แชร์

Chapter 9. จะทำอย่างไรดี

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 20:25:58

            “จะทำอย่างไรดี สุราอาหารส่งไป ดูคล้ายไม่ถูกปากท่านอ๋องหรือแม้แต่ผู้ติดตามก็ไม่แตะต้อง”

 นางกำนัลสองคนที่เดินผ่านหญิงสาวบ่นอุบอิบ เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับองค์ชายเฟยเทียนหรือชินอ๋องแล้ว ว่านหนิงเหมยย่อมหูผึ่งทันที เมื่อเดินไปลับตาผู้อื่น นางสอบถามกับเหล่าพฤกษาในสวนสี่ฤดู

            “จริงรึ? องครักษ์ทั้งสองชอบกินขนมหวาน” 

            ว่านหนิงเหมยถึงกับโคลงศีรษะไปมา แต่ต้นหลิวที่ยืนต้นเด่นริมสระบัวกลับสั่นไหวยืนยันในสิ่งที่ได้กล่าวไปแล้ว

            “ที่แท้มิใช่ไม่ถูกปาก แต่ไม่ใช่ของโปรดละสิ” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ นึกถึงจ้าวต้าของนาง แม้จะเป็นเด็กชายตัวเล็กที่มักทำท่าทีองอาจเพื่อปกป้องนาง แต่เอาเข้าจริง เขาก็คือเด็กน้อยที่นางหลอกล่อด้วยขนมหวานได้ทุกคราวไป 

            ‘กุนซือรูปงามผู้นั้น ชอบเดินหมากล้อมเป็นที่สุด’

            ‘เจิ้งหู่ เป็นแฝดผู้พี่’

            ‘เจิ้งไฉเป็นแฝดผู้น้อง’

            ‘ทั้งสามร่วมรบในสงครามทรายย้อมโลหิต จึงเป็นดั่งสหายรักขององค์ชายเฟยเทียน’

            ‘จุ๊ๆ ต้องเรียกชินอ๋องสิ’

            ‘องค์ชายไม่สนใจตำแหน่งเสียหน่อย ใจพะวงอยากกลับตุนหวงแล้ว’

            ‘ทรงบรรทมไม่ค่อยหลับ หรือหลับก็ไม่สนิท’

            ‘ฮองไทเฮาให้ท่านอ๋องเลือกหญิงงามมาเป็นพระชายา’

          หญิงสาวฟังเหล่าพฤกษาแย่งกันพูดเรื่องขององค์ชายเฟยเทียน คงเพราะเรื่องการคัดเลือกหญิงงามมาเป็นพระชายา องค์ชายเฟยเทียนจึงพำนักในตำหนักของฮองไทเฮา คงเกรงว่า หากปล่อยให้องค์ชายเสด็จ

กลับไปตำหนักชินอ๋อง อาจหนีกลับตุนหวงเหมือนครั้งที่ผ่านมา

            “ไม่รู้ป่านนี้ขนต้นไม้ลงมาหมดหรือยัง” นางบ่นพึมพำ อีกฝั่งหนึ่งของสวนสี่ฤดูตระเตรียมพื้นที่สำหรับพืชทะเลทรายไว้แล้ว ทว่านางไม่คิดว่าองค์ชายเฟยเทียนจะนำต้นไม้ใหญ่อย่างอินทผลัมมาเช่นนี้ หากต้นเล็กก็มีกุหลาบทะเลทรายและเหล่ากระบองเพชรหน้าตาแปลกประหลาดที่ไม่ได้พบเห็นได้ง่ายนัก

            “ข้าไปดูต้นไม้ก่อนนะ เสร็จแล้วจะมาคุยด้วย”

          ‘รีบไปหาองค์ชายเฟยเทียนละสิ’

            ‘เรียกท่านอ๋องได้แล้ว ท่านอ๋องเจ้าขา’

            ว่านหนิงเหมยหน้าแดงกับคำกระเซ้าของเหล่าต้นไม้ปากดี พอสนิทสนมเข้าหน่อย มารุมเล่นงานนางเสียนี่ นางตั้งใจเดินไปดูต้นไม้ที่ขนมาจากดินแดนทะเลทรายจริงๆ แต่เมื่อเห็นนางกำนัลเดินผ่านจึงเรียกตัวไว้สอบถาม ได้ความเช่นที่บรรดาต้นไม้ปากดีนั้นบอกนาง

            “รบกวนพวกเจ้าจัดสุรารสเลิศสำหรับองค์ชาย เอ่อ...ท่านอ๋อง และขนมของหวานกับน้ำชาให้ท่านกุนซือและองครักษ์ด้วยเถิด”

            “อะไรนะเจ้าคะ” ขนม? ใครจะกล้ายกไปล่ะ           

“รบกวนด้วย ประเดี๋ยวข้ายกไปให้เอง” 

นางเข้าใจดีว่าแต่ละคนไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ นึกถึงเรื่องที่เหล่าพฤกษากระซิบบอก นางถึงกับกลั้นหัวเราะ ใครเลยจะคาดคิดว่าองครักษ์ผู้น่าเกรงขามชื่นชอบขนมหวาน

          ตามธรรมเนียมแล้ว ตำหนักในไม่อนุญาตให้บุรุษเข้ามาพำนัก

หากนี่เป็นความประสงค์ของฮองไทเฮาจึงเป็นข้อยกเว้น แม้องค์ชายเฟยเทียนมีตำหนักของพระองค์เอง แต่ทุกครั้งที่กลับมาวังหลวงจะถูกรั้งตัวให้พักที่ตำหนักของฮองไทเฮาเสมอ

          “ต่อไปนี้พวกเราต้องเรียกองค์ชายว่าชินอ๋องแล้วใช่ไหม ท่านกุนซือ”

            เจิ้งหู่องครักษ์ขวาเอ่ยถามซิ่นเจี่ยง กุนซือและเป็นคนสนิทขององค์ชายเฟยเทียน ที่ยามนี้กึ่งนั่งกึ่งนอนเอกเขนกบนตั่งนุ่มกลางห้องรับรองที่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาใกล้คนทั้งสี่ ด้วยคำเชิญแกมบังคับให้องค์ชายเฟยเทียนพักอยู่ในตำหนักของฮองไทเฮา

            “เฮอะ!” องค์ชายเฟยเทียนแค่นเสียงในลำคอ ยื่นมือไปรับจอกสุราจากเจิ้งไฉ บรรดานางกำนัลต่างหวาดกลัวจนมือไม้สั่น ด้วยความรำคาญจึงไล่ไปให้หมด เหลือเพียงคนสนิททั้งสามคน แม้ฐานะต้อยต่ำ แต่สำหรับเขาแล้ว ทั้งสามล้วนเป็นสหายรักที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา

            “จะตำแหน่งอะไรคิดว่าข้าสนใจงั้นเรอะ” กรอกสุราลงคอแล้วยื่นจอกส่งให้องครักษ์ซ้ายรินให้เช่นเคย เมื่อไม่มีผู้อื่นอยู่ในบริเวณนี้องครักษ์ซ้ายขวาก็ปลดหน้ากากเหล็กของตนเองออก

            “เอาเป็นว่าเรียกชินอ๋องให้คุ้นปากไว้เป็นดี” ซิ่นเจี่ยงเอ่ยขึ้น แต่สายตายังจ้องมองที่กระดานหมากล้อม “มีตำแหน่งก็ย่อมเป็นเรื่องดี ทำสิ่งใดย่อมมีผู้เกรงอกเกรงใจ”

            “ข้าว่าทุกวันนี้ก็มีคนเกรงกลัวมากพออยู่แล้ว” เจิ้งไฉโคลงศีรษะไปมา นางกำนัลหรือขันทียังไม่กล้าเข้ามารับใช้เลย

เจิ้งไฉและเจิ้งหู่ มั่นใจในเรื่องการต่อสู้และฝีมือของตนเองก็จริง แต่เรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้ ต้องให้ซิ่นเจี่ยงคอยเตือนพวกเขา จะว่าไปก็รวมถึงองค์ชายพระทัยร้อนผู้นั้นด้วยเหมือนกัน

            “ข้าไม่ชอบวังหลวงเอาเสียเลย ไฉนฮองไทเฮาต้องให้องค์ชาย เอ่อ ชินอ๋องพำนักในตำหนักในด้วย” เจิ้งหู่พูดน้ำเสียงเหมือนเด็กเล็กที่ถูกขัดใจ ไม่ได้เข้ากับใบหน้าและท่าทางของตนเองเลยสักนิด

            ซิ่นเจี่ยงยื่นมือไปใช้พัดเคาะศีรษะของเจิ้งหู่แรงๆ ไปหนึ่งที ทำเอาเจิ้งหู่ยกมือกุมศีรษะลูบรอยที่โดนตีเมื่อครู่

            “เจ้านี่ก็คิดถึงแต่เรื่องของกิน!”

            “ก็มันจริงนี่ขอรับท่านซิ่นเจี่ยง” เจิ้งไฉรีบพูดแทนพี่ชาย “ไม่มีผู้ใดจัดขนมของว่างและน้ำชาให้พวกเราเลย ใครๆ ก็ว่าขนมในวังหลวงเลิศรสเป็นที่สุด”

            “กับแกล้มเต็มโต๊ะ เจ้ายังจะถามหาของว่าง!” ซิ่นเจี่ยงทำท่าจะตีเจิ้งไฉแต่อีกฝ่ายรีบกระโดดหลบเสียก่อน

            องค์ชายเฟยเทียนหรือตอนนี้คือชินอ๋องและเป็นผู้ปกครองตุนหวงเพียงแค่ยกจอกสุราขึ้นดื่ม หากในวังหลวงนี้สิ้นฮองไทเฮาแล้ว เขาไม่เหลือผู้ใดให้อยากมาพบ มีเพียงฮองไทเฮาที่ทรงเลี้ยงดูเขาตั้งแต่เยาว์วัย แม้ทุกวันนี้ก็ทรงเป็นพระองค์เดียวที่ยังห่วงใยเขาอยู่ เขารู้ดีว่ามีสายคอยส่งข่าวเรื่องของเขาให้ทางฮองไทเฮาทราบ

            ตุนหวงอยู่ในการปกครองของแคว้นกันซู่ สิบปีมานี้ที่เขากรำศึกทั้งปราบขบถและชนเผ่าที่กระด้างกระเดื่อง แต่เขากลับเลือกปักหลักยึดตุนหวงไว้เป็นฐานที่ตั้งมั่นของทหาร ในฐานะที่ตุนหวงเป็นดินแดนเชื่อมต่อการคมนาคมระหว่างจองหยวน (เมืองหลวง) กับดินแดนอื่น  เส้นทางการค้าสำคัญที่ถูกเรียกว่าเส้นทางสายไหม รายได้จากการจัดเก็บภาษีค่าผ่านทางมากมายจนประเมินค่ามิได้  

เส้นทางสายไหมกลายเป็นแหล่งรวมพ่อค้าจากทุกสารทิศ ราชสำนักและราชวงศ์สามารถควบคุมพื้นที่และตั้งหน่วยงานปกครองที่มั่นคง ทั้งยังสามารถปราบปรามชนกลุ่มน้อยที่เคยเรืองอำนาจในดินแดนแถบนี้ เอื้อประโยชน์ให้การคมนาคมมีความสะดวกสบาย มีกลุ่มพ่อค้าทั่วสารทิศใช้เส้นทางมากขึ้น นอกเหนือจากผู้แสวงบุญและผู้ที่เดินทางมาแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจำนวนมาก ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่เขาเลือกอยู่ที่ตุนหวง ละทิ้งจองหยวน แม้รู้ดีอยู่แก่ใจว่าลึกๆ แล้ว ฮ่องเต้ทรงไม่ไว้ใจเขา เกรงว่าให้อำนาจการปกครองทางการทหารมากเกินไป ทำให้เขาใช้เหล่าทหารเข้ายึดอำนาจและสถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้

            อำนาจรึ? เขารู้จักมันแล้ว 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 10. เจ้าก็เลือกเอาสักคนเถิด

    เพียงแค่คิดก็เผลอยกท่อนแขนซ้ายขึ้นดู เวลานี้มันเป็นเพียงแขนข้างซ้ายที่มีปีศาจมังกรเพลิงหลับใหลอยู่ หากเมื่อเขาต้องการ ปีศาจกระหายโลหิตตนนั้นจะปรากฏได้ในทันที หลายปีมานี้เขาใช้ความสามารถของตนเอง ผนวกกับความสามารถของกุนซือที่เขาเชื่อใจ ซ้ำยังมีองครักษ์ซ้ายขวาที่เขาชุบเลี้ยงทั้งสองมาตั้งแต่ยังวัยเยาว์ เมื่อมีคนที่ไว้ใจได้อยู่เคียงข้าง ก็ไม่มีสิ่งใดขวางชัยชนะของเขาได้ เขาไม่เคยรู้สึกผิดที่เรียกหาปีศาจ หากย้อนเวลาได้ เขายังคงทำเช่นเดิม พอยกแขนลงก็ไปแตะโดนกระดาษกองหนึ่ง เขาเพียงปรายตามองแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่ไม่เข้าใจก็คือ ไฉนฮองไทเฮาถึงได้นำรูปหญิงงามมาให้เขาเลือกเป็นพระชายา “เจ้าก็เลือกเอาสักคนเถิด” เขานึกถึงเสียงรับสั่งของฮองไทเฮา ไม่คิดว่ามีสตรีอยากชะตาขาดมาให้เขาเลือกเป็นพระชายานับสิบคน คงเพราะตำแหน่งพระชายาของชินอ๋องแห่งตุนหวงเย้ายวนจนยอมเอาชีวิตมาเสี่ยงแม้ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกระดานที่วางหมากอยู่นั้น แต่ก็เข้าใจความคิดของผู้เป็นนายที่ซิ่นเจี่ยงติดตามมานาน เขาเป็นเด็กกำพร้าเดิมทีใช้ชีวิตเร่ร่อน เพราะรูปร่างผอมบางตามประสาเด็กกินไม่อิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 11. พอเถอะ ข้าอายเหลือเกิน

    แม้จะไม่ใช่ ‘คนโปรด’ แต่ฮองไทเฮาก็ส่งนางกำนัลมาคอยดูแลว่านหนิงเหมยเป็นอย่างดี หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้านอนแล้ว พวกนางกำนัลยังช่วยแปรงผมยาวให้ด้วย แม้นางปฏิเสธหลายครั้งเพราะไม่คุ้นชินกับการมีผู้อื่นมาปรนนิบัติ จนเมื่อนางกำนัลออกไปแล้วหญิงสาวถึงรู้สึกหายใจโล่งขึ้น หญิงสาวเดินไปที่หน้าต่าง เวลานี้ยามซวี เหม่อมองไปด้านนอกด้วยหัวใจที่ยังว้าวุ่นและสับสน ‘โธ่ น่าสงสาร คนผู้นั้นจำนางไม่ได้’ ‘จะจำได้อย่างไร ตอนนั้นนางยังเด็ก’ “พวกเจ้าหยุดล้อข้าได้แล้ว” ว่านหนิงเหมยแลบลิ้นใส่ ใบไม้สั่นไหวเป็นเสียงหัวเราะคิกคัก “จะโกรธหรือน้อยใจก็ไม่ได้ ตอนนั้นข้าอายุแค่สิบสองเอง” ‘อายุแค่นั้นก็ริรักผู้ชาย’ ‘แล้วอย่างไรเล่า คนผู้นั้นหล่อเหลาองอาจถึงเพียงนั้น’ “พอเถิด ข้าอายเหลือเกิน” นางยกมือขึ้นปิดใบหน้า นางนี่แก่แดดแก่ลมเสียจริง ตัวแค่นั้นก็ริมีความรักแล้ว ‘ตอนนั้นอายุสิบสอง ตอนนี้อายุสิบแปด เจ้าเป็นสาวสะพรั่งแล้ว ได้พบกันอีกครั้ง ไยไม่ไขว่คว้าโอกาสนี้ไว้’ “เจ้าพูดถึงเรื่องอะไรกัน” หญิงสาวถามกลับอย่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 12. คิดจะยั่วยวนข้า

    “หากไม่พอใจหม่อมฉัน เอ่ยปากไล่ออกไป หม่อมฉันก็ไม่ดื้อดึงที่จะอยู่ แต่ทำแบบนี้... ว้าย!” ว่านหนิงเหมยร้องเสียงหลงเมื่อมือใหญ่ดึงนางเข้าไปใกล้ จับท้ายทอยของนางให้แหงนหน้าขึ้น ริมฝีปากหยักประกบริมฝีปากนางอย่างรวดเร็ว ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่กลับทำให้มองเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มได้ชัด และเริ่มกลายเป็นเปลวไฟจนนางต้องหลับตาริมฝีปากถูกขบเม้มและไล้เลียจนหัวใจแทบหยุดเต้น สติที่เหลือเพียงน้อยนิดสั่งให้นางผลักเขาออก แต่มือเล็กคู่นั้นทำได้แค่ทุบแผงอกเปลือยเปล่าไปไม่กี่ครั้ง นางเผลออ้าปากหวังเรียกอากาศหายใจ แต่กลับเปิดทางให้เรียวลิ้นเปียกชื้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นน้อยๆ ของนาง ปากและลิ้นร้อนของเขาเปี่ยมไปด้วยอำนาจ เขาจุมพิตนางยึดครองเอาสติของไปหมดสิ้น เพียงแค่จูบ นางอ่อนระทวยอย่างน่าอับอายในอ้อมอกแข็งแกร่งของเขาชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะหมดสติ จึงส่งลมปราณให้นางแล้วถอนจุมพิตอย่างเสียดาย มองดูนางที่ไร้เรี่ยวแรงในอกของเขา พอดวงตากระจ่างใสของนางลืมตาขึ้นกะพริบถี่ๆ ท่าทางไร้เดียงสานั้นทำให้เขาขบขันจนหัวเราะลั่นออกมา“คิดจะยั่วยวนข้า แต่แม้กระทั่งจูบเจ้ายังไม่เป็น เช่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 13. เด็กผู้หญิงคนนั้น

    องค์ชายเฟยเทียนเลิกคิ้ว ‘เล่นพูดกันแบบนี้เลยรึ?’ เห็นทีว่าหญิงงามที่คัดสรรมานั้น คงได้รับการ ‘ซื้อตัว’ มาแล้ว เพียงแค่นึกถึงสตรีที่ไม่เต็มใจมาอยู่เคียงข้าง หากให้กำเนิดบุตรไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงกับเขาแล้วจะเป็นเช่นไร เขาไม่ใช่คนรักใคร่เอ็นดูเด็ก แต่ไม่ได้รังเกียจ ตนเองกรำศึกยาวนาน จนนึกภาพยามเป็นพ่อคนไม่ออก เพียงนึกเล่นๆว่าหญิงที่ถูกบังคับให้แต่งงานและให้กำเนิดทายาทแก่เขาจะเป็นเช่นไร เขาเกิดมาเป็นลูกที่พ่อไม่รัก ความรู้สึกนี้ก็ราวกับรอยนาบของเหล็กร้อนบนหัวใจของเขาแล้ว หากนางผู้นั้นชิงชังลูกของเขาเล่า “กระหม่อมจำเป็นต้องเลือกหนึ่งในนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” เขาเอ่ยออกมาหลังจากนั่งฟังฮองไทเฮาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน “เจ้าก็เอ่ยชื่อมาสักคนเถิด” เพราะไต้ซือซู่ย้ำหนักหนาว่าต้องเป็นคนที่เฟยเทียน ‘เอ่ยชื่อ’ ออกมาด้วยตนเองเท่านั้น ถ้าไม่ติดเงื่อนไขนี้ นางคงเลือกสตรีมาเป็นพระชายาให้หลานชายเองแล้ว ชื่อ? นั่นสิ ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรกันพลันเขากลับคิดถึงหญิงสาวผู้นั้น แม้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า แต่นางไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ขนาดต้องปกปิดครึ่งหน้าเช่นนั้น นางตัวเล็กไปสักนิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 14. ระวัง

    ถึงนางจะเป็นหญิงพรหมจรรย์ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตอนที่อยู่ในอ่างอาบน้ำเดียวกับองค์ชายเฟยเทียน นางเผลอมอง ‘สิ่งนั้น’ ของเขา ด้วยความน้อยใจและเสียใจ ทำให้ไม่ได้มองเต็มตาโอ๊ย! หนิงเหมย! อย่าให้ผู้ใดรู้เชียวว่านางเผลอมอง ‘สิ่งนั้น’ ของบุรุษที่ไม่ใช่สามีของตนไปแล้ว!!! ‘อยากรู้อะไรก็ถามพวกข้าสิ’ ‘พวกนางกำนัลลอบเล่นชู้กับทหารบ่อยไป’ “มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ” ว่านหนิงเหมยหน้าแดงจัด เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นไข้ หรือเพราะฟังดอกไม้เหล่านี้พูดเรื่อง...เรื่องลามก! ‘หนิงเหมย ก้มมองที่เบื้องหน้าของเจ้าสิ’เป็นเสียงทุ้มกังวานของต้นหลิวที่อายุเกือบร้อยปี ตั้งแต่นางมีโอกาสเข้าวังมา ต้นหลิวชราผู้นี้มีเมตตาเอ็นดูนางเสมอมา “อ๊ะ!...ลูกนกนี่” นางก้มมองที่พื้น เห็นลูกนกตัวน้อยส่งเสียงร้อง นางนั่งลงแล้วประคองลูกนกในอุ้งมือ แหงนหน้ามองต้นหลิวใหญ่ริมสระบัว “รังเจ้าอยู่ข้างบนใช่หรือไม่” ‘ลูกนกกางเขน เจ้าเอาขึ้นมาคืนรังหน่อยสิ’ “ได้สิ” ว่านหนิงเหมยเอาลูกนกซุกไว้กับอกเสื้อ นางยื่นมือไปกิ่งที่ใกล้และแข็งแรงที่สุด เหนี่ยวตัวเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 15. สืบดูแต่อย่าทำร้ายนาง

    กิ่งไม้แหลมเล็กพุ่งเข้าใส่ปักท่อนแขนดุจลูกศรยิงจากธนู ดวงตาคมวาวจ้องมองด้วยความงุนงง ความเจ็บแปลบตอกย้ำว่านี่เป็นเรื่องจริง โลหิตสีเข้มไหลออกมา องค์ชายเฟยเทียนจึงขยับท่อนแขนพิศมองด้วยความประหลาดใจสิบปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีสิ่งใดทำร้ายท่อนแขนมังกรข้างนี้ได้เลยสักครั้งเดียว!“ท่านอ๋อง” ว่านหนิงเหมยได้สติ ทรงตัวได้ก่อนจะล้มไปก้นกระแทกพื้น พอเห็นกิ่งไม้แหลมเล็กนั่นก็รู้ทันทีว่าเป็นเพราะนาง เมื่อหกปีก่อนก็เป็นเช่นนี้ เพราะนางตกใจและหวาดกลัวผสมกับรู้สึกถูกคุกคาม ต้นไม้จึงปกป้องโดยที่นางเองไม่ได้สั่งให้ทำร้ายใคร“ท่านอ๋อง” เป็นเสียงขององครักษ์ที่เฝ้าดูอยู่ไม่ไกลนัก เพราะติดตามองค์ชายมานาน รู้ดีถึงแขนซ้ายที่เป็นดั่งเกราะเหล็กกล้าปกป้องผู้เป็นนายได้ยอดเยี่ยมเพียงใด จึงไม่ได้ออกมาปกป้องแต่แรก ไม่คิดว่ากิ่งไม้เล็กๆ ที่จู่ๆ ก็พุ่งเข้าใส่นั้น ปักท่อนแขนซ้ำยังทำให้โลหิตหลั่งอีกด้วย!“ไม่เป็นไร เล็กน้อยเท่านั้น” องค์ชายเฟยเทียนโบกมือห้าม หากเปรียบเป็นลูกศรยามออกรบก็เรียกได้ว่านี่เป็นศรเตือน ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดมากนักหรือจะเอาชีวิตเขาแต่อย่างใด“หม่อมฉัน...” นางพูดอะไรไม่ออก ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำอย่างไรด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 16. อย่าพูดเช่นนั้น

    “ข้าทำเองได้” นางยื่นมือไปรับผ้ามาเช็ดหน้า “ขอน้ำชาข้าหน่อยสิ”“ขอรับ” จ้าวต้ารีบรินน้ำชาให้นาง ครู่ต่อมาป้าฮุยเหอพาร่างอวบอ้วนเข้ามาพร้อมชามโจ๊กหอมกรุ่น“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”“แค่เป็นไข้นิดหน่อย” ว่านหนิงเหมยหัวเราะน้อยๆ จากที่รู้สึกโดดเดี่ยว ตอนนี้นางกลับรู้สึกว่ามีคนรักและเป็นห่วงนางอย่างจริงใจถึงสองคน“ไฉนฮองไทเฮาใช้งานคุณหนูของป้าจนไม่สบายเช่นนี้” ปกติคุณหนูของนางแข็งแรง ปีทั้งปีแทบไม่เคยเห็นเจ็บป่วยอะไรเลย“อย่าพูดเช่นนั้นเชียว ข้าแค่ตกน้ำก็เลยไม่สบายเอาน่ะ”นางนึกขึ้นได้ รีบยกข้อมือขึ้นถอดกำไลหยกออกจากข้อมือส่งให้ป้าฮุยเหอ“ฝากเก็บไว้ด้วย ถ้าเอาไว้กับข้ามีหวังโดนค้นห้องเอาไปแน่” นางยิ้มเหมือนเป็นเรื่องปกติ ของกำนัลที่ฮองไทเฮาพระราชทานให้ ส่วนใหญ่นางให้มารดาเก็บไว้ทั้งหมด มีบางชิ้นที่ชิ้นเล็กไม่สะดุดตา นางแอบเก็บไว้เอง“เก็บให้จ้าวต้าไว้เรียนหนังสือ รอเสร็จเรื่องยุ่งก่อน ข้าจะพาเจ้าไปสำนักศึกษา”“คุณหนู” จ้าวต้าทำตาโต ทั้งตื่นเต้นดีใจและกังวลใจไปพร้อมกัน“จะดีหรือเจ้าคะ จ้าวต้าเป็นแค่เด็กรับใช้ คุณหนูเสียสละเวลาสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ก็มากเกินไปแล้ว” ป้าฮุยเหอกลัวว่าคุณหนูขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 17. ยากจะอธิบาย

    จ้าวต้ามองคุณหนูด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครที่ทำอะไรให้เขาได้ถึงเพียงนี้ แม้กระทั่งกับผู้เป็นบิดามารดาแท้ๆ ของเขาก็ตาม เขาถูกทิ้งขว้าง อดมื้อกินมื้อ แม้กระทั่งตอนที่บิดาตาย เขาต้องขายตัวเองเพื่อฝังศพบิดา คุณหนูว่านหนิงเหมยสงสารเขา นอกจากช่วยเขาแล้ว ยังให้เงินแก่มารดาของเขาไปจำนวนหนึ่ง เขาไม่รู้ว่ามากน้อยเพียงใด แต่ป้าฮุยเหอบอกว่ามันมากพอที่จะทำให้มารดาไม่มาทำร้ายเขาได้อีก “คุณหนู” “มาช่วยข้าเตรียมน้ำชา”นางยิ้มแย้ม เดาได้ไม่ยากว่าเด็กน้อยผู้นี้คิดอะไรอยู่ นางรู้สึกตัวเองไม่สู้ดีนัก แต่คนอย่างนางล้มหมอนนอนเสื่อก็มิได้ นอกจากจ้าวต้ากับป้าฮุยเหอแล้ว ไม่มีใครสนใจดูแลนาง หากเป็นอะไรไป ทั้งสองต้องถูกคนอื่นรังแกเป็นแน่ นางฝืนตัวเองกินโจ๊กที่ป้าฮุยเหอทำให้แล้ว จึงรีบไปหาท่านอาจารย์ที่มาสอนคุณชายคนเล็กของตระกูลว่าน เป็นจังหวะที่อาจารย์ให้คุณชายพักผ่อนพอดี นางให้จ้าวต้าช่วยยกน้ำชาให้อาจารย์ “น้ำชาเจ้าค่ะท่านอาจารย์” “กลิ่นหอมจริง” เพียงได้กลิ่นก็รู้ว่าเป็นชาดี แล้วก็อดยิ้มในการเอาอกเอาใจของหญิงสาวผู้นี้ไม่ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29

บทล่าสุด

  • ท่อนแขนมังกร   แนะนำ ลมหายใจมังกร

    ลมหายใจของเขามีไว้เพื่อนางลมหายใจของนางมีไว้เพื่อเรื่องย่อเรื่องราวระหว่างเทพมังกรดิน ฮวงหลง และหญิงสาวเดินดินนามซิ่นฮวาเมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้หญิงสาวมองเห็น ‘เทพมังกรดิน’เขาจำ(ใจ)ต้องปรากฏกายทุกครั้งที่นางเรียกขานนามของเขาทำให้เทพเซียนชั้นฟ้ากลายเป็นพี่เลี้ยงของเด็กหญิงตัวน้อยจวบจนนางเติบโตเป็นหญิงสาวงามสะพรั่งกฎสวรรค์ทำให้เขาต้องหักห้ามใจแต่เพราะนางและเขามีชะตาที่ต้องชดใช้กรรมร่วมกันและมีเพียง ‘ลมหายใจมังกร’ เท่านั้นที่จะต่อลมหายใจของนางได้เส้นทางที่เขาเลือกมิใช่สิ่งที่นางปรารถนาเพียงหนึ่งชาติภพเพื่อให้ใจได้ ‘รัก’แม้ช่วงเวลานั้นจะแสนสั้น.... นางก็ยินดีจาก ‘ท่อนแขนมังกร’ สู่ ‘ลมหายใจมังกร’(ท่อนแขนมังกรรุ่นลูก)‘ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าจะอยู่ข้างกายท่าน จะไม่มีวันทอดทิ้งท่านอย่างเด็ดขาด’“แม้ว่าข้าจะกลายเป็นคนอัปลักษณ์ เจ้าก็ยังอยู่เคียงข้างข้าหรือ?”‘แน่นอน’ นางยืนยันด้วยแววตาใสซื่อ ‘ข้ามิได้รักท่านที่หน้าตา แต่เพราะจิตใจของท่านต่างหากที่ข้าหลงรัก’“เจ้ารักข้า?”คำสารภาพรักของนางนั้นเขาได้ยินมานับร้อยนับพันครั้งแล้วกระมังแต่ครั้งนี้ แม้นางไม่ได้เปล่งเสียงออกมาแต่ห

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 126 .  พิเศษ 2.

    “เช่นนั้นเจ้าไม่ลองมีลูกสาวให้เป็นเพื่อนซิ่นฮวาอีกคนเล่า เด็กๆในตำหนักมีแต่เด็กผู้ชาย ถ้ามีลูกผู้หญิงเพิ่มขึ้นอีกคนก็คงดีไม่น้อย ตอนนี้ซิ่นสือก็สามขวบแล้ว ถ้าเจ้าจะมีลูกอีกสักคนก็...”บุรุษหนุ่มผู้กรำศึกมานับไม่ถ้วนถึงกับสะอึกไปเมื่อเห็นสายตาดุๆ ของภรรยาตัวน้อย“ข้ามิใช่แม่หมูนะ” เหตุใดมาเคี่ยวเข็ญให้นางตั้งท้องขนาดนี้นะ“โธ่! เพราะเห็นเจ้าเป็นภรรยาหนึ่งเดียวของข้าถึงได้ชวนเจ้ามีลูกอีกสักคนหรือสองคนก็ได้” เขาโอบไหล่นางพานางกลับเข้าห้องพัก ปล่อยให้จ้าวต้าอยู่กับลูกชายสองคนของเขา คงเป็นวิธีเบี่ยงเบนความสนใจจากว่านหนิงเหมยให้จ้าวต้าไปรับตัวซิ่นฮวาจากสวนกระจ่างใจจ้าวต้าโคลงศีรษะไปมาแล้วมองเด็กน้อยทั้งสอง แม้ฐานะของเขาต้อยต่ำนัก แต่เขาเสมือนพี่ใหญ่ที่ต้องดูแลเด็กๆ เหล่านี้ เขาถอนหายใจก่อนยิ้มอ่อนโยน จูงมือซิ่นหลิงและอุ้มซิ่นสือไปส่งป้าฮุยเหอก่อนแล้วค่อยไปรับเด็กหญิงแสนซุกซนผู้นั้นเด็กหญิงตัวต้นเรื่องนั่งหน้าบึ้งตึงในศาลาหกเหลี่ยมของสวนกระจ่างใจ ท่านแม่ให้นางนั่งสำนึกผิดอยู่ผู้เดียว แต่กระนั้น นางก็รู้และมั่นใจว่าองครักษ์ของท่านพ่อคอยจับตาดูนางอยู่“เรื่องนิดเดียวเอง ไยท่านแม่ต้องโกรธถึงเ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 125 . พิเศษ 1.

    ชายหนุ่มวัยสิบหกพาเรือนร่างกำยำเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มประดับใบหน้าคมเข้ม แม้อายุเพียงแค่สิบหกปีแต่เพราะฝึกฝนวรยุทธ์อย่างเข้มงวด ทำให้เขาดูสูงใหญ่กว่าชายหนุ่มวัยเดียวกัน แทบไม่เหลือเค้าโครงเด็กชายผอมกะหร่องที่ค่อยติดตามพระชายาเลยแม้แต่น้อย เพียงร่างสูงเดินเข้าไปในห้องโถง พลันประสาทรับรู้ถึงการพุ่งเข้าใส่ ทว่าเขากลับไม่ปัดป้องหรือหลบหลีก ยอมให้ร่างเล็กโถมเข้าใส่สุดแรงจนเสียหลักหงายหลังล้มลงให้เด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบนั่งทับ “พี่จ้าวต้ากลับมาแล้ว!” มือน้อยของเด็กชายขยุ้มคอเสื้ออีกฝ่าย สีหน้าตื่นเต้นดีใจทั้งที่ไม่เจอกันแค่สามเดือน “คุณชายซิ่นหลิง” ชายหนุ่มหัวเราะขบขันกับท่าทางดีอกดีใจของอีกฝ่าย เพราะรู้ว่าผู้ที่พุ่งเข้ามาเป็นใครจึงยอมให้นั่งทับบนร่างตัวเองเช่นนี้ เขาจับไหล่เด็กชายตัวน้อย ยกตัวขึ้นเพื่อให้ตัวเองลุกขึ้นยืนได้ “พี่จ้าวต้ามาแล้ว ไปช่วยซิ่นฮวาเร็วๆ เข้า” มือน้อยกระตุกมือใหญ่แล้วชี้ไปทางด้านหลังของตำหนักดุจตะวัน “หือ? คุณหนูเป็นอะไรไปขอรับ” เขาถามพลางมองไปตามทิศทางที่นิ้วป้อมๆ ชี้ไป ถ้าคุณหนูตัวน้อยอยู่ที่สวนก

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 124. ตุนหวง

    พูดได้แค่นั้นก็อยากจะอาเจียนหรือหาของเปรี้ยวมากิน คราวนี้ฮองไทเฮาอดหัวเราะไม่ได้ ในขณะที่หลานรักอย่างเขากลับรู้สึกอับอายยิ่งนัก เพราะหลบสายตาของผู้เป็นย่าจึงปะทะกับสายตาล้อเลียนขององครักษ์ฝาแฝดทั้งสอง ทำได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างไม่พอใจ ก็ใครใช้ให้เขารักนางมากขนาดนี้กันเล่า เฮ้อ!“เอาเถิดๆ อย่างไรข้าจะเป็นยายแก่หนังเหนียวรอเจ้าพาเหลนและสะใภ้กลับมาเยี่ยมอยู่ที่นี่”องค์ชายเฟยเทียนโค้งตัวอำลาฮองไทเฮา คราวนี้เขาไม่รั้งอยู่นาน ใช้วิชาตัวเบาราวล่องหนหายออกไปจากวังหลวงพร้อมองครักษ์ทั้งสองอย่างรวดเร็ว เพื่อกลับไปดูแลคนที่ทำให้เขาต้องออกอาการแพ้ท้องแทนอยู่อย่างนี้ตุนหวงรถม้ามาหยุดหน้าตำหนักดุจตะวัน หญิงวัยกลางคนโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างรถอย่างไม่มั่นใจนัก จนกระทั่งเห็นเด็กชายที่เคยเลี้ยงดูรีบวิ่งเข้ามาหา นางจึงยิ้มกว้างออกมา“จ้าวต้า”“ป้าฮุยเหอมาแล้ว” จ้าวตารีบไปประคองให้นางลงจากรถม้า ก่อนท่านอ๋องเดินทางไปเมืองหลวงได้สอบถามเขาถึงคนสนิทหญิงรับใช้ที่บ้านเดิม ท่านอ๋องต้องการให้พระชายามีคนคุ้นเคยอยู่ใกล้ๆ คอยช่วยเหลือยามตั้งครรภ์แรก เขาจึงนึกถึงป้าฮุยเหอที่ดูแลเขาและพระชายามาตั้งแต่เกิด แต่เ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 123.สิ่งเดียวที่ต้องการ   

    ดวงเนตรเบิกกว้างอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินโอรสที่ทรงหมางเมินกล่าวออกมาเช่นนี้ จ้องมองบุรุษเบื้องหน้าที่ใบหน้าละม้ายคล้ายกันนัก สิ่งที่ลูกชายพูดออกมานั้นล้วนอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ทุกครั้งที่มองใบหน้านี้จึงเหมือนมองตนเองในวันวัยเดียวกัน ยามที่เป็นเพียงองค์รัชทายาทก็ราวกับเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ใครต่อใครบงการ พยายามอย่างยิ่งให้เป็นที่ยอมรับ ได้รับความรักจากบิดาหรือก็คืออดีตฮ่องเต้องค์ก่อน แม้รู้ว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นไม่ถูกต้อง แต่ไม่อาจแก้ไขอะไรได้สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ ไม่คิดเลยว่าบุรุษเบื้องหน้าผู้ถอดแบบเขาออกมาแทบทุกกระเบียดนิ้ว จะมองออกจนทะลุปรุโปร่งเช่นนี้ “สิ่งที่กระหม่อมทำก็เพื่อแผ่นดินมังกรแห่งนี้ ศึกภายในกระหม่อมไม่ขอยุ่งเกี่ยว กระหม่อมมิสนใจว่าผู้ใดต้องการกำจัดกระหม่อม แต่ชีวิตของกระหม่อมขอเพียงได้ปกป้องราษฎรและรักษาแผ่นดินที่แลกมาด้วยหยาดโลหิตและชีวิตทหาร หากกำจัดกระหม่อมไปแล้ว เห็นทีว่าจะไม่เป็นผลดีต่อแผ่นดินนี้”“เจ้ากำลังข่มขู่ข้ากระนั้นรึ” “มิได้ กระหม่อมแค่ต้องการย้ำให้พระบิดาเข้าใจ อย่าได้สิ้นเปลืองสมองมาระแวงกระหม่อม”เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 122. สิ้นสุด 

    เทพมังกรดินดูผลงานของตน เฝ้ามองเหล่ามารปีศาจกลับคืนสู่นรกแล้ว จึงกลายร่างเป็นบุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินยวง เดินเข้าไปหาคนทั้งสอง หญิงสาวพลิกตัวใช้ร่างของตนบังร่างของชายที่นางรักไว้ แม้นางรูปร่างเล็ก แต่กางแขนออกเพื่อปกป้องเขา“หนิงเหมย” เขาปรามนาง อยากจะหัวเราะที่เวลานี้มีหญิงสาวตัวเล็กกางแขนปกป้องเขาเต็มที่ ในชีวิตของเขา จะมีใครสักกี่คนที่ยอมอยู่เคียงข้างเช่นนี้ เพียงหนึ่งชีวิตอันแสนสั้น ได้รู้จักรัก หัวใจได้รับความรักก็นับว่ามีค่าและมีเกียรติให้ตายได้อย่างสงบแล้วเป็นนางเท่านั้นที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ที่จะรัก ได้สัมผัสความรัก เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว พอแล้วจริงๆ เทพมังกรดินจ้องมองชายหนุ่มหญิงสาวทั้งสองแล้วก็ลอบถอนหายใจ นี่แหละหนา จึงเป็นได้เพียงมนุษย์ไม่อาจละทิ้งอาวรณ์ได้ เขายื่นมือไปใช้เพียงปลายนิ้วแตะน้ำตาของหญิงสาว ว่านหนิงเหมยเบิกตาโต เห็นน้ำตาของตนกลั่นกลายเป็นก้อนกลมเล็กดุจลูกแก้ววาววับลอยเหนือฝ่ามือของเทพมังกรดิน แล้วยื่นไปที่เบื้องหน้าขององค์ชายเฟยเทียน “นี่คือ...” ว่านหนิงเหมยพึมพำ “กลืนมันลงไป” เทพมังกรดินสั่งน้ำเสียงเฉียบขาด องค์ช

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 121.   ค่าตอบแทน

    “เจ้าเรียกปีศาจได้ ไยข้าจะทำบ้างมิได้” เพื่อชัยชนะ ย่อมทำได้ทุกอย่างไม่ว่าชัยชนะนั้นจะได้มาอย่างไรก็ตาม“เจ้าแลกสิ่งใดกับการเรียกปีศาจออกมา!”แม้เขามีปีศาจมังกรเพลิงอยู่ในท่อนแขนซ้าย แต่เรียกใช้เพียงการศึกครั้งเดียว เมื่อสิบปีก่อนที่เรียกกองทัพทหารปีศาจขึ้นมา กลายเป็นฝันร้ายไปชั่วชีวิต นับแต่นั้น เขาเพียงใช้แค่เกราะปีศาจมังกรเพลิงคุ้มกันกายค่าตอบแทนของทหารปีศาจเหล่านี้คือหายนะไม่สิ้นสุด ความตายที่ไม่อาจประเมินได้อยู่เบื้องหน้า ปีศาจเหล่านี้ล้วนต้องดื่มเลือดฉีกเนื้อกินวิญญาณมนุษย์ ครานั้นปีศาจที่เขาเรียกออกมากัดกินทหารฝ่ายตรงข้าม เศษซากที่เหลือกลายเป็นศพ กองเป็นภูเขาซากศพชวนให้อาเจียนและขนหัวลุก“ข้ามิโง่เช่นเจ้าที่แลกวิญญาณตนเองหรอกนะ” ลาซูแหงนหน้าหัวเราะ ดวงตากลายเป็นสีแดงราวกับย้อมด้วยโลหิต “แต่ข้าแลกด้วยชีวิตผู้คนในตุนหวง เมื่อข้านำกองทัพเข้ายึดครองแผ่นดินของเจ้า ผู้คนของเจ้าก็จะกลายเป็นอาหารอันโอชะให้พวกมันอย่างไรเล่า เมื่อเวลานั้นมาถึง ดินแดนของเจ้าจะมีเพียงผู้คนของข้าเท่านั้นที่เหยียบยืนบนแผ่นดินเปื้อนเลือดแห่งนี้”แม้ไม่ได้ยินเสียงสนทนาของคนทั้งสอง แต่บัดนี้หญิงสาวเข้าใจแล้วว่

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 120.   เสียงของสายลม

    นางหวังให้ตัวเองส่งเสียงเตือนให้ดังกว่านี้ แต่เสียงที่เปล่งออกไปเป็นเพียงเสียงแหบแห้งและสั่นเครือ นางรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือเพียงน้อยนิด อาภรณ์สีดำขลิบแดงที่นางสวมทำให้ผิวกายของนางแสบร้อน ดวงตาเบิกกว้าง นางเห็นกลุ่มคนบุกเข้าไปกำลังปะทะกับทหารมองโกล “ท่าน...อ๋อง...” เสียงของนางแผ่วเบายิ่งกว่าเสียงของสายลม น้ำตาที่ทนกลั้นกลิ้งร่วงหล่นจากดวงตาเปื้อนแก้ม ขอให้นางได้เพียงส่งเสียง ได้เพียงเตือนเขาก็ยังดี “โอ๊ย!” ว่านหนิงเหมยร้องเสียงหลง หูทั้งสองข้างราวกับมีเสียงปริแตกลั่นดังเปรี๊ยะ! มือที่ถูกมัดทำให้ไม่อาจยกขึ้นมาแตะหูของตนได้ นางเจ็บจนนิ่วหน้า รู้สึกเหมือนมีน้ำไหลออกมาจากหูทั้งสองข้างนางหลับตาพยายามสะกดกลั้นความเจ็บที่ตนได้รับ เสียงหวีดแหลมที่ทำให้หูทั้งสองข้างเจ็บปวด ทำให้นางไม่อาจได้ยินเสียงอื่นใดอีก ในชั่วลมหายใจต่อมา หญิงสาวรู้สึกว่าเชือกที่มัดนางอยู่ถูกตัดขาดอย่างรวดเร็วพร้อมร่างของนางที่ร่วงหล่น เพียงเสี้ยวเวลาอันแสนสั้นและเปราะบาง ยามนั้นนางกลับนึกถึงเมื่อครั้งที่นางตกต้นหลิวอายุเกือบร้อยปีในสวนสี่ฤดูของฮองไทเฮา หัวใจของนางหล่นวูบ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 119.   ดวงตาเป็นประกายโกรธเคือง

    “เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่” มือเรียวกำแน่น เผลอจิกเล็บกับฝ่ามือของตนเอง เมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งใจฟัง ลาซูจึงเอ่ยขึ้น “สังหารท่านอ๋องอย่างไรเล่า คงมีแต่ท่านเท่านั้นที่จะสังหารผู้ที่ครอบครองพลังปีศาจมังกรเพลิง” ลาซูพูดราวกับเป็นเรื่องธรรมดา “อ้อ! แต่อย่าได้เป็นกังวลไป หากพระชายากลายเป็นม่าย กระหม่อมยินดีรับท่านมาอยู่เคียงข้างอย่างไม่รังเกียจ” ยังไม่ทันสิ้นประโยคดี ฝ่ามือเล็กของหญิงสาวกระทบซีกแก้มของลาซูสุดแรงที่นางมี เพราะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงหญิงไร้วรยุทธ์จึงไม่หลบหลีกยินดีให้นางตบหน้าเขาเต็มแรง ว่านหนิงเหมยลดมือที่ยกค้างอยู่ลง แสร้งทำเป็นประคองสองมือไว้บนตัก ทว่ามือข้างขวานั้นชาและสั่นระริก หญิงสาวกัดริมฝีปากตนเองไม่ให้แสดงความตื่นตระหนกออกมา ดวงตาเป็นประกายฉายแววเคืองโกรธและจ้องมองอย่างไม่เกรงกลัว “หากมือของข้าต้องเปื้อนเลือด ต้องเป็นเลือดของคนชั่วเช่นเจ้าเท่านั้น! ข้ายินดีตายแต่ไม่ยอมทำร้ายท่านอ๋องเด็ดขาด!” “ดี!” ลาซูหัวเราะเหมือนคนเสียสติ ยื่นมือไปจับข้อมือข้างที่ตบหน้าเขากระชากนางให้ลุกขึ้นพร้อมกับต

DMCA.com Protection Status