Share

บทที่ 128

Author: จี้เวยเวย
“เหลวไหล!”

สีหน้าฉินซวงซวงแข็งกระด้างไป “พี่ชายข้าใกล้จะถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว พวกเจ้าคิดใช้เรื่องนี้ล่ามพี่ชายข้าไว้ในคุก ไม่มีวันเสียหรอก!”

“งั้นหรือ?”

สายตาซ่งรั่วเจินตกลงบนคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในที่ห่างออกไปไม่ไกล มุมปากยกขึ้นหนึ่งข้างอย่างนึกสนุก

“หลินฮูหยิน ข้าคนนี้ทำนายแม่นยำนัก เห็นแก่เจ้าที่คืนเงินข้า วันนี้ข้าขอทำนายให้เจ้าสักครั้ง พี่ชายของเจ้าจะออกมายามใดนั้นยังไม่อาจรู้ได้ แต่เจ้าจะกลับเข้าคุกยามใด ข้ากลับสามารถบอกเจ้าได้”

“ก็คือวันนี้นี่เอง”

“ซ่งรั่วเจิน เจ้าเสียสติไปแล้วจริงๆ ริษยาแค้นเคืองข้าจนเริ่มพูดเหลวไหลแล้ว!”

ฉินซวงซวงโกรธจนหัวเราะออกมา “เจ้าคิดว่าตนเองเป็นปรมาจารย์ลัทธิเต๋าเก่งกาจกระนั้นหรือ ยังมอบคำทำนายให้ข้า ข้าว่าไม่ช้าก็เร็วพวกเจ้าสกุลซ่งจะต้องตกต่ำเป็นแน่!”

จากนั้น ชั่วขณะเสียงของฉินซวงซวงหยุดลง เสียงเยียบเย็นของจ้าวเหวินซูพลันดังขึ้น

“ท่านหลินป๋อ หลินฮูหยิน ตามพวกเราไปเที่ยวหนึ่งเถอะ!”

หลินจือเยว่มองเห็นจ้าวเหวินซู ยากจะอดกลั้นความงุนงงเอาไว้ได้ “ใต้เท้าจ้าว นี่หมายความว่าอย่างไร?”

“ท่านหลินป๋อทำสิ่งใดไว้หรือว่ายังไม่รู้? ก่อนนี้ยามอยู่ใน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 129

    จ้าวเหวินซูสบถเสียงเย็น “ข้าเองก็ขอเตือนท่านหนึ่งประโยค นักการท่านอื่นไปตรวจค้นจวนของท่านแล้ว เงินที่หายไปของราชสำนักล้วนประทับตราไว้ เพียงมองปราดเดียวก็รู้ได้ว่าใช่เงินชุดนั้นที่หายไปหรือไม่!”สีหน้าหลินจือเยว่ซีดเผือดลง เขามองทางฉินซวงซวงอย่างว้าวุ่นใจ “ซวงซวง นี่เกิดอันใดขึ้น?”“ข้า ข้าเองก็ไม่รู้”ฉินซวงซวงเองก็ว้าวุ่นใจ จู่ๆ นางก็นึกถึงถ้อยคำของซ่งรั่วเจินทั้งหมดขึ้นได้ หันหน้าไปอย่างมีโทสะ “เป็นเจ้า! เป็นเจ้าใช่หรือไม่!”“หลินฮูหยินกำลังพูดอันใด เหตุใดข้าฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ?”ซ่งรั่วเจินแกล้งสงสัย หันหน้ามองทางจ้าวเหวินซู “ใต้เท้าจ้าว ยึดตามที่ท่านพูดแล้ว เงินที่พวกเขาคืนข้าก็คือเงินถูกขโมยมาใช่หรือไม่?”“ใช่แล้ว” จ้าวเหวินซูพยักหน้า“เช่นนั้นขอมอบตั๋วเงินนี้ให้ใต้เท้าจ้าวก่อนก็แล้วกัน”ซ่งรั่วเจินมีสีหน้าเสียดาย “ข้าคิดว่าหลินจือเยว่มาคืนเงินจริงเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะนำเงินที่ขโมยออกจากราชสำนักมาให้ข้า นี่คือต้องการทำร้ายพวกเราสกุลซ่งใช่หรือไม่?”“ลำบากแม่นางซ่งแล้ว เรื่องนี้ตรวจสอบก็จะรู้ผลได้อย่างว่องไว น้ำลดหินย่อมโผล่ออกมา”จ้าวเหวินซูเองก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องราว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 130

    “ใต้เท้า นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ แต่ไหนแต่ไรมาลูกชายข้าเป็นขุนนางมือสะอาด ไฉนเลยจะสามารถทำเรื่องทุจริตบิดเบือนกฎหมายได้?”นางเพิ่งพูดจบ นักการก็ยกเงินบนโต๊ะวิ่งออกมา“ใต้เท้า ข้าน้อยพบเงินหนึ่งกล่อง ด้านล่างยังประทับตราที่หายไปชุดนั้นด้วยขอรับ!”เหลียงเหยียนรับเงินไป มองเห็นตราประทับด้านล่าง สีหน้าบึ้งตึง “เอาตัวไป!”หลินรั่วหลานยังไม่ทันเอ่ยปากต่อก็ถูกคนจับไว้แล้ว แขนสองข้างถูกรวบไว้ด้านหลัง ร้องโอดครวญไม่หยุด“นี่ต้องเข้าใจผิดไปเป็นแน่ แต่ไหนแต่ไรมาลูกข้าซื่อสัตย์ ไม่มีวันทำเรื่องทุจริตบิดเบือนกฎหมาย ใต้เท้า ท่านต้องสืบสวนให้กระจ่างนะเจ้าคะ!”“หลักฐานชี้ชัดแล้ว ยังมีอะไรให้แก้ตัวอีกเล่า?”เหลียงเหยียนมองฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าเล่ห์แวบหนึ่ง ใบหน้าซื่อตรงไม่ประจบสอพลอนั้นเยียบเย็น “หลินจือเยว่กับฉินซวงซวงถูกจับตัวไปแล้ว ข้าชี้แนะพวกเจ้าให้รีบสารภาพออกมาโดยเร็ว ประเดี๋ยวจะเจ็บตัวเอาได้!”หลินรั่วหลานอึ้งงัน “ลูกชายข้าถูกพวกท่านจับไปแล้ว? นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดใหญ่แล้ว!”“พวกเจ้าจงค้นหาอย่างละเอียด ห้ามเมินข้ามจุดน่าสงสัยไปเป็นอันขาด!”เหลียนเหยียนไม่สนใจหลินรั่วหลานอีก หลักฐาน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 131

    ฉินซวงซวงมีสีหน้าใสซื่อ “จือเยว่ ท่านต้องเชื่อข้านะ ข้ารู้เรื่องนี้จากความฝันจริงๆ คิดว่านี่คือโอกาสดีที่ฟ้าประทานให้พวกเรา” “ข้ารู้ว่าท่านถูกซ่งรั่วเจินกดดันจนสิ้นไร้หนทาง ต้องการเงินจำนวนมากมาใช้หนี้จึงได้ทำเช่นนี้ ของโจรอะไรกัน ข้าไม่รู้เรื่องเลยสักนิด”“แต่เงินพวกนี้ไม่เพียงไม่ช่วยคลี่คลายปัญหาเร่งด่วนของพวกเรา แต่ยังทำให้เจ้ากับข้าตกที่นั่งลำบากกว่าเดิม!”หลินจือเยว่ร้อนรุ่มใจเหลือจะกล่าว เวลาสั้นๆ แค่วันเดียว เขาก็ต้องเปลี่ยนจากความยินดีเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อวานนี้มาเป็นติดคุกหัวโต!ถ้าไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง เกรงว่าคงต้องจบเห่เหมือนที่ผู้คุมสองคนนั้นพูดไว้แล้ว!“จือเยว่ ข้าคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับซ่งรั่วเจินเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นนางจะคาดเดาทั้งหมดนี้ได้อย่างไร?”ฉินซวงซวงรีบร้อนแก้ตัว “ไม่แน่ว่า...ไม่แน่ว่านางอาจจงใจให้ข้าฝันเห็นอะไรแบบนี้เพื่อทำให้พวกเราตกที่นั่งลำบากก็เป็นได้ นางช่างชั่วร้ายนัก!”นางไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้จึงโยนความผิดทั้งหมดไปให้ซ่งรั่วเจิน มิหนำซ้ำ หากใคร่ครวญถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของซ่งรั่วเจิน นางยิ่งรู้สึกว่าสตรีผู้นี้จะต้องรู้อะไร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 132

    “ถ้าเจ้าไม่บอกให้ข้าทำเรื่องพวกนี้ เรื่องนี้จะเปิดเผยออกมาได้อย่างไร?”ฉินเซี่ยงเหิงพูดเต็มปากเต็มคำ แววตาเจ็บแค้น เขารู้สึกมากขึ้นทุกทีว่าสิ่งที่ฉินซวงซวงเสนอมาเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าสิ้นดี!ตอนนี้ซ่งอี้อันจับได้แล้วว่าเรียงความถูกขโมยไป แม้เขาเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องหาหลักฐานไม่เจอแน่นอน แต่ตอนนี้เขาอยู่ในคุก กังวลใจเหลือเกินว่าอาจเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้นมานอกจากนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะพักนี้เขามีชื่อเสียงโด่งดัง จ้าวซูหว่านก็คงไม่มาเกาะแกะเขา เรื่องราวก็คงไม่มีทางแดงออกมา เขาก็ไม่ต้องกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของคนทั้งเมืองหลวง!“ท่านพูดอะไรก็ใช้สติคิดเสียบ้าง! พักนี้คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงคือท่านไม่ใช่หรือ? ข้าได้ประโยชน์จากเรื่องนี้สักนิดหรือไม่?”“ข้าเค้นสมองครุ่นคิดเพื่อท่าน หวังว่าท่านจะสอบได้ตำแหน่งดีๆ ในการสอบฤดูใบไม้ผลิ ยามนี้ในเมืองหลวงมีใครไม่ชมเชยว่าท่านเขียนเรียงความได้ดีบ้าง? พวกตระกูลใหญ่ชนชั้นสูงล้วนแต่ชื่นชมท่าน”“เดิมนั้นแค่ท่านสงบเสงี่ยม รอเงียบๆ จนหลังการสอบฤดูใบไม้ผลิเส้นทางราชการก็จะราบรื่นเอง ได้แต่งงานกับคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่ท่านกลับไปพลอดรักกับจ้าวซูห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 133

    “พวกเจ้าถ่ายหนักในนี้งั้นรึ?”ผู้คุมปิดจมูกทำท่าอยากจะอาเจียน “เป็นคุณชายกับคุณหนูตระกูลใหญ่ไม่ใช่หรือไร? ไฉนจึงไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้?”คนทั้งสามสงบอารมณ์ลงได้แล้วก็รู้สึกอับอาย ใบหน้าร้อนผ่าว พอมาได้ยินคำพูดเช่นนั้น สีหน้าก็ยิ่งปั้นยากกว่าเดิม“พวกข้า...พวกข้าเปล่านะ”“ข้าไม่สนหรอกว่าพวกเจ้าได้ถ่ายหนักหรือไม่ได้ถ่าย ใต้เท้าเรียกพวกเจ้าไปสอบสวน ตามพวกข้ามาเถอะ!”ฉินซวงซวงกับหลินจือเยว่มองหน้ากัน ถ้าไปสอบสวนในสภาพนี้ คนอื่นเห็นเข้าจะคิดอย่างไร?“ท่านผู้คุม หาสถานที่ให้พวกข้าอาบน้ำผลัดอาภรณ์ก่อนได้หรือไม่?” ฉินซวงซวงสางผมพลางเอ่ยถาม“เจ้าคิดว่าคุกเป็นบ้านเจ้างั้นหรือ? ยังต้องให้พวกเจ้าอาบน้ำอีก ฝันหวานไปหรือไม่?”ผู้คุมปิดจมูกเอ่ยด้วยสีหน้ารังเกียจ “ปล่อยราดตัวเองโดยไม่สนใจหน้าตาขนาดนี้ ยังจะสนเรื่องพวกนี้อีก ข้าว่าพวกเจ้าดูไม่เหมือนคนห่วงหน้าตาสักเท่าไหร่ รีบไปดีกว่า!”ฉินซวงซวงกำหมัดแน่น โมโหจนกัดฟันกรอด อดจะร้อนใจไม่ได้“จือเยว่ ท่านรีบหาวิธีเข้าสิ ถ้าถูกคนอื่นเห็นในสภาพนี้ พวกเราจบเห่แน่!”หลินจือเยว่มีสีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่เคยต้องอับอายขายหน้าเพียงนี้มาก่อน “เมื่อครู่ข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 134

    “ใต้เท้า ถ้าจะจับก็ไม่ควรจับข้า ควรจับครอบครัวแม่ทัพฉินต่างหาก ข้าไม่รู้เรื่องของโจรด้วยซ้ำ เงินทั้งหมดนั้นก็เป็นฉินซวงซวงให้มา!” เจ้ากรมอาญาเหลียงเหยียนสงสัยอยู่เป็นทุนเดิม ไม่แน่ว่าตระกูลฉินอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เป็นได้หลังหลินจือเยว่สร้างความชอบทางทหารกลับมาก็คบหาสมาคมกับคนในราชสำนักไม่น้อย อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ส่วนแม่ทัพฉินยิ่งมีชื่อเสียงมานานหลายปี มีเส้นสายซับซ้อนในแวดวงขุนนางเห็นลูกเขยกำลังจะสูญเสียตำแหน่งราชการไป เขาจะทนนิ่งดูดายอยู่ได้หรือ?“ท่านแม่ทัพฉิน ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ข้าน้อยก็คงไม่ต้องไปเชิญ มาพูดคุยให้กระจ่างด้วยกันเถิดขอรับ!”ฉินเจิงหน้าเปลี่ยนสี “นี่เกี่ยวอันใดกับข้า ใต้เท้าเหลียงต้องสอบสวนให้กระจ่างถึงจะถูก”“แม่ทัพฉินวางใจ ความจริงของเรื่องนี้จะกระจ่างในวันนี้แน่นอน หากไม่เกี่ยวข้องกับแม่ทัพฉินก็ไม่มีทางทำให้พวกท่านด่างพร้อย แต่ถ้าเกี่ยวข้องก็ย่อมไม่มีใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”เหลียงเหยียนผายมือแสดงท่าทางเชื้อเชิญให้ทุกคนเข้าไปขณะเดียวกัน มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันหน้าศาลาว่าการ หลังจากได้ยินว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจวนแม่ทัพฉินแล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 135

    “ใช่”ฉู่อวิ๋นกุยอึ้งไป “???”ฉู่จวินถิงคิดถึงความสามารถที่ซ่งรั่วเจินแสดงออกมาให้เห็นแล้วก็หยักมุมปากเป็นรอยยิ้มที่คล้ายมีคล้ายไม่มีความสามารถของแม่นางผู้นี้...ไม่ธรรมดาเลยจริงๆเมื่อฉู่จวินถิงกับฉู่อวิ๋นกุยไปถึง หลินจือเยว่กับฉินซวงซวงก็ถูกนำตัวออกมาทว่าชั่วขณะที่ทั้งคู่ปรากฏตัว ทุกคนก็ได้กลิ่นเหม็นหึ่งสุดจะบรรยายจนต้องปิดจมูกไว้โดยไม่รู้ตัว“เหม็นชะมัด เพิ่งตกส้วมมาหรือไร?”“คนสภาพดูไม่ได้สองคนนี้คงไม่ใช่ท่านหลินป๋อกับหลินฮูหยินหรอกนะ? เหตุใดถึงอยู่ในสภาพนี้ได้?”หลินรั่วหลานเคยเห็นบุตรชายของตนในสภาพนี้เสียที่ไหน เข้าใจว่าเขาคงถูกทารุณอย่างไร้มนุษยธรรมระหว่างอยู่ในคุก ฉับพลันนั้นก็ร้องไห้โฮออกมา“สวรรค์! ลูกข้าเป็นผู้บริสุทธิ์นะ พวกเจ้าทรมานเขาโดยพลการในคุกได้อย่างไร?”กู้อวิ๋นเวยเห็นบุตรสาวของตนเองตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถ พวงแก้มแดงเรื่อผมเผ้ายุ่งเหยิงก็มีสีหน้าปวดใจ ปฏิกิริยาไม่แพ้หลินรั่วหลานเลยแม้แต่น้อย“ใต้เท้า ตีคนไม่ตีหน้า ถึงอย่างไรซวงซวงก็เป็นเด็กสาวผู้หนึ่ง ไยต้องตบหน้านางด้วยเจ้าคะ?”ฉู่จวินถิงกวาดสายตามองคนทั้งคู่ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แล้วมองไปทางเหลียงเห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 136

    “ข้าเองก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้น แต่พี่ชายเป็นคนลงไม้ลงมือกับข้าก่อนนี่เจ้าคะ!”ฉินซวงซวงอดจะน้อยใจไม่ได้ ชาติก่อนแม้ตอนแรกจะไม่ได้ดั่งใจเท่าไรนัก แต่ภายหลังเรียกได้ว่าเรียกลมได้ลม ดีไปเสียหมดทุกอย่างเดิมนึกว่าได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งจะยิ่งรุ่งโรจน์กว่าเดิม คิดไม่ถึงว่ากลับต้องเจอแต่ปัญหาเต็มไปหมด!“เมื่อวานพี่ชายเจ้าถูกโบยสาหัสขนาดนั้นก็เพราะเชื่อคำแนะนำของเจ้า แต่กลายเป็นว่าไม่มีประโยชน์เลยสักนิด เขาจะไม่พอใจก็เป็นเรื่องธรรมดา เจ้าที่เป็นน้องสาวเรื่องแค่นี้ก็ไม่เข้าใจเลยงั้นรึ?”กู้อวิ๋นเวยอดจะตำหนิไม่ได้ หลังนางกลับไปเมื่อวานนี้พอคิดถึงว่าตนเองสูญเสียร้านค้าไปก็ปวดใจเหลือจะกล่าวร้านค้าบนถนนเส้นนั้นไม่ได้ทำเงินในระดับธรรมดา หลายปีมานี้ที่พวกตนมีชีวิตสุขสบายถึงเพียงนี้ก็เพราะมีร้านค้าเหล่านั้นตอนนี้กลับดีนัก นอกจากจะไม่ได้อะไรแล้วยังสูญเสียมากกว่าเดิม รู้เช่นนี้แต่แรกก็คงไม่ทำเช่นนี้หรอก!“คำพูดของท่านแม่หมายความว่าข้าสมควรถูกพี่ชายตบงั้นหรือเจ้าคะ?” ฉินซวงซวงประท้วงเสียงกรุ่น“นี่มันท่าทีอันใดของเจ้า?” กู้อวิ๋นเวยไม่พอใจ ลูกคนนี้กล้าเถียงนางหน้าต่อหน้าคนมากมายเลยงั้นรึ?ฉินซว

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 914

    “ข้าว่าช่วงหลายวันหลังจากนี้พวกเราอย่าเพิ่งมาเจอกันชั่วคราวจะดีกว่า จะได้ไม่ถูกจับพิรุธได้ ไม่อย่างนั้นที่พยายามมาทั้งหมดคงได้สูญเปล่ากันพอดี”“ไม่นะ?” ซ่งปี้อวิ๋นรู้สึกจิตใจไม่สงบ เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกว่าซ่งรั่วเจินจะเยี่ยมยอดตรงไหน ถึงจะเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่กลับมีนิสัยคร่ำครึ นางจึงไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาแต่ว่าช่วงที่ผ่านมาซ่งรั่วเจินเปลี่ยนไปมากจนน่าตกใจจริงๆ“พวกเราซื้อร้านอาหารไปแล้วนะ ตอนนี้จะทำอย่างไรเล่า?”“ก็ต้องเปิดต่อไปอยู่แล้ว” เสิ่นหวยอันครุ่นคิดพลางกล่าว “เรื่องนี้ยกให้เจ้าก็แล้วกัน ถึงยามนั้นต่อให้องค์หญิงถามขึ้นมาก็บอกว่าเป็นการค้าขายที่พวกเราร่วมมือกันก็พอแล้ว”ซ่งปี้อวิ๋นเห็นว่าเสิ่นหวยอันยังคงให้นางดูแลร้านก็ค่อยวางใจลงได้“วันนี้โชคดีที่พวกเราแย่งร้านอาหารมาได้ ไม่อย่างนั้นทันทีที่สกุลซ่งเปิดร้านปิ้งย่างทางฝั่งนี้ กิจการของพวกเราคงแย่แล้ว” ซ่งปี้อวิ๋นกล่าวอย่างได้ใจเสิ่นหวยอันขมวดคิ้วน้อยๆ “เจ้าบอกว่าจะแย่งคนจากร้านของตระกูลซ่งมาไม่ใช่หรือ? หรือว่าทำไม่สำเร็จ?”“วางใจเถอะ เรื่องนี้ข้าจัดการเอง จะต้องไม่มีปัญหาแน่นอน!”ซ่งปี้อวิ๋นแย้มยิ้มบาง ในใจกลับครุ่น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 913

    ซ่งปี้อวิ๋นมีสีหน้าน้อยใจ “ข้าก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะได้มาเจอซ่งรั่วเจินโดยบังเอิญขนาดนี้ นางกับข้าเดิมก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันอยู่แล้ว เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องตั้งตัวเป็นอริมาตั้งแต่เด็ก”“วันนี้เห็นได้ชัดว่าจงใจสร้างความลำบากให้ ช่างน่าชังยิ่งนัก!”“หวยอัน ท่านโทษข้าไม่ได้นะ วันนี้นางรังแกข้าอย่างไรบ้าง ท่านเองก็ได้เห็นแล้ว เวลาอยู่ต่อหน้าข้ากับเวลาอยู่ต่อหน้าฉู่มู่เหยาเป็นคนละคนกันเลย!”ซ่งปี้อวิ๋นกล่าวพลางถลาเข้าไปแนบชิดเสิ่นหวยอัน “ข้าคบท่านก่อนชัดๆ วันนี้กลับต้องมองดูท่านเอาใจฉู่มู่เหยา ข้าปวดใจยิ่งนัก”สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มที่แนบชิดกับแขนของตัวเอง เสิ่นหวยอันจิตใจว้าวุ่น น้ำเสียงจึงอ่อนลงกว่าเดิม“ข้ารู้ว่าทำให้เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม แต่เจ้าก็รู้สถานการณ์ของข้าในตอนนี้ดี ถ้าไม่กรุยทางให้ตัวเอง ถูกพี่ชายสายตรงผู้นั้นของข้ากดไว้แบบนั้น ข้าจะมีวันลืมตาอ้าปากได้อย่างไรกันเล่า?”“หวยอัน ความจริงข้าไม่สนใจเลยว่าท่านจะมีตำแหน่งใหญ่โตหรือไม่”“แม้ครอบครัวข้าจะสู้ตระกูลซ่งไม่ได้ แต่ข้าออกเรือนทั้งที ท่านพ่อท่านแม่คงจะไม่ดูดายข้าจนเกินไป ถึงท่านจะเป็นลูกอนุ แต่แม่ของท่า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 912

    “คารวะท่านอ๋องทั้งสอง หม่อมฉันไม่ทราบว่าเป็นพวกท่าน หวังว่าพวกท่านจะไม่ถือสา”“ไม่เป็นไร”ฉู่จวินถิงและฉู่อวิ๋นกุยล้วนไม่ถือสาอย่างเห็นได้ชัด เดิมก็มากินข้าวที่ร้านอาหาร นอกจากนี้ แม่นางผู้นี้ก็ไม่ได้ทำผิดอันใดเมื่อฉู่อวิ๋นกุยได้ยินชื่อหยวนชิงก็เลิกคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว สายตากวาดไปทางกู้ฮวนเอ๋อร์ สองคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรต่อกัน?“หวังเสวี่ย เจ้าอย่าพูดเหลวไหล!”กู้ฮวนเอ๋อร์ได้ยินก็ร้อนใจ หยวนชิงมีใจให้นางจริงๆ แต่นางชอบอวิ๋นอ๋องคนเดียววันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะถูกหวังเสวี่ยลากมา นางก็ไม่อยากมาเลยสักนิด บัดนี้มาแล้ว นางจึงคิดว่าจะหาโอกาสคุยกับหยวนชิงให้ชัดเจน หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันในภายหลังหวังเสวี่ยได้ยินอย่างนั้นก็คล้ายจะตระหนักได้ว่าตนเองพูดจาผิดไปจึงรีบปิดปาก กล่าวว่า “หม่อมฉันผิดเองเพคะ หม่อมฉันพูดจาผิดไป ท่านอ๋องอย่าเข้าใจฮวนเอ๋อร์ผิดนะเพคะ”แต่เมื่อเห็นภาพนี้ พวกซ่งรั่วเจินก็มุ่นคิ้วอย่างอดไม่ได้นี่มันอะไรกัน?ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งมีพิรุธ ยิ่งอธิบายก็ยิ่งแลดูร้อนตัว?ประกอบกับมีเสียงร้องเรียกดังมาจากด้านหลังพอดี “ฮวนเอ๋อร์ หวังเสวี่ย พวกเจ้ารีบมาเร็วเข้า เห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 911

    “พี่สะใภ้ ข้ารู้ว่าท่านกังวลเรื่องอะไร เรื่องอย่างการทดแทนบุญคุณช่วยชีวิตด้วยชั่วชีวิตที่เหลือ สายตามู่เหยาคงไม่แย่ถึงขั้นนั้นหรอกน่า”“เรื่องมงคลของนางจะต้องเป็นการตัดสินพระทัยของเสด็จพ่อเสด็จแม่ ข้าไปสืบความเกี่ยวกับเสิ่นหวยอันผู้นี้มาแล้ว เป็นแค่ลูกอนุคนหนึ่ง”ฉู่อวิ๋นกุยส่ายหน้าเบาๆ ความจริงตอนแรกหลังเกิดเรื่อง เขาก็ไปสืบความมาแล้วโดยเฉพาะฐานะของตระกูลเสิ่นเดิมก็ไม่คู่ควรแต่งงานกับองค์หญิง ถ้าเป็นลูกภรรยาเอกก็แล้วไป แต่กลับเป็นลูกอนุคนหนึ่ง นั่นเป็นความฝันลมๆ แล้งๆ เลยชัดๆ!ซ่งรั่วเจินรู้ว่าทุกคนให้ความสำคัญกับฐานะลูกภรรยาเอกหรือลูกอนุ แต่เพื่อให้สามารถลืมตาอ้าปากได้ ไม่ว่าต้องใช้วิธีการแบบไหน ลูกอนุก็สามารถทำออกมาได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ ดูจากเสิ่นหวยอันที่ได้เจอในวันนี้ นิสัยใจคอก็ใช่ว่าจะดีเดิมทีฉู่อวิ๋นกุยไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจเลยสักนิด เขารู้สึกว่าสายตาของมู่เหยายังใช้ได้อยู่ คนก็เฉลียวฉลาด ไม่มีทางถูกหลอกลวงได้โดยง่ายแต่เห็นว่าซ่งรั่วเจินไม่แสดงท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธ ในใจก็ค่อยๆ สงสัยขึ้นมา “ไม่หรอกมั้ง? อยู่ดีๆ ก็ตาบอดขึ้นมางั้นรึ?”ฉู่จวินถิงปรายตามองฉู่อวิ๋นกุยอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 910

    อย่างไรเสีย เทียบกับปล่อยให้ลูกชายไปเฝ้าชายแดน นานมากกว่าจะได้พบหน้ากันสักครั้ง ตบแต่งลูกสะใภ้ที่ไม่ได้พอใจมากนักคนหนึ่ง ก็ไม่นับเป็นอะไรฉู่จวินถิงลดเสียงให้เบาลงจนแหบพร่า ใช้เสียงที่มีเพียงทั้งคู่ได้ยิน “หากข้าเดาไม่ผิด อีกสองสามวันเสด็จแม่จะต้องอยากพบเจ้าอีกครั้ง ถึงตอนนั้นเจ้าก็สามารถระบายโทสะได้ หืม?”“หม่อมฉันระบายโทสะอะไรเพคะ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ครั้งก่อนตอนอยู่ในวัง เจ้าต้องทุกข์ใจแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าพูดออกไปอย่างชัดเจนแล้ว ความโดดเด่นเหล่านั้นของข้า ในสายตาเจ้ากลับไม่มีค่าให้พูดถึง”ฉู่จวินถิงมองคนตรงหน้า เดิมทีเขาก็พูดความจริง หากไม่ใช่เขาไม่ยอมปล่อยมือ แม่นางคนนี้ไม่ยอมแต่งเข้าเชื้อพระวงศ์สังเกตเห็นอารมณ์ภายในเสียงของฝ่ายชาย ซ่งรั่วเจินรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกภายในใจ ความเพียบพร้อมของเขาในสายตาทุกคน แต่ยามอยู่ต่อหน้านาง เดิมทีเขาก็ไม่วางอำนาจของท่านอ๋อง ก็คล้ายผู้ชายธรรมดา รู้สึกติดค้างนางบ่อยๆ“เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น ขอเพียงเจ้ามีความสุขก็พอ ส่วนเรื่องอื่นข้าจะจัดการให้ดีเอง”“หม่อมฉันเข้าใจแล้ว” นางพยักหน้ายิ้มๆฉู่อวิ๋นกุยเห็นทั้งสองคนซุบซ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 909

    ฉู่อวิ๋นกุยได้ฟังคำพูดของเสด็จพี่ ระหว่างเดินทางใคร่ครวญดูว่าตกลงที่ใดไม่ถูกต้อง ทำให้เสด็จพี่เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้ต่อเขาฉู่จวินถิงกลับตกอยู่ในห้วงภวังค์ความคิด จู่ๆ ก็พูดว่า “อวิ๋นกุย แม่นางในห้องหอชอบอันใดที่สุด?”ฉู่อวิ๋นกุยชะงัก ครู่ต่อมาพูดว่า “ดอกไม้?”พูดไป ดวงตาเขาทอประกายระยับ “เสด็จพี่ เรื่องนี้ของท่านและพี่สะใภ้จะต้องสำเร็จแน่ ท่านคิดจะเล่นใหญ่โตสักหน่อยกระนั้น? เช่นนี้ก็ดีมาก! สมควรทำเช่นนี้!”ฉู่จวินถิงพยักหน้ายิ้มๆ เพราะเสด็จแม่ไม่ยอมรับ ทำให้รั่วเจินต้องทุกข์ใจบัดนี้งานแต่งยังไม่ถูกกำหนด เมืองหลวงเองก็มีข่าวลือ เขาได้ยินมาทั้งหมดแล้ว เพียงแต่รั่วเจินนิสัยดี ไม่ได้พูดเรื่องนี้มาโดยตลอดเขาไม่อยากให้นางทุกข์ใจ เทียบกับประทานสมรส เขาหวังให้รั่วเจินพยักหน้าด้วยตนเอง“อีกสองสามวันมีเทศกาลโคมไฟ มิสู้พวกเราซื้อพลุกลับมามากหน่อย ถึงตอนนั้นเสด็จพี่ก็แต่งตัวให้ดี เตรียมของขวัญอย่างใส่ใจสักหนึ่งอย่าง พี่สะใภ้จะต้องชอบแน่!”ดวงตาฉู่อวิ๋นกุยทอประกาย เพียงเขาคิดถึงฉากนั้นก็นึกสนุกขึ้นมา พวกแม่นางน่าจะชอบ“เจ้าเองก็สนิทกับแม่นางกู้ ลองสืบถามดูว่ารั่วเจินชอบสิ่งใด ใช้ความช

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 908

    “ท่านแม่ เพราะเรื่องแต่งงานของจวินถิง ไทเฮาและฝ่าบาทล้วนไม่พอใจข้า ท่านจะต้องช่วยข้านะเจ้าคะ”ฮองเฮาเผยสีหน้าเศร้าหมอง ไทเฮาไม่ชอบนาง นางไม่สามารถทำอันใดได้ ทว่าหลังครั้งก่อนนางต้องการให้จวินถิงคบหากับหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ ฝ่าบาทเองก็ไม่พอใจนาง บัดนี้เรื่องจัดการได้ยากอย่างแท้จริง“ไม่รีบ เจ้าพูดเรื่องนี้ให้ข้าฟังอย่างละเอียด ค่อยปรึกษากันว่าสมควรทำเยี่ยงไรจึงจะดี” ฮูหยินผู้เฒ่าลู่เปล่งเสียงเครียดลู่หมิ่นฮุ่ยทางด้านข้างได้ยิน แต่ไหนแต่ไรมาท่านแม่ฉลาดปราดเปรื่อง หากไม่ได้ท่านแม่คอยชี้แนะ น่ากลัวว่านางก็ไม่สามารถเป็นพระชายาอย่างราบรื่นได้“ท่านแม่ อันที่จริงแม่นางซ่งเองก็ไม่ธรรมดาจริงๆ สาเหตุที่ข้าสามารถตั้งครรภ์ได้ก็ล้วนพึ่งพานาง นางช่างเป็นดาวนำโชคโดยแท้!”“ก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าแม่ทัพซ่งตายในสนามรบ คุณชายใหญ่สกุลซ่งขาพิการทั้งสองข้าง คุณชายรองตาบบอด ทุกคนล้วนคิดว่าสกุลซ่งจบสิ้นแล้ว ทว่าหลังแม่นางซ่งปฏิเสธการแต่งงาน ทั้งหมดก็เปลี่ยนไป”ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ตกตะลึง “ยังมีเรื่องเช่นนี้? มิน่าเล่าเจ้าถึงชื่นชมนางนัก”“ก่อนหน้านี้ข้าก็มีอคติต่อนาง ทว่าต่อมาข้ารู้สึกว่าไม่เหมาะสมจึงเปลี่ยนความ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 907

    “ฮองเฮา คงไม่ใช่เกิดปัญหาอะไรในวังหรอกกระมัง? เห็นเจ้าคล้ายอารมณ์ไม่ดี”“ท่านแม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ ท่านกลับมา ข้าดีใจอย่างที่สุด”ฮองเฮานี่ถึงรู้ตัวว่าท่าทางเหม่อลอยของตนถูกจับได้แล้ว รีบบอกให้ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ“เจ้าเป็นลูกสาวที่ข้าคลอด ข้ารู้อุปนิสัยดีที่สุด หรือว่ายังจะสามารถปิดบังยามอยู่ต่อหน้าข้าได้อีก?”ลู่หมิ่นฮุ่ยเห็นสถานการณ์แล้วจึงพูด “ท่านแม่ พี่หญิงกำลังร้อนใจเรื่องงานแต่งของจวินถิงเจ้าค่ะ”เดิมทีฮูหยินผู้เฒ่าลู่ก็อยากบอกฮองเฮา วันนี้ได้พบแม่นางที่ดีมากคนหนึ่ง เหมาะสมกับจวินถิงอย่างมาก ครั้นได้ยินก็พูดออกมาในทันทีทันใด“วันนี้ตอนข้ามา ไม่ทันระวังถูกคนชนเข้า โชคดีมีแม่นางคนหนึ่งประคองข้าไว้ ข้าเห็นแม่นางคนนั้นหน้าตางดงามมาก เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งเชียวล่ะ”“เมื่อครู่ข้าส่งคนไปสืบแล้ว เชื่อว่าจะได้รับข่าวเร็วๆ นี้ ไม่สู้ให้จวินถิงลองพบหน้าสักครั้ง?”“ไม่จำเป็นแล้ว จวินถิงมีคนรักแล้วเจ้าค่ะ” ฮองเฮาเอ่ยฮูหยินผู้เฒ่าลู่ชะงัก “มีคนรักแล้ว? เช่นนั้นเหตุใดไม่แต่งงานเล่า?”ใบหน้าฮองเฮาแข็งค้างไป ลู่หมิ่นฮุ่ยทางด้านข้างเอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “ฉู่อ๋องมีคนรักแล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 906

    ฮูหยินผู้เฒ่าลู่มองตามเงาหลังของซ่งรั่วเจิน สายตาเปี่ยมความชื่นชอบ เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้“เป่ยชวน แม่นางคนนี้งามมากใช่หรือไม่? คล้ายหลุดออกมาจากภาพวาดก็มิปาน ไม่เพียงหน้าตางดงาม คนเองก็จิตใจดี”“หลายปีแล้วจวินถิงยังไม่แต่งงาน เจ้าว่าข้าแนะนำแม่นางคนนี้ให้เขา เขาจะชอบหรือไม่?”ลู่เป่ยชวนไม่เคยเห็นแม่นางหน้าตางดงามถึงเพียงนี้มาก่อน เมื่อครู่ได้เห็นเพียงแวบเดียวก็รู้สึกคล้ายติดตรึงอยู่ภายในใจ ได้เห็นท่านย่าคิดว่าแม่นางคนนี้ดีเช่นเดียวกัน เขาเพิ่งดีใจขึ้นมา สรุปคือได้ยินว่าท่านย่าต้องการแนะนำแม่นางคนนี้ให้ญาติผู้พี่เสียอย่างนั้น“ท่านย่า เหตุใดท่านนึกถึงเพียงญาติผู้พี่เล่า ไม่คิดถึงข้าบ้างหรือ? อายุข้าเองก็ไม่น้อยแล้วนะขอรับ”ฮูหยินผู้เฒ่าลู่มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง “เจ้าดีชั่วอย่างไรก็อายุยังน้อยกว่าจวินถิง ยิ่งไปกว่านั้นแม่นางคนนี้งามถึงเพียงนี้ เหมาะสมกับจวินถิงที่สุด!”“แต่ไหนแต่ไรมาข้ามองคนแม่นยำมากนัก แม่นางคนนี้จะต้องมีชาติกำเนิดไม่ธรรมดา เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่ามีวาสนา ไม่แน่ว่าอาจสำเร็จ!”“ท่านย่า ความนัยของท่านคือข้าไม่หล่อเหลาหรือ?”มุมปากลู่เป่ยชวนกระตุกริก เขาอุตส่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status