Share

บทที่10 ช่องทาหาเงิน

last update Last Updated: 2024-12-16 15:44:45

กัวเหม่ยอิงไม่รู้ว่าเลขาธิการของหมู่บ้านทำยังไงให้ได้เงินจากบ้านใหญ่คืนมา แต่เมื่อเช้านี้เขาเป็นคนเอามาให้พวกเธอที่ตื่นมาทำกับข้าวมื้อเช้า ถึงแม้จำนวนเงินจะได้มาเพียง 1,000 หยวน แต่มันก็ทำให้พวกเธออยู่ได้อีกนาน เมื่อรวมกับเงินที่มีก็ถือว่ามากพอแล้ว

“เดี๋ยวสาย ๆ ฉันจะออกไปดูที่ดิน” กัวเหม่ยอิงบอกสะใภ้รองที่กำลังทุบไก่แห้ง

“งั้นฉันจะดูแลเด็ก ๆ ก็แล้วกันค่ะ เมื่อวานคุณแม่อยู่กับหลานทั้งวันท่านคงอยากจะพัก” สะใภ้รองพยักหน้า

อาหารมื้อเช้าของพวกเธอกัวเหม่ยอิงทำแกงจืดเนื้อไก่ให้ผู้เป็นแม่สามี ส่วนพวกเธอนั้นกัวเหม่ยอิงหุงข้าวแล้วนำไปผัดกับไข่ ปรุงรสด้วยเกลือ

“จริงสิ ให้น้องชายสามทำคอกไก่แล้วก็แปลงผักด้วยนะ ถ้าทำเสร็จแล้วค่อยให้ไปหาฟืน” กัวเหม่ยอิงว่าพลางยกหม้อแกงจืดลง

“ได้ค่ะ พี่จะไปดูที่ดินตอนไหน”

“กินข้าวเสร็จ เดี๋ยวอากาศจะร้อน”

สองสะใภ้ต่างช่วยกันทำกับข้าวมื้อเช้าของบ้าน ส่วนน้องชายสามนั้นไปหาบน้ำมาใส่โอ่งให้พวกเธอใช้เพราะน้ำเริ่มจะหมดแล้ว

กัวเหม่ยอิงเทน้ำในชามที่เทน้ำร้อนใส้ไว้เมื่อคืนทิ้ง นำชามไปล้างให้สะอาดแล้วก็นำมาลวกในน้ำร้อน จากนั้นนำไปคว่ำไว้ พอแห้งจึงจะเทน้ำต้มสุกเก็บไว้ จริง ๆ กัวเหม่ยอิงต้องการที่จะเก็บน้ำไว้ในโถหรือไหมากกว่าชาม แต่เพราะไหนั้นกัวเหม่ยอิงกลัวว่าจะไม่สะอาด

ต่อให้ล้างฆ่าเชื้อมากแค่ไหน ถ้าเก็บพวกของกินกัวเหม่ยอิงก็ใส่ได้แต่นี้เป็นน้ำต้มสุกให้เด็กเล็ก

“เสี่ยวลู่หิวแล้วเหรอจ๊ะ” กัวเหม่ยอิงก้มพูดกับเด็กในอ้อมแขน

หลังจากกินข้าวมื้อเช้าเสร็จเด็ก ๆ ก็พากันตื่นพอดี กัวเหม่ยอิงจึงชงนมโดยใช้น้ำที่ต้มไว้ก่อนจะทำกับข้าวมื้อเช้าเพราะต้องรอให้เย็นด้วยจะทำให้สารอาหารในนมไม่ลดลง อันนี้เธอก็ไม่รู้ว่าจริงไหมแต่เห็นคนรู้จักเขาบอกมาแบบนี้ เธอจึงทำตามเพราะมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร อีกอย่างต่อให้ใช้น้ำร้อนก็ต้องรอให้เย็นอีกอยู่ดี

หานเมิ่งลู่น้อยกินนมเก่งมาก คงเพราะน้ำข้าวมีความเหนียวจึงต้องกินช้า ๆ แต่นมที่เธอซื้อมานั้นมันสำหรับเด็กแรกเกิดพอดีหล่อนจึงกินได้ง่ายมาก

กัวเหม่ยอิงรวบมัดผมด้วยผ้าผูกผมจากนั้นจึงหยิบตะกร้าไม้สานขึ้นมาสะพายพร้อมกับหยิบเอาเสียม

ติดมือออกจากบ้าน เธอจะไปดูที่ดินแล้วก็จะลองเข้าป่าแถวนั้นดู 

ในหมู่บ้านนั้นล้อมรอบไปด้วยภูเขา ต้นไม้นานาพันธุ์ และทางออกของหมู่บ้านมีเพียงทางเดียวที่จะออกไปได้ หากไม่รวมกับที่ต้องออกไปทางป่าและแน่นอนว่าไม่มีใครใช้วิธีนี้ โดยป่าที่คนในหมู่บ้านนิยมไปจะเป็นป่าที่คนในหมู่บ้านเข้ากันตั้งแต่ก่อสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นมาแล้ว

 ส่วนป่าที่กัวเหม่ยอิงอยากจะลองเข้าไปในเป็นป่าที่คนในหมู่บ้านไม่เดินเข้าใกล้ ป่าแห่งนี้อยู่ตรงข้ามกับป่าที่เธอเข้าไปวันก่อน และน่าจะเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก คนในหมู่บ้านไม่ได้เข้าไปเป็นสิบกว่าปีแล้วเพราะตอนนั้นเห็นว่ามีนายพรานเข้าไปแล้วไม่ได้กลับออกมา

กัวเหม่ยอิงกระชับตะกร้าขึ้นบ่าอย่างมั่นคงพร้อมกับเดินไปยังจุดหมาย ระหว่างเดินไปคนในหมู่บ้านต่างหันมามองแล้วซุบซิบกัน ใครจะไม่รู้เรื่องราวเมื่อวานกันล่ะ อีกอย่างได้ยินว่าบ้านสามได้เงินคืนเป็นพันหยวน

ไหนสะใภ้รองจะหยุดงานในแปลงนาอีก ทุกคนต่างอิจฉากันมาก ใคร ๆ ก็ไม่อยากทำงาน แต่ก็นั่นแหละ หากไม่ทำงานก็ไม่ได้กิน

โดยเฉพาะบ้านใหญ่สกุลหานที่ไม่ลงรอยกันตั้งแต่เมื่อคืน ไหนเมื่อเช้าเลขาธิการหมู่บ้านยังมาเอาเงินที่พวกเขาไม่รู้ว่ามีเยอะขนาดนั้นไปให้บ้านสามยิ่งทำให้สถานการณ์ภายในแย่ลง หากเรื่องพวกนี้ไม่แดงขึ้นมาพวกเขาก็ไม่รู้ว่าคุณย่าหานเก็บเงินและเก็บทุกอย่างไว้ให้ครอบครัวของลูกชายคนโต แล้วครอบครัวของพวกเขาล่ะ? คุณย่าหานช่างลำเอียง!

‘เหอะ!’

‘ถ้าคุณแม่ไม่เก็บเงินไว้คนเดียวก็คงจะไม่ต้องคืนเยอะขนาดนั้นหรอก’

‘เงียบ ๆ ’

‘จริงค่ะ ฉันไม่คิดว่าคุณแม่จะเก็บไว้ให้บ้านใหญ่หมด’

‘เก็บเงินไว้มากมายแล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ หึ’

‘หุบปาก!’

ที่ดิน 12 หมู่ ที่พ่อสามีซื้อไว้เป็นที่ดินที่ได้มาในราคาถูก หากเป็นคนอื่นขายคงไม่ต่ำกว่า 200 หยวน แต่พ่อสามีของเธอได้มาในราคา 125 หยวนเท่านั้น กัวเหม่ยอิงไม่รู้ว่าที่ดินมันจะกว้างขนาดนี้ และอีกอย่างที่ดินผืนนี้ก็มีครบแทบจะทุกอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นรั้วไม้ที่สูงมากกว่า 2 เมตร แต่หนาแน่นไม่ผุเหมือนกับบ้านที่อยู่ปัจจุบัน บ่อน้ำที่อยู่หลังบ้านไม่ต้องไปลำบากหาบน้ำมาใช้ ไหนจะมีเล้าไก่ เล้าหมูอีก 2-3 เล้า แต่เสียดายที่เจ้าของที่คนเก่านั้นรื้อตัวบ้านออกไปแล้วไม่งั้นเธอคงจะรีบย้ายเข้ามาอยู่

ตรงข้ามกับที่ดินผืนนี้เป็นบ้านของครอบครัวสกุลกัวที่กัวเหม่ยอิงได้เติบโตมา บ้านสกุลกัวมีขนาดน้อยกว่าที่ดินของสามีเธอถึงครึ่งหนึ่ง

 ตัวบ้านเป็นดินโคลนที่สร้างมามากว่าสิบปีแล้ว บ้านสามที่ว่าผุพังยังต้องยอมให้กับบ้านกัว แต่ภายในรั้วบ้านนั้นคงจะดีกว่าบ้านสามเพราะได้รับการดูแลทุกวันจากสมาชิกในครอบครัว

ส่วนบ้านของคนอื่น ๆ ก็อยู่ห่างกันไป แต่บ้านของสกุลกัวนั้นเรียกได้ว่าแยกออกมาจากหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้น หลายบ้านที่อยู่บริเวณนี้ก็ต่างย้ายกันเข้าไปรวมในหมู่บ้าน แต่บ้านสกุลกัวไม่ได้มีเงินพอที่จะย้ายไปจึงต้องอยู่ที่นี่และห่างจากคนอื่น ส่วนที่ดินผืนของสามี สหายของปู่สามีอาศัยอยู่คนเดียวจึงไม่คิดจะย้ายไปไหน ได้ยินว่าเขามีลูกเพียง 3 คน คนโตกับคนรองเป็นผู้หญิงแต่งออกไปอยู่บ้านสามี ส่วนลูกชายคนเล็กทำงานในเมืองและสร้างบ้านอยู่ที่นั่น พอคนเป็นพ่อเกิดเรื่องก็มารับไปอยู่ด้วย

ระหว่างน้องชายสามกลับไปเรียนเธอจะให้เขาหาทางซื้ออิฐมาสร้างบ้านใหม่ ตอนนี้เธอมีคูปองสำหรับใช้สร้างบ้านจำนวนหนึ่งซึ่งคาดว่าจะพอ

กัวเหม่ยอิงหยุดสำรวจที่ดินแล้วสะพายตะกร้าไม้สานเข้าป่า ตอนนี้เธอยังสร้างบ้านใหม่ไม่ได้จึงไม่จำเป็นที่จะต้องสำรวจนาน เธอเพียงมาดูพื้นที่ และที่ดินก็รกมากเพราะไม่มีคนอยู่หลายปีแล้ว

บรรยากาศภายในป่าเงียบสงบและเต็มไปด้วยใบไม้แห้งที่ร่วงลงพื้นดิน กัวเหม่ยอิงหยุดมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินต่อ บรรยากาศเต็มไปด้วยความวังเวงจนน่ากลัวแต่กัวเหม่ยอิงคิดว่าในป่านี้จะต้องเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์แน่ ๆ

หน่อไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและไม่มีใครเก็บเกิดขึ้นเต็มกอไผ่ กัวเหม่ยอิงจึงเก็บใส่ตะกร้าจนเต็ม วันนี้เธอมาคนเดียวจึงไม่กล้าที่จะอยู่นาน เอาไว้ให้พี่ใหญ่กัวพาเข้ามาจะดีกว่า

ส่วนหน่อไม้กัวเหม่ยอิงคิดว่าจะต้มเก็บไว้แล้วลองเอาไปขายในตลาดมืดที่เคยอ่านในนิยายดู ในความทรงจำของกัวเหม่ยอิงแล้วเธอเคยเข้าไปอยู่หลายครั้งแต่เธอเข้าไปซื้อไม่ได้เข้าไปขาย

‘หนักจริง ๆ’ กัวเหม่ยอิงบ่นแต่เธอก็สะพายตะกร้าไม้สานออกจากป่าแล้วกลับบ้าน

เพราะกัวเหม่ยอิงใช้เวลาไม่นานในการเข้าป่าครั้งนี้และรวม ๆ กับที่เดินดูที่ดิน เวลาเธอเดินกลับบ้านจึงเป็นเวลาพักของคนในหมู่บ้านพอดี 

“โอ้ หน่อไม้อวบมาก!” คนในหมู่บ้านที่นั่งพักอยู่สังเกตเห็น

กัวเหม่ยอิงไม่ได้ใช้ผักหรืออะไรปิดหน่อไม้ไว้มันจึงไม่แปลกที่คนในหมู่บ้านจะเห็น และไม่ใช่เพราะเธอตั้งใจให้ทุกคนเห็นแต่เธอลืมหาอะไรปิดต่างหาก

“เธอไปหาหน่อไม้มาจากไหนน่ะสะใภ้ใหญ่!” สะใภ้บ้านเฉียววิ่งเข้ามาดู

หน่อไม้ที่คนในหมู่บ้านเข้าไปหานั้นน้อยมากที่จะอวบและโตขนาดนี้ แค่พ้นดินไม่ถึงวันก็ถูกคนไปขุดเอาแล้ว จะดีหน่อยก็คนที่กล้าเข้าไปหาลึก ๆ ที่จะได้หน่อไม้มาหลายหน่อ

“ในป่าน่ะค่ะ” เพราะเธอไม่ได้มีปัญหากับสะใภ้บ้านเฉียวจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไม่ตอบ

“ฉันเข้าไปหาทุกวันแต่ไม่เจอ” หล่อนว่า

“ต้องเข้าไปหาลึก ๆ น่ะค่ะถึงจะเจอ ฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ” กัวเหม่ยอิงบอกหลังเห็นคนบ้านใหญ่สกุลหานลุกขึ้นยืน

เธอไม่ได้กลัวว่าพวกเขาจะมาเอาหน่อไม้ไป แต่วันนี้เธอไม่ได้อยากปะทะกับใครจึงหลีกเลี่ยง อีกอย่างช่วงนี้ไม่เข้าใกล้บ้านใหญ่จะดีที่สุดแล้ว

“ให้พี่เอาไปส่งไหม” เป็นพี่ใหญ่กัวที่นั่งอยู่บริเวณนี้วิ่งมาดูเมื่อเห็นน้องสาวสะพายของหนัก

กัวเหม่ยอิงส่ายหัว“ไม่ล่ะค่ะ พี่ไปพักเถอะ ฉันเดินไม่นานก็ถึงแล้ว”

“ได้ ๆ ”

กัวเหม่ยอิงเร่งฝีเท้าให้เดินเร็วขึ้นเพราะรู้สึกหนัก กว่าจะถึงบ้านคนในบ้านก็พากันกินข้าวมื้อกลางวันกันแล้ว อันที่จริงเป็นกัวเหม่ยอิงเองที่บอกกับทุกคนว่าไม่ต้องรอเธอ ให้กินกันไปก่อนเลย

“โอ้! หน่อไม้” สะใภ้รองอุทาน

นาน ๆ ทีบ้านสามของพวกเธอจะได้หน่อไม้เพราะไปไม่ทันใคร หน่อไม้ที่ต้มเก็บไว้ก็ยังมีอีก คาดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้จะหามันมาได้อีก

“ต้มเหมือนเดิมเลยนะ” กัวเหม่ยอิงว่าเพราะเธอต้องไปอาบน้ำ

“ได้ค่ะ” สะใภ้รองพยักหน้า

กัวเหม่ยอิงที่ทำความสะอาดร่างกายและกินข้าวเสร็จแล้วออกมาดูน้องชายสามทำเล้าไก่และแปลงผัก คาดว่าพรุ่งนี้คงจะเสร็จทันก่อนที่น้องชายสามจะกลับไปเรียน

“พี่สะใภ้” น้องชายสามทัก

“ไม่ต้องหนาแน่นมากแต่สามารถอยู่ได้อีกหลายเดือน” กัวเหม่ยอิงบอกกับน้องชายสามที่มัดเชือกเล้าไก่

2-3 วันมานี้ไก่ที่ไม่ค่อยออกไข่นั้นออกไข่ให้พวกเธอวันละเกือบสิบฟอง คาดว่าหากพวกเธอบำรุงไก่และให้กินแต่ของดี ๆ ไม่นานมันก็คงจะออกเยอะกว่านี้

“ได้ครับ” น้องชายสามพยักหน้า

กัวเหม่ยอิงเอ่ยเสียงเบา“นายพอจะรู้จักคนขายอิฐไหม” 

น้องชายสามตาโตก่อนจะพยักหน้า “สหายของผมเป็นลูกชายของคนขายอิฐในอำเภอครับ”

“อ่อ” กัวเหม่ยอิงพยักหน้ารับรู้

เอาไว้เขากลับเธอค่อยคุยกับเขาอีกทีดีกว่า เพราะตอนนี้น้องชายสามกำลังทำเล้าไก่อยู่ พอเธอชวนคุยเขาจึงต้องหยุดมือและหันมาคุยกับเธอ

กัวเหม่ยอิงเดินกลับเข้าตัวบ้านไปช่วยสะใภ้รองปอกหน่อไม้เพื่อต้มเก็บเอาไว้ โชคดีที่ที่บ้านมีไหเก็บไว้หลายไหจึงไม่ต้องไปหาซื้อมาไว้

“มื้อเย็นเราจะทำอะไรดี” เพราะเธอทำอาหารได้ก็จริงแต่ก็ทำไม่ค่อยอร่อยเท่าสะใภ้รอง คงจะเป็นเพราะหล่อนทำกับข้าวมาตลอด

“แกงหน่อไม้ใส่เห็ดป่าดีไหมคะ เรายังไม่ได้ใช้เห็ดป่าแห้งเลย” สะใภ้รองว่า เห็ดป่าที่พวกเธอตากเอาไว้และเก็บใส่ไหนั้นมีเต็มไห และพวกเธอก็ยังไม่ได้เอาออกมาทำกับข้าว

กัวเหม่ยอิงพยักหน้า เอาออกมากินก็ดีเหมือนกัน ส่วนแม่สามีก็เพิ่มไข่ต้มให้ก็แล้วกัน

“ไก่ตากแห้ง เห็ดตากแห้งแล้วก็หน่อไม้ที่เราต้มเก็บไว้ พรุ่งนี้แบ่งเตรียมให้น้องชายสามด้วยนะ” กัวเหม่ยอิงบอก

เพราะอีกเพียงเดือนเดียวเท่านั้นน้องชายสามจะจบมัธยมปลาย เธอจึงไม่ได้เตรียมอะไรไปให้เขามาก หรือไม่หากขาดเหลืออะไรก็ให้ไปซื้อเอาเอง

“หน่อไม้พวกนี้ถ้าเราต้มเสร็จแล้วก็น่าจะใช้ไหหลายใบเลยนะคะ” เพราะหน่อไม้มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับไหที่มีขนาดกลางจึงจำเป็นต้องใช้ไหหลายใบ

กัวเหม่ยอิงกระแอม “เธอเคยเข้าไปในตลาดมืดหรือเปล่า” เธอถามเสียงเบาจนเรียกได้ว่าแทบจะกระซิบ

สะใภ้รองตาโตพลางส่ายหัว “ไม่ค่ะ ฉันไม่มีความจำเป็นต้องไปที่นั่น”

และคนในหมู่บ้านอย่างพวกเธอมีน้อยมากที่จะเข้าไปเพราะราคาค่อนข้างจะสูงแม้จะไม่ต้องใช้คูปองก็ตาม

กัวเหม่ยอิงพยักหน้าเบา ๆ เพื่อบอกว่าเธอรับรู้แล้ว แต่เธอก็คิดหาเหตุผลที่จะเข้าไปให้สะใภ้รองไม่ห้าม กัวเหม่ยอิงต้องการที่จะนำหน่อไม้ไปขายในตลาดมืด ไหหนึ่งได้สัก 3-4 เหมาก็คงจะดี

อีกอย่างหน่อไม้ในป่าที่เพิ่งเข้าไปเธอก็เจอเยอะมาก และคงต้องรีบ ๆ ให้น้องชายสามหาอิฐมาสร้างบ้านเพราะเธอไม่อยากแบกหน่อไม้หนัก ๆ กลับมาที่บ้านเพราะมันเหนื่อยมาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่11 ซื้อไหเพิ่ม

    น้องชายสามกลับไปเรียนได้หลายวันแล้ว กลับไปพร้อมกับความหวังของกัวเหม่ยอิงที่อยากจะได้อิฐมาสร้างบ้านหลังใหม่ แม้ในใจของหานหรงอี้อยากจะปฎิเสธแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้พี่สะใภ้ก็เป็นคนดูแลคนในบ้าน จึงต้องพยักหน้ารับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สะใภ้รองห่อของกินให้น้องชายของสามีตามคำสั่งของพี่สะใภ้ ไม่ว่าจะเป็นไก่ตากแห้ง เห็ดตากแห้ง และหน่อไม้ที่ต้มใส่ไหไว้ กัวเหม่ยอิงให้เขาเอาไปให้สหาย 1 ไห เพื่อขอบคุณที่ช่วยดูแลหลานสาว พร้อมกับเงินที่ให้น้องชายของสามีไปใช้อีก 50 หยวน โดยที่กัวเหม่ยอิงบอกให้เขาใช้เต็มที่จนกว่าจะเรียนจบ และบางทีอาจต้องใช้เงินหาอิฐจำนวนมาก หากไม่พอค่อยกลับมาที่บ้านเล้าไก่ถูกซ่อมแซมจนแข็งแรงและทนทาน เธอเสียเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่าเชือกเท่านั้น จากนั้นจึงทำความสะอาดเล้าไก่ โดยนำมูลไก่ไปทำปุ๋ยใส่แปลงผัก ส่วนแปลงผักกัวเหม่ยอิงกลัวว่าจะไม่ทันหากให้น้องชายสามีเป็นคนทำ เธอจึงจ้างพี่ชายของเธอมาทำแปลงผักให้ใหม่ โดยให้วันละ 1 หยวน และทำอย่างอื่นอีกจึงใช้เวลาสองวัน กัวเหม่ยอิงจึงจ่ายเงินให้ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งแน่นอนว่าถูกปฎิเสธเพราะเขาต้องการช่วยน้องสาวเท่านั้น แต่กัวเหม่ยอิงรู้ว่าพี่ชายจะ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่12 คุยกับบ้านกัว

    กัวเหม่ยอิงใช้รถเข็นที่ให้พี่ชายทำขึ้นให้ในการเข็นไหครึ่งหนึ่งไปล้างในแม่น้ำ อันที่จริงมันก็อยู่ไม่ไกลหรอก แต่จะให้หอบไปทีละไหก็กลัวว่าจะเสียเวลาเพราะรถเข็นมีขนาดเล็กไหนจะจำนวนไหที่เยอะอีก กัวเหม่ยอิงจึงแบ่งครึ่งไปล้างสองรอบ โดยเธอใช้น้ำผสมขี้เถ้าที่ผสมไว้ล้างถ้วยชามกับกาบมะพร้าวในการขัดไห ขี้เถ้ามีฤทธิ์เป็นด่างช่วยลดคราบมันได้ด้วยความที่เป็นช่วงบ่ายจึงไม่มีใครมาใช้น้ำ น้ำในแม่ที่คนในหมู่บ้านใช้ทุกวันจึงใสมาก แต่หากเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงานน้ำจะขุ่นเพราะคนในหมู่บ้านจะมาอาบน้ำและซักผ้าที่นี่ ใครบ้านอยู่ใกล้ก็ดีไปเพราะใครอาบน้ำก่อนก็จะได้อาบน้ำที่ใสกว่ากัวเหม่ยอิงล้างไหเสร็จก็คว่ำทิ้งไว้บนรถเข็น พอล้างครบก็เข็นกลับบ้าน จากนั้นก็เอาไปคว่ำทิ้งไว้ที่หลังบ้าน เวลาจะใช้ค่อยนำไปต้มฆ่าเชื้อในน้ำที่เดือดก็ใช้ได้แล้ว อันที่จริงในยุคนี้คนในหมู่บ้านต่างไม่มีขั้นตอนเยอะแบบนี้หรอก เพราะนอกจากเปลืองน้ำแล้ว ยังเปลืองฟืนอีก เธอทำแบบนี้อยู่สองรอบก็ล้างไหครบทั้งหมดสามสิบไห“ล้างเสร็จแล้วเหรอคะ ฉันว่าจะไปช่วยพอดี” สะใภ้รองที่เดินออกจากห้องแม่สามีถาม“อืม” กัวเหม่ยอิงพยักหน้ากัวเหม่ยอิงเดินเข้าครัวพร้อมก

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่13 บ้านกัวตอบตกลง

    มีคนในหมู่บ้านที่มีเกวียนวัวจะเข้าอำเภอพอดี กัวเหม่ยอิงจึงขอติดไปด้วยพร้อมกับให้เงินไป 1 เหมา เป็นค่าเดินทาง ซึ่งเจ้าของเกวียนก็อนุญาตวันนี้กัวเหม่ยอิงจะเข้าอำเภอเพื่อไปซื้อของมาทำซาลาเปาพรุ่งนี้ เพราะบ้านกัวให้คำตกลงแล้วว่าจะมาถอนหญ้าให้เมื่อวันก่อน และที่พวกเขาต้องรอทำพรุ่งนี้เพราะเพิ่งทำเรื่องขอหยุดงานในแปลงเสร็จนอกจากค่าจ้างแล้วกัวเหม่ยอิงก็จะทำกับข้าวมื้อกลางวันให้บ้านกัวด้วย จริง ๆ เธอต้องการจะทำกับข้าวมื้อเช้ากับมื้อกลางวัน แต่บ้านกัวไม่เห็นด้วยเพราะมันสิ้นเปลือง แต่สุดท้ายกัวเหม่ยอิงก็ได้ทำกับข้าวมื้อกลางวัน โดยที่บ้านกัวจะหาเนื้อมาให้“สะใภ้ใหญ่บ้านหาน ฉันจะกลับหมู่บ้านบ่ายสองให้มารอที่นี่” เจ้าของเกวียนวัวบอกกัวเหม่ยอิงพยักหน้าพลางกระชับถุงผ้าในอ้อมกอดแล้วเอ่ยตอบ “ได้ค่ะ ช่วงประมาณบ่ายโมงฉันจะมารอที่นี่”เมื่อเจ้าของเกวียนวัวห่างจากสายตาออกไปกัวเหม่ยอิงก็กำชับผ้าคลุมบนหัวแน่น พร้อมกับเดินเลี่ยงไปยังซอยเปลี่ยว วันนี้กัวเหม่ยอิงลองเอาหน่อไม้มาขายเพราะที่บ้านเริ่มจะไม่มีที่เก็บแล้วยามที่เฝ้าประตูทางเข้าตลาดมืดเดินเข้ามาขวางกัวเหม่ยอิงเอาไว้ กัวเหม่ยอิงจึงหยิบเงินให้เขา 1 เ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่14 ไปหาน้องชายสาม

    ช่วงเช้ามืดก่อนฟ้าสางกัวเหม่ยอิงตื่นขึ้นมานึ่งซาลาเปา เพราะเธอทำไส้ไว้เมื่อคืนนี้พอตื่นมาจึงขึ้นรูปซาลาเปาแล้วนึ่งได้เลย ส่วนกับข้าวแม่สามีนั้นเธอจะทำทีหลังสุดเพราะใช้เวลาทำไม่นานหลังจากการเก็บเกี่ยวธัญพืชในครั้งนี้เสร็จ กัวเหม่ยอิงมีความคิดที่จะเอาไก่ตัวใหม่มาเลี้ยง โดยที่ไก่ในเล้าที่มีคงต้องฆ่าแล้วตากแห้งเอาไว้ ยังไงไก่พวกนี้ก็อยู่มาหลายปีแล้ว และโชคดีที่พอเธอให้กินอาหารดี ๆ มันก็ออกให้วันละหลายฟอง แต่ถึงอย่างงั้นมันก็คงไม่เหมือนกับไก่ที่ยังสาวอยู่“ผัดฝักทองใส่ไข่ด้วยดีไหมคะ เมื่อวานพี่ใหญ่กัวเอามาให้” สะใภ้รองที่กำลังหั่นผักหันมาถามกัวเหม่ยอิงพยักหน้า “เดี๋ยวนึ่งซาลาเปาเสร็จแล้วก็ต้มโจ๊กให้คุณแม่ก่อน จากนั้นค่อยผัดฟักทอง ผัดเยอะหน่อยนะ มื้อกลางวันฉันจะเอาไปให้บ้านกัว”แม้จะเป็นเช้ามืดแต่ตอนนี้คนบ้านกัวคงจะลงมือถอนหญ้ากันแล้ว มันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะตื่นเช้าออกไปทำงาน ยิ่งช่วงเก็บเกี่ยวทุกคนยิ่งตื่นเช้ากันมาก และยิ่งถอนหญ้าใกล้บ้านกัวพวกเข้าจึงรีบเข้าไปถอน ซึ่งกว่าเธอจะไปถึงทุกคนคงจะถอนได้เยอะแล้ว“ผลไม้ที่ซื้อมาเมื่อวานล่ะคะ” สะใภ้รองไม่ใช่คนโง่ การที่พี่สะใภ้ของหล่อนซื้อผลไม

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่15 หน้าคุ้น ๆ

    กัวเหม่ยอิงมองรอบ ๆ ตัว ในสถานที่ที่ไฉ่หูอ้ายพามา น่าจะเป็นที่เก็บอุปกรณ์การก่อสร้าง เพราะนอกจากอิฐแล้วที่นี่ยังมีเหล็ก ไม้ เสา ดินและหินอีกมากมาย ซึ่งมันพร้อมที่จะใช้สร้างบ้านได้เลย แต่ไม่รู้ว่าของพวกนี้มีคนจองไปหรือยัง“ที่นี่ปลอดภัยใช่ไหม” กัวเหม่ยอิงกระซิบถามน้องชายสาม เพราะที่นี่มันเงียบมากแม้จะเป็นวันหยุดเธอจึงระแวงไปบ้างน้องชายสายพนักหน้า “ปลอดภัยครับ ผมมาที่นี่บ่อย ๆ อาจจะเพราะเป็นวันหยุดที่ไม่มีคนทำงานเลยมันจึงเงียบ”ด้วยความที่กำแพงสูงถึงสองเมตรและมีประตูที่แน่นหนา วันหยุดของคนงานที่นี่จึงไม่จำเป็นที่ต้องจะเฝ้า ที่พ่อของสหายเขาอยู่ที่นี่ก็เพราะเขาเป็นหัวหน้าคนงานจึงต้องอยู่ดูเอกสารต่าง ๆ และบางครั้งเขากับสหายก็ได้เข้ามาช่วยกัวเหม่ยอิงพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปข้างใน เมื่อไฉ่หูอ้ายเดินออกมากวักมือเรียกให้เข้าไปข้างใน“สวัสดีครับคุณผู้หญิง” เป็นชายวัยกลางคนที่เอ่ยทักพวกเธอก่อน คนนี้คงจะเป็นพ่อของไฉ่หูอ้ายเพราะมีใบหน้าคล้ายคลึงกันบ้าง“สวัสดีค่ะหัวหน้าไฉ่” กัวเหม่ยอิงตอบหัวหน้าไฉ่ยื่นกระดาษให้กัวเหม่ยอิงอ่านมัน “หูอ้ายบอกผมว่าพี่สะใภ้ของหรงอี้ต้องการอิฐจึงต้องการให้ผมเก็บอิฐไว้

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่16 แม่ม่ายลู่

    บ้านกัวใช้เวลาถอนหญ้าและเก็บกวาดซากต่าง ๆ ในเขตที่ดินจนสะอาดเป็นเวลาเกือบสิบวัน และวันนี้พวกเขาจะทำคอกเลี้ยงสัตว์ให้ใหม่ ไม่ใช่ว่ามันพังแต่มันมีรูอยู่บ้างจึงจะทำให้ และบอกว่าวันนี้ไม่รับค่าจ้างซึ่งสมาชิกบ้านกัวมีกันอยู่หกคน กลัวเหม่ยอิงจึงนับค่าจ้างให้วันละ 1 หยวน และเมื่อคิดว่ายังไงก็จะสิบวันแล้วก็เลยจะให้ 10 หยวนต่อคนเป็นค่าจ้าง สรุปก็คือค่าจ้างทั้งหมด 60 หยวนและแน่นอนว่าบ้านกัวคิดว่าลูกสาวจะให้ค่าจ้างวันละ 1 เหมา จึงไม่ได้คุยเรื่องราคาตั้งแต่แรก และตลอดระยะที่ทำงานให้ลูกสาวคนเล็กของบ้านส่วนมากแม่กัวจะได้มาอยู่เป็นเพื่อนแม่สามีของเธอ และกัวเหม่ยอิงกับสะใภ้รองก็พากันออกไปช่วยทุกคนทำงาน อย่างเช่นวันนี้ที่แม่กัวต้องไปเลี้ยงลูกสาวให้เธอและอยู่เป็นเพื่อนแม่สามี“ฉันว่าพี่รองต้องขยับมาอีกตรงนี้” กัวเหม่ยอิงชี้มือให้พี่ชายรองของเธอขยับไม้ตามที่เธอต้องการพี่ชายรองมองแล้วถาม “พี่ว่ามันใหญ่เกินไปไหมน้องสาวห้า” ตอนนี้พวกเขากำลังล้อมพื้นที่แปลงผักไว้ จึงต้องใช้ไม้สักไว้รอบ ๆกัวเหม่ยอิงส่ายหัว “มันไม่ใหญ่ค่ะ กำลังพอดีแล้ว” เธอตอบเนื่องจากยังไม่สร้างบ้านและยังไม่ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่กัวเหม่ยอ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่17 ไปซื้ออิฐ

    กัวเหม่ยอิงกับสะใภ้รองขอติดเกวียนวัวของคนในหมู่บ้านเข้าอำเภอเพราะไม่ต้องการที่จะเหนื่อยเกินไป โดยที่เธอจ่ายค่าเดินทางให้คนละ 1 เหมา ไม่รวมกับตอนที่จะกลับเพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับมาพร้อมด้วยหรือเปล่า“เราไปหาน้องชายสามกันก่อน” กัวเหม่ยอิงบอกสะใภ้รองทันทีที่ลงจากเกวียนวัวสะใภรองพยักหน้า “ได้ค่ะ เขาคงจะเตรียมตัวรอแล้ว” พวกเธอนัดกันเอาไว้ว่าจะมาวันนี้ ให้น้องชายสามเตรียมตัวรอไว้ได้เลย เพราะพวกเธอเป็นผู้หญิงคงไม่เหมาะหากจะออกหน้าซื้ออิฐเอง อันที่จริงจะซื้อเองก็ไม่ผิดแต่มีน้องชายสามไปด้วยก็อุ่นใจมากกว่ากัวเหม่ยอิงเดินนำสะใภ้รองอย่างคุ้นชินทางในอำเภอที่จะไปห้องพักของน้องชายสาม ส่วนสะใภ้รองแม้จะเดิมตามแต่หล่อนก็จำทางได้พอเดินมาถึงบริเวณหน้าห้องพักดูเหมือนทุกคนจะวุ่นวายกันอยู่ วันนี้พวกเธอออกมาตั้งแต่เช้าจึงไม่แปลกที่จะมีคนอยู่ที่ห้องพัก และบางส่วนก็คงจะไปทำงานกันแล้วสะใภ้รองพอมาถึงก็เอาของที่จะให้น้องชายสามติดตัวไปด้วยให้น้องชายสามที่หน้าห้องพัก แล้วให้เขาเอาเข้าไปเก็บไว้เพราะพวกเธอต้องไปด้วยกันอีก“พี่สะใภ้มาเร็วเกินไปแล้ว” น้องชายสามว่าเมื่อเห็นพี่สะใภ้มาถึงห้องพักในเวลาเจ็ดโมงนิด ๆ แต่พี

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่18 น้องชายรองกลับบ้านแล้ว

    สามวันแล้วที่เมื่อได้ข่าวว่าน้องชายรองของสามีจะกลับมา กัวเหม่ยอิงก็ให้หล่อนทำความสะอาดห้องนอน ส่วนเสี่ยวหนิงที่อยู่ในความดูแลของน้องสะใภ้รอง กัวเหม่ยอิงก็เอามาดูแลระหว่างที่สะใภ้รองกำลังยุ่งส่วนบ้านกัวตอนนี้กลับไปลงแปลงนาแล้วเพราะถึงวันเก็บเกี่ยว และหลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จกัวเหม่ยอิงก็จะคุยกับพี่ชายและพี่สาวเรื่องจะต้องแต่งาน เพราะช่วงนี้เธอก็ไม่ค่อยจะว่างจึงไม่ได้ไปคุย“จ๊ะเอ๋!”“แอ้!”กัวเหม่ยอิงหัวเราะให้หลานสาวที่ทำหน้าตกใจเมื่อเธอเล่นด้วย โดยที่มีเสี่ยวลู่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ กัน เมื่อคืนหล่อนไม่ยอมนอนทั้งคืนตอนนี้ก็เลยหลับไป ส่วนเสี่ยวหนิงตื่นได้สักพักแล้ว กัวเหม่ยอิงไม่มีอะไรทำจึงนั่งเล่นกับหลานสาวแทน“แอะ! แอะ” หานเผยหนิงเป่าน้ำลายเล่นจนกัวเหม่ยอิงต้องยื่นมือเอาผ้ามาเช็ดให้เธอส่ายหน้าพลางลางหัวเราะ “ประท้วงคุณป้าเหรอจ๊ะ” ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นกัวเหม่ยอิงในด้านนี้เพราะเธอต้องออกไปนู่นนี่ตลอดทั้งวันจึงไม่ค่อยได้ใช้เวลากลับเด็ก ๆ ส่วนมากถ้าว่างเด็ก ๆ ก็หลับกัน แต่พอเด็ก ๆ ตื่นกัวเหม่ยอิงก็ไม่ว่างแล้ว“หล่อนคงจะหิวแล้ว” เป็นสะใภ้รองที่เข้ามาหลังทำงานบ้านเสร็จกัวเหม่ยอิงพยักหน้าแล้วส่

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่89 บทส่งท้าย

    “กรี๊ด”“พี่เสี่ยวลู่!”“หลิงเฟยยย”“ช่วยด้วย!”“ฮ่า ฮ่า”กัวเหม่ยอิงส่ายหัวให้กับภาพตรงหน้า ในรอบหลายเดือนที่สาว ๆ ได้กลับมาเจอกันยังทำตัวเป็นเด็กเหมือนเดิมหานหลินเฟยกับหานหลิงเฟยปิดเทอมได้สองสัปดาห์แล้ว แต่ที่เพิ่งมาถึงปักกิ่งก็เพราะทั้งสองกลับไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านก่อน ค่อยขึ้นมาหาผู้เป็นป้าที่ปักกิ่งแต่น้องชายคนเล็กไม่ได้มาด้วยกัวเหม่ยอิงที่เห็นว่าเด็ก ๆ ได้กลับมาเจอกันในรอบหลายเดือนจึงชวนพี่น้องบ้านหลี่ บ้านสามของน้องชายสามมากินข้าวมื้อเย็นนอกบ้านนอกบ้านก็คือนอกบ้านจริง ๆ บริเวณหน้าบ้านของกัวเหม่ยอิงนอกจากจอดรถไว้แล้วก็ยังมีที่ให้นั่งได้อีก และแต่ก่อนเด็ก ๆ เรียนอยู่ในปักกิ่งก็จะนั่งกินข้าวด้านนอกกันเพราะคนเยอะ ซึ่งทุกคนก็คุ้นเคยกันดีวันนี้กัวเหม่ยอิงลงมือทำกับข้าวมื้อเย็น ทั้งเคาหยก ไข่ตุ๋น ต้มยำปลา ไก่ทอด สามชั้นทอดเกลือ หมูต้มสาหร่าย และของหวานอีกหลายอย่าง เป็นการลงครัวในรอบเดือนด้วยซ้ำเพราะทุกวันนี้หานเมิ่งลู่ลูกสาวคนเดียวของเธอห้ามไม่ให้กัวเหม่ยอิงทำกับข้าว หรือทำงานบ้านเพราะหล่อนจะทำเอง แต่กว่าจะเลิกงานในแต่ละวันกัวเหม่ยอิงทำงานบ้านรอแล้ว“เล่นกันเป็นเด็ก ๆ เลย” เหอลี่

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่88 ลูกสาวคนสวย

    ในระแวกตลาดประจำกรุงปักกิ่งใคร ๆ ก็รู้จักบ้านของคุณนายหานที่มีลูกสาวแสนสวยกับหลาน ๆ ที่สวยไม่แพ้กัน ยิ่งปีนี้พากันเรียนจบถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศแล้วต้องบอกว่านอกจากภูมิใจลูกสาวแล้วกัวเหม่ยอิงก็ภูมิใจหลาน ๆ ด้วย เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท้าฝาหอย ตอนนี้โตพอจะเลี้ยงเธอได้กันหมดแล้ว“คุณนายแม่”“หื้ม”กัวเหม่ยอิงลูบหัวลูกสาวที่พุ่งเข้ามากอด เธอรู้ว่าลูกสาวเครียดเพราะช่วงนี้หล่อนเข้าไปเรียนรู้งานในร้าน แม้จะมีผู้เป็นแม่คอยช่วยเหลือแต่ก็เครียดอยู่ดี เสี่ยวลู่บอกที่ผ่านมาคนเป็นแม่เก่งมาก จากที่มีร้านเล็ก ๆ ตอนนี้ขยายร้านใหญ่มากร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่มีมากถึงสิบสาขา สาขาหลักและสาขาที่สามตั้งอยู่มณฑลบ้านเกิด สาขารอง สาขาสี่ และสาขาห้า กระจายอยู่ในปักกิ่งแต่ก็ไม่ได้ห่างกันมาก เพราะกัวเหม่ยอิงกลัวลูกสาวจะไปมาร้านลำบากสาขาที่หกและสาขาที่เก้าตั้งอยู่ในมหานครฉงชิ่ง สาขาที่เจ็ดและสาขาที่แปดตั้งอยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ และสาขาที่สิบตั้งอยู่ในมหานครเทียนสินยังไม่รวมกับพ่อค้า แม่ค้า ที่เข้ามาขอซื้อเสื้อไปขายต่ออีก หลัง ๆ มานี้กัวเหม่ยอิงให้สั่งเป็นรอบ ๆ จะได้ตัดแยกกับที่เอามาขายในร้าน“เหนื่อยมากเหรอจ๊ะ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่87 ของว่างของเด็ก ๆ

    หลังจากเสร็จงานของย่าหานกัวเหม่ยอิงก็พาสามีกลับปักกิ่งทันที เพราะเป็นห่วงเด็ก ๆ นี่ก็ทิ้งมากันหลายวันแล้วและเป็นไปตามที่สะใภ้รองบอกจริง ๆ แม่หานไม่ยอมไปปักกิ่งด้วย หลานก็เป็นห่วง แต่ห่วงลูกชายคนกลางที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านคนเดียวกัวเหม่ยอิงก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เธอก็ให้สะใภ้รองไปด้วย ให้สะใภ้รองไปช่วยงานสักเดือนสองเดือนก็จะให้กลับมาอยู่ที่บ้านจริง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยงานหรอก แค่ช่วยอยู่กับเด็ก ๆ ระหว่างที่กัวเหม่ยอิงกับหานหรงเจ๋อไปทำธุระกันก็พอ ยิ่งช่วงนี้มีการติดประกาศขายที่ดิน ขายบ้าน ขายตึก กัวเหม่ยอิงก็อยากซื้อเก็บไว้ ถ้าไม่ใช้ค่อยขายต่อหรือให้คนอื่นเช่าแทนกัวเหม่ยอิงคิดว่าตัวเองจะทำงานได้อีกไม่เกินสามสิบปี ระหว่างที่สามารถทำงานได้เธอจึงรีบทำ ยิ่งพื้นที่ทำเลทองในอนาคตกัวเหม่ยอิงก็ต้องรีบซื้อเก็บไว้ เพราะบางผืนสามารถขายต่อในอนาคตได้มากกว่าเดิมหลานพันหยวน“พี่จะทำแบบนี้ทุกวันเลยเหรอคะ” สะใภ้รองถามกัวเหม่ยอิงที่ล้างผลไม้อยู่ทั้งสี่คน กัวเหม่ยอิง หานหรงเจ๋อ สะใภ้รอง และน้องชายสามพึ่งมาถึงบ้านเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ แต่เด็ก ๆ ไปโรงเรียนกันแล้ว กัวเหม่ยอิงเลยปล่อยให้ไปพักกัน แต่ถ้าถึงเวลาเด็ก

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่86 ย่าหานถึงแก่กรรม

    กัวเหม่ยอิงมองคนในบ้านใหญ่ที่ร้องห่มร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาตั้งแต่ที่เธอ หานหรงเจ๋อกลับมาถึงบ้านแล้วแวะมาดูย่าหาน มันคงจะดีกว่านี้ถ้าคนในบ้านใหญ่ร้องไห้มีน้ำตาบ้าง และย่าหานยังไม่ถึงแก่กรรมแต่บ้านใหญ่กลับทำเหมือนย่าหานถึงแก่กรรมแล้ว“ทำไมเขาร้องไห้ไม่มีน้ำตาเลยล่ะคะ” กัวเหม่ยอิงกระซิบถามสามีด้วยความอยากรู้ แต่จริง ๆ ก็คือจะบอกว่าพวกเขาแสดงไม่เนียนกันเลยหานหรงเจ๋อส่ายหน้าเพราะไม่มีคำตอบ แค่ตอนนี้เขาก็เอือมระอาเต็มทนแล้ว มีที่ไหนบ้างที่คนป่วยไม่ไหวแล้วแต่เอาออกมานอนกลางบ้าน ทั้งยังฉุนไปด้วยกลิ่นฉี่และสิ่งปฏิกูลอีก นอกจากกลิ่นแล้วยังไม่ทำความสะอาดอีก“จะ..เจ้าใหญ่ แค่ก ๆ ละ…หลาน มารับ…พี่ ชะ ชาย นะ…น้อง ชาย ไป…ทะ ทำงาน ดะ…ด้วย ใช่…มะ ไหม แค่ก ๆ ”กัวเหม่ยอิงหันขวับทันที แค่ตอนนี้ตัวเองก็ยังเอาชีวิตจะไม่รอดยังจะมาห่วงหลานจากบ้านใหญ่แต่มาทำให้หลานอีกบ้านหนักใจอีก แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เดี๋ยวจะกระอักเลือดซะก่อน“บ้านใหญ่บอกย่าป่วยครับ ผมเลยลงมาดู แต่มานานไม่ได้” หานหรงเจ๋อบอกยังดีที่น้องชายสามทำงานในโรงงานของคนรู้จักจึงลางานมาได้ แต่ก็แลกกับการต้องหาคนไปทำงานแทนระหว่างที่ไม่อยู่ ซึ่งโชคดีที

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่85 นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

    ความสำเร็จของลูกสาวถึงแม้จะเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ แต่มันก็ทำให้กัวเหม่ยอิงร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจ แค่ไม่กี่ปีลูกสาวของเธอก็จบในระดับชั้นประถมแล้ว และตอนนี้ยังเข้าเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นกัวเหม่ยอิงรู้สึกว่าวันนี้มันเร็วมาก เหมือนเมื่อวานเด็กคนนี้ยังร้องไห้ข้าง ๆ เธออยู่ แต่จริง ๆ มันผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปีแล้วปีนี้เสี่ยวลู่อายุสิบสามแล้วแต่เสี่ยวหนิงยังสิบสองย่างสิบสามอยู่ และเด็กแฝดตอนนี้ก็สิบขวบกันแล้ว ส่วนหลานชายคนเล็กก็เพิ่งจะเจ็ดขวบและกัวเหม่ยอิงก็ให้สามีไปรับเขามาเรียนในปักกิ่งแล้วด้วยหลี่เวยเวยกับหลี่หม่าฮัวเรียนจบโรงเรียนภาคค่ำสาขาบัญชีเมื่อสามปีก่อน ทั้งสองมีงานที่มั่นคงแล้วนั้นก็คืองานในร้านเลยขอออกไปใช้ชีวิตข้างนอกกันสองคน ซึ่งกัวเหม่ยอิงก็อนุญาต ที่บ้านเลยมีแค่กัวเหม่ยอิง หานหรงเจ๋อ เสี่ยวหนิง หานหลินเฟย หานหลิงเฟยและหานหลงเฟย แต่พอมีหลานชายคนเล็กมา กัวเหม่ยอิงก็ให้หลี่เวยเวยกลับมาช่วยในบ้าน บางวันก็ให้น้องชายสามมารับเด็ก ๆ ไปนอนด้วยน้องชายสามเรียนจบเศรษฐศาสตร์สาขาวิชาการเงิน ตอนนี้ทำงานในโรงงานขนาดใหญ่ เงินเดือนยังไม่มั่นคงเพราะเพิ่งเริ่มทำงาน แต่ก็มีเงินที่สามารถเลี้ยงครอ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่84 หลี่เวยเวยอยากทำงาน

    การปรับตัวช่วงแรกของเด็กแฝดเป็นการปรับตัวที่ต้องให้เสี่ยวลู่กับเสี่ยวหนิงต้องไปปรับพื้นฐานก่อนเข้าเรียนด้วย เนื่องจากเด็กแฝดไม่ได้เรียนแบบจริงจังและยังไม่เคยเรียนโรงเรียนประถมส่วนสองพี่น้องบ้านลู่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะทั้งสองมีพื้นฐานที่กัวเหม่ยอิงสอนก่อนเปิดเรียนภาคค่ำแล้ว ยิ่งในแต่ละวันสอนแค่หนึ่งถึงสองชั่วโมง ทั้งหลี่เวยเวยกับหลี่หม่าฮัวก็มีเวลาทบทวนการเรียนมากขึ้นห้องนอนห้องแรกเป็นห้องนอนของกัวเหม่ยอิงกับสามี ห้องนอนห้องที่สองเป็นห้องของลูกสาวกับเสี่ยวหนิงเวลาหล่อนจะมานอนที่บ้านห้องนอนห้องที่สามเป็นห้องของหลินเฟย หลิงเฟย ห้องนอนห้องที่สี่เป็นห้องของหลี่เวยเวย ห้องนอนที่ห้าจะเป็นห้องนอนของหลี่หม่าฮัวและสุดท้ายห้องนอนที่หกกัวเหม่ยอิงสั่งให้หานหรงเจ๋อเอาโต๊ะเข้ามาตั้ง และเอาเตียงนอนชิดผนัง ห้องนี้จะเป็นห้องไว้ทำการบ้านหรือห้องอ่านหนังสือของเด็ก ๆเวลามีการบ้านกัวเหม่ยอิงก็จะสอนให้ทำก่อนที่จะไปเล่น เพราะตอนนี้เด็กทั้งสี่มาอยู่ด้วยกันจึงต้องจัดเวลาให้ดี เลิกเรียนกลับมาถึงบ้านให้ทำการบ้านให้เสร็จ หลังจากนั้นจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า ถ้าให้ทำตอนเย็นก็ยุ่งทำกับข้าว ไม่ต้องพูดถึงเวลาอื่

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่83 น้องกับหลานมาปักกิ่ง

    กัวเหม่ยอิงกำลังหาบ้าน เธอให้สามีพาขับรถวนหาแถว ๆ บ้านเช่า บ้านต้องอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนของลูกสาวและตลาดที่ขายเสื้อ เพื่อความสะดวกเวลามีปัญหาหรือไปทำงานในร้านจะไม่ได้เหนื่อยมากบ้านที่เช่าอยู่ตอนนี้มันมีวันที่หมดสัญญา หากเธอไม่เช่าต่อก็แค่ย้ายออก แต่ถ้าจะเช่าต่อก็แค่ทำสัญญาใหม่ และหากสองพี่น้องหลี่กับเด็กแฝดขึ้นมาอยู่ด้วย ห้องที่มีในตอนนี้มันไม่พอ หรือถ้าได้บ้านจริง ๆ กัวเหม่ยอิงก็จะพาไปอยู่ที่บ้าน ส่วนบ้านเช่าหลังนี้ก็ให้น้องชายสามเช่าต่อได้ แต่ถ้าเขาไม่เช่าต่อก็คืนกุญแจโจวเฟินไปกัวเหม่ยอิงมีเงินเก็บมากพอที่จะซื้อบ้านหลังขนาดใหญ่ในปักกิ่ง แต่เงินบางส่วนเก็บไว้ให้ลูกสาว จึงต้องหาบ้านขนาดกลางที่มีห้าถึงหกห้องนอน แต่ถ้าห้องไม่พอและมีพื้นที่อีก กัวเหม่ยอิงก็ยินดีที่จะสร้างห้องเพิ่ม“บ้านหลังนี้เขาขายเหรอคะ” กัวเหม่ยอิงลงจากรถไปถามหญิงชราที่นั่งอยู่หน้าบ้าน แต่ตรงข้ามบ้านนางเป็นบ้านขนาดกลางที่กัวเหม่ยอิงชอบตัวบ้านมีลักษณะที่แปลก“ใช่ ๆ บ้านนี้เขาขาย จะเข้ามาดูเหรอ” คุณยายเอ่ยถาม“ฉันอยากได้บ้านน่ะค่ะเลยแวะมาดู” กัวเหม่ยอิงยิ้มให้นาง จริง ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนนั่งอยู่หน้าบ้านเพราะเป็นเวลากลา

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่82 ว่าที่สะใภ้สามบ้านหาน

    ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านหานกับบ้านเจี๋ยตอนนี้เริ่มสนิทกันแล้ว เพราะทุก ๆ วันหยุดของเด็ก ๆ ไม่กัวเหม่ยอิงก็จางลี่ฮัวที่จะชวนไปกินอาหารมื้อเย็น ไม่ก็ชวนกันไปสวนสาธารณะอีกอย่างไปไหนด้วยกันก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง หานหรงเจ๋อกับเจี๋ยฮงผู้เป็นสามีของจางลี่ฮัวก็เรียกได้ว่าสนิทกัน เพราะบางทีภรรยากับเด็ก ๆ พากันไปทำกิจกรรม สามีทั้งสองจึงต้องเฝ้าของไปด้วยกันจางลี่ฮัวเป็นแม่บ้านที่ต้องเลี้ยงลูก หล่อนจึงว่างเวลาลูกไปเรียนทั้งหมด ส่วนเจี๋ยฮงผู้เป็นสามีเห็นว่าทำงานในโรงงานของคนรู้จัก แต่มีตำแหน่งใหญ่โตที่สามารถเลี้ยงสี่แม่ลูกให้สบายได้ร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่ทั้งสามสาขาทำกำไรในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่าแสนหยวน กัวเหม่ยอิงจึงไม่ค่อยเป็นห่วง เวลาว่างก็จะออกแบบลวดลายเสื้อสั่งโรงงาน แต่บางวันก็ชวนจางลี่ฮัวออกไปหาอะไรทำและเพราะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา กัวเหม่ยอิงรู้สึกทำงานหนักมากเกินไปเลยให้แค่หานหรงเจ๋อแวะเข้าไปดูร้าน แต่วันนี้มีเรื่องราวที่น่าตกใจเหอลี่คบกับน้องชายสาม! จริง ๆ เรื่องนี้จะไม่แดงออกมาหากหานหรงเจ๋อไม่เข้าไปเห็นแล้วมาบอกเธอ เห็นว่าน้องชายสามอยากให้เหอลี่มาเปิดตัวกับเธอแต่หล่อนปฏิเสธ เพราะหล่อ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่81 ประชุมผู้ปกครอง

    ‘คุณลี่มาถามหาพี่ถึงบ้านเลยค่ะ จริง ๆ เขาก็มาสามวันติดแล้ว เลยต้องโทรบอก’เสียงปลายสายทำให้กัวเหม่ยอิงที่นั่งออกแบบลายเสื้อชะงัก มือที่กำลังจับปากกาต้องวางลง แล้วทวนคำบอกเล่าอีกรอบ“คุณลี่มาหาที่บ้าน?”‘ใช่ค่ะ เขาบอกอยากคุยกับพี่ แต่ที่บ้านก็บอกไปแล้วว่าพี่ไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่เราก็รับผลไม้มาจากเขา คุณแม่กลัวว่าจะมีปัญหา’ “เราไม่มีอะไรที่ต้องคุยกัน แล้วคุณลี่ก็แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ เธอบอกคนอื่นว่าไม่ต้องกลัว” กัวเหม่ยอิงบอกเธอไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลาที่กลับบ้านไปสองสัปดาห์ ทำไมเขาไม่มาหาหรือหาทางติดต่อเลยทั้ง ๆ ที่วันนั้นพนักงานมาดักรอเธอ แต่พอเธอกลับมาปักกิ่งกลับไปถามหาเธอซะงั้น อีกอย่างตอนนี้เขาคงจะแต่งงานไปแล้ว‘พี่จะไม่คุยกับเขาจริง ๆ เหรอ’“เราคุยกันแล้ว ฉันมีสามีส่วนเขาคงจะมีภรรยาแล้วด้วย”‘พี่รู้ไหม เขาล่มงานแต่งที่ทางครอบครัวหาให้ ฉันได้ยินมาจากสามีเพราะเขามีเพื่อนเป็นญาติของฝ่ายหญิง ทางนั้นเล่าให้ฟังว่าคุณลี่ไม่เต็มใจจะแต่งตั้งแต่แรกแล้ว'แต่เพราะคุณลี่ยังไม่แต่งงาน งานแต่งที่ว่าจึงต้องเกิดขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นคุณลี่ก็กำลังตามจีบพี่สะใภ้ขอ งหล่อนอยู่ แล้วพอถูกพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status