Share

บทที่ 347

Author: จี้เวยเวย
“ไม่ว่านางจะยินดีร่วมชีวิตกับลูกหรือไม่ หวังว่าเสด็จแม่จะไม่กดดันนาง”

ฮองเฮาได้ยินแล้วก็ยิ่งปวดใจกว่าเดิม

ฮ่องเต้มิใช่คนมั่นคงในรัก คิดไม่ถึงว่าบุตรชายของนางจะเป็นพวกงมงายในรัก รู้สึกเพียงว่าไม่เอาไหนจริงๆ แทบอยากจะเตะสักครั้งเสียเดี๋ยวนี้

“ช่างเถอะ ข้าคร้านจะสนใจแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ”

ฮองเฮาโบกมือ ไม่เห็นก็ไม่ต้องรำคาญใจ ชอบทำให้นางโมโหอยู่เรื่อย!

พอฉู่จวินถิงออกมาก็เห็นฉู่อวิ๋นกุยกับฉู่มู่เหยาที่มีสีหน้าเลื่อมใส ดวงตาของทั้งคู่เป็นประกายวิบวับ ความนับถือมีมากเกินกว่าจะใช้คำพูดบรรยายออกมา

“เสด็จพี่สาม ท่านช่างกล้าหาญจริงๆ!”

ฉู่มู่เหยามีสีหน้าเลื่อมใส นางคิดว่ารอบนี้เสด็จแม่จะต้องรับมือยากมากแน่ๆ คิดไม่ถึงว่าเสด็จพี่สามอยู่ข้างในไม่นานก็ออกมาแล้ว

ช่วงแรกพูดอะไรบ้างได้ยินไม่ชัดนัก ได้ยินเพียงท่อนสุดท้าย เสด็จแม่บอกว่าคร้านจะสนใจแล้ว นั่นก็หมายความว่าสำเร็จแล้วนะสิ?

“เสด็จพี่สาม ท่านพูดกับเสด็จแม่อย่างไรกันแน่?”

ฉู่อวิ๋นกุยยอมรับนับถือจากใจจริง “สอนข้าบ้างสิ วันหน้าถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ ข้าจะได้เอาอย่างบ้าง”

“เจ้าไม่ได้ใช้หรอก” ฉู่จวินถิงเอ่ย

ฉู่อวิ๋นกุย “???”

ความรู้สึกแปลกๆ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 348

    เห็นสีหน้าซ่งรั่วเจินไม่เหมือนล้อเล่น ความสงสัยใคร่รู้ในแววตาไทเฮายิ่งเข้มข้นกว่าเดิม “ถ้าเจ้าสามารถช่วยข้าหาเจอ ข้าจะตกรางวัลให้เจ้าอย่างงาม!”ซ่งรั่วเจินงอนิ้วคำนวณก็กระจ่างใจโดยพลัน เอ่ยว่า “ไทเฮาเพคะ ไข่มุกอยู่ในห้องทรงพระอักษรเพคะ”ไทเฮาได้ยินแล้วก็มุ่นคิ้วขึ้นมา “แม่หนู เจ้าคงทำนายผิดไปแล้วกระมัง”“ปิ่นนี้เก็บไว้ในตำหนักเสาหัวที่พักของข้ามาโดยตลอด จะไปอยู่ในห้องทรงพระอักษรได้อย่างไรกัน?”ครั้นกลายเป็นไทเฮา ก่อนที่จะย้ายเข้าตำหนักฉือหนิง นางพำนักอยู่ในตำหนักเสาหัวมาโดยตลอด หลังพบว่าไข่มุกบนปิ่นหายไป นางก็ให้คนค้นหาจนทั่วตำหนักเสาหัวโดยไม่ปล่อยผ่านไปแม้แต่จุดเดียวน่าเสียดาย สุดท้ายก็ยังหาไม่เจอส่วนห้องทรงพระอักษร...ยามนี้เป็นสถานที่ที่ฮ่องเต้ตรวจฎีกา จะไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง “ไทเฮายินดีไปลองหาดูไหมเพคะ? ถ้าหาพบก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”การตามหาคนค่อนข้างยาก เพราะคนสามารถเคลื่อนไหวได้ การตามหาสิ่งของกลับค่อนข้างง่าย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสิ่งของนั้นยังอยู่ในวังหลวง การตามหายิ่งง่ายดายขึ้นไปอีก“เจ้าแน่ใจหรือ?” ไทเฮาถามซ่งรั่วเจินพยักหน้า น้ำเสียงจริงใจ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 349

    ซ่งเยี่ยนโจวหยุดฝีเท้าลงทันที หันไปคารวะไทเฮาและคนอื่นๆ ในใจกลับเต็มไปด้วยความกังวลซ่งรั่วเจินส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงบอกให้พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสบอกรายละเอียดกับพี่ใหญ่ฉู่มู่เหยามีสีหน้าตกใจ “ท่านคือพี่ใหญ่ของแม่นางซ่งกระมัง? ขาของท่านหายดีแล้วหรือ?”คิดถึงตอนที่ทราบข่าวร้ายว่าแม่ทัพซ่งเป็นตายไม่กระจ่าง คุณชายใหญ่สกุลซ่งสองขาพิการ นางก็รู้สึกว่าน่าเสียดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ช่วงก่อนหน้านี้บุตรีลั่วกั๋วกงตกน้ำ คุณชายสกุลเหยาด่าทอซ่งเยี่ยนโจวจนเกรียวกราวไม่ทั่วคิดไม่ถึงว่า...คุณชายใหญ่สกุลซ่งที่หมอหลวงทั้งสำนักล้วนจนปัญญารักษา แน่ใจว่าต้องพิการไปชั่วชีวิต ตอนนี้กลับยืนขึ้นมาได้แล้ว?“ขากระหม่อมหายดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งเยี่ยนโจวประสานมือตอบหลังจากได้สติคืนมา เข้าใจว่าชั่วชีวิตนี้คงได้แต่นั่งบนเก้าอี้รถเข็น คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง นี่ไม่ต่างกับการได้มีชีวิตใหม่ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพราะน้องหญิงห้าทั้งสิ้น“เสด็จแม่ ท่านมาได้อย่างไร?”ฮ่องเต้เห็นไทเฮานำคนกลุ่มหนึ่งมาที่ห้องทรงพระอักษร สีหน้าก็ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย คงไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 350

    ฉู่มู่เหยาหุบปากลงอย่างเงียบๆ นางไม่บอกหรอกว่าเมื่อครู่ก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเหมือนกัน เข้าใจไปโดยไม่ทันคิดว่าจะต้องถูกโจรขโมยไปแน่ๆโชคดีที่มีเสด็จพี่ห้าขวางอยู่ข้างหน้า ทำให้นางรอดเคราะห์นี้มาได้ฉู่จวินถิงก้าวเร็วๆ เข้าไปเปิดชั้นบนสุดของตู้ตรงหน้าออกมา กล่องเล็กแสนประณีตใบหนึ่งวางไว้อยู่ในนั้นเมื่อไทเฮาเห็นกล่องเล็กใบนั้น แววตาพลันชะงักค้าง “กล่องนี้...เป็นของอดีตฮ่องเต้”ได้ยินดังนั้น ฉู่จวินถิงก็ไม่ได้เปิดออก แต่ส่งกล่องใบนั้นให้ถึงมือไทเฮาไทเฮาเปิดกล่องออกช้าๆ สิ่งที่วางไว้ในนั้น นอกจากไข่มุกหนึ่งเม็ด ยังมีปิ่นใหม่เอี่ยมหนึ่งอันและจดหมายอีกฉบับ“นี่คือ...”ไทเฮาวางกล่องใบเล็กลงข้างๆ กางจดหมายออก มองปราดเดียวก็จำลายมือของอดีตฮ่องเต้ได้ในทันทีที่แท้ ไข่มุกบนปิ่นก็ไม่ได้หายไปตอนอยู่ในตำหนักเสาหนิง แต่หล่นไปในวันที่มาห้องทรงพระอักษร อดีตฮ่องเต้บังเอิญเก็บได้อดีตฮ่องเต้ทราบว่านั่นคือปิ่นที่ทำให้ไทเฮาด้วยตนเองเมื่อหลายปีก่อน ผ่านมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังใส่อยู่จึงตัดสินใจทำปิ่นอันใหม่ให้เดิมทีรอให้ถึงวันเกิดไทเฮาก่อนค่อยมอบให้ คิดไม่ถึงว่า...ไทเฮาอ่านจดหมายในมือ แล้วหยิบปิ่นใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 351

    “ใช่เพคะ” ซ่งรั่วเจินตอบความสามารถนี้แม้จะเป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวบ้านมานักต่อนักแล้ว ทว่าในพระราชวังนั้นเห็นได้ชัดว่าโดยส่วนใหญ่ต่างได้ยินกันมาเพียงผ่านๆ เท่านั้น ซึ่งนางเองก็ไร้ความคิดที่จะปิดบังอย่างไรเสียก็ปิดบังเอาไว้ไม่มิด มิสู้หาโอกาสแสดงความสามารถออกไปโดยตรง กลับกันแล้วอาจทำให้ความเป็นอยู่ของสกุลซ่งในภายภาคหน้าดีขึ้นยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้“ฮ่องเต้ แม่หนูผู้นี้จิตใจดีเป็นยิ่ง ข้าเพียงเอ่ยปากชวนนางลิ้มลองขนมแกล้มชาเพียงสองชิ้น นางก็ช่วยข้าตามหามุกจนเจอได้แล้ว”“ได้ข่าวว่าบุตรชายรองสกุลซ่งได้อันดับหนึ่งในการสอบฤดูใบไม้ผลิ สมแล้วที่เป็นสกุลซ่ง พ้นจากแม่ทัพซ่งแล้วแต่ละคนก็ล้วนโดดเด่นเหนือผู้ใด จะต้องปฏิบัติต่อพวกเขาให้ดีเข้าไว้นะ”ไทเฮากล่าวชมเชยสกุลซ่งโดยไม่มีอ้อมค้อมประหยัดถ้อยคำ แต่ไหนแต่ไรมาสกุลซ่งล้วนจงรักภักดีต่อราชสำนัก ก่อนนี้ก็ยังมีแม่ทัพผู้เฒ่าซ่งเป็นถึงขุนนางผู้เป็นกำลังสำคัญ เสียก็แต่วันนี้สิ้นแม่ทัพผู้เฒ่าซ่งไปแล้ว อีกทั้งซ่งหลินก็ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ทั้งสกุลซ่งจึงเหลือเพียงเด็กหนุ่มสาวเพียงไม่กี่คน ทว่าแต่ละคนล้วนเก่งกล้าสามารถฮ่องเต้เองก็น้อยครั้งน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 352

    เมื่อออกจากห้องทรงพระอักษรแล้วไทเฮาก็เกิดรู้สึกเพลีย นางอยู่สนทนากับฉู่อ๋องอยู่พักหนึ่งก่อนจะเสด็จกลับไปยังตำหนักฉือหนิงด้านซ่งรั่วเจินแน่นอนว่าก็ถึงเวลาที่ควรออกจากวังแล้ว จึงตั้งใจจะกลับไปพร้อมกันกับซ่งเยี่ยนโจว ทว่าขณะที่กำลังจะกลับไปนี้เองฉู่จวินถิงก็ตามมาเสียก่อน“แม่นางซ่ง รอประเดี๋ยว”ฉู่จวินถิงจ้องมองไปยังคนตรงหน้า ดวงตาฉายอารมณ์ซับซ้อนตอนที่ออกมาจากตำหนักของเสด็จแม่เขาก็คิดจะหาจังหวะบอกกล่าวกับนางให้ชัดเจน ไม่นึกว่าจะเผอิญกับที่เกิดเรื่องราวในห้องทรงพระอักษรขึ้น บัดนี้นางกำลังจะกลับไปแล้ว เขาย่อมต้องเปิดเผยความในใจของตนออกไปให้ชัดเจนจึงจะถูกซ่งรั่วเจินหยุดฝีเท้า หันมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเขา รู้สึกว่าตั้งแต่เขาเปิดเผยความในใจออกมาต่อหน้าผู้คนแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดมัน…รู้สึกแปลกพิกลอย่างไรก็ไม่รู้“พวกเจ้าอยู่คุยกันเถิด ข้าจะไปรอข้างนอก”ซ่งเยี่ยนโจวเข้าใจดีว่าเหตุที่วันนี้น้องหญิงห้าถูกเชิญเข้าวังเป็นต้องเกี่ยวข้องกับฉู่อ๋องเป็นแน่แท้ จังหวะเผอิญกับเมื่อคืนวานที่ฉู่อ๋องต้องไปที่ค่ายทหารอีกครั้ง จึงไม่ทันได้พูดคุยสนทนาใดๆ กับน้องหญ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 353

    “ท่านอ๋อง…”“ข้าพึงใจเจ้า”ทั้งสองเอ่ยขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน เดิมทีซ่งรั่วเจินคิดจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดเพื่อทำลายบรรยากาศน่ากระอักกระอ่วนนี้ ทว่ากลับได้ยินถ้อยคำของฉู่จวินถิงเข้าพอดิบพอดี“วะ...ว่าอย่างไรนะเพคะ?”“ข้าพึงใจในตัวเจ้า”ฉู่จวินถิงกล่าวซ้ำย้ำอีกครั้ง นับแต่วินาทีที่ได้กล่าวออกไป ในใจเขาก็รู้สึกโปร่งโล่งขึ้นไม่น้อยซ่งรั่วเจินชะงักไป ไม่พูดถึงไม่ได้เลยว่าถ้อยคำลึกซึ้งตรึงใจคนเช่นนี้ เมื่อออกมาจากปากของฉู่จวินถิงแล้วอานุภาพช่างรุนแรงสะท้านสะเทือนยิ่งนัก สีหน้ายามกล่าวถ้อยร้อยคำจริงใจเป็นยิ่ง ราวกับถ้อยคำสาบาน ดวงตาลึกล้ำและหนักแน่นคู่นั้นจดจ้องอยู่ที่นาง ภายในอัดแน่นด้วยความลึกซึ้งจริงใจไม่สร่างซา“ครั้งแรกที่ข้าได้พบกับเจ้านั้น เป็นยามที่เจ้ากล้าถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย เมื่อนั้นข้าก็รู้ทันทีว่าเจ้าไม่เหมือนผู้ใด เจ้ากล้าหาญชาญฉลาด เด็ดเดี่ยวไม่โอนอ่อนโลเล”“จากนั้นทุกคราที่ได้พบกัน ก็ล้วนถูกเจ้าทำให้ประหลาดใจอยู่เสมอ ถูกสะกดตรึงเอาไว้เช่นนั้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จึงได้คิดอยากทำทุกวิถีทางไปปรากฏอยู่ข้างกายเจ้า” “ตลอดหลายปีมานี้ข้ามิเคยถูกตาต้องใจในผู้ใด จึงมิเคยรู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 354

    ซ่งเยี่ยนโจวเมื่อเห็นฉู่อ๋องเดินมาส่งซ่งรั่วเจิน ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ทว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะไปในทิศทางที่ดีหรือร้ายนั้น เขาเองก็ไม่อาจตัดสินได้เดิมฮองเฮาหมายตาบุตรีเสนาบดีไว้อยู่ก่อนแล้ว เกรงว่าจะไม่โปรดปรานน้องหญิงห้าของเขา ทว่าด้านไทเฮาภายในห้องทรงพระอักษรเมื่อครู่นี้นั้น นับว่าโปรดปรานน้องหญิงห้าอยู่มาก “หัวหน้าราชองครักษ์บูรพาระดับสี่ ยินดีกับท่านเป็นยิ่งที่ได้กลับมารับตำแหน่ง” ฉู่จวินถิงกล่าวฟังคำแล้ว ใบหน้าของซ่งเยี่ยนโจวก็ประดับพรายด้วยรอยยิ้ม “ขอบพระทัยท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”เขาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าจะยังมีโอกาสได้หวนคืนสู่ตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง ทว่า...ในใจเขารู้ดี ว่าอย่างไรก็อัมพาตมานานแล้ว ตำแหน่งของเขาย่อมไม่ขาดคนมาแทนที่ถึงตอนนี้ จู่ๆ จะได้หวนกลับคืนมาก็ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะทำให้ใครบางคนเกิดไม่พอใจ อยากจะทำให้ทุกคนยอมรับก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่เขาเชื่อว่าปัญหาอยู่ที่จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นสักวันจะต้องทำได้แน่“ร่างกายของเจ้ายามนี้สมบูรณ์ดีแล้วหรือยัง? หรือยังจะต้องฟื้นฟูกันไปอีกระยะ?” ฉู่จวินถิงเอ่ยถา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 355

    “จำนวนคนของทั้งสองฝ่ายต่างกันไม่น้อย แม้ว่าจะสังหารได้พอควร ทว่าก็มีพลทหารถึงสองนายต้องสังเวยชีพ สองคนที่เหลือจึงรีบกลับมายังค่ายทหาร”“เมื่อนายทหารในค่ายรู้ว่าพี่น้องพวกตนถูกโจรภูเขาสังหารสิ้นก็ต่างเดือดดาลคั่งแค้น พากันถือจับอาวุธหมายล้างแค้นแทนพี่น้องตน ฉู่อ๋องได้ยินข่าวเข้าจึงรีบรุดหน้าไปจัดการ”“นึกดูแล้ว พวกเขาคงต้องวางแผนกันข้ามคืนเลยทีเดียว เพื่อกำจัดโจรภูเขาเหล่านี้ให้ราบคาบโดยไว”ซ่งรั่วเจินเข้าใจได้ในทันที “พี่ใหญ่ เช่นนั้นท่านมิต้องเป็นกังวลเรื่องข้าไปหรอก รีบไปด้วยกันกับฉู่อ๋องเถิด”“ไม่เป็นไรหรอก เวลาเพียงแค่นี้มิได้เสียหลาย อีกอย่างข้ายังต้องกลับไปเอาข้าวของอีกด้วย”ซ่งเยี่ยนโจวโบกมือ “ฉู่อ๋องตั้งใจชวนข้าไปด้วย ดูท่าคงรู้ดีว่าข้าหยุดอยู่ที่บ้านมาก็นานนม ครานี้ได้กลับไปแล้วก็ย่อมมิอาจหลีกเลี้ยงคำครหาสงสัยจากผู้คน แต่หากปราบโจรได้สำเร็จก็เท่ากับได้สร้างผลงานมีความดีความชอบ”แม้เขาจะมีศักดิ์เป็นนายทัพผู้หนึ่ง แต่เมื่อก่อนก็เคยสอบผ่านเข้ารับราชการ หากไม่ได้เลือกติดตามบิดาไปเป็นทหารแล้วล่ะก็ บัดนี้ก็คงได้เป็นขุนนางฝ่ายพลเรือนไปเสียแล้ว ดังนั้นจึงย่อมเข้าใจถึงความลำบากเห

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 733

    ซ่งรั่วเจินตัดสินใจไปรับบิดากลับมา ก่อนออกเดินทางย่อมต้องเตรียมสิ่งของมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นยังต้องบอกคนในครอบครัวเสียก่อนหลังนางบอกเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดน คนในจวนล้วนอึ้งตกใจกันหมด“เจินเอ๋อร์ เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะไปชายแดนด้วยตัวเอง?” กู้หรูเยียนมีสีหน้าตกตะลึง “ก่อนนี้ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย”“น้องหญิงห้า ถ้าเจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อก็ให้พี่ชายอย่างพวกข้าไปดีกว่า ผู้หญิงแบบเจ้าไปสถานที่ห่างไกลปานนั้นจะอันตรายเกินไปแล้ว” ซ่งจืออวี้เอ่ยอย่างร้อนใจซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขารับราชการอาจไม่สะดวก ข้ามีประสบการณ์เดินทางโชกโชน ให้ข้าไปดีกว่า!”“ความจริงสาเหตุที่ข้าจะเดินทางไปเป็นเพราะข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านพ่อ”เมื่อซ่งรั่วเจินเอ่ยวาจาประโยคนี้ออกมา สีหน้าทุกคนในห้องล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าจะเกิดปัญหาอันใด?“ก่อนนี้ข้าก็เคยทำนายเหมือนกัน ดวงชะตาของท่านพ่อปลอดภัยไร้อันตราย สามารถกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ช่วงนี้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้น น่าจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก”“ถ้าไม่ไป ข้ากังวลว่าอาจมีอันตราย ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปด้วยตั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 732

    “ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ค้นตัวไต้ซือเทียนจีใช่หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นรีบร้อนเกินไป พวกข้าไม่เปิดโอกาสให้เขา แต่ว่ากันตามปกติแล้ว ของที่มีค่ามากมักจะไม่พกติดตัวไว้”“สิ่งสำคัญที่สุดมักไม่พกติดตัวก็จริง แต่คนในวงการพวกข้า โดยเฉพาะคนชั่วร้ายอย่างเขา จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ข่มขู่อย่างแน่นอน”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ต่อให้เคยเจอไต้ซือเทียนจีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทราบว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้หนึ่งกระทำเรื่องชั่วช้ามาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัย แล้วจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเองเลยได้อย่างไร?กู้ชิงฉือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายไต้ซือเทียนจีแล้วเริ่มค้นหาอย่างละเอียด การค้นตัวครั้งนี้พบว่านอกจากยันต์ที่อ่านไม่ออกพวกนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนอีกสองเม็ด“ไม่มีของอย่างอื่น แต่มีหินก้อนหนึ่ง นี่คือหยิบติดตัวมาด้วยงั้นรึ?”กู้ชิงฉือมองก้อนหินในมือ หินก้อนนี้แม้พอจะนับได้ว่ามนเกลี้ยง แต่ก็ดูแตกต่างจากก้อนหินที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมแม่น้ำมากเกินไป“ข้าขอดูหน่อย”ซ่งรั่วเจินก้าวเร็วๆ เข้ามาหา มองก้อนหินในมือแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 731

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้วฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ“ยังช่วยได้”ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้นซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้วตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียวหลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถามจ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 729

    “ไปเส้นทางใต้ดิน”ไต้ซือเทียนจีไม่คิดมากนัก พาทุกคนไปยังเส้นทางใต้ดิน“ไต้ซือ เส้นทางไต้ดินนี้ไม่สามารถเดินทางตามสะดวกได้!”ทุกคนมองเส้นทางใต้ดิน ใบหน้าเผยความลังเล ก่อนหน้านี้เคยพูดมาก่อนหากไม่แจ้ง จะไม่สามารถใช้เส้นทางใต้ดินนี้ได้เด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นจะปล่อยให้ถูกคนพบไม่ได้!“บัดนี้หมดหนทางแล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนเช่นไร? ในเมื่อเขาแน่ใจว่าพวกเราอยู่ในพื้นที่นี้ จะต้องแจ้งคนอื่นให้เข้ามาปิดล้อมแน่”“หากพวกเราไม่หนี ก็มีเพียงต้องตายเท่านั้น!”สีหน้าไต้ซือเทียนจีเคร่งขรึม เขาย่อมรู้ว่าเส้นทางใต้ดินนี้หมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้นอกจากตัวเลือกนี้แล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก!ทุกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจ ไปอาจไม่ตาย แต่ไม่ไปจะต้องตายแน่!“ไป!”ครู่ต่อมา พวกซ่งเยี่ยนโจวมองเห็นกิ่งไม้หยุดหน้าห้องหนึ่ง จากนั้นเสียงประตูใหญ่ถูกเปิดออกดัง “แอ๊ด” ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด“กิ่งไม้นี้ถึงขั้นสามารถเปิดประตูได้?”จ้าวเจียงอ้าปากกว้าง คิดเพียงว่าหลังจากวันนี้ผ่านพ้นไปไม่ว่าคนอื่นพูดเรื่องเหลือจะเชื่อมากเพียงใดเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกแล้ว!เพราะเรื่องแปลกประหลาดที่สุดถูกเขาพบแล้ว!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 728

    นางหยิบกิ่งไม้หนึ่งกิ่งขึ้นมาจากพื้น จากนั้นทุกคนได้เห็นกิ่งไม้นั้นลอยขึ้นกลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นยังหันไปที่ทิศทางหนึ่ง ทันใดนั้นเบิกตากว้าง“เยี่ยนโจว พวกเราดีชั่วอย่างไรก็รู้จักกันมานานหลายปีถึงเพียงนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าน้องสาวของท่านยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!”จ้าวเจียงเผยสีหน้าตกตะลึง ก่อนหน้านี้ได้ยินก็คิดว่าเร้นลับเหลือเกิน จนกระทั่งได้เห็นเองกับตาวันนี้ กลับรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดฝีมือนี้ช่างมหัศจรรย์โดยแท้!ซ่งเยี่ยนโจว “...” จะให้พูดได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วเขาก็เคยเห็นเป็นครั้งแรก?ที่ผ่านมาใช่ว่าไม่เคยเห็นน้องหญิงห้าแสดงฝีมือมาก่อน แต่นั่นก็แค่เขียนยันต์ไม่กี่ใบเท่านั้น ยามได้เห็นน้องหญิงห้าช่วยอนุอวิ๋นกำจัดความชั่วร้าย ก็เห็นเพียงเผายันต์หนึ่งใบ!ได้เห็นฉากนี้ รู้ว่าแตกต่างจากที่เคยได้เห็นก่อนหน้านี้นี่...นับเป็นการเคลื่อนที่กลางอากาศหรือไม่?“ไล่ตามไป!”กิ่งไม้ขยับไปข้างหน้าไม่นับว่าช้า ฉู่จวินถิงรีบเอ่ยเตือนทุกคนให้ไล่ตามพวกซ่งเยี่ยนโจวไม่กล้ารอช้า ใช้ความเร็วที่สุดไล่ตามไป การไล่ตามไปครั้งนี้กลับพบความมหัศจรรย์ กิ่งไม้นั้นคล้ายมีตา ยิ่งไปกว่านั้นยังหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 727

    ฉู่จวินถิงเลื่อนสายตาไปอย่างแปลกใจ ก็ได้เห็นดวงตาทอประกายระยับของแม่นางคนนี้ที่กำลังเดินมาหยุดต่อหน้าตน ภายในไม่มีความกลัวหรือรังเกียจเลยสักเศษเสี้ยว มีเพียงความตกตะลึงระคนเลื่อมใส“ท่านอ๋อง วิชาตัวเบาของท่านยอดเยี่ยมมาก ภายภาคหน้าสามารถสอนหม่อมฉันได้หรือไม่?”ฉู่จวินถิงหลุดหัวเราะออกมา ภายในสายตากลับเปล่งประกาย “ได้”บรรยากาศตึงเครียดรอบกายเปลี่ยนไปตามคำพูดของซ่งรั่วเจิน ทุกคนหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ แม่นางคนนี้น่าสนใจมาก กล้าหาญไม่ธรรมดาหากได้อยู่กับท่านอ๋อง นี่จะต้องเหมาะสมไม่ธรรมดาแน่!“คนหนีไปหมดแล้ว”ซ่งเยี่ยนโจวขมวดคิ้วแน่น อีกฝ่ายเห็นว่าพวกเขามาแล้วก็หนีไปในทันที เมื่อครู่ไม่ทันได้ไล่ตาม บัดนี้ต้องตามรอยเบาะแสใหม่อีกครั้งแล้ว“วันนี้ไต้ซือเทียนจีหนีไม่รอดหรอกเจ้าค่ะ!”ใบหน้าซ่งรั่วเจินเผยแววมั่นใจในตนเอง นางหยิบยันต์ออกมาหนึ่งปึกมอบให้ฉู่จวินถิง “ท่านอ๋อง ท่านให้ทุกคนพกยันต์ไว้ให้ดี จะได้ไม่ถูกวิชาพรางตาหลอกอีก”ซ่งเยี่ยนโจวเห็นเวลาเพียงชั่วพริบตาน้องสาวก็นำยันต์ออกมามากถึงเพียงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาเปี่ยมความสงสัย ตกลงนางใส่ของเหล่านี้ไว้ที่ใด?เพียงออกจากบ้านก็นำของมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status