แชร์

บทที่ 348

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
เห็นสีหน้าซ่งรั่วเจินไม่เหมือนล้อเล่น ความสงสัยใคร่รู้ในแววตาไทเฮายิ่งเข้มข้นกว่าเดิม “ถ้าเจ้าสามารถช่วยข้าหาเจอ ข้าจะตกรางวัลให้เจ้าอย่างงาม!”

ซ่งรั่วเจินงอนิ้วคำนวณก็กระจ่างใจโดยพลัน เอ่ยว่า “ไทเฮาเพคะ ไข่มุกอยู่ในห้องทรงพระอักษรเพคะ”

ไทเฮาได้ยินแล้วก็มุ่นคิ้วขึ้นมา “แม่หนู เจ้าคงทำนายผิดไปแล้วกระมัง”

“ปิ่นนี้เก็บไว้ในตำหนักเสาหัวที่พักของข้ามาโดยตลอด จะไปอยู่ในห้องทรงพระอักษรได้อย่างไรกัน?”

ครั้นกลายเป็นไทเฮา ก่อนที่จะย้ายเข้าตำหนักฉือหนิง นางพำนักอยู่ในตำหนักเสาหัวมาโดยตลอด หลังพบว่าไข่มุกบนปิ่นหายไป นางก็ให้คนค้นหาจนทั่วตำหนักเสาหัวโดยไม่ปล่อยผ่านไปแม้แต่จุดเดียว

น่าเสียดาย สุดท้ายก็ยังหาไม่เจอ

ส่วนห้องทรงพระอักษร...ยามนี้เป็นสถานที่ที่ฮ่องเต้ตรวจฎีกา จะไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?

ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง “ไทเฮายินดีไปลองหาดูไหมเพคะ? ถ้าหาพบก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”

การตามหาคนค่อนข้างยาก เพราะคนสามารถเคลื่อนไหวได้ การตามหาสิ่งของกลับค่อนข้างง่าย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสิ่งของนั้นยังอยู่ในวังหลวง การตามหายิ่งง่ายดายขึ้นไปอีก

“เจ้าแน่ใจหรือ?” ไทเฮาถาม

ซ่งรั่วเจินพยักหน้า น้ำเสียงจริงใจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 349

    ซ่งเยี่ยนโจวหยุดฝีเท้าลงทันที หันไปคารวะไทเฮาและคนอื่นๆ ในใจกลับเต็มไปด้วยความกังวลซ่งรั่วเจินส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงบอกให้พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสบอกรายละเอียดกับพี่ใหญ่ฉู่มู่เหยามีสีหน้าตกใจ “ท่านคือพี่ใหญ่ของแม่นางซ่งกระมัง? ขาของท่านหายดีแล้วหรือ?”คิดถึงตอนที่ทราบข่าวร้ายว่าแม่ทัพซ่งเป็นตายไม่กระจ่าง คุณชายใหญ่สกุลซ่งสองขาพิการ นางก็รู้สึกว่าน่าเสียดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ช่วงก่อนหน้านี้บุตรีลั่วกั๋วกงตกน้ำ คุณชายสกุลเหยาด่าทอซ่งเยี่ยนโจวจนเกรียวกราวไม่ทั่วคิดไม่ถึงว่า...คุณชายใหญ่สกุลซ่งที่หมอหลวงทั้งสำนักล้วนจนปัญญารักษา แน่ใจว่าต้องพิการไปชั่วชีวิต ตอนนี้กลับยืนขึ้นมาได้แล้ว?“ขากระหม่อมหายดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งเยี่ยนโจวประสานมือตอบหลังจากได้สติคืนมา เข้าใจว่าชั่วชีวิตนี้คงได้แต่นั่งบนเก้าอี้รถเข็น คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง นี่ไม่ต่างกับการได้มีชีวิตใหม่ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพราะน้องหญิงห้าทั้งสิ้น“เสด็จแม่ ท่านมาได้อย่างไร?”ฮ่องเต้เห็นไทเฮานำคนกลุ่มหนึ่งมาที่ห้องทรงพระอักษร สีหน้าก็ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย คงไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 350

    ฉู่มู่เหยาหุบปากลงอย่างเงียบๆ นางไม่บอกหรอกว่าเมื่อครู่ก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเหมือนกัน เข้าใจไปโดยไม่ทันคิดว่าจะต้องถูกโจรขโมยไปแน่ๆโชคดีที่มีเสด็จพี่ห้าขวางอยู่ข้างหน้า ทำให้นางรอดเคราะห์นี้มาได้ฉู่จวินถิงก้าวเร็วๆ เข้าไปเปิดชั้นบนสุดของตู้ตรงหน้าออกมา กล่องเล็กแสนประณีตใบหนึ่งวางไว้อยู่ในนั้นเมื่อไทเฮาเห็นกล่องเล็กใบนั้น แววตาพลันชะงักค้าง “กล่องนี้...เป็นของอดีตฮ่องเต้”ได้ยินดังนั้น ฉู่จวินถิงก็ไม่ได้เปิดออก แต่ส่งกล่องใบนั้นให้ถึงมือไทเฮาไทเฮาเปิดกล่องออกช้าๆ สิ่งที่วางไว้ในนั้น นอกจากไข่มุกหนึ่งเม็ด ยังมีปิ่นใหม่เอี่ยมหนึ่งอันและจดหมายอีกฉบับ“นี่คือ...”ไทเฮาวางกล่องใบเล็กลงข้างๆ กางจดหมายออก มองปราดเดียวก็จำลายมือของอดีตฮ่องเต้ได้ในทันทีที่แท้ ไข่มุกบนปิ่นก็ไม่ได้หายไปตอนอยู่ในตำหนักเสาหนิง แต่หล่นไปในวันที่มาห้องทรงพระอักษร อดีตฮ่องเต้บังเอิญเก็บได้อดีตฮ่องเต้ทราบว่านั่นคือปิ่นที่ทำให้ไทเฮาด้วยตนเองเมื่อหลายปีก่อน ผ่านมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังใส่อยู่จึงตัดสินใจทำปิ่นอันใหม่ให้เดิมทีรอให้ถึงวันเกิดไทเฮาก่อนค่อยมอบให้ คิดไม่ถึงว่า...ไทเฮาอ่านจดหมายในมือ แล้วหยิบปิ่นใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 351

    “ใช่เพคะ” ซ่งรั่วเจินตอบความสามารถนี้แม้จะเป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวบ้านมานักต่อนักแล้ว ทว่าในพระราชวังนั้นเห็นได้ชัดว่าโดยส่วนใหญ่ต่างได้ยินกันมาเพียงผ่านๆ เท่านั้น ซึ่งนางเองก็ไร้ความคิดที่จะปิดบังอย่างไรเสียก็ปิดบังเอาไว้ไม่มิด มิสู้หาโอกาสแสดงความสามารถออกไปโดยตรง กลับกันแล้วอาจทำให้ความเป็นอยู่ของสกุลซ่งในภายภาคหน้าดีขึ้นยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้“ฮ่องเต้ แม่หนูผู้นี้จิตใจดีเป็นยิ่ง ข้าเพียงเอ่ยปากชวนนางลิ้มลองขนมแกล้มชาเพียงสองชิ้น นางก็ช่วยข้าตามหามุกจนเจอได้แล้ว”“ได้ข่าวว่าบุตรชายรองสกุลซ่งได้อันดับหนึ่งในการสอบฤดูใบไม้ผลิ สมแล้วที่เป็นสกุลซ่ง พ้นจากแม่ทัพซ่งแล้วแต่ละคนก็ล้วนโดดเด่นเหนือผู้ใด จะต้องปฏิบัติต่อพวกเขาให้ดีเข้าไว้นะ”ไทเฮากล่าวชมเชยสกุลซ่งโดยไม่มีอ้อมค้อมประหยัดถ้อยคำ แต่ไหนแต่ไรมาสกุลซ่งล้วนจงรักภักดีต่อราชสำนัก ก่อนนี้ก็ยังมีแม่ทัพผู้เฒ่าซ่งเป็นถึงขุนนางผู้เป็นกำลังสำคัญ เสียก็แต่วันนี้สิ้นแม่ทัพผู้เฒ่าซ่งไปแล้ว อีกทั้งซ่งหลินก็ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ทั้งสกุลซ่งจึงเหลือเพียงเด็กหนุ่มสาวเพียงไม่กี่คน ทว่าแต่ละคนล้วนเก่งกล้าสามารถฮ่องเต้เองก็น้อยครั้งน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 352

    เมื่อออกจากห้องทรงพระอักษรแล้วไทเฮาก็เกิดรู้สึกเพลีย นางอยู่สนทนากับฉู่อ๋องอยู่พักหนึ่งก่อนจะเสด็จกลับไปยังตำหนักฉือหนิงด้านซ่งรั่วเจินแน่นอนว่าก็ถึงเวลาที่ควรออกจากวังแล้ว จึงตั้งใจจะกลับไปพร้อมกันกับซ่งเยี่ยนโจว ทว่าขณะที่กำลังจะกลับไปนี้เองฉู่จวินถิงก็ตามมาเสียก่อน“แม่นางซ่ง รอประเดี๋ยว”ฉู่จวินถิงจ้องมองไปยังคนตรงหน้า ดวงตาฉายอารมณ์ซับซ้อนตอนที่ออกมาจากตำหนักของเสด็จแม่เขาก็คิดจะหาจังหวะบอกกล่าวกับนางให้ชัดเจน ไม่นึกว่าจะเผอิญกับที่เกิดเรื่องราวในห้องทรงพระอักษรขึ้น บัดนี้นางกำลังจะกลับไปแล้ว เขาย่อมต้องเปิดเผยความในใจของตนออกไปให้ชัดเจนจึงจะถูกซ่งรั่วเจินหยุดฝีเท้า หันมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเขา รู้สึกว่าตั้งแต่เขาเปิดเผยความในใจออกมาต่อหน้าผู้คนแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดมัน…รู้สึกแปลกพิกลอย่างไรก็ไม่รู้“พวกเจ้าอยู่คุยกันเถิด ข้าจะไปรอข้างนอก”ซ่งเยี่ยนโจวเข้าใจดีว่าเหตุที่วันนี้น้องหญิงห้าถูกเชิญเข้าวังเป็นต้องเกี่ยวข้องกับฉู่อ๋องเป็นแน่แท้ จังหวะเผอิญกับเมื่อคืนวานที่ฉู่อ๋องต้องไปที่ค่ายทหารอีกครั้ง จึงไม่ทันได้พูดคุยสนทนาใดๆ กับน้องหญ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 353

    “ท่านอ๋อง…”“ข้าพึงใจเจ้า”ทั้งสองเอ่ยขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน เดิมทีซ่งรั่วเจินคิดจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดเพื่อทำลายบรรยากาศน่ากระอักกระอ่วนนี้ ทว่ากลับได้ยินถ้อยคำของฉู่จวินถิงเข้าพอดิบพอดี“วะ...ว่าอย่างไรนะเพคะ?”“ข้าพึงใจในตัวเจ้า”ฉู่จวินถิงกล่าวซ้ำย้ำอีกครั้ง นับแต่วินาทีที่ได้กล่าวออกไป ในใจเขาก็รู้สึกโปร่งโล่งขึ้นไม่น้อยซ่งรั่วเจินชะงักไป ไม่พูดถึงไม่ได้เลยว่าถ้อยคำลึกซึ้งตรึงใจคนเช่นนี้ เมื่อออกมาจากปากของฉู่จวินถิงแล้วอานุภาพช่างรุนแรงสะท้านสะเทือนยิ่งนัก สีหน้ายามกล่าวถ้อยร้อยคำจริงใจเป็นยิ่ง ราวกับถ้อยคำสาบาน ดวงตาลึกล้ำและหนักแน่นคู่นั้นจดจ้องอยู่ที่นาง ภายในอัดแน่นด้วยความลึกซึ้งจริงใจไม่สร่างซา“ครั้งแรกที่ข้าได้พบกับเจ้านั้น เป็นยามที่เจ้ากล้าถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย เมื่อนั้นข้าก็รู้ทันทีว่าเจ้าไม่เหมือนผู้ใด เจ้ากล้าหาญชาญฉลาด เด็ดเดี่ยวไม่โอนอ่อนโลเล”“จากนั้นทุกคราที่ได้พบกัน ก็ล้วนถูกเจ้าทำให้ประหลาดใจอยู่เสมอ ถูกสะกดตรึงเอาไว้เช่นนั้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จึงได้คิดอยากทำทุกวิถีทางไปปรากฏอยู่ข้างกายเจ้า” “ตลอดหลายปีมานี้ข้ามิเคยถูกตาต้องใจในผู้ใด จึงมิเคยรู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 354

    ซ่งเยี่ยนโจวเมื่อเห็นฉู่อ๋องเดินมาส่งซ่งรั่วเจิน ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ทว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะไปในทิศทางที่ดีหรือร้ายนั้น เขาเองก็ไม่อาจตัดสินได้เดิมฮองเฮาหมายตาบุตรีเสนาบดีไว้อยู่ก่อนแล้ว เกรงว่าจะไม่โปรดปรานน้องหญิงห้าของเขา ทว่าด้านไทเฮาภายในห้องทรงพระอักษรเมื่อครู่นี้นั้น นับว่าโปรดปรานน้องหญิงห้าอยู่มาก “หัวหน้าราชองครักษ์บูรพาระดับสี่ ยินดีกับท่านเป็นยิ่งที่ได้กลับมารับตำแหน่ง” ฉู่จวินถิงกล่าวฟังคำแล้ว ใบหน้าของซ่งเยี่ยนโจวก็ประดับพรายด้วยรอยยิ้ม “ขอบพระทัยท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”เขาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าจะยังมีโอกาสได้หวนคืนสู่ตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง ทว่า...ในใจเขารู้ดี ว่าอย่างไรก็อัมพาตมานานแล้ว ตำแหน่งของเขาย่อมไม่ขาดคนมาแทนที่ถึงตอนนี้ จู่ๆ จะได้หวนกลับคืนมาก็ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะทำให้ใครบางคนเกิดไม่พอใจ อยากจะทำให้ทุกคนยอมรับก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่เขาเชื่อว่าปัญหาอยู่ที่จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นสักวันจะต้องทำได้แน่“ร่างกายของเจ้ายามนี้สมบูรณ์ดีแล้วหรือยัง? หรือยังจะต้องฟื้นฟูกันไปอีกระยะ?” ฉู่จวินถิงเอ่ยถา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 355

    “จำนวนคนของทั้งสองฝ่ายต่างกันไม่น้อย แม้ว่าจะสังหารได้พอควร ทว่าก็มีพลทหารถึงสองนายต้องสังเวยชีพ สองคนที่เหลือจึงรีบกลับมายังค่ายทหาร”“เมื่อนายทหารในค่ายรู้ว่าพี่น้องพวกตนถูกโจรภูเขาสังหารสิ้นก็ต่างเดือดดาลคั่งแค้น พากันถือจับอาวุธหมายล้างแค้นแทนพี่น้องตน ฉู่อ๋องได้ยินข่าวเข้าจึงรีบรุดหน้าไปจัดการ”“นึกดูแล้ว พวกเขาคงต้องวางแผนกันข้ามคืนเลยทีเดียว เพื่อกำจัดโจรภูเขาเหล่านี้ให้ราบคาบโดยไว”ซ่งรั่วเจินเข้าใจได้ในทันที “พี่ใหญ่ เช่นนั้นท่านมิต้องเป็นกังวลเรื่องข้าไปหรอก รีบไปด้วยกันกับฉู่อ๋องเถิด”“ไม่เป็นไรหรอก เวลาเพียงแค่นี้มิได้เสียหลาย อีกอย่างข้ายังต้องกลับไปเอาข้าวของอีกด้วย”ซ่งเยี่ยนโจวโบกมือ “ฉู่อ๋องตั้งใจชวนข้าไปด้วย ดูท่าคงรู้ดีว่าข้าหยุดอยู่ที่บ้านมาก็นานนม ครานี้ได้กลับไปแล้วก็ย่อมมิอาจหลีกเลี้ยงคำครหาสงสัยจากผู้คน แต่หากปราบโจรได้สำเร็จก็เท่ากับได้สร้างผลงานมีความดีความชอบ”แม้เขาจะมีศักดิ์เป็นนายทัพผู้หนึ่ง แต่เมื่อก่อนก็เคยสอบผ่านเข้ารับราชการ หากไม่ได้เลือกติดตามบิดาไปเป็นทหารแล้วล่ะก็ บัดนี้ก็คงได้เป็นขุนนางฝ่ายพลเรือนไปเสียแล้ว ดังนั้นจึงย่อมเข้าใจถึงความลำบากเห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 356

    “จวนเซียงอ๋องเชิญพวกเราทั้งครอบครัวไป วันนี้ตอนเจ้าเข้าวัง ต่งฮูหยินเดินทางมาเที่ยวหนึ่ง พูดว่าบังเอิญคืนนี้สามารถไปพร้อมกันได้”หลิ่วหรูเยียนยิ้มออกมาอย่างสุดจะหักห้ามใจ ครอบครัวเซียงอ๋องมีฐานะสูงศักดิ์ หยวนเอินไม่เคยไปมาหาสู่กับสกุลซ่ง ครั้งนี้ถึงขั้นตั้งใจมาเชิญพวกเขาทั้งครอบครัว น่ากลัวว่านี่จะทำให้คนไม่น้อยตกใจนับตั้งแต่ระยะก่อนภายในครอบครัวเกิดเรื่องแล้วเรื่องเล่า นางก็ได้รับรู้ความโหดร้ายของโลกนี้ บัดนี้เห็นว่าสกุลซ่งดีขึ้นทีละน้อย อารมณ์ของนางก็ไม่เหมือนตอนแรกแล้ว“ก่อนหน้านี้ยังไม่ต้องพูดถึงจวนเซียงอ๋อง ก็แค่คนที่มีความสัมพันธ์ไม่เลวกับพวกเราเหล่านั้น บางคนก็ไม่เชิญพวกเราไป” หลิ่วหรูเยียนพูดขึ้นซ่งรั่วเจินเองก็รู้เรื่องนี้ พูดว่า “ผ่านมาหนึ่งเรื่องได้เห็นตัวตนของพวกเขาก็นับเป็นเรื่องดี ภายภาคหน้าไปมาหาสู่น้อยลง มีหน้าตาอยู่ต่อไปได้ก็พอแล้วเจ้าค่ะ”“เจ้าพูดถูกแล้ว” หลิ่วหรูเยียนตบๆ มือซ่งรั่วเจิน “เจ้าโตแล้วจริงๆ...”ณ พระราชวัง ตำหนักเสาหัว“ฮองเฮา หม่อมฉันได้ยินมาว่าแม่นางซ่งไม่เพียงช่วยไทเฮาตามหาไข่มุกที่หายไปนานแล้วพบ ยังตามหาปิ่นปักผมของไทเฮาที่อดีตฮ่องเต้ประทานให

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 733

    ซ่งรั่วเจินตัดสินใจไปรับบิดากลับมา ก่อนออกเดินทางย่อมต้องเตรียมสิ่งของมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นยังต้องบอกคนในครอบครัวเสียก่อนหลังนางบอกเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดน คนในจวนล้วนอึ้งตกใจกันหมด“เจินเอ๋อร์ เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะไปชายแดนด้วยตัวเอง?” กู้หรูเยียนมีสีหน้าตกตะลึง “ก่อนนี้ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย”“น้องหญิงห้า ถ้าเจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อก็ให้พี่ชายอย่างพวกข้าไปดีกว่า ผู้หญิงแบบเจ้าไปสถานที่ห่างไกลปานนั้นจะอันตรายเกินไปแล้ว” ซ่งจืออวี้เอ่ยอย่างร้อนใจซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขารับราชการอาจไม่สะดวก ข้ามีประสบการณ์เดินทางโชกโชน ให้ข้าไปดีกว่า!”“ความจริงสาเหตุที่ข้าจะเดินทางไปเป็นเพราะข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านพ่อ”เมื่อซ่งรั่วเจินเอ่ยวาจาประโยคนี้ออกมา สีหน้าทุกคนในห้องล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าจะเกิดปัญหาอันใด?“ก่อนนี้ข้าก็เคยทำนายเหมือนกัน ดวงชะตาของท่านพ่อปลอดภัยไร้อันตราย สามารถกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ช่วงนี้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้น น่าจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก”“ถ้าไม่ไป ข้ากังวลว่าอาจมีอันตราย ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปด้วยตั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 732

    “ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ค้นตัวไต้ซือเทียนจีใช่หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นรีบร้อนเกินไป พวกข้าไม่เปิดโอกาสให้เขา แต่ว่ากันตามปกติแล้ว ของที่มีค่ามากมักจะไม่พกติดตัวไว้”“สิ่งสำคัญที่สุดมักไม่พกติดตัวก็จริง แต่คนในวงการพวกข้า โดยเฉพาะคนชั่วร้ายอย่างเขา จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ข่มขู่อย่างแน่นอน”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ต่อให้เคยเจอไต้ซือเทียนจีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทราบว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้หนึ่งกระทำเรื่องชั่วช้ามาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัย แล้วจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเองเลยได้อย่างไร?กู้ชิงฉือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายไต้ซือเทียนจีแล้วเริ่มค้นหาอย่างละเอียด การค้นตัวครั้งนี้พบว่านอกจากยันต์ที่อ่านไม่ออกพวกนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนอีกสองเม็ด“ไม่มีของอย่างอื่น แต่มีหินก้อนหนึ่ง นี่คือหยิบติดตัวมาด้วยงั้นรึ?”กู้ชิงฉือมองก้อนหินในมือ หินก้อนนี้แม้พอจะนับได้ว่ามนเกลี้ยง แต่ก็ดูแตกต่างจากก้อนหินที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมแม่น้ำมากเกินไป“ข้าขอดูหน่อย”ซ่งรั่วเจินก้าวเร็วๆ เข้ามาหา มองก้อนหินในมือแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 731

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้วฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ“ยังช่วยได้”ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้นซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้วตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียวหลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถามจ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 729

    “ไปเส้นทางใต้ดิน”ไต้ซือเทียนจีไม่คิดมากนัก พาทุกคนไปยังเส้นทางใต้ดิน“ไต้ซือ เส้นทางไต้ดินนี้ไม่สามารถเดินทางตามสะดวกได้!”ทุกคนมองเส้นทางใต้ดิน ใบหน้าเผยความลังเล ก่อนหน้านี้เคยพูดมาก่อนหากไม่แจ้ง จะไม่สามารถใช้เส้นทางใต้ดินนี้ได้เด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นจะปล่อยให้ถูกคนพบไม่ได้!“บัดนี้หมดหนทางแล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนเช่นไร? ในเมื่อเขาแน่ใจว่าพวกเราอยู่ในพื้นที่นี้ จะต้องแจ้งคนอื่นให้เข้ามาปิดล้อมแน่”“หากพวกเราไม่หนี ก็มีเพียงต้องตายเท่านั้น!”สีหน้าไต้ซือเทียนจีเคร่งขรึม เขาย่อมรู้ว่าเส้นทางใต้ดินนี้หมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้นอกจากตัวเลือกนี้แล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก!ทุกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจ ไปอาจไม่ตาย แต่ไม่ไปจะต้องตายแน่!“ไป!”ครู่ต่อมา พวกซ่งเยี่ยนโจวมองเห็นกิ่งไม้หยุดหน้าห้องหนึ่ง จากนั้นเสียงประตูใหญ่ถูกเปิดออกดัง “แอ๊ด” ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด“กิ่งไม้นี้ถึงขั้นสามารถเปิดประตูได้?”จ้าวเจียงอ้าปากกว้าง คิดเพียงว่าหลังจากวันนี้ผ่านพ้นไปไม่ว่าคนอื่นพูดเรื่องเหลือจะเชื่อมากเพียงใดเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกแล้ว!เพราะเรื่องแปลกประหลาดที่สุดถูกเขาพบแล้ว!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 728

    นางหยิบกิ่งไม้หนึ่งกิ่งขึ้นมาจากพื้น จากนั้นทุกคนได้เห็นกิ่งไม้นั้นลอยขึ้นกลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นยังหันไปที่ทิศทางหนึ่ง ทันใดนั้นเบิกตากว้าง“เยี่ยนโจว พวกเราดีชั่วอย่างไรก็รู้จักกันมานานหลายปีถึงเพียงนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าน้องสาวของท่านยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!”จ้าวเจียงเผยสีหน้าตกตะลึง ก่อนหน้านี้ได้ยินก็คิดว่าเร้นลับเหลือเกิน จนกระทั่งได้เห็นเองกับตาวันนี้ กลับรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดฝีมือนี้ช่างมหัศจรรย์โดยแท้!ซ่งเยี่ยนโจว “...” จะให้พูดได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วเขาก็เคยเห็นเป็นครั้งแรก?ที่ผ่านมาใช่ว่าไม่เคยเห็นน้องหญิงห้าแสดงฝีมือมาก่อน แต่นั่นก็แค่เขียนยันต์ไม่กี่ใบเท่านั้น ยามได้เห็นน้องหญิงห้าช่วยอนุอวิ๋นกำจัดความชั่วร้าย ก็เห็นเพียงเผายันต์หนึ่งใบ!ได้เห็นฉากนี้ รู้ว่าแตกต่างจากที่เคยได้เห็นก่อนหน้านี้นี่...นับเป็นการเคลื่อนที่กลางอากาศหรือไม่?“ไล่ตามไป!”กิ่งไม้ขยับไปข้างหน้าไม่นับว่าช้า ฉู่จวินถิงรีบเอ่ยเตือนทุกคนให้ไล่ตามพวกซ่งเยี่ยนโจวไม่กล้ารอช้า ใช้ความเร็วที่สุดไล่ตามไป การไล่ตามไปครั้งนี้กลับพบความมหัศจรรย์ กิ่งไม้นั้นคล้ายมีตา ยิ่งไปกว่านั้นยังหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 727

    ฉู่จวินถิงเลื่อนสายตาไปอย่างแปลกใจ ก็ได้เห็นดวงตาทอประกายระยับของแม่นางคนนี้ที่กำลังเดินมาหยุดต่อหน้าตน ภายในไม่มีความกลัวหรือรังเกียจเลยสักเศษเสี้ยว มีเพียงความตกตะลึงระคนเลื่อมใส“ท่านอ๋อง วิชาตัวเบาของท่านยอดเยี่ยมมาก ภายภาคหน้าสามารถสอนหม่อมฉันได้หรือไม่?”ฉู่จวินถิงหลุดหัวเราะออกมา ภายในสายตากลับเปล่งประกาย “ได้”บรรยากาศตึงเครียดรอบกายเปลี่ยนไปตามคำพูดของซ่งรั่วเจิน ทุกคนหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ แม่นางคนนี้น่าสนใจมาก กล้าหาญไม่ธรรมดาหากได้อยู่กับท่านอ๋อง นี่จะต้องเหมาะสมไม่ธรรมดาแน่!“คนหนีไปหมดแล้ว”ซ่งเยี่ยนโจวขมวดคิ้วแน่น อีกฝ่ายเห็นว่าพวกเขามาแล้วก็หนีไปในทันที เมื่อครู่ไม่ทันได้ไล่ตาม บัดนี้ต้องตามรอยเบาะแสใหม่อีกครั้งแล้ว“วันนี้ไต้ซือเทียนจีหนีไม่รอดหรอกเจ้าค่ะ!”ใบหน้าซ่งรั่วเจินเผยแววมั่นใจในตนเอง นางหยิบยันต์ออกมาหนึ่งปึกมอบให้ฉู่จวินถิง “ท่านอ๋อง ท่านให้ทุกคนพกยันต์ไว้ให้ดี จะได้ไม่ถูกวิชาพรางตาหลอกอีก”ซ่งเยี่ยนโจวเห็นเวลาเพียงชั่วพริบตาน้องสาวก็นำยันต์ออกมามากถึงเพียงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาเปี่ยมความสงสัย ตกลงนางใส่ของเหล่านี้ไว้ที่ใด?เพียงออกจากบ้านก็นำของมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status