แชร์

บทที่ 59

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
อ้างว่ามาหาเจ้าของร่างเดิมและปรากฏตัวข้างกายซ่งอี้อัน ยิ่งไปกว่านั้นยังใจกล้าสารภาพรัก ถูกปฏิเสธอย่างต่อเนื่องหลายครั้งกลับไม่ตัดใจ ซ่งอี้อันถึงได้ค่อย ๆ เปลี่ยนความคิด

จนใจที่เนื้อแท้ของจ้าวซูหว่านไม่ใช่คนสงบเสงี่ยม ทว่าซ่งอี้อันควบคุมตนเองรักษามารยาท แม้หมั้นหมายแล้วก็ไม่เคยล่วงเกินเลยแม้แต่น้อย จ้าวซูหว่านไม่อาจข่มความเปล่าเปลี่ยวได้จึงไปคบหากับฉินเซี่ยงเหิง กลิ่นเหม็นเน่าบนตัวของทั้งสองคนผสานเข้ากันได้ดี ชายโรคจิตกับหญิงแพศยา บัดนี้ลอบสานสัมพันธ์ลึกซึ้งจนตั้งครรภ์แล้ว

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้ ซ่งรั่วเจินก็ต้องลอบสบถในใจ!

“ข้าไม่เข้าใจ” ซ่งรั่วเจินพูดอย่างไม่เกรงใจ

จ้าวซูหว่านตาแดงก่ำ “รั่วเจิน เจ้าพูดเช่นนี้ก็เพราะต้องการตีตัวออกห่างจากข้า ข้าเป็นสหายที่ดีของเจ้ามาโดยตลอด ยามนี้ข้าไม่มีโอกาสเป็นพี่สะใภ้ของเจ้าแล้ว ข้าเองก็เสียใจมาก เหตุใดพวกเจ้าต้องโทษข้าด้วยเล่า?”

ซ่งรั่วเจิน “...” นี่มันดอกบัวขาว[1]ดอกใหญ่มากเชียวล่ะ

“จ้าวซูหว่าน จะพูดอะไรก็ต้องมีมโนธรรม หลังเจ้าถอนหมั้น พวกเราสกุลซ่งเคยว่าอะไรสักคำหรือไม่?”

“พี่รองของข้าช่วยเจ้าจึงตาบอด หากเป็นคนมีมโน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 60

    ภายในเรือนจ้าวซูหว่านเห็นว่าซ่งรั่วเจินกับหลินจืออวี้จากไปแล้วจึงได้ถอนหายใจโล่งอก แต่ไหนแต่ไรมาซ่งอี้อันมีอุปนิสัยอบอุ่นอ่อนโยน หากไม่ใช่เพราะพวกซ่งรั่วเจินสองคนนั้นยุแยง เมื่อครู่ก็ไม่มีทางปฏิบัติต่อนางเช่นนั้นบัดนี้เหลือเพียงพวกเขาสองคน ขอเพียงนางใช้ลูกไม้เล็กน้อย ซ่งอี้อันจะต้องให้อภัยนางแน่นอน ชนิดที่ว่าคิดแทนนางและฝากฝังนางไว้กับพี่เซี่ยงเหิง เมื่อถึงเวลานั้นนางก็สามารถแต่งเข้าจวนสกุลฉินได้อย่างไรเสียพี่เซี่ยงเหิงก็น่าสนใจกว่าเจ้าหนอนหนังสือผู้นี้มากนัก!“พี่อี้อัน ข้ารู้ว่าท่านยังมีโทสะภายในใจ รั่วเจินเองก็แค้นข้า แต่ข้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอผู้หนึ่ง ไม่มีทางเลือกจริงๆ...”ขอบตาจ้าวซูหว่านเปียกรื้น ท่าทางน้อยใจเหลือหลาย “หากข้าสามารถเลือกได้ ข้าจะไม่ถอนหมั้นกับท่านแน่นอน ข้ารู้สึกอย่างไรกับท่าน ท่านก็รู้”ซ่งอี้อันฟังเสียงร้องไห้ตัดพ้อของฝ่ายหญิงเงียบ ๆ สมองย้อนคิดถึงวันวาน หากไม่ได้ยินบทสนทนานั้นของจ้าวซูหว่านกับฉินเซี่ยงเหิง เขาก็ไม่กล้าเชื่อว่าความรู้สึกของจ้าวซูหว่านก่อนหน้านี้เป็นความเท็จพวกเขาถอนหมั้นกันเพียงสองสามวัน นางก็ตั้งครรภ์แล้ว ดูก็รู้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาท

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 61

    ไม่ไกลกันนั้น ซ่งรั่วเจินกับซ่งจืออวี้นั่งอยู่บนหลังคารับชมการแสดงแสนสนุกทางด้านล่าง น่าเสียดายที่ขาดเมล็ดแตงไป จึงหมดสนุกไปบ้าง“คิดไม่ถึงว่าแต่ไหนแต่ไรมาพี่รองเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยน ปฏิบัติต่อคุณหนูจ้าวก็นุ่มนวลมาก วันนี้สามารถเย็นชาเพียงนี้ได้ ข้ายังกังวลว่าพี่รองจะคิดไม่ตก บัดนี้นับว่าวางใจแล้ว” ซ่งจืออวี้ถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่งซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “พี่รองอุปนิสัยซื่อสัตย์อ่อนโยนจริงนั่นล่ะ ทว่าเขากลับฉลาดมาก ในเมื่อไม่ใช่คนดี ก็ต้องยับยั้งตนเองให้ทันท่วงที เพียงแต่...เกรงว่าจ้าวซูหว่านจะไม่ยอมจากไปง่ายดายเพียงนั้น”“พี่รองพูดถึงขั้นนี้แล้ว หรือสตรีผู้นี้จะยังหน้าหนาไร้ยางอายอยู่ที่นี่ต่ออีกรึ?” ซ่งจืออวี้ประหลาดใจ“ท่านดูไปเถิด” ซ่งรั่วเจินหรี่ตา นางเองก็อยากพิสูจน์ว่าตนเองคิดผิดไปหรือไม่จ้าวซูหว่านเห็นซ่งอี้อันไม่มอบโอกาสให้เลยสักเศษเสี้ยว จึงทำเพียงเอ่ยปาก “ก่อนหน้านี้ข้าทิ้งของสิ่งหนึ่งไว้ในห้องท่าน ข้าสามารถไปหยิบมาได้หรือไม่?”พี่เซี่ยงเหิงสำทับนักสำทับหนา นางมาจวนสกุลซ่งในครั้งนี้จะต้องนำเรียงความที่ซ่งอี้อันเขียนไว้เมื่อก่อนกลับไปให้ได้ อย่างไรเสียตอนนี้ซ่งอี้อันก็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 62

    จ้าวซูหว่านเพิ่งออกจากสกุลซ่งได้ไม่ไกล ก็ถูกฉินเซี่ยงเหิงเร่งรุดมาลากเข้าไปในตรอกเล็กแห่งหนึ่ง“เป็นอย่างไรบ้าง? ของที่ข้าให้เจ้าไปเอาได้มาแล้วหรือไม่?”จ้าวซูหว่านลอบยื่นเรียงความให้ฉินเซี่ยงเหิง สีหน้าภาคภูมิใจ “วางใจเถอะ ท่านให้ข้านำมาข้าก็นำมาแล้ว แต่ท่านไม่ใช่พูดว่าเรียงความของท่านยอดเยี่ยมกว่าซ่งอี้อันหรือ เหตุใดต้องขโมยของเขาด้วยเล่า?”“หากว่ากันตามพรสวรรค์ เดิมทีซ่งอี้อันเทียบข้าไม่ได้ หากไม่ใช่เพราะเขามีความสัมพันธ์อันดีกับอาจารย์ เรียงความที่เขียนล้วนได้รับคำชี้แนะจากอาจารย์ ไฉนเลยจะได้รับคำชมบ่อยครั้ง?”“ข้าไม่อาจยอมทนได้ พูดไปแล้วก็เป็นเพราะอาจารย์กับแม่ทัพซ่งมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมากอยู่สักหน่อย ซ่งอี้อันถึงได้พึ่งบารมี รอข้าโดดเด่นในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ จะทำให้คนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้ถึงความสามารถของข้า!”ในดวงตาจ้าวซูหว่านสะท้อนแววเลื่อมใส “พี่เซี่ยงเหิง ข้ารู้ว่าท่านยอดเยี่ยมที่สุด! ของก็นำมาแล้ว เช่นนั้นท่านจะมาสู่ขอข้ายามใด?”“เจ้าพูดกับซ่งอี้อันแล้วหรือ? เขารับปากฝากฝังเจ้าไว้กับข้าหรือไม่?” ฉินเซี่ยงเหิงถามกลับจ้าวซูหว่านลังเลครู่หนึ่ง นางกลับอยากพูด แ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 63

    ดวงตากลมของซ่งจืออวี้เบิกกว้าง ตกตะลึงไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง เพราะพี่รองมองไม่เห็นจึงไม่ว้าวุ่น เขาที่กำลังมองดูเช่นนี้กลับรู้สึกตกใจยิ่งนักน้องหญิงห้ากับพี่รองช่างเป็นหนึ่งคนกล้ารักษา หนึ่งคนกล้าเชื่ออย่างแท้จริง!ซ่งรั่วเจินจับเข็มเงินแทงลงบนจุดฝังเข็มอย่างแผ่วเบา พลังวิญญาณไหลเข้าสมองของซ่งอี้อันไปตามเข็ม ค่อย ๆ สลายลิ่มเลือดในสมองส่วนนั้นซ่งอี้อันเพียงรู้สึกปวดหัวระลอกหนึ่ง กำมือทั้งสองข้างแน่นไม่ส่งเสียง สีหน้ากลับซีดเผือด เม็ดเหงื่อผุดพรายบนหน้าผาก“พี่รอง ท่านอดทนไว้ก่อน กระบวนการรักษาค่อนข้างเจ็บ”ครู่ต่อมา ตอนซ่งรั่วเจินดึงเข็มเงินออก สีหน้านางซีดเซียวสะท้อนความอ่อนล้า“น้องหญิงห้า เจ้าไม่เป็นไรนะ?” ซ่งจืออวี้มองน้องหญิงห้าที่กำลังโงนเงนอย่างกังวล ตกตะลึงอย่างสุดระงับ พี่รองดูแล้วคล้ายใกล้อดทนต่อไปไม่ไหว แต่เหตุใดน้องหญิงห้าดูแล้วคล้ายอาการหนักยิ่งกว่าพี่รองเสียอีก?“ข้าไม่เป็นไร” ซ่งรั่วเจินโบกมือ หยิบหมึกพู่กันทางด้านข้างเขียนเทียบยาแผ่นหนึ่ง“มั่วอวี่ เจ้าบดส่วนผสมของยาตามวิธีที่เขียนไว้ในตำรับยานี้ ทาบนผ้าโปร่ง ตอนกลางคืนพี่รองพักผ่อนก็ประคบไว้บนดวงตาของเขา”“ขอร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 64

    “เจ้าโทษข้างั้นหรือ?” ฮูหยินผู้เฒ่าหลินชี้ตนเอง เอ่ยปากอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ตอนแรกเป็นเจ้าที่หมดอาลัยตายอยาก ข้ากลัวเจ้าล้มแล้วก็มิอาจลุกขึ้นได้อีกจึงขอการหมั้นหมายอันดีนี้ให้เจ้า หากไม่ใช่แม่ทัพซ่งเลื่อนตำแหน่งให้เจ้า เจ้าอยู่ในกองทัพจะก้าวหน้าโดดเด่นรวดเร็วเพียงนี้ได้อย่างไร?”“ข้าคิดเพื่อเจ้าไปเสียทุกอย่าง จัดแจงทั้งหมดไว้ให้อย่างดี ยามนี้เจ้ากลับโทษข้า?”เมื่อสบมองดวงตาแดงก่ำของฮูหยินผู้เฒ่า หลินจือเยว่เองก็รู้สึกผิด “ท่านแม่ ข้าถูกกระตุ้นจึงพูดจาเลอะเลือน ท่านอย่าเก็บไปใส่ใจ แต่แปดล้านตำลึงนี้ท่านจะต้องช่วยข้า หาไม่แล้ว...หาไม่แล้วแม้แต่ตำแหน่งป๋อนี้ข้าก็รักษาไว้ไม่ได้”“แปดล้านตำลึง ต่อให้ขายจวนโหวก็ยังไม่พอ ข้าจะไปหามาจากที่ใด? แต่ตอนนี้เจ้าเป็นเขยของแม่ทัพฉิน ฉินฮูหยินเองก็เป็นบุตรีของราชครูกู้ ย่อมไม่อาจทนมองเจ้าไม่คืนเงินจนถูกยึดตำแหน่งไปหรอกกระมัง!”ภายในสายตาฮูหยินผู้เฒ่าหลินเปี่ยมเล่ห์อุบาย “มิหนำซ้ำ สาเหตุที่เจ้าเสียตำแหน่งโหวไปล้วนต้องโทษฉินซวงซวง หากไม่ใช่เพราะนางสร้างความวุ่นวายมากเพียงนี้ เลวร้ายที่สุดเจ้าก็ถูกลงโทษแค่ปรับเบี้ยหวัด เงินนี้ต้องเป็นพวกเขาออก!”ดวงต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 65

    กู้อวิ๋นเวยยิ่งคิดยิ่งไม่พอใจ ก่อนหน้านี้ที่ซวงซวงหลงใหลฉู่อ๋อง นางกลับคิดหาหนทางวางแผนช่วยเหลือ หวังเพียงให้ลูกสาวสามารถเกาะกิ่งไม้สูงได้ ใครจะคาดคิดว่าสุดท้ายแล้วจะตกลงปลงใจไปกับหลินจือเยว่ นี่เพิ่งแต่งงานก็ถูกขังคุกแล้ว หลินจือเยว่เองก็เสียตำแหน่งถูกคนเย้ยหยัน แม้แต่นางวันนี้ก็ไม่มีหน้าให้ออกจากจวนแล้วนายท่านคิดว่าอยู่ในราชสำนักไปก็ขายหน้า จึงปฏิบัติต่อนางไม่ดี นางเองก็ทำได้เพียงอดทนไว้เดิมทีหลินจือเยว่ก็ถูกฉินซวงซวงพาลทำให้เดือดร้อน แต่คิดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงยอมอดทน ใครจะคาดคิดว่ากลับถูกแม่ยายหาเรื่องกลับ บริภาษเขาว่าไม่มีความสามารถเช่นนี้?“ท่านแม่ เรื่องนี้หากซวงซวงไม่เชื่อนักต้มตุ๋นผู้นั้น หลอกลวงราชครูสวี อีกทั้งยังทำร้ายสกุลซ่ง เรื่องก็คงไม่เป็นเช่นนี้ ไฉนเลยจะโทษข้าไปเสียทุกเรื่องได้?” หลินจือเยว่อธิบายอย่างมิอาจหักใจ“ซวงซวงทำเช่นนี้ยังไม่ใช่เพื่อเจ้าอีกหรือ? หวังผูกไมตรีกับฮูหยินสวีผ่านผู้มีวิชา นางวางแผนคิดแทนเจ้า หากเจ้ามีความสามารถจริง นางก็ไม่ต้องทำเช่นนี้หรอก หรือก่อนหน้านี้เจ้าจะทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อยจริงๆ?” สุ้มเสียงของกู้อวิ๋นเวยคมกริบ พู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 66

    หลินจือเยว่ได้ยินเสียงตวาดของแม่ทัพฉิน ทุกประโยคล้วนทำให้เขาอับอายก่อนนี้ยามแต่งงาน แม้แม่ทัพฉินจะบ่นตำหนิ ไม่พอใจที่ทำให้ซวงซวงเป็นได้เพียงภรรยาหลวงที่มีศักดิ์เทียมกัน แต่อย่างน้อยก็นับว่าเกรงใจ ทว่าบัดนี้เขาถูกซวงซวงพาลทำให้เดือดร้อนจนเสียตำแหน่ง แม่ทัพฉินไม่เพียงไม่รู้สึกผิด ตรงกันข้ามยังโยนความผิดทั้งหมดมาที่เขา!“ซวงซวงต้องติดคุกก็เพราะเจ้า หากเจ้าเป็นบุรุษคนหนึ่งก็ต้องหาทางช่วยนางออกมา ส่วนแปดล้านตำลึงนี้ เจ้าไปหาทางชดใช้ด้วยตนเองเถิด”แม่ทัพฉินทิ้งไว้เพียงสองประโยคก็หมุนตัวจากไปอย่างรังเกียจ กู้อวิ๋นเวยรีบไล่ตามไปด้วยสายตาไม่พอใจหลินจือเยว่ยืนอึ้งงันอยู่กับที่ ใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นเจือไออำมหิตแรงกล้า สายลมพัดพาเสียงเย้ยหยันของทั้งสองคนเข้ามา“ช่างน่าอับอายขายหน้าโดยแท้ ยืมเงินยังต้องมายืมพ่อตา!”“เขากับแม่ของเขามีความสามารถใช้จ่ายเงินแปดล้านตำลึงภายในสองปี หรือไม่เคยคิดจะคืนเลย? เจ้าเองก็สายตาไม่ดี ยกลูกสาวให้คนเช่นนี้ บัดนี้เดือดร้อนมาถึงข้าจนไม่มีหน้าออกจากจวนแล้ว!”“นายท่าน นี่...ข้าเองก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ ครั้งนี้หลินจือเยว่กลับมามีสง่าราศีเพียงนั้น ใครจะคาดคิดว่าทั้งหม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 67

    “หลินจือเยว่ หากไม่ใช่เพราะแม่ทัพซ่งเห็นเจ้าเป็นเขยจึงเลื่อนขั้นให้ เจ้าตัวไร้ประโยชน์พรรค์นี้ยังสามารถสร้างความดีความชอบในสนามรบได้อีกหรือ? ความดีความชอบทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของแม่ทัพซ่ง! เดรัจฉานเจ้าคนนี้ยังเทียบสัตว์ร้ายไม่ได้! ยังมีหน้าโอหังต่อหน้าพวกเราอยู่อีกหรือ!”“เจ้ายึดเอาความดีความชอบของแม่ทัพซ่งไป ให้แม่นางซ่งดูแลงานในเรือนเพื่อเจ้า กลับสานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฉินซวงซวงนางหญิงใจดำอำมหิตดุจอสรพิษพรรค์นี้อยู่ที่ชายแดน หันหลังให้คุณธรรม ไร้ยางอายเหลือหลาย ถึงขั้นยังมีหน้าว่าพวกเราอีกกระนั้นรึ?”“แม่นางซ่งโชคดีได้ถอนหมั้นกับเจ้า เจ้าคนอ้างคุณธรรมมโนธรรมเต็มปาก แท้จริงแล้วเป็นคนเลวทรามต่ำช้ามิคู่ควรครองคู่กับนาง!”หลินจือเยว่โมโหจวนเจียนจะระเบิดเต็มที อกกระเพื่อมขึ้นลง กลับดึงสติกลับมาได้ในทันใด “มิใช่ว่าเจ้าชอบรั่วเจิน ถึงเห็นข้าเสียอำนาจก็รีบเข้ามาเหยียบย่ำอย่างมิอาจอดรนทนไหวหรอกหรือ น่าเสียดายภายในหัวใจนางมีเพียงข้า เดิมทีก็ไม่เห็นเจ้าอยู่ในสายตา!”ขณะซ่งรั่วเจินเดินออกจากร้านขายเครื่องประดับฝั่งตรงข้ามก็เห็นภาพนี้“คุณหนู ท่านหลินป๋อทำเลยเถิดเกินไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าท่านถอนหมั

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 721

    นางจำรายการสินเดิมในปีนั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงกำไรของร้านค้าที่เป็นสินเดิมเพราะหลายปีมานี้ผิดหวังกับอวิ๋นหงหล่างมาก นางจึงหันไปสนใจการค้านางและกู้หรูเยียนเป็นสหายที่ดีต่อกัน การค้าของสกุลซ่งดีมากถึงเพียงนี้ ย่อมชี้แนะนางเป็นอย่างดี ดังนั้นเงินที่หาได้ย่อมมีไม่น้อย ภายในนั้นเขียนไว้ในบัญชีรวมมากมายทว่านางเก็บรักษาบัญชีของร้านไว้อย่างดี แม้แต่ภายในจวนเบิกเงินของนางไปมากน้อยเพียงใด นางก็จำได้ทั้งหมดบัดนี้...จะเอาคืนกลับมาให้หมด!“พี่หญิง คืนของให้ท่านย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ท่านเองก็ต้องการมากเกินไปแล้ว”อนุอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ หันมองอวิ๋นหงหล่างอย่างกังวล กลัวเขาโมโหลงนามลงไปอวิ๋นหงหล่างย่อมไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปวดใจ แต่ยังลงนามประทับลายนิ้วมือลงไป“ตอนนี้ใช้ได้แล้ว พวกเจ้าสามารถช่วยคนได้แล้วกระมัง!”เห็นจางเหวินเก็บหนังสือหย่าไป ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้ข้าลงมือช่วยอนุอวิ๋นก็ย่อมได้ สามแสนตำลึง!”ถ้อยคำนี้พูดออกมา อวิ๋นหงหล่างก็โง่งมแล้ว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำเลยเถิดเกินไปนัก ทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่าขอเพียงลงนามในหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 720

    “ข้าคิดไว้ดีตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่วันที่ติดตามท่านแม่ออกจากสกุลอวิ๋น ข้าก็ไม่คิดกลับไปอีก”พูดไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อแวบหนึ่ง พูดว่า “ภายภาคหน้าไม่ว่าข้าแต่งกับใคร ต่อให้เป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่ง ข้าก็ยินดี”อย่างไรเสีย ชาตินี้หากไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้ ไม่ว่าแต่งกับใครก็ล้วนเหมือนกันเมื่อแรกท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อ ทุกคนล้วนพูดว่าแต่งได้ดี แต่สุดท้ายได้รับอะไรเล่า?อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะแต่งงานกับสามัญชน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือภายในแขนเสื้อกำแน่น ภายในก้นบึ้งของสายตาซับซ้อน“เจ้า ดีนักนะ!” อวิ๋นหงหล่างโมโหจนหัวเราะออกมา “ถึงตอนนั้นเจ้าหาทางออกไปได้ อย่ามาขอข้าให้ช่วยเจ้าก็แล้วกัน!”“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น ตรงข้ามกันภายในหัวใจท่านพ่อ ซีหว่านล้วนสำคัญที่สุดมาโดยตลอด”“นางทำผิดมากเพียงใดล้วนไม่เป็นไร ข้าเพียงทำผิดเล็กน้อยก็ถูกลงโทษ หากข้าตามท่านกลับไป ภายภาคหน้าบ้านหลังนี้มีอนุอวิ๋นดูแล ข้ายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูคิดตกแล้ว เดิมทีอนุอวิ๋นก็โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเขาล้วนมองออก มีเพียงบิดาที่มองไม่ออกบางที...บิดาอาจไม่ยอมมอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 719

    “ยังมีเจ้า!” หลิ่วหรูเยียนชี้อนุอวิ๋น “ตอนยังเป็นสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ช่างเถอะ บัดนี้แก่จนหน้าเหลืองแล้วกลับยังไม่แก้ไข หากชอบร้องไห้ถึงเพียงนั้น ตอนจัดงานศพก็ไปร้องที่นั่นสิ วิ่งมาสร้างความอัปมงคลที่จวนซ่งของพวกเราทำอันใด!”คนสกุลซ่งหันมองมารดาอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมามารดาอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เคยพูดจาเช่นนี้มาก่อน คำพูดวันนี้ช่าง...สาแก่ใจจริงๆ!จางเหวินที่เดิมทีโมโหแทบแย่กลับถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้ขำจนหัวเราะออกมานางหวนนึกถึงเมื่อครั้นยังอยู่ในวัยแรกรุ่น กู้หรูเยียนมีอุปนิสัยอ่อนโยนรังแกง่าย เพราะได้รับความทุกข์จากสกุลหลิ่ว ครอบครัวลำเอียง นางอธิบายไปแล้วก็ไม่มีใครฟัง หนำซ้ำยังถูกลงโทษ ดังนั้นกู้หรูเยียนจึงชินชากับการไม่อธิบายจนกระทั่งมีคนพูดว่าร้ายนาง นางได้เห็นคนอ่อนโยนนุ่มนวลเสมอมาอย่างกู้หรูเยียนออกมาตอบโต้คน ถึงขั้นด่ากลับไปความสะเทือนใจในตอนนั้นก็คล้ายตอนนี้ ฉากตรงหน้าแทบจะซ้อนทับกัน“หลายปีมานี้เจ้าไม่บอกข้ามาโดยตลอด หากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับความทุกข์เช่นนี้ จะต้องช่วยเจ้าด่าชายโฉดหญิงชั่วไร้ยางอายคู่นี้ดีๆ แน่!”จางเหวินจับมือกู้หรูเยียนไว้ ขอบตาแดงเรื่อ “ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 718

    “ข้าไม่ช่วย เดิมทีก็ถูกต้องตามหลักการ หาไม่แล้วคนชั่วในใต้หล้านี้ล้วนมาขอให้ข้าช่วยแก้ผลกรรมให้ นั่นยังไม่กลายเป็นโลกของคนชั่วอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านเป็นขุนนางในราชสสำนักมาหลายสิบปี ถึงขั้นไม่มีหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐานกระนั้นหรือ?”“หากท่านคิดว่าท่านพูดมีเหตุผล ก็สามารถพูดเรื่องทั้งหมดออกมาได้ พอดีจะได้ถามคนทั่วหล้าว่าคิดเห็นเหมือนท่านหรือไม่!”เพียงอนุอวิ๋นได้ยินก็รีบพูด “ข้ามิได้เชิญผีน้อยมาทำร้ายพี่หญิง ข้าเพียงหวังให้นางและนายท่านกลับมาคืนดีกัน ข้าเองก็ถูกคนชั่วนั่นหลอก”“หากข้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีวันทำเช่นนี้”“อ้อ งั้นหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ เนตรขนงเจือรอยยิ้ม “บัดนี้มีคนทำผิดเหมือนท่านไม่น้อย ราชสำนักมีบัญชีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว”“ไม่สู้ไปถามคนเหล่านั้นดู ตกลงพวกเขารู้หรือไม่ว่าที่เชิญผีน้อยมาก็เพื่อทำร้ายคน?”“ถ้อยคำนี้ ท่านหลอกตนเองก็ช่างเถอะ คิดว่าคนทั่วหล้าโง่เขลาเหมือนท่านหรือ?”สายตาซ่งรั่วเจินคมกริบ “ทำร้ายคนและช่วยคน ทำร้ายคนต้องชดใช้มากยิ่งกว่า หากท่านทำเพราะอยากให้ทั้งสองคนคืนดีกันจริง สิ่งที่ท่านเชิญกลับไป สมควรเป็นพระพุทธ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status