Share

บทที่ 350

Penulis: จี้เวยเวย
ฉู่มู่เหยาหุบปากลงอย่างเงียบๆ นางไม่บอกหรอกว่าเมื่อครู่ก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเหมือนกัน เข้าใจไปโดยไม่ทันคิดว่าจะต้องถูกโจรขโมยไปแน่ๆ

โชคดีที่มีเสด็จพี่ห้าขวางอยู่ข้างหน้า ทำให้นางรอดเคราะห์นี้มาได้

ฉู่จวินถิงก้าวเร็วๆ เข้าไปเปิดชั้นบนสุดของตู้ตรงหน้าออกมา กล่องเล็กแสนประณีตใบหนึ่งวางไว้อยู่ในนั้น

เมื่อไทเฮาเห็นกล่องเล็กใบนั้น แววตาพลันชะงักค้าง “กล่องนี้...เป็นของอดีตฮ่องเต้”

ได้ยินดังนั้น ฉู่จวินถิงก็ไม่ได้เปิดออก แต่ส่งกล่องใบนั้นให้ถึงมือไทเฮา

ไทเฮาเปิดกล่องออกช้าๆ สิ่งที่วางไว้ในนั้น นอกจากไข่มุกหนึ่งเม็ด ยังมีปิ่นใหม่เอี่ยมหนึ่งอันและจดหมายอีกฉบับ

“นี่คือ...”

ไทเฮาวางกล่องใบเล็กลงข้างๆ กางจดหมายออก มองปราดเดียวก็จำลายมือของอดีตฮ่องเต้ได้ในทันที

ที่แท้ ไข่มุกบนปิ่นก็ไม่ได้หายไปตอนอยู่ในตำหนักเสาหนิง แต่หล่นไปในวันที่มาห้องทรงพระอักษร อดีตฮ่องเต้บังเอิญเก็บได้

อดีตฮ่องเต้ทราบว่านั่นคือปิ่นที่ทำให้ไทเฮาด้วยตนเองเมื่อหลายปีก่อน ผ่านมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังใส่อยู่จึงตัดสินใจทำปิ่นอันใหม่ให้

เดิมทีรอให้ถึงวันเกิดไทเฮาก่อนค่อยมอบให้ คิดไม่ถึงว่า...

ไทเฮาอ่านจดหมายในมือ แล้วหยิบปิ่นใน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 351

    “ใช่เพคะ” ซ่งรั่วเจินตอบความสามารถนี้แม้จะเป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวบ้านมานักต่อนักแล้ว ทว่าในพระราชวังนั้นเห็นได้ชัดว่าโดยส่วนใหญ่ต่างได้ยินกันมาเพียงผ่านๆ เท่านั้น ซึ่งนางเองก็ไร้ความคิดที่จะปิดบังอย่างไรเสียก็ปิดบังเอาไว้ไม่มิด มิสู้หาโอกาสแสดงความสามารถออกไปโดยตรง กลับกันแล้วอาจทำให้ความเป็นอยู่ของสกุลซ่งในภายภาคหน้าดีขึ้นยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้“ฮ่องเต้ แม่หนูผู้นี้จิตใจดีเป็นยิ่ง ข้าเพียงเอ่ยปากชวนนางลิ้มลองขนมแกล้มชาเพียงสองชิ้น นางก็ช่วยข้าตามหามุกจนเจอได้แล้ว”“ได้ข่าวว่าบุตรชายรองสกุลซ่งได้อันดับหนึ่งในการสอบฤดูใบไม้ผลิ สมแล้วที่เป็นสกุลซ่ง พ้นจากแม่ทัพซ่งแล้วแต่ละคนก็ล้วนโดดเด่นเหนือผู้ใด จะต้องปฏิบัติต่อพวกเขาให้ดีเข้าไว้นะ”ไทเฮากล่าวชมเชยสกุลซ่งโดยไม่มีอ้อมค้อมประหยัดถ้อยคำ แต่ไหนแต่ไรมาสกุลซ่งล้วนจงรักภักดีต่อราชสำนัก ก่อนนี้ก็ยังมีแม่ทัพผู้เฒ่าซ่งเป็นถึงขุนนางผู้เป็นกำลังสำคัญ เสียก็แต่วันนี้สิ้นแม่ทัพผู้เฒ่าซ่งไปแล้ว อีกทั้งซ่งหลินก็ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ทั้งสกุลซ่งจึงเหลือเพียงเด็กหนุ่มสาวเพียงไม่กี่คน ทว่าแต่ละคนล้วนเก่งกล้าสามารถฮ่องเต้เองก็น้อยครั้งน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 352

    เมื่อออกจากห้องทรงพระอักษรแล้วไทเฮาก็เกิดรู้สึกเพลีย นางอยู่สนทนากับฉู่อ๋องอยู่พักหนึ่งก่อนจะเสด็จกลับไปยังตำหนักฉือหนิงด้านซ่งรั่วเจินแน่นอนว่าก็ถึงเวลาที่ควรออกจากวังแล้ว จึงตั้งใจจะกลับไปพร้อมกันกับซ่งเยี่ยนโจว ทว่าขณะที่กำลังจะกลับไปนี้เองฉู่จวินถิงก็ตามมาเสียก่อน“แม่นางซ่ง รอประเดี๋ยว”ฉู่จวินถิงจ้องมองไปยังคนตรงหน้า ดวงตาฉายอารมณ์ซับซ้อนตอนที่ออกมาจากตำหนักของเสด็จแม่เขาก็คิดจะหาจังหวะบอกกล่าวกับนางให้ชัดเจน ไม่นึกว่าจะเผอิญกับที่เกิดเรื่องราวในห้องทรงพระอักษรขึ้น บัดนี้นางกำลังจะกลับไปแล้ว เขาย่อมต้องเปิดเผยความในใจของตนออกไปให้ชัดเจนจึงจะถูกซ่งรั่วเจินหยุดฝีเท้า หันมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเขา รู้สึกว่าตั้งแต่เขาเปิดเผยความในใจออกมาต่อหน้าผู้คนแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดมัน…รู้สึกแปลกพิกลอย่างไรก็ไม่รู้“พวกเจ้าอยู่คุยกันเถิด ข้าจะไปรอข้างนอก”ซ่งเยี่ยนโจวเข้าใจดีว่าเหตุที่วันนี้น้องหญิงห้าถูกเชิญเข้าวังเป็นต้องเกี่ยวข้องกับฉู่อ๋องเป็นแน่แท้ จังหวะเผอิญกับเมื่อคืนวานที่ฉู่อ๋องต้องไปที่ค่ายทหารอีกครั้ง จึงไม่ทันได้พูดคุยสนทนาใดๆ กับน้องหญ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 353

    “ท่านอ๋อง…”“ข้าพึงใจเจ้า”ทั้งสองเอ่ยขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน เดิมทีซ่งรั่วเจินคิดจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดเพื่อทำลายบรรยากาศน่ากระอักกระอ่วนนี้ ทว่ากลับได้ยินถ้อยคำของฉู่จวินถิงเข้าพอดิบพอดี“วะ...ว่าอย่างไรนะเพคะ?”“ข้าพึงใจในตัวเจ้า”ฉู่จวินถิงกล่าวซ้ำย้ำอีกครั้ง นับแต่วินาทีที่ได้กล่าวออกไป ในใจเขาก็รู้สึกโปร่งโล่งขึ้นไม่น้อยซ่งรั่วเจินชะงักไป ไม่พูดถึงไม่ได้เลยว่าถ้อยคำลึกซึ้งตรึงใจคนเช่นนี้ เมื่อออกมาจากปากของฉู่จวินถิงแล้วอานุภาพช่างรุนแรงสะท้านสะเทือนยิ่งนัก สีหน้ายามกล่าวถ้อยร้อยคำจริงใจเป็นยิ่ง ราวกับถ้อยคำสาบาน ดวงตาลึกล้ำและหนักแน่นคู่นั้นจดจ้องอยู่ที่นาง ภายในอัดแน่นด้วยความลึกซึ้งจริงใจไม่สร่างซา“ครั้งแรกที่ข้าได้พบกับเจ้านั้น เป็นยามที่เจ้ากล้าถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย เมื่อนั้นข้าก็รู้ทันทีว่าเจ้าไม่เหมือนผู้ใด เจ้ากล้าหาญชาญฉลาด เด็ดเดี่ยวไม่โอนอ่อนโลเล”“จากนั้นทุกคราที่ได้พบกัน ก็ล้วนถูกเจ้าทำให้ประหลาดใจอยู่เสมอ ถูกสะกดตรึงเอาไว้เช่นนั้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จึงได้คิดอยากทำทุกวิถีทางไปปรากฏอยู่ข้างกายเจ้า” “ตลอดหลายปีมานี้ข้ามิเคยถูกตาต้องใจในผู้ใด จึงมิเคยรู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 354

    ซ่งเยี่ยนโจวเมื่อเห็นฉู่อ๋องเดินมาส่งซ่งรั่วเจิน ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ทว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะไปในทิศทางที่ดีหรือร้ายนั้น เขาเองก็ไม่อาจตัดสินได้เดิมฮองเฮาหมายตาบุตรีเสนาบดีไว้อยู่ก่อนแล้ว เกรงว่าจะไม่โปรดปรานน้องหญิงห้าของเขา ทว่าด้านไทเฮาภายในห้องทรงพระอักษรเมื่อครู่นี้นั้น นับว่าโปรดปรานน้องหญิงห้าอยู่มาก “หัวหน้าราชองครักษ์บูรพาระดับสี่ ยินดีกับท่านเป็นยิ่งที่ได้กลับมารับตำแหน่ง” ฉู่จวินถิงกล่าวฟังคำแล้ว ใบหน้าของซ่งเยี่ยนโจวก็ประดับพรายด้วยรอยยิ้ม “ขอบพระทัยท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”เขาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าจะยังมีโอกาสได้หวนคืนสู่ตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง ทว่า...ในใจเขารู้ดี ว่าอย่างไรก็อัมพาตมานานแล้ว ตำแหน่งของเขาย่อมไม่ขาดคนมาแทนที่ถึงตอนนี้ จู่ๆ จะได้หวนกลับคืนมาก็ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะทำให้ใครบางคนเกิดไม่พอใจ อยากจะทำให้ทุกคนยอมรับก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่เขาเชื่อว่าปัญหาอยู่ที่จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นสักวันจะต้องทำได้แน่“ร่างกายของเจ้ายามนี้สมบูรณ์ดีแล้วหรือยัง? หรือยังจะต้องฟื้นฟูกันไปอีกระยะ?” ฉู่จวินถิงเอ่ยถา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 355

    “จำนวนคนของทั้งสองฝ่ายต่างกันไม่น้อย แม้ว่าจะสังหารได้พอควร ทว่าก็มีพลทหารถึงสองนายต้องสังเวยชีพ สองคนที่เหลือจึงรีบกลับมายังค่ายทหาร”“เมื่อนายทหารในค่ายรู้ว่าพี่น้องพวกตนถูกโจรภูเขาสังหารสิ้นก็ต่างเดือดดาลคั่งแค้น พากันถือจับอาวุธหมายล้างแค้นแทนพี่น้องตน ฉู่อ๋องได้ยินข่าวเข้าจึงรีบรุดหน้าไปจัดการ”“นึกดูแล้ว พวกเขาคงต้องวางแผนกันข้ามคืนเลยทีเดียว เพื่อกำจัดโจรภูเขาเหล่านี้ให้ราบคาบโดยไว”ซ่งรั่วเจินเข้าใจได้ในทันที “พี่ใหญ่ เช่นนั้นท่านมิต้องเป็นกังวลเรื่องข้าไปหรอก รีบไปด้วยกันกับฉู่อ๋องเถิด”“ไม่เป็นไรหรอก เวลาเพียงแค่นี้มิได้เสียหลาย อีกอย่างข้ายังต้องกลับไปเอาข้าวของอีกด้วย”ซ่งเยี่ยนโจวโบกมือ “ฉู่อ๋องตั้งใจชวนข้าไปด้วย ดูท่าคงรู้ดีว่าข้าหยุดอยู่ที่บ้านมาก็นานนม ครานี้ได้กลับไปแล้วก็ย่อมมิอาจหลีกเลี้ยงคำครหาสงสัยจากผู้คน แต่หากปราบโจรได้สำเร็จก็เท่ากับได้สร้างผลงานมีความดีความชอบ”แม้เขาจะมีศักดิ์เป็นนายทัพผู้หนึ่ง แต่เมื่อก่อนก็เคยสอบผ่านเข้ารับราชการ หากไม่ได้เลือกติดตามบิดาไปเป็นทหารแล้วล่ะก็ บัดนี้ก็คงได้เป็นขุนนางฝ่ายพลเรือนไปเสียแล้ว ดังนั้นจึงย่อมเข้าใจถึงความลำบากเห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 356

    “จวนเซียงอ๋องเชิญพวกเราทั้งครอบครัวไป วันนี้ตอนเจ้าเข้าวัง ต่งฮูหยินเดินทางมาเที่ยวหนึ่ง พูดว่าบังเอิญคืนนี้สามารถไปพร้อมกันได้”หลิ่วหรูเยียนยิ้มออกมาอย่างสุดจะหักห้ามใจ ครอบครัวเซียงอ๋องมีฐานะสูงศักดิ์ หยวนเอินไม่เคยไปมาหาสู่กับสกุลซ่ง ครั้งนี้ถึงขั้นตั้งใจมาเชิญพวกเขาทั้งครอบครัว น่ากลัวว่านี่จะทำให้คนไม่น้อยตกใจนับตั้งแต่ระยะก่อนภายในครอบครัวเกิดเรื่องแล้วเรื่องเล่า นางก็ได้รับรู้ความโหดร้ายของโลกนี้ บัดนี้เห็นว่าสกุลซ่งดีขึ้นทีละน้อย อารมณ์ของนางก็ไม่เหมือนตอนแรกแล้ว“ก่อนหน้านี้ยังไม่ต้องพูดถึงจวนเซียงอ๋อง ก็แค่คนที่มีความสัมพันธ์ไม่เลวกับพวกเราเหล่านั้น บางคนก็ไม่เชิญพวกเราไป” หลิ่วหรูเยียนพูดขึ้นซ่งรั่วเจินเองก็รู้เรื่องนี้ พูดว่า “ผ่านมาหนึ่งเรื่องได้เห็นตัวตนของพวกเขาก็นับเป็นเรื่องดี ภายภาคหน้าไปมาหาสู่น้อยลง มีหน้าตาอยู่ต่อไปได้ก็พอแล้วเจ้าค่ะ”“เจ้าพูดถูกแล้ว” หลิ่วหรูเยียนตบๆ มือซ่งรั่วเจิน “เจ้าโตแล้วจริงๆ...”ณ พระราชวัง ตำหนักเสาหัว“ฮองเฮา หม่อมฉันได้ยินมาว่าแม่นางซ่งไม่เพียงช่วยไทเฮาตามหาไข่มุกที่หายไปนานแล้วพบ ยังตามหาปิ่นปักผมของไทเฮาที่อดีตฮ่องเต้ประทานให

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 357

    ฮองเฮาสบมองใบหน้าเปี่ยมความสุขของน้องสาวตน ย้อนนึกถึงภาพยามได้พบซ่งรั่วเจินก่อนหน้านี้ อารมณ์ที่เดิมทีสับสนอยู่แล้วสับสนมากยิ่งขึ้นไปอีกแม่นางคนนี้...น่าทึ่งเกินไปแล้ว“บางทีเพียงแค่บังเอิญกระมัง? ก่อนหน้านี้มิใช่หมอช่วยตรวจเจ้ามาก่อนหรือ พูดว่าร่างกายเจ้าไม่มีปัญหา ไม่ช้าก็เร็วต้องมีครรภ์” ฮองเฮาเอ่ยขึ้น“ไม่เป็นเช่นนั้น จะต้องเป็นนางช่วยข้าอย่างแน่นอน!”ลู่หมิ่นฮุ่ยเผยสีหน้าจริงจัง แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยมั่นใจเพียงนี้มาก่อน สามปีมานี้ทำทุกวิธีแล้ว ต่อให้เป็นความบังเอิญก็ไม่มีวันแม่นยำเพียงนี้!“พี่หญิง ท่านไม่รู้ข่าวภายนอก นางไม่เพียงทำนายว่าข้าตั้งครรภ์ได้อย่างแม่นยำ แม้แต่เรื่องต่งฮูหยินตั้งครรภ์นางก็ทำนายออกมาได้”“เมื่อแรกคุณชายน้อยสกุลต่งตายอย่างอนาถ ทุกคนล้วนคิดว่าเขาหายตัวไป มีเพียงซ่งรั่วเจินพูดว่าคนตายไปแล้ว ไม่เพียงทำนายออกมาได้ว่าฆาตรกรเป็นใคร แม้แต่คนตายอยู่ที่ใด ตายเยี่ยงไรก็รู้ทั้งหมด!”“ท่านว่า หากนางไม่มีความสามารถจริง ไฉนเลยจะสามารถรู้เรื่องเหล่านี้ได้?”เพียงฮองเฮาได้ยินว่ายอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ สายตาเองก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว เก่งกาจมีอิทธิฤทธิ์อยู่บ้างจริงๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 358

    ซั่งรั่วเจินสำรวจเคอหยวนจื่อตรงหน้า เห็นเพียงนางสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงิน แม้ใบหน้าไม่นับว่างดงาม กลับตัวเล็กอ่อนโยนเพียงมองปราดเดียว ก็คิดแค่ว่าแม่นางคนนี้คล้ายตะกร้าดอกไม้วางอยู่ริมทาง ไม่ใช่คนที่มองเพียงแวบเดียวก็ดึงดูดคนได้ ดวงตาดุจสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วงสะท้อนแสงเป็นระลอกๆ ตำแหน่งของดวงตาแดงเรื่อเป็นแบบที่พวกบุรุษรักหยกถนอมบุปผาชมชอบมากที่สุดเพียงได้เห็น ซ่งรั่วเจินก็รู้แล้วว่าเพราะเหตุใดพี่สี่บ้านตนจึงปักใจอยู่กับเคอหยวนจื่อ น่ากลัวว่าใช้ท่าทางอ่อนโยนไร้พิษภัยนี้หลอกคนไม่น้อยเพียงแต่ในฐานะสตรีเฉกเดียวกัน นางสัมผัสได้ว่าระหว่างเนตรขนงของฝ่ายหญิงสะท้อนความโอหังออกมาโดยไม่รู้ตัวแม่นางคนนี้เพียงเชี่ยวชาญใช้ภาพลักษณ์อ่อนโยนบอบบางเท่านั้น แท้จริงแล้วภายในใจอำมหิตยิ่งกว่าใคร หาไม่แล้วหลายปีมานี้ก็คงไม่หลอกใช้พี่สี่ของนางใช้จ่ายเงินของพี่สี่ เพลิดเพลินกับความดีของพี่สี่ ยังดูเบาพวกเขาไปทุกจุด หาประโยชน์จากพวกเขาไม่เพียงทำร้ายพี่สี่จนตาย หลังพี่สี่ตายแล้วยังหาประโยชน์จากผู้วายชนม์ ทำให้ทุกคนคิดว่าหลายปีมานี้นางถูกซ่งจิ่งเซินบีบบังคับให้ปวดใจเหลือหลายส่วนพี่สี่ของนางที่ถูกปรักปรำ

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status