แชร์

บทที่ 915

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
เมื่อซ่งรั่วเจินได้ยินว่าตนเองถูกเรียกตัวเข้าวังก็รู้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ฉู่จวินถิงพูดไว้ ฮองเฮาทรงต้องการพบนางแล้วจริงๆ ด้วย

หลังจากที่ทุกคนในสกุลซ่งได้ยินข่าวนี้ก็อดเป็นห่วงนางไม่ได้

“เจินเอ๋อร์ ตอนเจ้าเข้าวังไปคราวก่อน ฮองเฮาก็สร้างความลำบากให้หลายครั้ง คราวนี้เรียกเจ้าเข้าวัง คงไม่ได้...”

แววตากู้หรูเยียนเต็มไปด้วยความกังวล คราวก่อนถ้าไม่ใช่เพราะรั่วเจินเฉลียวฉลาด ทั้งยังมีไทเฮาออกหน้าให้ เกรงว่าคิดจะออกมาจากวังอย่างราบรื่นคงไม่ง่ายดายปานนั้น ถ้าคราวนี้ก็มีเจตนาแอบแฝงอีก ใช่ว่าจะสามารถโชคดีแบบนั้นไปเสียทุกครั้ง

“เจินเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว อย่างมากพ่อเข้าวังไปด้วยกันกับเจ้า ถึงนางจะเป็นฮองเฮา แต่ถ้าจะมารังแกเจ้าโดยไร้เหตุผล พ่อจะกราบทูลฝ่าบาทเอง”

ซ่งหลินมีสีหน้าเย็นชา หลังจากกลับมา ภรรยาก็บอกเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงในช่วงก่อนหน้านี้ให้เขาฟังหมดแล้ว

เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าในช่วงเวลาหนึ่งปีกว่ามานี้จะเกิดเรื่องราวขึ้นมากมายเช่นนี้!

“ข้าว่ารีบส่งข่าวไปแจ้งท่านอ๋องจะดีกว่า มีท่านอ๋องไปด้วยคงจะไม่เกิดอะไรขึ้น” ซ่งเยี่ยนโจวย่นคิ้วกล่าว

ซ่งจืออวี้ออกจะไม่พอใจ “ข้าว่าฮองเฮา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 916

    ได้เจอกันวันนี้ นางพลันพบว่าสีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าลู่ดีขึ้นมาก สีหน้าท่าทางก็ดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมากฮูหยินผู้เฒ่าลู่พยักหน้ายิ้มๆ “ข้าบอกไว้แล้วไม่ใช่รึว่าตอนข้ากลับมาคราวนี้ เพราะได้แม่นางคนหนึ่งช่วยประคองไว้ ข้าจึงไม่ล้มน่ะ?”“แม่นางผู้นั้นไม่เพียงหน้าตางดงาม จิตใจก็ยังดีงาม ทั้งยังเชี่ยวชาญวิชาแพทย์อีกต่างหาก”“ยามนั้นยาของข้ากระจายไปบนพื้น แม่นางผู้นั้นมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าข้าเป็นโรคไอจึงบอกข้าว่าถ้ากินยาแล้วยังไม่ดีขึ้นก็ให้ลองเปลี่ยนยาดู”“ตอนแรกข้าไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่สองวันมานี้อยู่ในจวนก็ยังไอไม่หยุด หมอพูดไปพูดมาก็มีแต่เรื่องเดิมๆ อาการข้าไม่เห็นว่าจะดีขึ้น จึงลองทำตามที่แม่นางผู้นั้นบอก”“ไม่คิดเลยว่าพอลองดูก็ได้ผลจริงๆ ด้วย!”ฮูหยินผู้เฒ่าลู่คิดถึงแม่นางที่ได้พบในวันนั้นแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ “นั่นเป็นแม่นางที่ดีจริงๆ เดิมทีข้าอยากแนะนำนางให้จวินถิง แต่จวินถิงมีคนในดวงใจแล้วจึงได้แต่ล้มเลิกไป”วันนั้นนางให้คนไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับแม่นางผู้นั้นมาแล้ว อยากแนะนำให้จวินถิงรู้จักโดยเร็วที่สุด แต่หลังจากที่รู้ว่าไม่มีหวัง นางจึงบอกว่าไม่ต้องไปรบกวนอีกแล้วยิ่งคิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 917

    ซ่งรั่วเจินเพิ่งลงมาจากรถม้า มองปราดเดียวก็เห็นฉู่จวินถิงที่กำลังรออยู่ ความประหลาดใจวาบผ่านดวงตาคู่งาม“ท่านตั้งใจมารับหม่อมฉันหรือเพคะ?”ฉู่จวินถิงพยักหน้า “ข้าได้ยินข่าวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วจึงรู้ว่าเสด็จแม่เรียกเจ้าเข้าวัง เจ้าวางใจได้ ข้าจะรออยู่ข้างนอก”“ถ้าสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล แค่เจ้าร้องเรียก ข้าก็จะเข้าไปทันที ทุกอย่างล้วนมีข้าอยู่”เห็นท่าทางจริงจังทั้งยังจริงใจของชายหนุ่ม ทั้งที่เตรียมการทุกอย่างไว้แล้วแท้ๆ แต่ก็ยังกลัวว่าจะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น มุมปากซ่งรั่วเจินค่อยๆ โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ ท่านเตรียมการไว้เรียบร้อยเช่นนี้ ไม่เกิดอันใดขึ้นหรอกเพคะ”ฉู่จวินถิงมองหญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างน่ามอง สวมชุดสำหรับฤดูหนาวสีอ่อน คอเสื้อประดับขนสัตว์สีขาวขับเน้นให้นางแลดูน่ารักเป็นพิเศษเขาชอบสตรีคนหนึ่งเป็นครั้งแรก ทั้งยังชอบมากกว่าที่เคยคิดไว้มากมายนักชอบจนถึงขนาดที่ว่าหากนางได้รับความไม่เป็นธรรมแม้เพียงน้อยนิด เขาก็ยังยากจะอดทนเอาไว้ได้เมื่อมองเห็นรอยยิ้มของนางในยามนี้ก็รู้สึกว่าความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากในหัวใจสามารถขับไล่ความเหน็บหนาวทั้งหมด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 918

    เห็นที...วิชาแพทย์ของนางคงจะล้ำเลิศจริงๆ“ข้านึกแล้วเชียวว่าสายตาของจวินถิงจะต้องไม่แย่อย่างแน่นอน ช่างเป็นแม่นางที่ดีจริงๆ” ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ปีติยินดีอย่างสุดแสน “เรื่องระหว่างเจ้ากับจวินถิง ข้าพอได้ยินมาบ้างแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีเรื่องเข้าใจผิดกันไปบ้าง เจ้าอย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะ”ซ่งรั่วเจินยังคงตั้งรับไม่ถูกอยู่บ้าง คิดถึงว่าตอนที่เจอกันระหว่างทางตอนนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ก็อบอุ่นเป็นมิตรเช่นนี้ วันนี้ยิ่งเป็นกันเองเป็นพิเศษ“ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านกล่าวหนักไปแล้วเจ้าค่ะ”“ข้ารู้ว่าเจ้านิสัยดี ไม่เก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ คนก็ยังจิตใจดีอีกต่างหาก”“ข้ารู้นิสัยฮองเฮาดีที่สุดแล้ว ปากร้ายแต่ใจดี รอจนได้ใกล้ชิดกันมากกว่านี้ เจ้าจะเข้าใจเอง”ฮูหยินผู้เฒ่าลู่มีรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า คิดว่าหลายปีมานี้เรื่องมงคลของจวินถิงไม่ได้กำหนดแน่นอนเสียที ตอนนี้ได้มาเจอแม่นางที่ดีเช่นนี้ การรอคอยหลายปีก็นับว่าคุ้มค่าแล้วเดิมนั้นฮองเฮายังครุ่นคิดอยู่ว่าจะพูดถึงเรื่องในอดีตกับซ่งรั่วเจินอย่างไรดี เพื่อสตรีนางเดียว จวินถิงถึงขั้นคิดจะไปเฝ้าชายแดน นางย่อมอยากผ่อนคลายความสัมพันธ์ของสองฝ่ายแต่เรื่องแบบนี้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 919

    ฉู่จวินถิงเห็นสายตาเสด็จแม่ของตนเองก็เข้าใจความคิดของอีกฝ่ายรอยยิ้มวาบผ่านดวงตาเขา เข้าใจยิ่งว่าด้วยนิสัยของเสด็จแม่แล้ว วันนี้สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ก็แสนจะไม่ง่ายแล้ว นางกำลังเป็นฝ่ายริเริ่มไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ก่อนเขายังเข้าใจว่าในเมื่อเสด็จแม่กล่าววาจาเช่นนี้ออกมาแล้ว วันหน้ายิ่งไม่มีทางจงใจสร้างความลำบากให้รั่วเจิน“เสด็จแม่ ท่านเข้าใจแล้วช่างดียิ่งนัก ข้ากลัวจริงๆ ว่าพี่สะใภ้จะถูกคนอื่นชิงตัวไป ท่านไม่รู้หรอกว่าตอนข้าไปร่วมงานเลี้ยงก่อนหน้านี้มีคนมากมายเท่าไรที่อิจฉาเสด็จพี่”สีหน้าฉู่มู่เหยาเต็มไปด้วยความยินดี ก่อนหน้านี้นางเคยพูดกับเสด็จแม่แล้ว แต่เสด็จแม่กลับไม่เชื่อแต่นางเข้าใจยิ่งนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าชาติตระกูลของพี่สะใภ้ดียิ่งนัก คนยังมีหน้าตางดงาม เรียกได้ว่าเป็นโฉมงามที่ยากจะพบพานในเมืองหลวง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความมั่งคั่งของสกุลซ่งภรรยาที่เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมงดงามและความสามารถ ทั้งยังมีเงินเช่นนี้ เรียกได้ว่าหาตัวจับยากโดยแท้!หากไม่ติดที่สถานะของเสด็จพี่ ผู้ชายมากมายก็คงอยากลองแย่งชิงดูสักครั้งกระมัง?ฮองเฮาเห็นว่าลูกสาวของตนเองคำก็พี่สะใภ้สองคำก็พี่สะใภ้ ท่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 920

    ฉู่มู่เหยาเห็นท่าทางเหมือนคนรักที่ในที่สุดก็สมหวังเสียทีของพวกฉู่จวินถิงสองคน ดวงตาก็ฉายแววอิจฉา ภาพเสิ่นหวยอันปรากฏขึ้นมาในความคิดโดยไม่รู้ตัวนางก็ถึงวัยออกเรือนแล้วเหมือนกันหลายวันก่อนนางได้ยินเสด็จแม่กับแม่นมพูดถึงเรื่องนี้ แต่บรรดาคุณชายที่ทั้งคู่พูดถึง นางไม่สนใจเลยสักนิดในหัวปรากฏภาพเสิ่นหวยอันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว คืนวานหลังเมาสุรา เขาพูดความในใจออกมาอย่างอดไม่ไหว นางค่อยรู้ว่าที่แท้เขาก็ชอบตนเองมาโดยตลอด แต่ติดที่ฐานะจึงไม่กล้าพูดออกมาก่อนหน้านั้นไปอีก ตอนที่พวกนางพบกันครั้งแรก เสิ่นหวยอันก็ชอบนางแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงพยายามคิดหาวิธีมาอยู่ข้างกายนางคืนวานนี้ ภาพต่างๆ ตั้งแต่พวกนางรู้จักกันโผล่เข้ามาในความคิดของนางไม่หยุดสิ่งดีๆ ที่เขาทำให้นาง นางล้วนเห็นอยู่กับตา ทุกความห่วงใยและความเอาใจใส่ล้วนทำให้นางรู้สึกหวั่นไหวคิดถึงตรงนี้ ฉู่มู่เหยาคล้ายกับว่าจะตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว อาศัยจังหวะที่ทุกคนกำลังอารมณ์ดียิ่ง นางพูดความคิดของตนเองออกมา“ความจริง...ข้าก็มีคนในดวงใจแล้วเหมือนกันเจ้าค่ะ”ชั่วขณะที่ฉู่มู่เหยาพูดออกมา ห้องที่เดิมทีกำลังคึกคักราวกับว่าเงียบสงัดลงในชั่วพริ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 921    

    นับตั้งแต่ที่ฉู่มู่เหยาเกือบได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่ถูกเสิ่นหวยอันนำตัวกลับมา ฮองเฮาก็กังวลว่าปัญหาเช่นนี้อาจเกิดขึ้นอีก จึงเตือนสติไว้เป็นการพิเศษหนึ่งครา    สิ่งที่ทำให้สตรีใจหวั่นไหวง่ายที่สุดเห็นจะไม่มีสิ่งใดเกินกว่าบุญคุณช่วยชีวิต มีหญิงสาวสักเท่าใดเล่าที่ยอมมอบกายถวายใจเพราะบุญคุณช่วยชีวิต?    เรื่องเช่นนี้หากเกิดกับผู้อื่นก็ว่าไปอย่าง แต่หากเกิดกับตัวของฉู่มู่เหยาแล้วไซร้ ย่อมเป็นสิ่งที่ยอมมิได้โดยเด็ดขาด    “เสด็จแม่ ข้าเข้าใจในพระดำริของเสด็จแม่ แต่ข้าเองก็รักใคร่ในตัวคุณชายเสิ่นจริงๆ”    “หากมิใช่เขาที่ช่วยข้า ในตอนนี้ข้าก็ยังมิรู้เลยว่าจะเป็นเช่นไร การเกิดจากภรรยารองก็หาใช่ความสมัครใจของเขาไม่ เพราะชาติกำเนิด จึงจะต้องตัดความหวังในการอยู่ร่วมกันระหว่างข้ากับเขาโดยสิ้นเชิงเชียวหรือ?”    ระหว่างคิ้วของฉู่มู่เหยาเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม “ก่อนหน้าเสด็จพี่และพี่สะใภ้ ทั้งสองมีใจชอบพอกัน หากมิใช่เพราะเสด็จแม่กลั่นแกล้งระหว่างนั้น ตอนนี้พวกเขาก็คงได้แต่งงานกันแต่เนิ่นแล้ว”    “บัดนี้ในเมื่อเสด็จแม่ยินยอมตอบตกลงกับพวกเขา เหตุใดถึงมิอาจยินยอมให้ข้าบ้าง? หรือจำต้องให้พวกเรา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 922    

    ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ตบมือของนาง แล้วดึงนางไปนั่งในห้อง “ตอนนี้ในหัวใจเจ้ากำลังคิดถึงเขา ย่อมรู้สึกว่าสิ่งใดก็ทนได้ทั้งนั้น”    “ยายถามเจ้าหน่อยเถิด เสื้อผ้าที่เจ้าสวมใส่อยู่ทุกวันล้วนแต่เป็นของดีที่สุด เนื้อผ้าหยาบไปเพียงนิด เจ้าสวมใส่ก็รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว เรื่องอาหารการกินข้าก็จะไม่พูดแล้ว แค่น้ำปรุงกับแป้งที่เจ้าทาก็เป็นของล้ำค่าที่สุดทั้งนั้น”    “กลัวก็แต่สกุลเสิ่นคงจะไม่เคยซื้อของเหล่านี้เลย ถึงตอนนั้นหากเจ้าจะแต่งงานกับเขาจริง ๆ ของเหล่านี้เจ้าก็จะไม่มีอีกต่อไป”    “สตรีแต่งงานตามสามีไป แม้เจ้าจะเคยเป็นองค์หญิง แต่เมื่อเจ้าแต่งงานก็จะเป็นฮูหยินของบุตรภรรยารองของสกุลเสิ่น ในงานเลี้ยงที่ผ่านมา เจ้าได้สังเกตดูดี ๆ บ้างหรือไม่?”    “ในงานใหญ่ ๆ พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วม การแต่งงานของสตรีมิใช่เรื่องง่าย ๆ เช่นนั้นมาแต่ไหนแต่ไร เจ้าคิดถึงสิ่งเหล่านี้หรือไม่?”    เดิมทีฉู่มู่เหยาที่มีท่าทีแน่วแน่อย่างถึงที่สุด เมื่อฟังคำพูดเหล่านี้แล้วค่อย ๆ ใจเย็นลง    ซ่งรั่วเจินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ฮูหยินผู้เฒ่าลู่เป็นผู้มีปัญญาจริง ๆ มีนางพูดกล่อมน่าจะทำให้มู่เหยาสามารถคิดได้ ยิ่งไม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 923    

    “เจ้าไปนั่งเป็นเพื่อนมู่เหยาที่ตำหนักของนางก่อนนะ” ฉู่จวินถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับซ่งรั่วเจิน    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ได้”    ฉู่มู่เหยาเดิมทีก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่ต่ออยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าซ่งรั่วเจินออกไปด้วย ก็ยิ่งดีใจเป็นอย่างมาก    เมื่อเห็นว่าทั้งสองออกไปแล้ว ใบหน้าของฮองเฮาก็ขรึมลงและกล่าวว่า “จวินถิง เรื่องนี้ไม่ว่าจะยังไงข้าก็มิยอมตกลงเป็นอันขาด เสิ่นหวยอันผู้นั้นกับมู่เหยาไม่เหมาะสมกันแม้แต่น้อย เจ้าจะทำร้ายน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองไม่ได้นะ!”    “เสด็จแม่วางใจเถิด ก่อนหน้านี้รั่วเจินบังเอิญเจอพวกเขาที่ริมถนนพอดี จึงเตือนให้ข้าไปสืบเรื่องเสิ่นหวยอัน” ฉู่จวินถิงกล่าว    ฮองเฮาแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าค่อย ๆ ผ่อนคลายลง “ผลการสืบสวนเป็นอย่างไรบ้าง?”    “เสิ่นหวยอันไม่ใช่คนที่สามารถฝากชีวิตได้อย่างแน่นอน”    เมื่อคำพูดนี้เปล่งออกมา ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าลู่ก็เริ่มขรึมลง “บุรุษผู้นี้ต้องชอบในฐานะของมู่เหยาเป็นแน่ ไม่แน่ว่าเรื่องที่เกือบจะเกิดอันตรายขึ้นก่อนหน้านี้ก็เกี่ยวข้องกับเขาด้วย”    “ข้ามิเข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดมู่เหยาตาบอดถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้ ตอนท

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status