Share

บทที่ 341

Penulis: จี้เวยเวย
ถังฮูหยินผู้นี้ช่างพูดใส่สีตีไข่เก่งจริงๆ เกรงว่าคงพูดว่านางใช้เล่ห์มารยาล่อลวงฉู่อ๋อง จนฉู่อ๋องไม่แยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวม จะทำงานหลวงก็ต้องพานางไปด้วยเลยกระมัง?

“ฉู่อ๋องขอให้เจ้าช่วยเหลือ?”

ฮองเฮาสัมผัสได้ถึงความมั่นใจจากคำพูดและแววตาของซ่งรั่วเจินก็รู้สึกไม่พอใจ ท่าทีเปลี่ยนแปลงไป “ศาสตร์ลี้ลับ? เจ้าไปจับผีที่จวนสกุลไป๋หรือไร?”

แม่นางตรงหน้างามพิลาสกิริยาละเมียดละไม เครื่องหน้าประณีตงดงาม เห็นได้ชัดว่าเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ที่ไม่เคยต้องตกระกำลำบาก แต่กลับมาจับผีแบบนี้ ความไม่เข้ากันจะมีมากเกินไปแล้ว

ซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ “ใช่แล้วเพคะ”

ได้ยินดังนั้น แม่นมและสาวใช้ในตำหนักก็พลันเปลี่ยนสีหน้า สมณะตบะแก่กล้าเชี่ยวชาญศาสตร์ลี้ลับก็แล้วไปเถอะ คุณหนูในบ้านแม่ทัพซ่งเชี่ยวชาญศาสตร์ลี้ลับเนี่ยนะ?

“ศาสตร์ลี้ลับจะเรียนรู้ง่ายดายปานนั้นได้อย่างไร? เจ้าคงไม่ได้โกหกข้าหรอกนะ?”

ฮองเฮาย่นคิ้ว จิตใจกลับผ่อนคลายลงเล็กน้อย ในเมื่อไปจับผีย่อมแสดงว่าฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินไปด้วยเรื่องงานหลวง หาใช่เพราะแยกแยะกาลเทศะไม่ออก

“ฮองเฮาเพคะ ต่อให้หม่อมฉันมีขวัญกล้าเทียมฟ้าก็ไม่กล้าหลอกลวงฮองเฮาห
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 342

    ฉู่มู่เหยาขยิบตาให้ซ่งรั่วเจิน ฝ่ายหลังพลันเข้าใจได้ในทันที นี่คงเป็นกองหนุนที่ฉู่มู่เหยาเชิญมาให้นางสินะ“เสด็จแม่ ไยท่านจึงมาด้วยตัวเองได้เล่าเพคะ?”ฮองเฮาเข้าไปประคองไทเฮานั่งลง รอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า ขณะกวาดสายตาผ่านพวกฉู่มู่เหยาก็รู้แจ้งแก่ใจดีฉู่อวิ๋นกุยและฉู่มู่เหยาก้มหน้าลงทั้งคู่ ในใจตัดสินใจไว้แล้วว่าต่อให้เสด็จแม่ตำหนิพวกตนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด อย่างไรเสียก็ใช่ว่าไม่เคยถูกต่อว่ามาก่อนฉู่มู่เหยาตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าอย่างไร วันนี้ก็ต้องช่วยแม่นางซ่งคลี่คลายสถานการณ์ให้จงได้ หากแม่นางซ่งถูกเสด็จแม่ดุจนเตลิดหนีไป แบบนั้นก็น่าสงสารเสด็จพี่สามเกินไปแล้ว!นอกจากนี้ เทียบกับพี่สะใภ้อย่างถังเสวี่ยหนิง แม่นางซ่งไม่รู้ว่าดีกว่าตั้งเท่าไร!ฉู่อวิ๋นกุยก็ลอบภาวนาในใจให้เสด็จพี่สามกลับมาไวๆ ถ้าเขาปกป้องแม่นางซ่งไว้ไม่ได้ เกรงว่าเสด็จพี่สามกลับมาแล้วจะต้องเอาเขาตายแน่นอน!เรื่องร้ายสองเรื่องเลือกเรื่องที่เบากว่า ล่วงเกินเสด็จแม่อย่างมากก็แค่ถูกตำหนิ หากล่วงเกินเสด็จพี่สาม ชีวิตเขาอาจไม่เหลือเลยก็ได้!“ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องมีแม่นางในดวงใจแล้ว จึงอยากเห็นว่าเป็นแม่นางแบบไหนที่สามารถเข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 343

    “แม่หนูนี่เลือกที่จะถอนหมั้นในวันแต่งงาน ในเมืองหลวงไม่มีแม่นางที่ใจกล้าเช่นนี้มานานแล้ว ข้ากลับชื่นชมนัก”“ตอนนั้นหลินจือเยว่ไปออกรบ มอบมารดาผู้ชราที่สุขภาพอ่อนแอให้แม่นางที่เพิ่งหมั้นหมายกันดูแลเดิมทีก็ไม่เหมาะสม เรื่องนี้เขาเป็นฝ่ายผิด ยามนี้ทุกคนกลับมาบอกว่าแม่หนูนี่โง่งม แม่นางที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่งก็มาจุนเจือสกุลหลินเสียแล้ว”“ข้าอยู่มาจนอายุปูนนี้ ยังจะมองเรื่องแค่นี้ไม่เข้าใจอีกรึ?”“หลินจือเยว่ก็แค่รู้ว่าแม่หนูนี่จิตใจดีงามถึงได้จงใจหาประโยชน์จากนาง หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงไม่รับปาก”“จิตใจดีกลายเป็นเหตุผลที่ถูกเยาะเย้ยถากถางไปตั้งแต่เมื่อใด? ส่วนเรื่องถอนหมั้นก็เป็นเพราะความกล้าหาญของนาง”“ฮองเฮา เจ้าว่ามีตรงไหนไม่ดีงั้นรึ?”แววตาที่ไทเฮามองซ่งรั่วเจินฉายแววชื่นชม แม่นางที่มีความคิดของตัวเองเช่นนี้กลับพบได้ไม่มากนักคุณหนูที่แต่ละตระกูลใหญ่อบรมออกมานั้นว่าง่ายเชื่อฟังไม่ผิด ทุกคนล้วนปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่พอเห็นมากเข้าก็รู้สึกว่าเหมือนๆ กันหมด ไม่น่าสนใจเลยสักนิด กลับไม่สู้แม่หนูนี่ที่ใจเด็ดกล้าหาญ กล้าทำกล้ารับฮองเฮาอึ้งไป นางเข้าใจว่าไทเฮาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 344

    ถึงตอนนี้ซ่งรั่วเจินจึงเพิ่งรู้ว่าในอดีตไทเฮาก็เคยถอนหมั้นมาก่อน นี่นับว่าเป็น...คนหัวอกเดียวกันไหมนะ?ได้รับความชื่นชมจากไทเฮาในรูปแบบนี้ ใครเลยจะคาดคิด?ส่วนเรื่องที่ถูกคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอาเงินไปจุนเจือสกุลหลินตั้งแต่ก่อนแต่งงาน เจ้าของร่างเดิมตามคาแรกเตอร์ที่นักเขียนวางไว้ในนิยายต้นฉบับเป็นคนหัวอ่อนที่โง่งมแต่ร่ำรวย นางจะทำอันใดได้เล่า?ตอนทะลุมิติมาเงินก็ใช้ไปแล้ว ถ้านางยังไม่ทะลุมิติมา เงินของสกุลซ่งก็คงเข้าไปอยู่ในกระเป๋าของพวกหลินจือเยว่ไปหมดแล้ว“ตอนนี้มาพูดเรื่องนี้ยังเร็วเกินไป ข้าถามเจ้าหน่อย เจ้าเคยถามความคิดเห็นของฉู่อ๋องหรือยัง?” ไทเฮาถาม“ยังเพคะ”ฮองเฮารู้สึกสับสน น้อยครั้งนักที่ไทเฮาจะเข้ามายุ่งเรื่องในวังหลัง วันนี้ในเมื่อมาแล้วก็แสดงว่าต้องการปกป้องซ่งรั่วเจิน“ในเมื่อยังไม่ได้ถามความคิดเห็นของเขา ไยต้องรีบร้อนเรียกลูกสาวคนอื่นเข้าวังมาแบบนี้ ไม่กลัวว่าคนจะตกใจเตลิดหนีไปงั้นรึ”“ด้วยนิสัยของฉู่อ๋อง ถ้าไม่เจอแม่นางที่ชอบ ต่อให้เจ้าบังคับเขาเช่นนี้ก็ไม่แต่งงานอยู่ดี”คำพูดของไทเฮาเมื่อเข้าหูฮองเฮาไปแล้วดุงดั่งอสนีบาตสายหนึ่ง นางรู้ว่าทำไมไทเฮาจึงชอบฉู่อ๋องมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 345

    “เสด็จแม่ ท่านได้ยินแล้ว ทุกอย่างนี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้นเพคะ” ฮองเฮากล่าว“ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด”ทันใดนั้น น้ำเสียงทุ้มเสนาะโสตพลันดังมาจากข้างนอก ต่อจากนั้นฉู่จวินถิงก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าทุกคนเขายังคงสวมชุดแพรของเมื่อคืนวาน บนหน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาเป็นชั้นบางๆ ท่าทางเหนื่อยล้าเห็นได้ชัดว่าเพิ่งห้อม้าเร่งเดินทางกลับมาใบหน้าหล่อเหลาฉายแววอิดโรย รอยคล้ำรอบดวงตาทำให้คนเดาได้ไม่ยากว่าไม่ได้นอนมาทั้งคืน หากดวงตาคู่นั้นยังคงเจิดจ้าเป็นพิเศษฮองเฮาเห็นฉู่จวินถิง ดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจ “จวินถิง เจ้าว่าอะไรนะ?”“เสด็จแม่ ลูกบอกว่าไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดพ่ะย่ะค่ะ”ฉู่จวินถิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ลูกมีใจปฏิพัทธ์ต่อแม่นางซ่ง”เมื่อวาจานั้นดังขึ้น ทั้งตำหนักราวกับตกอยู่ในความเงียบงันในฉับพลัน สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ฉู่จวินถิงซ่งรั่วเจินอึ้งไป นางเหลือบตามองไปยังบุรุษผู้นั้นโดยไม่รู้ตัว ฝ่ายตรงข้ามก็มองมาทางนางราวสามารถสัมผัสได้ ใบหน้าคมคายฉายแววรู้สึกผิด ที่มากกว่านั้นคือความร้อนแรงที่ไม่ปิดบังอำพราง“ขออภัยด้วย เดิมทีตั้งใจไว้ว่าจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วค่อยสารภาพความใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 346

    “นางถอนหมั้น เจ้ายังชื่นชมนาง?”ฮองเฮามีสีหน้าเหลือเชื่อ ในสายตานาง ตอนที่ฉู่อ๋องรู้เรื่องถอนหมั้นก็ควรเข้าใจแล้วว่าระหว่างเขากับซ่งรั่วเจินเป็นไปไม่ได้ ผู้ใดจะคิดว่าเขากลับชื่นชมนางเพราะถอนหมั้น?“เสด็จแม่ นางรู้ทั้งรู้ว่าหนทางข้างหน้าคือกองเพลิงก็ยังกระโดดลงไป แบบนั้นจึงเรียกว่าสมควรงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“คนส่วนใหญ่ล้วนขาดความกล้าหาญเช่นนี้ สตรีก็เป็นเช่นนี้ ในสายตาลูก นางไม่หวาดกลัวสายตาคนอื่น เมื่อรู้ว่าฝากชีวิตไว้ผิดคนก็ถอนตัวกลับมา เดิมก็น่าชื่นชมอยู่แล้ว”“นางก็แค่ถอนหมั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใดสักหน่อย ไยเสด็จแม่ต้องถือสา?”ฮองเฮามองฉู่จวินถิงอย่างเงียบๆ อยู่ชั่วครู่ก็มุ่นคิ้วเอ่ยว่า “ยังไม่พูดถึงเรื่องที่นางถอนหมั้นชั่วคราว อายุนางก็ไม่น้อยแล้ว”“ลูกอายุมากกว่านางพอดี” ฉู่จวินถิงกล่าวฮองเฮา “...”“เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ ก่อนหน้านี้นางหมั้นกับหลินจือเยว่ หลินจือเยว่มีสถานะไหน ส่วนเจ้ามีสถานะไหน?”“สตรีคนหนึ่งที่หลินจือเยว่ไม่ต้องการ เจ้ากลับไปชอบนาง ลือออกไปคนอื่นจะมองเจ้าอย่างไร?”“คนอื่นอยากคิดอย่างไรก็คิดไป ใช้ชีวิตตนเองให้เป็นสุขจึงสำคัญที่สุด ความคิดของคนอื่นหาได้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 347

    “ไม่ว่านางจะยินดีร่วมชีวิตกับลูกหรือไม่ หวังว่าเสด็จแม่จะไม่กดดันนาง”ฮองเฮาได้ยินแล้วก็ยิ่งปวดใจกว่าเดิมฮ่องเต้มิใช่คนมั่นคงในรัก คิดไม่ถึงว่าบุตรชายของนางจะเป็นพวกงมงายในรัก รู้สึกเพียงว่าไม่เอาไหนจริงๆ แทบอยากจะเตะสักครั้งเสียเดี๋ยวนี้“ช่างเถอะ ข้าคร้านจะสนใจแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ”ฮองเฮาโบกมือ ไม่เห็นก็ไม่ต้องรำคาญใจ ชอบทำให้นางโมโหอยู่เรื่อย!พอฉู่จวินถิงออกมาก็เห็นฉู่อวิ๋นกุยกับฉู่มู่เหยาที่มีสีหน้าเลื่อมใส ดวงตาของทั้งคู่เป็นประกายวิบวับ ความนับถือมีมากเกินกว่าจะใช้คำพูดบรรยายออกมา“เสด็จพี่สาม ท่านช่างกล้าหาญจริงๆ!”ฉู่มู่เหยามีสีหน้าเลื่อมใส นางคิดว่ารอบนี้เสด็จแม่จะต้องรับมือยากมากแน่ๆ คิดไม่ถึงว่าเสด็จพี่สามอยู่ข้างในไม่นานก็ออกมาแล้วช่วงแรกพูดอะไรบ้างได้ยินไม่ชัดนัก ได้ยินเพียงท่อนสุดท้าย เสด็จแม่บอกว่าคร้านจะสนใจแล้ว นั่นก็หมายความว่าสำเร็จแล้วนะสิ?“เสด็จพี่สาม ท่านพูดกับเสด็จแม่อย่างไรกันแน่?”ฉู่อวิ๋นกุยยอมรับนับถือจากใจจริง “สอนข้าบ้างสิ วันหน้าถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ ข้าจะได้เอาอย่างบ้าง”“เจ้าไม่ได้ใช้หรอก” ฉู่จวินถิงเอ่ยฉู่อวิ๋นกุย “???”ความรู้สึกแปลกๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 348

    เห็นสีหน้าซ่งรั่วเจินไม่เหมือนล้อเล่น ความสงสัยใคร่รู้ในแววตาไทเฮายิ่งเข้มข้นกว่าเดิม “ถ้าเจ้าสามารถช่วยข้าหาเจอ ข้าจะตกรางวัลให้เจ้าอย่างงาม!”ซ่งรั่วเจินงอนิ้วคำนวณก็กระจ่างใจโดยพลัน เอ่ยว่า “ไทเฮาเพคะ ไข่มุกอยู่ในห้องทรงพระอักษรเพคะ”ไทเฮาได้ยินแล้วก็มุ่นคิ้วขึ้นมา “แม่หนู เจ้าคงทำนายผิดไปแล้วกระมัง”“ปิ่นนี้เก็บไว้ในตำหนักเสาหัวที่พักของข้ามาโดยตลอด จะไปอยู่ในห้องทรงพระอักษรได้อย่างไรกัน?”ครั้นกลายเป็นไทเฮา ก่อนที่จะย้ายเข้าตำหนักฉือหนิง นางพำนักอยู่ในตำหนักเสาหัวมาโดยตลอด หลังพบว่าไข่มุกบนปิ่นหายไป นางก็ให้คนค้นหาจนทั่วตำหนักเสาหัวโดยไม่ปล่อยผ่านไปแม้แต่จุดเดียวน่าเสียดาย สุดท้ายก็ยังหาไม่เจอส่วนห้องทรงพระอักษร...ยามนี้เป็นสถานที่ที่ฮ่องเต้ตรวจฎีกา จะไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง “ไทเฮายินดีไปลองหาดูไหมเพคะ? ถ้าหาพบก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”การตามหาคนค่อนข้างยาก เพราะคนสามารถเคลื่อนไหวได้ การตามหาสิ่งของกลับค่อนข้างง่าย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสิ่งของนั้นยังอยู่ในวังหลวง การตามหายิ่งง่ายดายขึ้นไปอีก“เจ้าแน่ใจหรือ?” ไทเฮาถามซ่งรั่วเจินพยักหน้า น้ำเสียงจริงใจ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 349

    ซ่งเยี่ยนโจวหยุดฝีเท้าลงทันที หันไปคารวะไทเฮาและคนอื่นๆ ในใจกลับเต็มไปด้วยความกังวลซ่งรั่วเจินส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงบอกให้พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสบอกรายละเอียดกับพี่ใหญ่ฉู่มู่เหยามีสีหน้าตกใจ “ท่านคือพี่ใหญ่ของแม่นางซ่งกระมัง? ขาของท่านหายดีแล้วหรือ?”คิดถึงตอนที่ทราบข่าวร้ายว่าแม่ทัพซ่งเป็นตายไม่กระจ่าง คุณชายใหญ่สกุลซ่งสองขาพิการ นางก็รู้สึกว่าน่าเสียดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ช่วงก่อนหน้านี้บุตรีลั่วกั๋วกงตกน้ำ คุณชายสกุลเหยาด่าทอซ่งเยี่ยนโจวจนเกรียวกราวไม่ทั่วคิดไม่ถึงว่า...คุณชายใหญ่สกุลซ่งที่หมอหลวงทั้งสำนักล้วนจนปัญญารักษา แน่ใจว่าต้องพิการไปชั่วชีวิต ตอนนี้กลับยืนขึ้นมาได้แล้ว?“ขากระหม่อมหายดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งเยี่ยนโจวประสานมือตอบหลังจากได้สติคืนมา เข้าใจว่าชั่วชีวิตนี้คงได้แต่นั่งบนเก้าอี้รถเข็น คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง นี่ไม่ต่างกับการได้มีชีวิตใหม่ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพราะน้องหญิงห้าทั้งสิ้น“เสด็จแม่ ท่านมาได้อย่างไร?”ฮ่องเต้เห็นไทเฮานำคนกลุ่มหนึ่งมาที่ห้องทรงพระอักษร สีหน้าก็ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย คงไ

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status