แชร์

บทที่ 226

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 18:00:01
สิ่งที่ซ่งรั่วเจินหมายตาก็คือร้านขายสมุนไพรของตระกูลเหยา

ช่วงเวลาที่ผ่านมานางหาเวลาไปดูกิจการของตระกูลซ่งแล้ว ทราบว่าในด้านสมุนไพรนั้น ร้านขายสมุนไพรของตระกูลเหยานับว่าค้าขายดีที่สุด ทำเลยอดเยี่ยม นำหน้าร้านขายสมุนไพรของตระกูลซ่งมาโดยตลอด

ตอนนี้เหยาจิ่นเฉิงคิดจะใช้เงินมาแลกเปลี่ยน นางย่อมไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว

แต่นางยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ฉู่จวินถิงก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกราวกับล่วงรู้ความในใจของนาง

“คุณชายเหยาไม่เข้าใจว่าการเดิมพันหมายความว่าอะไรหรือ? ให้ข้าช่วยหาคนมาสั่งสอนเจ้าสักหน่อยดีหรือไม่?”

องครักษ์ที่อยู่ด้านข้างก้าวออกมาข้างหน้า มือแตะกระบี่พก สีหน้าดุดัน เหยาจิ่นเฉิงเห็นแล้วก็ใจสั่นสะท้าน โบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน

“ไม่จำเป็น ไม่จำเป็นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะส่งต่อทุกอย่างให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ ท่านอ๋องโปรดวางพระทัย”

ตอนแรกลั่วหยวนหงเข้าใจว่าสหายตามคำพูดของฉู่อ๋องหมายถึงเหยาจิ่นเฉิงเสียอีก แต่ตอนนี้ไม่ต้องคิดก็ดูออกว่าหมายถึงคนตระกูลซ่ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นซ่งเยี่ยนโจวหรือซ่งรั่วเจิน

เหยาจิ่นเฉิงมีเรื่องกับตระกูลซ่งวันนี้ นับว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนโดยแท้!

“พี่ใหญ่ซ่ง ขาของท่านสามา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 227

    หากสามารถแต่งลั่วชิงอินเข้าบ้านย่อมเป็นเรื่องมีหน้ามีตาสำหรับตระกูลเหยาโดยไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าลั่วชิงอินร่างกายอ่อนแอเกินไป ทั้งยังไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ จะแต่งเข้าบ้านมาเพื่ออะไร?แต่งเข้ามาบูชางั้นรึ?“ฮูหยิน สิ่งที่ข้าพูดมาเป็นความจริงทุกอย่าง เดิมทีร่างกายแม่นางลั่วก็อ่อนแออยู่แล้ว ช่วงที่ผ่านมา ข้าช่วยบำรุงร่างกายให้แม่นางลั่วมาโดยตลอด”“คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องตกน้ำ สถานการณ์เลวร้ายเกินไป ตอนนี้ไม่อาจแก้ไขกลับกลาย การมีลูกย่อมเป็นไปไม่ได้แล้ว”เยี่ยนชิงอวี้ใบหน้าเผือดสี รีบเข้ามาจับหมอโจวไว้ “ท่านลองตรวจอาการอย่างละเอียดอีกสักครั้งเถอะ เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!”“ลั่วฮูหยิน อาจเป็นเพราะวิชาแพทย์ของข้าน้อยไม่ดีเอง พวกท่านลองเชิญหมอท่านอื่นๆ มาตรวจอาการดีกว่า”เยี่ยนชิงอวี้คลายมือออก ในใจเข้าใจความหมายในคำพูดของหมอโจวดี อันที่จริงก่อนที่จะตกน้ำ ท่านหมอเคยพูดจาทำนองนี้ไว้ตั้งแต่ตอนจับชีพจรให้ชิงอินแล้วบอกว่าร่างกายอ่อนแอเกินไป ต้องบำรุงอย่างเอาใจใส่ มิฉะนั้นเกรงว่าตอนตั้งครรภ์อาจมีอันตรายถึงชีวิตแต่ตอนนี้...แม้แต่ตั้งครรภ์ก็ยังเป็นไปไม่ได้ แบบนี้จะทำอย่างไรดีเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 228

    “ไม่ว่าอย่างไร ข้าล้วนไม่เปลี่ยนใจ”ซ่งเยี่ยนโจวน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาทอแววกังวล “ชิงอินสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้ารู้เรื่องนี้ ข้ากลัวว่านางจะรับไม่ไหว”“หากท่านลุงท่านป้ายินดีให้โอกาสข้าได้ดูแลชิงอินไปชั่วชีวิต พวกเราสามารถหมั้นหมายกันโดยเร็ว เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนบอกนาง”เยี่ยนชิงอวี้กับลั่วหยวนหงมองหน้ากัน อดจะประหลาดใจไม่ได้ คำพูดของซ่งเยี่ยนโจวตรงกับสิ่งที่พวกเขาคิดอยู่พอดีชิงอินในตอนนี้ไม่อาจรับความสะเทือนใจได้อีกแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องใหญ่อย่างการที่ไม่สามารถมีบุตรได้ หากรู้เรื่องนี้ เกรงว่านางอาจรับไม่ไหวเข้าจริงๆตอนนี้การไม่บอกนางย่อมเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยซ่งเยี่ยนโจวสามารถคิดได้เช่นนี้ย่อมหมายความว่าเขาคำนึงถึงชิงอินอย่างจริงใจดุจเดียวกับพวกตน“หากพวกท่านไม่เชื่อ ข้าสามารถเชิญคนมาเขียนหนังสือสมรสเดี๋ยวนี้เลย แม่ข้าก็อยู่ที่นี่ด้วย รอเพียงชิงอินพยักหน้า ข้ากลับไปแล้วก็จะเตรียมสินสอดมาสู่ขอชิงอิน”หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกชายตัดสินใจเด็ดขาดแล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “ชิงอวี้ เรื่องในปีนั้นเป็นความผิดของพวกข้า ไม่ว่าจะเพราะสาเหตุใด พวกข้าก็ผิดต่อชิงอิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 229

    เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ซ่งเยี่ยนโจวน่าไว้วางใจกว่าเหยาจิ่นเฉิงมากนัก“ข้าเข้าใจ แต่สวี่ซืออี้ไม่ใช่คนที่จะยอมเลิกราโดยง่าย เมื่อวานแค่เกิดเรื่องเล็กน้อย นางก็มาโวยวายเสียแล้ว”“หากรู้เรื่องนี้เกรงว่าคงจะนำไปขยายความสร้างปัญหาให้อย่างไม่อาจเลี่ยง ข้าต้องบอกพวกเขาให้ชัดเจน จะได้ไม่กระทบต่อชื่อเสียงของชิงอิน”ในฐานะที่เป็นแม่คน เยี่ยนชิงอวี้ย่อมใคร่ครวญเพื่อลั่วชิงอินอย่างรอบด้าน ก่อนหน้านี้สองบ้านแค่ดูตัวกันเท่านั้น ตอนนี้จะยกเลิกเรื่องมงคลย่อมไม่เป็นไร แต่ไม่อาจปล่อยให้คนพวกนั้นใช้เรื่องนี้มาทำร้ายชิงอินพวกซ่งรั่วเจินได้ยินการตัดสินใจของคนตระกูลลั่วก็ทราบว่าพฤติกรรมเมื่อครู่ของคนตระกูลเหยาทำให้พวกเขาไม่คิดจะเป็นดองกับทางนั้นอีกแล้ว เนื่องจากการสนับสนุนของพวกตน ซ่งเยี่ยนโจวจึงได้รับการยอมรับจากตระกูลลั่วอีกครั้ง“ข้าขอจับชีพจรให้พี่หญิงลั่วได้ไหมเจ้าคะ?” ซ่งรั่วเจินถามดวงตาเยี่ยนชิงอวี้ฉายแววประหลาดใจ “รั่วเจินไปเรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”“สองปีนี้พอได้เรียนรู้มาบ้างเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินยิ้มบางตอบอย่างรวบรัด ก่อนหน้านี้ตระกูลลั่วสนิทสนมกับครอบครัวนาง ย่อมทราบว่าไม่กี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 230

    หน้าประตูจวนตระกูลซ่งหลิ่วหรูเยียนเห็นว่ารถม้าของฉู่อ๋องไม่เพียงแต่กลับมาทางเดียวกับพวกตน ขณะนี้ฉู่อ๋องยังพูดอะไรบางอย่างกับซ่งรั่วเจินบริเวณห่างออกไปไม่ไกล ในใจก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าฉู่อ๋องเข้าถึงยาก แต่จากที่ได้เจอกันหลายครั้งกลับไม่รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้น?”ซ่งเยี่ยนโจวก็มองตามไปทางนั้นเช่นกัน “น้องหญิงห้าเผชิญหน้ากับฉู่อ๋องโดยปราศจากความกริ่งเกรง ตรงกันข้าม ยังพูดคุยกันถูกคอเสียด้วยซ้ำ”“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจินเอ๋อร์สามารถคบหากับฉู่อ๋องก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่ฉู่อ๋องมีฐานะสูงศักดิ์ เจินเอ๋อร์คงไม่...”หลิ่วหรูเยียนค่อนข้างกังวลใจ ต่อให้มองด้วยสายตาของผู้อาวุโสก็ยังนึกชื่นชมฉู่อ๋องว่าโดดเด่นทั้งด้านชาติตระกูลและอุปนิสัย นับประสาอะไรกับสตรีรุ่นราวเดียวกันทั้งเมืองหลวงมีสตรีมากมายเท่าไรที่อยากเป็นพระชายาของฉู่อ๋อง?ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ฮ่องเต้และฮองเฮามีพระประสงค์จะพระราชทานสมรสให้ฉู่อ๋อง บุตรีของอัครเสนาบดียังมีใจให้เขาไม่ใช่นางดูแคลนลูกสาวของตนเอง แต่เดิมก็ถอนหมั้น ทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องวัย ความเป็นไปได้ที่ฉู่อ๋องจะชอบนางมีน้อยเกินไปแทนที่จะต้องม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 231

    ซ่งรั่วเจินไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดของตนจะทำให้ทั้งสองตีความไปผิดทาง นางกล่าวต่อ “ข้าตรวจดูสภาพร่างกายของพี่ลั่วแล้ว ร่างกายของนางไม่แข็งแรงจริงๆ จำต้องดูแลให้ดี มิให้มีสิ่งใดกระทบกระเทือนอีก”“ปิดบังความจริงไว้ชั่วคราวเป็นทางเลือกที่ถูก แต่ข้าคิดว่าสกุลเหยามิใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน[1]”“หากพวกเขาล้มเลิกการหมั้นหมายนี้เสีย แล้วรู้ว่าท่านจะหมั้นกับพี่ลั่ว คงแพร่ข่าวไปทั่วเป็นแน่”ดวงตาของซ่งเยี่ยนโจวฉายแววเย็นชา “เช่นนั้น ก็ทำให้พวกเขาเพียงแค่เรื่องของตนเองก็เต็มกลืน”“เจินเอ๋อร์ ร่างกายของชิงอินยังฟื้นฟูได้หรือไม่?” หลิ่วหรูเยียนถามด้วยความกังวล “แม่ไม่ได้กลัวว่าจะมีบุตรไม่ได้ ทว่าไม่อยากมีบุตรกับไม่อาจมีบุตรย่อมแตกต่างกัน”“ข้าเข้าใจดีเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “การฟื้นฟูร่างกายของพี่ลั่วต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ข้าเชื่อว่านางจะค่อยๆ หายดีได้ การตั้งครรภ์ก็มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย”“อาการทางใจต้องรักษาด้วยหมอและยาทางใจ นางยึดติดกับพี่ใหญ่มาตลอด ทุกข์ใจเรื้อรัง แต่หากพี่ใหญ่กับนางได้กลับมาเป็นอย่างเช่นเคย นางจะต้องค่อยๆ ดีขึ้นแน่”แววตาของซ่งเยี่ยนโจวเต็มด้วยความคาดหวัง “หมายความว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 232

    เมื่อผู้คนในที่นั้นได้ยินว่ามีคนจากสกุลซ่งมา ต่างก็แปลกใจไม่น้อยซ่งอี้อันเป็นราวโอรสสวรรค์ลงมาจุติ ชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่เพียงมีรูปโฉม มีความสามารถ กระทั่งชาติกำเนิดก็ล้วนเป็นหนึ่งในหมื่น แต่หลังจากเขาสูญเสียการมองเห็น อนาคตก็เรียกได้ว่าพังทลายการสอบฤดูใบไม้ผลิเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ทว่าบัดนี้เกรงว่าจะกลายเป็นวันที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเขา แม้นมีพรสวรรค์แต่กลับไม่สามารถใช้มันได้อีก“ได้ยินมาว่าฉู่อ๋องชื่นชมความสามารถของซ่งอี้อันอยู่ไม่น้อย เคยตั้งใจเชิญเขาไปเป็นอาจารย์ยังสำนักศึกษาหลวง”“เพราะว่าสองตามืดบอด จึงทำได้เพียงรับผิดชอบสอนวิชา คณาจารย์ทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกัน ทว่าท้ายที่สุดซ่งอี้อันกลับปฏิเสธไป”เมื่อฉินเซี่ยงเหิงได้ยินข่าวนี้ ก็ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง “ฉู่อ๋องชื่นชมอะไรในตัวเขากันแน่? ก็แค่คนไร้ค่าผู้หนึ่ง!”“บางทีอาจเป็นเพราะสงสารเขาก็เป็นได้”ฉินซวงซวงอดนึกถึงซ่งรั่วเจินไม่ได้ ก่อนนี้นางเห็นฉู่อ๋องช่วยซ่งรั่วเจินไว้หลายครั้ง คงไม่พ้นเป็นเพราะสงสารสกุลซ่งที่ตกอับ จึงได้ช่วยหนแล้วหนเล่า“ท่านพี่ ท่านไม่ต้องไปสนใจซ่งอี้อันอีกแล้ว บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 233

    “ซ่งอี้อันจะเข้าร่วมการสอบการสอบฤดูใบไม้ผลิงั้นหรือ? มิใช่ว่าสองตาเขามืดบอดไปแล้วหรือ? แล้วจะเข้าสอบได้อย่างไร?” “ข้าดูแล้วดวงตาของซ่งอี้มีประกายเช่นปกติ มิได้เหมือนคนตาบอดแต่อย่างใด หรือช่วงนี้เขาจะรักษาจนหายดีขึ้นมาแล้ว?”ทุกคนต่างจ้องมองซ่งอี้อันอย่างละเอียด ก่อนนี้พวกเขาไม่ได้สังเกต บัดนี้เมื่อมองให้ชัด ก็พบว่าซ่งอี้อันเดินเข้ามาเองโดยไม่ได้มีผู้ใดคอยช่วยประคอง “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ประกายในดวงตาฉินเซี่ยงเหิงฉายแววตกตะลึง เรื่องนี้สั่นสะเทือนเขาไม่น้อยทีเดียว!ก่อนนี้หมอตั้งมากหน้าหลายตาก็ตรวจกันแล้ว ว่าดวงตาของซ่งอี้อันไม่อาจรักษาให้หายได้แล้ว บัดนี้เขากลับเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิได้ เช่นนั้นเขาจะทำอย่างไร?“พี่อี้อัน ดวงตาของท่านหายดีแล้วหรือ?”จ้าวซูหว่านมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตะลึงงัน จ้องมองชายหนุ่มอ่อนโยนประดุจหยกตรงหน้า เขายังคงมีท่าทีโดดเด่นเป็นสง่าอยู่เช่นเคยหวนนึกถึงครั้งหนึ่งที่นางเคยหลงใหลในซ่งอี้อัน ในหมู่ผู้คนมากมายเขากลับเป็นดวงดาราที่สว่างไสวสุกใสกว่าใครอื่น แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงไปพันพัวอยู่กับฉินเซี่ยงเหิงเข้าเสียได้...หลังหมั้นหมายกับสกุลฉินแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 234

    “ท่านอย่าเพิ่งกังวลไป อย่างไรท่านก็ท่องเรียงความนั้นจนขึ้นใจแล้ว คุณภาพของเรียงความท่านเองก็รู้ดี ผลสอบย่อมไม่ออกมาแย่แน่นอน”“ช่วงเวลานี้ซ่งอี้อันหาได้มีเวลาท่องตำราเรียนรู้ ท่านจะกลัวไปไย?”“หากท่านสอบได้อันดับหนึ่ง ผู้คนก็ต่างยอมรับว่าท่านมีความสามารถโดยแท้จริง ท่านย่อมเป็นอันดับหนึ่งของเมืองหลวงได้อย่างไร้ข้อกังขา!”ฉินเซี่ยงเหิงเริ่มสงบลงบ้าง “หากเขาเขียนเหมือนกันกับข้า…”“เช่นนั้นแล้วอย่างไร? เขาไม่มีทางท่องจำได้ทุกตัวอักษรหรอก ข้าเคยได้ยินว่าการเขียนเรียงความนั้น รอบแรกมักจะดีที่สุด"“พี่ชายรอง มีโอกาสสูงที่ฉินเซี่ยงเหิงจะนำเรียงความที่พี่เคยเขียนมาใช้ในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ พี่ได้เตรียมเรียงความที่ดีกว่าไว้หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินเหลือบมอง ก่อนหน้านี้นางเคยได้เตือนพี่ชายรองเรื่องนี้แล้ว หัวข้อการสอบฤดูใบไม้ผลิไม่ใช่สิ่งที่นางคาดการณ์ได้ แต่เป็นสิ่งที่ระบุเอาไว้ในหนังสือ ยิ่งได้รู้แล้วก็ยิ่งบังเอิญยิ่ง ที่ก่อนนี้ซ่งอี้อันก็ได้เขียนเรียงความเกี่ยวกับข้อคิดเห็นในทำนองเดียวกันไว้และฉินเซี่ยงเหิงก็ใช้เรียงความนั้นในการสอบทิ้งห่างบรรดาบัณฑิตทั้งหลายมาได้ จนกลายเป็นอันดับหนึ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 488

    เหอเซียงหนิงตัวไร้ประโยชน์คนนี้ถึงขั้นคิดดึงนางมารับเคราะห์ไปด้วย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พูดว่าไม่อยากดึงนางออกมาถังเสวี่ยหนิงก็ยืนอยู่ทางฝั่งนาง สกุลถังเป็นตระกูลแนวหน้าของเมืองหลวง เดิมทีก็ไม่กลัวสกุลซ่ง ตัวโง่งมคนนี้ใช้ประโยชน์จากสกุลถังเป็นโล่กำบัง ต้องการโยนความผิดมาที่ตน!“หากไม่ใช่เจ้า ข้าจะตกลำบากถึงขั้นนี้ได้เยี่ยงไร?”เหอเซียงหนิงไม่ใส่ใจความสัมพันธ์อะไรอีกแล้ว นางย่อมรู้ว่าสกุลถังยอดเยี่ยมกว่าสกุลฉิน ไฉนเลยนางจะกล้าป้ายความผิดให้สกุลถัง?ต่อให้ทำสำเร็จ ตนเองก็ถูกตัดขาดความสัมพันธ์ไปแล้ว ล่วงเกินสกุลถังยังมีผลดีอะไรกันเล่า?“เจ้าเกลียดซ่งรั่วเจินมาโดยตลอด เก็บข้าไว้ก็เพื่อใช้เป็นหมากตัวหนึ่งเท่านั้น”“เดิมทีก็ไม่ต้องตกลำบากถึงขั้นนี้ มุ่งร้ายต่อซ่งรั่วเจินมีอะไรดีต่อข้าเล่า? อย่างไรเสียคุณชายสวีก็ไม่ชอบข้า ปาไข่กระทบหินเช่นนี้ข้ายังไม่กลายเป็นตัวโง่งมอีกหรือ?”“ทั้งๆ ที่เป็นฝีมือของเจ้า ข้าไม่รู้เรื่องด้วยเลย ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าข้าหวังดีรับเจ้าไว้ เจ้าจะเนรคุณปรักปรำข้า!” ฉินซวงซวงพูดอย่างโมโหซ่งรั่วเจินมองสองคนตรงหน้าทะเลาะกัน ก่อนหน้านี้รู้สึกแปลกใจที่ฉินซวงซวงเก็บเหอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 487

    “ข้า ข้าเปล่า”เหอเซียงหนิงว้าวุ่นหนัก ไม่รู้ว่าสมควรทำเช่นไรถึงจะดี นึกเสียใจภายหลังคิดว่าสมควรยอมแพ้ตั้งแต่ตอนที่กังวลใจ บัดนี้ชุลมุนวุ่นวายจนจบไม่ลงแล้ว“เจ้ายังพูดว่าเปล่า? พวกเขาล้วนสารภาพแล้วว่าทั้งหมดเป็นฝีมือเจ้า หากเจ้าไม่ได้ทำจริงก็สาบานต่อฟ้าสิ!”ถังหงจี้สีหน้าปึ่งชา มีตัวอย่างดั่งเช่นพวกอวิ๋นจู๋สองคน ขอเพียงโยนความผิดทั้งหมดให้ถังเสวี่ยหนิงก็เพียงพอแล้ว“ข้า ข้า...” เหอเซียงหนิงรีบหันมองทางฉินซวงซวง หวังให้นางช่วยตนคิดหาวิธีก่อนหน้านี้ทั้งๆ ที่เป็นนางรับปากว่าจะจัดการทั้งหมดอย่างดี ไม่มีวันเกิดข้อผิดพลาด!จากนั้น ฉินซวงซวงเห็นสถานการณ์เปลี่ยนไปไม่เหมือนที่คาดการณ์ไว้ ถูกเปิดโปงอย่างว่องไวก็ตกตะลึงเหม่อไป รีบหลบเข้ากลุ่มคน ต้องการลอบออกจากที่นี่นางจะปล่อยให้เรื่องนี้เข้ามาพัวพันกับตนเองไม่ได้อีก หาไม่แล้วจะต้องซวยไปด้วยกัน!เพียงเหอเซียงหนิงมองไปก็เห็นฉินซวงซวงเตรียมพาหลินจือเยว่หนีไป ไฉนเลยจะยอมปล่อยให้นางไปเช่นนี้ได้?“เป็นฉินซวงซวง! เป็นนางบงการให้ข้าทำเช่นนี้!”ทุกคนล้วนหันมองตามมือของเหอเซียงหนิงไป ก็ได้เห็นใบหน้าร้อนตัวของฉินซวงซวง ท่าทางคือกำลังต้องการหนีไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 486

    ได้ยินถ้อยคำเจ้าเล่ห์ของเหอเฉิงหยาง พี่น้องสกุลซ่งรู้สึกเพียงน่าขันก่อนหน้านี้ดีดลูกคิดว่องไวจนแผนการภายในใจแทบจะระเบิดออกมาใส่หน้าพวกเขาแล้ว บัดนี้เพียงหนึ่งประโยคขอขมาก็อยากให้เรื่องจบลง ฝันหวานเกินไปแล้วกระมัง!ซ่งเยี่ยนโจวและซ่งอี้อันสบตากันแวบหนึ่ง เกิดความคิดแล้วซ่งรั่วเจินกำลังจะอ้าปากก็มองเห็นสายตาของพี่ชายทั้งสอง ทันใดนั้นเข้าใจแล้วว่าตนเองไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้าไป“ก่อนหน้านี้เหอเซียงหนิงถูกขับไล่ออกจากสกุลเหอ ตัดขาดความสัมพันธ์กับสกุลเหอไปแล้ว”“ได้ยินมาว่ายามนางถูกขับไล่ออกไปก็ได้เงินติดตัวไปไม่มาก ทว่าคนเหล่านี้ล้วนถูกนางซื้อมา พูดว่าไม่มีคนช่วยเหลือ นั่นเป็นไปไม่ได้”“คุณชายเหอ เจ้าไม่คิดจะอธิบายสักหน่อยหรือ?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถามสายตาซ่งอี้อันตกลงบนตัวถังหงจี้ ครุ่นคิดพลางพูด “หรือว่าคนที่มีส่วนร่วมด้วยก็คือสกุลถังกันเล่า? มิสู้พวกเจ้าพูดออกมาตามตรง มีฮองเฮาและท่านอ๋องเป็นผู้ตัดสิน ก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนศาลาว่าการแล้ว”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนย่อมรู้ความหมาย“พูดไปแล้วก็จริงเสียด้วย! เหอเซียงหนิงกลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้ว ได้ยินมาว่าไม่มีที่ไป ทำได้เพียงไปอาศัยที่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 485

    เมิ่งชิ่นพูดแขวะ “เพียงได้เห็นท่าทางร้อนตัวเช่นนี้ก็รู้ว่าหลอกลวง ยังไม่ต้องพูดว่าตนเองต่ำช้าแต่ยังทำให้สองคนต้องตายไปอีกด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เยี่ยงไร มิสู้ตายไปให้รู้แล้วรู้รอด!”ฉู่จวินถิงสบมองซ่งรั่วเจินด้วยสายตาลุ่มลึกแวบหนึ่ง ทันใดนั้นรู้สึกว่าไม่มีใครบนโลกนี้สามารถรังแกนางได้นาง...จะต้องไม่ใช่ซ่งรั่วเจินในตอนแรก กลับเป็นแม่นางที่เขาชมชอบด้วยใจจริงบางที ความหมายในการเกิดใหม่ของเขาก็คือได้พบกับนาง“ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” สายตาซ่งรั่วเจินจับจ้องคนที่เหลือเหล่านั้น หยิบกระดาษเขียนยันต์ออกมาหนึ่งแผ่นอย่างไม่ใส่ใจ“ข้าไม่มีความอดทนมากถึงเพียงนั้น พวกเจ้ารู้ความสักหน่อย อย่าให้ข้าถามทีละคนเลย”เดิมทีคนเหล่านั้นก็ตกใจจนหน้าเผือดซีดอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ฟ้าสว่างจ้ากลับเกิดฟ้าผ่าได้ คราวนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าซ่งรั่วเจินมีวิธีอีกอย่างที่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ จึงรีบพูดความจริงทั้งหมดออกมา“ข้าพูด ข้าจะพูดทั้งหมดเลย!”“เรื่องทั้งหมดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเท็จ เป็นเหอเซียงหนิงมอบเงินให้พวกเรา ให้พวกเรารวมหัวกันพูดปด”“พวกเราตอบตกลงก็เพราะเงิน ขอร้องแม่นางซ่งได้โปรดไว้ชีวิตพว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 484

    เวลาคล้ายหยุดนิ่งก็มิปานบัดนี้ความครึกครื้นของเขตล่าสัตว์เงียบงันไร้เสียง ทุกคนหันมองซ่งรั่วเจิน เพียงคิดว่านางดุจดั่งเซียนเดินดิน วิธีการนี้ชวนให้คนรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงไม่มีใครสงสัยว่านี่คือความสามารถของซ่งรั่วเจินสามารถทำให้สวรรค์ลงทัณฑ์ทันท่วงทีเช่นนี้ได้ นี่คือวิธีการน่าทึ่งอะไรกัน?อวิ๋นเนี่ยนชูและเมิ่งชิ่นลืมตาอ้าปากค้าง ปากที่อ้าออกลืมปิดให้สนิท ตนเองสามารถมีสหายหญิงเช่นนี้ได้ นับเป็นวาสนายิ่งใหญ่!เรื่องนี้พูดออกไปสามารถโอ้อวดได้ชั่วชีวิต!พี่น้องชายทั้งสี่ของสกุลซ่งหันหน้าสบตากัน มองเห็นท่าทางตกตะลึงของอีกฝ่าย หลังตอบสนองกลับมาได้ก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกน้องหญิงของตนมีความสามารถยอดเยี่ยมเกินไปแล้วกระมัง!เพียงสถานการณ์ในวันนี้ ภายภาคหน้าใครยังขวัญกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าน้องสาว นั่นก็คือรนหาที่ตาย!ไม่เห็นหรือว่าแม้แต่สวรรค์ก็ยืนทางฝั่งน้องหญิงห้า?“ไม่รู้ว่าพวกเจ้าคิดเห็นเช่นไรต่อคำอธิบายนี้?”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วขึ้น สายตาเย็นชาสบมองถังหงจี้ เหอเฉิงหยางและคนอื่น เจือความเย้ยหยันหลายส่วนสีหน้าถังหงจี้และคนอื่นล้วนไม่สบอารมณ์มาก นึกเสียใจภายหลังภายในใจ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 483

    เหอเฉิงหยางสบมองซ่งรั่วเจินอย่างโกรธแค้น “โหดเหี้ยมจริงนั่นล่ะ! หากครั้งนี้ข้าไม่สามารถลงโทษเจ้าได้ ไฉนเลยข้าจะมีหน้าพบเซียงหนิงได้?”“สกุลซ่งจะต้องมอบคำอธิบายให้พวกเราอย่างหนึ่ง นี่คือต้องการจะเอาชีวิตของเซียงหนิงจริงๆ!”ถังหงจี้ย่อมไม่พลาดโอกาสอันดีนี้ไป พูดว่า “ซ่งอี้อัน คราวนี้ไม่ใช่ข้ามอบคำอธิบายให้เจ้า แต่เป็นพวกเจ้าสกุลซ่งสมควรมอบคำอธิบายให้คนทั่วหล้า!”เวลาเพียงชั่วพริบตา นับตั้งแต่อวิ๋นจู๋สองคนสาบานในช่วงเวลาสั้นๆ การแสดงของสกุลเหอและสกุลถังก็มากเพียงพอแล้วฉู่จวินถิงและสี่พี่น้องสกุลซ่งกลับไม่รีบ เพราะเคยเห็นความสามารถของซ่งรั่วเจินมาก่อน ก็รู้ว่าในเมื่อนางพูดเช่นนี้จะต้องทำได้อย่างแน่นอน“รีบอะไรกัน? ต่อให้ต้องการฟ้าผ่าท่ามกลางอากาศแจ่มใสเช่นนี้ก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยมิใช่หรือ?” ซ่งจืออวี้พูดอย่างไม่พอใจถ้อยคำนี้ทำให้ถังหงจี้และเหอเฉิงหยางหัวเราะลั่น “ซ่งจืออวี้ เพื่อปกป้องน้องสาวไม่ว่าคำใดเจ้าก็สามารถพูดออกมาได้ เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกว่าฟ้าผ่าก็ต้องรอเวลา!”คนรอบข้างหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ คิดไม่ตกว่าอยู่ดีๆ เหตุใดซ่งรั่วเจินจึงต้องรนหาที่ด้วยอธิบายออกมายังมีโอกา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 482

    เขตล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ตกอยู่ในความเงียบอย่างแปลกประหลาด ทั้งๆ ที่มีคนมากมายถึงเพียงนี้ แต่สายตายามทุกคนสบมองซ่งรั่วเจิน กลับรู้สึกใจสั่นอย่างไร้สาเหตุฮองเฮาเห็นภาพนี้อยู่ภายในสายตา ท่าทีรับมืออย่างสุขุมของซ่งรั่วเจินทำให้นางเปลี่ยนความคิดไม่มีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เหมือนสตรีเกิดในตระกูลเล็กๆ เผชิญหน้ากับความสงสัยโดยไม่ลนลาน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถชี้จุดปัญหาได้อย่างตรงประเด็นเพียงแต่สำหรับเรื่องคำสาบานทำนองนี้กลับไม่น่ากลัวมากนัก กระนั้นเพียงออกจากปากแม่นางคนนี้ ถึงขั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงได้ทุกคนที่นี่ล้วนนึกถึงความสามารถด้านศาสตร์ลี้ลับของซ่งรั่วเจิน โดยเฉพาะหลังจุดกระดาษเขียนยันต์แล้ว รู้สึกลึกลับมากยิ่งขึ้น ไม่กล้าพูดเหลวไหลส่งเดชอีกถังเสวี่ยหนิงเห็นคนเหล่านั้นกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าพูด เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ “เดิมทีพวกเจ้าก็ไม่มีเรื่องให้ต้องละอายใจอยู่แล้ว ยังกังวลอะไรอีกเล่า? รีบพูดออกมาเถอะ!”อวิ๋นจู๋และเพ่ยอวิ๋นสบตากันแวบหนึ่ง รู้สึกกังวลภายในใจ ไม่มีใครกล้าพูดก่อนเหอเซียงหนิงกระซิบเร่ง “กลัวอะไร? ก็แค่จงใจข่มขู่พวกเจ้าเท่านั้น หรือพวกเจ้าเชื่อจริง?”“ทุกวันมีคนสาบานไม่รู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 481

    “ข้าได้ยินมาว่าหลังเจ้าถูกขับไล่ออกจากสกุลเหอก็ไม่มีเงินติดตัว ทำได้เพียงไปอยู่ที่สกุลฉินชั่วคราว ส่วนฉินซวงซวงและหลินจือเยว่ติดเงินข้ายังไม่ได้คืน น่าจะไม่มีเงินมากถึงเพียงนั้นมอบให้เจ้าไปตามหาคนได้กระมัง?”เมิ่งชิ่นเองก็ช่วยพูด “องครักษ์จวนแม่ทัพของพวกเรามีฝีมือไม่เลว ไม่ว่ามองอย่างไรทำเรื่องลับๆ พรรค์นี้ก็สมควรให้คนสนิทไปลงมือ รั่วเจินไม่ใช่คนโง่ ยังไม่ต้องพูดว่าไปหาอวิ๋นจู๋ตัวไร้ประโยชน์คนนี้ ยังให้เขาไปตามหาคนช่วยที่นอกจวนอีกรึ?”“เรื่องนี้เพียงได้ยินก็รู้ว่าเป็นความเท็จ ใครเชื่อก็โง่แล้ว!”คนอื่นเองก็คิดว่าเป็นเช่นนี้จริง เรื่องนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!เหอเซียงหนิงเห็นสถานการณ์แล้วกลับไม่รีบ “จะต้องเป็นเพราะนางกังวลว่าจะถูกคนในครอบครัวรู้เรื่องนี้ จึงไปหาคนที่นอกเมือง”“คนอื่นในสกุลซ่งล้วนเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีวันปล่อยให้นางทำเรื่องโหดเหี้ยมพรรค์นี้”ซ่งจืออวี้หัวเราะออกมาอย่างสุดระงับ “คราวนี้กล่าวหาพวกเรา ต้องการยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของพวกเรา? ข้าจะบอกเจ้าให้นะ ไม่มีวันเสียหรอก!”“เดิมทีน้องหญิงห้าของข้าก็ไม่ใช่คนใจคอโหดเหี้ยม หาไม่แล้วนางคิดอยากได้ชีวิตของเจ้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 480

    “พูดจาเหลวไหลอะไร? พวกเขาล้วนพูดความจริง!” ถังเสวี่ยหนิงรีบตอบโต้กลับ“เจ้ามีหลักฐานอะไรว่าพวกเขาพูดความจริง?” ซ่งรั่วเจินถามกลับ “ล้วนอาศัยปากพูดทั้งนั้นมิใช่หรือ? ข้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นพวกเจ้าซื้อตัวพวกเขามาปรักปรำข้า!”ถังเสวี่ยหนิงรู้สึกเหลือเชื่อ “พวกเขาล้วนพูดความจริงต่อหน้าแล้ว เจ้ายังปฏิเสธไม่ยอมรับ ไร้ยางอายเกินไปแล้วกระมัง!”“หาสองสามคนออกมาตั้งใจปรักปรำข้า นี่ง่ายดายเกินไปแล้วกระมัง!”ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้าเยาะหยัน เลื่อนสายตาหันมองทางคนโกหกเหล่านั้น สายตาคมกริบ“ข้าขอเตือนพวกเจ้า วันนี้ฮองเฮาเป็นผู้ตัดสินคืนความยุติธรรม มิใช่สถานที่ให้พวกเจ้าพูดจาเหลวไหลได้!”“หากเป็นไปตามที่พวกเจ้าพูดจริง ยืนกรานป้ายความผิดให้ข้า พวกเจ้าเองก็หนีไม่พ้น ทั้งหมดล้วนต้องเข้าคุกหลวง!”“ข้าขอชี้แนะพวกเจ้าให้คิดให้ดี ถึงตอนนั้นเข้าคุกแล้วอย่าได้นึกเสียใจภายหลัง!”ได้ยินดังนั้น สายตาอวิ๋นจู๋สะท้อนแววตกตะลึง “เข้าคุกหลวง?”พวกเขาถึงขั้นต้องเข้าคุกหลวง?“ย่อมต้องเข้าคุกหลวง ต่อให้น้องหญิงของข้าเป็นผู้สั่งการ แต่คนลงมือคือพวกเจ้า พวกเจ้าคิดว่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้หรือ?” ซ่งอี้อันพูดเสียงเ

DMCA.com Protection Status