Share

บทที่4 ไม่ให้ไก่

last update Last Updated: 2024-12-09 12:41:57

กัวเหม่ยอิงอ้าปากหาวระหว่างเช็ดผมหลังจากชำระร่างกายเสร็จ เมื่อเช้าเธอตื่นเช้าเกินไป ตอนนี้ก็เลยง่วงขึ้นมา แต่งตัวเสร็จก็ดูลูกสาวครู่หนึ่งจากนั้นจึงเดินออกไปหาสะใภ้รองที่ล้างเห็ดรอ

“เหลืออีกเยอะไหม” กัวเหม่ยอิงถามน้องสะใภ้

“ใกล้เสร็จแล้วค่ะ แต่หน่อไม้ฉันยังไม่ได้ทำ” สะใภ้รองตอบพลางชี้ไปที่หน่อไม้ในตะกร้า

“ปลาล่ะ”

“ฉันแช่น้ำแล้วค่ะ” สะใภ้รองตอบพร้อมกับชี้ไปที่ถังข้างโอ่ง

กัวเหม่ยอิงเลิกคิ้ว เธอไม่ได้ใส่น้ำให้ปลาตั้งแต่แรกแต่ทำไมปลาถึงยังมีชีวิตอยู่? หากจำไม่ผิดปลาพวกนี้ขาดน้ำได้ไม่นานนี่ ถึงอย่างนั้นกัวเหม่ยอิงก็เดินไปดูปลาในถัง ข้าง ๆ ถังยังมีทั้งกุ้งแล้วก็ปูแยกอีก

“เสียดายที่ไม่มีปลาไหล” กัวเหม่ยอิงบ่น เธอจำได้ว่าในนิยายหลายเรื่องจะนำปลาไหลไปตุ๋นบำรุงร่างกาย แต่ยังดีที่ได้ปลาหนีชิวมาอยู่บ้าง

“คะ” สะใภ้รองหันมามอง

“ไม่มีอะไร” กัวเหม่ยอิงส่ายหัวแล้วลุกไปดูไก่ฟ้าที่วางไว้ข้างเตาถ่านที่จุดไฟรอ

กัวเหม่ยอิงต้มน้ำให้เดือด พร้อมกับนำชามมาเตรียมไว้รอการถอนขนไก่ ยังดีที่ไก่พวกนี้มันตายแล้วไม่งั้นเธอคงจะไม่กล้าทำมัน ถึงแม้จะไม่เคยทำแต่ถ้าไม่ทำก็คงจะไม่มีอะไรกิน

“พี่เข้าไปหาคุณแม่หน่อยนะคะ คุณแม่มองหาพี่ตลอดเลย” สะใภ้รองบอก

“อือ” เพราะเธอไม่รู้จะทำตัวยังไงก็เลยไม่ได้เข้าไปดูแม่สามี แต่ก่อนนั้นกัวเหม่ยอิงจะเข้าไปคุยกับแม่สามีทุกวัน แม้จะคุยไม่กี่คำแต่ก็เข้าไปบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้คนป่วยได้ฟัง พอถิงถิงเข้ามาอยู่ในร่างเธอก็ไปให้เห็นหน้าแค่ครั้งเดียว

“ไก่พวกนี้คงจะเป็นพี่ใหญ่กัวให้มาสินะคะ” เพราะถ้าเป็นคนอื่นพวกเธอก็คงจะไม่ได้มัน

“ใช่”

บทสนทนาระหว่างพี่สะใภ้กับน้องสะใภ้ดังขึ้นต่อเนื่องระหว่างล้างคราบดิน แล้วก็ทำความสะอาดของต่าง ๆ ที่ได้มาวันนี้ กัวเหม่ยอิงแล่เนื้อไก่สองตัวให้เหลือแต่กระดูก เนื้อไก่เธอนำไปหมักเค็มจะเอาไปตากแดดให้เนื้อแห้งจะได้เก็บไว้ได้

ส่วนกระดูกเธอนำมารวมกับไก่ที่เหลือ สับให้เป็นชิ้นแล้วนำไปตุ๋นรวมกับเกากี๋ในน้ำเดือด ตอนเย็นจะได้กินแกงไก่หอม ๆ บำรุงร่างกาย

พวกปลา กุ้งแล้วก็ปูที่ได้มากัวเหม่ยอิงขังไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยนำปลาตัวเล็กมาแล่ตากแดดเอาไว้ ส่วนปลาก็ค่อยตุ๋นรวมกันเป็นอาหารพรุ่งนี้ ส่วนผักหวานสะใภ้รองบอกแม่สามีชอบกินมาก เธอจึงจะผัดน้ำมันเย็นนี้ แล้วก็เอาไปต้มใส่เห็ดด้วยส่วนหนึ่ง มันเป็นเมนูที่เธอชอบมาก

กลิ่นไก่ตุ๋นเกากี๋หอมไปทั่วบริเวณบ้าน นาน ๆ ทีจะมีบ้านไหนทำกับข้าวที่มีเนื้อ จึงไม่แปลกที่จะมีคนมาเกาะรั้วดู และหนึ่งในนั้นก็เป็นคนจากบ้านใหญ่สกุลหานที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่

‘บ้านไหนทำอาหารจานเนื้อกันนะ!’ หญิงกลางวัยคน คนหนึ่งโพล่งถาม

‘โอ้ ป้าสะใภ้รองหาน ท่านไม่รู้หรือว่าบ้านสามของพวกท่านได้ไก่มา” คนที่เห็นพี่ใหญ่กัวยื่นไก่ให้กัวเหม่ยอิงพูดขึ้นด้วยความอิจฉา

ตาแก่ที่บ้านกับลูกชายของนางต่างไม่มีฝีมือในการล่าสัตว์ ทำให้พวกนางได้กินเนื้อแค่ตอนที่แจกจ่ายเท่านั้น

‘เนื้อ? ได้ยังไงกัน พวกนางไปซื้อมาหรือ!” เสียงแหลมสูงดังขึ้นด้วยความร้อนใจ

‘ฉันเห็นพี่ใหญ่กัวเอามาให้สะใภ้ใหญ่บ้านสาม ไม่เชื่อก็ถามบ้านจ้าวดู’ นางชี้ไปที่คนสกุลจ้าวที่อยู่บ้านข้าง ๆ ของบ้านสามสกุลหาน ถึงระยะจะบ้านจะห่างกันแต่ก็มองเห็นการกระทำอื่น ๆ

‘อกตัญญู อกตัญญู!’

เสียงข้างนอกยังดังต่อเนื่องแต่กัวเหมยอิงไม่ได้สนใจ แล้วก็ห้ามสะใภ้รองออกไปดูข้างนอก ถึงบ้านจะไม่มั่นคงจริง แต่เธอก็เชื่อว่าบ้านใหญ่ไม่กล้าพังเข้ามา ยังดีที่หลังบ้านนั้นมีรั้วสูงกั้นเกือบสองเมตรอีกรอบ คนข้างนอกก็เลยมองไม่เห็น

“ฉันว่าป้าสะใภ้รองต้องพาคนมาแน่ ๆ เลยค่ะ!” สะใภ้รองเอ่ยด้วยความร้อนใจ บ้านของพวกเธอมีเพียงคนป่วย เด็กและสตรีอ่อนแอสองคน จะสู้คนบ้านหานได้ยังไง

“ยังไงนางก็ไม่กล้าพังบ้านหรอก” กัวเหม่ยอิงส่ายหัว หากบ้านสามของพวกเธอถูกพังบ้านขึ้นมาจริง ๆ คนที่จะต้องเดือดร้อนก็คือบ้านใหญ่สกุลหานไม่ใช่บ้านพวกเธอ

กัวเหม่ยอิงจัดการทำความสะอาดในห้องครัว อะไรที่ควรเก็บและสามารถซ่อนได้เธอก็หาที่ซ่อน และเป็นครั้งแรกที่เธอรู้ว่าบ้านหลังนี้มีที่ซ่อนของเต็มบ้าน! แม้แต่พื้นในห้องครัวก็สามารถซ่อนได้ ที่ไม่ได้ซ่อนก็คงจะเป็นไก่ตุ๋นเกากี๋ที่กำลังตุ๋นอยู่

พอจัดการเสร็จเธอจึงให้สะใภ้รองเข้าไปดูแม่สามีส่วนตัวเองเข้าห้องไปดูลูกสาวที่กำลังร้องไห้งอแง ไม่รู้ว่าไม่สบายตัวหรือสัมผัสไม่ได้ว่าไม่มีคนอยู่ใกล้

“โอ๋ ๆ เสี่ยวลู่น้อยตื่นแล้วหรอจ๊ะ” กัวเหม่ยอิงอุ้มลูกสาวขึ้นมาปลอบ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่อุ้มหล่อนก็เงียบเสียงลงอย่างน่าประหลาดใจ

“แอ้!”

“ช่างเลี้ยงง่ายจริง ๆ” กัวเหม่ยอิงหัวเราะ เสียดายที่นี่ไม่มีของเล่นหรือขวดนมให้ลูกสาวได้ดูดเล่นเธอจึงต้องเล่นกับลูกสาวเอง ถึงเธอจะเป็นแม่ของหล่อนแต่เธอก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กเล็กแบบนี้มาก่อน แต่ยังดีที่มีความทรงจำจากกัวเหม่ยอิงอยู่ และก็รู้ว่าหล่อนรักลูกสาวมาก

‘สะใภ้ใหญ่! สะใภ้รอง!’

เสียงตะโกนจากด้านนอกทำเอาหานเมิ่งลู่หรือเสี่ยวลู่น้อยของเธอสะดุ้ง กัวเหม่ยอิงรีบคว้าเอาร่างลูกสาวที่กำลังจะอ้าปากร้องขึ้นมาปลอบ

“โอ๋ ๆ หนูตกใจหรอจ๊ะ ไม่ต้องตกใจจ้ะ แค่เสียงนกเสียงกา” กัวเหม่ยอิงหันไปยังทิศทางของเสียงอย่างไม่พอใจ ลูกของเธอกำลังอารมณ์ดีแท้ ๆ

“เธอพาเสี่ยวลู่เข้าไปหาคุณแม่ก่อน เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

กัวเหม่ยอิงอุ้มลูกสาวตัวน้อยออกจากห้องก่อนจะส่งให้สะใภ้รองที่ออกมาจากห้องของแม่สามีเช่นกัน สะใภ้รองที่ไม่กล้าปฎิเสธพี่สะใภ้ก็ทำได้เพียงอุ้มหลานเข้าห้องไป ส่วนตัวกัวเหม่ยอิงนั้นไม่ได้ออกไปเปิดประตูให้คนข้างนอก แต่เธอเข้าไปดูตุ๋นไก่ที่กำลังเคี่ยวได้ที่

‘มาเปิดประตูสิ!’

ตุ้บ! ตุ้บ!

‘เคาะแรง ๆ!’

‘เคาะจนกว่าพวกมันจะเปิด!’

‘บ้านใหญ่สกุลหานทำเกินไปแล้ว’

‘อย่ามายุ่ง! เจ้าเคาะแรง ๆ สิ!’

กัวเหม่ยอิงส่ายหัวให้กับเสียงข้างนอก และเนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านดิน พอมีคนเคาะบ้านแรง ๆ เศษดินแห้งที่ผุพังก็เริ่มหล่นลงมา กัวเหม่ยอิงถอนหายใจ เธอไม่มีทางเลือกเลยในเวลานี้

“ป้าสะใภ้ใหญ่มีอะไรหรือเปล่าคะ ตอนนี้เสี่ยวลู่กับคุณแม่กำลังพักผ่อน กรุณาอย่าส่งเสียงดังค่ะ” ถึงอยากจะตะโกนกลับว่าอย่าเสียมารยาทแต่เธอก็ทำไม่ได้

‘เปิดประตูสิ!’

“ฉันไม่ว่างค่ะ” กัวเหม่ยอิงยืนอยู่หลังประตูไม้ที่เหลืออีกนิดเดียวก็จะหัก

‘เธอทำอะไร? ได้ไก่มาไม่คิดจะเอาไปให้พวกฉันหรือยังไง!’

เมื่อกลางวันตอนนางถึงบ้านก็ถูกแม่สามีด่าที่ไม่สามารถหาผักหวานให้ได้ และยิ่งถูกด่าเพิ่มไปอีกที่เอาผักจากหลานสะใภ้ไม่ได้ และไม่นานมานี้น้องสะใภ้ของนางก็ไปบอกว่าบ้านสามได้ไก่จากบ้านกัวนางจึงยอมไม่ได้!

โดยปกติหากบ้านสามได้เนื้อสัตว์มาพวกนางแค่เปิดประตูเข้าไปเอาของก็ไม่มีใครกล้าว่า ยิ่งคนให้อย่างบ้านกัวก็ไม่มีใครกล้าปริปากไม่อย่างนั้นลูกสาวคนเล็กก็จะถูกสั่งสอน พวกนางจึงได้ใจ แต่วันนี้พวกมันกลับลงกลอนประตูเอาไว้อย่างรู้ทัน

“ไก่พวกนี้พี่ใหญ่ของฉันเป็นคนให้มา คงจะเอาให้บ้านใหญ่ไม่ได้หรอกค่ะ” กัวเหม่ยอิงตอบอย่างใจเย็นทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะด่ากลับไปแล้ว วันนี้เข้าป่าเหนื่อย ๆ ควรจะได้พักแต่กลับมีเรื่องวุ่นวายทั้งวัน

‘ใช่ ๆ ไก่พวกนี้พี่ใหญ่กัวเอาให้สะใภ้ใหญ่บ้านสาม’

‘บ้านใหญ่หานก็จริง ๆ’

‘ฉันเห็นพวกนางเอาของบ้านสามไปตลอด!’

‘ดีจริง ๆ ที่ครั้งนี้สะใภ้ใหญ่ไม่เอาให้’

‘หุบปาก!’

กัวเหม่ยอิงยกยิ้มมุมปาก ถึงบ้านใหญ่สกุลหานจะมีพวกเยอะแต่พวกเขาก็ไม่กล้าผลีผลามขนาดนั้น กฎตอนแยกบ้านยังมี ไหนจะคนในหมู่บ้านที่อยู่ในหมู่บ้านอีก อีกอย่างถึงคนสกุลหานจะเป็นแบบนี้แต่พวกเขายังหน้าบางยิ่ง

“ฉันทำน้ำแกงให้คุณแม่ไปหมดแล้วล่ะค่ะ หากป้าสะใภ้อยากได้ก็ลองไปขอซื้อจากพี่ชายฉันดู” กัวเหม่ยอิงว่าเสียงเรียบแล้วเดินหนีจากหน้าประตู

‘จะไปไหน!’

‘ออกมาให้ฉันคุยด้วยสิ!’

‘ไม่ได้ยินหรือยังไง’

‘บ้านสามช่างน่าสงสารจริง ๆ ”

‘บ้านใหญ่หานก็จริง ๆ คนป่วยกับเด็กก็พักอยู่ยังมากวนได้’

‘ใช่ ๆ’

‘กลับสิ! จะยืนอยู่ทำไม!’

เห็นทีบ้านหลังนี้คงจะอยู่ยากแล้ว ความปลอดภัยก็ไม่มีอะไรเลย ยิ่งไม่มีผู้ชายอยู่ด้วยแล้วยิ่งยากไปใหญ่

“หล่อนหลับหรือ” กัวเหม่ยอิงเดินเข้าห้องแม่สามีแล้วเห็นเสี่ยวลู่นอนอยู่ข้าง ๆ

“ใช่ค่ะ” สะใภ้รองพยักหน้า

“แม่เป็นยังไงบ้างคะ” กัวเหม่ยอิงนั่งลงบนตั่งข้างเตียงเตาที่แม่สามีนอนอยู่

แม่สามีของเธอล้มป่วยไม่มีเรี่ยวแรงหลังจากพ่อสามีเสียไปแต่ก็ไม่ถึงกลับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ร่างกายส่วนบนยังขยับได้และก็มีอาการอ่อนแรงเท่านั้น

แม่สามีส่ายหัว“เธอไม่น่าไปมีปากมีเสียงกลับพวกเขา” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ก่อนจะรับเอาน้ำอุ่นที่กัวเหม่ยอิงยื่นให้ขึ้นจิบ

ที่พวกนางยังอยู่กันได้แบบนี้ก็เพราะบ้านใหญ่คิดว่าคุมพวกนางได้จึงไม่ลงมือทำอะไร แต่หากมีเรื่องกันแล้วพวกนางก็คงต้องระวังตัว

“ช่างเถอะค่ะ ของพวกนี้พี่ใหญ่ของฉันเอาให้ หากให้พวกเขาไปอีกเดี๋ยวรอบหลังเราจะไม่ได้” ใช่แล้ว ช่วงหลัง ๆ มานี้พวกนางจะได้เนื้อสัตว์เดือนละครั้ง และส่วนมากบ้านกัวจะปรุงแล้วจึงเอามาให้ ไม่อย่างนั้นพวกเธอก็คงจะไม่ได้กิน

“ฉันน่ะไม่เป็นอะไรหรอก แต่พวกเธอยังต้องอยู่อีกหลายปี” แม่หานถอนหายใจให้ลูกสะใภ้

ไม่รู้ว่าทำไมบ้านของพวกนางจึงมีแต่ปัญหา สามีของนางก็พลีชีพในการปฏิบัติหน้าที่ ยามนี้ลูกชายคนโตของนางก็พลีชีพไปอีกคนปล่อยให้เมียมาดูแลนางพร้อมกับลูกสาวที่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่เดือน ไหนจะลูกสะใภ้คนรองที่ไม่ว่าใครจะบอกอะไรก็เชื่อฟังไปหมด หากเป็นคนอื่นยามนี้หล่อนคงจะกลับบ้านเดิมไปหาแต่งงานใหม่แล้ว ส่วนลูกชายคนเล็กก็ยังเรียนไม่จบ

นางแก่แล้วอีกไม่นานก็คงตายไป แต่ลูกสะใภ้ยังต้องอยู่ที่นี่ให้บ้านใหญ่กดขี่ นางไม่รู้ว่าต้องทำไงสะใภ้จึงจะหลุดพ้น หลานสาวก็ยังเล็ก

“พวกเขาไม่กล้าทำอะไรหรอกค่ะ อย่างน้อยก็คงจะมาบีบให้เราส่งอาหารไปให้เหมือนเดิม” เพราะเวลานี้น้องรองของสามียังได้รับเงินเดือนจากกองทัพอยู่ ทางบ้านใหญ่สกุลหานจึงเข้ามาเอาส่วนแบ่งนี้ได้ แม้จะแยกบ้านกันแต่ยังไงพวกเธอก็ต้องส่งเงินไปให้พวกเขาทุกเดือน

“ก็ขอให้เป็นแบบนั้น” แม่หานถอนหายใจอีกครั้ง

“แม่จะเอาอะไรไหมคะ พรุ่งนี้ฉันจะเข้าอำเภอ” กัวเหม่ยอิงที่คิดไว้แล้วเอ่ยถาม

“เธอจะเข้าอำเภอ?”

“ค่ะ ฉันจะไปซื้อนมผงมาให้เสี่ยวลู่น้อย จะให้หล่อนกินน้ำข้าวไปตลอดคงจะไม่โต อีกอย่างเราก็มีของกินไม่กี่อย่าง” กัวเหม่ยอิงอธิบาย  

“ต้องใช้เงินมากขนาดไหน?” แม่สามีถามพลางหันไปเลื่อนกำแพงข้างเตียงเตา

“คะ?”

“ฉันมีเงินไม่มาก แต่ก็พอจะใช้ซื้อของได้” แม่หานยื่นเงินในถุงมาให้ลูกสะใภ้คนโตที่กำลังตะลึงอยู่

บ้านใหญ่สกุลหานเอาไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมแม่สามีของเธอจึงมีเงินพวกนี้ได้กัน ในความทรงจำหลังจากแม่สามีล้มป่วยนางก็เอาเงินของบ้านทั้งหมดที่มีอยู่ร้อยกว่าหยวนให้เธอดูแล และให้นำไปใช้จ่าย อีกอย่างสะใภ้รองก็ไม่มีท่าทีตกใจเหมือนจะรู้เรื่องนี้แล้ว

“เงินเก็บพวกนี้เป็นเงินที่ฉันเก็บไว้แต่งเมียให้ลูกสาม” แม่หานบอกลูกสะใภ้ที่นั่งนิ่ง

นางไม่ใช่แม่ผัวเข้มงวดหรือแม่ผัวที่กดขี่ลูกสะใภ้ และก็ไม่เคยหวงเงินไว้ซื้ออาหารการกิน เพียงแต่จะเก็บบางส่วนไว้ให้เหล่าลูกชาย

และในยามนี้พวกนางก็ไม่ได้มีเงินหากไม่เอาออกไม่ใช้พวกนางก็จะได้ตายจริง ๆ อีกอย่างนมผงของหลานสาวก็มีราคาแพงพอสมควร

“ค่ะ” กัวเหม่ยอิงไม่ได้ปฎิเสธที่จะรับเงินมาถือ ยังไงเธอก็เป็นคนดูแลภายในบ้าน จึงไม่แปลกที่จะรับเอาเงินมา หากน้องสามจะแต่งภรรยา เธอค่อยเอาเงินที่มีมาใส่ให้เขาก็ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่5 หานเผยหนิง

    กัวเหม่ยอิงมองปากทางเข้าอำเภออย่างตื่นเต้น วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้าอำเภอ แต่ก็ไม่เชิงว่าเป็นครั้งแรกเพราะกัวเหม่ยอิงคนก่อนก็เคยเข้ามาอยู่ในอำเภอเพราะมาเรียน แต่ถ้าถามถึงเธอ เธอเพิ่งเคยมาครั้งแรก“พี่สะใภ้จะไปสหกรณ์เลยไหมคะ” เป็นสะใภ้รองที่ถามขึ้นมา“เดี๋ยวพี่จะไปทำธุระก่อน อีกสักพักจะตามไปที่สหกรณ์” พี่ใหญ่กัวว่าเพราะกัวเหม่ยอิงอยากซื้อของไปตุนเอาไว้ก็เลยให้สะใภ้รองมาช่วย ส่วนพี่ใหญ่จะเข้าอำเภอพอดี พวกเธอจึงเช่าเกวียนคนในหมู่บ้านออกมาส่วนเสี่ยวลู่น้อยก็เป็นแม่กัวที่กัวเหม่ยอิงไปขอร้องให้มาช่วยเลี้ยงลูกสาวระหว่างเข้าอำเภอกับฝากดูแลแม่สามีด้วยซึ่งแม่กัวก็ไม่ปฎิเสธ“เราจะเดินดูรอบ ๆ ก่อน เดี๋ยวไปเจอกันที่สหกรณ์เลยก็ได้ค่ะ” ประโยคแรกบอกผู้เป็นน้องสะใภ้ ส่วนประโยคต่อมาเธอหันไปตอบพี่ชาย“ได้” พี่ใหญ่กัวพยักหน้าพร้อมกับหันไปลากเกวียนวัวเดินห่างออกไปกัวเหม่ยอิงหันมองรอบ ๆ ก่อนจะเดินนำสะใภ้รองเดินเข้าตัวอำเภอ เธอไม่ได้ตรงไปที่สหกรณ์เพราะอยากเดินดูที่อื่น ๆ อีกหลายปีถึงจะเปิดการซื้อขายแบบเสรี ที่นี่จึงไม่ได้มีอะไรมากยกเว้นร้านค้าของทางรัฐบาล“เราไปดูน้องชายสามกันไหมคะ” สะใภ้รองถามเมื่

    Last Updated : 2024-12-09
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่6 มีแต่เรื่อง

    กัวเหม่ยอิงเดินดูอาหารแห้งในสหกรณ์ อาหารพวกนี้มีราคาต่ำกว่านมผงเป็นเท่าตัว หรือบางทีอาหารแห้ง 10 กว่าชั่งถึงจะพอค่านมผง 1 กระป๋องอาหารพวกนี้เป็นของจำเป็นสำหรับพวกเธอ กัวเหม่ยอิงจึงต้องซื้อเก็บไว้จำนวนหนึ่ง อย่างสาหร่ายแห้ง กัวเหม่ยอิงก็ซื้อไป 5 ชั่ง เกากี๋เพิ่มอีก 4 ชั่งเพราะที่บ้านยังเหลืออยู่ เหลือบไปเห็นฟองเต้าหู้แห้งกับกระเพาะปลาแห้งกัวเหม่ยอิงจึงหยิบมาอีกอย่างละ 10 ชั่ง“ของพวกนี้พี่จะซื้อจริง ๆ เหรอคะ” สะใภ้รองร้องถามด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วยสาหร่ายแห้งกับเกากี๋หล่อนเข้าใจว่ามันสามารถเพิ่มรสชาติในอาหารได้ดี และที่บ้านก็จะซื้อติดไว้แม้จะน้อยนิดแต่ก็ยังมี แต่ฟองเต้าหู้แห้งกับกระเพาะปลาแห้งเป็นของที่ส่งมาจากมณฑลอื่นราคาจึงแพงกว่าของแห้งอื่น ๆ“ใช่ ฉันจะเอาไปบำรุงคุณแม่” กัวเหม่ยอิงพยักหน้า อันที่จริงเธออยากจะได้หมึกแล้วก็กุ้งแห้งตัวโต ๆ เพิ่มอีก เพียงแต่ราคามันแพงเกินไป เธอยังไม่กล้าซื้อ จึงหยิบเอากุ้งแห้งตัวเล็ก ๆ มา 1 ชั่ง“ค่ะ”เพราะแม่สามีล้มป่วยในตอนนั้นพวกเธอไม่ได้พาไปหาหมอ หรือตามหมอมารักษาเพราะไม่มีเงินสักหยวน อย่าว่าแต่หยวนเลย สักเฟินก็ไม่มี ในความคิดของกัวเหม่ยอิงแม่สามีของ

    Last Updated : 2024-12-16
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่7 เอาเด็กไปคืนแม่

    “ไม่ได้!”เสียงตวาดของคุณย่าหานดังลั่นบ้านใหญ่เมื่อน้องชายสามเอ่ยบอกเรื่องราวทั้งหมดและยืนยันที่จะเลี้ยงลูกสาว ไม่ให้ส่งลูกสาวกลับบ้านแม่เดิมของหล่อนสำหรับคนสกุลหานนั้นพวกเขาถือตัวเป็นใหญ่เพราะมีสมาชิกในบ้านเยอะ รวมถึงบ้านเดิมของเหล่าสะใภ้อีก พวกเขาจึงคิดว่าตัวเองมีหน้ามีตาไม่ควรทำอะไรให้เสื่อมเสีย แต่แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้น“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ หล่อนเป็นลูกสาวของผม” น้องชายสามกล่าวด้วยความไม่พอใจ ปกติเขาจะเป็นคนที่ขี้ขลาดตาขาว ไม่กล้าจะปฎิเสธใคร แต่เว้นคนสกุลหานเอาไว้ด้วยความที่เขาแทบจะเป็นแก้วตาดวงใจของบ้านจึงถูกเลี้ยงมาอย่างดี และที่เขาเป็นผู้เป็นคนอยู่ก็เพราะถูกสอนจากมารดา เว้นคนสกุลหานที่เขาไม่ค่อยจะฟังมารดา บ้านก็แยกกันแล้วบ้านใหญ่ก็ไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป“เจ้าสาม! นายลืมไปแล้วเหรอว่านายยังไม่ได้แต่งงานแต่นายกลับมีลูกกลับมา” คุณย่าหานพยายามโน้มน้าวหลานชายในบรรดาหลานชายของนางที่มาจากบ้านสาม คุณย่าหานเอ็นดูหานหรงอี้ที่สุด เพราะเขาเรียนในระดับที่สูงกว่าเหล่าหลานชายในบ้านของนางที่ได้เรียน และเขายังเป็นหน้าเป็นตาให้กับคนสกุลหานได้ เพียงแต่วันนี้กลับทำให้นางโกรธมาก เมื่อหลานชายที่คิดว

    Last Updated : 2024-12-16
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่8 สัญญาการกู้ยืม

    กัวเหม่ยอิงเดินนำสะใภ้รองกับน้องชายคนเล็กของสามีไปยังบ้านเลขาธิการขอฃหมู่บ้าน ที่เธอพูดกับบ้านใหญ่ไปเธอไม่ได้แค่ขู่ เธอพูดจริงแล้วก็ทำจริง และระหว่างนั้นเธอก็แวะไปเอาเอกสารทั้งหมดที่มีไปด้วยโชคดีที่เลขาธิการหมู่บ้านทำธุระเสร็จแล้วก็เลยกลับมาดูแลหมู่บ้าน พรุ่งนี้ทุกคนก็จะต้องลงแปลงนาอีกครั้งเนื่องจากหยุดมาสามวันทุกอย่างก็เลยยุ่ง ๆ“เลขาธิการคะ”บริเวณที่กัวเหม่ยอิงมาเป็นกองผลิตของหมู่บ้าน จึงไม่แปลกหากบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเฝ้าอาหาร ยุคนี้เป็นยุคข้าวยากหมากแพง คนในหมู่บ้านที่ไม่มีเงินซื้อหรืออดอยากต่างก็ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดบางครั้งพวกเขาก็จะหาทางขโมยอาหารของหน่วยผลิตแต่ละตำบลและหมู่บ้านหน่วยผลิตจะแยกออกเป็นหมู่บ้าน หมู่บ้านไหนมีคนเยอะก็แยกเป็น 1 หน่วย แต่ถ้าหมู่บ้านที่มีน้อยก็จะถูกจัดคู่กับหมู่บ้านข้างเคียงให้เป็น 1 หน่วย และหมู่บ้านของพวกเธอนั้นเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่จึงไม่ต้องรวมกับคนอื่น ๆ แต่เมื่อเก็บผลผลิตเสร็จธัญพืชบางส่วนก็จะถูกส่งเข้ากองกลางของตำบล และเข้าเมืองต่อไปหากฤดูไหนได้ผลผลิตน้อยคนในหมู่บ้านต่างได้รับคงามเดือดร้อนกันทั่ว ลำพังผลผลิตน้อยมากแล้วยังต้องส่งเข้าก

    Last Updated : 2024-12-16
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่9 ที่ดินของพี่ใหญ่หานเซิน

    การที่คุณย่าหานตกใจจนเข่าอ่อนก็เป็นเหมือนกับการยืนยันว่าคุณย่าหานเอาโฉนดที่ดินของบ้านสามไปจริง ๆ ป้าสะใภ้ใหญ่ที่ได้ยินแม่สามีบอกว่าเป็นของลูกชายของนางก็ทำตัวไม่ยอมขึ้นมา แม่สามีของนางตั้งใจจะเอาให้หลานชาย ซึ่งคนนั้นก็คือลูกชายของนางและนางไม่ยอมให้มันหลุดมือไป“เดี๋ยวสิ! หากมันเป็นของหลานชายจริง มันก็ต้องอยู่กับพวกเธอสิ” ป้าสะใภ้ใหญ่กล่าวกัวเหม่ยอิงหัวเราะ “ขนาดนี้แล้วป้าสะใภ้ใหญ่ก็คงจะไม่ยอมรับสินะคะ แต่อย่าลืมเรื่องเงินที่ยืมไปด้วยค่ะ” กัวเหม่ยอิงเปลี่ยนเรื่องให้ป้าสะใภ้ใหญ่ไม่ต้องเข้ามายุ่งลุงใหญ่มาเอาเงินไปมากกว่าห้าร้อยหยวนโดยที่พวกนางไม่รู้ก็ว่าแย่แล้ว นางที่มีลายมือการยืมเงินบนเอกสารก็ยิ่งมีชะงักติดหลัง แม่สามีของนางถึงจะไม่ได้ถือเงินเองแล้วแต่นางก็ต้องรับรู้เรื่องเงินที่เข้ามาและออกไป“ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าพวกเธอไม่ได้โกหก อีกอย่างปู่ของเธอก็ตายไปแล้ว จะให้ไปปลุกสหายของปู่เธอขึ้นมาอีกคนก็คงจะไม่ได้” คุณย่าหานที่มีหลานสาวเข้ามาพยุงเอ่ยขึ้นนางผ่านโลกมานานกว่าหลานสะใภ้จึงปรับอาการได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นชื่อของหลานชายแต่นางก็หาข้อโต้แย้งไม่ได้ ขนาดนางยังจ

    Last Updated : 2024-12-16
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่10 ช่องทาหาเงิน

    กัวเหม่ยอิงไม่รู้ว่าเลขาธิการของหมู่บ้านทำยังไงให้ได้เงินจากบ้านใหญ่คืนมา แต่เมื่อเช้านี้เขาเป็นคนเอามาให้พวกเธอที่ตื่นมาทำกับข้าวมื้อเช้า ถึงแม้จำนวนเงินจะได้มาเพียง 1,000 หยวน แต่มันก็ทำให้พวกเธออยู่ได้อีกนาน เมื่อรวมกับเงินที่มีก็ถือว่ามากพอแล้ว“เดี๋ยวสาย ๆ ฉันจะออกไปดูที่ดิน” กัวเหม่ยอิงบอกสะใภ้รองที่กำลังทุบไก่แห้ง“งั้นฉันจะดูแลเด็ก ๆ ก็แล้วกันค่ะ เมื่อวานคุณแม่อยู่กับหลานทั้งวันท่านคงอยากจะพัก” สะใภ้รองพยักหน้าอาหารมื้อเช้าของพวกเธอกัวเหม่ยอิงทำแกงจืดเนื้อไก่ให้ผู้เป็นแม่สามี ส่วนพวกเธอนั้นกัวเหม่ยอิงหุงข้าวแล้วนำไปผัดกับไข่ ปรุงรสด้วยเกลือ“จริงสิ ให้น้องชายสามทำคอกไก่แล้วก็แปลงผักด้วยนะ ถ้าทำเสร็จแล้วค่อยให้ไปหาฟืน” กัวเหม่ยอิงว่าพลางยกหม้อแกงจืดลง“ได้ค่ะ พี่จะไปดูที่ดินตอนไหน”“กินข้าวเสร็จ เดี๋ยวอากาศจะร้อน”สองสะใภ้ต่างช่วยกันทำกับข้าวมื้อเช้าของบ้าน ส่วนน้องชายสามนั้นไปหาบน้ำมาใส่โอ่งให้พวกเธอใช้เพราะน้ำเริ่มจะหมดแล้วกัวเหม่ยอิงเทน้ำในชามที่เทน้ำร้อนใส้ไว้เมื่อคืนทิ้ง นำชามไปล้างให้สะอาดแล้วก็นำมาลวกในน้ำร้อน จากนั้นนำไปคว่ำไว้ พอแห้งจึงจะเทน้ำต้มสุกเก็บไว้ จริง ๆ กัว

    Last Updated : 2024-12-16
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่11 ซื้อไหเพิ่ม

    น้องชายสามกลับไปเรียนได้หลายวันแล้ว กลับไปพร้อมกับความหวังของกัวเหม่ยอิงที่อยากจะได้อิฐมาสร้างบ้านหลังใหม่ แม้ในใจของหานหรงอี้อยากจะปฎิเสธแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้พี่สะใภ้ก็เป็นคนดูแลคนในบ้าน จึงต้องพยักหน้ารับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สะใภ้รองห่อของกินให้น้องชายของสามีตามคำสั่งของพี่สะใภ้ ไม่ว่าจะเป็นไก่ตากแห้ง เห็ดตากแห้ง และหน่อไม้ที่ต้มใส่ไหไว้ กัวเหม่ยอิงให้เขาเอาไปให้สหาย 1 ไห เพื่อขอบคุณที่ช่วยดูแลหลานสาว พร้อมกับเงินที่ให้น้องชายของสามีไปใช้อีก 50 หยวน โดยที่กัวเหม่ยอิงบอกให้เขาใช้เต็มที่จนกว่าจะเรียนจบ และบางทีอาจต้องใช้เงินหาอิฐจำนวนมาก หากไม่พอค่อยกลับมาที่บ้านเล้าไก่ถูกซ่อมแซมจนแข็งแรงและทนทาน เธอเสียเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่าเชือกเท่านั้น จากนั้นจึงทำความสะอาดเล้าไก่ โดยนำมูลไก่ไปทำปุ๋ยใส่แปลงผัก ส่วนแปลงผักกัวเหม่ยอิงกลัวว่าจะไม่ทันหากให้น้องชายสามีเป็นคนทำ เธอจึงจ้างพี่ชายของเธอมาทำแปลงผักให้ใหม่ โดยให้วันละ 1 หยวน และทำอย่างอื่นอีกจึงใช้เวลาสองวัน กัวเหม่ยอิงจึงจ่ายเงินให้ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งแน่นอนว่าถูกปฎิเสธเพราะเขาต้องการช่วยน้องสาวเท่านั้น แต่กัวเหม่ยอิงรู้ว่าพี่ชายจะ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่12 คุยกับบ้านกัว

    กัวเหม่ยอิงใช้รถเข็นที่ให้พี่ชายทำขึ้นให้ในการเข็นไหครึ่งหนึ่งไปล้างในแม่น้ำ อันที่จริงมันก็อยู่ไม่ไกลหรอก แต่จะให้หอบไปทีละไหก็กลัวว่าจะเสียเวลาเพราะรถเข็นมีขนาดเล็กไหนจะจำนวนไหที่เยอะอีก กัวเหม่ยอิงจึงแบ่งครึ่งไปล้างสองรอบ โดยเธอใช้น้ำผสมขี้เถ้าที่ผสมไว้ล้างถ้วยชามกับกาบมะพร้าวในการขัดไห ขี้เถ้ามีฤทธิ์เป็นด่างช่วยลดคราบมันได้ด้วยความที่เป็นช่วงบ่ายจึงไม่มีใครมาใช้น้ำ น้ำในแม่ที่คนในหมู่บ้านใช้ทุกวันจึงใสมาก แต่หากเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงานน้ำจะขุ่นเพราะคนในหมู่บ้านจะมาอาบน้ำและซักผ้าที่นี่ ใครบ้านอยู่ใกล้ก็ดีไปเพราะใครอาบน้ำก่อนก็จะได้อาบน้ำที่ใสกว่ากัวเหม่ยอิงล้างไหเสร็จก็คว่ำทิ้งไว้บนรถเข็น พอล้างครบก็เข็นกลับบ้าน จากนั้นก็เอาไปคว่ำทิ้งไว้ที่หลังบ้าน เวลาจะใช้ค่อยนำไปต้มฆ่าเชื้อในน้ำที่เดือดก็ใช้ได้แล้ว อันที่จริงในยุคนี้คนในหมู่บ้านต่างไม่มีขั้นตอนเยอะแบบนี้หรอก เพราะนอกจากเปลืองน้ำแล้ว ยังเปลืองฟืนอีก เธอทำแบบนี้อยู่สองรอบก็ล้างไหครบทั้งหมดสามสิบไห“ล้างเสร็จแล้วเหรอคะ ฉันว่าจะไปช่วยพอดี” สะใภ้รองที่เดินออกจากห้องแม่สามีถาม“อืม” กัวเหม่ยอิงพยักหน้ากัวเหม่ยอิงเดินเข้าครัวพร้อมก

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่89 บทส่งท้าย

    “กรี๊ด”“พี่เสี่ยวลู่!”“หลิงเฟยยย”“ช่วยด้วย!”“ฮ่า ฮ่า”กัวเหม่ยอิงส่ายหัวให้กับภาพตรงหน้า ในรอบหลายเดือนที่สาว ๆ ได้กลับมาเจอกันยังทำตัวเป็นเด็กเหมือนเดิมหานหลินเฟยกับหานหลิงเฟยปิดเทอมได้สองสัปดาห์แล้ว แต่ที่เพิ่งมาถึงปักกิ่งก็เพราะทั้งสองกลับไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านก่อน ค่อยขึ้นมาหาผู้เป็นป้าที่ปักกิ่งแต่น้องชายคนเล็กไม่ได้มาด้วยกัวเหม่ยอิงที่เห็นว่าเด็ก ๆ ได้กลับมาเจอกันในรอบหลายเดือนจึงชวนพี่น้องบ้านหลี่ บ้านสามของน้องชายสามมากินข้าวมื้อเย็นนอกบ้านนอกบ้านก็คือนอกบ้านจริง ๆ บริเวณหน้าบ้านของกัวเหม่ยอิงนอกจากจอดรถไว้แล้วก็ยังมีที่ให้นั่งได้อีก และแต่ก่อนเด็ก ๆ เรียนอยู่ในปักกิ่งก็จะนั่งกินข้าวด้านนอกกันเพราะคนเยอะ ซึ่งทุกคนก็คุ้นเคยกันดีวันนี้กัวเหม่ยอิงลงมือทำกับข้าวมื้อเย็น ทั้งเคาหยก ไข่ตุ๋น ต้มยำปลา ไก่ทอด สามชั้นทอดเกลือ หมูต้มสาหร่าย และของหวานอีกหลายอย่าง เป็นการลงครัวในรอบเดือนด้วยซ้ำเพราะทุกวันนี้หานเมิ่งลู่ลูกสาวคนเดียวของเธอห้ามไม่ให้กัวเหม่ยอิงทำกับข้าว หรือทำงานบ้านเพราะหล่อนจะทำเอง แต่กว่าจะเลิกงานในแต่ละวันกัวเหม่ยอิงทำงานบ้านรอแล้ว“เล่นกันเป็นเด็ก ๆ เลย” เหอลี่

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่88 ลูกสาวคนสวย

    ในระแวกตลาดประจำกรุงปักกิ่งใคร ๆ ก็รู้จักบ้านของคุณนายหานที่มีลูกสาวแสนสวยกับหลาน ๆ ที่สวยไม่แพ้กัน ยิ่งปีนี้พากันเรียนจบถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศแล้วต้องบอกว่านอกจากภูมิใจลูกสาวแล้วกัวเหม่ยอิงก็ภูมิใจหลาน ๆ ด้วย เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท้าฝาหอย ตอนนี้โตพอจะเลี้ยงเธอได้กันหมดแล้ว“คุณนายแม่”“หื้ม”กัวเหม่ยอิงลูบหัวลูกสาวที่พุ่งเข้ามากอด เธอรู้ว่าลูกสาวเครียดเพราะช่วงนี้หล่อนเข้าไปเรียนรู้งานในร้าน แม้จะมีผู้เป็นแม่คอยช่วยเหลือแต่ก็เครียดอยู่ดี เสี่ยวลู่บอกที่ผ่านมาคนเป็นแม่เก่งมาก จากที่มีร้านเล็ก ๆ ตอนนี้ขยายร้านใหญ่มากร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่มีมากถึงสิบสาขา สาขาหลักและสาขาที่สามตั้งอยู่มณฑลบ้านเกิด สาขารอง สาขาสี่ และสาขาห้า กระจายอยู่ในปักกิ่งแต่ก็ไม่ได้ห่างกันมาก เพราะกัวเหม่ยอิงกลัวลูกสาวจะไปมาร้านลำบากสาขาที่หกและสาขาที่เก้าตั้งอยู่ในมหานครฉงชิ่ง สาขาที่เจ็ดและสาขาที่แปดตั้งอยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ และสาขาที่สิบตั้งอยู่ในมหานครเทียนสินยังไม่รวมกับพ่อค้า แม่ค้า ที่เข้ามาขอซื้อเสื้อไปขายต่ออีก หลัง ๆ มานี้กัวเหม่ยอิงให้สั่งเป็นรอบ ๆ จะได้ตัดแยกกับที่เอามาขายในร้าน“เหนื่อยมากเหรอจ๊ะ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่87 ของว่างของเด็ก ๆ

    หลังจากเสร็จงานของย่าหานกัวเหม่ยอิงก็พาสามีกลับปักกิ่งทันที เพราะเป็นห่วงเด็ก ๆ นี่ก็ทิ้งมากันหลายวันแล้วและเป็นไปตามที่สะใภ้รองบอกจริง ๆ แม่หานไม่ยอมไปปักกิ่งด้วย หลานก็เป็นห่วง แต่ห่วงลูกชายคนกลางที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านคนเดียวกัวเหม่ยอิงก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เธอก็ให้สะใภ้รองไปด้วย ให้สะใภ้รองไปช่วยงานสักเดือนสองเดือนก็จะให้กลับมาอยู่ที่บ้านจริง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยงานหรอก แค่ช่วยอยู่กับเด็ก ๆ ระหว่างที่กัวเหม่ยอิงกับหานหรงเจ๋อไปทำธุระกันก็พอ ยิ่งช่วงนี้มีการติดประกาศขายที่ดิน ขายบ้าน ขายตึก กัวเหม่ยอิงก็อยากซื้อเก็บไว้ ถ้าไม่ใช้ค่อยขายต่อหรือให้คนอื่นเช่าแทนกัวเหม่ยอิงคิดว่าตัวเองจะทำงานได้อีกไม่เกินสามสิบปี ระหว่างที่สามารถทำงานได้เธอจึงรีบทำ ยิ่งพื้นที่ทำเลทองในอนาคตกัวเหม่ยอิงก็ต้องรีบซื้อเก็บไว้ เพราะบางผืนสามารถขายต่อในอนาคตได้มากกว่าเดิมหลานพันหยวน“พี่จะทำแบบนี้ทุกวันเลยเหรอคะ” สะใภ้รองถามกัวเหม่ยอิงที่ล้างผลไม้อยู่ทั้งสี่คน กัวเหม่ยอิง หานหรงเจ๋อ สะใภ้รอง และน้องชายสามพึ่งมาถึงบ้านเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ แต่เด็ก ๆ ไปโรงเรียนกันแล้ว กัวเหม่ยอิงเลยปล่อยให้ไปพักกัน แต่ถ้าถึงเวลาเด็ก

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่86 ย่าหานถึงแก่กรรม

    กัวเหม่ยอิงมองคนในบ้านใหญ่ที่ร้องห่มร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาตั้งแต่ที่เธอ หานหรงเจ๋อกลับมาถึงบ้านแล้วแวะมาดูย่าหาน มันคงจะดีกว่านี้ถ้าคนในบ้านใหญ่ร้องไห้มีน้ำตาบ้าง และย่าหานยังไม่ถึงแก่กรรมแต่บ้านใหญ่กลับทำเหมือนย่าหานถึงแก่กรรมแล้ว“ทำไมเขาร้องไห้ไม่มีน้ำตาเลยล่ะคะ” กัวเหม่ยอิงกระซิบถามสามีด้วยความอยากรู้ แต่จริง ๆ ก็คือจะบอกว่าพวกเขาแสดงไม่เนียนกันเลยหานหรงเจ๋อส่ายหน้าเพราะไม่มีคำตอบ แค่ตอนนี้เขาก็เอือมระอาเต็มทนแล้ว มีที่ไหนบ้างที่คนป่วยไม่ไหวแล้วแต่เอาออกมานอนกลางบ้าน ทั้งยังฉุนไปด้วยกลิ่นฉี่และสิ่งปฏิกูลอีก นอกจากกลิ่นแล้วยังไม่ทำความสะอาดอีก“จะ..เจ้าใหญ่ แค่ก ๆ ละ…หลาน มารับ…พี่ ชะ ชาย นะ…น้อง ชาย ไป…ทะ ทำงาน ดะ…ด้วย ใช่…มะ ไหม แค่ก ๆ ”กัวเหม่ยอิงหันขวับทันที แค่ตอนนี้ตัวเองก็ยังเอาชีวิตจะไม่รอดยังจะมาห่วงหลานจากบ้านใหญ่แต่มาทำให้หลานอีกบ้านหนักใจอีก แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เดี๋ยวจะกระอักเลือดซะก่อน“บ้านใหญ่บอกย่าป่วยครับ ผมเลยลงมาดู แต่มานานไม่ได้” หานหรงเจ๋อบอกยังดีที่น้องชายสามทำงานในโรงงานของคนรู้จักจึงลางานมาได้ แต่ก็แลกกับการต้องหาคนไปทำงานแทนระหว่างที่ไม่อยู่ ซึ่งโชคดีที

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่85 นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

    ความสำเร็จของลูกสาวถึงแม้จะเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ แต่มันก็ทำให้กัวเหม่ยอิงร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจ แค่ไม่กี่ปีลูกสาวของเธอก็จบในระดับชั้นประถมแล้ว และตอนนี้ยังเข้าเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นกัวเหม่ยอิงรู้สึกว่าวันนี้มันเร็วมาก เหมือนเมื่อวานเด็กคนนี้ยังร้องไห้ข้าง ๆ เธออยู่ แต่จริง ๆ มันผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปีแล้วปีนี้เสี่ยวลู่อายุสิบสามแล้วแต่เสี่ยวหนิงยังสิบสองย่างสิบสามอยู่ และเด็กแฝดตอนนี้ก็สิบขวบกันแล้ว ส่วนหลานชายคนเล็กก็เพิ่งจะเจ็ดขวบและกัวเหม่ยอิงก็ให้สามีไปรับเขามาเรียนในปักกิ่งแล้วด้วยหลี่เวยเวยกับหลี่หม่าฮัวเรียนจบโรงเรียนภาคค่ำสาขาบัญชีเมื่อสามปีก่อน ทั้งสองมีงานที่มั่นคงแล้วนั้นก็คืองานในร้านเลยขอออกไปใช้ชีวิตข้างนอกกันสองคน ซึ่งกัวเหม่ยอิงก็อนุญาต ที่บ้านเลยมีแค่กัวเหม่ยอิง หานหรงเจ๋อ เสี่ยวหนิง หานหลินเฟย หานหลิงเฟยและหานหลงเฟย แต่พอมีหลานชายคนเล็กมา กัวเหม่ยอิงก็ให้หลี่เวยเวยกลับมาช่วยในบ้าน บางวันก็ให้น้องชายสามมารับเด็ก ๆ ไปนอนด้วยน้องชายสามเรียนจบเศรษฐศาสตร์สาขาวิชาการเงิน ตอนนี้ทำงานในโรงงานขนาดใหญ่ เงินเดือนยังไม่มั่นคงเพราะเพิ่งเริ่มทำงาน แต่ก็มีเงินที่สามารถเลี้ยงครอ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่84 หลี่เวยเวยอยากทำงาน

    การปรับตัวช่วงแรกของเด็กแฝดเป็นการปรับตัวที่ต้องให้เสี่ยวลู่กับเสี่ยวหนิงต้องไปปรับพื้นฐานก่อนเข้าเรียนด้วย เนื่องจากเด็กแฝดไม่ได้เรียนแบบจริงจังและยังไม่เคยเรียนโรงเรียนประถมส่วนสองพี่น้องบ้านลู่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะทั้งสองมีพื้นฐานที่กัวเหม่ยอิงสอนก่อนเปิดเรียนภาคค่ำแล้ว ยิ่งในแต่ละวันสอนแค่หนึ่งถึงสองชั่วโมง ทั้งหลี่เวยเวยกับหลี่หม่าฮัวก็มีเวลาทบทวนการเรียนมากขึ้นห้องนอนห้องแรกเป็นห้องนอนของกัวเหม่ยอิงกับสามี ห้องนอนห้องที่สองเป็นห้องของลูกสาวกับเสี่ยวหนิงเวลาหล่อนจะมานอนที่บ้านห้องนอนห้องที่สามเป็นห้องของหลินเฟย หลิงเฟย ห้องนอนห้องที่สี่เป็นห้องของหลี่เวยเวย ห้องนอนที่ห้าจะเป็นห้องนอนของหลี่หม่าฮัวและสุดท้ายห้องนอนที่หกกัวเหม่ยอิงสั่งให้หานหรงเจ๋อเอาโต๊ะเข้ามาตั้ง และเอาเตียงนอนชิดผนัง ห้องนี้จะเป็นห้องไว้ทำการบ้านหรือห้องอ่านหนังสือของเด็ก ๆเวลามีการบ้านกัวเหม่ยอิงก็จะสอนให้ทำก่อนที่จะไปเล่น เพราะตอนนี้เด็กทั้งสี่มาอยู่ด้วยกันจึงต้องจัดเวลาให้ดี เลิกเรียนกลับมาถึงบ้านให้ทำการบ้านให้เสร็จ หลังจากนั้นจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า ถ้าให้ทำตอนเย็นก็ยุ่งทำกับข้าว ไม่ต้องพูดถึงเวลาอื่

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่83 น้องกับหลานมาปักกิ่ง

    กัวเหม่ยอิงกำลังหาบ้าน เธอให้สามีพาขับรถวนหาแถว ๆ บ้านเช่า บ้านต้องอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนของลูกสาวและตลาดที่ขายเสื้อ เพื่อความสะดวกเวลามีปัญหาหรือไปทำงานในร้านจะไม่ได้เหนื่อยมากบ้านที่เช่าอยู่ตอนนี้มันมีวันที่หมดสัญญา หากเธอไม่เช่าต่อก็แค่ย้ายออก แต่ถ้าจะเช่าต่อก็แค่ทำสัญญาใหม่ และหากสองพี่น้องหลี่กับเด็กแฝดขึ้นมาอยู่ด้วย ห้องที่มีในตอนนี้มันไม่พอ หรือถ้าได้บ้านจริง ๆ กัวเหม่ยอิงก็จะพาไปอยู่ที่บ้าน ส่วนบ้านเช่าหลังนี้ก็ให้น้องชายสามเช่าต่อได้ แต่ถ้าเขาไม่เช่าต่อก็คืนกุญแจโจวเฟินไปกัวเหม่ยอิงมีเงินเก็บมากพอที่จะซื้อบ้านหลังขนาดใหญ่ในปักกิ่ง แต่เงินบางส่วนเก็บไว้ให้ลูกสาว จึงต้องหาบ้านขนาดกลางที่มีห้าถึงหกห้องนอน แต่ถ้าห้องไม่พอและมีพื้นที่อีก กัวเหม่ยอิงก็ยินดีที่จะสร้างห้องเพิ่ม“บ้านหลังนี้เขาขายเหรอคะ” กัวเหม่ยอิงลงจากรถไปถามหญิงชราที่นั่งอยู่หน้าบ้าน แต่ตรงข้ามบ้านนางเป็นบ้านขนาดกลางที่กัวเหม่ยอิงชอบตัวบ้านมีลักษณะที่แปลก“ใช่ ๆ บ้านนี้เขาขาย จะเข้ามาดูเหรอ” คุณยายเอ่ยถาม“ฉันอยากได้บ้านน่ะค่ะเลยแวะมาดู” กัวเหม่ยอิงยิ้มให้นาง จริง ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนนั่งอยู่หน้าบ้านเพราะเป็นเวลากลา

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่82 ว่าที่สะใภ้สามบ้านหาน

    ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านหานกับบ้านเจี๋ยตอนนี้เริ่มสนิทกันแล้ว เพราะทุก ๆ วันหยุดของเด็ก ๆ ไม่กัวเหม่ยอิงก็จางลี่ฮัวที่จะชวนไปกินอาหารมื้อเย็น ไม่ก็ชวนกันไปสวนสาธารณะอีกอย่างไปไหนด้วยกันก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง หานหรงเจ๋อกับเจี๋ยฮงผู้เป็นสามีของจางลี่ฮัวก็เรียกได้ว่าสนิทกัน เพราะบางทีภรรยากับเด็ก ๆ พากันไปทำกิจกรรม สามีทั้งสองจึงต้องเฝ้าของไปด้วยกันจางลี่ฮัวเป็นแม่บ้านที่ต้องเลี้ยงลูก หล่อนจึงว่างเวลาลูกไปเรียนทั้งหมด ส่วนเจี๋ยฮงผู้เป็นสามีเห็นว่าทำงานในโรงงานของคนรู้จัก แต่มีตำแหน่งใหญ่โตที่สามารถเลี้ยงสี่แม่ลูกให้สบายได้ร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่ทั้งสามสาขาทำกำไรในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่าแสนหยวน กัวเหม่ยอิงจึงไม่ค่อยเป็นห่วง เวลาว่างก็จะออกแบบลวดลายเสื้อสั่งโรงงาน แต่บางวันก็ชวนจางลี่ฮัวออกไปหาอะไรทำและเพราะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา กัวเหม่ยอิงรู้สึกทำงานหนักมากเกินไปเลยให้แค่หานหรงเจ๋อแวะเข้าไปดูร้าน แต่วันนี้มีเรื่องราวที่น่าตกใจเหอลี่คบกับน้องชายสาม! จริง ๆ เรื่องนี้จะไม่แดงออกมาหากหานหรงเจ๋อไม่เข้าไปเห็นแล้วมาบอกเธอ เห็นว่าน้องชายสามอยากให้เหอลี่มาเปิดตัวกับเธอแต่หล่อนปฏิเสธ เพราะหล่อ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่81 ประชุมผู้ปกครอง

    ‘คุณลี่มาถามหาพี่ถึงบ้านเลยค่ะ จริง ๆ เขาก็มาสามวันติดแล้ว เลยต้องโทรบอก’เสียงปลายสายทำให้กัวเหม่ยอิงที่นั่งออกแบบลายเสื้อชะงัก มือที่กำลังจับปากกาต้องวางลง แล้วทวนคำบอกเล่าอีกรอบ“คุณลี่มาหาที่บ้าน?”‘ใช่ค่ะ เขาบอกอยากคุยกับพี่ แต่ที่บ้านก็บอกไปแล้วว่าพี่ไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่เราก็รับผลไม้มาจากเขา คุณแม่กลัวว่าจะมีปัญหา’ “เราไม่มีอะไรที่ต้องคุยกัน แล้วคุณลี่ก็แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ เธอบอกคนอื่นว่าไม่ต้องกลัว” กัวเหม่ยอิงบอกเธอไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลาที่กลับบ้านไปสองสัปดาห์ ทำไมเขาไม่มาหาหรือหาทางติดต่อเลยทั้ง ๆ ที่วันนั้นพนักงานมาดักรอเธอ แต่พอเธอกลับมาปักกิ่งกลับไปถามหาเธอซะงั้น อีกอย่างตอนนี้เขาคงจะแต่งงานไปแล้ว‘พี่จะไม่คุยกับเขาจริง ๆ เหรอ’“เราคุยกันแล้ว ฉันมีสามีส่วนเขาคงจะมีภรรยาแล้วด้วย”‘พี่รู้ไหม เขาล่มงานแต่งที่ทางครอบครัวหาให้ ฉันได้ยินมาจากสามีเพราะเขามีเพื่อนเป็นญาติของฝ่ายหญิง ทางนั้นเล่าให้ฟังว่าคุณลี่ไม่เต็มใจจะแต่งตั้งแต่แรกแล้ว'แต่เพราะคุณลี่ยังไม่แต่งงาน งานแต่งที่ว่าจึงต้องเกิดขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นคุณลี่ก็กำลังตามจีบพี่สะใภ้ขอ งหล่อนอยู่ แล้วพอถูกพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status