Share

บทที่9 ที่ดินของพี่ใหญ่หานเซิน

Author: Ainthira06
last update Last Updated: 2024-12-16 15:44:02

การที่คุณย่าหานตกใจจนเข่าอ่อนก็เป็นเหมือนกับการยืนยันว่าคุณย่าหานเอาโฉนดที่ดินของบ้านสามไปจริง ๆ ป้าสะใภ้ใหญ่ที่ได้ยินแม่สามีบอกว่าเป็นของลูกชายของนางก็ทำตัวไม่ยอมขึ้นมา แม่สามีของนางตั้งใจจะเอาให้หลานชาย ซึ่งคนนั้นก็คือลูกชายของนางและนางไม่ยอมให้มันหลุดมือไป

“เดี๋ยวสิ! หากมันเป็นของหลานชายจริง มันก็ต้องอยู่กับพวกเธอสิ” ป้าสะใภ้ใหญ่กล่าว

กัวเหม่ยอิงหัวเราะ “ขนาดนี้แล้วป้าสะใภ้ใหญ่ก็คงจะไม่ยอมรับสินะคะ แต่อย่าลืมเรื่องเงินที่ยืมไปด้วยค่ะ” กัวเหม่ยอิงเปลี่ยนเรื่องให้ป้าสะใภ้ใหญ่ไม่ต้องเข้ามายุ่ง

ลุงใหญ่มาเอาเงินไปมากกว่าห้าร้อยหยวนโดยที่พวกนางไม่รู้ก็ว่าแย่แล้ว นางที่มีลายมือการยืมเงินบนเอกสารก็ยิ่งมีชะงักติดหลัง แม่สามีของนางถึงจะไม่ได้ถือเงินเองแล้วแต่นางก็ต้องรับรู้เรื่องเงินที่เข้ามาและออกไป

“ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าพวกเธอไม่ได้โกหก อีกอย่างปู่ของเธอก็ตายไปแล้ว จะให้ไปปลุกสหายของปู่เธอขึ้นมาอีกคนก็คงจะไม่ได้” คุณย่าหานที่มีหลานสาวเข้ามาพยุงเอ่ยขึ้น

นางผ่านโลกมานานกว่าหลานสะใภ้จึงปรับอาการได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นชื่อของหลานชายแต่นางก็หาข้อโต้แย้งไม่ได้ ขนาดนางยังจะเอาให้หลานชายคนโตแล้วคนเป็นพ่ออย่างลูกชายคนที่สามย่อมต้องเอาให้ลูกคนโตเหมือนกัน ครั้งนี้พวกนางพลาดแล้ว

“บนโฉนดจะมีชื่อของสามีฉันค่ะ ให้คุณย่าไปเอามาก็รู้แล้วว่ามันเป็นชื่อใคร” กัวเหม่ยอิงยิ้ม

“ได้!”

กัวเหม่ยอิงมองใบหน้าไม่สบอารมณ์ของคนบ้านใหญ่ด้วยความอารมณ์ดี จะว่าไปแล้วย่าสามีของเธอไม่คิดว่านางจะลำเอียงได้ขนาดนี้ นางเอ่ยปากออกมาเองว่าเป็นชื่อของพี่ใหญ่หานเซินลูกพี่ลูกน้องของสามีเธอ และกัวเหม่ยอิงคิดว่านอกจากย่าสามีแล้ว ก็ไม่มีคนอื่นรู้ ไม่งั้นจะมีอาการตกใจหรือเมื่อย่าสามีบอกว่าเป็นของพี่ใหญ่หานเซิน

พี่ใหญ่หานเซินไม่ได้ทำงานในอำเภอหรือรับตำแหน่งใด ๆ ภายในหมู่บ้าน เขาทำงานเก็บแต้มเหมือนกับคนอื่น ๆ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะซื้อที่ดินผืนนั้นได้ อีกอย่างทุกคนยังไม่ได้แยกบ้านแล้วพี่ใหญ่หานเซินจะไปเอาเงินมาแต่ไหน

คนที่ทำหน้าไม่ยอมรับที่สุดก็คงจะเป็นป้าสะใภ้ใหญ่ นางคิดว่าลูกชายของนางจะได้ที่ดินผืนนั้นในวันที่มันกลับคืนเจ้าของอย่างถูกต้อง

“ต้องขอบคุณเลขาธิการด้วยนะคะ ฉันกับน้องสะใภ้และน้องชายสามต้องขอตัวลาก่อน” กัวเหม่ยอิงหันไปพูดกับเลขาธิการหลังบ้านใหญ่เดินกระฟัดกระเฟียดออกไป 

“ดูแลตัวเองกันดี ๆ ส่วนอีกเรื่องพรุ่งนี้ลุงกับคณะกรรมจะจัดการให้” เลขาธิการตอบ

“ขอบคุณค่ะ”

รอบนี้กัวเหม่ยอิงเดินตามน้องชายสามกลับเพราะไม่ต้องแวะที่ไหนอีกจึงไม่ต้องรีบก็ได้ สองข้างทางเต็มไปด้วยธัญพืชที่เริ่มแตกหน่อขึ้นมา

“นับตั้งแต่พรุ่งนี้เธอไม่ต้องไปลงแปลงนาแล้ว” กัวเหม่ยอิงบอกสะใภ้รองที่เดินข้างกัน

“ทำไมคะ? ถ้าฉันไม่ลงแปลงนาแล้วเราจะมีอะไรกิน” สะใภ้รองแย้ง

เพราะตอนนี้เสาหลักของครอบครัวไม่สามารถส่งเงินมาได้แล้ว ไหนจะน้องสามีที่เรียนกำลังจะจบ หลานสาวสองคนที่ยังเล็ก และแม่สามีที่ป่วยอีก หากหล่อนมัวแต่อู้ทุกคนจะกินอะไรกัน

“ไม่ใช่ว่าเธอรับปากน้องชายสามหรือว่าจะเลี้ยงหลานให้? เธอก็รู้ว่าลำพังแค่เสี่ยวลู่ฉันก็ไม่ไหวแล้ว จะเอาให้แม่สามีเลี้ยงเธอก็คงรู้ว่ามันจะเป็นยังไง” กัวเหม่ยอิงอธิบาย

สะใภ้รองที่แต่งเข้าบ้านสามหลังจากเธอแต่งเข้าไม่ถึงเดือนในตอนนี้หล่อนยังไม่ตั้งครรภ์ น้องชายรองที่ได้รับบาดเจ็บไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง หากสะใภ้รองยังอยากจะมีลูกก็คงต้องพักร่างกายเพราะตั้งแต่แต่งเข้ามานางก็ทำงานหนักมาตลอด ยิ่งช่วงเธอท้องสะใภ้รองยิ่งทำงานหนักกว่าเดิมจนแทบจะไม่ได้พัก

“แต่เราไม่มีเงิน…”

“เธอคิดว่าตอนนี้เราไม่มีเงิน? เธอคงจะลืมไปว่าอีกไม่นานค่าพลีชีพของสามีฉันคงจะถูกส่งมาให้ และสามีเธอถึงเขาจะถูกปลดก็มีเงินเดือนจ่ายให้ในวันสุดท้ายที่ปฏิบัติหน้าที่” กัวเหม่ยอิงว่า

เงินค่าพลีชีพหรือก็คือค่าทำขวัญของครอบครัวนั้นจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับความสำคัญในกองทัพ หากเป็นทหารใหม่ก็ร้อยกว่าหยวน ทหารที่ผ่านการฝึกก็คงจะ 200-300 ร้อยหยวน เป็นขั้น ๆ ไป และสามีของเธอก็เป็นทหารที่ประจำนานแล้วย่อมไม่ต่ำกว่า 1,000 หยวน แน่นอน

“แต่ตอนนี้ยังไม่ได้นี่คะ” สะใภ้รองกังวล

หล่อนไม่ได้กังวลว่าจะไม่ได้เงิน แต่หล่อนกังวลว่าเงินและธัญพืชที่มีอยู่ในตอนนี้จะไม่พอใช้ ยิ่งมีเด็กเล็กและไม่มีนมให้กินอีกยิ่งต้องมีเงินสำรอง ถึงแม้งานในแปลงนาจะทำให้หล่อนได้เงินไม่เยอะ

 แต่ก็เป็นทางเดียวที่ทำให้มีเงินไว้ซื้อธัญพืชและได้ธัญพืชมาเป็นเสบียงสำรองอีก 

“เดี๋ยวเราค่อยคุยกันที่บ้าน ส่วนนายระหว่างรอกลับไปเรียนก็หาฟืนมาเก็บไว้ก็แล้วกัน” กัวเหม่ยอิงหยุดพูดเพราะอยู่นอกบ้าน อีกอย่างคนในหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ต่างเอียงคอมองใกล้จะเคล็ดอยู่แล้ว

“ค่ะ/ครับ”

บรรยากาศของสมาชิกบ้านสามสกุลหานตอนเดินกลับนั้นมีเพียงความเงียบ ช่างแตกต่างจากบ้านใหญ่ที่เดินลากถูกันกลับบ้านพร้อมกับเสียงประท้วงผู้เป็นแม่สามี

ก็แน่สิหากนับรวม ๆ แล้ว หลานชายของคุณย่าหานมีมากกว่าสิบห้าคน แต่คุณย่าหานกลับจะเอาโฉนดที่ดินที่ได้มาจากบ้านสามให้หลานชายคนโต ทุกคนต่างไม่พอใจ พวกเขาที่เป็นลูกและหลานชายต่างก็มีสิทธิ์ในโฉนดนี้

กัวเหม่ยอิงชวนสะใภ้รองปอกหน่อไม้ เธอจะต้มแล้วเก็บเอาไว้กินในวันหน้า ส่วนน้องชายสามให้เขาไปหาฟืนและหากเจอหน่อไม้ก็ให้เก็บมาด้วย ถึงแม้เธอจะบอกแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้คาดหวังเพราะยามนี้ทุกคนคงจะไปเก็บหมดแล้ว

หน่อไม้แปรรูปออกมาได้หลายอย่าง อย่างแรกกัวเหม่ยอิงนำไปนึ่งครึ่งชั่วโมงให้มันสุก หากเป็นอนาคตคงจะเก็บด้วยการนำใส่ถุงแล้วแขวนไว้ แต่เพราะตอนนี้ไม่มีเธอจึงต้องนำไหที่มีในบ้านไปต้มฆ่าเชื้อในน้ำเดือดแล้วรอให้แห้งค่อยเอามาใส่ อย่างที่สองกัวเหม่ยอิงสับให้เป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไปใส่ไหที่ต้มฆ่าเชื้อแล้ว

หน่อไม้ที่ได้มามันสามารถทำให้พวกเธอเก็บไว้กินได้เป็นเดือน เพราะพวกเธอมีแต่คนที่กินไม่เยอะ ไหนจะเห็นที่ตากแห้งไว้อีก พวกเธอคงจะมีเสบียงเก็บไว้กินได้อีกนาง

กุ้งที่จับมามันยังเหลือ อาหารมื้อกลางวันกัวเหม่ยอิงจึงผัดหน่อไม้ใส่กุ้งตัวโต ๆ ปรุงรสด้วยเกลือ

และซอสมักเค็มก็พอใช้ได้ นอกจากผัดหน่อไม้ใส่กุ้ง กัวเหม่ยอิงยังตุ๋นไข่ใส่กุ้งสับและผักที่มีให้แม่สามีกินอีก เพราะผัดหน่อไม้มีรสจัดกัวเหม่ยอิงจึงเพิ่มอย่างอื่นให้แค่แม่สามี

หานเมิ่งลู่กับหานเผยหนิงนั้นรู้ความมากหลังจากดื่มนมอิ่มก็หลับไป กัวเหม่ยอิงจึงให้สะใภ้รองเอากับข้าวไปให้แม่สามีส่วนเด็ก ๆ เธอก็เช็ดตัวให้ระหว่างรอแม่สามีกินข้าวเสร็จ พอทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็เอาเด็ก ๆ ย้ายเข้าไปนอนในห้องของแม่สามีให้นางไม่เหงาเกินไป

ส่วนเธอกับสะใภ้รองก็พากันกินข้าวก่อนน้องชายสามเพราะเธอแยกเอาไว้แล้ว และกว่าจะรอน้องชายสามกลับมาก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานไหม จึงกินข้าวก่อนและเก็บในส่วนของน้องชายสามเอาไว้

ปลาตัวเล็กถูกกัวเหม่ยอิงขอดเกล็ดและแล่แผ่ออก เธอจะนำไปหมักแล้วก็ตากแดดเอาไว้ ตอนนี้กับข้าวที่บ้านมีแต่จานเนื้อที่เธอคิดว่าสำคัญต่อครอบครัวเพียงพอจึงต้องนำปลาที่ได้มาตากแดด ส่วนปลาตัวใหญ่ค่อยตุ๋นเย็นนี้

“นายได้อะไรมาเยอะแยะ” สะใภ้รองถามน้องชายสามีที่สะพายตะกร้ากับฟืนเข้าบ้าน

“หน่อไม้ครับ ผมเห็นมันขึ้นเยอะเลยใช้เวลานาน” น้องชายสามตอบเสียงเบาเพราะกลัวบ้านอื่นได้ยิน

จริง ๆ เขาก็คำนวนเวลาในการกลับมาแล้ว แต่ระหว่างกลับบ้านเขาบังเอิญเห็นหน่อไม้พอดีจึงเก็บกลับมาด้วย

“ดี ๆ ” สะใภ้รองว่าพลางลุกเอาข้าวไปให้น้องชายสามี

ส่วนกัวเหม่ยอิงนั้นหมักปลาที่กำลังจะนำไปตากแดดจึงไม่สามารถลุกไปคุยกับน้องชายสามได้

หน่อไม้ถูกปอกอีกครั้งด้วยสองสะใภ้ และเพราะทำคล่องมือแล้วการปอกหน่อไม้เกือบร้อยหน่อจึงใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

 แต่ถึงจะปอกเสร็จถ้าไม่นึ่งมันก็ไม่เสร็จ กว่าจะทำเรียบร้อยก็ปาไปสามชั่วโมง ส่วนปลาที่หมักไว้นั้นเอาไปตากตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนแล้ว

กัวเหม่ยอิงต้มน้ำร้อนเสียดายที่เธอไม่สามารถหาซื้อขาดนมให้เด็ก ๆ ได้ ไม่อย่างงั้นเด็ก ๆ ก็คงไม่ต้องนอนรอให้พวกเธอใช้ช้อนป้อนแบบนี้

“ต้มน้ำให้เด็ก ๆ เหรอคะ” สะใภ้รองที่ยกไหหน่อไม้ไปเก็บถาม

“อืม น้ำที่ต้มไว้เหลือก็จริงแต่มันก็สกปรกแล้ว” เพราะพวกเธอต้มน้ำแล้วเทใส่ชามไว้ พอทิ้งไว้สักพักฝุ่นก็เริ่มจับ จึงไม่ควรจะดื่มมัน

“ฉันไปแจ้งเลขาธิการแล้วนะคะ เขาตกใจมาก” สะใภ้รองหัวเราะ

เพราะกัวเหม่ยอิงให้เหตุผลสะใภ้รองว่าทำไมหล่อนต้องหยุดงาน ในที่สุดสะใภ้รองก็ไปบอกกับเลขาธิการว่าจะหยุดงานเพราะต้องเลี้ยงเด็กเพิ่ม ส่วนงานที่ทำไปก่อนหน้านี้ก็รอแค่แจกจ่าย ซึ่งทางเลขาธิการก็ไม่ได้ห้ามเพราะมันไม่เกี่ยวกับเขา

“ดีแล้ว แล้วเธอได้ไปถามข่าวน้องชายรองหรือเปล่า” เพราะคนที่มาแจ้งข่าวคือสหายของน้องชายรอง ซึ่งกัวเหม่ยอิงไม่รู้จักและหากจะไปถามก็ยังไง ๆ อยู่เพราะเธอเป็นที่สะใภ้ของเขา จึงต้องให้สะใภ้รองเป็นคนไปถามเอาเอง

“ฉันถามสหายเขาแล้วค่ะ เขาบอกเดี๋ยวจะถามทางนู้นให้” สะใภ้รองพยักหน้า

เพราะสหายของน้องชายรองนั้นไม่ได้เป็นทหารแต่ก็ทำงานในที่เดียวกัน การติดต่อจึงง่ายกว่าพวกเธอที่ต้องไปขอติดต่อและยืนยันตัวตนอีกมากมาย

“อืม” กัวเหม่ยอิงพยักหน้า

พรุ่งนี้คงต้องไปดูที่ดินผืนนั้นซะแล้ว บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากบ้านอื่นก็จริงแต่มันก็ทำให้เธออึดอัด สู้ย้ายไปอยู่อีกที่ที่ปลอดภัยจะดีกว่า

“อีกไม่นานน้องชายสามก็คงเรียนจบแล้ว” สะใภ้รองกล่าว

น้องชายสามเรียนอีก 1 เดือนก็น่าจะได้จบแล้วหากคะแนนหรือการสอบครบก็ไม่มีจะมีอะไรที่น่าผิดคาด ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องหาที่ทำงาน และที่รู้ ๆ กันว่าหากไม่มีเส้นสายงานก็จะหายากมาก

“ใช่ ค่าใช้จ่ายก็คงจะลดลงพอสมควร ให้เขากลับมาอยู่ที่บ้านหลังเรียนจบ” เพราะไม่รู้ว่าเขาจะสามารถหางานได้หรือเปล่า การที่เรียนจบแล้วกลับมาพักอยู่บ้านก่อนเพื่อหางานเป็นการประหยัดเงินได้บ้าง

เธอไม่ได้ว่าเขาเป็นภาระเพราะหากว่ากันตามจริงเธอก็คงจะเหมือนภาระมากกว่า

 พ่อสามีและพี่ชายต่างคาดหวังให้เขาได้เรียนจบในระดับที่สูง และหาเงินเพื่อเลี้ยงครอบครัวเหมือนกับที่พวกเขาเคยหาให้

“เดี๋ยวฉันทำเองดีกว่าค่ะ พี่ไปดูหลานสาวเถอะ” เพราะเธอได้ยินเสียงเด็กร้อง หากปล่อยไว้นานเกรงว่าแม่สามีจะแย่เอา

“ได้”

Related chapters

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่10 ช่องทาหาเงิน

    กัวเหม่ยอิงไม่รู้ว่าเลขาธิการของหมู่บ้านทำยังไงให้ได้เงินจากบ้านใหญ่คืนมา แต่เมื่อเช้านี้เขาเป็นคนเอามาให้พวกเธอที่ตื่นมาทำกับข้าวมื้อเช้า ถึงแม้จำนวนเงินจะได้มาเพียง 1,000 หยวน แต่มันก็ทำให้พวกเธออยู่ได้อีกนาน เมื่อรวมกับเงินที่มีก็ถือว่ามากพอแล้ว“เดี๋ยวสาย ๆ ฉันจะออกไปดูที่ดิน” กัวเหม่ยอิงบอกสะใภ้รองที่กำลังทุบไก่แห้ง“งั้นฉันจะดูแลเด็ก ๆ ก็แล้วกันค่ะ เมื่อวานคุณแม่อยู่กับหลานทั้งวันท่านคงอยากจะพัก” สะใภ้รองพยักหน้าอาหารมื้อเช้าของพวกเธอกัวเหม่ยอิงทำแกงจืดเนื้อไก่ให้ผู้เป็นแม่สามี ส่วนพวกเธอนั้นกัวเหม่ยอิงหุงข้าวแล้วนำไปผัดกับไข่ ปรุงรสด้วยเกลือ“จริงสิ ให้น้องชายสามทำคอกไก่แล้วก็แปลงผักด้วยนะ ถ้าทำเสร็จแล้วค่อยให้ไปหาฟืน” กัวเหม่ยอิงว่าพลางยกหม้อแกงจืดลง“ได้ค่ะ พี่จะไปดูที่ดินตอนไหน”“กินข้าวเสร็จ เดี๋ยวอากาศจะร้อน”สองสะใภ้ต่างช่วยกันทำกับข้าวมื้อเช้าของบ้าน ส่วนน้องชายสามนั้นไปหาบน้ำมาใส่โอ่งให้พวกเธอใช้เพราะน้ำเริ่มจะหมดแล้วกัวเหม่ยอิงเทน้ำในชามที่เทน้ำร้อนใส้ไว้เมื่อคืนทิ้ง นำชามไปล้างให้สะอาดแล้วก็นำมาลวกในน้ำร้อน จากนั้นนำไปคว่ำไว้ พอแห้งจึงจะเทน้ำต้มสุกเก็บไว้ จริง ๆ กัว

    Last Updated : 2024-12-16
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่11 ซื้อไหเพิ่ม

    น้องชายสามกลับไปเรียนได้หลายวันแล้ว กลับไปพร้อมกับความหวังของกัวเหม่ยอิงที่อยากจะได้อิฐมาสร้างบ้านหลังใหม่ แม้ในใจของหานหรงอี้อยากจะปฎิเสธแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้พี่สะใภ้ก็เป็นคนดูแลคนในบ้าน จึงต้องพยักหน้ารับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สะใภ้รองห่อของกินให้น้องชายของสามีตามคำสั่งของพี่สะใภ้ ไม่ว่าจะเป็นไก่ตากแห้ง เห็ดตากแห้ง และหน่อไม้ที่ต้มใส่ไหไว้ กัวเหม่ยอิงให้เขาเอาไปให้สหาย 1 ไห เพื่อขอบคุณที่ช่วยดูแลหลานสาว พร้อมกับเงินที่ให้น้องชายของสามีไปใช้อีก 50 หยวน โดยที่กัวเหม่ยอิงบอกให้เขาใช้เต็มที่จนกว่าจะเรียนจบ และบางทีอาจต้องใช้เงินหาอิฐจำนวนมาก หากไม่พอค่อยกลับมาที่บ้านเล้าไก่ถูกซ่อมแซมจนแข็งแรงและทนทาน เธอเสียเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่าเชือกเท่านั้น จากนั้นจึงทำความสะอาดเล้าไก่ โดยนำมูลไก่ไปทำปุ๋ยใส่แปลงผัก ส่วนแปลงผักกัวเหม่ยอิงกลัวว่าจะไม่ทันหากให้น้องชายสามีเป็นคนทำ เธอจึงจ้างพี่ชายของเธอมาทำแปลงผักให้ใหม่ โดยให้วันละ 1 หยวน และทำอย่างอื่นอีกจึงใช้เวลาสองวัน กัวเหม่ยอิงจึงจ่ายเงินให้ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งแน่นอนว่าถูกปฎิเสธเพราะเขาต้องการช่วยน้องสาวเท่านั้น แต่กัวเหม่ยอิงรู้ว่าพี่ชายจะ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่12 คุยกับบ้านกัว

    กัวเหม่ยอิงใช้รถเข็นที่ให้พี่ชายทำขึ้นให้ในการเข็นไหครึ่งหนึ่งไปล้างในแม่น้ำ อันที่จริงมันก็อยู่ไม่ไกลหรอก แต่จะให้หอบไปทีละไหก็กลัวว่าจะเสียเวลาเพราะรถเข็นมีขนาดเล็กไหนจะจำนวนไหที่เยอะอีก กัวเหม่ยอิงจึงแบ่งครึ่งไปล้างสองรอบ โดยเธอใช้น้ำผสมขี้เถ้าที่ผสมไว้ล้างถ้วยชามกับกาบมะพร้าวในการขัดไห ขี้เถ้ามีฤทธิ์เป็นด่างช่วยลดคราบมันได้ด้วยความที่เป็นช่วงบ่ายจึงไม่มีใครมาใช้น้ำ น้ำในแม่ที่คนในหมู่บ้านใช้ทุกวันจึงใสมาก แต่หากเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงานน้ำจะขุ่นเพราะคนในหมู่บ้านจะมาอาบน้ำและซักผ้าที่นี่ ใครบ้านอยู่ใกล้ก็ดีไปเพราะใครอาบน้ำก่อนก็จะได้อาบน้ำที่ใสกว่ากัวเหม่ยอิงล้างไหเสร็จก็คว่ำทิ้งไว้บนรถเข็น พอล้างครบก็เข็นกลับบ้าน จากนั้นก็เอาไปคว่ำทิ้งไว้ที่หลังบ้าน เวลาจะใช้ค่อยนำไปต้มฆ่าเชื้อในน้ำที่เดือดก็ใช้ได้แล้ว อันที่จริงในยุคนี้คนในหมู่บ้านต่างไม่มีขั้นตอนเยอะแบบนี้หรอก เพราะนอกจากเปลืองน้ำแล้ว ยังเปลืองฟืนอีก เธอทำแบบนี้อยู่สองรอบก็ล้างไหครบทั้งหมดสามสิบไห“ล้างเสร็จแล้วเหรอคะ ฉันว่าจะไปช่วยพอดี” สะใภ้รองที่เดินออกจากห้องแม่สามีถาม“อืม” กัวเหม่ยอิงพยักหน้ากัวเหม่ยอิงเดินเข้าครัวพร้อมก

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่13 บ้านกัวตอบตกลง

    มีคนในหมู่บ้านที่มีเกวียนวัวจะเข้าอำเภอพอดี กัวเหม่ยอิงจึงขอติดไปด้วยพร้อมกับให้เงินไป 1 เหมา เป็นค่าเดินทาง ซึ่งเจ้าของเกวียนก็อนุญาตวันนี้กัวเหม่ยอิงจะเข้าอำเภอเพื่อไปซื้อของมาทำซาลาเปาพรุ่งนี้ เพราะบ้านกัวให้คำตกลงแล้วว่าจะมาถอนหญ้าให้เมื่อวันก่อน และที่พวกเขาต้องรอทำพรุ่งนี้เพราะเพิ่งทำเรื่องขอหยุดงานในแปลงเสร็จนอกจากค่าจ้างแล้วกัวเหม่ยอิงก็จะทำกับข้าวมื้อกลางวันให้บ้านกัวด้วย จริง ๆ เธอต้องการจะทำกับข้าวมื้อเช้ากับมื้อกลางวัน แต่บ้านกัวไม่เห็นด้วยเพราะมันสิ้นเปลือง แต่สุดท้ายกัวเหม่ยอิงก็ได้ทำกับข้าวมื้อกลางวัน โดยที่บ้านกัวจะหาเนื้อมาให้“สะใภ้ใหญ่บ้านหาน ฉันจะกลับหมู่บ้านบ่ายสองให้มารอที่นี่” เจ้าของเกวียนวัวบอกกัวเหม่ยอิงพยักหน้าพลางกระชับถุงผ้าในอ้อมกอดแล้วเอ่ยตอบ “ได้ค่ะ ช่วงประมาณบ่ายโมงฉันจะมารอที่นี่”เมื่อเจ้าของเกวียนวัวห่างจากสายตาออกไปกัวเหม่ยอิงก็กำชับผ้าคลุมบนหัวแน่น พร้อมกับเดินเลี่ยงไปยังซอยเปลี่ยว วันนี้กัวเหม่ยอิงลองเอาหน่อไม้มาขายเพราะที่บ้านเริ่มจะไม่มีที่เก็บแล้วยามที่เฝ้าประตูทางเข้าตลาดมืดเดินเข้ามาขวางกัวเหม่ยอิงเอาไว้ กัวเหม่ยอิงจึงหยิบเงินให้เขา 1 เ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่14 ไปหาน้องชายสาม

    ช่วงเช้ามืดก่อนฟ้าสางกัวเหม่ยอิงตื่นขึ้นมานึ่งซาลาเปา เพราะเธอทำไส้ไว้เมื่อคืนนี้พอตื่นมาจึงขึ้นรูปซาลาเปาแล้วนึ่งได้เลย ส่วนกับข้าวแม่สามีนั้นเธอจะทำทีหลังสุดเพราะใช้เวลาทำไม่นานหลังจากการเก็บเกี่ยวธัญพืชในครั้งนี้เสร็จ กัวเหม่ยอิงมีความคิดที่จะเอาไก่ตัวใหม่มาเลี้ยง โดยที่ไก่ในเล้าที่มีคงต้องฆ่าแล้วตากแห้งเอาไว้ ยังไงไก่พวกนี้ก็อยู่มาหลายปีแล้ว และโชคดีที่พอเธอให้กินอาหารดี ๆ มันก็ออกให้วันละหลายฟอง แต่ถึงอย่างงั้นมันก็คงไม่เหมือนกับไก่ที่ยังสาวอยู่“ผัดฝักทองใส่ไข่ด้วยดีไหมคะ เมื่อวานพี่ใหญ่กัวเอามาให้” สะใภ้รองที่กำลังหั่นผักหันมาถามกัวเหม่ยอิงพยักหน้า “เดี๋ยวนึ่งซาลาเปาเสร็จแล้วก็ต้มโจ๊กให้คุณแม่ก่อน จากนั้นค่อยผัดฟักทอง ผัดเยอะหน่อยนะ มื้อกลางวันฉันจะเอาไปให้บ้านกัว”แม้จะเป็นเช้ามืดแต่ตอนนี้คนบ้านกัวคงจะลงมือถอนหญ้ากันแล้ว มันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะตื่นเช้าออกไปทำงาน ยิ่งช่วงเก็บเกี่ยวทุกคนยิ่งตื่นเช้ากันมาก และยิ่งถอนหญ้าใกล้บ้านกัวพวกเข้าจึงรีบเข้าไปถอน ซึ่งกว่าเธอจะไปถึงทุกคนคงจะถอนได้เยอะแล้ว“ผลไม้ที่ซื้อมาเมื่อวานล่ะคะ” สะใภ้รองไม่ใช่คนโง่ การที่พี่สะใภ้ของหล่อนซื้อผลไม

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่15 หน้าคุ้น ๆ

    กัวเหม่ยอิงมองรอบ ๆ ตัว ในสถานที่ที่ไฉ่หูอ้ายพามา น่าจะเป็นที่เก็บอุปกรณ์การก่อสร้าง เพราะนอกจากอิฐแล้วที่นี่ยังมีเหล็ก ไม้ เสา ดินและหินอีกมากมาย ซึ่งมันพร้อมที่จะใช้สร้างบ้านได้เลย แต่ไม่รู้ว่าของพวกนี้มีคนจองไปหรือยัง“ที่นี่ปลอดภัยใช่ไหม” กัวเหม่ยอิงกระซิบถามน้องชายสาม เพราะที่นี่มันเงียบมากแม้จะเป็นวันหยุดเธอจึงระแวงไปบ้างน้องชายสายพนักหน้า “ปลอดภัยครับ ผมมาที่นี่บ่อย ๆ อาจจะเพราะเป็นวันหยุดที่ไม่มีคนทำงานเลยมันจึงเงียบ”ด้วยความที่กำแพงสูงถึงสองเมตรและมีประตูที่แน่นหนา วันหยุดของคนงานที่นี่จึงไม่จำเป็นที่ต้องจะเฝ้า ที่พ่อของสหายเขาอยู่ที่นี่ก็เพราะเขาเป็นหัวหน้าคนงานจึงต้องอยู่ดูเอกสารต่าง ๆ และบางครั้งเขากับสหายก็ได้เข้ามาช่วยกัวเหม่ยอิงพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปข้างใน เมื่อไฉ่หูอ้ายเดินออกมากวักมือเรียกให้เข้าไปข้างใน“สวัสดีครับคุณผู้หญิง” เป็นชายวัยกลางคนที่เอ่ยทักพวกเธอก่อน คนนี้คงจะเป็นพ่อของไฉ่หูอ้ายเพราะมีใบหน้าคล้ายคลึงกันบ้าง“สวัสดีค่ะหัวหน้าไฉ่” กัวเหม่ยอิงตอบหัวหน้าไฉ่ยื่นกระดาษให้กัวเหม่ยอิงอ่านมัน “หูอ้ายบอกผมว่าพี่สะใภ้ของหรงอี้ต้องการอิฐจึงต้องการให้ผมเก็บอิฐไว้

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่16 แม่ม่ายลู่

    บ้านกัวใช้เวลาถอนหญ้าและเก็บกวาดซากต่าง ๆ ในเขตที่ดินจนสะอาดเป็นเวลาเกือบสิบวัน และวันนี้พวกเขาจะทำคอกเลี้ยงสัตว์ให้ใหม่ ไม่ใช่ว่ามันพังแต่มันมีรูอยู่บ้างจึงจะทำให้ และบอกว่าวันนี้ไม่รับค่าจ้างซึ่งสมาชิกบ้านกัวมีกันอยู่หกคน กลัวเหม่ยอิงจึงนับค่าจ้างให้วันละ 1 หยวน และเมื่อคิดว่ายังไงก็จะสิบวันแล้วก็เลยจะให้ 10 หยวนต่อคนเป็นค่าจ้าง สรุปก็คือค่าจ้างทั้งหมด 60 หยวนและแน่นอนว่าบ้านกัวคิดว่าลูกสาวจะให้ค่าจ้างวันละ 1 เหมา จึงไม่ได้คุยเรื่องราคาตั้งแต่แรก และตลอดระยะที่ทำงานให้ลูกสาวคนเล็กของบ้านส่วนมากแม่กัวจะได้มาอยู่เป็นเพื่อนแม่สามีของเธอ และกัวเหม่ยอิงกับสะใภ้รองก็พากันออกไปช่วยทุกคนทำงาน อย่างเช่นวันนี้ที่แม่กัวต้องไปเลี้ยงลูกสาวให้เธอและอยู่เป็นเพื่อนแม่สามี“ฉันว่าพี่รองต้องขยับมาอีกตรงนี้” กัวเหม่ยอิงชี้มือให้พี่ชายรองของเธอขยับไม้ตามที่เธอต้องการพี่ชายรองมองแล้วถาม “พี่ว่ามันใหญ่เกินไปไหมน้องสาวห้า” ตอนนี้พวกเขากำลังล้อมพื้นที่แปลงผักไว้ จึงต้องใช้ไม้สักไว้รอบ ๆกัวเหม่ยอิงส่ายหัว “มันไม่ใหญ่ค่ะ กำลังพอดีแล้ว” เธอตอบเนื่องจากยังไม่สร้างบ้านและยังไม่ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่กัวเหม่ยอ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่17 ไปซื้ออิฐ

    กัวเหม่ยอิงกับสะใภ้รองขอติดเกวียนวัวของคนในหมู่บ้านเข้าอำเภอเพราะไม่ต้องการที่จะเหนื่อยเกินไป โดยที่เธอจ่ายค่าเดินทางให้คนละ 1 เหมา ไม่รวมกับตอนที่จะกลับเพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับมาพร้อมด้วยหรือเปล่า“เราไปหาน้องชายสามกันก่อน” กัวเหม่ยอิงบอกสะใภ้รองทันทีที่ลงจากเกวียนวัวสะใภรองพยักหน้า “ได้ค่ะ เขาคงจะเตรียมตัวรอแล้ว” พวกเธอนัดกันเอาไว้ว่าจะมาวันนี้ ให้น้องชายสามเตรียมตัวรอไว้ได้เลย เพราะพวกเธอเป็นผู้หญิงคงไม่เหมาะหากจะออกหน้าซื้ออิฐเอง อันที่จริงจะซื้อเองก็ไม่ผิดแต่มีน้องชายสามไปด้วยก็อุ่นใจมากกว่ากัวเหม่ยอิงเดินนำสะใภ้รองอย่างคุ้นชินทางในอำเภอที่จะไปห้องพักของน้องชายสาม ส่วนสะใภ้รองแม้จะเดิมตามแต่หล่อนก็จำทางได้พอเดินมาถึงบริเวณหน้าห้องพักดูเหมือนทุกคนจะวุ่นวายกันอยู่ วันนี้พวกเธอออกมาตั้งแต่เช้าจึงไม่แปลกที่จะมีคนอยู่ที่ห้องพัก และบางส่วนก็คงจะไปทำงานกันแล้วสะใภ้รองพอมาถึงก็เอาของที่จะให้น้องชายสามติดตัวไปด้วยให้น้องชายสามที่หน้าห้องพัก แล้วให้เขาเอาเข้าไปเก็บไว้เพราะพวกเธอต้องไปด้วยกันอีก“พี่สะใภ้มาเร็วเกินไปแล้ว” น้องชายสามว่าเมื่อเห็นพี่สะใภ้มาถึงห้องพักในเวลาเจ็ดโมงนิด ๆ แต่พี

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่54 ลิขิตฟ้า ชะตาสวรรค์

    ไข่เป็ดเป็นไข่ที่มีกลิ่นแรง เวลาทำอาหารถ้าไม่ใช่คนที่ทำอาหารเก่ง หรือรู้วิธีทำให้ไข่เป็ดไม่ให้มีกลิ่นคาวในยุคนี้หายากมาก บ้านไหนที่มีกำลังซื้อไข่กินก็จะเลือกซื้อไข่ไก่มากกว่าไข่เป็ดอย่างไข่เป็ดกับไข่ไก่ที่เอามาวางขายที่ร้าน กัวเหม่ยอิงถามคนในบ้านดูแล้ว มันถูกซื้อน้อยกว่าไข่ไก่เป็นครึ่ง อีกอย่างไข่เป็ดก็เหลือกลับบ้านทุกวัน เพราะกัวเหม่ยอิงกลัวว่าเป็ดกับลูกเจี๊ยบจะฟักไข่ออกมาเป็นตัว ถ้าวันไหนขายไม่หมดก็ให้เอากลับมากินที่บ้าน อีกอย่างถ้าเก็บไว้มันก็จะผสมกับไข่ใหม่ ถ้าลูกค้าได้ไข่ที่ไม่ดีไปร้านก็จะเสียหายกัวเหม่ยอิงที่กลับมาอยู่บ้านหลายวันจึงแก้ปัญหาด้วยการที่ขายแค่ไข่ไก่ และนำไข่เป็ดที่ได้ในแต่ละวันออกมาทำไข่เค็ม บางส่วนก็นำไปทำอาหารกินในบ้านแต่ไข่ไก่ที่ร้านนั้นต้องบอกว่ามันขายดีมาก กัวเหม่ยอิงจึงเช่าที่ดินของบ้านกัวข้างบ้านในการสร้างเล้าแล้วเลี้ยงเป็ดกับไก่ โชคดีที่บ้านกัวได้เก็บเกี่ยวข้าวที่ทำหมดแล้วและปล่อยที่ดินว่างไว้ กัวเหม่ยอิงจึงขอเช่าที่ข้างบ้านปีละหนึ่งพันหยวน มันจะสามารถเลี้ยงไก่กับเป็นได้เป็นพัน ๆ ตัวซึ่งแน่นอนว่าตอนแรกบ้านกัวจะไม่รับเงินในส่วนนี้ แต่กัวเหม่ยอิงก็ได้อธิบา

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่53 เสื้อยืดมีลาย

    กัวเหม่ยอิงสอนมู่ลี่ มู่จี้ ทำบัญชีของร้าน เพราะเธอต้องกลับไปที่อำเภอจึงต้องให้สองสาวฝาแฝดเป็นคนจัดการในร้าน เธอต้องการขยายร้านให้มีหลายสาขาและขั้นตอนแรกเธอจึงต้องไว้ใจให้พนักงานเป็นคนดูแล และจะเข้ามาตรวจสอบเป็นระยะเอาส่วนเรื่องหน้าร้านกลัวเหม่ยอิงไม่ได้เป็นห่วงแล้ว ทั้งสองรู้จักวิธีขาย และจัดการเวลาพักได้อย่างดีตลอดหนึ่งเดือนที่ได้เปิดร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่ร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่ถูกพูดถึงไปทั่วมณฑล เวลากัวเหม่ยอิงไปสั่งซื้อเสื้อยืดจากร้านประจำ เธอก็ถูกเเจ้าของร้านแซวว่าตอนนี้ร้านของเธอไปได้ไกลกว่าหล่อนซะอีก ซึ่งเธอก็บอกว่าเป็นแค่ช่วงขาขึ้นและตอนนี้กัวเหม่ยอิงได้ย้ายที่พักแล้ว มันเป็นบ้านพักสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว และหนึ่งห้องโถง มันเป็นหนึ่งในบ้านเช่าของคุณลี่หวานที่พอรู้ว่ากัวเหม่ยอิงหาบ้านก็ตื้อให้มาพักในบ้านเช่าของเขา โดยให้เหตุผลว่าไหน ๆ เธอก็จะกลับไปอยู่ที่อำเภอ แล้วเข้ามาพักในมณฑลเป็นบางครั้ง ก็เช่าบ้านเช่าเขาก็ได้ โดยที่เช่าเดือนละ 100 หยวน ซึ่งมันถูกมากหากเทียบกับคนอื่นที่เช่า เพราะบ้านเช่าแบบนี้เดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 200 หยวนซึ่งกัวเหม่ยอิงจะกลับบ้านพรุ่งนี้ วันนี

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่52 ร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่

    ภายในตัวร้านเป็นร้านขนาดเล็กแต่พอเอาของที่อยู่ภายในร้านออก มันก็กว้างแทบจะพอ ๆ กับร้านขายของหานอีเลย ซึ่งกว่าจะใช้เวลาทำความสะอาดและต่อเติมมันก็เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ระหว่างที่รอร้านต่อเติมเสร็จกัวเหม่ยอิงก็แวะไปดูเสื้อที่สั่งตัดเย็บด้วย จากที่ตอนแรกมันจะได้วันละไม่ถึงห้าสิบตัว แต่พอกัวเหม่ยอิงให้ตัวละ 2 หยวน ทุกคนจึงเร่งฝีมือทำให้ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เสื้อยืดที่ได้ส่งไปให้โรงตัดเย็บก็ปักเสร็จพอดี กัวเหม่ยอิงจึงให้ผู้หญิงในโรงตัดเย็บที่ฝีมือดีออกแบบลายเสื้อผ้าให้ส่วนสองสาวฝาแฝดมู่กัวเหม่ยอิงได้ทดสอบความรู้ของพวกเธอไป พวกเธอมีความรู้และรู้จักตัวหนังสือเยอะพอสมควร ตลอดหนึ่งสัปดาห์กัวเหม่ยอิงจึงได้บอกระบบของร้านว่าควรจะทำยังไง เวลาขายเสื้อได้ต้องจดยังไงซึ่งกัวเหม่ยอิงไม่ได้คาดหวังให้ร้านเสื้อผ้าของเธอเป็นร้านใหญ่ที่สุดในมณฑล แต่เธอคาดหวังว่าร้านจะเป็นที่รู้จักไม่ว่าจะมณฑลนี้ หรือมณฑลไหน“เธอจดผิดนะมู่ลี่ มันต้องขีดสีขาวสองตัว สีดำสามตัว ไม่ใช่สีขาวสาม สีดำสอง” กัวเหม่ยอิงชี้จุดผิดให้หล่อนดูกำหนดเปิดร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่ ที่ย่อมาจากหานเมิ่งลู่ลูกสาวของเธอคืออีกสองวันข้างหน้า วันนี้

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่51 ได้ร้านเช่าแล้ว

    ก่อนที่จะไปหาเช่าสถานที่เปิดร้านเสื้อผ้า กัวเหม่ยอิงก็ได้เข้าไปสั่งซื้อเสื้อยืดจากร้านประจำ รอบนี้กัวเหม่ยอิงสั่งซื้อแค่จำนวน 500 ตัว โดยที่แยกเป็นสีดำ สีขาวสีละ 250 ตัว ที่เธอสั่งมาแค่ 500 ตัว ก็เพราะตอนนี้เธอยังอยู่ที่โรงแรม ร้านที่จะเปิดขายเสื้อผ้าก็ยังไม่มี จึงไม่อยากรบกวนทางโรงแรมมากนักเนื่องจากเธอได้รบกวนคุณลี่หวานมา 2 วันติด วันนี้จึงไม่ได้ให้เขามาช่วยหาร้านเช่าขายเสื้อ แต่เธอได้ฝากเสื้อยืดทั้งหมดให้คุณลี่หวานไปให้โรงตัดเย็บแล้วส่วนวันนี้หลังจากกินข้าวมื้อเช้าในห้องเสร็จกัวเหม่ยอิงกับพี่ใหญ่กัวก็เปลี่ยนชุด เตรียมตัวออกไปหาร้านเช่ากัน โชคดีที่โรงแรมไม่ได้ห่างย่านการค้ามากกัวเหม่ยอิงไม่ได้เจาะจงว่าร้านขายเสื้อจะเป็นตึกหรือเป็นร้านเล็ก ๆ เธอขอแค่ให้เป็นร้านที่ไม่ได้แออัดมาก และเป็นร้านที่โดดเด่นหรือไม่ก็เป็นที่สังเกตได้ง่ายของเหล่าลูกค้า“พี่ถามคุณลี่แล้ว เขาบอกห้องเช่าจะถูกกว่าตึกเกือบครึ่งหนึ่งเลย ถึงจะเล็กกว่ามาก แแต่เขาก็แนะนำให้เช่าห้องเช่าในย่านการค้า แล้วเขาก็บอกอีกว่าให้ทำสัญญาเช่าสักปี สองปี ไม่ต้องเช่านานแต่ก็ไม่เช่าน้อยไป เพราะถ้าเราขายดีแล้วเจ้าของที่จะไม่ให้เราขายต

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่50 โรงตัดเย็บสมาคมแม่บ้าน

    คุณลี่หวานพากัวเหม่ยอิงขับรถวนหาโรงงาน7-8โรงงานแล้ว บางโรงงานมันก็ดี แต่สำหรับกัวเหม่ยอิงแล้วคุณภาพมันไม่ได้เลย บางโรงงานเก็บรายละเอียดตั้งแต่ใหญ่จนเล็ก แต่ผ้าที่ใช้ขาดคุณภาพ บางโรงงานผ้าคุณภาพดีแต่การปักเย็บไม่ละเอียดกัวเหม่ยอิงไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะสามารถหาโรงงานตัดเย็บได้ตั้งแต่วันแรก แต่เธอก็อยากได้สักโรงงานมาจดเอาไว้ก่อน ไม่มีโรงงานไหนที่ถูกใจกัวเหม่ยอิงเลย ไม่ว่าจะเป็นโรงงามขนาดใหญ่ โรงงานขนาดกลาง และโรงงานขนาดเล็กกัวเหม่ยอิงไม่ว่าอะไรหากเสื้อผ้าของเธอจะมาจากโรงงานขนาดเล็ก แต่ขอให้ผ้ามีคุณภาพและสามารถตัดเย็บได้ตามที่เธอต้องการก็พอ“อันที่จริงผมว่าจะพาไปดูกลุ่มแม่บ้านแต่คงจะไม่ทันแล้ว พรุ่งนี้เดี๋ยวผมจะพาไปใหม่นะครับ” คุณลี่หวานขับรถมาส่งสองพี่น้องบ้านกัวที่หน้าโรงแรมกัวเหม่ยอิงพยักหน้าเบา ๆ “จะไม่รบกวนใช่ไหมคะ” วันนี้เธอก็รบกวนเขาทั้งวันแล้วคุณลี่หวานโบกมือปฎิเสธ “รบกวนอะไรกันครับผมเต็มใจ อีกอย่างพรุ่งนี้ร้านขายผลไม้ผมหยุดพอดี” เขาตอบ ถึงแม้จะต้องเข้าไปดูบัญชีแต่เขาก็สามารถตรวจตอนเย็นได้“งั้นเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”กัวเหม่ยอิงว่าพลางลงจากรถ ตามด้วยพี่ใหญ่กัวที่แทบจะหลับแล้ว เนื่อ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่49 หาโรงงานตัดเย็บ

    ผักกาด ต้นหอม หัวไชเท้า และแครอทถูกตัดและขุดขึ้นมาหลังจากมันโตเต็มที่แล้ว จากนั้นก็นำไปล้างให้สะอาดเรียบร้อยก่อนจะถูกนำไปแช่ในน้ำเกลือ ผักรอบนี้ที่เก็บขึ้นมากัวเหม่ยอิงทำกิมจิทั้งหมด เพราะผักดองมันเหลือเก็บไว้อยู่ส่วนแปลงผักที่ว่างกัวเหม่ยอิงก็จัดการบำรุงดินอยู่สามวันถึงจะให้ลงเมล็ดผักรอบใหม่ และเน้นไปที่ผักกาดเอาไว้ทำกิมจิและวันนี้ก็เป็นวันที่กัวเหม่ยอิงกับพี่ใหญ่กัวจะเข้ามณฑลโดยที่จะเข้าแบบไม่มีกำหนดกลับ เนื่องจากจะหาโรงงานเย็บลวดลายเสื้อ ไหนจะหาเช่าขายเสื้อของเธออีกโดยเงินเก็บของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมามีมากถึงหนึ่งหมื่นกว่าหยวน จำนวนเงินนี้รวมกับที่เธอมีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ไม่รวมเงินส่วนแบ่งทุกเดือนของลูกสาวหรือเงินที่ผู้ใหญ่ให้ในวันสำคัญของหล่อน อันนั้นกัวเหม่ยอิงก็แยกไว้อีกส่วน ไว้หล่อนโตจนบริหารเงินเองได้ถึงจะเอาคืนให้“เดี๋ยวฉันตามไปค่ะ”กัวเหม่ยอิงบอกกับพนักงานร้านขายผลไม้ร้านประจำที่เธอซื้อบ่อย ๆ ทันทีที่พวกเธอเข้ามาในตัวมณฑล หล่อนก็วิ่งมาบอกอย่างรู้งาน และมันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาเธอเข้ามาคุณลี่หวานหรือเจ้าของร้านผมไม้จะให้พนักงานในร้านมาเชิญกัวเหม่ยอิงไปกินข้าวด้วยท

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่48 ร้านเสื้อผ้าหานเอ้อร์

    กิมจิถูกเปิดชิมหลังทำการเก็บไว้ถึงสองอาทิตย์ สำหรับกัวเหม่ยอิงแล้วกลิ่นมันแปลกมาก ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่ามันจะกินไม่ได้ แต่เพราะได้ทำแล้วจะทิ้งก็เสียดายของ จึงตักขึ้นชิมดู และต่อให้มีกลิ่นที่แปลก รสชาติที่ไม่คุ้นลิ้น แต่มันก็ยังสามารถกินได้เพราะมันไม่เน่าเลยสิ่งแรกที่กัวเหม่ยอิงจะทำคือการทอดใส่ไข่ไก่ ด้วยความที่ไม่รู้จะทำอะไร กัวเหม่ยอิงจึงหั่นกิมจิผักกาดออกเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นก็นำไปใส่ไข่ไก่ที่ตีไว้แล้ว กัวเหม่ยอิงไม่ได้ปรุงอะไรเพิ่ม เพราะอยากรู้รสชาติว่ามันจะเป็นยังไงส่วนกิมจิผักกาดที่เหลือก็ถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำเหมือนกัน เธอตักใส่จานไว้ มันเป็นเครื่องเคียงอาหารมื้อเช้าของวันนี้ โดยมีข้าวต้มปลาเป็นอาหารจานหลัก ส่วนกิมจิแครอทกับหัวไชเท้าหั่นฝอยกัวเหม่ยอิงชิมแล้วรสชาติมันถูกปากจึงนำไปผัดใส่น้ำมันพริกให้กลิ่นหอม“ผักดองเหรอครับ” เป็นหลี่หม่าฮัวที่ถามขึ้นมาเมื่อเคี้ยวถูกผักกาดในไข่แต่มันมีรสชาติที่ไม่คุ้นลิ้นกัวเหม่ยอิงหัวเราะ “มันเป็นผักดองแบบใหม่ ฉันพึ่งทดลองทำขึ้นมาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว รสชาติเป็นยังไงบ้าง” ยอมรับว่าไข่เจียวกิมจิผักกาดมันถูกปากอยู่บ้าง แต่กัวเหม่ยอิงสนใจกิมจิแครอท

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่47 พี่สาวใหญ่เป็นพนักงาน

    หลังจากแช่ผักไว้ครบ 2 ชั่วโมง กัวเหม่ยอิงก็นำผักกาดที่แช่ไว้มาใส่ชามที่เตรียมไว้ผสม ส่วนแครอทกับหัวไช้ท้าหั่นฝอยถูกแยกไว้อีกชาม เพราะกัวเหม่ยอิงแยกทำนอกจากผักยังมีเครื่องปรุงที่กัวเหม่ยอิงได้เตรียมไว้นั่นก็คือ แป้งข้าวเจ้า พริกป่นที่คั่วเก็บไว้ น้ำตาล เกลือ ขิงกับกระเทียมที่สับละเอียดต้มน้ำเปล่าด้วยไฟกลาง พร้อมกับเทแป้งข้าวเจ้าลงไปคนให้ละลายจนน้ำเริ่มข้น แล้วยกลงจากเตาเทใส่ชามเปล่าปรุงรสด้วยเกลือ พริก น้ำตาล คนผสมจนเข้ากันแล้วเทลงชามผัดกาด เติมขิง กระเทียมสับและต้นหอมลงไปนวดให้ผักกาดและเครื่องปรุงเข้ากัน กัวเหม่ยอิงก็เก็บใส่โหลแก้วที่ถูกทำความสะอาดแล้วส่วนแครอทกับหัวไชเท้าหั่นฝอยกัวเหม่ยอิงก็ทำเหมือนกันเพียงแค่ไม่ได้ใส่ต้นหอม เพราะเธอใส่ผักกาดขาวไปหมดไม่รู้ว่ากิมจิที่เธอลงมือทำครั้งแรกโดยที่ไม่เคยกินจะสำเร็จหรือเปล่า เพราะพริกที่ใช้ทำเป็นพริกจีน ไม่ใช่พริกแบบที่ใช้ทำกัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เก็บเอาไว้ในโหล รอดูอีก 2-4 สัปดาห์ว่ามันจะกินได้ไหมหลังจากทำกิมจิเสร็จ หน้าที่ของกัวเหม่ยอิงก็ต้องล้างทำความสะอาด แล้วไปช่วยผู้เป็นพี่สาวฝานกล้วยที่จะนำไปตากแดด รอทอดใส่โหลวางขาย ซึ่งตอนนี้กั

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่46 กิมจิ

    บ้านสามสกุลหานลอยตัวเหนือข่าวที่บ้านใหญ่เอาที่ดินไปขาย แม้ภายหลังจะมีผู้อาวุโสของหมู่บ้านเข้ามาสอบถาม พวกเธอก็ตอบแค่ที่รู้เท่านั้น และปฎิเสธที่จะขายที่ดินต่อ เนื่องจากจะยกให้น้องชายสาม“เธออยู่พอดีเลย มานี่หน่อย”กัวเหม่ยอิงบอกสะใภ้รองที่ยืนนิ่ง จากนั้นก็เอากระดาษที่เอามาจากในอำเภอออกจากกระเป๋าผ้ากับเสื้อยืดสีขาวและสีดำอย่างละตัว “นี่เป็นลวดลายที่ฉันต้องการเย็บลายแบบนี้ เธอสามารถทำได้ไหม ลายไหนก็ได้ใน 5 ลายนี้ หรือถ้าไม่เข้าใจก็สามารถอ่านรายละเอียดได้” กัวเหม่ยอิงอธิบายเมื่อพาสะใภ้รองเข้าห้องตัดเย็บผ้าของบ้านสะใภ้รองนั่งลงประจำเก้าอี้ที่หล่อนเข้ามาบ่อย ๆ ก่อนจะหยิบกระดาษขึ้นมาดู มันเป็นรูปลวดลายที่พี่สะใภ้อยากให้เย็บเพิ่มเติมในเสื้อยืด พร้อมกับรายละเอียดอย่างชัดเจน และยังดีที่หล่อนอ่านหนังสือได้แล้ว มันจึงไม่ใช่ปัญหา“ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะถูกใจพี่ไหมเพราะฉันไม่เคยทำเสื้อยืด อีกอย่างเสื้อยืดสีดำคงจะมีแค่ด้ายสีขาวที่ใช้ได้” เพราะถ้าใช้สีอื่นมันจะไม่เข้ากัน“ได้ แล้วก็ไม่ต้องเร่งเย็บก็ได้” กัวเหม่ยอิงบอกเธอสั่งให้พี่ชายทำราวไม้กับไม้แขวนเสื้อให้ก่อนที่จะเปิดร้าน เวลาขายเสื้อ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status