Share

บทที่ 346

Author: จี้เวยเวย
last update Last Updated: 2024-11-22 18:00:00
“นางถอนหมั้น เจ้ายังชื่นชมนาง?”

ฮองเฮามีสีหน้าเหลือเชื่อ ในสายตานาง ตอนที่ฉู่อ๋องรู้เรื่องถอนหมั้นก็ควรเข้าใจแล้วว่าระหว่างเขากับซ่งรั่วเจินเป็นไปไม่ได้ ผู้ใดจะคิดว่าเขากลับชื่นชมนางเพราะถอนหมั้น?

“เสด็จแม่ นางรู้ทั้งรู้ว่าหนทางข้างหน้าคือกองเพลิงก็ยังกระโดดลงไป แบบนั้นจึงเรียกว่าสมควรงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“คนส่วนใหญ่ล้วนขาดความกล้าหาญเช่นนี้ สตรีก็เป็นเช่นนี้ ในสายตาลูก นางไม่หวาดกลัวสายตาคนอื่น เมื่อรู้ว่าฝากชีวิตไว้ผิดคนก็ถอนตัวกลับมา เดิมก็น่าชื่นชมอยู่แล้ว”

“นางก็แค่ถอนหมั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใดสักหน่อย ไยเสด็จแม่ต้องถือสา?”

ฮองเฮามองฉู่จวินถิงอย่างเงียบๆ อยู่ชั่วครู่ก็มุ่นคิ้วเอ่ยว่า “ยังไม่พูดถึงเรื่องที่นางถอนหมั้นชั่วคราว อายุนางก็ไม่น้อยแล้ว”

“ลูกอายุมากกว่านางพอดี” ฉู่จวินถิงกล่าว

ฮองเฮา “...”

“เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ ก่อนหน้านี้นางหมั้นกับหลินจือเยว่ หลินจือเยว่มีสถานะไหน ส่วนเจ้ามีสถานะไหน?”

“สตรีคนหนึ่งที่หลินจือเยว่ไม่ต้องการ เจ้ากลับไปชอบนาง ลือออกไปคนอื่นจะมองเจ้าอย่างไร?”

“คนอื่นอยากคิดอย่างไรก็คิดไป ใช้ชีวิตตนเองให้เป็นสุขจึงสำคัญที่สุด ความคิดของคนอื่นหาได้
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
sumana vitookijwattana
อัพช้า อัพจำนวนตอนให้เยอะกว่านี้ก็ดี เพราะ1ตอนไม่ยาว อ่านนิดเดียวก็จบ ขาดอรรถรสในการอ่าน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 347

    “ไม่ว่านางจะยินดีร่วมชีวิตกับลูกหรือไม่ หวังว่าเสด็จแม่จะไม่กดดันนาง”ฮองเฮาได้ยินแล้วก็ยิ่งปวดใจกว่าเดิมฮ่องเต้มิใช่คนมั่นคงในรัก คิดไม่ถึงว่าบุตรชายของนางจะเป็นพวกงมงายในรัก รู้สึกเพียงว่าไม่เอาไหนจริงๆ แทบอยากจะเตะสักครั้งเสียเดี๋ยวนี้“ช่างเถอะ ข้าคร้านจะสนใจแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ”ฮองเฮาโบกมือ ไม่เห็นก็ไม่ต้องรำคาญใจ ชอบทำให้นางโมโหอยู่เรื่อย!พอฉู่จวินถิงออกมาก็เห็นฉู่อวิ๋นกุยกับฉู่มู่เหยาที่มีสีหน้าเลื่อมใส ดวงตาของทั้งคู่เป็นประกายวิบวับ ความนับถือมีมากเกินกว่าจะใช้คำพูดบรรยายออกมา“เสด็จพี่สาม ท่านช่างกล้าหาญจริงๆ!”ฉู่มู่เหยามีสีหน้าเลื่อมใส นางคิดว่ารอบนี้เสด็จแม่จะต้องรับมือยากมากแน่ๆ คิดไม่ถึงว่าเสด็จพี่สามอยู่ข้างในไม่นานก็ออกมาแล้วช่วงแรกพูดอะไรบ้างได้ยินไม่ชัดนัก ได้ยินเพียงท่อนสุดท้าย เสด็จแม่บอกว่าคร้านจะสนใจแล้ว นั่นก็หมายความว่าสำเร็จแล้วนะสิ?“เสด็จพี่สาม ท่านพูดกับเสด็จแม่อย่างไรกันแน่?”ฉู่อวิ๋นกุยยอมรับนับถือจากใจจริง “สอนข้าบ้างสิ วันหน้าถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ ข้าจะได้เอาอย่างบ้าง”“เจ้าไม่ได้ใช้หรอก” ฉู่จวินถิงเอ่ยฉู่อวิ๋นกุย “???”ความรู้สึกแปลกๆ

    Last Updated : 2024-11-23
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 348

    เห็นสีหน้าซ่งรั่วเจินไม่เหมือนล้อเล่น ความสงสัยใคร่รู้ในแววตาไทเฮายิ่งเข้มข้นกว่าเดิม “ถ้าเจ้าสามารถช่วยข้าหาเจอ ข้าจะตกรางวัลให้เจ้าอย่างงาม!”ซ่งรั่วเจินงอนิ้วคำนวณก็กระจ่างใจโดยพลัน เอ่ยว่า “ไทเฮาเพคะ ไข่มุกอยู่ในห้องทรงพระอักษรเพคะ”ไทเฮาได้ยินแล้วก็มุ่นคิ้วขึ้นมา “แม่หนู เจ้าคงทำนายผิดไปแล้วกระมัง”“ปิ่นนี้เก็บไว้ในตำหนักเสาหัวที่พักของข้ามาโดยตลอด จะไปอยู่ในห้องทรงพระอักษรได้อย่างไรกัน?”ครั้นกลายเป็นไทเฮา ก่อนที่จะย้ายเข้าตำหนักฉือหนิง นางพำนักอยู่ในตำหนักเสาหัวมาโดยตลอด หลังพบว่าไข่มุกบนปิ่นหายไป นางก็ให้คนค้นหาจนทั่วตำหนักเสาหัวโดยไม่ปล่อยผ่านไปแม้แต่จุดเดียวน่าเสียดาย สุดท้ายก็ยังหาไม่เจอส่วนห้องทรงพระอักษร...ยามนี้เป็นสถานที่ที่ฮ่องเต้ตรวจฎีกา จะไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง “ไทเฮายินดีไปลองหาดูไหมเพคะ? ถ้าหาพบก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”การตามหาคนค่อนข้างยาก เพราะคนสามารถเคลื่อนไหวได้ การตามหาสิ่งของกลับค่อนข้างง่าย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสิ่งของนั้นยังอยู่ในวังหลวง การตามหายิ่งง่ายดายขึ้นไปอีก“เจ้าแน่ใจหรือ?” ไทเฮาถามซ่งรั่วเจินพยักหน้า น้ำเสียงจริงใจ

    Last Updated : 2024-11-23
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 349

    ซ่งเยี่ยนโจวหยุดฝีเท้าลงทันที หันไปคารวะไทเฮาและคนอื่นๆ ในใจกลับเต็มไปด้วยความกังวลซ่งรั่วเจินส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงบอกให้พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสบอกรายละเอียดกับพี่ใหญ่ฉู่มู่เหยามีสีหน้าตกใจ “ท่านคือพี่ใหญ่ของแม่นางซ่งกระมัง? ขาของท่านหายดีแล้วหรือ?”คิดถึงตอนที่ทราบข่าวร้ายว่าแม่ทัพซ่งเป็นตายไม่กระจ่าง คุณชายใหญ่สกุลซ่งสองขาพิการ นางก็รู้สึกว่าน่าเสียดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ช่วงก่อนหน้านี้บุตรีลั่วกั๋วกงตกน้ำ คุณชายสกุลเหยาด่าทอซ่งเยี่ยนโจวจนเกรียวกราวไม่ทั่วคิดไม่ถึงว่า...คุณชายใหญ่สกุลซ่งที่หมอหลวงทั้งสำนักล้วนจนปัญญารักษา แน่ใจว่าต้องพิการไปชั่วชีวิต ตอนนี้กลับยืนขึ้นมาได้แล้ว?“ขากระหม่อมหายดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งเยี่ยนโจวประสานมือตอบหลังจากได้สติคืนมา เข้าใจว่าชั่วชีวิตนี้คงได้แต่นั่งบนเก้าอี้รถเข็น คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง นี่ไม่ต่างกับการได้มีชีวิตใหม่ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพราะน้องหญิงห้าทั้งสิ้น“เสด็จแม่ ท่านมาได้อย่างไร?”ฮ่องเต้เห็นไทเฮานำคนกลุ่มหนึ่งมาที่ห้องทรงพระอักษร สีหน้าก็ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย คงไ

    Last Updated : 2024-11-23
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 350

    ฉู่มู่เหยาหุบปากลงอย่างเงียบๆ นางไม่บอกหรอกว่าเมื่อครู่ก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเหมือนกัน เข้าใจไปโดยไม่ทันคิดว่าจะต้องถูกโจรขโมยไปแน่ๆโชคดีที่มีเสด็จพี่ห้าขวางอยู่ข้างหน้า ทำให้นางรอดเคราะห์นี้มาได้ฉู่จวินถิงก้าวเร็วๆ เข้าไปเปิดชั้นบนสุดของตู้ตรงหน้าออกมา กล่องเล็กแสนประณีตใบหนึ่งวางไว้อยู่ในนั้นเมื่อไทเฮาเห็นกล่องเล็กใบนั้น แววตาพลันชะงักค้าง “กล่องนี้...เป็นของอดีตฮ่องเต้”ได้ยินดังนั้น ฉู่จวินถิงก็ไม่ได้เปิดออก แต่ส่งกล่องใบนั้นให้ถึงมือไทเฮาไทเฮาเปิดกล่องออกช้าๆ สิ่งที่วางไว้ในนั้น นอกจากไข่มุกหนึ่งเม็ด ยังมีปิ่นใหม่เอี่ยมหนึ่งอันและจดหมายอีกฉบับ“นี่คือ...”ไทเฮาวางกล่องใบเล็กลงข้างๆ กางจดหมายออก มองปราดเดียวก็จำลายมือของอดีตฮ่องเต้ได้ในทันทีที่แท้ ไข่มุกบนปิ่นก็ไม่ได้หายไปตอนอยู่ในตำหนักเสาหนิง แต่หล่นไปในวันที่มาห้องทรงพระอักษร อดีตฮ่องเต้บังเอิญเก็บได้อดีตฮ่องเต้ทราบว่านั่นคือปิ่นที่ทำให้ไทเฮาด้วยตนเองเมื่อหลายปีก่อน ผ่านมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังใส่อยู่จึงตัดสินใจทำปิ่นอันใหม่ให้เดิมทีรอให้ถึงวันเกิดไทเฮาก่อนค่อยมอบให้ คิดไม่ถึงว่า...ไทเฮาอ่านจดหมายในมือ แล้วหยิบปิ่นใน

    Last Updated : 2024-11-23
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 351

    “ใช่เพคะ” ซ่งรั่วเจินตอบความสามารถนี้แม้จะเป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวบ้านมานักต่อนักแล้ว ทว่าในพระราชวังนั้นเห็นได้ชัดว่าโดยส่วนใหญ่ต่างได้ยินกันมาเพียงผ่านๆ เท่านั้น ซึ่งนางเองก็ไร้ความคิดที่จะปิดบังอย่างไรเสียก็ปิดบังเอาไว้ไม่มิด มิสู้หาโอกาสแสดงความสามารถออกไปโดยตรง กลับกันแล้วอาจทำให้ความเป็นอยู่ของสกุลซ่งในภายภาคหน้าดีขึ้นยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้“ฮ่องเต้ แม่หนูผู้นี้จิตใจดีเป็นยิ่ง ข้าเพียงเอ่ยปากชวนนางลิ้มลองขนมแกล้มชาเพียงสองชิ้น นางก็ช่วยข้าตามหามุกจนเจอได้แล้ว”“ได้ข่าวว่าบุตรชายรองสกุลซ่งได้อันดับหนึ่งในการสอบฤดูใบไม้ผลิ สมแล้วที่เป็นสกุลซ่ง พ้นจากแม่ทัพซ่งแล้วแต่ละคนก็ล้วนโดดเด่นเหนือผู้ใด จะต้องปฏิบัติต่อพวกเขาให้ดีเข้าไว้นะ”ไทเฮากล่าวชมเชยสกุลซ่งโดยไม่มีอ้อมค้อมประหยัดถ้อยคำ แต่ไหนแต่ไรมาสกุลซ่งล้วนจงรักภักดีต่อราชสำนัก ก่อนนี้ก็ยังมีแม่ทัพผู้เฒ่าซ่งเป็นถึงขุนนางผู้เป็นกำลังสำคัญ เสียก็แต่วันนี้สิ้นแม่ทัพผู้เฒ่าซ่งไปแล้ว อีกทั้งซ่งหลินก็ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ทั้งสกุลซ่งจึงเหลือเพียงเด็กหนุ่มสาวเพียงไม่กี่คน ทว่าแต่ละคนล้วนเก่งกล้าสามารถฮ่องเต้เองก็น้อยครั้งน

    Last Updated : 2024-11-24
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 352

    เมื่อออกจากห้องทรงพระอักษรแล้วไทเฮาก็เกิดรู้สึกเพลีย นางอยู่สนทนากับฉู่อ๋องอยู่พักหนึ่งก่อนจะเสด็จกลับไปยังตำหนักฉือหนิงด้านซ่งรั่วเจินแน่นอนว่าก็ถึงเวลาที่ควรออกจากวังแล้ว จึงตั้งใจจะกลับไปพร้อมกันกับซ่งเยี่ยนโจว ทว่าขณะที่กำลังจะกลับไปนี้เองฉู่จวินถิงก็ตามมาเสียก่อน“แม่นางซ่ง รอประเดี๋ยว”ฉู่จวินถิงจ้องมองไปยังคนตรงหน้า ดวงตาฉายอารมณ์ซับซ้อนตอนที่ออกมาจากตำหนักของเสด็จแม่เขาก็คิดจะหาจังหวะบอกกล่าวกับนางให้ชัดเจน ไม่นึกว่าจะเผอิญกับที่เกิดเรื่องราวในห้องทรงพระอักษรขึ้น บัดนี้นางกำลังจะกลับไปแล้ว เขาย่อมต้องเปิดเผยความในใจของตนออกไปให้ชัดเจนจึงจะถูกซ่งรั่วเจินหยุดฝีเท้า หันมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเขา รู้สึกว่าตั้งแต่เขาเปิดเผยความในใจออกมาต่อหน้าผู้คนแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดมัน…รู้สึกแปลกพิกลอย่างไรก็ไม่รู้“พวกเจ้าอยู่คุยกันเถิด ข้าจะไปรอข้างนอก”ซ่งเยี่ยนโจวเข้าใจดีว่าเหตุที่วันนี้น้องหญิงห้าถูกเชิญเข้าวังเป็นต้องเกี่ยวข้องกับฉู่อ๋องเป็นแน่แท้ จังหวะเผอิญกับเมื่อคืนวานที่ฉู่อ๋องต้องไปที่ค่ายทหารอีกครั้ง จึงไม่ทันได้พูดคุยสนทนาใดๆ กับน้องหญ

    Last Updated : 2024-11-24
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 353

    “ท่านอ๋อง…”“ข้าพึงใจเจ้า”ทั้งสองเอ่ยขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน เดิมทีซ่งรั่วเจินคิดจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดเพื่อทำลายบรรยากาศน่ากระอักกระอ่วนนี้ ทว่ากลับได้ยินถ้อยคำของฉู่จวินถิงเข้าพอดิบพอดี“วะ...ว่าอย่างไรนะเพคะ?”“ข้าพึงใจในตัวเจ้า”ฉู่จวินถิงกล่าวซ้ำย้ำอีกครั้ง นับแต่วินาทีที่ได้กล่าวออกไป ในใจเขาก็รู้สึกโปร่งโล่งขึ้นไม่น้อยซ่งรั่วเจินชะงักไป ไม่พูดถึงไม่ได้เลยว่าถ้อยคำลึกซึ้งตรึงใจคนเช่นนี้ เมื่อออกมาจากปากของฉู่จวินถิงแล้วอานุภาพช่างรุนแรงสะท้านสะเทือนยิ่งนัก สีหน้ายามกล่าวถ้อยร้อยคำจริงใจเป็นยิ่ง ราวกับถ้อยคำสาบาน ดวงตาลึกล้ำและหนักแน่นคู่นั้นจดจ้องอยู่ที่นาง ภายในอัดแน่นด้วยความลึกซึ้งจริงใจไม่สร่างซา“ครั้งแรกที่ข้าได้พบกับเจ้านั้น เป็นยามที่เจ้ากล้าถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย เมื่อนั้นข้าก็รู้ทันทีว่าเจ้าไม่เหมือนผู้ใด เจ้ากล้าหาญชาญฉลาด เด็ดเดี่ยวไม่โอนอ่อนโลเล”“จากนั้นทุกคราที่ได้พบกัน ก็ล้วนถูกเจ้าทำให้ประหลาดใจอยู่เสมอ ถูกสะกดตรึงเอาไว้เช่นนั้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จึงได้คิดอยากทำทุกวิถีทางไปปรากฏอยู่ข้างกายเจ้า” “ตลอดหลายปีมานี้ข้ามิเคยถูกตาต้องใจในผู้ใด จึงมิเคยรู

    Last Updated : 2024-11-24
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 354

    ซ่งเยี่ยนโจวเมื่อเห็นฉู่อ๋องเดินมาส่งซ่งรั่วเจิน ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ทว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะไปในทิศทางที่ดีหรือร้ายนั้น เขาเองก็ไม่อาจตัดสินได้เดิมฮองเฮาหมายตาบุตรีเสนาบดีไว้อยู่ก่อนแล้ว เกรงว่าจะไม่โปรดปรานน้องหญิงห้าของเขา ทว่าด้านไทเฮาภายในห้องทรงพระอักษรเมื่อครู่นี้นั้น นับว่าโปรดปรานน้องหญิงห้าอยู่มาก “หัวหน้าราชองครักษ์บูรพาระดับสี่ ยินดีกับท่านเป็นยิ่งที่ได้กลับมารับตำแหน่ง” ฉู่จวินถิงกล่าวฟังคำแล้ว ใบหน้าของซ่งเยี่ยนโจวก็ประดับพรายด้วยรอยยิ้ม “ขอบพระทัยท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”เขาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าจะยังมีโอกาสได้หวนคืนสู่ตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง ทว่า...ในใจเขารู้ดี ว่าอย่างไรก็อัมพาตมานานแล้ว ตำแหน่งของเขาย่อมไม่ขาดคนมาแทนที่ถึงตอนนี้ จู่ๆ จะได้หวนกลับคืนมาก็ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะทำให้ใครบางคนเกิดไม่พอใจ อยากจะทำให้ทุกคนยอมรับก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่เขาเชื่อว่าปัญหาอยู่ที่จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นสักวันจะต้องทำได้แน่“ร่างกายของเจ้ายามนี้สมบูรณ์ดีแล้วหรือยัง? หรือยังจะต้องฟื้นฟูกันไปอีกระยะ?” ฉู่จวินถิงเอ่ยถา

    Last Updated : 2024-11-24

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 480

    “พูดจาเหลวไหลอะไร? พวกเขาล้วนพูดความจริง!” ถังเสวี่ยหนิงรีบตอบโต้กลับ“เจ้ามีหลักฐานอะไรว่าพวกเขาพูดความจริง?” ซ่งรั่วเจินถามกลับ “ล้วนอาศัยปากพูดทั้งนั้นมิใช่หรือ? ข้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นพวกเจ้าซื้อตัวพวกเขามาปรักปรำข้า!”ถังเสวี่ยหนิงรู้สึกเหลือเชื่อ “พวกเขาล้วนพูดความจริงต่อหน้าแล้ว เจ้ายังปฏิเสธไม่ยอมรับ ไร้ยางอายเกินไปแล้วกระมัง!”“หาสองสามคนออกมาตั้งใจปรักปรำข้า นี่ง่ายดายเกินไปแล้วกระมัง!”ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้าเยาะหยัน เลื่อนสายตาหันมองทางคนโกหกเหล่านั้น สายตาคมกริบ“ข้าขอเตือนพวกเจ้า วันนี้ฮองเฮาเป็นผู้ตัดสินคืนความยุติธรรม มิใช่สถานที่ให้พวกเจ้าพูดจาเหลวไหลได้!”“หากเป็นไปตามที่พวกเจ้าพูดจริง ยืนกรานป้ายความผิดให้ข้า พวกเจ้าเองก็หนีไม่พ้น ทั้งหมดล้วนต้องเข้าคุกหลวง!”“ข้าขอชี้แนะพวกเจ้าให้คิดให้ดี ถึงตอนนั้นเข้าคุกแล้วอย่าได้นึกเสียใจภายหลัง!”ได้ยินดังนั้น สายตาอวิ๋นจู๋สะท้อนแววตกตะลึง “เข้าคุกหลวง?”พวกเขาถึงขั้นต้องเข้าคุกหลวง?“ย่อมต้องเข้าคุกหลวง ต่อให้น้องหญิงของข้าเป็นผู้สั่งการ แต่คนลงมือคือพวกเจ้า พวกเจ้าคิดว่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้หรือ?” ซ่งอี้อันพูดเสียงเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 479

    สีหน้าเหอเซียงหนิงกระตือรือร้น มองถังเสวี่ยหนิงเป็นผู้มีพระคุณของตนเดิมทีซ่งจืออวี้ยังตื่นเต้น น้องหญิงของตนทำอะไร คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เขารู้ดีอยู่เต็มอกคืนวันนั้นทั้งๆ ที่เหอเซียงหนิงวางอุบายทำร้ายน้องหญิงตน ต้องการลักพาตัวน้องหญิงไปที่ตรอกหย่งอัน โชคดีน้องหญิงมีความสามารถ ทำลายแผนของพวกเขาหาไม่แล้ว บัดนี้คนถูกทำลายก็คือน้องหญิง!บัดนี้เหอเซียงหนิงแว้งกัด เขาเองก็กังวลพวกคนที่ถูกส่งออกไปสองสามคนนั้นจะถูกพากลับมาได้ แต่เมื่อได้เห็นว่าใบหน้าเหล่านั้นมิใช่สองสามคนก่อนหน้านี้ กลับสงบใจลงไม่น้อยแล้ว“คุณหนู นั่นไม่ใช่อวิ๋นจู๋หรือ?”เฉินเซียงเห็นหนึ่งในชายกลุ่มนั้น สีหน้าเปลี่ยนไป ภายในสายตาเปี่ยมโทสะระคนความรู้สึกเหลือเชื่อ“ไอ้คนเนรคุณ ที่ผ่านมาคุณหนูดีต่อเขาไม่เลว เขาถึงขั้นถูกพวกเขาซื้อไว้มาทำร้ายท่าน!”ซ่งรั่วเจินเองก็จำหนึ่งในชายเหล่านั้นได้แล้ว เป็นบ่าวรับใช้ภายในเรือนนางก่อนหน้านี้ เมื่อหลายวันก่อนพูดว่ามารดาที่บ้านตายไป นางยังมอบเงินให้หนึ่งก้อนเพื่อให้เขากลับไปจัดการงานศพดีๆใครคาดคิดเล่าว่าจะเป็นคนเนรคุณคนหนึ่ง เพียงชั่วพริบตาก็กลายเป็นสุนัขรับใช้ของเหอเซียงหนิงแล้ว?

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 478

    เห็นว่าอุบายเล็กๆ ถูกเปิดโปงแล้ว ถังเสวี่ยหนิงก็ไม่สามารถเก็บอารมณ์บนสีหน้าได้อีกนางประเมินซ่งรั่วเจินต่ำเกินไปแล้ว!ทำเรื่องต่ำช้าถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังถูกเปิดโปงต่อหน้าธารกำนัล แต่กลับไม่ว้าวุ่น ชนิดที่ว่ายังเกิดความคิดหาข้อผิดพลาดของนางอีกด้วยมิน่าเล่าอายุมากแล้วอีกทั้งยังถอนหมั้น แต่ยังสามารถยั่วยวนฉู่อ๋องได้ เพียงวิธีการนี้ สตรีทั่วไปล้วนไม่ใช่คู่ต่อของนาง“ความคิดเจ้าโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ทำลายเหอเซียงหนิงเพราะแค้นส่วนตัว ข้าก็แค่อยากเปิดเผยต่อหน้าทุกคนเท่านั้น นี่มีอะไรผิดกัน?”“สำหรับคนไร้เมตตาอย่างเจ้าคนนี้ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยม ข้าก็แค่อยากทวงความบริสุทธิ์ให้เหอเซียงหนิงเท่านั้น!”ถังเสวี่ยหนิงพูดอย่างองอาจมีคุณธรรม ราวกับวีรสตรีผู้มุ่งมั่นเพื่อปวงประชาอย่างแท้จริง หวังเพียงจับคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายเท่านั้นวันนี้มีนางอยู่ ซ่งรั่วเจินอย่าได้คิดพลิกสถานการณ์กลับมาได้เลย!ครู่ต่อมา นางเลื่อนสายตามองทางเหอเซียงหนิง “เซียงหนิง เอาพยานของเจ้าออกมาเถอะ!”เหอเซียงหนิงกังวลใจ นางไม่เคยเห็นเหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดว่ายังมีฮองเฮาเป็นผู้ตัดสินหากจั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 477

    ซ่งอี้อันเอ่ยปากเสียงเย็น “หากน้องหญิงห้าของข้าถูกพวกเจ้าปรักปรำจนคิดไม่ตกฆ่าตัวตายไป หรือว่าทุกท่านที่นี่มิใช่มือสังหารกันเล่า?”“ไม่มีหลักฐาน อาศัยเพียงปากของนางก็ปรักปรำความผิดแล้ว นี่น่าขันเกินไปแล้ว!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนที่ด่าว่าซ่งรั่วเจินก็เงียบปากลงในทันใด ไม่กล้าตั้งข้อสันนิษฐานส่งเดชอีกซ่งรั่วเจินมองทางพี่รองของตนอย่างแปลกใจ สมเป็นผู้มีพรสวรรค์ของจอหงวน เพียงเปิดปากก็ได้ผลลัพธ์ไม่ธรรมดา“แม่นางถัง เจ้าจงใจพาเหอเซียงหนิงมาพูดเช่นนี้ น่าจะมีหลักฐานกระมัง?”“มิสู้นำออกมาเสียเลย หาไม่แล้วเพื่อปรักปรำข้าจึงแต่งเรื่องออกมาเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรมาบนโลกนี้ไม่ใช่ใครร้องไห้คนนั้นก็มีเหตุผลหรอกนะ”“ข้าและคุณชายสวีบริสุทธิ์ใจต่อกัน เหอเซียงหนิงคิดว่าข้าและนางเป็นศัตรูหัวใจกัน แต่ในสายตาข้า เดิมทีข้าและนางก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้เป็นปรปักษ์กัน ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องหึงหวง”“ขอถามหน่อยเถิด...เหตุใดข้าต้องทำร้ายนางถึงเพียงนี้ด้วยเล่า? คงมิใช่พูดหน้าซื่อตาใส ก็สามารถตั้งข้อหากล่าวโทษข้าได้หรอกกระมัง?”ดวงตาคู่งามดำดุจหมึกของซ่งรั่วเจินจับจ้องถังเสวี่ยหนิง ดวงหน้างดงามขาวนวลไม่มีควา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 476

    “หากเรื่องนี้มีเงื่อนงำอยู่จริง เหอเซียงหนิงเองก็น่าสงสารเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่คือบีบคั้นคนให้ตาย จะต้องได้รับความทุกข์ใจอย่างหนักเป็นแน่ ซ่งรั่วเจินโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!”กลุ่มคนต่างชี้หน้าบริภาษขึ้นมาระลอกหนึ่ง ฉินซวงซวงลอบลำพองใจภายในใจ เพื่อทำให้ชื่อเสียงซ่งรั่วเจินเสื่อมเสีย นางวางแผนทั้งหมดไว้อย่างดีแล้ว!ฉู่จวินถิงเหลียวมองคนที่เป็นผู้นำของกลุ่มคน ออกคำสั่งผู้อยู่ใต้อาณัติ “จับตามองคนเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด ห้ามมิให้หลุดรอดไปได้แม้คนเดียว”“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”“ไม่ต้องกังวล คนเหล่านี้น่าจะถูกซื้อตัวไว้แล้ว จงใจพูดเช่นนี้ อีกเดี๋ยวสอบสวนอย่างละเอียดก็จะรู้ผล”สุ้มเสียงฉู่จวินถิงมั่นใจมาก สอบสวนคนเหล่านี้ เดิมทีก็ไม่ต้องใช้วิธีการมากมายอะไร เพียงถามอย่างไม่ตั้งใจก็สามารถรู้ได้ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “ท่านอ๋องไม่สงสัยหม่อมฉันเลยหรือ?”“เหตุใดข้าต้องสงสัยเจ้าด้วย?” ฉู่จวินถิงสุขุมสงบนิ่ง “ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อแรกเหอเซียงหนิงทำกับเจ้าเยี่ยงไร ข้าเข้าใจทั้งหมดแล้ว”“ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือเจ้า ต่อให้เป็นฝีมือเจ้า ก็ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม”ภายในสายตาของฉู่จวิน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 475

    “เจ้าว่ามาเถิด” ฮองเฮาเอ่ยเรือนคิ้วฉู่จวินถิงขมวดขึ้นเล็กน้อย สายตาที่เขาใช้มองไปยังถังเสวี่ยหนิงแกมแฝงด้วยความเยียบเย็นหญิงผู้นี้ยังไม่คิดจะลดราวาศอกอีก!“อย่ากลัวไปเลย มีข้าอยู่”ฉู่จวินถิงหันมองซ่งรั่วเจิน แสดงท่าทีให้นางมั่นใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะอยู่ข้างกายนางเสมอซ่งรั่วเจินย่อมไม่หวั่นเกรงต่อเล่ห์กลของถังเสวี่ยหนิงและพรรคพวกอยู่แล้ว ทว่าเมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ของฉู่จวินถิง ในใจก็ยังคงอดรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาไม่ได้อยู่ดีถังเสวี่ยหนิงกลับเกรงกลัวฉู่จวินถิงเสียจนแทบไม่กล้าสบสายตาเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อหันมองไปยังซ่งรั่วเจิน ท่าทีก็ยังคงกระด้างกระเดื่องเช่นเดิม“คุณหนูซ่ง ข้าได้ยินเรื่องเช่นนี้แล้วก็ตกใจมากจริงๆ มิอยากจะเชื่อเลยว่าในเมืองหลวงจะยังมีผู้ใดอาจหาญกล้าทำเรื่องเช่นนี้ลงได้ ช่างลบหลู่กฎเกณฑ์ราชสำนักเกินไปแล้ว!”“ดังนั้นข้าจึงอยากใช้โอกาสนี้ถามไถ่ให้ชัดแจ้ง หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”ถ้อยคำหลายต่อหลายคำของถังเสวี่ยหนิง ทำเอาสีหน้าของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ต่างพากันสงสัยว่าเป็นเรื่องร้ายแรงประการใดกัน?“รั่วเจิน พวกถังเสวี่ยหนิงดูท่าคงมิได้มีเจตนาดีเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 474

    อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ปิดไม่มิดถึงความอิจฉา “โชคดีนักที่หลินจือเยว่มิได้แต่งกับนาง หาไม่แล้วคงคลาดกันกับคนดีเช่นฉู่อ๋องไปแล้วกระมัง?”“ฉู่อ๋องไม่เพียงมีรูปโฉมงดงาม วรยุทธเลิศล้ำ อีกทั้งฐานะยังมิธรรมดา สำคัญที่สุดก็คือผู้คนต่างรู้กันดีว่าฉู่อ๋องอารมณ์ร้ายเพียงใด แต่กลับดีต่อนางอยู่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้น่าอิจฉาที่สุดแล้ว”อวิ๋นเฉิงเจ๋อเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ข้างกาย นำเอาภาพใบหน้าฉายแววอิจฉานั้นเก็บเอาไว้จนสุดสายตา ไม่รู้ว่าในใจคิดอ่านถึงสิ่งใดอยู่ทว่าถ้อยคำนี้กลับลอยไปเข้าหูหลินจือเยว่เข้าพอดิบพอดี สีหน้าที่หมองหม่นอยู่ก่อนแล้วจึงได้ย่ำแย่เสียยิ่งกว่าเก่าก่อนนี้เขาคิดเพียงว่าฉู่อ๋องคงหูตามืดบอด ตอนนี้เขาเห็นแจ้งแล้วว่าตนเองต่างหากที่หูตามัวหมองไปเลือกคนผิดมาแต่งงานด้วยจนชีวิตพังพินาศ แต่จะทำกระไรได้อีกเล่า?ฉินซวงซวงยืนจ้องมองคนที่ในชาติที่แล้วนางคอยตามตื๊ออยู่นานอย่างฉู่อ๋อง กระทั่งเคยยอมทอดทิ้งศักดิ์ศรีมาแล้วก็ยังไม่อาจแลกเปลี่ยนเป็นการแลเหลียวจากเขาได้แม้แต่สักครั้ง แต่เขากลับปฏิบัติต่อซ่งรั่วเจินดีเช่นนั้น ทำเอานางริษยาเสียจนแทบบ้าอยู่แล้ว!มีสิทธิ์อะไรกัน?ซ่งรั่ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 473

    เมื่อถือเวลาประกาศผลสุดท้าย ก็พลันระเบิดเสียงฮือฮาดังขึ้นมากลางหมู่ฝูงชน“อันดับหนึ่งได้แก่ฉู่อ๋อง!”สิ้นเสียงประกาศ ผู้คนก็ต่างพากันเอ่ยชื่นชมไม่ขาดปาก ทว่าก็หาได้มีผู้ใดแปลกใจแม้แต่น้อย“ฝีมือการขี่ม้าและยิงธนูของฉู่อ๋องตลอดมาก็ล้วนเหนือผู้ใด วันนี้ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตองค์ชายทั้งสองพระองค์ไว้ได้ อีกทั้งยังคว้าชัยได้อันดับหนึ่งมาครอบครอง สมกับที่ชื่อเสียงเลื่องลือเสียจริงๆ!”“ได้ยินมาว่าสองคนที่หนีรอดไปได้ก็ฉู่อ๋องนั่นล่ะที่จับตัวเอาไว้ได้ เก่งกาจยิ่งนัก!”โดยปกติแล้วฉู่จวินถิงไม่ได้ใส่ใจกับความสำเร็จในลักษณะนี้แม้แต่น้อย ทว่าขณะนั้นเอง สายตาของเขาพลันหันมองไปยังซ่งรั่วเจินซ่งรั่วเจินเองก็หันไปมองฉู่อ๋องทันทีที่ได้ยินคำประกาศ เห็นแต่เพียงใบหน้าหล่อเหลาไม่เป็นสองรองใครของเขากำลังคลี่ยิ้มออกมาเจิดจ้าราวแสงอาทิตย์ชั่วขณะนั้น เขาก็ดูคล้ายจะเปล่งประกายเสียยิ่งกว่าแสงอาทิตย์เสียอีก รอยยิ้มอบอุ่นของเขาแกมแฝงด้วยความไม่แยแสยี่หระ ยิ่งกว่านั้นยังเปี่ยมอิสระเสรีไม่ยึดติดอันเป็นเอกลักษณ์ของคนหนุ่มทำเอาจังหวะเต้นของหัวใจใครหลายคนต่างสะดุดไปตามๆ กันในฐานะอันดับหนึ่ง รางวัลที่ได้ก็ย่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 472

    ตั้งแต่ซ่งจิ่งเซินกลับมา เขาก็ได้รับรู้ว่าหลินจือเยว่ทอดทิ้งน้องสาวของตนไปเพราะฉินซวงซวง ในใจก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าขุ่นเคืองเพียงใดเดิมทีคิดจะหาโอกาสสั่งสอนหลินจือเยว่เสียบ้าง ต่อมาได้รู้ว่าพวกน้องสามได้จัดการกันไปแล้ว จนบัดนี้แม้แต่ที่ให้ซุกหัวนอนก็ยังไม่มีจะอยู่หากเป็นคนทั่วไปแล้วเล่าก็ ใครยังจะมีแก่ใจมาพลอดรักกันอวดผู้คนให้อับอายขายขี้หน้าเช่นนี้ โชคยังดีที่น้องหญิงห้ายังไม่ทันได้แต่งออกไปกับคนเช่นนั้น!“หน้าของฉินซวงซวงนี่ก็ช่างหนายากจะหาผู้ใดเทียมเทียบจริงเชียว!”เมิ่งชิ่นหรี่เดินตาหยีด้วยแขยงสายตามาอยู่ข้างกายซ่งรั่วเจิน “ตั้งแต่นางมาวันนี้ก็ทำเอาผู้คนไม่น้อยเกิดไม่พอใจ แต่ดูเหมือนนางจะไม่ใส่ใจสักนิด ซ้ำยังจะมีหน้ามาทำระรื่นอยู่ได้”“ข้าว่าหลินจือเยว่ยิ้มได้มิน่าดูเสียยิ่งกว่าร้องไห้อีก แต่นางราวกับมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น ข้าว่าอย่างไรพวกเขาคงไปกันได้ไม่นานนักหรอก”ซ่งรั่วเจินมองเมิ่งชิ่นที่ยู่ตรงหน้าพลางยิ้มบาง “ยันต์คุ้มกายที่ข้าให้ไปใช้ได้ผลดีหรือไม่?”“ได้ผลดียิ่งเลยล่ะ!” เมิ่งชิ่นจับมือซ่งรั่วเจินความตื้นเต้นในใจ หน่วยดวงตาเต็มด้วยความตื้นต้น “หากมิใช่เพราะเจ้า ต

DMCA.com Protection Status