Share

บทที่ 909

Author: จี้เวยเวย
ฉู่อวิ๋นกุยได้ฟังคำพูดของเสด็จพี่ ระหว่างเดินทางใคร่ครวญดูว่าตกลงที่ใดไม่ถูกต้อง ทำให้เสด็จพี่เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้ต่อเขา

ฉู่จวินถิงกลับตกอยู่ในห้วงภวังค์ความคิด จู่ๆ ก็พูดว่า “อวิ๋นกุย แม่นางในห้องหอชอบอันใดที่สุด?”

ฉู่อวิ๋นกุยชะงัก ครู่ต่อมาพูดว่า “ดอกไม้?”

พูดไป ดวงตาเขาทอประกายระยับ “เสด็จพี่ เรื่องนี้ของท่านและพี่สะใภ้จะต้องสำเร็จแน่ ท่านคิดจะเล่นใหญ่โตสักหน่อยกระนั้น? เช่นนี้ก็ดีมาก! สมควรทำเช่นนี้!”

ฉู่จวินถิงพยักหน้ายิ้มๆ เพราะเสด็จแม่ไม่ยอมรับ ทำให้รั่วเจินต้องทุกข์ใจ

บัดนี้งานแต่งยังไม่ถูกกำหนด เมืองหลวงเองก็มีข่าวลือ เขาได้ยินมาทั้งหมดแล้ว เพียงแต่รั่วเจินนิสัยดี ไม่ได้พูดเรื่องนี้มาโดยตลอด

เขาไม่อยากให้นางทุกข์ใจ เทียบกับประทานสมรส เขาหวังให้รั่วเจินพยักหน้าด้วยตนเอง

“อีกสองสามวันมีเทศกาลโคมไฟ มิสู้พวกเราซื้อพลุกลับมามากหน่อย ถึงตอนนั้นเสด็จพี่ก็แต่งตัวให้ดี เตรียมของขวัญอย่างใส่ใจสักหนึ่งอย่าง พี่สะใภ้จะต้องชอบแน่!”

ดวงตาฉู่อวิ๋นกุยทอประกาย เพียงเขาคิดถึงฉากนั้นก็นึกสนุกขึ้นมา พวกแม่นางน่าจะชอบ

“เจ้าเองก็สนิทกับแม่นางกู้ ลองสืบถามดูว่ารั่วเจินชอบสิ่งใด ใช้ความช
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 910

    อย่างไรเสีย เทียบกับปล่อยให้ลูกชายไปเฝ้าชายแดน นานมากกว่าจะได้พบหน้ากันสักครั้ง ตบแต่งลูกสะใภ้ที่ไม่ได้พอใจมากนักคนหนึ่ง ก็ไม่นับเป็นอะไรฉู่จวินถิงลดเสียงให้เบาลงจนแหบพร่า ใช้เสียงที่มีเพียงทั้งคู่ได้ยิน “หากข้าเดาไม่ผิด อีกสองสามวันเสด็จแม่จะต้องอยากพบเจ้าอีกครั้ง ถึงตอนนั้นเจ้าก็สามารถระบายโทสะได้ หืม?”“หม่อมฉันระบายโทสะอะไรเพคะ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ครั้งก่อนตอนอยู่ในวัง เจ้าต้องทุกข์ใจแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าพูดออกไปอย่างชัดเจนแล้ว ความโดดเด่นเหล่านั้นของข้า ในสายตาเจ้ากลับไม่มีค่าให้พูดถึง”ฉู่จวินถิงมองคนตรงหน้า เดิมทีเขาก็พูดความจริง หากไม่ใช่เขาไม่ยอมปล่อยมือ แม่นางคนนี้ไม่ยอมแต่งเข้าเชื้อพระวงศ์สังเกตเห็นอารมณ์ภายในเสียงของฝ่ายชาย ซ่งรั่วเจินรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกภายในใจ ความเพียบพร้อมของเขาในสายตาทุกคน แต่ยามอยู่ต่อหน้านาง เดิมทีเขาก็ไม่วางอำนาจของท่านอ๋อง ก็คล้ายผู้ชายธรรมดา รู้สึกติดค้างนางบ่อยๆ“เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น ขอเพียงเจ้ามีความสุขก็พอ ส่วนเรื่องอื่นข้าจะจัดการให้ดีเอง”“หม่อมฉันเข้าใจแล้ว” นางพยักหน้ายิ้มๆฉู่อวิ๋นกุยเห็นทั้งสองคนซุบซ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 911

    “พี่สะใภ้ ข้ารู้ว่าท่านกังวลเรื่องอะไร เรื่องอย่างการทดแทนบุญคุณช่วยชีวิตด้วยชั่วชีวิตที่เหลือ สายตามู่เหยาคงไม่แย่ถึงขั้นนั้นหรอกน่า”“เรื่องมงคลของนางจะต้องเป็นการตัดสินพระทัยของเสด็จพ่อเสด็จแม่ ข้าไปสืบความเกี่ยวกับเสิ่นหวยอันผู้นี้มาแล้ว เป็นแค่ลูกอนุคนหนึ่ง”ฉู่อวิ๋นกุยส่ายหน้าเบาๆ ความจริงตอนแรกหลังเกิดเรื่อง เขาก็ไปสืบความมาแล้วโดยเฉพาะฐานะของตระกูลเสิ่นเดิมก็ไม่คู่ควรแต่งงานกับองค์หญิง ถ้าเป็นลูกภรรยาเอกก็แล้วไป แต่กลับเป็นลูกอนุคนหนึ่ง นั่นเป็นความฝันลมๆ แล้งๆ เลยชัดๆ!ซ่งรั่วเจินรู้ว่าทุกคนให้ความสำคัญกับฐานะลูกภรรยาเอกหรือลูกอนุ แต่เพื่อให้สามารถลืมตาอ้าปากได้ ไม่ว่าต้องใช้วิธีการแบบไหน ลูกอนุก็สามารถทำออกมาได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ ดูจากเสิ่นหวยอันที่ได้เจอในวันนี้ นิสัยใจคอก็ใช่ว่าจะดีเดิมทีฉู่อวิ๋นกุยไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจเลยสักนิด เขารู้สึกว่าสายตาของมู่เหยายังใช้ได้อยู่ คนก็เฉลียวฉลาด ไม่มีทางถูกหลอกลวงได้โดยง่ายแต่เห็นว่าซ่งรั่วเจินไม่แสดงท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธ ในใจก็ค่อยๆ สงสัยขึ้นมา “ไม่หรอกมั้ง? อยู่ดีๆ ก็ตาบอดขึ้นมางั้นรึ?”ฉู่จวินถิงปรายตามองฉู่อวิ๋นกุยอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 912

    “คารวะท่านอ๋องทั้งสอง หม่อมฉันไม่ทราบว่าเป็นพวกท่าน หวังว่าพวกท่านจะไม่ถือสา”“ไม่เป็นไร”ฉู่จวินถิงและฉู่อวิ๋นกุยล้วนไม่ถือสาอย่างเห็นได้ชัด เดิมก็มากินข้าวที่ร้านอาหาร นอกจากนี้ แม่นางผู้นี้ก็ไม่ได้ทำผิดอันใดเมื่อฉู่อวิ๋นกุยได้ยินชื่อหยวนชิงก็เลิกคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว สายตากวาดไปทางกู้ฮวนเอ๋อร์ สองคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรต่อกัน?“หวังเสวี่ย เจ้าอย่าพูดเหลวไหล!”กู้ฮวนเอ๋อร์ได้ยินก็ร้อนใจ หยวนชิงมีใจให้นางจริงๆ แต่นางชอบอวิ๋นอ๋องคนเดียววันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะถูกหวังเสวี่ยลากมา นางก็ไม่อยากมาเลยสักนิด บัดนี้มาแล้ว นางจึงคิดว่าจะหาโอกาสคุยกับหยวนชิงให้ชัดเจน หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันในภายหลังหวังเสวี่ยได้ยินอย่างนั้นก็คล้ายจะตระหนักได้ว่าตนเองพูดจาผิดไปจึงรีบปิดปาก กล่าวว่า “หม่อมฉันผิดเองเพคะ หม่อมฉันพูดจาผิดไป ท่านอ๋องอย่าเข้าใจฮวนเอ๋อร์ผิดนะเพคะ”แต่เมื่อเห็นภาพนี้ พวกซ่งรั่วเจินก็มุ่นคิ้วอย่างอดไม่ได้นี่มันอะไรกัน?ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งมีพิรุธ ยิ่งอธิบายก็ยิ่งแลดูร้อนตัว?ประกอบกับมีเสียงร้องเรียกดังมาจากด้านหลังพอดี “ฮวนเอ๋อร์ หวังเสวี่ย พวกเจ้ารีบมาเร็วเข้า เห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 913

    ซ่งปี้อวิ๋นมีสีหน้าน้อยใจ “ข้าก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะได้มาเจอซ่งรั่วเจินโดยบังเอิญขนาดนี้ นางกับข้าเดิมก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันอยู่แล้ว เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องตั้งตัวเป็นอริมาตั้งแต่เด็ก”“วันนี้เห็นได้ชัดว่าจงใจสร้างความลำบากให้ ช่างน่าชังยิ่งนัก!”“หวยอัน ท่านโทษข้าไม่ได้นะ วันนี้นางรังแกข้าอย่างไรบ้าง ท่านเองก็ได้เห็นแล้ว เวลาอยู่ต่อหน้าข้ากับเวลาอยู่ต่อหน้าฉู่มู่เหยาเป็นคนละคนกันเลย!”ซ่งปี้อวิ๋นกล่าวพลางถลาเข้าไปแนบชิดเสิ่นหวยอัน “ข้าคบท่านก่อนชัดๆ วันนี้กลับต้องมองดูท่านเอาใจฉู่มู่เหยา ข้าปวดใจยิ่งนัก”สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มที่แนบชิดกับแขนของตัวเอง เสิ่นหวยอันจิตใจว้าวุ่น น้ำเสียงจึงอ่อนลงกว่าเดิม“ข้ารู้ว่าทำให้เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม แต่เจ้าก็รู้สถานการณ์ของข้าในตอนนี้ดี ถ้าไม่กรุยทางให้ตัวเอง ถูกพี่ชายสายตรงผู้นั้นของข้ากดไว้แบบนั้น ข้าจะมีวันลืมตาอ้าปากได้อย่างไรกันเล่า?”“หวยอัน ความจริงข้าไม่สนใจเลยว่าท่านจะมีตำแหน่งใหญ่โตหรือไม่”“แม้ครอบครัวข้าจะสู้ตระกูลซ่งไม่ได้ แต่ข้าออกเรือนทั้งที ท่านพ่อท่านแม่คงจะไม่ดูดายข้าจนเกินไป ถึงท่านจะเป็นลูกอนุ แต่แม่ของท่า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 914

    “ข้าว่าช่วงหลายวันหลังจากนี้พวกเราอย่าเพิ่งมาเจอกันชั่วคราวจะดีกว่า จะได้ไม่ถูกจับพิรุธได้ ไม่อย่างนั้นที่พยายามมาทั้งหมดคงได้สูญเปล่ากันพอดี”“ไม่นะ?” ซ่งปี้อวิ๋นรู้สึกจิตใจไม่สงบ เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกว่าซ่งรั่วเจินจะเยี่ยมยอดตรงไหน ถึงจะเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่กลับมีนิสัยคร่ำครึ นางจึงไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาแต่ว่าช่วงที่ผ่านมาซ่งรั่วเจินเปลี่ยนไปมากจนน่าตกใจจริงๆ“พวกเราซื้อร้านอาหารไปแล้วนะ ตอนนี้จะทำอย่างไรเล่า?”“ก็ต้องเปิดต่อไปอยู่แล้ว” เสิ่นหวยอันครุ่นคิดพลางกล่าว “เรื่องนี้ยกให้เจ้าก็แล้วกัน ถึงยามนั้นต่อให้องค์หญิงถามขึ้นมาก็บอกว่าเป็นการค้าขายที่พวกเราร่วมมือกันก็พอแล้ว”ซ่งปี้อวิ๋นเห็นว่าเสิ่นหวยอันยังคงให้นางดูแลร้านก็ค่อยวางใจลงได้“วันนี้โชคดีที่พวกเราแย่งร้านอาหารมาได้ ไม่อย่างนั้นทันทีที่สกุลซ่งเปิดร้านปิ้งย่างทางฝั่งนี้ กิจการของพวกเราคงแย่แล้ว” ซ่งปี้อวิ๋นกล่าวอย่างได้ใจเสิ่นหวยอันขมวดคิ้วน้อยๆ “เจ้าบอกว่าจะแย่งคนจากร้านของตระกูลซ่งมาไม่ใช่หรือ? หรือว่าทำไม่สำเร็จ?”“วางใจเถอะ เรื่องนี้ข้าจัดการเอง จะต้องไม่มีปัญหาแน่นอน!”ซ่งปี้อวิ๋นแย้มยิ้มบาง ในใจกลับครุ่น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 915

    เมื่อซ่งรั่วเจินได้ยินว่าตนเองถูกเรียกตัวเข้าวังก็รู้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ฉู่จวินถิงพูดไว้ ฮองเฮาทรงต้องการพบนางแล้วจริงๆ ด้วยหลังจากที่ทุกคนในสกุลซ่งได้ยินข่าวนี้ก็อดเป็นห่วงนางไม่ได้“เจินเอ๋อร์ ตอนเจ้าเข้าวังไปคราวก่อน ฮองเฮาก็สร้างความลำบากให้หลายครั้ง คราวนี้เรียกเจ้าเข้าวัง คงไม่ได้...”แววตากู้หรูเยียนเต็มไปด้วยความกังวล คราวก่อนถ้าไม่ใช่เพราะรั่วเจินเฉลียวฉลาด ทั้งยังมีไทเฮาออกหน้าให้ เกรงว่าคิดจะออกมาจากวังอย่างราบรื่นคงไม่ง่ายดายปานนั้น ถ้าคราวนี้ก็มีเจตนาแอบแฝงอีก ใช่ว่าจะสามารถโชคดีแบบนั้นไปเสียทุกครั้ง“เจินเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว อย่างมากพ่อเข้าวังไปด้วยกันกับเจ้า ถึงนางจะเป็นฮองเฮา แต่ถ้าจะมารังแกเจ้าโดยไร้เหตุผล พ่อจะกราบทูลฝ่าบาทเอง”ซ่งหลินมีสีหน้าเย็นชา หลังจากกลับมา ภรรยาก็บอกเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงในช่วงก่อนหน้านี้ให้เขาฟังหมดแล้วเขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าในช่วงเวลาหนึ่งปีกว่ามานี้จะเกิดเรื่องราวขึ้นมากมายเช่นนี้!“ข้าว่ารีบส่งข่าวไปแจ้งท่านอ๋องจะดีกว่า มีท่านอ๋องไปด้วยคงจะไม่เกิดอะไรขึ้น” ซ่งเยี่ยนโจวย่นคิ้วกล่าวซ่งจืออวี้ออกจะไม่พอใจ “ข้าว่าฮองเฮา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 916

    ได้เจอกันวันนี้ นางพลันพบว่าสีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าลู่ดีขึ้นมาก สีหน้าท่าทางก็ดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมากฮูหยินผู้เฒ่าลู่พยักหน้ายิ้มๆ “ข้าบอกไว้แล้วไม่ใช่รึว่าตอนข้ากลับมาคราวนี้ เพราะได้แม่นางคนหนึ่งช่วยประคองไว้ ข้าจึงไม่ล้มน่ะ?”“แม่นางผู้นั้นไม่เพียงหน้าตางดงาม จิตใจก็ยังดีงาม ทั้งยังเชี่ยวชาญวิชาแพทย์อีกต่างหาก”“ยามนั้นยาของข้ากระจายไปบนพื้น แม่นางผู้นั้นมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าข้าเป็นโรคไอจึงบอกข้าว่าถ้ากินยาแล้วยังไม่ดีขึ้นก็ให้ลองเปลี่ยนยาดู”“ตอนแรกข้าไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่สองวันมานี้อยู่ในจวนก็ยังไอไม่หยุด หมอพูดไปพูดมาก็มีแต่เรื่องเดิมๆ อาการข้าไม่เห็นว่าจะดีขึ้น จึงลองทำตามที่แม่นางผู้นั้นบอก”“ไม่คิดเลยว่าพอลองดูก็ได้ผลจริงๆ ด้วย!”ฮูหยินผู้เฒ่าลู่คิดถึงแม่นางที่ได้พบในวันนั้นแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ “นั่นเป็นแม่นางที่ดีจริงๆ เดิมทีข้าอยากแนะนำนางให้จวินถิง แต่จวินถิงมีคนในดวงใจแล้วจึงได้แต่ล้มเลิกไป”วันนั้นนางให้คนไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับแม่นางผู้นั้นมาแล้ว อยากแนะนำให้จวินถิงรู้จักโดยเร็วที่สุด แต่หลังจากที่รู้ว่าไม่มีหวัง นางจึงบอกว่าไม่ต้องไปรบกวนอีกแล้วยิ่งคิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 917

    ซ่งรั่วเจินเพิ่งลงมาจากรถม้า มองปราดเดียวก็เห็นฉู่จวินถิงที่กำลังรออยู่ ความประหลาดใจวาบผ่านดวงตาคู่งาม“ท่านตั้งใจมารับหม่อมฉันหรือเพคะ?”ฉู่จวินถิงพยักหน้า “ข้าได้ยินข่าวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วจึงรู้ว่าเสด็จแม่เรียกเจ้าเข้าวัง เจ้าวางใจได้ ข้าจะรออยู่ข้างนอก”“ถ้าสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล แค่เจ้าร้องเรียก ข้าก็จะเข้าไปทันที ทุกอย่างล้วนมีข้าอยู่”เห็นท่าทางจริงจังทั้งยังจริงใจของชายหนุ่ม ทั้งที่เตรียมการทุกอย่างไว้แล้วแท้ๆ แต่ก็ยังกลัวว่าจะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น มุมปากซ่งรั่วเจินค่อยๆ โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ ท่านเตรียมการไว้เรียบร้อยเช่นนี้ ไม่เกิดอันใดขึ้นหรอกเพคะ”ฉู่จวินถิงมองหญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างน่ามอง สวมชุดสำหรับฤดูหนาวสีอ่อน คอเสื้อประดับขนสัตว์สีขาวขับเน้นให้นางแลดูน่ารักเป็นพิเศษเขาชอบสตรีคนหนึ่งเป็นครั้งแรก ทั้งยังชอบมากกว่าที่เคยคิดไว้มากมายนักชอบจนถึงขนาดที่ว่าหากนางได้รับความไม่เป็นธรรมแม้เพียงน้อยนิด เขาก็ยังยากจะอดทนเอาไว้ได้เมื่อมองเห็นรอยยิ้มของนางในยามนี้ก็รู้สึกว่าความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากในหัวใจสามารถขับไล่ความเหน็บหนาวทั้งหมด

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 942

    ท่านแม่เคยถามนางว่า คิดว่าสวี่หยวนชิงเป็นอย่างไรนางกับสวี่หยวนชิงโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ต่างฝ่ายเรียกได้ว่าไม่อาจคุ้นเคยกันไปมากกว่านี้ ไม่เคยมีความคิดทำนองนั้นมาก่อน แค่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมา นางก็รู้สึกว่าน่ากลัวแล้วถึงสุดท้ายแล้วอวิ๋นอ๋องจะยังคงไม่ชอบนาง นางก็ไม่สามารถแต่งงานกับสวี่หยวนชิงได้อยู่ดี“คราวก่อนข้าพูดกับเจ้าชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ?”หากเป็นเมื่อก่อน สวี่หยวนชิงได้ยินวาจาเช่นนี้จะต้องเสียใจมากเป็นแน่ แต่บัดนี้หลังจากได้รับการชี้แนะจากหวังเสวี่ย เขากลับไม่รู้สึกเสียใจอีกแล้วนี่ก็คือการทดสอบเขา!“ฮวนเอ๋อร์ ไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไร ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าล้วนไม่เปลี่ยนแปลง เจ้าวางใจได้ ข้าไม่มีทางฝืนใจเจ้า ข้าจะรอ รอจนกว่าจะถึงวันที่เจ้าเปลี่ยนใจ!”กู้ฮวนเอ๋อร์ “???”วันนี้สวี่หยวนชิงเป็นอะไรไปกันแน่?ฉู่อวิ๋นกุยได้ยินบทสนทนาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอย่างชัดเจน เขาเลิกผ้าม่านรถม้าแล้วก้าวลงมา“แม่นางกู้ พวกเราควรไปได้แล้ว”เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้สวี่หยวนชิงชะงักไป กวาดสายตามองมาโดยสัญชาตญาณก็พบว่าอวิ๋นอ๋องอยู่ด้านหลังเขาสังเกตเห็นรถม้าคันนี้ตั้งแต่ก่อนห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 941

    สวี่หยวนชิงดวงตาสว่างวาบ เขาเข้าใจแล้ว “เจ้าหมายความว่าที่ฮวนเอ๋อร์พูดเช่นนี้ แท้จริงแล้วกำลังทดสอบข้าอยู่งั้นหรือ?”“ใช่แล้ว” หวังเสวี่ยพยักหน้า “ผู้หญิงอย่างพวกเราล้วนเป็นเช่นนี้ อยากทดสอบว่าเจ้าจริงใจหรือไม่ ถ้านางไม่ชอบเจ้าเลยสักนิด แล้วเหตุใดจะต้องไปร่วมงานวันเกิดเจ้ากันเล่า?”สวี่หยวนชิงได้ยินดังนั้น ดวงตาก็พลันมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง “หวังเสวี่ย ขอบคุณเจ้ามากจริงๆ ถ้าไม่ได้เจ้าเอ่ยเตือน ข้าก็คงไม่รู้จริงๆ ว่าควรทำอย่างไรดี”สายตาของหวังเสวี่ยพลันไปตกลงบนรถม้าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล นางจำได้ว่านั่นคือรถม้าของจวนอวิ๋นอ๋อง!รถม้าของจวนอวิ๋นอ๋องมาจอดอยู่หน้าประตูจวนสกุลกู้ได้อย่างไร? หรือว่าอวิ๋นอ๋องมาหาฮวนเอ๋อร์?ชั่วขณะที่ความคิดนั้นผุดขึ้นมา หัวใจหวังเสวี่ยพลันหนักอึ้ง ฮวนเอ๋อร์คงไม่ได้โชคดีขนาดนั้นจริงๆ หรอกนะ?อวิ๋นอ๋องหลบนางยังแทบไม่ทันแท้ๆ แล้วจะตั้งใจมาหานางได้อย่างไรกันเล่า หรือช่วงหลายวันที่ผ่านมามีเรื่องที่นางไม่รู้เกิดขึ้น?กู้ฮวนเอ๋อร์วิ่งตรงมาถึงประตูใหญ่แล้วค่อยผ่อนฝีเท้าลง ค่อยๆ เดินออกมาจากประตูใหญ่อย่างแช่มช้าเฉกเช่นคุณหนูตระกูลใหญ่ สายตากวาดไปทางรถม้าที่อยู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 940

    บ่าวแปลกใจอย่างอดไม่ได้ ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องของตนได้พบแม่นางกู้หนึ่งครั้งก็ซวยไปหนึ่งครั้ง จากนั้นขายหน้าไปหลายครั้ง ต่อมาเพียงได้พบแม่นางกู้ก็อยากจะหลบไปให้ไกลทว่า แม่นางกู้เองก็น่าสนใจ ขอเพียงได้เห็นท่านอ๋องของพวกเขาก็จะไล่ตามมาวันนี้ท่านอ๋องถึงขั้นเป็นฝ่ายไปหาแม่นางกู้ก่อน นี่พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วกระมังใบหน้าฉู่อวิ๋นกุยเผยแววประหม่า จัดแต่งอาภรณ์พลางเอ่ยปากว่า “ย่อมไม่ใช่เพราะข้าอยากไปหานาง แต่เพื่อเสด็จพี่ ยังต้องมาสักเที่ยวหนึ่ง”“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” บ่าวพยักหน้า กลับคิดว่าไม่ชอบมาพากลอยู่บ้างวันนี้ก่อนท่านอ๋องออกจากบ้านก็เปลี่ยนไปหลายชุด แม้แต่จี้หยกบนเข็มขัดก็ตั้งใจเลือกเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นท่านอ๋องใส่ใจต่อการแต่งตัวเช่นนี้มาก่อน ต่อให้เป็นงานเลี้ยงในวังก็ไม่ใส่ใจถึงเพียงนี้ตอนกู้ฮวนเอ๋อร์ได้รู้ว่าอวิ๋นอ๋องจะมาหานาง เบิกตากว้างอย่างสุดระงับ “เจ้าพูดผิดไปหรือไม่? เหตุใดอวิ๋นอ๋องมาหาข้าเล่า?”“คุณหนู จริงแท้แน่นอนเจ้าค่ะ เมื่อครู่บ่าวตั้งใจไปดูมาแล้ว เป็นอวิ๋นอ๋อง!” สาวใช้รีบพูดใบหน้าเล็กของกู้ฮวนเอ๋อร์สะท้อนความดีใจออกมา คนดีใจอย่างมาก“เหตุใดอวิ๋

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 939

    จวนเช่ออ๋องฉู่เทียนเช่อได้ยินว่าหลิงเชี่ยนเอ๋อร์มีเจตนาชวนเขาไปเข้าร่วมเทศกาลโคมไฟ มุมปากยกขึ้นอย่างนึกสนุกคิดว่าเขาเป็นตัวโง่งมกระนั้น?ก่อนหน้านี้เขาจงใจแสดงท่าทีเป็นมิตรกับหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ แต่หลิงเชี่ยนเอ๋อร์กลับเย็นชาต่อเขา ตรงข้ามกันเอาอกเอาใจฉู่อ๋อง บัดนี้นี่คือเห็นว่าหมดหวังแต่งเข้าจวนฉู่อ๋องแล้ว ก็เริ่มถอยเพื่อหาสิ่งที่รองลงมา คิดแต่งงานกับเขากระนั้น?น่าเสียดาย เขาไม่ใช่คนรับขยะอะไรก็ได้!“ท่านอ๋อง แม่นางหลิงคนนั้นเป็นฝ่ายนัดหมายก่อน คาดว่ามีเจตนาเอาใจท่านอ๋อง หรือว่าท่านจะไม่ไปพ่ะย่ะค่ะ?” คนสนิทเอ่ยถามเสียงแปลกใจ“ไป เหตุใดจะไม่ไป?”เช่ออ๋องหัวเราะเสียงแผ่วเบาทีหนึ่ง “ข้ากลับอยากเห็นว่าบัดนี้หลิงเชี่ยนเอ๋อร์เปลี่ยนเป้าหมายมาหาข้าแล้ว ท่าทีจะกลายเป็นเช่นไร”“ก่อนหน้านี้มีท่าทางเย่อหยิ่งเย็นชา บัดนี้...จะเป็นเช่นไร?”“ท่านอ๋อง อันที่จริงเบื้องหลังแม่นางหลิงไม่ธรรมดา บัดนี้ตำแหน่งพระชายายังว่างอยู่ พระสนมเองก็พูดว่าให้ท่านเลือกพระชายาที่เหมาะสมสักท่านหนึ่ง”“ในเมืองหลวงมีแม่นางมากมาย บัดนี้ยังไม่มี เช่นนั้นก็ค่อยๆ หา ส่วนหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ ของที่ผู้อื่นไม่ต้องการ ข้าเอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 938

    “ซ่งรั่วเจินและฉู่อ๋องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เดิมทีอยากให้เชี่ยนเอ๋อร์แต่งงานกับฉู่อ๋อง ทั้งหมดจะได้คลี่คลาย ทางฝั่งฮองเฮาก็ถูกเจ้าพูดจนหวั่นไหวแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปกันเล่า?”สีหน้านายหญิงหลิงแข็งทื่อ “ยังเพราะอันใดอีกเล่า? ไม่รู้ซ่งรั่วเจินกรอกน้ำแกงลุ่มหลงอันใดให้ฉู่อ๋องกิน ภายในสายตาเขามีเพียงซ่งรั่วเจินคนเดียว ไม่สนใจเชี่ยนเอ๋อร์เลยสักนิด ไม่ว่าพวกเราพยายามมากเพียงใดก็ไร้ผล”“ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องไม่ดีแน่ เดิมทีเชี่ยนเอ๋อร์ก็ถึงวัยแต่งงานแล้ว ก่อนหน้านี้เช่ออ๋องเอาอกเอาใจนางมากไม่ใช่หรือ?”“อย่างไรเสียบัดนี้เช่ออ๋องก็ไม่มีพระชายา คนก่อนนั้นก็ถูกจับขังคุกไปแล้ว ประจวบเหมาะกับเชี่ยนเอ๋อร์พอดี ขอเพียงนางแต่งเข้าราชวงศ์ได้ ตำแหน่งของสกุลหลิงพวกเราก็จะมั่นคงขึ้นอีกนิด”หลิงไท่ซือเอ่ยปากเสียงเย็น พูดตัดสินชี้ขาดออกมานายท่านหลิงพยักหน้า มองทางนายหญิงหลิง “อีกเดี๋ยวเจ้าบอกเรื่องนี้ให้เชี่ยนเอ๋อร์รู้ ให้นางรีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว”“เชี่ยนเอ๋อร์คล้ายไม่ชอบเช่ออ๋องเจ้าค่ะ” นายหญิงหลิงลังเลเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้เช่ออ๋องเอาอกเอาใจเชี่ยนเอ๋อร์อย่างมากจริงๆ แต่สถานกา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 937

    “เรื่องในตอนนั้นของกระหม่อมโด่งดังอึกทึกครึกโครม คนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้ว่ากระหม่อมตาบอดไป กระหม่อมเองก็ไม่ได้สนใจมิใช่หรือ?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าไม่ใส่ใจ แม้ตอนเขารู้เรื่องที่ตนทำในอดีตไม่กล้าออกไปสู้หน้าคนจริง แต่อย่างไรเสียที่ผ่านมาหน้าตาที่ควรเสียไปก็เสียไปจนสิ้นแล้ว บัดนี้ไม่มีอะไรให้ใส่ใจอีกซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ท่านเรียนรู้จากพี่สี่หม่อมฉันเถอะ เรื่องในตอนนั้นอึกทึกครึกโครมจนคนในเมืองหลวงต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว เขากลับไม่สนใจเลยสักนิด เดิมทีก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่เป็นไรหรอกเพคะ”“พูดให้ละเอียดดูแล้ว ชายโฉดหญิงชั่วล้วนมีศีลเสมอกัน คิดเพียงจะกอดซ้ายกอดขวา เสวยสุขกับคนรักมากมาย ไม่มีความสามารถเลยสักนิด”“ไปจากพวกท่านแล้วก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”“พี่สะใภ้ ท่านพูดถูกแล้ว ผิดก็ผิดไปแล้ว ภายภาคหน้าหากข้ามีคนที่ชอบอีก ข้าจะบอกท่านแน่ ให้ท่านช่วยข้าดู”ฉู่มู่เหยากะพริบตาปริบๆ ตัดสินใจภายในใจ ภายภาคหน้าจะไม่มีวันทำเรื่องขายหน้าเช่นนี้อีก!“กระหม่อมเองก็สามารถช่วยท่านดูได้” ซ่งจิ่งเซินพูดเย้าฉู่มู่เหยาเผยสีหน้าสงสัย “เจ้า?”“อะไรกัน? ดูเบากระหม่อมหรือ?” สายตาซ่งจิ่งเซินคมกริบ ตอบโ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 936

    “พี่สะใภ้ ขออภัยจริงๆ ก่อนหน้านี้ข้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะเลียนแบบร้านปิ้งย่างที่ท่านเปิด หากว่ารู้ ข้าไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนี้เป็นอันขาด”ฉู่มู่เหยาเผยสีหน้ารู้สึกผิด ก่อนหน้านี้นางก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เหตุใดตอนนางถามเสิ่นหวยอันว่าเตรียมจะเปิดร้านอะไร เขาถึงหลีกเลี่ยงไม่ยอมตอบมาโดยตลอด พูดเพียงว่าต้องการสร้างความประหลาดใจระคนดีใจให้นางอย่างหนึ่งจนกระทั่งมาวันนี้ หลังได้เห็นป้ายร้านเองกับตา อารมณ์ของนางก็แย่ลงทั้งๆ ที่เสิ่นหวยอันรู้ความสัมพันธ์ระหว่างนางและพี่สะใภ้ ร้านนี้ยังเอามาจากมือของพี่สะใภ้อีกด้วย ปรากฏว่าเขาทำเรื่องพรรค์นี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่คำนึงถึงนางเลยสักนิด“ท่านไม่รู้เรื่องนี้เสียหน่อย ไฉนเลยจะโทษท่านได้?”ซ่งรั่วเจินจูงมือของฉู่มู่เหยา “อย่าอารมณ์ไม่ดีเพราะคนพรรค์นี้เลย ใครบ้างเล่าอายุยังน้อยไม่เคยตาบอดมองคนพลาดมาก่อน? ขอเพียงตอนนี้มองออกอย่างชัดเจนก็พอ!”“แต่พวกเขาเปิดร้านนี้จะส่งผลกระทบต่อพวกท่านหรือไม่?” ฉู่มู่เหยายังรู้สึกผิดอยู่มาก บัดนี้รู้สึกเพียงว่าเสด็จแม่และพี่ห้าด่าว่าไม่ผิดไปเลยสักนิด“แค่ร้านของพวกเขานี้ ยังส่งผลต่อการค้าของพวกเราอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 935

    “องค์หญิง เหตุใดท่านใจร้ายถึงเพียงนี้?” ซ่งปี้อวิ๋นพูดออกมาอย่างสุดระงับฉู่มู่เหยาขมวดคิ้วแน่น กลับถูกซ่งรั่วเจินห้ามไว้ “เจ้าใจดีถึงเพียงนั้นก็ดูแลดีๆ เถอะ แต่เห็นแก่สายสัมพันธ์ของญาติพี่น้อง ข้าจะต้องเตือนเจ้าหนึ่งประโยค”“เจ้าเป็นแม่นางที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่ง อยู่ภายนอกจะต้องรักษาระยะห่างให้ดี ยื้อยุดฉุดกระชากท่ามกลางผู้คนมากมาย หากถูกท่านลุงใหญ่รู้เข้า คาดว่าจะต้องไม่พอใจกระมัง?”สีหน้าซ่งปี้อวิ๋นเปลี่ยนไป “หรือว่าท่านจะฟ้องท่านพ่อข้า?”“ข้าไม่ใช่คนชอบใส่ใจไม่เข้าเรื่องหรอกนะ เพียงแต่เตือนเจ้าสักครั้งเท่านั้น หากเจ้าไม่โง่ ก็ควรรู้ว่าผู้ชายเช่นนี้ไม่คู่ควรให้พึ่งพาอาศัย”“หันหลังกลับตอนนี้ยังมีโอกาส”เมื่อครู่ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนายดูแล้ว ทำนายได้ว่าหลังซ่งปี้อวิ๋นแต่งงานกับเสิ่นหวยอัน จะได้พบจุดจบอย่างอนาถแม้พูดว่าความสัมพันธ์ของพวกนางไม่ดีเท่าใดนัก แต่เดิมทีก็มีสายสัมพันธ์เป็นญาติมิตร นางจึงเตือนหนึ่งประโยค แต่ตกลงฟังหรือไม่ ยังต้องดูตัวซ่งปี้อวิ๋นเองเพียงซ่งปี้อวิ๋นได้ยิน รู้สึกเพียงว่าซ่งรั่วเจินกำลังวางตัวสูงส่งเอ่ยเตือนนาง เห็นได้ชัดว่ากำลังดูเบานาง!“ข้าย่อมรู้ข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 934

    หากรู้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีวันบอกเสด็จแม่ บัดนี้ทุกคนล้วนรู้แล้ว นางไม่มีหน้าหลงเหลือแล้วจริงๆ“ญาติผู้พี่ แม้พูดว่าพวกเราแยกบ้านกันแล้ว แต่อย่างไรเสียก็มีบรรพบุรุษคนเดียวกัน ท่านก็แค่ไม่พอใจที่คุณชายเสิ่นเปิดร้านปิ้งย่าง ไม่ถึงขั้นต้องพูดจาว่าร้ายพวกเราต่อหน้าองค์หญิงหรอกกระมัง?”ซ่งปี้อวิ๋นเห็นทุกคนพูดเรื่องระหว่างนางและเสิ่นหวยอันออกมาแล้ว รู้สึกร้อนใจอย่างอดไม่ได้ฉู่มู่เหยาสั่งให้คนโบยเขาไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นความรักของพวกเขาอยู่ในสายตา เช่นนั้นก็ไม่สามารถปล่อยให้เรื่องลุกลามไปมากกว่านี้ได้อีก หาไม่แล้วสิ่งที่เสียหายก็คือชื่อเสียง“พวกเจ้าเปิดร้านปิ้งย่าง เหตุใดพวกเราต้องไม่สบอารมณ์ด้วยเล่า?” จู่ๆ ซ่งจิ่งเซินก็ถามกลับซ่งปี้อวิ๋นเผยท่าทางแข็งกระด้าง ย่อมรู้ว่าถ้อยคำนี้ของซ่งจิ่งเซินคือจงใจชี้นำนางให้พูดออกมาว่าเลียนแบบ เพียงแต่ระหว่างเลียนแบบและตั้งใจทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงความผิดสองข้อนี้ ย่อมต้องเลือกอย่างแรกคนเลียนแบบสกุลซ่งไม่ได้มีเพียงพวกเขาสองคน ไม่มีผู้ใดกำหนดว่ามีเพียงสกุลซ่งสามารถขายปิ้งย่างได้ พวกเขาเองก็สามารถขายได้เช่นเดียวกัน“ข้ารู้ร้านปิ้

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status