Home / โรแมนติก / ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก / ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 21

Share

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 21

Author: Dogsmilea
last update Last Updated: 2024-12-07 01:57:00

คฤหาสน์หรูตั้งตระหง่านท่ามกลางสวนดอกไม้ที่มีแต่กุหลาบสีขาวซึ่งเป็นดอกไม้ที่โปรดปรานของคุณผู้หญิงเจ้าของวันเกิดในวันนี้ แสงไฟจากโคมระย้าภายในห้องโถงใหญ่ส่องประกายกระทบกับเครื่องเรือนหรูหราอันไม่อาจประเมินค่าได้ ผู้คนในงานเลี้ยงเล็กๆมาเพื่อฉลองวันเกิดของคุณหญิงไอย์ลดามารดาของคิณณ์ซึ่งต่างพูดคุยกันอย่างออกรสท่ามกลางเสียงดนตรีคลาสสิคบรรเลงคลอเบาๆ

คิณณ์ยืนอยู่มุมหนึ่งของงานอย่างหลีกเลี่ยงผู้คน ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาราวกับประติมากรรมไร้ชีวิต มือถือแก้วไวน์ไว้จิบไปพลางนึกถึงหญิงสาวที่เขาพบเจอเมื่อตอนเย็น

"คิณณ์ลูก" เสียงหวานเอ่ยเรียกชายหนุ่มจากด้านหลัง เขาหันไปพบกับคุณหญิงไอย์ลดาอยู่ในชุดราตรีสีงาช้างยืนมองเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน โดยมียักษ์หน้าตาถมึงทึงบอกบุญไม่รับอบเอวภรรยาของตนเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม

"สวัสดีค่ะคุณแม่ สวัสดีครับผัวแม่" คิณณ์เดินเข้าไปหยดลงตรงหน้าก่อนยกมือไหว้สวัสดีพร้อมกับเหน็บพ่อของตัวเองที่หวงเมียแม้กระทั่งกับลูก ก่อนจะเข้าสวมกอดร่างบางของแม่

"เออ! ปล่อยเมียฉันได้แล้วอย่าลวนลามให้มาก" ไม่น่ามีอายุแต่ทว่ารอเราคมคายตามวัยอายุ 55 ปี แต่ติดเย็นชาดังที่คิณณ์เป็นย่อมสืบทอดมาจากวินตรัยทั้งหมด

"คุณก็ วันเกิดแม่ปีนี้มีอะไรมาเซอร์ไพรส์แม่มีนะ" ไอย์ลดาพูดทางยิ้มอย่างส่อความนัยลึกซึ้ง

"แม่อยากได้อะไรครับนอกจากลูกสะใภ้ผมหาให้แม่ได้หมดเลย"

"แม่เพียงแค่อยากให้เรามีความสุขปล่อยวางจากอดีตก็เท่านั้น แผลเก่ามันไม่มีวันหายสนิทหรอกนะตาคิณณ์ ต้นตอของความเจ็บปวดทั้งหมดก็คือความยึดติด แม่อยากเห็นเรามีความสุขในชีวิตรักกับเขาบ้างนะคิณณ์" ไอย์ลดาพูดเสียงอ่อนโยนพลางกุมมือหนักของลูกชายคนโตมาตบเบาๆ

"พูดแบบนี้คืออยากได้ลูกสะใภ้ใช่ไหมครับ" คิณณ์ชวนคุยประเด็นอื่นอย่างหลีกเลี่ยง

"ก็ดีนะ จะได้มาโชว์ตัวลูกสะใภ้ให้คนอื่นก็เชยชมเสียบ้าง"

ร่างหนาพลันชะงัก ตาคมหลบสายตามารดาพลางคิดถึงหญิงสาวคนนั้นไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง

"แม่รู้ไหมครับ?" ชายหนุ่มเงียบไปชั่วอึดใจ

"งานเลี้ยงวันนี้แม่สวยมากนะครับ" ในตอนแรกเขาก็อยากจะปรึกษาแม่ของเขา แต่ในเมื่อตัวเขาเป็นผู้ผูกเงื่อนนี้ไว้กับลัลน์เขาก็ต้องเป็นคนคลายประเมินด้วยตัวเอง

"อุ้ยตาย แม่สวยเฉพาะวันนี้หรือพูดเหมือนกับเจ้าติณณ์เลย"

"แล้วเจ้าติณณ์ไปไหน ผมไม่เห็นในงานเลย" ชายหนุ่มเอ่ยปากถามหาน้องชายของตน

"ขานั้นรีบมาวันเกิดรีบให้ของขวัญก่อนจะเบิ่งรถไปขึ้นเครื่องทำงานที่ต่างประเทศโน้น"

"สนใจคุณไอย์ลดาแล้วสินะครับ ลูกๆมาหาพร้อมกันในวันเกิด"

"จะดีกว่านี้ถ้าอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน"

"เดี๋ยววันนี้ผมกับยายรินทร์จะอยู่ทำหน้าที่ลูกที่ดีให้เอง เดี๋ยวผมขอไปตามน้องลงมาก่อน" ชายหนุ่มเอยลามารดาก่อนจะไปตามน้องสาวของเขาที่ในตอนนี้ยังคงไม่มีวี่แววว่าจะลงมาในงานเลี้ยง

"ผมว่าลูกชายเรากำลังมีความรัก" วินตรัยเคยบอกกระชับร่างบางในอ้อมแขนของตนอย่างคนมีประสบการณ์

"อะไรนะคะ ตาคิณณ์นี่นะ ไม่เห็นแกจะพูดอะไรเลย" ไอย์ลดาขมวดคิ้วมุ่น งุนงงว่าสามีของตนบอกสวนทางกับการกระทำของลูกชาย

"น่าจะสับสนอยู่นั่นแหละ ลูกเราโตแล้วให้เรียนรู้กับชีวิตของตนเองไป" สายตาของไอย์ลดาและวินตรัยจับจ้องไปยังลูกชายคนโตของพวกเขาด้วยสายตาเป็นห่วง ขอให้เขารู้ตัวเองไวกว่านี้ ไม่ถลำลึกกับความเจ็บปวดและเลือกแสงสว่างที่กำลังสาดส่องมายังเขา

 

แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านหน้าต่างมู่ลี่ ภายในห้องเล็กๆปรากฏหญิงสาวใบหน้าเหนื่อยล้าจากการไม่ได้หลับทั้งคืน ดวงตากลมโตที่เคยสดใสบัดนี้บวมเป่งจากการร้องไห้อย่างหนักหน่วง รอยคล้ำใต้ขอบตาชัดเจนแม้จะไม่ได้สังเกตให้ดีก็ตาม

ดวงตากลมโตเหม่อลอยไร้จุดหมายราวกับวิญญาณของเธอได้หลุดหายไปไกลแล้ว ท่ามกลางความสดใสและแสงอาทิตย์ที่อบอุ่นกลับมีเพียงหญิงสาวที่ดูหม่นหมองแปลกแยกไปจากพวก

เสียงข้อความดังแจ้งเตือนขึ้นทำให้ลัลน์ได้สติชายตามองโทรศัพท์ คราวนี้เธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเป็นคนส่งข้อความมาหาเธอ หากแต่คงเป็นหนูนาที่เป็นห่วงเธอมากกว่า

Nunaคนสวย: ลัลน์แกเป็นยังไงบ้าง ให้ฉันไปรับแกไปฝึกงานไหม

Lanlalit: ไม่ต้องหรอกเราโอเค

Nunaคนสวย: แกไหวเปล่า ได้นอนบ้างไหม

Lanlalit: หลับสิ ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทเถอะ

Nunaคนสวย: ไม่ไหวก็พักนะ แกยังมีฉันอยู่ข้างๆเสมอ

Lanlalit: จ้า ตั้งใจทำงานนะคะคุณหนูนา

Nunaคนสวย: เชอะ หาอะไรกินด้วยล่ะ บ๊ายบาย

ลัลน์วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวก่อนแหงนหน้ามองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวในชุดนักศึกษาตามปกติ จ้องมองตัวเองสบตากับเงาสะท้อนที่ดูแทบไม่เหมือนตัวเธอ จีบสาวรู้สึกตัวรุมๆเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่อยากลางาน ครั้งที่แล้วเธอหยุดไปทั้งอาทิตย์ก็เกรงใจเจษฎามากพอแล้ว

ร่างบางส่วนสังขารในร่างกายสะออนแอร์ก็นั่งรถแท็กซี่เพื่อไปสำนักงาน เพียงแค่ผู้ชายคนเดียวอย่าทำให้อนาคตตัวเองดับเพราะคนไร้หัวใจเช่นเขา ภายในห้องสีขาวพร้อมไฟสว่างเจิดจ้าเต็มไปด้วยเสียงเครื่องพิมพ์และโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นระยะ ลัลน์ก้มหน้าก้มตาอยู่ที่โต๊ะของเธอ ดวงน้าหวานซีดเผือดจนผิดสังเกต ริมฝีปากแห้งผาก สายตาพร่ามัวและอ่อนล้าเธอพยายามจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าแม้ในใจจะเต้นแรงและร้อนผ่าวจากอาการพิษไข้ก็ตาม

ตึก ตึก ตึก

เสียงปั๊มกระดาษดังขึ้นซ้ำๆอย่างเป็นจังหวะ กระดาษคำฟ้องเรียงรายกองอยู่บนโต๊ะรอให้เธอจัดการ เครื่องปั๊มเอกสารในมือยังคงปลุกเธอใช้งานอย่างต่อเนื่อง หญิงสาวกัดฟันทำงานแม้เธอจะรู้สึกปวดหัวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆก็ตาม

"ลัลน์หนูไหวหรือเปล่าทำไมหน้าซีดแบบนี้" เสียงกุลธิดาวหวีดร้องดังขึ้นเมื่อเห็นสภาพโงนเงนของหญิงสาวจึงเดินเข้ามาดู มื้อแนบพังหน้าผากร้อนผ่าวเพื่อวัดไข้

"ลัลน์ไม่สบายทำไมไม่หยุดพักผ่อน มาฝึกงานในสภาพแบบนี้ได้ยังไง" เจษฎาตกใจเอ็ดหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง

"นะ หนูไหวค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากอีกแป๊บเดียวก็จะเสร็จแล้วค่ะ" ลัลน์เงยหน้ามองเจษฎาและกุลธิดาที่ใบหน้าถอดสีเป็นห่วงอาการเธอในตอนนี้

"ไหวไม่ไหวก็ต้องหยุด เก็บของเดี๋ยวนี้เดี๋ยวพี่ไปส่ง อาการแบบนี้กลับเองคงจะไม่ได้" เจษฎาคงหมดคิ้วสายตาไม่พอใจกับคำตอบของลัลน์นัก เอ่ยออกคำสั่งเสียงหนักแน่นไม่เปิดโอกาสให้เธอได้โต้แย้งคำสั่งของเขาเลย

"ค่ะ" ลัลน์ได้แต่พยักหน้าตอบรับเสียงแผ่วเบา พลางลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก เจษฎาดึงกระเป๋าของเธอไปถือไว้ก่อนจะเดินนำหน้าไปที่รถ

ในรถบรรยากาศเงียบสงบ ลัลน์นั่งหลับตาพิมพ์เบาะรถดวงตาแดงก่ำหลับพริ้มอย่างเหนื่อยล้า เจษฎาเหลือบมองหญิงสาวเป็นระยะหลังจากครุ่นคิดอยู่นานจึงตัดสินใจเอ่ยปากถามเธอ

"ลัลน์ พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม?" น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลแต่ถ้าว่าจริงจัง

"คะ?" ลัลน์ลืมตาหันไปมองเสี้ยวใบหน้าคนถาม

"เธอกลับไอ้คิณณ์ เอ่อ พี่หมายถึงท่านคิณณ์น่ะ เป็นอะไรกันแน่?"

ชื่อของเขาจากบทสนทนาทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย คำถามของเจษฎานั้นดึงสติของเธอออกจากความง่วงงุน ดวงตาบวมช้ำที่เคยเหม่อลอยกลับตาตื่น เธอเม้มริมฝีปากแน่นรู้สึกถึงความร้อนไหลวูบขึ้นมาบนใบหน้า

"ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่คะ" ลัลน์เอ่ยตอบเสียงแหบ

"แล้วที่เป็นแบบนี้เพราะเขาด้วยไหมล่ะ" เจษฎาพ่นลมหายใจออกมา ในเมื่อคนทั้งสองต่างไม่อยากเปิดเผยสถานะเขาซึ่งเป็นคนนอกคงทำได้เพียงแค่ปลอบโยน

"เปล่าค่ะ คนอย่างท่านคิณณ์จะลดตัวมาคลุกคลีกับคนอย่างหนูได้ยังไงคะ หนูแค่อกหักรักครั้งใหม่นิดหน่อยค่ะ" หญิงสาวหลบสายตาของเจษฎาที่จ้องมองเธอราวกับต้องการเค้นหาความจริงจากสายตาเธอ

"อืมงั้นเหรอ" เจษฎาครางรับในลำคอยังไม่ขาดคั้นอะไรเธออีก

ความเงียบกลับเข้ามาอีกครั้งไม่มีบทสนทนาใด ระหว่างทางเจษฎาตกไฟเลี้ยวเข้าข้างทางเมื่อลัลน์ลืมตาขึ้นพบว่าเป็นร้านขายยา

"รออยู่ในรถก่อนเดี๋ยวพี่จะไปซื้อยาให้" เอ่ยอย่ารีบเร่งก่อนจะเดินลงจากรถไป

สายตาลัลน์มองตามเขาไปด้วยความซาบซึ้งใจ เธอไม่คิดมาก่อนว่าเจษฎาจะช่วยเหลือดูแลเธอขนาดนี้ ทั้งที่เธอไม่ได้เป็นอะไรนอกเสียจากเป็นเด็กฝึกงานที่จะต้องลำบากเขาในการสอนงาน หญิงสาวหลับตาลงเธอรู้สึกเวียนหัวจนไม่อาจจะลืมตาสู้แสงจ้าของพระอาทิตย์ได้ ไม่นานนักเจษฎากลับมาพร้อมถุงยาและกล่องข้าวยื่นให้เธอ

"เอานี่ยา รายละเอียดอยู่หน้าซอง ส่วนข้าวพี่ไม่รู้ว่าเรากินอะไรพี่เลยสั่งข้าวผัดมาให้ แล้วเงินค่ายาไม่ต้องคืนพี่ดูแลตัวเองให้ดีก็พอ"

"ขอบคุณนะคะพี่เจษ" ลัลน์เอื้อมมือไปรับถุงยาและข้าวไว้ก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณ

"ไม่เป็นไรลัลน์ก็เหมือนน้องสาวพี่คนหนึ่ง นอนพักไปก่อนถึงหอแล้วเดี๋ยวพี่ปลุก" หญิงสาวส่งยิ้มอ่อนก่อนจะพักสายตาที่เหนื่อยล้าไม่อาจฝืนทน

เมื่อถึงหอพักเจษฎาจอดรถหน้าหอพักหญิงสาว ลัลน์สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเมื่อรถจอดนิ่ง เช็คความเรียบร้อยก่อนที่จะลงรถหันมาไหว้ขอบคุณเขาที่ต้องลำบากส่งเธอทั้งที่ไม่ใช่ธุระอะไรของเขาเสียด้วยซ้ำ

"กินข้าวกินยาแล้วพักผ่อนเยอะๆล่ะ มีปัญหาอะไรก็อยากเก็บไว้คนเดียวระบายออกมาจะได้ดีขึ้น พี่ยินดีรับฟังเสมอ" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแฝงไปด้วยความห่วงใยเอ็นดูเธอเรากับน้องสาวแท้ๆก็ไม่ปาน

"ขอบคุณมากๆเลยนะคะพี่เจษ" ลัลน์โค้งศีรษะขอบคุณเจษฎาด้วยเสียงแผ่วเบาก่อนจะก้าวลงจากรถไป สายตาของเจษฎายังคงจับจ้องไปยังร่างเล็กที่กำลังเดินโซเซไปมายังทุลักทุเลโดยที่ไม่อาจคาดเดาความคิดของเขาได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 22

    ครืด ครืด ครืดเสียงข้อความสั่นรัวบนโต๊ะทำงานภายในห้องพักผู้พิพากษาดึงความสนใจของคิณณ์จากกองเอกสารที่เขาพยายามจดจ่ออยู่ เขาเองก็ไม่มีสติที่จะทำงานเช่นเดียวกัน ดวงตาคมกริบเหลือบมองโทรศัพท์อย่างลังเลกลัวว่าจะเป็นคนที่เขาคะนึงหาเป็นคนส่งมาแล้วเขาจะตัดใจออกห่างจากเธอไม่ได้ ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบนหน้าจอปรากฏขึ้น "Jed7" เจษฎาเพื่อนสนิทที่เหลือเพียงคนเดียวของเขา คิณณ์กดเปิดข้อความปรากฏว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินหันหลังเข้าไปในหอพักอันแสนคุ้นเคย ร่างกายที่ดูซูบผอมลงแทบจะพยุงตัวเองไม่ไหว ข้อความถัดมาเป็นวีดีโอสั้นๆเผื่อให้เห็นในช่วงวินาทีที่เธอโดนโซซัดโซเซอย่างน่าสงสาร คิณณ์มองคลิปนั้นด้วยหัวใจสั่นระรัวความรู้สึกเหมือนถูกบางอย่างบีบัดหัวใจจนหายใจไม่ออกJed7: เด็กมึงดูท่าอาการหนัก รีบจัดการความรู้สึกของตัวเองก่อนที่จะสายไปคิณณ์ทำโทรศัพท์จนฝ่ามือหนาขาวซีดไร้สีเลือด คิ้วขมวดเป็นปมดวงตาคมฉายแววสับสนจับจ้องข้อความนั้นอยู่นาน เป็นเวลานานกว่าเขาจะตัดสินใจวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ ภาพของลัลน์ยังคงวนเวียนอยู่ในสมองเขาซ้ำไปซ้ำมา เสียงหวานของเธอยังคงดังกึกก้องอย

    Last Updated : 2024-12-08
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 23

    ดวงตากลมโตแดงช้ำกวาดสายตาไปตามโถงทางเดิน ก่อนจะพบกับบุคคลที่เธอคะนึงหากำลังยืนสนทนากับบุคคลที่เธอไม่รู้จัก ราวกับภาพหลอนใต้จิตสำนึก ร่างกายหยุดชะงักแข็งทื่อหัวใจเหมือนถูกบีบรัดเอกสารในมือเริ่มสั่นเล็กน้อย หญิงสาวพยายามควบคุมสติกัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นความรู้สึกที่กำลังจะทะลักออกมา คาดหวังว่าภาพที่เธอเห็นอาจเป็นภาพหลอนของเธอ แต่ภายในใจลึกๆนั้นกลับภาวนาขอให้เป็นเขา"อ้าว นกเป็นไงมาคดีอะไรวันนี้" บุคคลที่กำลังยืนสนทนากับคิณณ์หันมาเอ่ยทักทายกับเนตรนภาอยากสนิทสนม"ท่านคิณณ์สวัสดีค่ะ มาคดีแบงค์เหมือนเดิมค่ะพี่วัลลภ ไม่ได้เจอกันนานเลยสบายดีนะคะ" เนตรนภาเดินตรงเข้ามาทักทายคิณณ์ก่อนจะเอ่ยตอบวัลลภพร้อมรอยยิ้มสดใส"สวัสดีค่ะ" หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำท่าทีเป็นปกติยกมือไหว้สวัสดีวัลลภ ก่อนจะหันไปสวัสดีเขาโดยท่าทีเย็นชาชายหนุ่มพยักหน้ารับเล็กน้อย แต่สายตาคมกลับจดจ้องอยู่ที่ร่างบางที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกด้วยสายตาที่ลัลน์อ่านไม่ออก หลังจากทักทายกันเสร็จหญิงสาวก้มหน้าก้มตาเดินตามเนตรนภาไปโดยไม่หันกลับไปมองผู้พิพากษาหนุ่มอีก ทุกย่างก้าวของเธอที่เดินไปนั้นหนักจนแทบก้าวขาไม่ออก ความรู้สึกเต็มไปด้วย

    Last Updated : 2024-12-09
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 24

    หลังจากกลับจากการพิจารณาคดี คิณณ์ก้าวเข้ามายังห้องพักผู้พิพากษา ภาพร่างผอมบางของลัลน์ที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาอยู่มุมหนึ่ง ท่าทางของเธอเรากับคนไร้วิญญาณสายตาที่เคยสดใสกลับมืดมนจนเขารู้สึกหน่วงใจในตอนนั้นเขาพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ รวบรวมความเย็นชาไว้เป็นเกราะกำบัง สายตามองผ่านเธอไปไม่หันไปมองใบหน้าอมทุกข์นั้น คิณณ์ปิดประตูห้องพักเบาๆ แล้วทรุดนั่งลงที่โต๊ะทำงานสองมือค้ำศีรษะอย่างใช้ความคิด'สิ่งที่เราทำอยู่ในตอนนี้ มันถูกต้องแล้วใช่ไหม?' คำถามนั้นดังก้องอยู่ในหัวราวกับเขาถูกตรึงไว้ด้วยความรู้สึกผิดและอดีตที่ไม่เคยลบเลือนไปไหน ภาพของหญิงสาวในวันนี้เมื่อเขามองไปกลับสะท้อนภาพเงาของเขาในอดีต วันที่โลกทั้งใบของเขาพังทลายลงต่อหน้าต่อตา...อดีตเมื่อ 7 ปีที่แล้ว…ชายหนุ่มหล่อเหลาร่างกายสูงโปร่งคาดว่าคงสูงไม่ต่ำกว่า 185 เซนติเมตร เดินเข้าประตูคฤหาสน์หลังงานอันแสนคุ้นเคย รอยยิ้มบางเบาเปื้อนอยู่บนใบหน้าคมเข้มทว่าอ่อนเยาว์ของเขา ดวงตาสีดำสนิทเป็นประกายขณะที่ผิวเข้มสีน้ำผึ้งขับกับผมสีดำที่ถูกเซตมาเป็นอย่างดีทำให้หน้ามองยิ่งขึ้น ชุดสูทสีกรมท่าที่สวมใส่เข้ากับร่างสูงสามารถเสริมให้เขาดูภูมิฐานแ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 25

    ความทรงจำไหลพรั่งพรูเข้ามาราวกับคลื่นน้ำทะเลซัดเข้าหาชายฝั่ง ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ความคิดเมื่อณรงค์เปิดประตูเข้ามาในห้อง ภายในห้องเงียบกริบไม่มีบทสนทนาใดๆ ณรงค์หันหลังแขวนชุดครุยเสร็จสาวเท้าไปนั่งลงบนโซฟาหยิบแก้วน้ำที่วางขึ้นมาจิบก่อนจะหันไปถามคิณณ์นั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะทำงาน"คิณณ์แกมีปัญหาอะไรกับเด็กคนนั้นหรือเปล่า?" เสียงทุ้มต่ำจริงจัง สายตาของรุ่นพี่ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่เหมือนจะพยายามจดจ่อกับเอกสารตรงหน้าแต่ดูเหมือนว่าความคิดจะลอยไปไกลอยู่ที่อื่น"ทำไมพี่ถึงทำแบบนั้น?" คิณณ์หยุดมือที่กำลังเกษียณคำสั่งลงสำนวน ถามกลับเสียงเรียบทว่าแววตาสั่นไหวเล็กน้อย สายตาที่ปิดไม่มิดว่ากำลังมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในใจ"ทั้งแกและเด็กคนนั้นสภาพเป็นกันอย่างนี้ คิดว่าคนอย่างฉันจะดูไม่ออกหรือไง แกเองตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ใจลอยไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว พอฉันเจอกับเด็กคนนั้นวันนี้สภาพก็ย่ำแย่ จะปล่อยให้มันคาราคากระสังแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่" คำถามนี้เหมือนตอกย้ำในจิตใจของคิณณ์ เขาก้มหน้าลงมองประธานสำนวนมือกำปากกาแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นชัด แต่ก็ไม่ตอบกลับอะไรกับชายหนุ่มรุ่นพี่

    Last Updated : 2024-12-11
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 26

    "ไม่ ออกไปนะบอกให้ออกไปไง!" ลัลน์ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป ร้องไห้โฮพร้อมตลอดชายหนุ่มที่พยายามจะเข้าห้องเธอ สุดท้ายเมื่อเธอไม่อาจสู้แรงเขาได้จึงทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นห้องแสนเย็นเฉียบนี้"ลัลน์ หนูเป็นอะไรหรือเปล่า!" คิณณ์รีบโผตัวเข้ามากอดร่างผอมบางไว้เมื่อเธอทิ้งตัวลงนั่งกองอยู่กับพื้นห้อง"ท่านต้องการอะไรจากหนูอีก ท่านได้ไปหมดทุกอย่างแล้วหนูไม่มีอะไรจะให้ท่านแล้ว ช่วยปล่อยหนูไปจะได้ไหม" หญิงสาวร้องไห้โฮสะบัดตัวออกมาจากอ้อมอกกว้างก็ไม่หลุดพ้น กำปั้นเล็กทุบเขายังระบายความเจ็บปวดในจิตใจแต่ทว่ากลับไร้เรี่ยวแรงคิณณ์ปล่อยให้หญิงสาวถูกอกตัวเองจนพอใจ ร่างเล็กยังคงร้องไห้อย่างหนักน้ำตาเปียกชุ่มไปทั้งเสื้อเชิ้ต เมื่อเห็นว่าแรงทุบอกของตนไม่ทำให้ร่างแกร่งสะทกสะท้านแม้แต่น้อยประกอบกับเรี่ยวแรงของเธอเริ่มหมดลงไปเรื่อยๆ ลัลน์จึงปล่อยให้ตัวเองจมลงในอ้อมกอดที่เธอรู้สึกว่าแสนจะอบอุ่น นึกรังเกียจตัวเองที่ยังคงโหยหาอ้อมกอดนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน"หนูเกลียดท่าน เกลียด เกลียดมากด้วย ฮือออ" เสียงของเธอแหบพร่าพูดเบาราวกับกระซิบ แต่ถ้าว่าดังลึกเข้าโสตประสาทของคิณณ์อย่างชัดเจน เสียงของเธอเหมือนลิ่มที่ตอกลงก

    Last Updated : 2024-12-12
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 27 Nc18+

    หลังจากงอนอยู่นาน นางเอกก็รู้สึกเหนื่อยเกินจะทนต่อความพยายามของชายหนุ่มที่ยืนโน้มน้าวอย่างไม่หยุดหย่อน ดวงตาอ่อนโยนของเขาที่มองมาเต็มไปด้วยความจริงใจ รอยยิ้มอบอุ่นที่แฝงความรู้สึกผิดค่อยๆ คลายปมในใจของเธอทีละน้อย"ถ้าหนูยังงอนพี่ พี่ง้อหนูจนถึงพรุ่งนี้เช้าได้เลยนะ" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ราวกับกำลังท้าทายให้เธอลองใจแข็งต่ออีกหน่อย“หนูไม่มีเวลามาฟังพี่ถึงเช้าหรอกนะคะ เพราะพรุ่งนี้หนูต้องไปทำงาน” หญิงสาวถอนหายใจยาวก่อนจะกอดอกหลบสายตา ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างเขินอาย“แสดงว่าหนูยอมคืนดีกับพี่แล้วใช่ไหมคนดี” คิณณ์หัวเราะเบาๆอย่างเอ็นดูท่าทีเขินอายของร่างบาง ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้จนใบหน้าทั้งสองใกล้กันจนสามารถสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกันได้ “หนูไม่ได้บอกสักคำว่าหนูหายโกรธแล้ว ยังต้องดูพฤติกรรมพี่ไปอีกนาน” ลัลน์เบือนหน้าหนี ใบหน้ายังคงแดงจัดกับการถึงเนื้อถึงตัวของชายหนุ่ม"พี่ขอจับมือหนูได้ใช่ไหมคะ?" คิณณ์พูดพร้อมยื่นมือมาข้างหน้าอย่างไม่รอคำตอบให้เธอปฏิเสธเขา ทันทีที่มือเล็กๆ ของเธอสัมผัสมือใหญ่ของเขา คนตัวโตกว่ากระชับมือแน่นขึ้น ดึงตัวเธอเข้ามาใกล้จนแทบจะได้ยินเส

    Last Updated : 2024-12-18
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 28 Nc25+

    “พร้อมจะเป็นเมียพี่รึยังครับ?” เสียงทุ้มเสียงแตกพร่าตามความต้องการที่ดูเหมือนจะพุ่งทะยานสูงยิ่งขึ้น สายตาคมจับจ้องใบหน้าหวานหยาดเยิ้มพลางปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนให้พ้นทาง ท่อนเอ็นลำใหญ่ดีดผึงออกมาชี้หน้าประกาศศักดาตน ลัลน์เบิกตาโพลงกลืนน้ำลายดังเอื้อกจ้องมองลำเอ็นเขาที่ชี้หน้าเธออย่างหวาดหวั่น ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกของเธอแต่เมื่อมองขนาดของมันแล้ว ความรู้สึกเจ็บจี๊ดแล่นสู่ปลายประสาททั่วกาย ไม่ว่าจะพบเห็นสักกี่ทีเธอก็ไม่อาจชินกับขนาดใหญ่โตนี้ได้ ชายหนุ่มช้อนตัวอุ้มหญิงสาวไว้แนบอกก่อนจะค่อยๆวางร่างบางลงบนเตียง เมื่อแผ่นหลังบางสัมผัสได้ที่นอนความกลัวในจิตใจแล่นปาดเข้ามาอย่างไม่อาจต้านทาน ถามว่าเธอรักเขาไหม เธอตอบได้ตรงนี้เลยว่าใช่แต่เธอก็กลัวท่อนเอ็นที่ใหญ่ยาวเกินไปเช่นเดียวกัน “หนูยังกลัวมันอยู่อีกเหรอ” คิณณ์ถามกลั้วน้ำเสียงหัวเราะ มองหญิงสาวอย่างเอ็นดูในความขี้ขลาดของเธอ เขายอมให้เธอได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องนี้ หากเธอร้องขอเขาให้หยุดเขาจะไม่มีวันหยุดทำรักกับเธอเด็ดขาด “มันใหญ่เกินไป” หญิงสาวกลั้นใจตอบเสียงแผ่วเบา เธอไม่ได้เคยเห็นมันครั้งแรกอี

    Last Updated : 2024-12-21
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคั ทำอบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 29

    พลั่บ พลั่บ พลั่บๆๆเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องสะโพกหนั่นแน่นเต็มไปด้วยมัดกล้ามกระแทกรูสวาทที่ดูดลำเอ็นเขาอย่างไม่ปรานี โหมสะโพกใส่แรงไม่ยั้งอย่างไม่กลัวเลยว่าช่องสวาทที่ตอดรัดให้ความสุขนี้จะบาดเจ็บแม้แต่น้อย จังหวะที่เร่งเร้ารุนแรงของชายหนุ่มทำให้ทรวงอกสาวกระเพื่อมไหวไปตามแรงกระแทกจากด้านบนยอดอกสีหวานแข็งชูชันล่อสายตาก่อนจะก้มหน้าโฉบดูดกลืนยอดถันเข้าปาก ลิ้นร้อนปาดป่ายไปทั่วเต้างามอีกข้างก็ไม่ให้ว่างเว้นบีบเคล้นคลึงนมเด็กสาวที่เด้งสู้มือเขายิ่งนัก ชายหนุ่มที่ถูกล่อลวงจากดอกไม้งามให้เข้ามาเชยชมกลิ่นกายอสนหอมหวานทำให้ภมรตัวนี้ยิ่งมัวเมาในรสรัก แรงขับเคลื่อนจากสะโพกสอบยิ่งเร่งขึ้นทวีคูณ เส้นเลือดรอบลำเอ็นขูดไปตามโพรงมดลูกของเธออย่างเสียวซ่านพลั่บ พลั่บ พลั่บๆๆๆเอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดั่งสนั่นลั่นห้อง เสียงเตียงลั่นสั่นคลอนดังเอี๊ยดอ๊าดไม่รู้ว่าเตียงนี้จะทนรับพายุสวาทของชายหญิงนี้ได้นานสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มโถมแรงควงงัดเอ็นร้อนกระแทกชนปากมดลูกสาวจนจุก มือสากหนาเคล้นคลึงเต้าใหญ่เกินขนาดอย่างแรง ลิ้นร้อนลากวนตวัดรอบบนยอดถันดูดเลียปลายยอดอย่างตระกละตะกลาม“อาห์

    Last Updated : 2024-12-27

Latest chapter

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 53

    ภายใต้แสงแดดยามเช้าอ่อน ๆ กลิ่นหอมละมุนของดอกพุดซ้อนลอยล่องไปตามสายลม อากาศแจ่มใสเป็นใจให้กับฤกษ์งามยามดี คิณณ์ในชุดสูทสีครีมเข้าชุดกับกางเกงขายาว ผมถูกเซตขึ้นอย่างประณีต ยิ่งขับให้บุคลิกดูสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิ้มแห่งความสุข มือหนากอบกุมพานธูปเทียนแพไว้แน่นขณะก้าวเดินนำขบวนขันหมากไปยังบ้านเรือนไทยของเจ้าสาวเสียงดนตรีบรรเลงแห่ขันหมากดังก้องไปทั่วบริเวณ บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นและรอยยิ้มแห่งความยินดี ไอย์ลดาและวินตรัยก้าวตามลูกชายมาอย่างสง่างามเตรียมพร้อมสำหรับค่าผ่านทางของประตูเงินประตูทอง ซึ่งมีหนูนาและรินทร์ในชุดไทยห่มสไบสีชมพูกลีบบัว ยืนรอเป็นด่านแรก“จะผ่านด่านนี้ได้เจ้าบ่าวต้องตะโกนบอกรักเจ้าสาวนะคะ ยิ่งดังมากแสดงว่ารักมาก” รินทร์เอ่ยเสียงทะเล้น ดวงตาพราวระยับ ในเมื่อนี่คือโอกาสเธอจึงต้องรีบฉวยโอกาสแกล้งพี่ชายในวันสำคัญของเขาอย่างเต็มที่!“ยัยรินทร์ให้มันน้อยๆหน่อย” เสียงลอดไรฟันเอ่ยกระซิบน้องสาวที่แกล้งเขาไม่เข้าเรื่อง“ทำสิคะเจ้าบ่าวหรือไม่รักเจ้าสาว” รินทร์หาได้เกรงกลัวแม้แต่น้อยยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จงใจยั่วโมโห“แกรับเงินไปแล้วปล่อยพี่เข้าไปเดี๋ยวนี้!”“ไม

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 52

    “หนูคะเดี๋ยววันนี้ไปบ้านพี่กันนะ” คิณณ์ซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่กำลังสาละวนกับการเก็บเสื้อผ้าอยู่ “ตอนไหนหรือคะ” ร่างบางถึงชะงักมือ หันไปถามอย่างแปลกใจ“เก็บเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปเลยค่ะ เดี๋ยวไปค้างที่บ้านพี่เลย”“มัดมือชกเหลือเกินนะคะ”“ฮึๆ ไม่ทำแบบนี้หนูก็บ่ายเบี่ยงอีก”“พี่ไปแต่งตัวเลยค่ะเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะรอนาน” หญิงสาวรีบไล่คนพี่ที่ยังคงเปลือยอก สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว อวดมัดกล้ามแน่นที่เจ้าตัวตั้งใจฟิตมาเป็นอย่างดี ลัลน์เผลอมองเพียงครู่ก่อนจะเบือนหน้าหนี ภาพล่อตาล่อใจแบบนี้ไม่ดีต่อหัวใจเธอเลย“หนูเก็บของไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่รีบอาบแล้วเราไปบ้านกัน” คำว่าบ้านทำให้คนน้องหัวใจพองโต ทั้งหวั่นเกรงเมื่อต้องไปบ้านคนรักพบเจอพ่อแม่ของเขา ถึงแม้เธอจะเจอพ่อแม่ของเขาแล้วก็ตามแต่นั่นก็เพียงชั่วครู่ไม่ถึงวัน อีกทั้งวันนี้เธอต้องไปบ้านของเขาอีกต่างหากหญิงสาวสะบัดหน้าไล่ความฟุ้งซ่านที่พักนี้มักจะก่อตัวขึ้นได้ง่ายเหลือเกิน ก่อนจะรีบเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นด้วยใจสั่นไหว พลางเงยหน้ามองนาฬิการอคอยเวลาที่จะได้พบพ่อแม่ของคิณณ์อีกครั้งเมื่อรถหรูเคลื่อ

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 51

    1 ปีผ่านไปลัลน์เรียนจบเนติบัณฑิตและได้ใบอนุญาตว่าความมาภายในหนึ่งปีสร้างความภาคภูมิใจให้ทั้งครอบครัวของหญิงสาว และแน่นอนว่าคนคอยติวคอยดูแลตลอดมาภาคภูมิใจในเมียเด็กของเขาเป็นอย่างยิ่ง ทุกความสำเร็จของตัวเล็กมีเขาอยู่เคียงข้างเธอเสมอแต่ความสงบไม่อาจคงอยู่ได้นานปัญหาเข้ามาแทรกแซง คิณณ์นั้นถึงเวลาย้ายเวียนศาลไปจังหวัดอื่นซึ่งความกังวลของเขานั้น คือเขาคงไปมาระหว่างที่ทำงานกับคอนโดได้ยากเป็นเหตุให้เขาต้องห่างจากคนรัก ความกังวลที่ก่อตัวทำให้เขาเริ่มคิดถึงอนาคตของเธอมากขึ้น และสุดท้ายจึงตัดสินใจถามออกไป“หนูว่าหนูจะไปทำอะไรต่อหลังเรียนจบนะคะ”“หนูจะไปเก็บคดี แล้วเตรียมสอบผู้ช่วยต่อค่ะ”“อ้องั้นเหรอ” คิณณ์ตอบรับเสียงเรียบ แต่แววตากลับดูเคร่งเครียดจนลัลน์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม“มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ต้องย้ายศาลน่ะ คราวนี้พี่ต้องไปประจำที่ศาลพิจิตร”“ย้ายศาลงั้นหรือคะ” เสียงหวานแผ่วลงจนแทบกลืนหายไปในลำคอ“อืม พี่คงต้องไปอยู่ที่นั่นสักระยะอาจมาหาเราได้น้อยลง”ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศทันที ลัลน์เม้มริมฝีปากแน่น เธอเข้าใจดีว่านี่เป็นหน้าที่ของเขา หน้าที่ที่เขาต้องทำตลอดและสิ่งนี้คือความฝันของเข

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 50

    คืนวันผันผ่าน ลัลน์เริ่มต้นเข้าเรียนที่เน พร้อมเตรียมสอบตั๋วทนายควบคู่ไปด้วย แต่กระนั้น เธอก็ยังคงพักอยู่กับคิณณ์เช่นเดิม กิจวัตรประจำวันของทั้งสองไม่เปลี่ยนแปลง ในยามเช้า ชายหนุ่มจะเป็นผู้ไปส่งเธอ ส่วนยามเย็น เขาก็ไปรับเธอกลับ เป็นเช่นนี้เรื่อยมาราวกับเป็นความเคยชินที่อบอุ่นเช้าวันนี้ก็ไม่ต่างจากวันก่อน ๆ คิณณ์ขับรถมาส่งลัลน์ที่เนตามปกติ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวลงจากรถ เธอหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มซุกซน ก่อนยกนิ้วเรียวยาวแตะที่แก้มสากของเขาเป็นเชิงบอกใบ้“ที่รัก ลืมอะไรไปหรือเปล่าคะ?”ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนรอยยิ้มบางจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า ขณะที่ลัลน์โน้มตัวเข้าไปใกล้ จรดริมฝีปากลงบนแก้มของเขาอย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นอายอันแสนคุ้นเคย“ขับรถดี ๆ ตั้งใจทำงานนะคะ” เธอกระซิบเบา ๆ ราวกับจะส่งมอบพลังใจให้เขาตลอดทั้งวัน“ตั้งใจเรียนนะคะ เรียนไม่ไหวก็นอนเลย” คิณณ์หัวเราะในลำคอ ก่อนเอื้อมมือไปลูบศีรษะคนรักเบา ๆ“นี่คือคำแนะนำของผู้พิพากษางั้นหรือคะ” หญิงสาวเบ้ปาก ขยับถอยเล็กน้อยก่อนเลิกคิ้วมองเขาอย่างแปลกใจ“ถ้าไม่มีสมาธิจะเรียนสู้ไปหลับให้สมองปลอดโปร่งไม่ดีกว่าเหรอ”“จะเก็บคำแนะนำนี

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+

    เมื่อมาถึงคอนโดของชายหนุ่ม เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบสามทุ่ม การจราจรที่ติดขัดทำให้ทั้งสองทำได้เพียงสั่งอาหารมากินแทนการออกไปทานข้างนอก หญิงสาวใช้ปลายนิ้วบรรจงแกะเนื้อปลานิลทอดออกจากก้างอย่างประณีต ก่อนวางลงบนจานของชายหนุ่มพลางเอ่ยเสียงใส“ปลานิลทอดอร่อยดีนะคะพี่คิณณ์” “หนูชอบก็กินเยอะๆสิคะ” คิณณ์ละสายตาจากจานอาหาร มองคนตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ของดีต้องแบ่งกันชิมสิคะ” รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้างามเปี่ยมไปด้วยความสุข“ถ้าอย่างนั้นเราต้องผลัดกันชิมแล้วล่ะ” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมพราวระยับอย่างสื่อความหมาย“เหนื่อยขนาดนี้ยังมีแรงหื่นอีกหรือคะ”“พี่อดมาสามเดือนแล้วนะคนดี” เสียงทุ้มเอ่ยอ้อน พลางส่งสายตาเว้าวอน คนน้องหน้าแดงซ่าน รีบตักข้าวใส่ปากเหมือนตั้งใจจะกลบเกลื่อนความรู้สึก แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้เขายิ่งจ้องเธอไม่วางตา“ทานข้าวค่ะ พูดเรื่องนั้นเวลาทานข้าวได้ยังไงคะ”“พี่พูดได้ทุกตอนเลยนะ ไม่กินข้าวแล้วทำตอนนี้ยังได้เลย” เขากระซิบหยอกเสียงพร่า แต่ยังไม่ทันจะขยับเข้าใกล้ คนตัวเล็กก็ส่งสายตาดุมาให้ราวกับเตือนว่าอย่าคิดลองดี ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเฮือก

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 48

    เป็นเวลาสามเดือนกว่าแล้วที่คิณณ์เทียวไปมาระหว่างที่ทำงานกับบ้านของลัลน์จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ทุกวันศุกร์เขาจะขับรถมาบ้านลัลน์และกลับไปในเช้าวันจันทร์ เขายังคงรับหน้าที่ช่วยงานในสวนตามปกติ เพราะครอบครัวของลัลน์ทำสวนหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ผัก หรือพืชไร่ ทำให้เขาได้เรียนรู้งานใหม่ๆ พลอยสนุกไปด้วย สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลานี้คือ คิณณ์ไม่ได้พักที่กระท่อมท้ายสวนอีกต่อไป เขาได้ย้ายขึ้นมานอนในบ้านของครอบครัวลัลน์แล้ว วันนี้เขาเข้าสวนมะพร้าวเพื่อทำการเก็บเกี่ยวมะพร้าวน้ำหอม คิณณ์ทำการใช้ตะขอสอยทะลายมะพร้าวให้ลงกับร่องคูน้ำที่ขุดไว้เพื่อลดความเสียหายจากการกระแทกอีกทั้งยังทุ่นแรงในการขนย้ายด้วย “เดี๋ยวนี้ทำคล่องเชียวนะครับ” ลุงสมชัยซึ่งคอยสอนงานเขาเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าที่ลูกเขยนายของตนขยันขันแข็งหัวไวเช่นนี้ “คนเราต้องมีพัฒนาบ้างครับ” คิณณ์ยกยิ้มรับคำชมของลุงสมชัย ขณะวางตะขอลงแล้วใช้ผ้าขนหนูที่พาดไหล่เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า "ดีครับดี อย่างนี้สิถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งลูกเขยนายหัว" ลุงสมชัยหัวเราะเสียงดัง พลางตบไหล่คิณณ์เบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “น้ำเย็นๆมาแล้วค่า” เสียง

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 47

    กว่าคิณณ์จะเลื่อยไผ่เสร็จและช่วยคนงานขนขึ้นรถก็เป็นเวลาเย็นย่ำพอดี แสงอาทิตย์สุดท้ายของวันสาดส่องลอดผ่านกิ่งใบของต้นไม้ใหญ่ ที่ใต้ร่มเงานั้นมีหญิงสาวคนรักของเขายืนส่งยิ้มหวานให้กำลังใจไม่ห่าง ชายหนุ่มที่เปื้อนไปด้วยเหงื่อและฝุ่นไม้รีบปรี่ตรงไปหาคนน้องทันทีเมื่อเสร็จงาน “ทานน้ำหวานสักหน่อยนะคะ” ลัลน์ส่งแก้วน้ำแดงเย็นชื่นใจให้เขาทันที แต่คิณณ์กลับยกมือหนากุมมือนุ่มนิ่มของเธอไว้ พร้อมป้อนเข้าปากตัวเองอย่างอารมณ์ดี “น้ำหวานเหมือนเมียพี่เลย” เขายิ้มกริ่มหยอกล้อ ทำให้คนตรงหน้าเขินจนต้องหลบสายตา ใบหน้าเนียนขึ้นสีระเรื่อก่อนจะก้มหน้างุดไปกับคำหวานของคนรัก “เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ พี่คงเหนียวตัวแย่” ลัลน์พูดรัวเร็วราวกับจะหาทางเปลี่ยนเรื่อง ก่อนรีบชวนเขากลับบ้านโดยไม่รอฟังคำตอบ คิณณ์ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของคนตัวเล็กที่เดินหนีเขาไปยืนรออยู่ที่รถ ดวงตาคมทอดมองด้วยสายตาเอ็นดูและอบอุ่น ก่อนจะก้าวขาตามเธอไปเงียบๆ วันนี้ทั้งเหนื่อยล้าและร่างกายเมื่อยล้ามาทั้งวัน เขาก็หวังเพียงให้มีเรื่องดีๆ ที่ช่วยเติมเต็มหัวใจเขาสักหน่อย เมื่อถึงบ้านหนุ่มสาวสองคนขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามา เสียงหมาในบ้านเห่าเตือนใน

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 46

    “แค่นี้ก็ลุกมากินเองไม่เป็นรึไง” พงษ์ทวีอดกระแนะกระแหนชายหนุ่มกำยำตรงหน้าไม่ได้ “ขอโทษด้วยครับ” ชายหนุ่มไม่ได้กล่าวตอบโต้อะไรไปนอกเสียจากขอโทษผู้ใหญ่ที่ทำให้ต้องรอเสียมากกว่า คำขอโทษของเขามีความจริงใจ ไม่ใช่เพียงเพราะมารยาท แต่เพราะเขารู้สึกผิดจริงที่ทำให้พ่อของลัลน์ต้องรอ ตามปกติทุกวันเขาเป็นคนตื่นเช้าเสมอ ทว่าค่ำคืนที่ผ่านมากว่าที่เขาจะข่มตาหลับลงได้ก็เกือบย่ำรุ่ง จึงไม่แปลกที่วันนี้เขาจะตื่นสายจนผิดวิสัย “ไม่เป็นไรหรอก แม่ก็พึ่งทำกับข้าวเสร็จเองไม่ช้าไปหรอก” มุกลดาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางส่งยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างเอ็นดูช่วยปลอบใจว่าที่ลูกเขยคนนี้ “มาค่ะพี่คิณณ์ ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยไม่แพ้เมื่อวานเลยนะคะ” หญิงสาวอวดสรรพคุณโชว์ฝีมือแม่เสร็จสรรพพร้อมฉีกยิ้มอย่างน่ารักให้คนข้างกาย “อวดเหมือนตัวเองทำเลยนะ” “พี่คิณณ์อ่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว” คนน้องสะบัดหน้าหนีอย่างน่าเอ็นดู ตักข้าวต้มปลาร้อนๆ เข้าปากอย่างแง่งอน พลางทำเป็นไม่สนใจคนตัวโตข้างกาย คิณณ์มองหญิงสาวตักข้าวเข้าปากด้วยสายตาเอ็นดู อดยิ้มบางๆ กับท่าทางน่ารักของเธอไม่ได้ ก่อนจะจับช้อนคนข้าวในชามของตัวเองให้เย็นลง แล้

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 45

    “ไม่ต้องพิสูจน์ ฉันไม่อนุญาต!” พงษ์ทวีเอ่ยปฏิเสธเสียงเข้ม น้ำเสียงแข็งกร้าวของเขาทำให้บรรยากาศในห้องเงียบงันทันที ไม่มีช่องว่างให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้เอ่ยคำใดโต้กลับ “คุณน้าครับ ผมจริงจังกับลัลน์นะครับ ผมไม่ได้อยากทิ้งขว้างอะไรลูกคุณน้าเลย ผมแค่อยากดูแลเธอตลอดไปเท่านั้น” คิณณ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและแฝงความอ่อนน้อม ทำให้พงษ์ทวีเงียบไปดวงตาคมจ้องมองชายหนุ่มนิ่งงัน ราวกับพยายามอ่านความนัยในคำพูดเหล่านั้น แต่ท่าทีของเขายังคงตึงเครียด “พ่อคะ หนูรักพี่คิณณ์จริงๆนะคะพ่อ” ลัลน์เอ่ยขึ้นน้ำเสียงสั่นเครือปนความเว้าวอน จ้องมองพ่อด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง ทั้งหวังให้เขาเข้าใจและยอมเปิดใจสักครั้ง “ลูกน่ะรักเขาพ่อรู้ แต่เขาน่ะรักลูกเหมือนที่ลูกรักเขาไหม” “รักสิคะ ที่ผ่านมาพี่เขาดูแลหนูมาตลอด ทั้งเรื่องฝึกงานและการสอบ พี่เขาช่วยเหลือหนูทุกอย่างเลยนะคะ” “แกจะบอกสิ่งที่เขาทำแค่นั้นคือเขารักแกแล้วงั้นเหรอ” พงษ์ทวีขมวดคิ้วเข้ม จ้องมองลูกสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล “ยามเจ็บป่วยพี่เขาก็ดูแลหนูนะคะพ่อ” หญิงสาวเขยิบตัวไปนั่งใกล้ๆพ่อของตน พร้อมกับส่งสายตาวิงวอนมาให้ “งั้นเขาเคยพาล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status