Home / โรแมนติก / ท่อนแขนมังกร / Chapter 12. คิดจะยั่วยวนข้า

Share

Chapter 12. คิดจะยั่วยวนข้า

last update Last Updated: 2024-11-28 00:20:02

“หากไม่พอใจหม่อมฉัน เอ่ยปากไล่ออกไป หม่อมฉันก็ไม่ดื้อดึงที่จะอยู่ แต่ทำแบบนี้... ว้าย!” 

ว่านหนิงเหมยร้องเสียงหลงเมื่อมือใหญ่ดึงนางเข้าไปใกล้ จับท้ายทอยของนางให้แหงนหน้าขึ้น ริมฝีปากหยักประกบริมฝีปากนางอย่างรวดเร็ว ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่กลับทำให้มองเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มได้ชัด และเริ่มกลายเป็นเปลวไฟจนนางต้องหลับตา

ริมฝีปากถูกขบเม้มและไล้เลียจนหัวใจแทบหยุดเต้น สติที่เหลือเพียงน้อยนิดสั่งให้นางผลักเขาออก แต่มือเล็กคู่นั้นทำได้แค่ทุบแผงอกเปลือยเปล่าไปไม่กี่ครั้ง นางเผลออ้าปากหวังเรียกอากาศหายใจ แต่กลับเปิดทางให้เรียวลิ้นเปียกชื้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นน้อยๆ ของนาง ปากและลิ้นร้อนของเขาเปี่ยมไปด้วยอำนาจ เขาจุมพิตนางยึดครองเอาสติของไปหมดสิ้น เพียงแค่จูบ นางอ่อนระทวยอย่างน่าอับอายในอ้อมอกแข็งแกร่งของเขา

ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะหมดสติ จึงส่งลมปราณให้นางแล้วถอนจุมพิตอย่างเสียดาย มองดูนางที่ไร้เรี่ยวแรงในอกของเขา พอดวงตากระจ่างใสของนางลืมตาขึ้นกะพริบถี่ๆ ท่าทางไร้เดียงสานั้นทำให้เขาขบขันจนหัวเราะลั่นออกมา

“คิดจะยั่วยวนข้า แต่แม้กระทั่งจูบเจ้ายังไม่เป็น เช่นนี้คงจะต้องฝึกปรืออีกหน่อยนะ”

“หม่อมฉัน... ไม่ได้...”  

จะพูดว่าไม่คิดก็ไม่เต็มปาก ก่อนหน้านี้นางแอบคิด แม้เป็นเพียงความคิดในหัวน้อยๆของนาง แต่นางไม่ได้เจตนาร้ายกับเขา ที่นางวิ่งกระหืดกระหอบมาเพียงเพราะเป็นห่วงด้วยความจริงใจ เมื่อเขาเห็นความตั้งใจดีของนางเป็นเพียงเรื่องขบขัน หัวใจน้อยๆ กลับเจ็บแปลบขึ้นมา นางไม่มีสิทธิ์แสดงความเจ็บปวดใดให้เขาได้รับรู้ จึงทำได้เพียงเบือนหน้าไปทางอื่น ขยับตัวออกห่างจากรัศมีมือของเขาแล้วจึงปีนขึ้นจากอ่าง

“ขออภัยที่หม่อมฉันมารบกวนเวลาของท่านอ๋องเพคะ” 

นางยืนอยู่ด้วยท่าทีนิ่งสงบ นางสวมชุดแบบเดียวกับนางกำนัลแต่เป็นชุดนอนสีขาวมีเสื้อคลุมตัวนอกเพียงตัวเดียว ซึ่งเวลานี้เปียกแนบเนื้อกายจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งสมส่วนของหญิงสาว ผมยาวปล่อยทิ้งตัวสลวยไร้เครื่องประดับเหมือนคนเตรียมเข้านอน นางย่อตัวลงคารวะท่านอ๋อง หมุนตัวเดินออกไปอย่างช้าๆ แม้ก้าวสั้นๆแต่หนักแน่น มือเรียวสั่นระริกขณะผลักบานประตูออกไป

นางเพียงผงกศีรษะให้องครักษ์ทั้งสองที่มองมาอย่างประหลาดใจ ก่อนเข้าไปเห็นท่าทางร่าเริง ไฉนออกมาถึงเปียกเหมือนตากฝน ซ้ำยังดวงตาเศร้าหมองเช่นนั้น ว่านหนิงเหมยเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองราวกับวิญญาณที่เลื่อนลอย นางกำนัลที่รอรับใช้หน้าประตูเห็นเข้าก็ตกใจ แต่หญิงสาวฝืนยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา

“ไม่มีอะไร ข้าลื่นล้มพลัดตกน้ำ”

“แม่นางว่านรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจะไม่สบาย”

“ข้าจัดการตัวเองได้ ขอบใจพวกเจ้ามาก” นางฝืนยิ้มแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเอง

เมื่อบานประตูปิดลง หยดน้ำที่กลั้นไว้กลิ้งหล่นจากดวงตา

‘หนิงเหมยที่รัก’

‘เหมยเอ๋อร์’

            “ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร” 

            ปากพูดว่าไม่เป็นอะไรแต่ร่างนางทรุดลงไปนั่งกอดเข่าแล้วร้องไห้ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด เขาจำนางไม่ได้ เขาเห็นนางเป็นเพียงเรื่องตลกขบขัน แต่นางกลับรู้ชัดว่าตนเองนั้น ‘รัก’ ชายผู้นี้เข้าแล้วจริงๆ  ไม่ใช่ความรู้สึก ‘คิดไปเอง’

            จะเป็นไรไป นางเป็นฝ่ายไปรักชายผู้นั้นเอง นางต้องยอมรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้ อย่างน้อยนางก็ได้รู้และได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง

            เสียงร้องไห้ของว่านหนิงเหมยไม่มีผู้คนได้ยิน ทว่าเสียงสะอื้นของนางทำให้เหล่าพฤกษาพากันหมองหม่นและเศร้าไปด้วย

ใบไม้สั่นไหวบอกเล่าเรื่องราวของนางปากต่อปาก ต้นไม้ ดอกไม้ในสวนสี่ฤดูของฮองไทเฮา ต่างพากันถูกความเศร้าคลี่คลุมจนดอกไม้เหี่ยวเฉา ใบไม้กลายเป็นสีน้ำตาล

ว่านหนิงเหมยผล็อยหลับไป โดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นเลย.

ณ  ตำหนักฮองไทเฮา

          “ไม่มีหญิงงามถูกใจเจ้าสักคนเลยรึเฟยเทียน”

            ฮองไทเฮาทรงตรัสถามในขณะที่นั่งจิบน้ำชาด้วยกัน องค์ชายเฟยเทียนหรือชินอ๋องเพียงแค่กระตุกมุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ยกชากลิ่นหอมขึ้นดมกลิ่นละมุนก่อนจิบลงคอ

            “เพราะเป็นห่วงหรอกนะ ข้าน่ะแก่แล้วก็อยากเห็นเจ้าเป็นฝั่งเป็นฝาเช่นผู้อื่น” 

เพราะสนทนาเพียงลำพังจึงพูดคุยราวเป็นสามัญชน ฮองไทเฮาพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้หลานชายผู้นี้ได้พ้นเคราะห์กรรมที่แบกรับแทนผู้อื่น เฟยเทียนเป็นหลานรักที่โปรดปรานและสงสารที่สุด ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรัชทายาทตั้งแต่กำเนิด ฝึกฝนและอบรมให้เติบโตเพื่ออยู่เหนือผู้อื่น ทว่ากลับถูกหักหลังให้ไปสิ้นชีวิตในสนามรบ

            แม้ตระหนักดีว่าสิ่งที่สิงสถิตในท่อนแขนซ้ายคือปีศาจ แต่ฮองไทเฮามิได้หวาดกลัวเช่นผู้อื่น เพราะสิ่งนี้ปกป้องชีวิตของเฟยเทียน นำหลานรักของนางกลับมาสู่อ้อมอก เรื่องราวในศึกทรายย้อมโลหิตนั้นบอกเล่ากันปากต่อปากก่อนที่เฟยเทียนกลับถึงเมืองหลวงด้วยซ้ำไป ชาวบ้านออกมามุงดู มิไม่ใช่การต้อนรับ แต่เพราะอยากเห็นด้วยตาของตนเองว่าแม่ทัพที่เรียกปีศาจออกมาเป็นเช่นไร แววตาคนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมากกว่าความชื่นชม

การกลับมาขององค์ชายเฟยเทียนไม่ใช่สิ่งที่ฮ่องเต้คาดหวัง เขาไม่แสดงอาการอื่นใด ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าไม่สนับสนุนทัพหลัง ตัดกองหนุนและเสบียงอาหาร หลานรักไม่พูดถึงเรื่องนั้นเลย ราวกับไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้น เพียงเรียกร้องให้ตกรางวัลให้ทหารที่นำชัยชนะกลับมา และเตรียมแผนในการทำศึกรวมแคว้น  

            สิบปีที่ผ่านมา เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก ยกทัพกรำศึกแทบไม่เคยกลับเมืองหลวง หากไม่ใช่เพราะส่งสารเชิงบังคับให้กลับมาบ้าง คงไม่ได้เห็นหน้าที่ถอดแบบฮ่องเต้มาแทบทุกกระเบียดนิ้ว

            “ตุนหวงอยู่ไกลเหลือเกิน คนแก่อย่างข้าคงไปเยี่ยมเยือนเจ้าไม่ได้ อย่างไรเจ้าก็แต่งภรรยาสักคนหรือสองคนก็ได้ คนเป็นย่าจะได้เบาใจว่าเจ้าจะมีคนดูแล”

Related chapters

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 13. เด็กผู้หญิงคนนั้น

    องค์ชายเฟยเทียนเลิกคิ้ว ‘เล่นพูดกันแบบนี้เลยรึ?’ เห็นทีว่าหญิงงามที่คัดสรรมานั้น คงได้รับการ ‘ซื้อตัว’ มาแล้ว เพียงแค่นึกถึงสตรีที่ไม่เต็มใจมาอยู่เคียงข้าง หากให้กำเนิดบุตรไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงกับเขาแล้วจะเป็นเช่นไร เขาไม่ใช่คนรักใคร่เอ็นดูเด็ก แต่ไม่ได้รังเกียจ ตนเองกรำศึกยาวนาน จนนึกภาพยามเป็นพ่อคนไม่ออก เพียงนึกเล่นๆว่าหญิงที่ถูกบังคับให้แต่งงานและให้กำเนิดทายาทแก่เขาจะเป็นเช่นไร เขาเกิดมาเป็นลูกที่พ่อไม่รัก ความรู้สึกนี้ก็ราวกับรอยนาบของเหล็กร้อนบนหัวใจของเขาแล้ว หากนางผู้นั้นชิงชังลูกของเขาเล่า “กระหม่อมจำเป็นต้องเลือกหนึ่งในนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” เขาเอ่ยออกมาหลังจากนั่งฟังฮองไทเฮาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน “เจ้าก็เอ่ยชื่อมาสักคนเถิด” เพราะไต้ซือซู่ย้ำหนักหนาว่าต้องเป็นคนที่เฟยเทียน ‘เอ่ยชื่อ’ ออกมาด้วยตนเองเท่านั้น ถ้าไม่ติดเงื่อนไขนี้ นางคงเลือกสตรีมาเป็นพระชายาให้หลานชายเองแล้ว ชื่อ? นั่นสิ ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรกันพลันเขากลับคิดถึงหญิงสาวผู้นั้น แม้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า แต่นางไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ขนาดต้องปกปิดครึ่งหน้าเช่นนั้น นางตัวเล็กไปสักนิด

    Last Updated : 2024-11-28
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 14. ระวัง

    ถึงนางจะเป็นหญิงพรหมจรรย์ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตอนที่อยู่ในอ่างอาบน้ำเดียวกับองค์ชายเฟยเทียน นางเผลอมอง ‘สิ่งนั้น’ ของเขา ด้วยความน้อยใจและเสียใจ ทำให้ไม่ได้มองเต็มตาโอ๊ย! หนิงเหมย! อย่าให้ผู้ใดรู้เชียวว่านางเผลอมอง ‘สิ่งนั้น’ ของบุรุษที่ไม่ใช่สามีของตนไปแล้ว!!! ‘อยากรู้อะไรก็ถามพวกข้าสิ’ ‘พวกนางกำนัลลอบเล่นชู้กับทหารบ่อยไป’ “มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ” ว่านหนิงเหมยหน้าแดงจัด เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นไข้ หรือเพราะฟังดอกไม้เหล่านี้พูดเรื่อง...เรื่องลามก! ‘หนิงเหมย ก้มมองที่เบื้องหน้าของเจ้าสิ’เป็นเสียงทุ้มกังวานของต้นหลิวที่อายุเกือบร้อยปี ตั้งแต่นางมีโอกาสเข้าวังมา ต้นหลิวชราผู้นี้มีเมตตาเอ็นดูนางเสมอมา “อ๊ะ!...ลูกนกนี่” นางก้มมองที่พื้น เห็นลูกนกตัวน้อยส่งเสียงร้อง นางนั่งลงแล้วประคองลูกนกในอุ้งมือ แหงนหน้ามองต้นหลิวใหญ่ริมสระบัว “รังเจ้าอยู่ข้างบนใช่หรือไม่” ‘ลูกนกกางเขน เจ้าเอาขึ้นมาคืนรังหน่อยสิ’ “ได้สิ” ว่านหนิงเหมยเอาลูกนกซุกไว้กับอกเสื้อ นางยื่นมือไปกิ่งที่ใกล้และแข็งแรงที่สุด เหนี่ยวตัวเ

    Last Updated : 2024-11-28
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 15. สืบดูแต่อย่าทำร้ายนาง

    กิ่งไม้แหลมเล็กพุ่งเข้าใส่ปักท่อนแขนดุจลูกศรยิงจากธนู ดวงตาคมวาวจ้องมองด้วยความงุนงง ความเจ็บแปลบตอกย้ำว่านี่เป็นเรื่องจริง โลหิตสีเข้มไหลออกมา องค์ชายเฟยเทียนจึงขยับท่อนแขนพิศมองด้วยความประหลาดใจสิบปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีสิ่งใดทำร้ายท่อนแขนมังกรข้างนี้ได้เลยสักครั้งเดียว!“ท่านอ๋อง” ว่านหนิงเหมยได้สติ ทรงตัวได้ก่อนจะล้มไปก้นกระแทกพื้น พอเห็นกิ่งไม้แหลมเล็กนั่นก็รู้ทันทีว่าเป็นเพราะนาง เมื่อหกปีก่อนก็เป็นเช่นนี้ เพราะนางตกใจและหวาดกลัวผสมกับรู้สึกถูกคุกคาม ต้นไม้จึงปกป้องโดยที่นางเองไม่ได้สั่งให้ทำร้ายใคร“ท่านอ๋อง” เป็นเสียงขององครักษ์ที่เฝ้าดูอยู่ไม่ไกลนัก เพราะติดตามองค์ชายมานาน รู้ดีถึงแขนซ้ายที่เป็นดั่งเกราะเหล็กกล้าปกป้องผู้เป็นนายได้ยอดเยี่ยมเพียงใด จึงไม่ได้ออกมาปกป้องแต่แรก ไม่คิดว่ากิ่งไม้เล็กๆ ที่จู่ๆ ก็พุ่งเข้าใส่นั้น ปักท่อนแขนซ้ำยังทำให้โลหิตหลั่งอีกด้วย!“ไม่เป็นไร เล็กน้อยเท่านั้น” องค์ชายเฟยเทียนโบกมือห้าม หากเปรียบเป็นลูกศรยามออกรบก็เรียกได้ว่านี่เป็นศรเตือน ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดมากนักหรือจะเอาชีวิตเขาแต่อย่างใด“หม่อมฉัน...” นางพูดอะไรไม่ออก ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำอย่างไรด

    Last Updated : 2024-11-28
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 16. อย่าพูดเช่นนั้น

    “ข้าทำเองได้” นางยื่นมือไปรับผ้ามาเช็ดหน้า “ขอน้ำชาข้าหน่อยสิ”“ขอรับ” จ้าวต้ารีบรินน้ำชาให้นาง ครู่ต่อมาป้าฮุยเหอพาร่างอวบอ้วนเข้ามาพร้อมชามโจ๊กหอมกรุ่น“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”“แค่เป็นไข้นิดหน่อย” ว่านหนิงเหมยหัวเราะน้อยๆ จากที่รู้สึกโดดเดี่ยว ตอนนี้นางกลับรู้สึกว่ามีคนรักและเป็นห่วงนางอย่างจริงใจถึงสองคน“ไฉนฮองไทเฮาใช้งานคุณหนูของป้าจนไม่สบายเช่นนี้” ปกติคุณหนูของนางแข็งแรง ปีทั้งปีแทบไม่เคยเห็นเจ็บป่วยอะไรเลย“อย่าพูดเช่นนั้นเชียว ข้าแค่ตกน้ำก็เลยไม่สบายเอาน่ะ”นางนึกขึ้นได้ รีบยกข้อมือขึ้นถอดกำไลหยกออกจากข้อมือส่งให้ป้าฮุยเหอ“ฝากเก็บไว้ด้วย ถ้าเอาไว้กับข้ามีหวังโดนค้นห้องเอาไปแน่” นางยิ้มเหมือนเป็นเรื่องปกติ ของกำนัลที่ฮองไทเฮาพระราชทานให้ ส่วนใหญ่นางให้มารดาเก็บไว้ทั้งหมด มีบางชิ้นที่ชิ้นเล็กไม่สะดุดตา นางแอบเก็บไว้เอง“เก็บให้จ้าวต้าไว้เรียนหนังสือ รอเสร็จเรื่องยุ่งก่อน ข้าจะพาเจ้าไปสำนักศึกษา”“คุณหนู” จ้าวต้าทำตาโต ทั้งตื่นเต้นดีใจและกังวลใจไปพร้อมกัน“จะดีหรือเจ้าคะ จ้าวต้าเป็นแค่เด็กรับใช้ คุณหนูเสียสละเวลาสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ก็มากเกินไปแล้ว” ป้าฮุยเหอกลัวว่าคุณหนูขอ

    Last Updated : 2024-11-29
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 17. ยากจะอธิบาย

    จ้าวต้ามองคุณหนูด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครที่ทำอะไรให้เขาได้ถึงเพียงนี้ แม้กระทั่งกับผู้เป็นบิดามารดาแท้ๆ ของเขาก็ตาม เขาถูกทิ้งขว้าง อดมื้อกินมื้อ แม้กระทั่งตอนที่บิดาตาย เขาต้องขายตัวเองเพื่อฝังศพบิดา คุณหนูว่านหนิงเหมยสงสารเขา นอกจากช่วยเขาแล้ว ยังให้เงินแก่มารดาของเขาไปจำนวนหนึ่ง เขาไม่รู้ว่ามากน้อยเพียงใด แต่ป้าฮุยเหอบอกว่ามันมากพอที่จะทำให้มารดาไม่มาทำร้ายเขาได้อีก “คุณหนู” “มาช่วยข้าเตรียมน้ำชา”นางยิ้มแย้ม เดาได้ไม่ยากว่าเด็กน้อยผู้นี้คิดอะไรอยู่ นางรู้สึกตัวเองไม่สู้ดีนัก แต่คนอย่างนางล้มหมอนนอนเสื่อก็มิได้ นอกจากจ้าวต้ากับป้าฮุยเหอแล้ว ไม่มีใครสนใจดูแลนาง หากเป็นอะไรไป ทั้งสองต้องถูกคนอื่นรังแกเป็นแน่ นางฝืนตัวเองกินโจ๊กที่ป้าฮุยเหอทำให้แล้ว จึงรีบไปหาท่านอาจารย์ที่มาสอนคุณชายคนเล็กของตระกูลว่าน เป็นจังหวะที่อาจารย์ให้คุณชายพักผ่อนพอดี นางให้จ้าวต้าช่วยยกน้ำชาให้อาจารย์ “น้ำชาเจ้าค่ะท่านอาจารย์” “กลิ่นหอมจริง” เพียงได้กลิ่นก็รู้ว่าเป็นชาดี แล้วก็อดยิ้มในการเอาอกเอาใจของหญิงสาวผู้นี้ไม่ได้

    Last Updated : 2024-11-29
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 18. นี่มันอะไรกัน

    “ข้าเปาเยีย” ชายหนุ่มแนะนำตัว“ข้าเป็นตัวแทนคุณชายว่านนำของสิ่งนี้มาให้” นางยื่นซองที่ได้มาจากคุณชายว่านส่งให้ได้ยินเพียงแค่นั้นเปาเยียเข้าใจในทันที คนนี้คงเป็นคนที่รบกวนจิตใจคุณชายว่านมือหนักของเขาเป็นแน่ เปาเยียมองหญิงสาวร่างเล็ก ใบหน้ามีผ้าโปร่งปิดครึ่งหน้า มองผิวเผินแล้วนางอาจไม่ได้งดงามเท่ากับหญิงคณิกาที่เขาดูแลอยู่ แต่ถ้าขัดเกลาอีกนิด คงพอเรียกลูกค้าได้ “แม่นางเชิญด้านในก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าหยิบสัญญาที่กู้ยืมเงินคืนให้” หญิงสาวนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง นางลืมไปจริงๆ ถ้าไม่ฉีกสัญญาก็ต้องมาใช้หนี้ไม่จบไม่สิ้น นางยอมเดินตามเข้าไปด้านใน เปาเยียพานางเดินไปด้านหลังของโรงน้ำชาให้นางนั่งรอในห้องทำงานของเขา “แม่นาง โปรดนั่งรอสักครู่ ข้าหาสัญญาของคุณชายว่านก่อน” เปาเยียรินน้ำชาให้แล้วหมุนตัวเดินไปเหมือนค้นหาอะไรบางอย่าง ว่านหนิงเหมยยกถ้วยน้ำชาขึ้น ทำเหมือนดื่มแต่วางลงอย่างเดิม นางไม่ไว้ใจคนผู้นี้ หญิงสาวมองไปด้านนอกซึ่งเป็นสวนหย่อม มีต้นไทรขนาดใหญ่อยู่หลายต้น คาดว่าโรงน้ำชาคงสร้างทีหลัง เพราะดูอายุต้นไม้แล้วน่าจะหลายสิบปี สายลมพัดผ่านแ

    Last Updated : 2024-11-29
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 19. เสียงที่คุ้นเคย

    รากไม้เส้นหนึ่งพุ่งมาทางบุรุษผู้มาใหม่ เขาเพียงยกแขนซ้ายขึ้นป้องกัน แต่รากไม้ที่กลายเป็นแส้นั้นเกี่ยวกระหวัดรัดท่อนแขนของเขาแน่น บุรุษผู้นั้นนิ่วหน้าไปเล็กน้อย“ปล่อย! ข้ามาช่วยนาง” เขาตวาดอย่างหงุดหงิด“ท่านอ๋อง”“เป็นข้า”เสียงที่คุ้นเคยทำให้นางรู้ว่าตนเองไม่ได้ฝันไป หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นมอง นางส่ายหน้าอย่างสับสน เป็นไปได้อย่างไร เขามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร นางพึมพำเรียกชื่อบุรุษเบื้องหน้าซ้ำไปซ้ำมา ดวงตาที่เบิกกว้างเมื่อครู่ค่อยๆ ปิดลงพร้อมกับสติของนางที่หลุดลอย องค์ชายเฟยเทียนรู้สึกได้ถึงร่างที่อ่อนยวบในวงแขน นางหมดสติไป รากไม้เหล่านั้นชะงักค้างในอากาศครู่หนึ่ง มันไม่ได้ทำร้ายผู้ใดถึงแก่ชีวิต เพียงแค่ ‘ปกป้อง’ นางเท่านั้น เขามองรากไม้ที่คลายจากท่อนแขนกลับคืนสู่ดินตามเดิม ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นนอกจากรอยแผ่นดินแยก คนเหล่านั้นหวาดผวากับสิ่งที่เห็น พากันหนีเตลิดไปคนละทิศละทาง “ท่านอ๋อง” เจิ้งไฉเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่กลับมาถึงตัวแม่นางผู้นี้ช้ากว่าผู้เป็นนาย เดิมทีเขาส่งเจิ้งไฉคอยติดตามดูความเคลื่อนไหวของว่านหนิงเหมย คอยส่งข่าวรายงานเขาเป็นระยะๆ แต่

    Last Updated : 2024-11-29
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 20. นางบาดเจ็บหรือ?

    “ท่านอ๋อง...” เรียกได้แค่นั้นซิ่นเจี่ยงได้แต่ส่ายหน้าไปมา ถ้าไม่เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมา คงไม่มีทางเข้าใจท่าทางนิ่งขรึมไม่พูดจาเช่นนี้เป็นแน่ องครักษ์มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ปกติเขาติดตามผู้เป็นนายดุจเงาตามตัว กำลังสาวเท้าเดินตาม แต่พัดของซิ่นเจี่ยงแตะไหล่ห้ามไว้ก่อน“พวกเจ้ารอด้านนอก ข้าตามท่านอ๋องเอง” ซิ่นเจี่ยงลุกขึ้นแล้วเดินเร็วๆ ตามหลังองค์ชายไป เวลานี้องครักษ์สองคนนี้ใส่หน้ากากเหล็กหน้าตาดุดันน่ากลัว หากไปยืนประกบองค์ชายเฟยเทียน รัศมีอำมหิตแผ่กระจาย ประเดี๋ยวได้หามหญิงรับใช้ออกมาอีกเพียงร่างสูงก้าวเข้าไปใกล้เตียงของหญิงสาว เขาก็เห็นร่างบางทุรนทุรายแม้ดวงตาจะปิดสนิท ราวกับนางผจญในฝันร้าย เหงื่อชุ่มราวกับตากฝน หญิงรับใช้สองคนนั้น คนหนึ่งประคองนางไว้ อีกคนถือชามยาพยายามป้อนยาให้ องค์ชายยืนดูอยู่อึดใจ เห็นทั้งสองยังป้อนยาไม่สำเร็จเสียทีจึงก้าวเข้าไป หญิงรับใช้ผวาเฮือกรีบลุกออกจากเตียงลงไปนั่งกับพื้น ปล่อยให้องค์ชายเฟยเทียนประคองนางขึ้นนั่ง ใช้แผ่นอกของตนเองให้นางพิง มือใหญ่ยื่นไปรับชามยาจากหญิงรับใช้ คนในวงแขนสะบัดหน้าไปมา เมื่ออยู่ใกล้จึงเห็นหางตาของนางมีน้ำตาไหลเปื้อนแก้มซิ่นเจี่ยงต

    Last Updated : 2024-11-29

Latest chapter

  • ท่อนแขนมังกร   แนะนำ ลมหายใจมังกร

    ลมหายใจของเขามีไว้เพื่อนาง ลมหายใจของนางมีไว้เพื่อ เรื่องย่อ เรื่องราวระหว่างเทพมังกรดิน ฮวงหลง และหญิงสาวเดินดินนามซิ่นฮวา เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้หญิงสาวมองเห็น ‘เทพมังกรดิน’ เขาจำ(ใจ)ต้องปรากฏกายทุกครั้งที่นางเรียกขานนามของเขา ทำให้เทพเซียนชั้นฟ้ากลายเป็นพี่เลี้ยงของเด็กหญิงตัวน้อย จวบจนนางเติบโตเป็นหญิงสาวงามสะพรั่ง กฎสวรรค์ทำให้เขาต้องหักห้ามใจ แต่เพราะนางและเขามีชะตาที่ต้องชดใช้กรรมร่วมกัน และมีเพียง ‘ลมหายใจมังกร’ เท่านั้น ที่จะต่อลมหายใจของนางได้ เส้นทางที่เขาเลือกมิใช่สิ่งที่นางปรารถนา เพียงหนึ่งชาติภพเพื่อให้ใจได้ ‘รัก’ แม้ช่วงเวลานั้นจะแสนสั้น.... นางก็ยินดี จาก ‘ท่อนแขนมังกร’ สู่ ‘ลมหายใจมังกร’ (ท่อนแขนมังกรรุ่นลูก) ‘ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าจะอยู่ข้างกายท่าน จะไม่มีวันทอดทิ้งท่านอย่างเด็ดขาด’ “แม้ว่าข้าจะกลายเป็นคนอัปลักษณ์ เจ้าก็ยังอยู่เคียงข้างข้าหรือ?” ‘แน่นอน’ นางยืนยันด้วยแววตาใสซื่อ ‘ข้ามิได้รักท่านที่หน้าตา แต่เพราะจิตใจของท่านต่างหากที่ข้าหลงรัก’ “เจ้ารักข้า?” คำสารภาพรักของนางนั้น เขาได้ยินมานับร้อยนับพันครั้งแล้วกระมัง แต่ครั้งนี้ แม้นางไม่ไ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 126 .  พิเศษ 2.

    “เช่นนั้นเจ้าไม่ลองมีลูกสาวให้เป็นเพื่อนซิ่นฮวาอีกคนเล่า เด็กๆในตำหนักมีแต่เด็กผู้ชาย ถ้ามีลูกผู้หญิงเพิ่มขึ้นอีกคนก็คงดีไม่น้อย ตอนนี้ซิ่นสือก็สามขวบแล้ว ถ้าเจ้าจะมีลูกอีกสักคนก็...”บุรุษหนุ่มผู้กรำศึกมานับไม่ถ้วนถึงกับสะอึกไปเมื่อเห็นสายตาดุๆ ของภรรยาตัวน้อย“ข้ามิใช่แม่หมูนะ” เหตุใดมาเคี่ยวเข็ญให้นางตั้งท้องขนาดนี้นะ“โธ่! เพราะเห็นเจ้าเป็นภรรยาหนึ่งเดียวของข้าถึงได้ชวนเจ้ามีลูกอีกสักคนหรือสองคนก็ได้” เขาโอบไหล่นางพานางกลับเข้าห้องพัก ปล่อยให้จ้าวต้าอยู่กับลูกชายสองคนของเขา คงเป็นวิธีเบี่ยงเบนความสนใจจากว่านหนิงเหมยให้จ้าวต้าไปรับตัวซิ่นฮวาจากสวนกระจ่างใจจ้าวต้าโคลงศีรษะไปมาแล้วมองเด็กน้อยทั้งสอง แม้ฐานะของเขาต้อยต่ำนัก แต่เขาเสมือนพี่ใหญ่ที่ต้องดูแลเด็กๆ เหล่านี้ เขาถอนหายใจก่อนยิ้มอ่อนโยน จูงมือซิ่นหลิงและอุ้มซิ่นสือไปส่งป้าฮุยเหอก่อนแล้วค่อยไปรับเด็กหญิงแสนซุกซนผู้นั้นเด็กหญิงตัวต้นเรื่องนั่งหน้าบึ้งตึงในศาลาหกเหลี่ยมของสวนกระจ่างใจ ท่านแม่ให้นางนั่งสำนึกผิดอยู่ผู้เดียว แต่กระนั้น นางก็รู้และมั่นใจว่าองครักษ์ของท่านพ่อคอยจับตาดูนางอยู่“เรื่องนิดเดียวเอง ไยท่านแม่ต้องโกรธถึงเ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 125 . พิเศษ 1.

    ชายหนุ่มวัยสิบหกพาเรือนร่างกำยำเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มประดับใบหน้าคมเข้ม แม้อายุเพียงแค่สิบหกปีแต่เพราะฝึกฝนวรยุทธ์อย่างเข้มงวด ทำให้เขาดูสูงใหญ่กว่าชายหนุ่มวัยเดียวกัน แทบไม่เหลือเค้าโครงเด็กชายผอมกะหร่องที่ค่อยติดตามพระชายาเลยแม้แต่น้อย เพียงร่างสูงเดินเข้าไปในห้องโถง พลันประสาทรับรู้ถึงการพุ่งเข้าใส่ ทว่าเขากลับไม่ปัดป้องหรือหลบหลีก ยอมให้ร่างเล็กโถมเข้าใส่สุดแรงจนเสียหลักหงายหลังล้มลงให้เด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบนั่งทับ “พี่จ้าวต้ากลับมาแล้ว!” มือน้อยของเด็กชายขยุ้มคอเสื้ออีกฝ่าย สีหน้าตื่นเต้นดีใจทั้งที่ไม่เจอกันแค่สามเดือน “คุณชายซิ่นหลิง” ชายหนุ่มหัวเราะขบขันกับท่าทางดีอกดีใจของอีกฝ่าย เพราะรู้ว่าผู้ที่พุ่งเข้ามาเป็นใครจึงยอมให้นั่งทับบนร่างตัวเองเช่นนี้ เขาจับไหล่เด็กชายตัวน้อย ยกตัวขึ้นเพื่อให้ตัวเองลุกขึ้นยืนได้ “พี่จ้าวต้ามาแล้ว ไปช่วยซิ่นฮวาเร็วๆ เข้า” มือน้อยกระตุกมือใหญ่แล้วชี้ไปทางด้านหลังของตำหนักดุจตะวัน “หือ? คุณหนูเป็นอะไรไปขอรับ” เขาถามพลางมองไปตามทิศทางที่นิ้วป้อมๆ ชี้ไป ถ้าคุณหนูตัวน้อยอยู่ที่สวนก

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 124. ตุนหวง

    พูดได้แค่นั้นก็อยากจะอาเจียนหรือหาของเปรี้ยวมากิน คราวนี้ฮองไทเฮาอดหัวเราะไม่ได้ ในขณะที่หลานรักอย่างเขากลับรู้สึกอับอายยิ่งนัก เพราะหลบสายตาของผู้เป็นย่าจึงปะทะกับสายตาล้อเลียนขององครักษ์ฝาแฝดทั้งสอง ทำได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างไม่พอใจ ก็ใครใช้ให้เขารักนางมากขนาดนี้กันเล่า เฮ้อ!“เอาเถิดๆ อย่างไรข้าจะเป็นยายแก่หนังเหนียวรอเจ้าพาเหลนและสะใภ้กลับมาเยี่ยมอยู่ที่นี่”องค์ชายเฟยเทียนโค้งตัวอำลาฮองไทเฮา คราวนี้เขาไม่รั้งอยู่นาน ใช้วิชาตัวเบาราวล่องหนหายออกไปจากวังหลวงพร้อมองครักษ์ทั้งสองอย่างรวดเร็ว เพื่อกลับไปดูแลคนที่ทำให้เขาต้องออกอาการแพ้ท้องแทนอยู่อย่างนี้ตุนหวงรถม้ามาหยุดหน้าตำหนักดุจตะวัน หญิงวัยกลางคนโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างรถอย่างไม่มั่นใจนัก จนกระทั่งเห็นเด็กชายที่เคยเลี้ยงดูรีบวิ่งเข้ามาหา นางจึงยิ้มกว้างออกมา“จ้าวต้า”“ป้าฮุยเหอมาแล้ว” จ้าวตารีบไปประคองให้นางลงจากรถม้า ก่อนท่านอ๋องเดินทางไปเมืองหลวงได้สอบถามเขาถึงคนสนิทหญิงรับใช้ที่บ้านเดิม ท่านอ๋องต้องการให้พระชายามีคนคุ้นเคยอยู่ใกล้ๆ คอยช่วยเหลือยามตั้งครรภ์แรก เขาจึงนึกถึงป้าฮุยเหอที่ดูแลเขาและพระชายามาตั้งแต่เกิด แต่เ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 123.สิ่งเดียวที่ต้องการ   

    ดวงเนตรเบิกกว้างอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินโอรสที่ทรงหมางเมินกล่าวออกมาเช่นนี้ จ้องมองบุรุษเบื้องหน้าที่ใบหน้าละม้ายคล้ายกันนัก สิ่งที่ลูกชายพูดออกมานั้นล้วนอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ทุกครั้งที่มองใบหน้านี้จึงเหมือนมองตนเองในวันวัยเดียวกัน ยามที่เป็นเพียงองค์รัชทายาทก็ราวกับเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ใครต่อใครบงการ พยายามอย่างยิ่งให้เป็นที่ยอมรับ ได้รับความรักจากบิดาหรือก็คืออดีตฮ่องเต้องค์ก่อน แม้รู้ว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นไม่ถูกต้อง แต่ไม่อาจแก้ไขอะไรได้สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ ไม่คิดเลยว่าบุรุษเบื้องหน้าผู้ถอดแบบเขาออกมาแทบทุกกระเบียดนิ้ว จะมองออกจนทะลุปรุโปร่งเช่นนี้ “สิ่งที่กระหม่อมทำก็เพื่อแผ่นดินมังกรแห่งนี้ ศึกภายในกระหม่อมไม่ขอยุ่งเกี่ยว กระหม่อมมิสนใจว่าผู้ใดต้องการกำจัดกระหม่อม แต่ชีวิตของกระหม่อมขอเพียงได้ปกป้องราษฎรและรักษาแผ่นดินที่แลกมาด้วยหยาดโลหิตและชีวิตทหาร หากกำจัดกระหม่อมไปแล้ว เห็นทีว่าจะไม่เป็นผลดีต่อแผ่นดินนี้”“เจ้ากำลังข่มขู่ข้ากระนั้นรึ” “มิได้ กระหม่อมแค่ต้องการย้ำให้พระบิดาเข้าใจ อย่าได้สิ้นเปลืองสมองมาระแวงกระหม่อม”เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 122. สิ้นสุด 

    เทพมังกรดินดูผลงานของตน เฝ้ามองเหล่ามารปีศาจกลับคืนสู่นรกแล้ว จึงกลายร่างเป็นบุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินยวง เดินเข้าไปหาคนทั้งสอง หญิงสาวพลิกตัวใช้ร่างของตนบังร่างของชายที่นางรักไว้ แม้นางรูปร่างเล็ก แต่กางแขนออกเพื่อปกป้องเขา“หนิงเหมย” เขาปรามนาง อยากจะหัวเราะที่เวลานี้มีหญิงสาวตัวเล็กกางแขนปกป้องเขาเต็มที่ ในชีวิตของเขา จะมีใครสักกี่คนที่ยอมอยู่เคียงข้างเช่นนี้ เพียงหนึ่งชีวิตอันแสนสั้น ได้รู้จักรัก หัวใจได้รับความรักก็นับว่ามีค่าและมีเกียรติให้ตายได้อย่างสงบแล้วเป็นนางเท่านั้นที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ที่จะรัก ได้สัมผัสความรัก เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว พอแล้วจริงๆ เทพมังกรดินจ้องมองชายหนุ่มหญิงสาวทั้งสองแล้วก็ลอบถอนหายใจ นี่แหละหนา จึงเป็นได้เพียงมนุษย์ไม่อาจละทิ้งอาวรณ์ได้ เขายื่นมือไปใช้เพียงปลายนิ้วแตะน้ำตาของหญิงสาว ว่านหนิงเหมยเบิกตาโต เห็นน้ำตาของตนกลั่นกลายเป็นก้อนกลมเล็กดุจลูกแก้ววาววับลอยเหนือฝ่ามือของเทพมังกรดิน แล้วยื่นไปที่เบื้องหน้าขององค์ชายเฟยเทียน “นี่คือ...” ว่านหนิงเหมยพึมพำ “กลืนมันลงไป” เทพมังกรดินสั่งน้ำเสียงเฉียบขาด องค์ช

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 121.   ค่าตอบแทน

    “เจ้าเรียกปีศาจได้ ไยข้าจะทำบ้างมิได้” เพื่อชัยชนะ ย่อมทำได้ทุกอย่างไม่ว่าชัยชนะนั้นจะได้มาอย่างไรก็ตาม“เจ้าแลกสิ่งใดกับการเรียกปีศาจออกมา!”แม้เขามีปีศาจมังกรเพลิงอยู่ในท่อนแขนซ้าย แต่เรียกใช้เพียงการศึกครั้งเดียว เมื่อสิบปีก่อนที่เรียกกองทัพทหารปีศาจขึ้นมา กลายเป็นฝันร้ายไปชั่วชีวิต นับแต่นั้น เขาเพียงใช้แค่เกราะปีศาจมังกรเพลิงคุ้มกันกายค่าตอบแทนของทหารปีศาจเหล่านี้คือหายนะไม่สิ้นสุด ความตายที่ไม่อาจประเมินได้อยู่เบื้องหน้า ปีศาจเหล่านี้ล้วนต้องดื่มเลือดฉีกเนื้อกินวิญญาณมนุษย์ ครานั้นปีศาจที่เขาเรียกออกมากัดกินทหารฝ่ายตรงข้าม เศษซากที่เหลือกลายเป็นศพ กองเป็นภูเขาซากศพชวนให้อาเจียนและขนหัวลุก“ข้ามิโง่เช่นเจ้าที่แลกวิญญาณตนเองหรอกนะ” ลาซูแหงนหน้าหัวเราะ ดวงตากลายเป็นสีแดงราวกับย้อมด้วยโลหิต “แต่ข้าแลกด้วยชีวิตผู้คนในตุนหวง เมื่อข้านำกองทัพเข้ายึดครองแผ่นดินของเจ้า ผู้คนของเจ้าก็จะกลายเป็นอาหารอันโอชะให้พวกมันอย่างไรเล่า เมื่อเวลานั้นมาถึง ดินแดนของเจ้าจะมีเพียงผู้คนของข้าเท่านั้นที่เหยียบยืนบนแผ่นดินเปื้อนเลือดแห่งนี้”แม้ไม่ได้ยินเสียงสนทนาของคนทั้งสอง แต่บัดนี้หญิงสาวเข้าใจแล้วว่

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 120.   เสียงของสายลม

    นางหวังให้ตัวเองส่งเสียงเตือนให้ดังกว่านี้ แต่เสียงที่เปล่งออกไปเป็นเพียงเสียงแหบแห้งและสั่นเครือ นางรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือเพียงน้อยนิด อาภรณ์สีดำขลิบแดงที่นางสวมทำให้ผิวกายของนางแสบร้อน ดวงตาเบิกกว้าง นางเห็นกลุ่มคนบุกเข้าไปกำลังปะทะกับทหารมองโกล “ท่าน...อ๋อง...” เสียงของนางแผ่วเบายิ่งกว่าเสียงของสายลม น้ำตาที่ทนกลั้นกลิ้งร่วงหล่นจากดวงตาเปื้อนแก้ม ขอให้นางได้เพียงส่งเสียง ได้เพียงเตือนเขาก็ยังดี “โอ๊ย!” ว่านหนิงเหมยร้องเสียงหลง หูทั้งสองข้างราวกับมีเสียงปริแตกลั่นดังเปรี๊ยะ! มือที่ถูกมัดทำให้ไม่อาจยกขึ้นมาแตะหูของตนได้ นางเจ็บจนนิ่วหน้า รู้สึกเหมือนมีน้ำไหลออกมาจากหูทั้งสองข้างนางหลับตาพยายามสะกดกลั้นความเจ็บที่ตนได้รับ เสียงหวีดแหลมที่ทำให้หูทั้งสองข้างเจ็บปวด ทำให้นางไม่อาจได้ยินเสียงอื่นใดอีก ในชั่วลมหายใจต่อมา หญิงสาวรู้สึกว่าเชือกที่มัดนางอยู่ถูกตัดขาดอย่างรวดเร็วพร้อมร่างของนางที่ร่วงหล่น เพียงเสี้ยวเวลาอันแสนสั้นและเปราะบาง ยามนั้นนางกลับนึกถึงเมื่อครั้งที่นางตกต้นหลิวอายุเกือบร้อยปีในสวนสี่ฤดูของฮองไทเฮา หัวใจของนางหล่นวูบ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 119.   ดวงตาเป็นประกายโกรธเคือง

    “เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่” มือเรียวกำแน่น เผลอจิกเล็บกับฝ่ามือของตนเอง เมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งใจฟัง ลาซูจึงเอ่ยขึ้น “สังหารท่านอ๋องอย่างไรเล่า คงมีแต่ท่านเท่านั้นที่จะสังหารผู้ที่ครอบครองพลังปีศาจมังกรเพลิง” ลาซูพูดราวกับเป็นเรื่องธรรมดา “อ้อ! แต่อย่าได้เป็นกังวลไป หากพระชายากลายเป็นม่าย กระหม่อมยินดีรับท่านมาอยู่เคียงข้างอย่างไม่รังเกียจ” ยังไม่ทันสิ้นประโยคดี ฝ่ามือเล็กของหญิงสาวกระทบซีกแก้มของลาซูสุดแรงที่นางมี เพราะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงหญิงไร้วรยุทธ์จึงไม่หลบหลีกยินดีให้นางตบหน้าเขาเต็มแรง ว่านหนิงเหมยลดมือที่ยกค้างอยู่ลง แสร้งทำเป็นประคองสองมือไว้บนตัก ทว่ามือข้างขวานั้นชาและสั่นระริก หญิงสาวกัดริมฝีปากตนเองไม่ให้แสดงความตื่นตระหนกออกมา ดวงตาเป็นประกายฉายแววเคืองโกรธและจ้องมองอย่างไม่เกรงกลัว “หากมือของข้าต้องเปื้อนเลือด ต้องเป็นเลือดของคนชั่วเช่นเจ้าเท่านั้น! ข้ายินดีตายแต่ไม่ยอมทำร้ายท่านอ๋องเด็ดขาด!” “ดี!” ลาซูหัวเราะเหมือนคนเสียสติ ยื่นมือไปจับข้อมือข้างที่ตบหน้าเขากระชากนางให้ลุกขึ้นพร้อมกับต

DMCA.com Protection Status