แชร์

บทที่ 130

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“ใต้เท้า นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ แต่ไหนแต่ไรมาลูกชายข้าเป็นขุนนางมือสะอาด ไฉนเลยจะสามารถทำเรื่องทุจริตบิดเบือนกฎหมายได้?”

นางเพิ่งพูดจบ นักการก็ยกเงินบนโต๊ะวิ่งออกมา

“ใต้เท้า ข้าน้อยพบเงินหนึ่งกล่อง ด้านล่างยังประทับตราที่หายไปชุดนั้นด้วยขอรับ!”

เหลียงเหยียนรับเงินไป มองเห็นตราประทับด้านล่าง สีหน้าบึ้งตึง “เอาตัวไป!”

หลินรั่วหลานยังไม่ทันเอ่ยปากต่อก็ถูกคนจับไว้แล้ว แขนสองข้างถูกรวบไว้ด้านหลัง ร้องโอดครวญไม่หยุด

“นี่ต้องเข้าใจผิดไปเป็นแน่ แต่ไหนแต่ไรมาลูกข้าซื่อสัตย์ ไม่มีวันทำเรื่องทุจริตบิดเบือนกฎหมาย ใต้เท้า ท่านต้องสืบสวนให้กระจ่างนะเจ้าคะ!”

“หลักฐานชี้ชัดแล้ว ยังมีอะไรให้แก้ตัวอีกเล่า?”

เหลียงเหยียนมองฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าเล่ห์แวบหนึ่ง ใบหน้าซื่อตรงไม่ประจบสอพลอนั้นเยียบเย็น “หลินจือเยว่กับฉินซวงซวงถูกจับตัวไปแล้ว ข้าชี้แนะพวกเจ้าให้รีบสารภาพออกมาโดยเร็ว ประเดี๋ยวจะเจ็บตัวเอาได้!”

หลินรั่วหลานอึ้งงัน “ลูกชายข้าถูกพวกท่านจับไปแล้ว? นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดใหญ่แล้ว!”

“พวกเจ้าจงค้นหาอย่างละเอียด ห้ามเมินข้ามจุดน่าสงสัยไปเป็นอันขาด!”

เหลียนเหยียนไม่สนใจหลินรั่วหลานอีก หลักฐาน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 131

    ฉินซวงซวงมีสีหน้าใสซื่อ “จือเยว่ ท่านต้องเชื่อข้านะ ข้ารู้เรื่องนี้จากความฝันจริงๆ คิดว่านี่คือโอกาสดีที่ฟ้าประทานให้พวกเรา” “ข้ารู้ว่าท่านถูกซ่งรั่วเจินกดดันจนสิ้นไร้หนทาง ต้องการเงินจำนวนมากมาใช้หนี้จึงได้ทำเช่นนี้ ของโจรอะไรกัน ข้าไม่รู้เรื่องเลยสักนิด”“แต่เงินพวกนี้ไม่เพียงไม่ช่วยคลี่คลายปัญหาเร่งด่วนของพวกเรา แต่ยังทำให้เจ้ากับข้าตกที่นั่งลำบากกว่าเดิม!”หลินจือเยว่ร้อนรุ่มใจเหลือจะกล่าว เวลาสั้นๆ แค่วันเดียว เขาก็ต้องเปลี่ยนจากความยินดีเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อวานนี้มาเป็นติดคุกหัวโต!ถ้าไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง เกรงว่าคงต้องจบเห่เหมือนที่ผู้คุมสองคนนั้นพูดไว้แล้ว!“จือเยว่ ข้าคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับซ่งรั่วเจินเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นนางจะคาดเดาทั้งหมดนี้ได้อย่างไร?”ฉินซวงซวงรีบร้อนแก้ตัว “ไม่แน่ว่า...ไม่แน่ว่านางอาจจงใจให้ข้าฝันเห็นอะไรแบบนี้เพื่อทำให้พวกเราตกที่นั่งลำบากก็เป็นได้ นางช่างชั่วร้ายนัก!”นางไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้จึงโยนความผิดทั้งหมดไปให้ซ่งรั่วเจิน มิหนำซ้ำ หากใคร่ครวญถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของซ่งรั่วเจิน นางยิ่งรู้สึกว่าสตรีผู้นี้จะต้องรู้อะไร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 132

    “ถ้าเจ้าไม่บอกให้ข้าทำเรื่องพวกนี้ เรื่องนี้จะเปิดเผยออกมาได้อย่างไร?”ฉินเซี่ยงเหิงพูดเต็มปากเต็มคำ แววตาเจ็บแค้น เขารู้สึกมากขึ้นทุกทีว่าสิ่งที่ฉินซวงซวงเสนอมาเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าสิ้นดี!ตอนนี้ซ่งอี้อันจับได้แล้วว่าเรียงความถูกขโมยไป แม้เขาเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องหาหลักฐานไม่เจอแน่นอน แต่ตอนนี้เขาอยู่ในคุก กังวลใจเหลือเกินว่าอาจเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้นมานอกจากนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะพักนี้เขามีชื่อเสียงโด่งดัง จ้าวซูหว่านก็คงไม่มาเกาะแกะเขา เรื่องราวก็คงไม่มีทางแดงออกมา เขาก็ไม่ต้องกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของคนทั้งเมืองหลวง!“ท่านพูดอะไรก็ใช้สติคิดเสียบ้าง! พักนี้คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงคือท่านไม่ใช่หรือ? ข้าได้ประโยชน์จากเรื่องนี้สักนิดหรือไม่?”“ข้าเค้นสมองครุ่นคิดเพื่อท่าน หวังว่าท่านจะสอบได้ตำแหน่งดีๆ ในการสอบฤดูใบไม้ผลิ ยามนี้ในเมืองหลวงมีใครไม่ชมเชยว่าท่านเขียนเรียงความได้ดีบ้าง? พวกตระกูลใหญ่ชนชั้นสูงล้วนแต่ชื่นชมท่าน”“เดิมนั้นแค่ท่านสงบเสงี่ยม รอเงียบๆ จนหลังการสอบฤดูใบไม้ผลิเส้นทางราชการก็จะราบรื่นเอง ได้แต่งงานกับคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่ท่านกลับไปพลอดรักกับจ้าวซูห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 133

    “พวกเจ้าถ่ายหนักในนี้งั้นรึ?”ผู้คุมปิดจมูกทำท่าอยากจะอาเจียน “เป็นคุณชายกับคุณหนูตระกูลใหญ่ไม่ใช่หรือไร? ไฉนจึงไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้?”คนทั้งสามสงบอารมณ์ลงได้แล้วก็รู้สึกอับอาย ใบหน้าร้อนผ่าว พอมาได้ยินคำพูดเช่นนั้น สีหน้าก็ยิ่งปั้นยากกว่าเดิม“พวกข้า...พวกข้าเปล่านะ”“ข้าไม่สนหรอกว่าพวกเจ้าได้ถ่ายหนักหรือไม่ได้ถ่าย ใต้เท้าเรียกพวกเจ้าไปสอบสวน ตามพวกข้ามาเถอะ!”ฉินซวงซวงกับหลินจือเยว่มองหน้ากัน ถ้าไปสอบสวนในสภาพนี้ คนอื่นเห็นเข้าจะคิดอย่างไร?“ท่านผู้คุม หาสถานที่ให้พวกข้าอาบน้ำผลัดอาภรณ์ก่อนได้หรือไม่?” ฉินซวงซวงสางผมพลางเอ่ยถาม“เจ้าคิดว่าคุกเป็นบ้านเจ้างั้นหรือ? ยังต้องให้พวกเจ้าอาบน้ำอีก ฝันหวานไปหรือไม่?”ผู้คุมปิดจมูกเอ่ยด้วยสีหน้ารังเกียจ “ปล่อยราดตัวเองโดยไม่สนใจหน้าตาขนาดนี้ ยังจะสนเรื่องพวกนี้อีก ข้าว่าพวกเจ้าดูไม่เหมือนคนห่วงหน้าตาสักเท่าไหร่ รีบไปดีกว่า!”ฉินซวงซวงกำหมัดแน่น โมโหจนกัดฟันกรอด อดจะร้อนใจไม่ได้“จือเยว่ ท่านรีบหาวิธีเข้าสิ ถ้าถูกคนอื่นเห็นในสภาพนี้ พวกเราจบเห่แน่!”หลินจือเยว่มีสีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่เคยต้องอับอายขายหน้าเพียงนี้มาก่อน “เมื่อครู่ข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 134

    “ใต้เท้า ถ้าจะจับก็ไม่ควรจับข้า ควรจับครอบครัวแม่ทัพฉินต่างหาก ข้าไม่รู้เรื่องของโจรด้วยซ้ำ เงินทั้งหมดนั้นก็เป็นฉินซวงซวงให้มา!” เจ้ากรมอาญาเหลียงเหยียนสงสัยอยู่เป็นทุนเดิม ไม่แน่ว่าตระกูลฉินอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เป็นได้หลังหลินจือเยว่สร้างความชอบทางทหารกลับมาก็คบหาสมาคมกับคนในราชสำนักไม่น้อย อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ส่วนแม่ทัพฉินยิ่งมีชื่อเสียงมานานหลายปี มีเส้นสายซับซ้อนในแวดวงขุนนางเห็นลูกเขยกำลังจะสูญเสียตำแหน่งราชการไป เขาจะทนนิ่งดูดายอยู่ได้หรือ?“ท่านแม่ทัพฉิน ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ข้าน้อยก็คงไม่ต้องไปเชิญ มาพูดคุยให้กระจ่างด้วยกันเถิดขอรับ!”ฉินเจิงหน้าเปลี่ยนสี “นี่เกี่ยวอันใดกับข้า ใต้เท้าเหลียงต้องสอบสวนให้กระจ่างถึงจะถูก”“แม่ทัพฉินวางใจ ความจริงของเรื่องนี้จะกระจ่างในวันนี้แน่นอน หากไม่เกี่ยวข้องกับแม่ทัพฉินก็ไม่มีทางทำให้พวกท่านด่างพร้อย แต่ถ้าเกี่ยวข้องก็ย่อมไม่มีใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”เหลียงเหยียนผายมือแสดงท่าทางเชื้อเชิญให้ทุกคนเข้าไปขณะเดียวกัน มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันหน้าศาลาว่าการ หลังจากได้ยินว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจวนแม่ทัพฉินแล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 135

    “ใช่”ฉู่อวิ๋นกุยอึ้งไป “???”ฉู่จวินถิงคิดถึงความสามารถที่ซ่งรั่วเจินแสดงออกมาให้เห็นแล้วก็หยักมุมปากเป็นรอยยิ้มที่คล้ายมีคล้ายไม่มีความสามารถของแม่นางผู้นี้...ไม่ธรรมดาเลยจริงๆเมื่อฉู่จวินถิงกับฉู่อวิ๋นกุยไปถึง หลินจือเยว่กับฉินซวงซวงก็ถูกนำตัวออกมาทว่าชั่วขณะที่ทั้งคู่ปรากฏตัว ทุกคนก็ได้กลิ่นเหม็นหึ่งสุดจะบรรยายจนต้องปิดจมูกไว้โดยไม่รู้ตัว“เหม็นชะมัด เพิ่งตกส้วมมาหรือไร?”“คนสภาพดูไม่ได้สองคนนี้คงไม่ใช่ท่านหลินป๋อกับหลินฮูหยินหรอกนะ? เหตุใดถึงอยู่ในสภาพนี้ได้?”หลินรั่วหลานเคยเห็นบุตรชายของตนในสภาพนี้เสียที่ไหน เข้าใจว่าเขาคงถูกทารุณอย่างไร้มนุษยธรรมระหว่างอยู่ในคุก ฉับพลันนั้นก็ร้องไห้โฮออกมา“สวรรค์! ลูกข้าเป็นผู้บริสุทธิ์นะ พวกเจ้าทรมานเขาโดยพลการในคุกได้อย่างไร?”กู้อวิ๋นเวยเห็นบุตรสาวของตนเองตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถ พวงแก้มแดงเรื่อผมเผ้ายุ่งเหยิงก็มีสีหน้าปวดใจ ปฏิกิริยาไม่แพ้หลินรั่วหลานเลยแม้แต่น้อย“ใต้เท้า ตีคนไม่ตีหน้า ถึงอย่างไรซวงซวงก็เป็นเด็กสาวผู้หนึ่ง ไยต้องตบหน้านางด้วยเจ้าคะ?”ฉู่จวินถิงกวาดสายตามองคนทั้งคู่ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แล้วมองไปทางเหลียงเห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 136

    “ข้าเองก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้น แต่พี่ชายเป็นคนลงไม้ลงมือกับข้าก่อนนี่เจ้าคะ!”ฉินซวงซวงอดจะน้อยใจไม่ได้ ชาติก่อนแม้ตอนแรกจะไม่ได้ดั่งใจเท่าไรนัก แต่ภายหลังเรียกได้ว่าเรียกลมได้ลม ดีไปเสียหมดทุกอย่างเดิมนึกว่าได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งจะยิ่งรุ่งโรจน์กว่าเดิม คิดไม่ถึงว่ากลับต้องเจอแต่ปัญหาเต็มไปหมด!“เมื่อวานพี่ชายเจ้าถูกโบยสาหัสขนาดนั้นก็เพราะเชื่อคำแนะนำของเจ้า แต่กลายเป็นว่าไม่มีประโยชน์เลยสักนิด เขาจะไม่พอใจก็เป็นเรื่องธรรมดา เจ้าที่เป็นน้องสาวเรื่องแค่นี้ก็ไม่เข้าใจเลยงั้นรึ?”กู้อวิ๋นเวยอดจะตำหนิไม่ได้ หลังนางกลับไปเมื่อวานนี้พอคิดถึงว่าตนเองสูญเสียร้านค้าไปก็ปวดใจเหลือจะกล่าวร้านค้าบนถนนเส้นนั้นไม่ได้ทำเงินในระดับธรรมดา หลายปีมานี้ที่พวกตนมีชีวิตสุขสบายถึงเพียงนี้ก็เพราะมีร้านค้าเหล่านั้นตอนนี้กลับดีนัก นอกจากจะไม่ได้อะไรแล้วยังสูญเสียมากกว่าเดิม รู้เช่นนี้แต่แรกก็คงไม่ทำเช่นนี้หรอก!“คำพูดของท่านแม่หมายความว่าข้าสมควรถูกพี่ชายตบงั้นหรือเจ้าคะ?” ฉินซวงซวงประท้วงเสียงกรุ่น“นี่มันท่าทีอันใดของเจ้า?” กู้อวิ๋นเวยไม่พอใจ ลูกคนนี้กล้าเถียงนางหน้าต่อหน้าคนมากมายเลยงั้นรึ?ฉินซว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 137

    “หรือว่าหลินฮูหยินมีความสามารถหยั่งรู้ฟ้าดิน ถึงได้ฝันเห็นที่ซ่อนของขุมทรัพย์?”ดวงตาดำขลับดุจหยกนิลของฉู่จวินถิงสะท้อนประกายคมปลาบ ราศีที่แสนกดดันนั้นทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนอดจะร้อนตัวไม่ได้“หม่อมฉัน...” ฉินซวงซวงสะอึก หากต่อมาก็กล่าวต่อไปว่า “เป็นซ่งรั่วเจิน! จะต้องเป็นฝีมือซ่งรั่วเจินแน่ๆ เพคะ!”“ก่อนหน้านี้นางก็บงการความฝันของต่งฮูหยิน ทำให้ต่งฮูหยินรู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของลูกชายไม่ใช่หรือ?”“ซ่งรั่วเจินสตรีผู้นั้นแค้นใจที่หม่อมฉันแย่งคู่หมั้นของนางมา ทั้งรู้ว่าพวกหม่อมฉันจำเป็นต้องใช้เงิน ถึงได้จงใจทำให้หม่อมฉันฝันเห็นเรื่องนี้ ทำให้หม่อมฉันนึกว่านี่เป็นโอกาสคลี่คลายปัญหาตรงหน้า!”ฉู่จวินถิงมุ่นคิ้ว นึกถึงฉากที่ซ่งรั่วเจินพาตนเองไปดูเมื่อวานนี้อย่างไม่อาจเลี่ยง“ในเมื่อเจ้าสงสัยว่าเป็นการกระทำของซ่งรั่วเจิน ทั้งทราบความสัมพันธ์ระหว่างพวกเจ้าดี ไยจึงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เช่นนี้มิเท่ากับย้อนแย้งงั้นหรือ?”“หม่อมฉัน...ตอนนั้นหม่อมฉันคิดไม่ถึง เข้าใจว่าเป็นโอกาสที่ฟ้าประทานให้ ถึงได้เรียกท่านพี่ไปดูด้วยกันเพคะ”ดวงตาคมของฉู่จวินถิงฉายแววเคลือบแคลง “หากพูดเช่นนี้ หมายความว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 138

    “สวรรค์ไม่มีตาจริงๆ! ความชอบที่ลูกชายข้าเสี่ยงชีวิตสร้างมาในสมรภูมิ ถูกนังคนชั้นต่ำนี่ทำพินาศหมดแล้ว!”“เขาซื่อสัตย์ดีงาม ภักดีสนองคุณชาติ เดิมมีบุพเพครองคู่กับแม่นางตระกูลซ่ง แต่นางกลับตามไปเกาะแกะลูกชายข้าถึงชายแดน”“เขาอายุยังน้อย ไร้ประสบการณ์ไม่รู้เท่าทันจึงถูกหลอก วันนี้ทำให้เขาสูญเสียยศโหวไปยังไม่พอ ยังไปขนของโจรกลับมาอีกด้วย!”เมื่อหลินรั่วหลานร่ำไห้รำพันเช่นนี้ ทุกคนก็เริ่มสงสัยในตัวฉินซวงซวงอย่างไรเสีย หลินจือเยว่ยุ่งจนหัวหมุนเพราะเรื่องเงินในช่วงหลายวันนี้ ทุกคนล้วนทราบดีกลับเป็นฉินซวงซวงเสียอีก คนฝันคือนาง เรื่องเงินก็เป็นนางที่นัดแนะกับโรงแลกเงิน น่ากลัวว่านางอาจมีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ ก็ได้!“ซ่งรั่วเจินจงใจทำร้ายหม่อมฉันจริงๆ นะเพคะ นางบงการความฝันของหม่อมฉัน ในความฝันยังเตรียมการให้หม่อมฉันพร้อมสรรพ หม่อมฉันแค่ต้องทำตามที่เห็นในความฝันก็พอ!”ฉินซวงซวงยืนกรานเรื่องนี้ใครใช้ให้ก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินแสดงความสามารถนี้ออกมากันเล่า?ห่างจากศาลาว่าการซุ่นเทียนไม่ไกล ซ่งจืออวี้เห็นฉินซวงซวงโยนความผิดทั้งหมดมาให้น้องสาวตัวเองก็โมโหจนใบหน้าเขียวคล้ำ“สตรีผู้นี้ไร้ยางอา

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 721

    นางจำรายการสินเดิมในปีนั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงกำไรของร้านค้าที่เป็นสินเดิมเพราะหลายปีมานี้ผิดหวังกับอวิ๋นหงหล่างมาก นางจึงหันไปสนใจการค้านางและกู้หรูเยียนเป็นสหายที่ดีต่อกัน การค้าของสกุลซ่งดีมากถึงเพียงนี้ ย่อมชี้แนะนางเป็นอย่างดี ดังนั้นเงินที่หาได้ย่อมมีไม่น้อย ภายในนั้นเขียนไว้ในบัญชีรวมมากมายทว่านางเก็บรักษาบัญชีของร้านไว้อย่างดี แม้แต่ภายในจวนเบิกเงินของนางไปมากน้อยเพียงใด นางก็จำได้ทั้งหมดบัดนี้...จะเอาคืนกลับมาให้หมด!“พี่หญิง คืนของให้ท่านย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ท่านเองก็ต้องการมากเกินไปแล้ว”อนุอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ หันมองอวิ๋นหงหล่างอย่างกังวล กลัวเขาโมโหลงนามลงไปอวิ๋นหงหล่างย่อมไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปวดใจ แต่ยังลงนามประทับลายนิ้วมือลงไป“ตอนนี้ใช้ได้แล้ว พวกเจ้าสามารถช่วยคนได้แล้วกระมัง!”เห็นจางเหวินเก็บหนังสือหย่าไป ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้ข้าลงมือช่วยอนุอวิ๋นก็ย่อมได้ สามแสนตำลึง!”ถ้อยคำนี้พูดออกมา อวิ๋นหงหล่างก็โง่งมแล้ว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำเลยเถิดเกินไปนัก ทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่าขอเพียงลงนามในหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 720

    “ข้าคิดไว้ดีตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่วันที่ติดตามท่านแม่ออกจากสกุลอวิ๋น ข้าก็ไม่คิดกลับไปอีก”พูดไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อแวบหนึ่ง พูดว่า “ภายภาคหน้าไม่ว่าข้าแต่งกับใคร ต่อให้เป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่ง ข้าก็ยินดี”อย่างไรเสีย ชาตินี้หากไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้ ไม่ว่าแต่งกับใครก็ล้วนเหมือนกันเมื่อแรกท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อ ทุกคนล้วนพูดว่าแต่งได้ดี แต่สุดท้ายได้รับอะไรเล่า?อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะแต่งงานกับสามัญชน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือภายในแขนเสื้อกำแน่น ภายในก้นบึ้งของสายตาซับซ้อน“เจ้า ดีนักนะ!” อวิ๋นหงหล่างโมโหจนหัวเราะออกมา “ถึงตอนนั้นเจ้าหาทางออกไปได้ อย่ามาขอข้าให้ช่วยเจ้าก็แล้วกัน!”“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น ตรงข้ามกันภายในหัวใจท่านพ่อ ซีหว่านล้วนสำคัญที่สุดมาโดยตลอด”“นางทำผิดมากเพียงใดล้วนไม่เป็นไร ข้าเพียงทำผิดเล็กน้อยก็ถูกลงโทษ หากข้าตามท่านกลับไป ภายภาคหน้าบ้านหลังนี้มีอนุอวิ๋นดูแล ข้ายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูคิดตกแล้ว เดิมทีอนุอวิ๋นก็โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเขาล้วนมองออก มีเพียงบิดาที่มองไม่ออกบางที...บิดาอาจไม่ยอมมอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 719

    “ยังมีเจ้า!” หลิ่วหรูเยียนชี้อนุอวิ๋น “ตอนยังเป็นสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ช่างเถอะ บัดนี้แก่จนหน้าเหลืองแล้วกลับยังไม่แก้ไข หากชอบร้องไห้ถึงเพียงนั้น ตอนจัดงานศพก็ไปร้องที่นั่นสิ วิ่งมาสร้างความอัปมงคลที่จวนซ่งของพวกเราทำอันใด!”คนสกุลซ่งหันมองมารดาอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมามารดาอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เคยพูดจาเช่นนี้มาก่อน คำพูดวันนี้ช่าง...สาแก่ใจจริงๆ!จางเหวินที่เดิมทีโมโหแทบแย่กลับถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้ขำจนหัวเราะออกมานางหวนนึกถึงเมื่อครั้นยังอยู่ในวัยแรกรุ่น กู้หรูเยียนมีอุปนิสัยอ่อนโยนรังแกง่าย เพราะได้รับความทุกข์จากสกุลหลิ่ว ครอบครัวลำเอียง นางอธิบายไปแล้วก็ไม่มีใครฟัง หนำซ้ำยังถูกลงโทษ ดังนั้นกู้หรูเยียนจึงชินชากับการไม่อธิบายจนกระทั่งมีคนพูดว่าร้ายนาง นางได้เห็นคนอ่อนโยนนุ่มนวลเสมอมาอย่างกู้หรูเยียนออกมาตอบโต้คน ถึงขั้นด่ากลับไปความสะเทือนใจในตอนนั้นก็คล้ายตอนนี้ ฉากตรงหน้าแทบจะซ้อนทับกัน“หลายปีมานี้เจ้าไม่บอกข้ามาโดยตลอด หากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับความทุกข์เช่นนี้ จะต้องช่วยเจ้าด่าชายโฉดหญิงชั่วไร้ยางอายคู่นี้ดีๆ แน่!”จางเหวินจับมือกู้หรูเยียนไว้ ขอบตาแดงเรื่อ “ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 718

    “ข้าไม่ช่วย เดิมทีก็ถูกต้องตามหลักการ หาไม่แล้วคนชั่วในใต้หล้านี้ล้วนมาขอให้ข้าช่วยแก้ผลกรรมให้ นั่นยังไม่กลายเป็นโลกของคนชั่วอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านเป็นขุนนางในราชสสำนักมาหลายสิบปี ถึงขั้นไม่มีหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐานกระนั้นหรือ?”“หากท่านคิดว่าท่านพูดมีเหตุผล ก็สามารถพูดเรื่องทั้งหมดออกมาได้ พอดีจะได้ถามคนทั่วหล้าว่าคิดเห็นเหมือนท่านหรือไม่!”เพียงอนุอวิ๋นได้ยินก็รีบพูด “ข้ามิได้เชิญผีน้อยมาทำร้ายพี่หญิง ข้าเพียงหวังให้นางและนายท่านกลับมาคืนดีกัน ข้าเองก็ถูกคนชั่วนั่นหลอก”“หากข้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีวันทำเช่นนี้”“อ้อ งั้นหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ เนตรขนงเจือรอยยิ้ม “บัดนี้มีคนทำผิดเหมือนท่านไม่น้อย ราชสำนักมีบัญชีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว”“ไม่สู้ไปถามคนเหล่านั้นดู ตกลงพวกเขารู้หรือไม่ว่าที่เชิญผีน้อยมาก็เพื่อทำร้ายคน?”“ถ้อยคำนี้ ท่านหลอกตนเองก็ช่างเถอะ คิดว่าคนทั่วหล้าโง่เขลาเหมือนท่านหรือ?”สายตาซ่งรั่วเจินคมกริบ “ทำร้ายคนและช่วยคน ทำร้ายคนต้องชดใช้มากยิ่งกว่า หากท่านทำเพราะอยากให้ทั้งสองคนคืนดีกันจริง สิ่งที่ท่านเชิญกลับไป สมควรเป็นพระพุทธ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status