกไปก่อนชั่วคราว อย่าให้คุณหนูถังเข้าใกล้อีก ถ้าหากผื่นหายแล้วไม่กำเริบอีก สาเหตุก็มาจากดอกดาวเรืองหม้อกระถางนี้ ทางที่ดีต่อไปคุณหนูถังอย่าไปสัมผัสอีก”ฮูหยินถังสวดมนต์ทันที “อมิตาภพุทธ ในที่สุดก็หาสาเหตุของโรคได้แล้ว!”ตั้งแต่ลูกสาวมีผื่นแดงตามร่างกาย ฮูหยินถังไม่ใช่ไม่เคยหาหมอมาดูแต่ร่างกายของเด็กผู้หญิง จะให้ผู้ชายที่เป็นคนนอกมาดูได้อย่างไร ดังนั้นหมอผู้ชายจึงทำได้เพียงตรวจชีพจรโดยมีม่านกั้น แล้วฟังนางกับสาวใช้เล่าอาการป่วยหลังจากหมอส่วนใหญ่ตรวจชีพจร ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไฟในอกลูกสาวแกร่ง ในร่างกายมีลมร้อน ดังนั้นจึงเกิดผื่นแดงดื่มยาดับร้อนเป็นถ้วยๆ แต่ผื่นแดงบนร่างกายลูกสาวกลับไม่เห็นหายดี และยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆอีกทั้งอีกสามเดือนก็จะเป็นวันออกเรือนของลูกสาวแล้ว ฮูหยินถังจึงร้อนใจมากสภาพเช่นนี้ของลูกสาว จะออกเรือนอย่างไร?ถ้าหากว่าที่ลูกเขยมาเห็นผื่นแดงตามใบหน้าและร่างกายของลูกสาว จะไม่ตกใจจนวิ่งหนีหรือ ชีวิตในวันข้างหน้าจะสมบูรณ์ได้อย่างไร?ช่วงนี้ท่านเจ้าเมืองถังกับฮูหยินถังกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับบังเอิญวันนั้นท่านเจ้

DMCA.com Protection Status