ดังนั้น หลายครั้งพวกนางต้องพบความผิดหวัง บุรุษผู้นี้มีความซับซ้อนและน่าเกรงขาม สาวใช้ที่ใจกล้าหลายคนจึงถูกลงโทษอย่างรุนแรง มีบางคนหายตัวไปอย่างลึกลับ!“โอ้ คะ คุณ ชะ ชาย!” เสียงนางสั่นพร่า น้ำหวานก็ฉ่ำเยิ้มพรมกลีบงาม“ซือซือ แค่ร่วมรักกับข้า เจ้าคงไม่ถึงตายหรอก”“มิใช่ ข้ากลัวจะหยุดรักคุณชายไม่ได้ต่างหาก”“หึๆๆ ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าเป็นสตรีปัญญาทึบจริงๆ”เมื่อเขาเอ่ยจบจึงจับนางเปลี่ยนท่า อึดใจต่อมาร่างนางจึงลอยเหนือพื้น สองขาพาดบนไหล่กว้าง กลีบบุปผางามถูกแทรกด้วยความใหญ่โตที่อุ่นร้อนราวกับแท่งเหล็กนาบไฟ!ดวงตากลมโตมองคนหล่อเหลาสง่างามของนาง มองอย่างหลงใหลไม่เปลี่ยน“แล้วสตรีเช่นข้านี้ นอกจากรับใช้คุณชาย ข้าสามารถตั้งครรภ์ให้บุตรมังกรได้หรือไม่”ม่านซือซือกำลังเพ้อฝันด้วยแรงรักแรงพิศวาส อีกทั้งมีอาการไข้ รุมเร้าจึงหลุดปากในเรื่องที่ไม่สมควรออกไปริมฝีปากบางยกยิ้ม ดวงตาเขามีประกายวาบขึ้น กิริยาเขายากเหลือเกินที่นางจะคาดเดาความนัยแขนกำยำของเขาขยับไหวไปมา ยิ่งออกแรงมาก ม่านซือซือก็เหมือนตกเป็นทาสบำเรอความสุขแก่ชายหนุ่ม“เหตุใดจึงอยากทำหน้าที่นั้น ไม่กลัวอันตรายหรืออย่างไร เป็นผู้หญิงของข้า
ความลับของสาวใช้มะ ไม่นะ พี่สาว!” ม่านซือซือนั่งนิ่งๆ นางไม่ได้กล่าวอะไร กระทั่งฝูเอ๋อร์เอามือป้อมๆ ออกจากริมฝีปากนาง“เรียกชื่อนายท่านเช่นนั้นไม่ได้ หากใครได้ยิน พี่สาวต้องนั่งคุกเข่าที่เรือนบรรพชนหลายวัน และต้องอดข้าว อดน้ำ ข้างในนั้นมีแต่กลิ่นธูปน่าเวียนหัวจะตาย เคยมีคนสลบแล้วถูกอุ้มหายตัวไปด้วยนะ!”“ร้ายแรงเพียงนั้น”แม่นางน้อยพยักหน้าเร็วไว สีหน้าที่แย้มยิ้มเมื่อครู่ซีดสลดลงไปถึงสามส่วน“มีสิ่งใดทำให้เจ้ากลัว”ฝูเอ๋อร์ก้มหน้างุด อาการเช่นนี้หากม่านซือซือเดาไม่ผิดย่อมมีผลมาจากจ้าวเล่อซี ทว่าหญิงสาวยังคาดคะเนสิ่งใดไม่ได้ กระทั่งได้ยินเสียงท้องเด็กหญิงร้องเบาๆ นางจึงหัวเราะพรืดใหญ่“เจ้าหิวรึ”เมื่อทำเรื่องขายหน้า ฝูเอ๋อร์จึงรีบเอามือกุมท้องอวบๆ ของตนไว้“เปล่าเสียหน่อย ข้ากินอิ่มแล้ว” ฝูเอ๋อร์ปฏิเสธ ซึ่งมันไม่แนบเนียนเอาเสียเลย“จะว่าไปแล้ว ของกินเล่นพวกนี้คงไม่ถูกปากข้าสักเท่าไหร่ และคงน่าเสียดายหากต้องทิ้งไว้”ฝูเอ๋อร์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง รีบกล่าวว่า“หือ พี่สาวทำไมพูดเช่นนี้ ของดีๆ ล้วนมีไว้ต้อนรับแขก ตั้งแต่เกิดมาข้าไม่เคยกินด้วยซ้ำ ได้แต่สูดเอากลิ่นหอมๆ และก็กลืนน้ำลายลงคอ”ม
มนุษย์โอสถ จ้าวเล่อซีได้รับรายงานหลายฉบับ ส่วนมากไขความกระจ่างให้เขาเกี่ยวกับสิ่งที่ค้างคาใจมาหลายสิบปี ยามนี้เขาจำต้องเลือกข้างเพื่อให้ตนได้มีความมั่นคงกว่าเดิม ซึ่งการตัดสินใจเช่นนี้อาจทำให้เกิดการนองเลือดในภายภาคหน้า‘ข้าสมควรต้องเป็นหุ่นเชิดของพวกเขาต่อไปหรือไม่’ “คุณชาย ยามนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป อีกทั้งจักรพรรดิเทียนฉางกำลังเดินหมากของเขา แน่นอนว่ามันเอื้อประโยชน์ให้เราอย่างมหาศาล”‘เจ้าเชื่อน้ำคำเขารึ...’“มิได้ ข้ายังเชื่อคมดาบและสิ่งที่เห็นด้วยสองตามากกว่าคำโป้ปดของคน”‘ตั้งแต่เด็ก หลังจากท่านแม่จากไป ข้าก็มีแม่นมหลานและเจ้าที่ไว้ใจได้’จ้าวเล่อซีกล่าวจบจึงถอนหายใจเบาๆ ชะตาชีวิตเขาขีดไว้เช่นนี้ ให้เป็นองค์ชายใบ้และตกเป็นเครื่องมือของแม่ทัพถานปิง เพื่อใช้ต่อรองอำนาจจากจักรพรรดิเทียนฉาง“ตอนนี้กำลังของเราพร้อมแล้ว คนในวังก็ทำงานรอบคอบ รอเพียงคุณชายพร้อมที่จะเดินทางกลับเมืองหลวง”‘ดังนั้นจงคัดเลือกคนที่ไว้ใจได้พาไปกับเราเพื่อใช้งาน พวกที่ไม่ใช้งานจงปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ถ้าใครทรยศก็ทำให้มันต้องหลาบจำเสีย’อาเฟยน้อมรับคำสั่งของจ้าวเล่อซี แต่เขายังมีสิ่งหนึ่งที่ต้องถามบุรุษรูปงามเพื
กระทั่งเห็นร่างอวบเจ้าเนื้อโผล่ออกมาจากประตู ม่านซือซือจึงเอ่ยเรียกอีกฝ่าย“เสี่ยวฝู!”เด็กหญิงยกนิ้วชี้ขึ้นทาบริมฝีปากเล็กๆ ส่งสัญญาณให้ม่านซือซือเงียบ“เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร”“ข้าคิดถึงคำที่พี่สาวพูดตลอดวันเลย”“เจ้าหมายถึงสิ่งใด”“พี่สาวอยากเป็นแม่ของข้าใช่หรือไม่”“เป็นเช่นนั้น เจ้าเป็นคนน่ารักท่าทางฉลาดเฉลียว” ฝูเอ๋อร์ยิ้มดีใจเมื่อได้ยินม่านซือซือชมตน“ท่านกอดและเล่านิทานให้ข้าฟังก่อนนอนได้ไหม”“ย่อมได้ เรื่องเช่นนี้ข้าทำอยู่ประจำ มีเด็กข้างบ้านที่มักงอแงข้าจะทำขนมให้เขากินแล้วกล่อมนอน”“เยี่ยงนั้น ข้าอยากให้พี่สาวทำเช่นนั้นกับข้าบ้าง พรุ่งนี้เป็นวันเกิดข้า”“โอ้ ดีจริง แต่เจ้ารู้วันเกิดตัวเองด้วยหรือ เจ้าเคยบอกว่าไม่มีแม่”เด็กหญิงก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองก่อนเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม “ป้าหวังเป็นคนบอกข้าเอง”ม่านซือซือไม่ได้ซักต่อ นางคิดว่าสำหรับเด็กเล็กๆ การฉลองวันเกิดคงสำคัญยิ่งนัก“ตอนนี้ป้าหวังคงไม่ได้กลับเรือนง่ายๆ พี่หลินท้องโตมาก ข้าได้ยินว่านางต้องคลอดลูกยากแน่ๆ อีกทั้งก่อนหน้านี้นางถูกคนวางยาด้วย”ม่านซือซือพยายามจับต้นชนปลายสิ่งต่างๆ ที่ฝูเอ๋อร์เล่า ทว่าเด็กหญิง
ข้าน่ะหรืออุ้มท้องให้บุตรมังกรด้วยม่านซือซือไม่ทันระวังตัว จึงถูกมือเย็นๆ ที่ผอมแห้งจับหมับที่ข้อมือบางจากด้านหลังหญิงสาวตัวแข็งทื่อ หัวใจหล่นอยู่ตรงปลายเท้า พอหมุนตัวหันไปมองร่างที่โผล่มาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง ม่านซือซือก็ร้องขึ้นว่า“ซู่ซิน!”อีกฝ่ายยิ้มให้ม่านซือซือราวกับดีใจเมื่อได้พบคนรู้จัก และยามนี้ไม่ได้มีแต่ซู่ซิน ผู้ที่ก้าวมาอุ้มร่างของฝูเอ๋อร์ก็คือหญิงรับใช้หูหนวก!“ปล่อยเสี่ยวฝู...”“เจ้าไม่เข้าใจ ออกมากลางค่ำกลางคืนเดี๋ยวก็ไม่สบาย เจ้าอยู่คฤหาสน์สัตตบงกช เหตุใดถึงไม่เข้าใจกฎยามวิกาล”“ขะ ข้า...” ม่านซือซือจับต้นชนปลายสิ่งใดไม่ได้เมื่อพยายามสลัดมือออกจากการจับกุมของซู่ซิน นางก็รู้สึกปวดหนึบๆ ที่ขมับทันที ยามนั้นกลิ่นฉุนจัดลอยเข้าจมูก มันมาจากถุงผ้าที่ซู่ซินเตรียมโปะเข้าหน้าของม่านซือซือ“เจ้าควรรออยู่ในเรือนเพื่อรับใช้นายท่าน”คำพูดซู่ซินทำให้ม่านซือซือเย็นเยียบไปถึงขั้วหัวใจ“ปล่อยข้า ที่นี่มีแต่คนบ้า”ซู่ซินส่ายหน้า และเอ่ยเสียงเข้มสักหน่อย“เจ้าโดนเด็กน้อยหลอกแล้วซือซือ กลับเรือนเสียดีๆ อย่าให้พวกข้าต้องเดือดร้อน”ม่านซือซือใช้กำลังอยู่ได้อีกไม่ถึงหนึ่งอึดใจ แข้งขาน
ฝูเอ๋อร์มองจ้าวเล่อซีสลับกับม่านซือซือ ซึ่งแม่นางน้อยก็อมยิ้มอย่างมีเลศนัย“ขบขันสิ่งใดหรือเสี่ยวฝู” หวังกวงดุเด็กหญิง“ไม่เสียหน่อย ข้าแค่ประหลาดใจที่นายท่านเรียกหา”“แล้วเมื่อก่อนชายผู้นี้ดีต่อเจ้าหรือไม่” ม่านซือซือถาม‘ตอบให้มันดีๆ นะเสี่ยวฝู’ ใครบางคนกำลังแสดงท่าทางข่มขู่เด็ก“คุณชายทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ตอนนี้เสี่ยวฝูอยู่ในความดูแลของข้าแล้ว” ม่านซือซือกางปีกป้องฝูเอ๋อร์เต็มที่‘ข้าให้นางมารับใช้เจ้า ไม่ได้ให้เจ้าคอยโอ๋หรือดูแลนางเสียหน่อย’ม่านซือซือขยับปากจะต่อล้อต่อเถียงเขา แต่สุดท้ายนางก็เลือกสงบปากสงบคำลง ด้วยฝูเอ๋อร์ดึงชายเสื้อนางไว้ แล้วเอ่ยว่า“นายท่านดีต่อข้ามาก พี่สาว...เอ๊ย...ท่านแม่ และท่านแม่ไม่ต้องห่วงสิ่งใด”เมื่อได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วเรียกตน ม่านซือซือก็ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก“ข้าเป็นแม่เจ้ารึ...”“ใช่ ท่านย่อมเป็นท่านแม่ของฝูเอ๋อร์!”แม่นางน้อยว่า แล้วจึงโผเข้ากอดม่านซือซือเพื่อขอความรักและความเมตตาจากอีกฝ่ายจ้าวเล่อซีมองภาพตรงหน้า จะว่าไปเขาทั้งขำทั้งยินดี ในที่สุดฝูเอ๋อร์ก็พบคนที่นางอยากให้เป็นแม่บุญธรรมของตนเสียที ‘แล้วข้าเล่า นางมารน้อยอยากให้เป็นอะไร’ คนตั
ม่านซือซือร้อนวูบวาบที่ท้องน้อย มีเหงื่อซึมกลางหน้า ผากแต่เหนืออื่นใดคือในร่มผ้าของนางมันซาบซ่านจนต้องหนีบขาเบียดชิดกันจ้าวเล่อซีเห็นแล้วทั้งสงสารทั้งนึกขำ วันนี้เขาอยากให้นาง ผ่อนคลายกับธรรมชาติโดยแท้ หากสุดท้ายกลายเป็นว่านางคงต้องเหนื่อยหนักท่ามกลางป่าเขาชายหนุ่มอุ้มร่างหญิงสาวขึ้นแล้วพาเข้าไปในป่า“คุณชาย...”เสียงเรียกเขาเย้ายวน ร่างกายนางก็เหมือนต้องการขจัดไอร้อนให้สลายลงเมื่อจ้าวเล่อซีพานางไปถึงต้นไม้ที่หมายตาไว้ เขาก็ให้นางยืนกอดต้นไม้สูง ม่านซือซือแปลกใจแต่ก็ยอมกระทำตามที่เขาบอกจากนั้นข้อมือนางทั้งสองข้างก็ถูกสายรัดเอวมัดแน่น นางจึงยืนหันหน้าเข้าต้นไม้อยู่ในลักษณะกอดมันหลวมๆ“ท่านจะทำสิ่งใด?”‘ข้าจะช่วยให้ฮูหยินหายร้อน เจ้าจะได้ไม่ต้องออกแรงมากนัก’เขาว่าจบจึงใช้จมูกโด่งซุกไซ้ต้นคอนางพร้อมไล่พรมจูบทั่วทั้งติ่งหูหลังหู เมื่อถูกกระตุ้นอย่างเร่งเร้านางเลยอ่อนระทวย ส่วนมือใหญ่นั้นนวดเฟ้นสะโพกผาย สลับการเปลื้องเสื้อผ้านางทีละชิ้น“อี้... คุณชาย อย่าทำเช่นนั้น” นางบอกเขาและร้องเสียงดัง เพราะความรู้สึกหวานวับพุ่งสูง สูงจนนางเกือบจะปลดปล่อยความฉ่ำเยิ้มจ้าวเล่อซีส่งเสียงคำรามดุนาง
โลมรักกลางหมู่ดาว อาเฟยนั่งมองแม่นางน้อยที่สีหน้าไม่สู้แจ่มใส นางทำตาพองๆ จ้องเขม็งที่อาหารเย็นตรงหน้า มันเป็นเนื้อไก่ย่างกับข้าวห่อใบบัว แต่นางไม่ได้รับอนุญาตให้กินด้วยก่อความผิดไว้ และหากต้องนับว่ากี่ครั้งมาแล้ว แม่นางน้อยก็คร้านจะเสียเวลาคิดถึง“เจ้าปรุงยาพวกนั้นอย่างไร และใส่ไว้ในสุราตอนไหน” อาเฟยว่าพร้อมถือไม้ไว้ในมือซึ่งมีไว้สำหรับลงโทษเด็กหญิง แน่นอนฝ่ามือนางทั้งนิ่มทั้งเจ้าเนื้อ หากถูกฟาดลงไปเพียงนิดนางคงเจ็บจนต้องร้องไห้โยเย“ไม่เห็นยาก แค่เอาหญ้าแดงไปหมักในน้ำมันเขากวางสักครึ่งชั่วยาม จากนั้นเทใส่นารีแดงเพื่อไม่ให้มันมีกลิ่นหรือรสชาติผิดเพี้ยน ข้าก็เทผงเสน่ห์โฉมงามลงไปเล็กน้อย แต่ไม่นึกว่ามันจะทำให้ท่านแม่ถูกนายท่านอุ้มหายเข้าไปในป่าแบบนั้น”อาเฟยได้ยินแม่นางน้อยเอ่ยจบก็บีบขมับตนเอง เขาไม่รู้จะทำโทษอย่างไรดี ฝูเอ๋อร์เป็นเด็กหญิงที่จ้าวเล่อซีเอ็นดูและยังให้ท้ายเสมอ สุดท้ายผลลัพธ์จึงลงเอยอย่างที่เห็น“ใครใช้ให้เจ้าทำเรื่องนี้”“ไม่มี ข้าเพียงแค่อยากให้ท่านแม่มีความสุข และบำรุงร่างกายนางเพื่อจะได้กลับมาเป็นสาวน้อยและคลอดบุตรง่าย ไม่เหมือนพี่หลินที่เกือบเสียชีวิต”“เฮ้อ ข้าไม่ร
ม่านซือซือสะลึมสะลือตั้งแต่ถูกจับขึ้นรถม้า พอการเคลื่อนไหวรอบตัวหยุดลง นางจึงนั่งนิ่งคอยฟังเสียงรอบตัวด้านนอก และคนตั้งครรภ์ใจชื้นขึ้นเมื่อนางเป่าปาก เสียงเห่าของสุนัขก็ดังขรม นางมั่นใจว่าสุนัขสองตัวที่นางดูแลไว้กำลังตามนางมา ทว่าพวกมันเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน เหตุใดจะรับมือมนุษย์ได้ อีกทั้งตัวหนึ่งยังได้รับบาดเจ็บ“อย่าให้นางกับพวกเดรัจฉานหนีรอด”เสียงดังกล่าวดังเข้ามาในรถม้า ม่านซือซือไม่ได้มีวิทยายุทธ์ย่อมต้องกลัวตายเป็นธรรมดาและการต่อสู้ยังดุเดือดมาก ม่านซือซือไม่รู้ว่าผู้ใดมาช่วยนาง แต่ภาวนาขอให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด กระทั่งคนของสกุลเตียวเปิดประตูรถม้าเข้ามา คราแรกนางไม่ได้ตกใจสักเท่าใด แต่หลังจากนั้นผู้ที่หัวเราะด้วยเสียงบ้าคลั่งก็เผยตัว เขาคือมู่จิ้น!“ข้านึกไม่ถึงว่าจะได้พบเจ้าอีก โอกาสดีๆ เช่นนี้ต้องยอมรับว่าคุณหนูเตียวทำให้ข้าได้เล่นสนุกกับจ้าวฮูหยินอย่างถูกเวลา”“องค์ชาย ท่านเป็นคนบัดซบโดยแท้ ทำเรื่องชั่วช้าได้ตลอดเวลา คิดหรือว่าจะทำให้ข้ากลัว”“ฮ่าๆๆ เจ้าอาจเป็นสตรีเก่งกล้า แต่จ้าวเล่อซีมันขี้ขลาดโดยเฉพาะยามเห็นเมียของมันถูกข้ารังแก!”“อย่าคิดว่าท่านจะหักหาญใช้กำลังข่มเหงน
เล่ห์ร้ายสตรีเรือนโอสถม่านซือซือถูกคุมตัวขึ้นรถม้า นางห่วงทั้งเหม่ยหลานและฝูเอ๋อร์ ไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนเป็นตายร้ายดีอย่างไร ข้างในรถม้ามีเพียงนางคนเดียว ถึงไม่ได้ถูกมัดมือหรือปิดปากแต่นางไม่อาจหลบหนี ด้วยมีทหารจากกรมการปกครองและคนสกุลเตียวคุมอยู่ อีกทั้งคำพูดของเตียวจื่อก่อนส่งนางขึ้นรถม้าแจ้งชัดว่าม่านซือซือตกที่นั่งลำบากแล้ว“ระวังตัวเอาไว้ ความผิดที่เจ้าก่อมิอาจหนีพ้น ตอนนี้บิดาเจ้าสารภาพหมดเปลือก ได้รับโทษถูกส่งตัวไปยังเมืองทางใต้ ไปเป็นนักโทษสร้างกำแพงเมืองที่นั่น แต่น่าเสียดาย ระหว่างทางมีโจรร้ายดักปล้นขบวน พวกมันส่งม่านเจิ้นไปรอที่ประตูนรกแล้ว ส่วนเจ้าก่อนที่จะตายตามเขาข้าคิดว่าคงต้องทรมานทั้งร่างกายและจิตใจอย่างสาหัส เริ่มจากถูกผ่าท้องควักลูกน้อยออกมาดูโลกก่อนดีหรือไม่ โอ้... แต่ช้าก่อน ข้าลืมเสียสนิทเจ้าเป็นมนุษย์โอสถ เช่นนั้นต้องจับยัดใส่แจกันยักษ์หรือไหเหล้า ขุนจนอ้วนให้น่าเกลียด จากนั้นจึงกรีดเลือดควักหัวใจให้รัชทายาทกิน!”ม่านซือซือตัวแข็งทื่อ นางหวาดผวากับคำพูดอีกฝ่าย หากเตียวจื่อรู้หลายสิ่งเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าคำพูดนางอาจมีเค้าความจริง“คุณหนูเตียว ทะ ท่านกำลังสร
ทาสสวาทอสรพิษ ณ ป่าช้าไร้ญาติทางทิศใต้ของเมืองหลวง ร่างของสตรีนางหนึ่งถูกใส่ไว้ในโลงไม้ สีหน้านางซีดเผือดริมฝีปากเป็นสีคล้ำ บริเวณลำคอมีรอยเชือกซึ่งนางผูกคอตนกับขื่อของเรือนในคราแรกนั้น เหล่าคนงานที่จัดการศพอยากเร่งฝังศพเพื่อจะได้เสร็จงานให้ไวแล้วรีบไปรับเงินส่วนที่เหลือ แต่ทหารที่คุมคนงานมาที่นี่รวมถึงสัปเหร่อต่างซุบซิบกันว่า หญิงคิดสั้นนางนี้เป็นสาวงามต่างแคว้น มีศักดิ์เป็นถึงลูกสาวของจักรพรรดินี อีกทั้งร่างกายยังบริสุทธิ์ไร้ราคี เมื่อรู้เช่นนี้ใครเล่าอยากจะทิ้งเนื้อหงส์ไว้ในโลงไม้ อย่างน้อยได้เพลินด้วยตาและลิ้มรสสักนิดก็ยังดี“คุณหนูของเจ้ากรมการปกครองบอกว่านางทำเสน่ห์และเล่นคุณไสยฯ เช่นนี้ข้าเลยอยากลองแทรกหนอนเข้าไปข้างในกลีบคับๆ นั่น อยากรู้จริงว่านางจะเด็ดดวงหรือไม่”“เจ้าไม่กลัวรึ ร่างของนางอาจมีตะขาบหรือพิษแทรกซึมอยู่ก็ได้ และยังเป็นศพตายโหงด้วย!”“ฮ่าๆๆ ยิ่งดี ยิ่งเฮี้ยน ยิ่งน่ากลัว ข้ายิ่งพึงใจ”“ช่างวิปริตโดยแท้พี่ชาย”เมื่อมีคนหนึ่งเอ่ยเช่นนั้นแล้วโลงศพจึงไม่ได้ถูกนำลงฝัง มันถูกเปิดออกจึงเผยให้เห็นร่างของเสี่ยวเหยาที่นอนนิ่งๆ มองเผินๆ ดูราวกับสตรีที่หลับใหลเพียงเท่านั้น
ภรรยาอยู่บน ท่านพี่อยู่ข้างล่าง ม่านซือซือมีความสุขยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าจักรพรรดิเทียนฉางแต่งตั้งกุ้ยเฟยคนใหม่ นางจึงสั่งให้ห้องครัวทำอาหารเลี้ยงคนทั้งตำหนัก ทุกอย่างล้วนเป็นของดี มีสุราและการขับร้องเพลงด้วย“นางได้รับตำแหน่งกุ้ยเฟยฟ่านจิง!” เหม่ยหลานเอ่ยถึงหลิวฟ่าน ยามนี้นางได้ถือตราหงส์ในวังหลัง มีอำนาจเหนือมเหสีอี้เหอขั้นหนึ่ง“โอ้ ชื่อนี้เหมาะสมกับหลิวฟ่านเหลือเกิน”“นางเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิเทียนฉาง อีกทั้งอาเฟยก็อยู่รับใช้ที่ตำหนักในด้วย”ได้ยินเหม่ยหลานกล่าวเช่นนั้น ม่านซือซืออดหน้าแดงไม่ได้ด้วยรู้ความหมายของประโยคดังกล่าวดี“สามคน...เฮ้อ ข้าอยากเตือนอยู่หรอก แต่สุดท้ายทั้งหลิวฟ่านและอาเฟยต่างเป็นผู้เลือกชีวิตของตน”“แล้วรัชทายาทเล่า ไม่ได้ออกความเห็นใดหรือ”เหม่ยหลานมองม่านซือซือ ก่อนหัวเราะอย่างขบขัน“ฮูหยิน นี่ท่านไม่รู้หรอกหรือ คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดย่อมต้องเป็นรัชทายาทเล่อซี!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนตั้งท้องจึงหัวเราะตามแม่นมหลาน สามีนางช่างเป็นจอมบงการทุกสิ่งโดยแท้ กระทั่งเรื่องจับคู่ หรือใครจะอยู่บนอยู่ล่าง แม้แต่...แทรกระหว่างกลางในยามอุ่นเตียง องค์ชาย
นางจิ้งจอกเริงสวาท จ้าวเทียนฉางมองพรมขนจิ้งจอก ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องบรรทมของตน คราแรกเขาประหลาดใจเมื่อเหล่าขันทีซึ่งดูแลตำหนักนี้บอกว่าเป็นของขวัญจากคณะทูตต่างแดนที่มาค้าขายกับแคว้นชิง และขุนนางในกองคลังมีความประสงค์อยากถวายพรมเลอค่านี้กับเขา ทั้งที่เมื่อก่อนพวกมันล้วนมองข้ามหัวเขาไปเสียหมดกระนั้นเรื่องสำคัญไม่ได้เกี่ยวกับที่มาของพรม หากเป็นสตรีที่ซ่อนกายอยู่ข้างในมากกว่าเมื่อพรมถูกคลี่ออก สตรีรูปร่างสมส่วนจึงปรากฏให้เขาเห็น นางมิใช่หญิงงามหากเทียบกับเหล่านางสนมที่เขาเคยพบ ทว่าหญิงผู้นี้โดดเด่น ท่าทางปราดเปรียว อีกทั้งยังซ่อนความลึกลับเย้ายวนอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากสนมนางใดสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจจนไม่อาจไล่ตะเพิดนางออกจากห้อง เพราะเมื่อเผยกายออกจากพรมหนังแกะหนานุ่มนั้น สตรีนางนี้ไม่ได้ไว้ผมยาวสลวย เมื่อเปิดผ้าคลุมศีรษะเขาเห็นว่านางโกนผมจนเกลี้ยงประหนึ่งนักพรตหญิง หรือนางชีจากสำนักบนภูเขาสูง“หลิวฟ่าน...”เขาจดจำนางได้ นางผู้นี้รับใช้อยู่ในตำหนักของเขาเมื่อสองสามเดือนก่อน จู่ๆ นางหายตัวไป เขาเคยอยากตามหานาง แต่เป็นเพราะช่วงเวลาดังกล่าวอาเฟยมักลอบเข้ามาหาเขาและสร้างเรื่องมากมา
อารมณ์ขันร้ายกาจของจ้าวเล่อซีใครต่างรู้ดี โดยเฉพาะอาเฟยที่อยู่ใกล้ชิดมาตั้งแต่เขาแบเบาะ “ม่านเจิ้นถูกภรรยาที่มาจากสกุลใหญ่โขกสับและวาง อำนาจอยู่เหนือเขาเสมอ แต่เขาก็รักฮูหยินมิน้อยทั้งที่รู้ว่านางไม่ใช่ธิดาของตน แต่การที่เขาตั้งใจผลักไสนางให้เอี๊ยะถังและสร้างข่าวให้ฮูหยินมัวหมองจนนางไม่อาจเข้าคัดเลือกเป็นนางกำนัล ก็ดูเหมือนมีสิ่งที่น่าสงสัยมิน้อย”คราวนี้หลิวฟ่านเป็นผู้เอ่ย นางรู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องนี้เพราะเคยเห็นม่านซือซือมาซื้อของที่ร้านขายยานางอยู่บ้าง และหลายครั้งอีกฝ่ายมีเงินไม่พอก็เป็นนางที่สั่งให้คนในร้านจัดหาให้ กระทั่งม่านซือซือเริ่มคบหาเอี๊ยะถังอย่างลับๆ หลิวฟ่านก็รู้ว่าม่านซือซือคงต้องการผู้ชายสักคนเป็นหลักยึด เพื่อให้นางไม่ต้องถูกแม่ใหญ่ส่งตัวไปเป็นอนุของตาเฒ่าหื่นกามที่ไหน‘เจ้าคิดว่าใครบีบบังคับให้เขาทำเรื่องนี้’ จ้าวเล่อซีหันไปทางหลิวฟ่าน“ตามที่หม่อมฉันตรองดูแล้ว ม่านเจิ้นมิได้ถูกใครบังคับ เขาเพียงแค่เซ่อซ่าและเชื่อคนง่ายไปสักหน่อย กล่องไม้ของเซี่ยอี๋ได้ถูกสับเปลี่ยนก่อนมอบให้ฮูหยินโดยที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำ ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้า เขาก็คงได้ยินกิตติศัพท์ของมเหสีอี้เหอว่าเ
ภายในคุกของศาลไท่หยาง บรรยากาศอึมครึมอยู่มาก และทั้งที่เป็นคุกประจำแคว้นและขังเฉพาะขุนนาง ทว่ากลับดูทรุดโทรมไม่ได้รับการดูแลรักษาให้ดีม่านซือซือก้าวลึกไปข้างใน คราแรกจ้าวเล่อซีจะเข้ามาเป็นเพื่อนด้วยแต่นางปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าอยากพูดคุยกับบิดาอย่างเป็นส่วนตัวและกลัวว่าม่านเจิ้นจะอึดอัดด้วยบิดาเป็นคนถือหน้าตาตนเองเป็นสำคัญ อีกอย่างนางยังกระอักกระอ่วนใจในสถานการณ์ซึ่งบิดาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชื่อเสียงจ้าวเล่อซีด่างพร้อยเมื่อพ่อลูกได้พบหน้า ม่านเจิ้นก็แสดงความละอายใจที่เกิดเรื่องเช่นนี้ “พ่อไม่เคยคิดร้ายต่อเจ้า ซือเอ๋อร์อย่าได้เชื่อคนอื่น พ่อรักเจ้าตลอดมา และหวังจะให้เจ้าพบกับความสุข”ม่านซือซือไม่เคยสงสัยในตัวบิดา และเขาตกเป็นเครื่อง มือของคนชั่ว ทว่าคนชั่วนั้นคือผู้ใด อีกทั้งเจ้าเมืองกุ้ยโจวมาเกี่ยวข้องกับการที่นางจะได้เป็นพระชายาของจ้าวเล่อซีตั้งแต่เมื่อไหร่“อยู่ที่นี่ท่านพ่อสะดวกสบายหรือไม่ มีเรื่องใดที่อยากให้ข้าช่วยจงบอกเถิด”ม่านเจิ้นส่ายหน้าช้าๆ เขาไม่รู้ว่าตนจะหลุดพ้นจากกรงขังได้หรือไม่ ใจหนึ่งก็กลัวแต่อีกใจห่วงคนข้างหลัง“คนที่คิดแค้นต่อรัชทายาทมุ่งร้ายต่อเจ้า พวกเขารู้ว่า
สตรีที่เคียงคู่มังกร จ้าวเล่อซีไปพบเสี่ยวเหยาที่เรือนของนาง เมื่อได้เห็นบุรุษที่สวมหน้ากากขาวผู้มีเรือนกายสูงใหญ่ เสี่ยวเหยาก็มีน้ำตาเอ่อคลอหน่วย“ทะ ท่านพี่...”“สามหาว เจ้ามีสิทธิ์เรียกรัชทายาทเช่นนั้นรึ!” อาเฟยตวาดใส่เสี่ยวเหยา และนางรีบยกมือปาดน้ำตาที่นองหน้าก่อนเอ่ยเสียงสั่นๆ“รัชทายาทเล่อซี”“นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องพึงระลึกไว้ รัชทายาทสูงส่งเพียงใด และเจ้าเป็นเพียงสาวใช้ในเรือน ได้รับการดูแลถึงเพียงนี้ก็นับว่าโชคดี อย่าได้ก่อเรื่องใดอีก มิเช่นนั้น ผ้าขาวหรือจอกสุราเจ้าก็จะไม่ได้รับ แต่เป็นการถูกตัดลิ้น เลาะฟัน แล้วตัดเส้นเอ็นแทน แน่นอนเจ้าจะไม่ตายในทันที แต่จะทุกข์ทรมานนานแสนนานจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ”เสี่ยวเหยาพรั่นพรึงต่อคำพูดอาเฟย นางรู้เรื่องนี้ดี ด้วยที่แคว้นของนางมีวิธีทรมานคนสารพัด การที่นางมาเป็นสาวใช้ของจ้าวเล่อซีคือคำสั่งมารดาซึ่งหวังจะผูกไมตรีต่อชายหนุ่ม ทว่านางไร้วาสนา จ้าวเล่อซีไม่เคยชายตาแลนาง มิหนำซ้ำเขายังปล่อยนางทิ้งๆ ขว้าง ๆ ความสาวที่มีนับวันยิ่งโรยราลง เช่นนี้นางมีชีวิตอยู่ก็เหมือนดอกไม้ที่ขาดน้ำ นับวันยิ่งเหี่ยวเฉา มินานคงแห้งตายไป“เสี่ยวเหยามีชีวิตอยู่เพื่อรั
ในอ่างอาบน้ำไม้ขนาดใหญ่ ที่โรยด้วยกลีบดอกไม้และสมุนไพร และมีไม้หอมซึ่งยามนี้ถูกจุดเอาไว้ส่งกลิ่นสดชื่นในห้องอาบน้ำ พร้อมสร้างความรัญจวนใจต่อทั้งคู่จ้าวเล่อซีประกบอยู่ด้านหลังม่านซือซือ ร่างสามีกับภรรยาต่างเปลือยเปล่าและชโลมด้วยน้ำมันหอมระเหยทั้งตัว ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายยามนั้น จมูกโด่งซุกไซ้ซอกคอนาง พรมจูบ จูบแล้วดูดกระตุ้นในจุดที่ไวต่อความรู้สึกของคนตั้งครรภ์“อ๊ะ... ดูเหมือนท่านพี่นั้นเชื่องช้ามิต่างจากตาแก่ ดูสิตอนนี้น้องน้อยของสามียังคอพับคออ่อนเสียด้วย หรือว่ามันสิ้นรักต่อภรรยาแล้ว”ชายหนุ่มไฉนจะไม่รู้ว่าม่านซือซือแกล้งยั่วเย้า และถึงจะเป็นจริงอย่างคำนางกล่าวก็เป็นเพราะเขาห่วงครรภ์ของนาง อีกทั้งอยากเล้าโลมให้มาก คืนนี้เขาต้องการร่วมรักอย่างหวานซึ้งมากกว่าการรุกหนักหน่วงแล้วต่างฝ่ายต่างนอนหลับอย่างอ่อนเพลีย จ้าวเล่อซีปรารถนาอยากโอบกอดม่านซือซือ ให้กายผสานกายและใจเชื่อมถึงกัน‘ฮูหยิน เป็นเจ้าที่เร่งเร้าเอาแต่ใจ กำลังจะเป็นมารดาของลูกน้อยในไม่กี่เดือนข้างหน้า ต้องค่อยๆ กินรู้หรือไม่ซือซือ’เมื่อรับรู้ในสิ่งที่ชายหนุ่มสื่อสาร นางก็ครางหวานล้ำ ด้วยสองมือของเขาสอดใต้วงแขนเรียวเสลา และ