공유

บทที่ 401

작가: พิณเคล้าสายฝน
ฮุ่ยอี๋มองแล้วรู้สึกขนหัวลุก: "รีบโยนมันทิ้งเร็ว!"

"อ้อ~"

หลินซวงเอ๋อร์เอาแมงมุมโยนลงบนพื้น

ทันทีที่แมงมุมตกลงบนพื้น มันก็คลานไปทางฮุ่ยอี๋อีกครั้ง

หลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเจ้าตัวเล็กเหล่านี้ถึงได้ชอบฮุ่ยอี๋มากขนาดนี้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องสุดปอดของฮุ่ยอี๋

“ มันมันมัน...มันมาอีกแล้ว... ซวงเอ๋อร์ เจ้ารีบห้ามมันเร็วเข้า เร็วเข้า เร็วเข้า!! ”

“แคร็ก!” หลินซวงเอ๋อร์ได้ยินแล้วรู้สึกรำคาญ จึงเหยียบแมงมุมจนแหลกหลาญ

“มันตายแล้ว” หลินซวงเอ๋อร์กะพริบตาแล้วมองฮุ่ยอี๋ ด้วยท่าทางที่เป็นมิตร

ตอนนี้ฮุ่ยอี๋รู้สึกว่า ภายนอกกับภายในของหลินซวงเอ๋อร์ไม่เหมือนกัน

นางไม่เข้าใจว่า คนที่มีรูปลักษณ์ที่อ่อนช้อยแบบนี้ จะมีด้านที่ดุร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร...

แต่ว่า หลังจากเผชิญกับเรื่องเมื่อสักครู่นี้แล้ว ฮุ่ยอี๋ก็ไม่กล้านั่งบนพื้นมั่วซั่วอีก เพราะกลัวว่าจะมีงู แมลง หนู และมดอะไรโผล่ขึ้นมาอีก

พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า

ในป่าเต็มไปด้วยความเงียบงัน คนที่ไปล่าสัตว์ก็คงจะกลับมาที่ค่ายแล้ว

หลินซวงเอ๋อร์ลูบท้อง ในท้องว่างเปล่า และรู้สึกหิวมาตั้งนานแล้ว

นางลุกขึ้น มองไปบริเวณรอบๆ ทันใดนั้นก็เดิ
잠긴 챕터
GoodNovel에서 계속 읽으려면
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 402

    ฮุ่ยอี๋ดูเหมือนจะคิดไม่ถึงว่าหลินซวงเอ๋อร์จะแอบซ่อนมันเทศป่าสองสามลูกเอาไว้ให้นาง ดูไปแล้วลูกใหญ่กว่าสองสามลูกที่นางเพิ่งจะกินเข้าไปอีกหลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "องค์หญิงไม่อยากชิมมันจริงๆหรือ? มันอร่อยจริงๆะ"ฮุ่ยอี๋พูดด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง กล่าวด้วยสีหน้าที่เย่อหยิ่งว่า: " ในเมื่อเจ้าพูดขนาดนี้แล้ว งั้นข้าก็จะฝืนใจชิมมันดูหน่อยก็ได้ "ฮุ่ยอี๋พยายามพูดเพื่อไม่ให้ตนเองเสียหน้าหลินซวงเอ๋อร์ใช้ชายผ้าเช็ดเศษหญ้าบนพื้นผิวของมันเทศป่าจนสะอาด ตอนที่มอบให้ฮุ่ยอี๋ หลินซวงเอ๋อร์ได้กล่าว่า " ตอนนี้มันเทศป่าเหล่านี้สุกแล้ว อันที่จริงสามารถกินเปลือกของมันได้ ถ้าองค์หญิงรังเกียจว่ามันสกปรก สามารถปอกเปลือกมันออกได้ "ฮุ่ยอี๋ปอกเปลือกออก แล้วค่อยๆใส่มันเทศป่าเข้าไปในปาก เคี้ยวมันอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็มีกลิ่นหอมหวานแพร่กระจายไปที่ปลายลิ้นนางไม่รู้ว่าจะอธิบายรสชาติที่หอมหวานนี้อย่างไร พูดสั้นๆก็คือเป็นสิ่งที่นางไม่เคยลิ้มรสมาก่อนเลยหลังจากที่นางกลืนมันลงไป หลินซวงเอ๋อร์ก็เช็ดอีกลูกให้สะอาดแล้วมอบให้นางอีกคราวนี้ ฮุ่ยอี๋ไม่ได้ปอกเปลือก ใส่มันเทศป่าเข้าไปในปากทันที“อร่อยไหม?” หลินซวงเอ๋อร์ถ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 403

    “ ซวงเอ๋อร์ เจ้าแก้มัดมัน แล้วปล่อยให้มันนำทาง พวกเราจะได้ตามมันออกไป”“เพคะ” หลินซวงเอ๋อร์รับปลดสายบังเหียนที่ผูกไว้กับต้นไม้อย่างรวดเร็ว…...เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนก็ยุติการล่า และพากันกลับค่ายเยี่ยเป่ยเฉิงล่าสุนัขจิ้งจอกขาวได้สองตัว และคิดว่าจะทำเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกให้กับหลินซวงเอ๋อร์เมื่อคิดว่าวันนี้นางอารมณ์ไม่ดี ก็แสดงว่ารู้สึกหดหู่อยู่ในใจ เยี่ยเป่ยเฉิงจึงคิดที่จะใช้สุนัขจิ้งจอกสองตัวนี้เอาใจนางหลินซวงเอ๋อร์เป็นคนที่มีความคิดไร้เดียงสา ไม่ผูกพยาบาท ถ้าเขาง้อนางดีๆ นางจะต้องลืมเรื่องที่ไม่เบิกบานใจเหล่านั้นได้อย่างแน่นอนใครจะไปรู้ว่า เมื่อกลับมาถึงค่าย เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พบร่างที่สดใสร่างนั้นวิ่งมาหาเขาเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป จากที่เขารู้จักหลินซวงเอ๋อร์ ถ้าได้ยินว่ามีการเคลื่อนไหว สาวน้อยคนนั้นจะต้องกระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของเขาอย่างอดรนทนไม่ไหวแล้วขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ เขาก็เห็นนางกำนัลคนหนึ่งคุกเข่าต่อหน้าองค์จักรพรรดิด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก“ องค์หญิงฮุ่ยอี๋ล่ะ? เหตุใดข้าถึงไม่เห็นนาง?” องค์จักรพรรดิถือจิ้งจอกแดงตัวหนึ่งเอาไว้ในมือ กำล

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 404

    เมื่อเห็นดังนี้ หัวใจของหลายๆคนก็ตึงเครียดขึ้นมาทันทีพื้นที่ล่าสัตว์ของราชวงศ์นั้นอันตรายมาก มีสัตว์ดุร้ายหลายชนิดในนั้น แม้แต่เสือดาวที่ดุร้ายแบบเมื่อสักครู่นี้ นักล่าธรรมดาก็ใช่ว่าจะสามารถปราบมันได้ ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงที่ไม่มีอาวุธเลย...“มีคนจงใจดัดแปลงแถบผ้าสีแดง เสาไม้ที่แบ่งพื้นที่ล่าสัตว์ก็มีรูขนาดใหญ่เช่นกัน มีคนจงใจชักนำพวกนางเข้าไปในพื้นที่ล่าสัตว์” ไป๋อวี้ถังกล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมในเวลานี้ เยี่ยเป่ยเฉิงสังเกตเห็นว่าฉีหมิงผิดปกติไป เขาจ้องมองไปที่เสือดาวที่ตายแล้วบนพื้นด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม แววตาแห่งความโศกเศร้านั้น ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่ในใจเล็กน้อย“ เสือดาวตัวนี้กินอะไร? ท้องถึงได้ใหญ่มากขนาดนี้? ” ไป๋อวี้ถังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นั่งยองๆแล้วพินิจมองเสือดาวอย่างละเอียดเมื่อสักครู่นี้สังเกตเห็นความผิดปกติของเสือดาวตัวนี้เสือดาวธรรมดามีความคล่องแคล่วว่องไวมาก แต่ตัวนี้ช้ากว่าปกติมากสายตาของเขาจับจ้องไปที่ท้องที่นูนสูงของมัน ไป๋อวี้ถังก็ตระหนักได้ในทันทีที่แท้ก็กินมากจนเกินไป ทำให้มันเคลื่อนไหวช้าขึ้นฉีหมิงดึงผ้าออกจากปากของเส

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 405

    ไป๋อวี้ถังสูดลมหายใจยาวๆ และแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง: "มันเป็นแค่กวางตัวหนึ่งก็เท่านั้น แม่นางหลินกับองค์หญิงจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน"ทันทีที่พูดจบ ทันใดนั้นทุกคนก็ได้ยินเสียงกระดิ่งที่ไพเราะกังวานดังมาจากในป่าเยี่ยเป่ยเฉิงลุกขึ้นยืนทันที เขาหันหลังกลับ และวิ่งไปในทิศทางของเสียงอย่างรวดเร็วเขาร้อนใจมาก จึงพุ่งไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ม้าก็ไม่ขี่ฉีหมิงและไป๋อวี้ถังติดตามหลังเยี่ยเป่ยเฉิงไปอย่างใกล้ชิด…...ลูกม้านำทางอยู่ข้างหน้า หลินซวงเอ๋อร์และฮุ่ยอี๋เดินตามหลังม้าอย่างใกล้ชิดเมื่อเดินไปข้างหน้า ต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าก็เบาบางลง จนกระทั่งมองเห็นกองไฟลุกโชนอยู่ในค่าย ทั้งสองจึงแน่ใจว่า พวกนางเดินออกมาแล้วจริงๆ“ ซวงเอ๋อร์ เจ้าดูสิ มีไฟอยู่ตรงหน้า พวกเราเดินออกมาแล้วจริงๆ” ฮุ่ยอี๋เผยสีหน้าที่ดีใจออกมา เมื่อสักครู่นี้นางหวาดกลัวใมากเท่าไหร่ ตอนนี้นางก็ดีใจมากเท่านั้นภาพลักษณ์อันสสูงส่งง่างามในอดีตไม่มีอีกต่อไปแล้ว ปิ่นปักผมอันประณีตของฮุ่ยอี๋ ถูกกิ่งไม้เกี่ยวพันจนยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ปิ่นปักผมบนศีรษะก็สอดเข้าไปในมวยผมแบบเอนเอียง ดูไปแล้วสะบักสะบอมมากหลินซวงเอ๋อร์ชี้ไปที่ศีรษะของฮุ่ยอี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 406

    เขากอดนางแน่นจนเกินไป หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกว่าตนเองจะหายใจไม่ออกเมื่อแก้มของนางแนบชิดบนหน้าอกที่ร้อนผ่าวของเขา หลินซวงเอ๋อร์ก็สัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงของเขา เต้นตึกตัก ราวกับว่าตีกลองสงครามในสนามรบลมหายใจอันหนักหน่วงกระทบบนคอของนาง ทำให้นางวิตกกังวลอย่างไม่มีสาเหตุ“สวามี ท่านเป็นอะไรไปหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมแขนของเขา จ้องมองเขาด้วยนัยน์ตาที่ชัดเจนสดใสเยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "ไม่มีอะไร เมื่อสักครู่นี้แค่ตกใจก็เท่านั้นเอง"ดูท่าทางของเขาแล้วเห็นได้ชัดว่าตกใจมาก หลินซวงเอ๋อร์ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา และถามอย่างสงสัยว่า: " สวามีตกใจกลัวอะไรหรือ? เหตุใดถึงมีสีหน้าที่ซีดเซียวขนาดนี้? "เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: " ซวงเอ๋อร์อย่าเพิ่งถามเลย ให้สวามีกอดเจ้าหน่อย"ในเวลานี้ ฉีหมิงกับไป๋อวี้ถังก็ทยอยตามมาถึงทีละคนเมื่อเห็นว่าหลินซวงเอ๋อร์ปลอดภัย ทั้งสองคนก็โล่งใจเป็นอย่างยิ่ง“คนไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” ไป๋อวี้ถังปกปิดอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในดวงตา แสร้งทำเป็นผ่อนคลายจากนั้นเยี่ยเป่ยเฉิงก็ปล่อยนาง แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หลินซวงเอ๋อร์เมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของพว

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 407

    ตอนแรกหลินซวงเอ๋อร์ปฏิเสธที่จะสวมใส่มัน แต่ฮุ่ยอี๋พูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า: "ทำไม? เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้รังเกียจเสื้อผ้าของข้า?"หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "ข้าจะไปกล้ารังเกียจได้อย่างไร แต่ท่านเป็นองค์หญิง ข้าจะใส่เสื้อผ้าของท่านได้อย่างไร?"ฮุ่ยอี๋กล่าวว่า: " หลินซวงเอ๋อร์! ข้าสั่งให้เจ้าใส่มัน หากมีใครกล้าว่าร้ายเจ้า เข้าจะดึงลิ้นของนางออกมาแทนเจ้าเอง!"หลินซวงเอ๋อร์ไม่อาจปฏิเสธน้ำใจของนางได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด ก็คือการสวมเสื้อผ้าของฮุ่ยอี๋ คิดไม่ถึงว่าจะสวมใส่ได้พอดีเมื่อเห็นว่าศีรษะของนางไม่มีสวมใส่อะไรเลย ฮุ่ยอี๋ก็หยิบกล่องแต่งหน้าของตนเองออกมา วางแหวน ปิ่นปักผม และเครื่องประดับอันแวววาวไว้ที่ข้างหน้าหลินซวงเอ๋อร์ แล้วกล่าวว่า "ดูเจ้าสิ เหตุใดท่านลุงถึงไม่ซื้อเครื่องประดับดีๆให้เจ้าเลยนะ? เครื่องประดับที่อยู่ที่นี่ของข้า ล้วนทำมาจากช่างฝีมือในพระราชวัง ถ้าเจ้าชอบอันไหน ก็หยิบไปได้เลย ข้าให้เจ้า "หลินซวงเอ๋อร์อธิบายว่า: "สวามีของข้าซื้อให้ข้าหมดแล้ว แค่วันนี้ไม่ได้ใส่ก็เท่านั้นเอง"ฮุ่ยอี๋กล่าวว่า: "ซื้อแล้วเหตุใดถึงไม่ใส่? ตัดใจไม่ได้? ดูท่าทางที่ไม่เอาไหนของเจ้าสิ! หร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 408

    หลินซวงเอ๋อร์นั่งลงข้างเยี่ยเป่ยเฉิงปิ่นปักผมบนศีรษะก็ส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งเยี่ยเป่ยเฉิงเห็นว่าม่านลูกปัดบนหน้าผากของนางเกือบจะบดบังดวงตา จึงยกมือขึ้นแล้วเหน็บม่านลูกปัดไว้ที่ด้านหลังหูของนางทันใดนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็มองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น“สวามี สวยไหม?” หลินซวงเอ๋อร์ชี้ไปที่ศีรษะที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับของตน อยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออกเล็กน้อยเยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "สวยมาก ถ้าซวงเอ๋อร์ชอบมันมากขนาดนี้ เหตุใดถึงไม่ใส่ที่สวามีรมอบให้ล่ะ?"หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: " นี่คือของที่องค์หญิงมอบให้ "เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: " ในเมื่อเป็นน้ำใจของนาง ซวงเอ๋อร์ก็รับไว้เถิด แต่ว่าต่อไปนี้ จะต้องใส่แต่ของที่สวามีมอบให้เท่านั้น รู้หรือไม่? "“ได้เลย” หลินซวงเอ๋อร์ยิ้มตาหยี ลักยิ้มลูกแพร์ทั้งสองจุดบนแก้มทั้งน่ารักทั้งงดงามสายตาของฉีหมิงจับจ้องมาที่หลินซวงเอ๋อร์อยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นทั้งสองมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ก็รู้สึกหดหู่อยู่ในใจเป็นอย่างมาก จึงเงยหน้าขึ้นแล้วดื่มเหล้าไปหนึ่งถ้วยใหญ่ๆพอเหล้าอันเข้มข้นเข้าไปในลำคอ รู้สึกแสบร้อนที่หน้าอก แต่เขากลับเพิกเฉย ยกมือขึ้นรินเหล้าเข้

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 409

    หลินซวงเอ๋อร์ก้มหน้าลงมอง ก็ไม่รู้ว่าในชามเต็มไปด้วยเนื้อปรุงสุกตั้งแต่เมื่อไหร่เยี่ยเป่ยเฉิงยังคีบผักลงไปในชามของนาง: "กินก่อน"หลินซวงเอ๋อร์หิวมานานแล้ว เมื่อมองดูเนื้อที่หอมน่ากินอยู่ในชาม ดวงตาก็ไม่มองไปรอบๆอีก ตอนนี้นางหยิบตะเกียบขึ้นมาก้มศีรษะลงแล้วมุ่งความสนใจไปที่การกินเยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: " กินช้าๆ ไม่มีใครแย่งเจ้าหรอก "ฮุ่ยอี๋ก็หิวเช่นกัน เพียงแต่นั่งข้างฉีหมิง ถึงอย่างไรก็ต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์เล็กน้อย เทียบกับตอนที่อยู่ในป่า ที่กินมันเทศป่ากับหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้เลยหลังจากกินเนื้อกวางไปสองสามชิ้นแล้ว ก็มีคนยกเนื้อย่างเสียบไม้มาหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกหลงใหลในกลิ่นหอมที่เผ็ดฉุนนั้นทันทีนางเลียริมฝีปาก หยิบเนื้อย่างขึ้นมาหนึ่งไม้ แล้วอ้าปากกัดทันทีกลิ่นหอมไหม้ของยี่หร่ากระจายไปในอากาศ เนื้อย่างเสียบไม้ที่ย่างบนถ่านไฟดังฟี๊ดๆ เนื้อย่างกรอบนอกนุ่มใน หลินซวงเอ๋อร์เคี้ยวมันอยู่ในปาก ไม่ต้องพูดถึงว่าพึงพอใจมากแค่ไหนแม้ว่ารูปแบบการกินของหลินซวงเอ๋อร์จะดูสบายๆ แต่ก็ไม่ได้หยาบคายเลย ในทางกลับกันดูเหมือนว่าจะกระตุ้นความอยากอาหารของผู้คนได้ เนื้อย่างเสียบไม้ธรรมดาดูเหมือนจะ

최신 챕터

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status