Share

บทที่ 30

Author: หลันซานอวี่
ตอนนี้ยังต้องข้ามภูเขาอีก ต้องเดินด้วยขาทั้งสองข้าง

เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ อวิ๋นซานหูก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยโฮร้องไห้อย่างขุ่นเคือง

หัวหน้าหมู่บ้านโจวทำอะไรไม่ถูกทันที

นี่เหตุใดจู่ๆ ก็ร้องไห้แล้ว เขาก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้พัก จะบังคับให้นางเดินทางต่อนี่นา!

ติงหมิงรุ่ยก็เหนื่อยจนหอบเช่นกัน สภาพของเขาดีกว่าอวิ๋นซานหูเพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงเข้าใจความขุ่นเคืองของอวิ๋นซานหู

แต่เขาก็หมดหนทาง ทำได้เพียงปลอบใจอวิ๋นซานหูเบาๆ

เพราะอวิ๋นซานหูส่งผลให้ทั้งขบวนหยุดลงกะทันหัน ชาวบ้านจึงอดไม่ได้ที่จะบ่นและต่อว่า

ทุกคนล้วนอยากออกจากเขาเฟิ่งลั่วโดยเร็ว อีกทั้งชาวบ้านทำงานจนชินแล้ว เดินแค่นี้ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร

อีกทั้งระหว่างทางมานี้ ก็พักไปหลายรอบเพราะอวิ๋นซานหูแล้ว

พวกชาวบ้านไม่เข้าใจจริงๆ

อวิ๋นฝูหลิงเช็ดเหงื่อบนหน้า เงยหน้ามองดวงอาทิตย์ที่อยู่บนท้องฟ้า

ตั้งแต่ฝนตกลงมาอย่างหนัก อากาศก็ร้อนขึ้นทุกวันอย่างน่าประหลาด

นี่ยังไม่เที่ยงก็ร้อนจนเหมือนรู้สึกโดนนึ่งแล้ว

อวิ๋นฝูหลิงเดินไปที่ข้างกายหัวหน้าหมู่บ้านโจว นางกล่าว “หัวหน้าหมู่บ้านโจว ให้ทุกคนหาที่พักผ่อนก่อนเถอะ อากาศร้อนเช่นนี้ ระวังเป็นโร
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Big-Bee Heroine
ดูท่า น่าจะถูกทิ้งค่ะ แต่ยังหวังให้กลับมานะคะ
goodnovel comment avatar
NooBell Civil
เรื่องนี้มีต่อไหมคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 31

    ไม่มีอวิ๋นซานหูเป็นตัวถ่วง ทุกคนเดินเร็วกว่าช่วงเช้ามาก และระยะทางก็เดินได้ไกลมากขึ้นพระอาทิตย์เพิ่งเริ่มตกดิน เซียวจิ่งอี้หมุนกายกลับมาส่งอวิ๋นจิงมั่วให้อวิ๋นฝูหลิง เขากล่าว “ข้าจะไปหาอาหาร”เมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยิน ก็รู้แล้วว่าเขาจะไปล่าสัตว์นางรับอวิ๋นจิงมั่วมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน เมื่อเงยหน้าอีกครั้ง เซียวจิ่งอี้ก็ออกจากขบวน และร่างเงาของเขาก็หายไปจากหลังพุ่มไม้อย่างรวดเร็วคนอื่นเห็นเซียวจิ่งอี้จากไป ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยในใจทว่าผ่านไปไม่นาน ความสงสัยส่วนนี้ก็ได้รับคำตอบแล้วเมื่อเห็นเซียวจิ่งอี้แบกกวางยองและถือไก่ป่าสองตัวกลับมา ชาวบ้านต่างก็ตกใจอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้แปลกใจนัก เพราะนางเคยเห็นฝีมือของเซียวจิ่งอี้นานแล้ว แค่ก้อนหินลูกเดียวก็สามารถเอาชีวิตคน การจับของป่าอย่างไก่ป่าหรือกวางยองจะไม่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือหรอกหรือชาวบ้านทุกคนกินผักป่ากับผลไม้ป่ามาหลายวันแล้ว ต่างก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายบางคนยิ่งหวั่นไหว เริ่มวางแผนในใจแล้วนี่ถ้าหากได้กินเนื้อสักชิ้น แหม่ ต้องหอมมากแน่นอน!อีกทั้งเนื้อมากมายเช่นนี้ แบ่งให้พวกเขานิดหน่อยจะเป็นอะไร!ยามอาทิตย์อัสดงปกคลุมทั่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 32

    นางอยากกินเนื้อย่าง!แต่นางก็ไม่สามารถลดตัวไปขอซื้อกับอวิ๋นฝูหลิง เพราะรู้สึกว่าเช่นนั้นเหมือนเป็นการก้มหัวให้อวิ๋นฝูหลิงนางเขม่นใส่องครักษ์แวบหนึ่ง “เจ้าไปจับไก่ป่าหรือกระต่ายป่ากลับมาสองสามตัว หากสามารถจับกวางยองหรือกวางป่าได้ยิ่งดี!”มุมปากองครักษ์กระตุกเล็กน้อยคิดว่ากวางยองหรือกวางป่าจับง่ายเช่นนั้นเลยหรือ? เขาจับไก่ป่าหรือกระต่ายป่าได้ก็นับว่าบุญแล้ว!องครักษ์ลำบากใจ แต่เขาก็ต้องทำตามคำสั่งของคุณหนูสาม ได้แต่เรียกพรรคพวกสองคนที่สนิทกับเขา ไปจับไก่ป่าหรือกระต่ายป่าด้วยกันอวิ๋นซานหูพ่นลมออกจากจมูกเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์ก็แค่อาหารป่า องครักษ์ของนางก็จับได้แต่ไม่รู้ว่าแม่นางอวิ๋นใช้วิธีอะไร ถึงสามารถทำให้ผู้ชายหลายคนรายล้อมรอบตัวนาง แม้แต่ผู้ชายที่มองสถานะไม่ออกคนนั้นก็เสนอตัวไปล่าอาหารป่าให้นางนางได้ให้คนไปสอบถามมาแล้ว แม่นางอวิ๋นคนนี้เป็นแม่หม้ายคนหนึ่งในหมู่บ้านหลินซาน เดิมทียังมีแม่แก่อีกหนึ่งคนแต่ช่วงก่อนแม่แก่ขึ้นเขาไม่ระวังพลาดพลั้งตกเขาตายแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่นางกับลูกชายที่ค่อยพึ่งพากันและกันอวิ๋นซานหูชายตาขึ้น มองเห็นอวิ๋นฝูหลิงกำลังคุยกับเซียวจิ่งอี้พอดีท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 33

    ต่อให้อวิ๋นฝูหลิงพบว่าสิ่งที่อยู่ข้างในถุงผ้าเป็นผักป่า การซื้อขายนี้ก็สมบูรณ์แล้วนางอย่าได้คิดกลับคำ แล้วขอเนื้อคืนแผนของแม่เฒ่าเฉินดีมาก แต่น่าเสียดายที่คิดไม่ถึงว่าแผนจะพังไม่เป็นท่านางหน้าด้านมาก หลังจากถูกเปิดโปงยังสามารถกล่าวอย่างยิ้มแย้ม“ผักป่านี่เป็นของดี กินเนื้อมากเกินไปมันเลี่ยน กินผักป่าสดชื่นและยังสามารถแก้เลี่ยนอีกด้วยนะ!”“เพราะข้าหวังดีต่อเจ้า จึงนำผักป่ามาแลกกับเจ้า”“เจ้าอายุยังน้อยไม่รู้ความ ไม่รู้ว่าผักป่าเป็นของดี!”อวิ๋นฝูหลิงถูกคำพูดของนางยั่วโมโหจนเกือบหัวเราะออกมาแล้วบางคนได้ยินเสียงโต้เถียงก็เข้ามามุงดู เมื่อได้ยินคำพูดนี้ต่างก็อึ้งมีชาวบ้านกล่าวอย่างทนไม่ไหว “ผักป่านี่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง รสชาติทั้งขมทั้งฝาด ท่านบอกว่ามันเป็นของดี?”“เอาผักป่ามาแลกเนื้อ เห็นแม่นางอวิ๋นเป็นคนโง่หรือ?”“แม่นางอวิ๋นโง่ไม่ได้โง่หรอก แต่มีใครบางคนฉลาดเกินไป แผนนี้เกือบหลอกจนข้าเชื่อแล้ว”หลายครอบครัวที่มาแลกเนื้อกับอวิ๋นฝูหลิง ของที่เอามาไม่ใช่ปลาเค็ม ก็เป็นแป้งหยาบ ของที่แย่ที่สุดก็เป็นข้างฟ่างค่ายพักแรมไม่ใหญ่มาก ทุกครอบครัวล้วนอยู่ห่างกันไม่ไกล ครอบครัวที่แลกเ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 34

    ลูกพี่อู๋กับจางซานมู่เก็บฟืนกลับมาพอดี เมื่อเห็นเฉินเหล่าเอ้อร์ชูกำปั้นใส่แม่นางอวิ๋น ก็รีบวิ่งเข้ามา“เฉินเหล่าเอ้อร์ เจ้าคิดจะทำอะไร?”เมื่อเห็นลูกพี่อู๋ ในใจเฉินเหล่าเอ้อร์เกิดความหวั่นเกรงหลายส่วนทันทีแต่เมื่อเหลือบไปเห็นเนื้อกวางยองที่วางอยู่ข้างอวิ๋นฝูหลิง เขาก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว และมีความกล้าเพิ่มขึ้นอีกครั้ง“แม่นางอวิ๋นรังแกแม่ข้าก่อน ข้าก็แค่มาทวงความยุติธรรม!”ลูกพี่อู๋กำลังจะอ้าปาก กลับถูกอวิ๋นฝูหลิงยกมือห้ามเอาไว้อวิ๋นฝูหลิงยิ้มเล็กน้อย “ทวงความยุติธรรม? เจ้าอยากให้ข้าขอโทษแม่เจ้า แล้วมอบเนื้อกวางยองให้พวกเจ้าเพื่อเป็นค่าชดเชยหนึ่งชิ้นใช่หรือไม่?”เฉินเหล่าเอ้อร์พยักหน้า “ถูกต้อง”เขาเพิ่งพูดจบ จู่ๆ อวิ๋นฝูหลิงก็ยกเท้าถีบจนเขาลอยกระเด็นออกไปไกลหนึ่งเมตรกว่าเท้าของอวิ๋นฝูหลิงเร็วดุจสายฟ้า เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมาก ชั่วขณะทุกคนตามเหตุการณ์ไม่ทันอวิ๋นฝูหลิงดึงเท้ากลับ พลันยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าไว้หน้าพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับคิดว่าข้ารังแกง่าย!”“ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ หากยังมาเอะอะโวยวายต่อหน้าข้า ข้าก็ไม่ถือสาที่จะสั่งสอนพวกเจ้า!”ราวกับภาพที่หยุดนิ่งกลับมาเคลื่อนไหวใ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 35

    เมื่อแม่เฒ่าเฉินได้ยินคำพูดของอวิ๋นฝูหลิง สีหน้าเปลี่ยนฉับพลัน ราวกับเจอผีอวิ๋นฝูหลิงใช้หลักการเดียวกันสวนกลับไป ทำเอาคนสกุลเฉินพูดอะไรไม่ออกตอนนี้ทุกคนกำลังลี้ภัย อาหารเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในตอนนี้ เทียบได้กับชีวิตคนทุกครอบครัวล้วนเฝ้าอาหารของตัวเองไว้อย่างดี ใครจะโง่แบ่งให้ผู้อื่น?นายท่านหานยกนิ้วโป้งให้อวิ๋นฝูหลิงอยู่ข้างๆวิธีที่พลิกกลับมารุกฆาตนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ!หลังจากอวิ๋นฝูหลิงเห็นก็เลิกคิ้ว เจตนายิ้มในแววตาแผ่ขยายออกแม่เฒ่าเฉินกลัวทุกคนได้ยินคำพูดของอวิ๋นฝูหลิง แล้วไปแย่งอาหารของครอบครัวนาง จึงรีบหมุนกายจากไปทันทีอวิ๋นฝูหลิงเห็นดังนี้ ก็รีบกล่าวตอกย้ำเสริมไปอีกหนึ่งประโยค “นี่ อย่าเพิ่งไปสิ ข้าหวังดีนะ…”เท้าแม่เฒ่าเฉินไม่หยุด กลับยิ่งเดินเร็วแล้วเฉินเหล่าเอ้อร์กอดคอสะใภ้รองเฉิน แม้กะเผลกแต่ก็เดินไวมากอวิ๋นฝูหลิงหัวเราะอย่างเย็นชา มาไม้นี้กับนาง คิดว่าคนอื่นหวังดีไม่เป็นหรือ?ในตอนที่ทุกคนคิดว่าเรื่องจบแล้ว เตรียมตัวแยกย้ายนั้นเอง ไม่รู้ว่าเฉินเสียวเป่าโผล่ออกมาจากตรงไหนอ้าปากก็ด่าทออวิ๋นฝูหลิงเป็นชุด“นางแพศยา อย่าคิดแย่งอาหารของพวกเรา!”“นางแพศยา นางโส

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 36

    สองคนนี้ชกต่อยกัน เฉินเสียวเป่าของพวกเขาย่อมเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบพวกเขาคิดเช่นนี้ในใจ อีกทั้งยังหวังว่าเฉินเสียวเป่าจะกระทืบอวิ๋นจิงมั่วหนักๆ สักยกเพื่อระบายความคับข้องใจเมื่อครู่ที่เกิดจากอวิ๋นฝูหลิงใครจะรู้ว่าเรื่องราวกลับไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาคิดเมื่อเห็นอวิ๋นจิงมั่วนั่งคร่อมชกเฉินเสียวเป่า โดยที่เขาไม่สามารถโต้กลับแม้แต่น้อย อีกทั้งยังถูกชกจนร้องโอดครวญสะใภ้รองเฉินจะเข้าไปช่วยทันทีอวิ๋นฝูหลิงเห็นดังนี้ นางตวาดเบาๆ “ลูกพี่อู๋!”ลูกพี่อู๋เข้าใจแล้ว พาจางซานมู่และคนอื่นก้าวออกไปขวางคนสกุลเฉินทันทีอวิ๋นฝูหลิงยิ้มอย่างเย็นชา “เรื่องของเด็ก ก็ให้พวกเขาจัดการกันเอง”“หากผู้ใหญ่อย่างพวกเจ้าอยากยื่นมือเข้ามายุ่ง อย่าโทษพวกเราก็ลงมือเช่นกัน”“ทำร้ายเด็กนับเป็นความสามารถอะไร? ผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่จึงจะยุติธรรม!”สะใภ้รองเฉินมองดูลูกชายที่ถูกชกจนใบหน้าฟกช้ำ นางปวดใจมาก เจ็บใจที่ตัวเองไม่สามารถเข้าไปแทนที่อีกทั้งยังถูกพวกลูกพี่อู๋ขวาง ไม่สามารถเข้าใกล้แม้แต่ก้าวเดียวได้แต่มองดูลูกชายถูกทุบตีชาวบ้านที่มุงดูก็คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นจิงมั่วที่ดูตัวผอมและเล็ก เวลาโกรธขึ้นมาจะเก่งกาจเ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 37

    ลูกพี่อู๋เข้าไปกระชากเฉินเหล่าเอ้อร์ออกมาทันที พลันชกใส่เขาอย่างแรงทีหนึ่งเฉินเหล่าเอ้อร์ร้องคร่ำครวญเหมือนเสียงฆ่าหมูทันที“พอแล้ว พอแล้ว ข้าไม่ได้เป็นคนสอน…”ลูกพี่อู๋ไม่คิดจะหยุด กระหน่ำหมัดใส่บนกายของเฉินเหล่าเอ้อร์ราวกับสายฝนพริบตานั้น ทั่วท้องฟ้าเหนือค่ายเต็มไปด้วยเสียงคร่ำครวญของเฉินเหล่าเอ้อร์สะใภ้รองเฉินสงสารสามีของตัวเอง รีบวิ่งเข้าไปห้าม “พอได้แล้ว พวกเราไม่ได้เป็นคนสอนลูกพูดจริงๆ!” สะใภ้รองเฉินไม่เคยสอนเฉินเสียวเป่าพูดคำพูดเช่นนั้น คำพูดที่หยาบคายเช่นนั้น แม้แต่นางก็ไม่สามารถพูดออกจากปาก นับประสาอะไรกับสอนลูกล่ะ!อีกทั้งนางรู้จักสามีของตัวเองดี เขาถูกทำร้ายจนอนาถเช่นนั้นก็ไม่ยอมรับ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ทำจริงๆจู่ๆ ก็เกิดประกายขึ้นในสมองของสะใภ้รองเฉินถ้าหากไม่ใช่พวกนางสองสามีภรรยา เช่นนั้นคนที่เป็นไปได้ที่สุดก็คือแม่สามีของนางแล้วในใจสะใภ้รองเฉินทั้งเกลียดทั้งโกรธทันทีลูกชายเป็นแก้วตาดวงใจของนาง ย่อมหวังว่าวันข้างหน้าเขาจะสามารถประสบความสำเร็จ มีอนาคตไกลแต่ลูกชายเพิ่งอายุแค่นี้ ก็ถูกแม่สามีสอนอะไร?คำพูดหยาบคายเช่นนั้น อย่าว่าแต่ลูกชายหัดพูดตามเลย ไม่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 38

    “ถูกต้อง!” ลูกพี่อู๋เอ่ยปากกล่าวในเวลาที่เหมาะสม “ก่อนหน้านี้แม่นางอวิ๋นเคยช่วยชีวิตพวกเรา พวกเราพี่น้องสาบานว่าจะติดตามและรับใช้แม่นางอวิ๋นตั้งแต่นั้น”ลูกพี่อู๋พูดโกหกหน้าด้านๆ โดยตรง ถูกบังคับให้กินยาพิษ เรื่องที่ขายหน้าเช่นนี้ เขาอยากให้มีคนรู้มากขึ้นก็บ้าแล้ว!จางซานมู่ก็พยักหน้าสนับสนุนอย่างมีไหวพริบเช่นกันพวกเขาทุกคนรู้ดี หากวันนี้ไม่อธิบายเรื่องราวให้ชัดเจน คำครหาก็จะมาตกบนตัวของพวกเขากับแม่นางอวิ๋นแล้วชาวบ้านที่มามุงดูเผยให้เห็นสีหน้าที่เข้าใจแล้วทันที ถึงว่าหลายวันนี้ พวกลูกพี่อู๋ช่วยอวิ๋นฝูหลิงทำโน่นทำนี่ตลอดพวกเขาว่าแล้ว แม่นางอวิ๋นไม่ใช่คนเช่นนั้น!เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างก็แสดงออกว่าเชื่อความบริสุทธิ์ของแม่นางอวิ๋นกับพวกลูกพี่อู๋ ลูกพี่อู๋กุมใบหน้าข้างที่บวม ชายตามองเซียวจิ่งอี้โดยไม่รู้ตัวต่อให้แม่นางอวิ๋นกับพวกเขาบริสุทธิ์ แต่คนคนนี้ไม่แน่หากไม่มีเรื่องลับลมคมในอะไร ใครจะแบ่งสัตว์ที่ตัวเองล่ามาให้ผู้อื่นอย่างใจกว้าง?เซียวจิ่งอี้รู้สึกถึงสายตาของลูกพี่อู๋ ไม่รอให้เขาเปิดปาก ก็กล่าวอย่างเย็นชาแล้ว “ข้าทำอาหารไม่เก่ง จึงรวมกลุ่มกับแม่นางอวิ๋น โดยมอบสัตว์ที่ล่

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 367

    โอวหยางหมิงไม่ทันตั้งตัวกับคำขอของอวิ๋นฝูหลิงเอาเสียเลยนี่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ทำการผ่าท้องเอาเด็กออก ในขณะที่มารดาที่ตั้งครรภ์ยังมีชีวิตอยู่หากเป็นอย่างที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจริง ๆ ที่ว่าหลังผ่าตัดแล้ว ทั้งมารดาและบุตรล้วนมีชีวิตอยู่ต่อได้โดยปลอดภัยละก็ พอจะจินตนาการออกเลยว่าจะก่อความตื่นตะลึงมากมายมหาศาลเลยทีเดียววีรกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ ถึงขั้นในตำราประวัติศาสตร์ก็อาจจะเป็นได้ว่าจะบันทึกเอาไว้อย่างโดดเด่นอีกด้วยฉากที่ได้เป็นประจักษ์พยานเช่นนี้ โอวหยางหมิงย่อมหวังว่าตัวเขาเองจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหลังจากโอวหยางหมิงตอบรับคำร้องขอของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “ฝูหลิง เจ้าต้องการผู้ช่วยสักกี่คน จะให้ปู่เรียกคนในสำนักแพทย์หลวงมาให้เจ้าสักหลาย ๆ คนหน่อยหรือไม่?”โอวหยางหมิงมั่นใจ ขอแค่เขาเรียกตัว เหล่าหมอหลวงในสำนักแพทย์หลวงจำนวนไม่น้อยจะต้องให้ความสนใจกับการผ่าคลอดครั้งนี้ ทั้งยังเต็มใจมาช่วยอีกด้วยอวิ๋นฝูหลิงส่ายหน้าพลางกล่าว “เรื่องท่านหมอนั้นข้ามีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว ไม่ต้องการใครอีกเจ้าค่ะ”“แต่ได้ยินว่าในสำนักแพทย์หลว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 366

    ยามนี้ ผู้เฝ้าประตูเดินเข้ามารายงานว่า “ท่านอ๋อง พระชายา แม่ทัพน้อยฉู่จากจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินมาขอรับ”“บอกว่าต้องการเชิญพระชายาให้ไปตรวจอาการอีกครั้งขอรับ!”อวิ๋นฝูหลิงวางชามโจ๊กในมือลง ฉวยผ้าเช็ดปากมาซับปากเล็กน้อย“เชิญให้ท่านแม่ทัพน้อยฉู่รอที่โถงหน้าสักครู่ อีกประเดี๋ยวข้าจะตามไป”เมื่อวานนี้นางมั่นใจยิ่ง ว่าท้ายที่สุดแล้วสกุลฉู่ก็จะมาหานางเนื่องจากสถานการณ์ของฮูหยินน้อยฉู่ หากเป็นการคลอดธรรมชาติ ด้วยวิชาแพทย์ในปัจจุบันนี้ของแคว้นต้าฉีนั้น แทบจะไม่มีหมอคนไหนที่สามารถรับรองความปลอดภัยของทั้งมารดาและบุตรได้เลยเดิมทีนางคิดว่าสกุลฉู่จะฝืนทนต่ออีกสองสามวัน เฝ้าหาหมอชื่อดังหลายท่านไปตรวจดูนึกไม่ถึงว่านี่เพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียว ฉู่หมิงก็มาเชิญนางถึงหน้าประตูด้วยตนเองเสียแล้วการกระทำของสกุลฉู่ ยิ่งทำให้อวิ๋นฝูหลิงมั่นใจว่าสกุลฉู่เอนเอียงที่จะใช้วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกที่นางเสนอแล้วเซียวจิ่งอี้ว่า “วันนี้ข้าไม่มีกิจอันใดพอดี ตามเจ้าไปได้”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า หลังกลับไปหยิบกล่องยาที่ห้องแล้ว จึงเดินไปที่โถงหน้ากับเซียวจิ่งอี้ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นว่าไม่มีใครเรียกนาง ครั้นลองคิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 365

    อย่าว่าแต่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถูกเซียวจิ่งอี้แย่งแส้ไปเลย นี่ยังถูกซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้อีกครั้นฉยงอวี้จวิ้นจู่สบเข้ากับดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาลคู่นั้นของเซียวจิ่งอี้ ในใจพลันหวาดหวั่นขึ้นมาแต่พอนึกถึงสาเหตุที่ตัวเองมาที่นี่ในวันนี้แล้ว จึงรู้สึกมั่นใจและหาญกล้าขึ้นมาทันที“พี่เจ็ด ท่านถามว่าข้าคิดจะทำอะไรหรือ? ข้าอยากถามอวิ๋นฝูหลิงมากกว่า ว่านางคิดจะทำอะไร?”“เจ้ายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีก?” เซียวจิ่งอี้บันดาลโทสะ ง้างมือเหวี่ยงแส้ออกไปฉยงอวี้จวิ้นจู่หลบไปข้าง ๆ ด้วยความตกใจทันทีดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา ท่าทางน้อยอกน้อยใจเป็นที่สุดทว่าแส้ของเซียวจิ่งอี้กลับสะบัดไปถูกอากาศเท่านั้น มิได้พุ่งไปยังบริเวณที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ยืนอยู่เมื่อครู่นี้ด้วยซ้ำ“หากเจ้ายังกล้าทำตนไม่เคารพไม่ให้เกียรติพี่สะใภ้เจ้าอยู่อีก หนหน้าแส้ในมือข้าจะไม่โดยเพียงอากาศแล้ว!” แววตาของเซียวจิ่งอี้เย็นชาเป็นอย่างยิ่งเขาไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ตามมารังแกอวิ๋นฝูหลิง!ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นเซียวจิ่งอี้มีโทสะเข้าแล้วจริง ๆ ถึงกับอดหดคอด้วยความหวาดกลัวไม่ได้นางชอบเล่นกับเซียวจิ่งอี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 364

    “วันพรุ่งไม่สู้ลองเชิญพระชายาอี้อ๋องมาอีกครั้ง แล้วให้อธิบายวิธีผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกให้ละเอียดดีหรือไม่?”“หลังลองฟังดูแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกครา?”หลังจากที่คังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ สบตากัน ทุกคนล้วนเห็นด้วยที่วันพรุ่งจะเชิญอวิ๋นฝูหลิงมาอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวคังจวิ้นอ๋อง พวกเขาอยากได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเองกับหูส่วนทางอวิ๋นฝูหลิงหลังจากกลับมาถึงจวนอี้อ๋องนั้น ก็เข้ามิติไปรื้อค้นในเรือนไม้ไผ่ เพื่อตระเตรียมของสำหรับการผ่าคลอดนางมีลางสังหรณ์ ว่าสุดท้ายแล้วสกุลฉู่จะยอมให้นางทำการผ่าคลอดวันต่อมา ขณะที่อวิ๋นฝูหลิงกำลังกินข้าวเช้า ในจวนอ๋องพลันมีแขกไม่ได้รับเชิญท่านหนึ่งปรากฏตัวครั้นอวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่เสด็จมา จึงประหลาดใจไม่น้อยนับแต่งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทั้งคู่ก็ไม่ได้คลุกคลีอะไรกันอวิ๋นฝูหลิงสัมผัสได้ราง ๆ ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่ดูเหมือนจะมีเจตนาร้ายต่อนาง จึงคอยอยู่ห่าง ๆ ไว้แล้วเหตุใดนางถึงได้โผล่มาถึงหน้าจวนกะทันหันแบบนี้?วันนี้เซียวจิ่งอี้มิได้มีกิจอันใดพอดี และกำลังร่วมกินข้าวเช้าอยู่กับอวิ๋นฝูหลิงครั้นทราบว่าฉยงอวี้จวิ้นจู

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status