Share

บทที่ 40

Author: จี้เวยเวย
มิน่าเล่า พี่สามถึงได้เปลี่ยนท่าทีกะทันหันเช่นนั้น!

ที่แท้แม่นางซ่งก็มีรูปโฉมงดงามปานนี้ หลินโหวคงตาบอดไปแล้วกระมัง มิฉะนั้นจะทอดทิ้งนางได้อย่างไร?

“แม่นางซ่ง ข้าเคารพแม่ทัพซ่งว่าเป็นวีรบุรุษ ครั้งนี้จะไม่ถือสาหาความเจ้า คราวหน้าโปรดอย่าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้อีก”

ซ่งรั่วเจินไม่สนใจความคิดของคนอื่น เพียงมองไปที่หลินอิ๋งเฉียว “ฮูหยิน พวกเราไปคุยกันต่อที่อื่นเถิดเจ้าค่ะ”

ลู่หมิ่นฮุ่ยขมวดคิ้ว แม่นางผู้นี้ไม่สนใจคำพูดของนางเลยหรือนี่?

“แม่นางซ่ง เจ้าอย่าเหลวไหลเช่นนี้...”

“ท่านน้า แม่นางซ่งเป็นคนมีความสามารถ ข้าได้ประจักษ์ความสามารถของนางมาแล้ว ลองดูก่อนค่อยว่ากันก็ไม่เสียหาย” ฉู่จวินถิงเอ่ยขึ้นอย่างสุขุม น้ำเสียงสงบเยือกเย็นประหนึ่งสายลมในพงไพร อบอุ่นอ่อนโยน ช่วยคลี่คลายบรรยากาศที่กำลังตึงเครียด

“ฉู่อ๋อง?” ลู่หมิ่นฮุ่ยเห็นฉู่จวินถิงแล้วก็แย้มยิ้มอ่อนโยน “ในที่สุดเจ้าก็มาได้เสียทีนะ วันนี้หากยังไม่มาอีก น้าอย่างข้าจะโกรธแล้ว”

ซ่งรั่วเจินมองไปทางลู่หมิ่นฮุ่ย นางดูแล้วอายุมากกว่าฉู่จวินถิงไม่กี่ปี แต่ลำดับอาวุโสกลับสูงมาก

“ท่านน้าเชื้อเชิญทั้งที ข้าย่อมต้องมาอยู่แล้ว”

สายตาฉู่จวินถ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 41

    “เสด็จพี่สาม ท่านว่าแม่นางซ่งทำนายแม่นหรือไม่? หากเป็นเรื่องจริง ท่านน้าจะต้องดีใจมากแน่ๆ” ฉู่อวิ๋นกุยประหลาดใจเสร็จก็อดจะคาดหวังไม่ได้ แม้ท่านน้าจะอาวุโสกว่าพวกเขารุ่นหนึ่ง แต่อายุกลับมากกว่าพวกเขาแค่ไม่กี่ปีกล่าวได้ว่าเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก พวกเขารับรู้ความทุกข์ใจของผู้เป็นน้า ทั้งยังหวังให้นางมีลูกโดยเร็วเช่นกันฉู่จวินถิงนิ่งเงียบไม่เอ่ยคำ เขาจำได้ว่าชาติก่อนอีกหนึ่งปีหลังจากนี้ท่านน้าถึงจะตั้งครรภ์ อย่างไรก็ไม่มีทางเป็นช่วงเวลานี้“เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นแบบนี้จะตัดสินว่าจริงหรือเท็จได้อย่างไร?” สวี่ชิงเหมยมองไปทางหลินอิ๋งเฉียวด้วยความเป็นห่วง “พี่สะใภ้ ท่านต้องระวังหน่อยนะเจ้าคะ”“ฮูหยิน วันนี้ที่ข้ามาก็เพราะได้รับการไหว้วานจากเป๋ยอวี่ หากท่านไม่เชื่อ...”เดิมนั้นซ่งรั่วเจินต้องการหาสถานที่พูดคุยกับหลินอิ๋งเฉียวตามลำพัง แต่จนใจที่ซุนเยียนเอ๋อร์กับซุนฮั่นเฟยกระโดดเข้ามาก่อกวน ประกอบกับมีอุปสรรคมากเกินไปจึงหมดความอดทนแล้วแต่เมื่อเห็นท่าทางขอบตาแดงเรื่ออย่างน่าสงสารของต่งเป๋ยอวี่ ในใจก็รู้สึกเวทนา “ให้ข้าหนึ่งหมื่นตำลึง”“อะ...อะไรนะ?”“ให้เงินข้าหนึ่งหมื่นตำลึง ข้าจะช

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 42

    ทุกคนเห็นซ่งรั่วเจินพูดอะไรไม่รู้กับหลินอิ๋งเฉียว ฝ่ายหลังกล่าวคำขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วก็จากไป ในใจจึงอดสงสัยไม่ได้“เมื่อวานข้าเห็นแม่นางซ่งเปิดโปงนักต้มตุ๋นกับตาตัวเอง ยังช่วยสวีฮูหยินตามหาลูกสาวแท้ ๆ จนเจอ เป็นคนที่มีความสามารถโดยแท้จริง ไม่ได้พูดจาเหลวไหล ได้รับความช่วยเหลือจากนาง ไม่แน่ว่าต่งฮูหยินอาจตามหาลูกชายคนเล็กที่หายตัวไปเจอก็เป็นได้”ในกลุ่มคนบริเวณนั้นย่อมมีคนที่เห็นเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ต่างช่วยกันพูดแทนซ่งรั่วเจินเรื่องที่ตระกูลสวีตามหาลูกสาวเจอเมื่อวานนี้ลือกันไปทั่ว แต่สรุปว่าหาเจอได้อย่างไร คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้แน่ชัดสวี่ชิงเหมยหน้าเปลี่ยนสี มองประเมินซ่งรั่วเจินอย่างสงสัย สตรีผู้นี้คงไม่ได้มีความสามารถจริง ๆ หรอกนะ?ลู่หมิ่นฮุ่ยมองไปทางฉู่จวินถิง ลดเสียงถามว่า “เจ้าบอกว่าแม่นางผู้นี้มีความสามารถ เป็นเรื่องจริงหรือ?”ฉู่จวินถิง “...”สองตาของลู่หมิ่นฮุ่ยเป็นประกาย สองปีนี้กินเจสวดมนต์ ไปขอพรจากไต้ซือมาจำนวนไม่น้อย ทุกคนล้วนบอกว่าย่อมจะมีไม่เร็วก็ช้า แต่นางรอมาสองปีแล้วยังคงไร้วี่แวว มีเพียงซ่งรั่วเจินที่บอกว่าในไม่ช้าจะได้สมหวังดังปรารถนาแม้จิตใต้สำนึก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 43

    “น้องหญิงห้า เรื่องที่เจ้าพูดวันนี้เป็นเรื่องจริงหรือ? ไปล่วงเกินรองเจ้ากรมพิธีการไม่ดีหรอกนะ”ซ่งจืออวี้กังวลอยู่บ้าง ตอนนี้น้องสาวราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หากเป็นเมื่อก่อนคงไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้ เขาคิดว่าไม่เข้าที แต่ก็รู้สึกว่าน้องสาวไม่น่าพูดจาส่งเดชซ่งรั่วเจินก็สัมผัสได้เช่นกัน ทั้งที่ซ่งจืออวี้กังวลใจมากแท้ ๆ แต่กลับปล่อยให้นางทำไปโดยไม่ขัดขวางเพราะเขาเชื่อใจน้องสาวของตัวเอง“พี่สาม ท่านวางใจได้ นอกจากพวกเราจะไม่ล่วงเกินรองเจ้ากรมพิธีการแล้ว ยังจะได้รับมิตรไมตรีกลับมาด้วย”เมื่อซ่งรั่วเจินไปจากงานเลี้ยงชมดอกอิงฮวา ลู่หมิ่นฮุ่ยก็เลือกแม่นางที่ไม่เลวหลายคนมาแนะนำให้ฉู่จวินถิงหลังจากนั้นตูม!“ใครก็ได้มาทางนี้ที! ฉู่อ๋องตกน้ำ!”เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังระงม ฉู่จวินถิงว่ายน้ำไม่เป็น ทำได้เพียงตีแขนปัดป่ายไปมาอยู่ในทะเลสาบองครักษ์ที่รุดมาช่วยเหลือรีบไปช่วยคน แต่กลับพบว่าไม่สามารถพาคนขึ้นมาได้ จนกระทั่งมีหลายคนลงไปตรวจสอบจึงพบว่าขาของฉู่จวินถิงถูกพืชน้ำพันไว้เมื่อช่วยขึ้นมาได้แล้ว สีหน้าของฉู่จวินถิงซีดขาวราวกระดาษ คำพูดที่ซ่งรั่วเจินกล่าวไว้เมื่อวานนี้ดังขึ้นในหัว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 44

    “เรียนฮูหยินรอง นั่นคือธูปหอมสงบใจเจ้าค่ะ แม่นางซ่งบอกว่าฮูหยินไม่ได้นอนหลับพักผ่อนดี ๆ มานานแล้ว ธูปหอมสงบใจสามารถระงับความฟุ้งซ่าน ช่วยให้จิตใจสงบ มีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเจ้าค่ะ”สวี่ชิงเหมยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สีหน้าของหลินอิ๋งเฉียวกับซ่งรั่วเจินในตอนนั้นไม่เหมือนว่าจะพูดเรื่องเรียบง่ายเช่นนี้ แต่จนใจที่ทั้งสองเดินไปไกลเกินไป นางจึงไม่ได้ยินสักนิด ความรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายใจกลับรุนแรงมากขึ้นทุกที สังหรณ์ใจเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นฮูหยินผู้เฒ่าต่งเข้าใจแล้ว “ดูเจ้าสิ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ช่วงนี้อิ๋งเฉียวเหน็ดเหนื่อยเกินไป ได้นอนหลับดี ๆ สักตื่นก็ดีเหมือนกัน”“ท่านแม่ ข้าคิดว่าเรื่องราวไม่น่าเรียบง่ายถึงเพียงนั้น ธูปหอมสงบใจก้านเดียวกลับเรียกเงินตั้งหนึ่งหมื่นตำลึง แม่นางซ่งจะโลภเกินไปหรือไม่? พี่สะใภ้เป็นคนฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร แล้วจะถูกหลอกลวงง่าย ๆ ได้อย่างไรเจ้าคะ?”“หนึ่งหมื่นตำลึง?” ฮูหยินผู้เฒ่าต่งขมวดคิ้ว เงินมากมายถึงเพียงนี้บอกจะให้ก็ให้ ออกจะมักง่ายเกินไปจริง ๆ นั่นล่ะ แต่เมื่อคิดถึงว่าหลานชายหายตัวไป ตนเองก็ผิดต่อสะใภ้ใหญ่ผู้นี้ ยังจะไปตำหนินาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 45

    นายท่านรองต่งจู๋ซูเห็นภรรยาของตนเองถูกพี่สะใภ้บีบคอก็พูดว่า “พี่สะใภ้ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ชิงเหมยจิตใจดีงามอ่อนโยน เรื่องในฝันจะยึดถือเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร?”ในหมู่ทุกคนมีเพียงสวี่ชิงเหมยที่ใจหายวาบ ในที่สุดก็เข้าใจสาเหตุที่กระสับกระส่ายไม่สบายใจเสียทีเจ้าเด็กต่งเป๋ยอวี่นั่นมาเข้าฝันได้จริง ๆ งั้นหรือ? หรือว่าทุกอย่างนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับซ่งรั่วเจิน?“นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริง!”หลินอิ๋งเฉียวหาได้สนใจ จับจ้องต่งหานโจวด้วยแววตาเจิดจ้า น้ำเสียงรวดร้าว สีหน้าหนักแน่น “ท่านพี่ หากท่านยังเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของพวกเรา คืนนี้ท่านต้องไปเมืองซีอวิ๋นกับข้า”ต่งหานโจวคิดไม่ถึงว่าหลินอิ๋งเฉียวจะยืนกรานหนักแน่นเช่นนี้ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับภรรยารักใคร่กลมเกลียวกันมาโดยตลอด ลูกชายคนเล็กหายตัวไป พวกเขาโศกเศร้าไม่คลาย ถึงหลายวันก่อนจะไปตามหาที่เมืองซีอวิ๋นแล้วกลับมามือเปล่า แต่ตอนนี้ก็ยังคงพยักหน้ารับปาก“ได้ ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า”หลินอิ๋งเฉียวถอนหายใจ ใบหน้างามสง่านั้นสะท้อนความจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากนั้นจึงคุกเข่าลงตรงหน้าฮูหยินผู้เฒ่าต่ง“อิ๋งเฉีย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 46

    ฮูหยินผู้เฒ่าต่งสุดจะทนดูต่อไปไหวจึงพูดว่า “ชิงเหมย เจ้าวางใจได้ เรื่องนี้จะไม่แพร่งพรายออกไปแม้แต่น้อย เจ้าก็ทนลำบากสักหน่อย ถึงตอนนั้นทุกคนจะชดเชยให้เจ้าเอง”อันที่จริงทุกคนบริเวณนั้นล้วนคิดว่าหลินอิ๋งเฉียวคงจะคิดถึงลูกชายจนเสียสติไปแล้วไม่มากก็น้อย แต่ในฐานะมารดา ปฏิกิริยาเช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ ช่างเป็นคนที่น่าเวทนาคนหนึ่งทว่าธูปหอมที่ยังไม่มอดดับนั้นยังคงเผาไหม้ต่อไป ควันธูปลอยเข้าจมูกทุกคนอย่างเงียบเชียบ...ต่งหานโจวกับหลินอิ๋งเฉียวนั่งรถม้าจากไปในคืนนั้นหลินอิ๋งเฉียวนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในรถม้า ในหัวเอาแต่คิดถึงภาพที่ได้เห็นเป๋ยอวี่ เป๋ยอวี่บอกว่าในบ่อน้ำที่แห้งขอดนั้นทั้งเหน็บหนาวและมืดมิด ยังมีหนอนกัดแทะเขา นางได้ยินแล้วก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจถูกเชือดเฉือนลูกชายที่รักของนาง ไหนเลยจะทนรับความทุกข์ทรมานเช่นนั้นได้?ต่งเป๋ยอวี่มองดูมารดาของตนเองด้วยความปวดใจ เขาไม่เคยเห็นท่าทางราวคนเสียสติของมารดาแบบเมื่อครู่นี้มาก่อนเลย ตั้งแต่เขายังเล็ก มารดามักมีภาพลักษณ์ของบุตรีตระกูลใหญ่ที่รอบรู้จัดเจนธรรมเนียมมารยาทเสมอมา สตรีก้าวร้าวดุร้ายเช่นนี้มารดาดูแคลนเป็นที่ส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 47

    แต่น่าเสียดาย หลายปีมานี้หลงเชื่อหน้ากากคนดีของสวี่ชิงเหมย ถูกหลอกจนไม่รู้เหนือรู้ใต้นี่ไม่ใช่บุพเพวาสนาที่ดีเลยสักนิดกระทบต่อโชคด้านการงานของเขาสอบรับราชการมาหลายปีล้วนสอบไม่ผ่าน ถูกสหายร่วมสำนักหัวเราะเยาะ ทำให้บิดาผิดหวัง ทั้งยังถูกพี่ชายข่มเอาไว้อีกถ้าเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม ก็อาจมีโอกาสพลิกฟื้นได้“เจ้า...เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?”ซ่งรั่วเจินแย้มยิ้ม “ข้าไม่เพียงแต่รู้เรื่องเหล่านี้ แต่ยังรู้ด้วยว่าชิงเหมยที่ท่านคะนึงหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันผู้นั้นอยู่ที่ใด”เมื่อวาจานั้นดังขึ้น สีหน้าของต่งจู๋ซูก็พลันแข็งทื่อ เขาย่อมรู้ว่า ‘ชิงเหมย’ ที่ซ่งรั่วเจินพูดถึงไม่ได้หมายถึงสวี่ชิงเหมย แต่เป็นนางในดวงใจของเขาเมื่อหลายปีก่อนตอนนั้นทั้งที่คนทั้งสองชอบพอกัน ตั้งใจว่าจะเจรจาสู่ขอ นางในดวงใจของเขากลับแต่งงานเป็นภรรยาของคนอื่นไปเสียแล้ว ส่วนเขาก็โศกเศร้าเสียใจ จึงได้เชื่อฟังคำของคนในครอบครัว ยอมแต่งงานกับสวี่ชิงเหมย“เจ้า...เจ้ารู้จริง ๆ หรือ?”“ข้าจะหลอกลวงท่านไปทำไมเจ้าคะ?”ต่งจู๋ซูอดพลุ่งพล่านใจไม่ได้ อยากถามให้กระจ่างโดยไม่รู้ตัว ชั่วขณะที่เผยอปากกลับลังเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 48

    “สวีฮูหยิน ท่านทำอะไรน่ะ? รีบลุกขึ้นเร็วเข้า”หลิ่วหรูเยียนรีบประคองคนขึ้นมา หลังได้รู้เรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบก็ยิ้มออกมา ทั้งคู่ต่างเป็นสตรีในเมืองหลวง นางย่อมเคยได้ยินเรื่องที่สวีฮูหยินตามหาลูกสาวแท้ ๆ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจินเอ๋อร์ที่ช่วยให้พวกเขาหาคนพบ“ซ่งฮูหยิน เป็นเพราะลูกสาวท่านแท้ ๆ ไม่อย่างนั้นชั่วชีวิตนี้ข้าคงต้องใช้ไปอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ กระทั่งว่าสวรรค์ส่งลูกสาวมาถึงตรงหน้าแล้วก็ยังไม่รู้ตัว”“เชิญไปนั่งด้านในดีกว่า” หลิ่วหรูเยียนยิ้มแย้มเชื้อเชิญสวีฮูหยินเข้าไปในเรือน กล่าวกับซ่งจืออวี้ว่า “ไปเรียกเจินเอ๋อร์มาเร็วเข้า”ซ่งจืออวี้เห็นท่าทางยินดีปรีดาของมารดาตนเองแล้วก็อดนึกขำไม่ได้ ก่อนหน้านี้ยังพร่ำพูดอยู่เลยว่ากลัวน้องหญิงห้าจะก่อเรื่อง ตอนนี้กลับยิ้มหน้าชื่นตาบาน เขากลับคิดว่าน้องหญิงห้ามีความสามารถมากทีเดียวราชครูสวีมีตำแหน่งมั่นคงในราชสำนัก ต่อให้เป็นตอนที่บิดายังอยู่ ราชครูสวีก็ไม่ค่อยจะสนใจครอบครัวพวกเขา พวกขุนนางไม่ชมชอบความหยาบกระด้างของทหารมาแต่ไหนแต่ไร ทุกคนเห็นกันจนชินชาเสียแล้วแต่ตอนนี้น้องหญิงห้าช่วยตระกูลสวีตามหาลูกสาวจนเจอ สวีฮูหยินเกรงอกเกรงใจปานนี

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 721

    นางจำรายการสินเดิมในปีนั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงกำไรของร้านค้าที่เป็นสินเดิมเพราะหลายปีมานี้ผิดหวังกับอวิ๋นหงหล่างมาก นางจึงหันไปสนใจการค้านางและกู้หรูเยียนเป็นสหายที่ดีต่อกัน การค้าของสกุลซ่งดีมากถึงเพียงนี้ ย่อมชี้แนะนางเป็นอย่างดี ดังนั้นเงินที่หาได้ย่อมมีไม่น้อย ภายในนั้นเขียนไว้ในบัญชีรวมมากมายทว่านางเก็บรักษาบัญชีของร้านไว้อย่างดี แม้แต่ภายในจวนเบิกเงินของนางไปมากน้อยเพียงใด นางก็จำได้ทั้งหมดบัดนี้...จะเอาคืนกลับมาให้หมด!“พี่หญิง คืนของให้ท่านย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ท่านเองก็ต้องการมากเกินไปแล้ว”อนุอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ หันมองอวิ๋นหงหล่างอย่างกังวล กลัวเขาโมโหลงนามลงไปอวิ๋นหงหล่างย่อมไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปวดใจ แต่ยังลงนามประทับลายนิ้วมือลงไป“ตอนนี้ใช้ได้แล้ว พวกเจ้าสามารถช่วยคนได้แล้วกระมัง!”เห็นจางเหวินเก็บหนังสือหย่าไป ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้ข้าลงมือช่วยอนุอวิ๋นก็ย่อมได้ สามแสนตำลึง!”ถ้อยคำนี้พูดออกมา อวิ๋นหงหล่างก็โง่งมแล้ว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำเลยเถิดเกินไปนัก ทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่าขอเพียงลงนามในหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 720

    “ข้าคิดไว้ดีตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่วันที่ติดตามท่านแม่ออกจากสกุลอวิ๋น ข้าก็ไม่คิดกลับไปอีก”พูดไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อแวบหนึ่ง พูดว่า “ภายภาคหน้าไม่ว่าข้าแต่งกับใคร ต่อให้เป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่ง ข้าก็ยินดี”อย่างไรเสีย ชาตินี้หากไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้ ไม่ว่าแต่งกับใครก็ล้วนเหมือนกันเมื่อแรกท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อ ทุกคนล้วนพูดว่าแต่งได้ดี แต่สุดท้ายได้รับอะไรเล่า?อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะแต่งงานกับสามัญชน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือภายในแขนเสื้อกำแน่น ภายในก้นบึ้งของสายตาซับซ้อน“เจ้า ดีนักนะ!” อวิ๋นหงหล่างโมโหจนหัวเราะออกมา “ถึงตอนนั้นเจ้าหาทางออกไปได้ อย่ามาขอข้าให้ช่วยเจ้าก็แล้วกัน!”“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น ตรงข้ามกันภายในหัวใจท่านพ่อ ซีหว่านล้วนสำคัญที่สุดมาโดยตลอด”“นางทำผิดมากเพียงใดล้วนไม่เป็นไร ข้าเพียงทำผิดเล็กน้อยก็ถูกลงโทษ หากข้าตามท่านกลับไป ภายภาคหน้าบ้านหลังนี้มีอนุอวิ๋นดูแล ข้ายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูคิดตกแล้ว เดิมทีอนุอวิ๋นก็โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเขาล้วนมองออก มีเพียงบิดาที่มองไม่ออกบางที...บิดาอาจไม่ยอมมอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 719

    “ยังมีเจ้า!” หลิ่วหรูเยียนชี้อนุอวิ๋น “ตอนยังเป็นสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ช่างเถอะ บัดนี้แก่จนหน้าเหลืองแล้วกลับยังไม่แก้ไข หากชอบร้องไห้ถึงเพียงนั้น ตอนจัดงานศพก็ไปร้องที่นั่นสิ วิ่งมาสร้างความอัปมงคลที่จวนซ่งของพวกเราทำอันใด!”คนสกุลซ่งหันมองมารดาอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมามารดาอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เคยพูดจาเช่นนี้มาก่อน คำพูดวันนี้ช่าง...สาแก่ใจจริงๆ!จางเหวินที่เดิมทีโมโหแทบแย่กลับถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้ขำจนหัวเราะออกมานางหวนนึกถึงเมื่อครั้นยังอยู่ในวัยแรกรุ่น กู้หรูเยียนมีอุปนิสัยอ่อนโยนรังแกง่าย เพราะได้รับความทุกข์จากสกุลหลิ่ว ครอบครัวลำเอียง นางอธิบายไปแล้วก็ไม่มีใครฟัง หนำซ้ำยังถูกลงโทษ ดังนั้นกู้หรูเยียนจึงชินชากับการไม่อธิบายจนกระทั่งมีคนพูดว่าร้ายนาง นางได้เห็นคนอ่อนโยนนุ่มนวลเสมอมาอย่างกู้หรูเยียนออกมาตอบโต้คน ถึงขั้นด่ากลับไปความสะเทือนใจในตอนนั้นก็คล้ายตอนนี้ ฉากตรงหน้าแทบจะซ้อนทับกัน“หลายปีมานี้เจ้าไม่บอกข้ามาโดยตลอด หากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับความทุกข์เช่นนี้ จะต้องช่วยเจ้าด่าชายโฉดหญิงชั่วไร้ยางอายคู่นี้ดีๆ แน่!”จางเหวินจับมือกู้หรูเยียนไว้ ขอบตาแดงเรื่อ “ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 718

    “ข้าไม่ช่วย เดิมทีก็ถูกต้องตามหลักการ หาไม่แล้วคนชั่วในใต้หล้านี้ล้วนมาขอให้ข้าช่วยแก้ผลกรรมให้ นั่นยังไม่กลายเป็นโลกของคนชั่วอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านเป็นขุนนางในราชสสำนักมาหลายสิบปี ถึงขั้นไม่มีหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐานกระนั้นหรือ?”“หากท่านคิดว่าท่านพูดมีเหตุผล ก็สามารถพูดเรื่องทั้งหมดออกมาได้ พอดีจะได้ถามคนทั่วหล้าว่าคิดเห็นเหมือนท่านหรือไม่!”เพียงอนุอวิ๋นได้ยินก็รีบพูด “ข้ามิได้เชิญผีน้อยมาทำร้ายพี่หญิง ข้าเพียงหวังให้นางและนายท่านกลับมาคืนดีกัน ข้าเองก็ถูกคนชั่วนั่นหลอก”“หากข้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีวันทำเช่นนี้”“อ้อ งั้นหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ เนตรขนงเจือรอยยิ้ม “บัดนี้มีคนทำผิดเหมือนท่านไม่น้อย ราชสำนักมีบัญชีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว”“ไม่สู้ไปถามคนเหล่านั้นดู ตกลงพวกเขารู้หรือไม่ว่าที่เชิญผีน้อยมาก็เพื่อทำร้ายคน?”“ถ้อยคำนี้ ท่านหลอกตนเองก็ช่างเถอะ คิดว่าคนทั่วหล้าโง่เขลาเหมือนท่านหรือ?”สายตาซ่งรั่วเจินคมกริบ “ทำร้ายคนและช่วยคน ทำร้ายคนต้องชดใช้มากยิ่งกว่า หากท่านทำเพราะอยากให้ทั้งสองคนคืนดีกันจริง สิ่งที่ท่านเชิญกลับไป สมควรเป็นพระพุทธ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status