Share

บทที่ 227

Author: จี้เวยเวย
หากสามารถแต่งลั่วชิงอินเข้าบ้านย่อมเป็นเรื่องมีหน้ามีตาสำหรับตระกูลเหยาโดยไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าลั่วชิงอินร่างกายอ่อนแอเกินไป ทั้งยังไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ จะแต่งเข้าบ้านมาเพื่ออะไร?

แต่งเข้ามาบูชางั้นรึ?

“ฮูหยิน สิ่งที่ข้าพูดมาเป็นความจริงทุกอย่าง เดิมทีร่างกายแม่นางลั่วก็อ่อนแออยู่แล้ว ช่วงที่ผ่านมา ข้าช่วยบำรุงร่างกายให้แม่นางลั่วมาโดยตลอด”

“คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องตกน้ำ สถานการณ์เลวร้ายเกินไป ตอนนี้ไม่อาจแก้ไขกลับกลาย การมีลูกย่อมเป็นไปไม่ได้แล้ว”

เยี่ยนชิงอวี้ใบหน้าเผือดสี รีบเข้ามาจับหมอโจวไว้ “ท่านลองตรวจอาการอย่างละเอียดอีกสักครั้งเถอะ เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!”

“ลั่วฮูหยิน อาจเป็นเพราะวิชาแพทย์ของข้าน้อยไม่ดีเอง พวกท่านลองเชิญหมอท่านอื่นๆ มาตรวจอาการดีกว่า”

เยี่ยนชิงอวี้คลายมือออก ในใจเข้าใจความหมายในคำพูดของหมอโจวดี อันที่จริงก่อนที่จะตกน้ำ ท่านหมอเคยพูดจาทำนองนี้ไว้ตั้งแต่ตอนจับชีพจรให้ชิงอินแล้ว

บอกว่าร่างกายอ่อนแอเกินไป ต้องบำรุงอย่างเอาใจใส่ มิฉะนั้นเกรงว่าตอนตั้งครรภ์อาจมีอันตรายถึงชีวิต

แต่ตอนนี้...แม้แต่ตั้งครรภ์ก็ยังเป็นไปไม่ได้ แบบนี้จะทำอย่างไรดีเล
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 228

    “ไม่ว่าอย่างไร ข้าล้วนไม่เปลี่ยนใจ”ซ่งเยี่ยนโจวน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาทอแววกังวล “ชิงอินสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้ารู้เรื่องนี้ ข้ากลัวว่านางจะรับไม่ไหว”“หากท่านลุงท่านป้ายินดีให้โอกาสข้าได้ดูแลชิงอินไปชั่วชีวิต พวกเราสามารถหมั้นหมายกันโดยเร็ว เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนบอกนาง”เยี่ยนชิงอวี้กับลั่วหยวนหงมองหน้ากัน อดจะประหลาดใจไม่ได้ คำพูดของซ่งเยี่ยนโจวตรงกับสิ่งที่พวกเขาคิดอยู่พอดีชิงอินในตอนนี้ไม่อาจรับความสะเทือนใจได้อีกแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องใหญ่อย่างการที่ไม่สามารถมีบุตรได้ หากรู้เรื่องนี้ เกรงว่านางอาจรับไม่ไหวเข้าจริงๆตอนนี้การไม่บอกนางย่อมเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยซ่งเยี่ยนโจวสามารถคิดได้เช่นนี้ย่อมหมายความว่าเขาคำนึงถึงชิงอินอย่างจริงใจดุจเดียวกับพวกตน“หากพวกท่านไม่เชื่อ ข้าสามารถเชิญคนมาเขียนหนังสือสมรสเดี๋ยวนี้เลย แม่ข้าก็อยู่ที่นี่ด้วย รอเพียงชิงอินพยักหน้า ข้ากลับไปแล้วก็จะเตรียมสินสอดมาสู่ขอชิงอิน”หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกชายตัดสินใจเด็ดขาดแล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “ชิงอวี้ เรื่องในปีนั้นเป็นความผิดของพวกข้า ไม่ว่าจะเพราะสาเหตุใด พวกข้าก็ผิดต่อชิงอิน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 229

    เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ซ่งเยี่ยนโจวน่าไว้วางใจกว่าเหยาจิ่นเฉิงมากนัก“ข้าเข้าใจ แต่สวี่ซืออี้ไม่ใช่คนที่จะยอมเลิกราโดยง่าย เมื่อวานแค่เกิดเรื่องเล็กน้อย นางก็มาโวยวายเสียแล้ว”“หากรู้เรื่องนี้เกรงว่าคงจะนำไปขยายความสร้างปัญหาให้อย่างไม่อาจเลี่ยง ข้าต้องบอกพวกเขาให้ชัดเจน จะได้ไม่กระทบต่อชื่อเสียงของชิงอิน”ในฐานะที่เป็นแม่คน เยี่ยนชิงอวี้ย่อมใคร่ครวญเพื่อลั่วชิงอินอย่างรอบด้าน ก่อนหน้านี้สองบ้านแค่ดูตัวกันเท่านั้น ตอนนี้จะยกเลิกเรื่องมงคลย่อมไม่เป็นไร แต่ไม่อาจปล่อยให้คนพวกนั้นใช้เรื่องนี้มาทำร้ายชิงอินพวกซ่งรั่วเจินได้ยินการตัดสินใจของคนตระกูลลั่วก็ทราบว่าพฤติกรรมเมื่อครู่ของคนตระกูลเหยาทำให้พวกเขาไม่คิดจะเป็นดองกับทางนั้นอีกแล้ว เนื่องจากการสนับสนุนของพวกตน ซ่งเยี่ยนโจวจึงได้รับการยอมรับจากตระกูลลั่วอีกครั้ง“ข้าขอจับชีพจรให้พี่หญิงลั่วได้ไหมเจ้าคะ?” ซ่งรั่วเจินถามดวงตาเยี่ยนชิงอวี้ฉายแววประหลาดใจ “รั่วเจินไปเรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”“สองปีนี้พอได้เรียนรู้มาบ้างเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินยิ้มบางตอบอย่างรวบรัด ก่อนหน้านี้ตระกูลลั่วสนิทสนมกับครอบครัวนาง ย่อมทราบว่าไม่กี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 230

    หน้าประตูจวนตระกูลซ่งหลิ่วหรูเยียนเห็นว่ารถม้าของฉู่อ๋องไม่เพียงแต่กลับมาทางเดียวกับพวกตน ขณะนี้ฉู่อ๋องยังพูดอะไรบางอย่างกับซ่งรั่วเจินบริเวณห่างออกไปไม่ไกล ในใจก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าฉู่อ๋องเข้าถึงยาก แต่จากที่ได้เจอกันหลายครั้งกลับไม่รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้น?”ซ่งเยี่ยนโจวก็มองตามไปทางนั้นเช่นกัน “น้องหญิงห้าเผชิญหน้ากับฉู่อ๋องโดยปราศจากความกริ่งเกรง ตรงกันข้าม ยังพูดคุยกันถูกคอเสียด้วยซ้ำ”“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจินเอ๋อร์สามารถคบหากับฉู่อ๋องก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่ฉู่อ๋องมีฐานะสูงศักดิ์ เจินเอ๋อร์คงไม่...”หลิ่วหรูเยียนค่อนข้างกังวลใจ ต่อให้มองด้วยสายตาของผู้อาวุโสก็ยังนึกชื่นชมฉู่อ๋องว่าโดดเด่นทั้งด้านชาติตระกูลและอุปนิสัย นับประสาอะไรกับสตรีรุ่นราวเดียวกันทั้งเมืองหลวงมีสตรีมากมายเท่าไรที่อยากเป็นพระชายาของฉู่อ๋อง?ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ฮ่องเต้และฮองเฮามีพระประสงค์จะพระราชทานสมรสให้ฉู่อ๋อง บุตรีของอัครเสนาบดียังมีใจให้เขาไม่ใช่นางดูแคลนลูกสาวของตนเอง แต่เดิมก็ถอนหมั้น ทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องวัย ความเป็นไปได้ที่ฉู่อ๋องจะชอบนางมีน้อยเกินไปแทนที่จะต้องม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 231

    ซ่งรั่วเจินไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดของตนจะทำให้ทั้งสองตีความไปผิดทาง นางกล่าวต่อ “ข้าตรวจดูสภาพร่างกายของพี่ลั่วแล้ว ร่างกายของนางไม่แข็งแรงจริงๆ จำต้องดูแลให้ดี มิให้มีสิ่งใดกระทบกระเทือนอีก”“ปิดบังความจริงไว้ชั่วคราวเป็นทางเลือกที่ถูก แต่ข้าคิดว่าสกุลเหยามิใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน[1]”“หากพวกเขาล้มเลิกการหมั้นหมายนี้เสีย แล้วรู้ว่าท่านจะหมั้นกับพี่ลั่ว คงแพร่ข่าวไปทั่วเป็นแน่”ดวงตาของซ่งเยี่ยนโจวฉายแววเย็นชา “เช่นนั้น ก็ทำให้พวกเขาเพียงแค่เรื่องของตนเองก็เต็มกลืน”“เจินเอ๋อร์ ร่างกายของชิงอินยังฟื้นฟูได้หรือไม่?” หลิ่วหรูเยียนถามด้วยความกังวล “แม่ไม่ได้กลัวว่าจะมีบุตรไม่ได้ ทว่าไม่อยากมีบุตรกับไม่อาจมีบุตรย่อมแตกต่างกัน”“ข้าเข้าใจดีเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “การฟื้นฟูร่างกายของพี่ลั่วต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ข้าเชื่อว่านางจะค่อยๆ หายดีได้ การตั้งครรภ์ก็มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย”“อาการทางใจต้องรักษาด้วยหมอและยาทางใจ นางยึดติดกับพี่ใหญ่มาตลอด ทุกข์ใจเรื้อรัง แต่หากพี่ใหญ่กับนางได้กลับมาเป็นอย่างเช่นเคย นางจะต้องค่อยๆ ดีขึ้นแน่”แววตาของซ่งเยี่ยนโจวเต็มด้วยความคาดหวัง “หมายความว่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 232

    เมื่อผู้คนในที่นั้นได้ยินว่ามีคนจากสกุลซ่งมา ต่างก็แปลกใจไม่น้อยซ่งอี้อันเป็นราวโอรสสวรรค์ลงมาจุติ ชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่เพียงมีรูปโฉม มีความสามารถ กระทั่งชาติกำเนิดก็ล้วนเป็นหนึ่งในหมื่น แต่หลังจากเขาสูญเสียการมองเห็น อนาคตก็เรียกได้ว่าพังทลายการสอบฤดูใบไม้ผลิเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ทว่าบัดนี้เกรงว่าจะกลายเป็นวันที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเขา แม้นมีพรสวรรค์แต่กลับไม่สามารถใช้มันได้อีก“ได้ยินมาว่าฉู่อ๋องชื่นชมความสามารถของซ่งอี้อันอยู่ไม่น้อย เคยตั้งใจเชิญเขาไปเป็นอาจารย์ยังสำนักศึกษาหลวง”“เพราะว่าสองตามืดบอด จึงทำได้เพียงรับผิดชอบสอนวิชา คณาจารย์ทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกัน ทว่าท้ายที่สุดซ่งอี้อันกลับปฏิเสธไป”เมื่อฉินเซี่ยงเหิงได้ยินข่าวนี้ ก็ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง “ฉู่อ๋องชื่นชมอะไรในตัวเขากันแน่? ก็แค่คนไร้ค่าผู้หนึ่ง!”“บางทีอาจเป็นเพราะสงสารเขาก็เป็นได้”ฉินซวงซวงอดนึกถึงซ่งรั่วเจินไม่ได้ ก่อนนี้นางเห็นฉู่อ๋องช่วยซ่งรั่วเจินไว้หลายครั้ง คงไม่พ้นเป็นเพราะสงสารสกุลซ่งที่ตกอับ จึงได้ช่วยหนแล้วหนเล่า“ท่านพี่ ท่านไม่ต้องไปสนใจซ่งอี้อันอีกแล้ว บ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 233

    “ซ่งอี้อันจะเข้าร่วมการสอบการสอบฤดูใบไม้ผลิงั้นหรือ? มิใช่ว่าสองตาเขามืดบอดไปแล้วหรือ? แล้วจะเข้าสอบได้อย่างไร?” “ข้าดูแล้วดวงตาของซ่งอี้มีประกายเช่นปกติ มิได้เหมือนคนตาบอดแต่อย่างใด หรือช่วงนี้เขาจะรักษาจนหายดีขึ้นมาแล้ว?”ทุกคนต่างจ้องมองซ่งอี้อันอย่างละเอียด ก่อนนี้พวกเขาไม่ได้สังเกต บัดนี้เมื่อมองให้ชัด ก็พบว่าซ่งอี้อันเดินเข้ามาเองโดยไม่ได้มีผู้ใดคอยช่วยประคอง “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ประกายในดวงตาฉินเซี่ยงเหิงฉายแววตกตะลึง เรื่องนี้สั่นสะเทือนเขาไม่น้อยทีเดียว!ก่อนนี้หมอตั้งมากหน้าหลายตาก็ตรวจกันแล้ว ว่าดวงตาของซ่งอี้อันไม่อาจรักษาให้หายได้แล้ว บัดนี้เขากลับเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิได้ เช่นนั้นเขาจะทำอย่างไร?“พี่อี้อัน ดวงตาของท่านหายดีแล้วหรือ?”จ้าวซูหว่านมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตะลึงงัน จ้องมองชายหนุ่มอ่อนโยนประดุจหยกตรงหน้า เขายังคงมีท่าทีโดดเด่นเป็นสง่าอยู่เช่นเคยหวนนึกถึงครั้งหนึ่งที่นางเคยหลงใหลในซ่งอี้อัน ในหมู่ผู้คนมากมายเขากลับเป็นดวงดาราที่สว่างไสวสุกใสกว่าใครอื่น แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงไปพันพัวอยู่กับฉินเซี่ยงเหิงเข้าเสียได้...หลังหมั้นหมายกับสกุลฉินแล้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 234

    “ท่านอย่าเพิ่งกังวลไป อย่างไรท่านก็ท่องเรียงความนั้นจนขึ้นใจแล้ว คุณภาพของเรียงความท่านเองก็รู้ดี ผลสอบย่อมไม่ออกมาแย่แน่นอน”“ช่วงเวลานี้ซ่งอี้อันหาได้มีเวลาท่องตำราเรียนรู้ ท่านจะกลัวไปไย?”“หากท่านสอบได้อันดับหนึ่ง ผู้คนก็ต่างยอมรับว่าท่านมีความสามารถโดยแท้จริง ท่านย่อมเป็นอันดับหนึ่งของเมืองหลวงได้อย่างไร้ข้อกังขา!”ฉินเซี่ยงเหิงเริ่มสงบลงบ้าง “หากเขาเขียนเหมือนกันกับข้า…”“เช่นนั้นแล้วอย่างไร? เขาไม่มีทางท่องจำได้ทุกตัวอักษรหรอก ข้าเคยได้ยินว่าการเขียนเรียงความนั้น รอบแรกมักจะดีที่สุด"“พี่ชายรอง มีโอกาสสูงที่ฉินเซี่ยงเหิงจะนำเรียงความที่พี่เคยเขียนมาใช้ในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ พี่ได้เตรียมเรียงความที่ดีกว่าไว้หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินเหลือบมอง ก่อนหน้านี้นางเคยได้เตือนพี่ชายรองเรื่องนี้แล้ว หัวข้อการสอบฤดูใบไม้ผลิไม่ใช่สิ่งที่นางคาดการณ์ได้ แต่เป็นสิ่งที่ระบุเอาไว้ในหนังสือ ยิ่งได้รู้แล้วก็ยิ่งบังเอิญยิ่ง ที่ก่อนนี้ซ่งอี้อันก็ได้เขียนเรียงความเกี่ยวกับข้อคิดเห็นในทำนองเดียวกันไว้และฉินเซี่ยงเหิงก็ใช้เรียงความนั้นในการสอบทิ้งห่างบรรดาบัณฑิตทั้งหลายมาได้ จนกลายเป็นอันดับหนึ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 235

    “ฉู่อ๋องเสด็จแล้ว!”ไม่รู้ว่าเสียงผู้ใดตะโกนขึ้น ทุกคนจึงหันไปมองเป็นตาเดียว เห็นเพียงฉู่จวินถิงและคณะกรรมการคุมสอบในวันนี้เดินเข้ามาด้วยกันเขาสังเกตเห็นซ่งรั่วเจินได้แทบจะทันทีนางแต่งกายเรียบร้อยอย่างยิ่ง สวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ปักแต่งด้วยสีเหลืองนวลในบางจุด ทำให้นางดูอ่อนหวานและน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง คล้ายว่าจะมีเพียงเมื่อยืนอยู่ข้างกายพี่ชายเท่านั้น ที่จะดูเรียบร้อยและเชื่อฟังเสมอๆ แตกต่างจากท่าทีเฉียบคมดุดันที่นางแสดงออกยามต่อกรกับผู้อื่น เรียกได้ว่าเป็นหน้ากากสองด้าน ทว่าน่ารักอยู่ไม่น้อย“อี้อัน นี่เจ้า...?”อาจารย์เว่ยผู้เคร่งขรึมเมื่อมองเห็นซ่งอี้อันเข้าก็พลัน ดวงตาทอประกายแววประหลาดใจต่อมาเหล่าบัณฑิตทั้งหลายของสำนักศึกษาหลวงก็ได้เห็นว่าอาจารย์เว่ยผู้ที่มักจะเคร่งขรึมและเข้มงวดอยู่เสมอ กลับเดินแล่นฉิวพุ่งตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของซ่งอี้อันโดยฉับพลัน “อี้อัน ดวงตาของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”อาจารย์เว่ยโบกมือไปมาที่ตรงหน้าของซ่งอี้อัน ตาเฒ่าหัวโบราณที่เคยเป็นคนเคร่งขรึม ยามนี้กลับเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความดีใจซ่งอี้อันทำความเคารพอย่างนอบน้อม “คารวะท่านอาจาร

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status