Share

บทที่ 113

Author: จี้เวยเวย
“คิดไม่ถึงว่าจะเกิดไฟไหม้บนเรือของพวกเขาจึงสามารถเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของสองคนนั้นได้อย่างราบรื่น ประเดี๋ยวพวกเราเรียกพี่ใหญ่กับน้องสามมาดื่มฉลองด้วยกันดีหรือไม่?”

ซ่งรั่วเจินหยักมุมปากขึ้นเล็กน้อย “พี่รอง เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายดายปานนั้น...”

“น้องหญิงห้า เจ้าหมายความว่า...อีกสักครู่คนสกุลฉินจะมาเยือนที่จวนหรือ?”

หลังสงบลงแล้ว ซ่งอี้อันใคร่ครวญอย่างละเอียดก็ตระหนักถึงปัญหา

“วันนี้เปิดโปงเรื่องงามหน้าของฉินเซี่ยงเหิงกับจ้าวซูหว่าน สกุลจ้าวคงไม่มากเรื่องนัก แต่ฉินเซี่ยงเหิงเป็นสหายร่วมสำนักกับท่าน เป็นอดีตสหายสนิท เขาทำร้ายท่านจนตาบอดสองข้าง นี่คืออาชญากรรม!”

“พี่รอง ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าวันนั้นหลังเกิดเรื่องขึ้นกับท่าน ท่านแม่ไปแจ้งความกับทางการไว้ว่าอันธพาลลอบทำร้ายจนท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส”

“ยามนี้พบตัวผู้ร้ายแล้ว ทางการจะต้องมอบคำอธิบายให้พี่รองแน่นอน แต่ใกล้จะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิแล้ว สกุลฉินจะยอมปล่อยให้ฉินเซี่ยงเหิงพลาดโอกาสสอบรับราชการเพราะเรื่องนี้งั้นหรือ?”

ประกายแห่งสติปัญญาสะท้อนอยู่ในดวงตาของซ่งรั่วเจิน หากพลาดการสอบฤดูใบไม้ผลิครานี้ไปก็ต้องรอถึงสามปี

ฉินเซี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 114

    ฉินเจิงเดือดดาลอยู่เป็นทุนเดิม ครั้นได้ยินวาจาของบุตรชายทั้งสองก็ยกเท้าเตะไปทางฉินเซี่ยงเหิง“เจ้าลูกสารเลว ทำไมข้าถึงมีลูกทรพีแบบเจ้าได้!”ฉินเซี่ยงเหิงถูกเตะล้มโดยไม่ทันตั้งตัว ร้องเสียงต่ำด้วยความเจ็บปวด ถึงกับกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง“เหิงเอ๋อร์!” กู้อวิ๋นเวยหน้าเปลี่ยนสี รีบเข้ามาประคองฉินเซี่ยงเหิง ถามอย่างร้อนใจว่า “เจ้าไม่เป็นไรนะ? รีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า!”“ตามหมอมาตามทำไม? เจ้าลูกน่าขายหน้าพรรค์นี้ ปล่อยให้ตายไปทั้งอย่างนี้แหละ!”ฉินเจิงตวาดเสียงเกรี้ยว ในดวงตามีเพียงความเดือดดาล เพียงนึกถึงว่าจะต้องถูกเพื่อนร่วมงานเยาะเย้ยถากถางในท้องพระโรงวันพรุ่งนี้ เขาก็แค้นใจจนอยากตัดขาดสัมพันธ์พ่อลูกเสียให้ได้!“ท่านแม่ทัพ เรื่องนี้เหิงเอ๋อร์ทำไม่ถูกจริงๆ ท่านใจเย็นลงก่อน”กู้อวิ๋นเวยรีบร้อนเอ่ยปาก ตวัดสายตาไปทางคนสองคนที่จงใจกระพือไฟ ในใจมีความโกรธที่พูดออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงอดทนอดกลั้นเอาไว้อย่างเต็มกำลังนางเป็นภรรยาที่มาทีหลัง ถึงจะไม่ชอบบุตรชายที่อดีตภรรยาเอกให้กำเนิด แต่ก็ไม่อาจได้ชื่อว่าปฏิบัติต่อลูกๆ อย่างโหดร้าย ดังนั้นจะไม่พอใจอย่างไรก็ไม่สามารถเอ่ยปากตำหนิ“ท่านแม่ทัพ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 115

    สุดท้ายจ้าวซูหว่านก็ตายไปในฤดูหนาวคราวนั้นสำหรับฉินซวงซวง จ้าวซูหว่านเป็นเพียงสตรีที่ไม่สลักสำคัญคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจผู้ใดจะคาดคิดว่าวันนี้เรื่องราวจะลุกลามบานปลายเช่นนี้ ถึงกับถูกเปิดโปงออกมา เหตุใดเหตุการณ์ต่างๆ จึงแตกต่างจากชาติก่อนมากขนาดนี้?พอฉินซวงซวงมาถึงก็รีบถามว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ เรื่องนี้จะชักช้าไม่ได้ จะต้องไปแบกกิ่งหนามยอมรับความผิด[1]ที่จวนสกุลซ่งโดยเร็วที่สุดเจ้าค่ะ!”“แบกกิ่งหนามยอมรับความผิด? สกุลฉินของพวกเรายอมขายหน้าเช่นนั้นไม่ได้หรอกนะ!”ฉินเจิงมีสีหน้าบึ้งตึงที่ผ่านมา ซ่งหลินกดหัวเขาไว้มาโดยตลอด ยามนี้ในที่สุดซ่งหลินก็ตายไปในสนามรบได้เสียที สกุลซ่งปราศจากผู้นำ พวกเขายังจะต้องไปแบกกิ่งหนามยอมรับความผิดต่อสกุลซ่งอีก จะมิกลายเป็นเรื่องน่าขำไปหรอกรึ?“อนาคตของท่านพี่จะรอช้าไม่ได้ ตอนนี้มีแต่ต้องแบกกิ่งหนามยอมรับความผิดและได้รับการให้อภัยจากสกุลซ่ง จะให้เรื่องไปถึงทางการไม่ได้เด็ดขาดเจ้าค่ะ!”ฉินซวงซวงมีสีหน้าจริงจัง นี่เป็นวิธีคลี่คลายเพียงวิธีเดียวที่นางคิดออกในตอนนี้แม้เรื่องนี้พูดขึ้นมาแล้วอาจไม่น่าฟัง แต่ก็ไม่ได้ละเมิดกฎระเบียบของราชสำนัก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 116

    “พวกเจ้ายังไม่ได้ยินงั้นรึ? ฉินเซี่ยงเหิงผู้นั้นเป็นเดรัจฉานชัดๆ ก่อนหน้านี้ไม่เพียงลักลอบมีสัมพันธ์กับคู่หมั้นของคุณชายรองซ่ง ยังถึงขั้นมีลูกด้วยกันแล้ว!”“วันนี้ตอนถูกจับได้ที่ริมทะเลสาบยังไม่ยอมรับ สุดท้ายถูกคุณชายรองซ่งเปิดโปงต่อหน้าธารกำนัล ผู้ร้ายที่ทำร้ายคุณชายรองซ่งจนตาบอดสองข้างในตอนนั้นก็คือเขานี่แหละ!”ผู้คนที่มองดูด้วยความสงสารในตอนแรกพอได้ยินแบบนี้ก็พลันเปลี่ยนสีหน้า “เดรัจฉานแบบนี้ถูกตีจนตายก็นับว่าสมควรแล้ว!”“ใช่แล้ว ได้ยินว่ากระทั่งเรียงความก็ยังขโมยผลงานของคุณชายรองซ่งมา คนชั่วช้าสารเลวแบบนี้จะเขียนเรียงความดีๆ ออกมาได้อย่างไรกัน?”“ข้าว่านะ ทำไมแม่ทัพฉินต้องมาตีถึงหน้าประตูจวนสกุลซ่งด้วย จัดการสั่งสอนในบ้านตัวเองก็จบแล้วไม่ใช่รึ น่ากลัวว่าคงมาแสดงละครสิท่า?”ฉินเซี่ยงเหิงถูกประคบประหงมมาตั้งแต่เล็กจนโต มีมารดาคอยปกป้อง ไม่เคยถูกลงโทษด้วยกฎบ้านเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรับโทษโบยต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้!ตอนแรกนึกว่าทุกคนจะเห็นใจเขา คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงร่ำร้องสมน้ำหน้าตนเองเช่นนี้ น่าแค้นใจนักที่ไม่อาจด่าทอกลับไปได้!เขาแค่เล่นกับสตรีนางเดียวไม่ใช่หรื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 117

    “ซ่งฮูหยิน เซี่ยงเหิงสำนึกผิดแล้วจริงๆ เรื่องนี้พวกข้าเป็นฝ่ายผิดต่อพวกท่าน ขอเพียงสามารถชดใช้ความผิด ไม่ว่าพวกท่านจะให้พวกข้าทำอันใด พวกข้าล้วนยินดีทำ หวังเพียงพวกท่านคลายโทสะ” กู้อวิ๋นเวยขอร้อง“อี้อัน เจ้ากับเซี่ยงเหิงรู้จักกันมาหลายปี เป็นสหายร่วมสำนักที่ดีต่อกันมาตลอด ที่เขาทำเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ออกมาล้วนเป็นเพราะถูกจ้าวซูหว่านล่อลวง”“ยามนี้เขาสำนึกผิดแล้ว รู้สึกผิดต่อเจ้า เจ้าช่วยเห็นแก่มิตรภาพในอดีต ให้อภัยเขาสักครั้งได้หรือไม่?”ซ่งอี้อันมีสีหน้าเย็นชา “มิตรภาพในฐานะสหายร่วมสำนักระหว่างข้ากับฉินเซี่ยงเหิง จบสิ้นไปตั้งแต่ตอนที่เขาลักลอบมีสัมพันธ์กับจ้าวซูหว่านลับหลังข้าแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้อภัยหรือไม่ให้อภัย ต่อไปก็คงไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดต่อกันอีก”ฉินเจิงยังคงหวดแส้ไม่หยุดรอยเลือดบนแผ่นหลังฉินเซี่ยงเหิงมีมากขึ้นทุกที กระทั่งเสียงร้องก็เปลี่ยนจากเสียงโหยหวนในตอนแรกมาเป็นอ่อนแรงลงทีละนิด ราวกับกำลังจะถูกโบยจนตายกระนั้น“ในเมื่อซ่งฮูหยินกับคุณชายซ่งไม่ยินดีให้อภัย ข้าก็จะตีเจ้าลูกทรพีนี่ให้ตายเสีย!” ฉินเจิงไม่ยั้งมือเลยสักนิด แต่ดวงตาทั้งคู่กลับแดงก่ำผู้คนรอบข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 118

    “สกุลฉินพร่ำพูดขอโทษ แต่ไม่เห็นว่ามีความจริงใจสักแค่ไหน คุณชายรองสกุลซ่งตาบอดสองข้าง อนาคตพังทลาย พวกเขาแค่โบยลูกชายตัวเองยกเดียวก็พอแล้วงั้นรึ?”“บาดแผลอาจดูสาหัส แต่รักษาไม่นานก็หายดี คุณชายรองซ่งกลับต้องมองไม่เห็นไปชั่วชีวิต”“นั่นน่ะสิ ทำร้ายคนอื่นต้องชดใช้คืนถึงจะถูก โบยแค่ยกเดียวจะมีความหมายอะไร?”ซ่งรั่วเจินสบตากับคนในหมู่คนมุงแล้วเก็บสายตากลับมาอย่างพึงพอใจในเมื่อสกุลฉินผิดต่อพี่รองก็ต้องชดใช้คืนมาอย่างสมน้ำสมเนื้อ อาศัยแค่ลมปาก จะมีเรื่องดีที่ไร้ราคาแบบนั้นได้อย่างไร?กู้อวิ๋นเวยกับฉินเจิงสบตากัน สีหน้าล้วนไม่สู้ดี พูดมาถึงขั้นนี้ พวกเขาขึ้นหลังเสือยากจะลง เกรงว่าถ้าไม่นำสิ่งของที่มีราคาสักหน่อยออกมาก็คงจะไม่ได้“ซ่งฮูหยิน เซี่ยงเหิงทำลายอนาคตคุณชายรอง ข้ารู้ว่าไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่สามารถชดเชยบาดแผลของคุณชายรองได้ แต่พวกข้าก็อยากพยายามให้ถึงที่สุด...”ว่าแล้ว กู้อวิ๋นเวยก็ยื่นโฉนดในมือออกมาอย่างสุดแสนเสียดายก่อนจะออกเดินทาง นางตั้งใจเตรียมโฉนดมาทำพอเป็นพิธีไปอย่างนั้น นางเชื่อว่าขอแค่แสดงให้ดี หลิ่วหรูเยียนจะต้องไม่กล้ารับไว้แน่นอน ใครจะคาดคิดว่าจะมาติดขัดอยู่ตรงนี้ คิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 119

    “ฉินซวงซวงผู้นั้นรู้ทั้งรู้ว่าหลินจือเยว่มีพันธะหมั้นหมาย แต่ก็ยังพยายามจะเป็นภรรยาเอกอีกคนให้ได้ เลียนแบบแม่ของนางมาชัดๆ!”เสียงเยาะเย้ยถากถางดังขึ้นในฝูงชน ตอนนั้นกู้อวิ๋นเวยไม่สนใจการคัดค้านของครอบครัว ดึงดันจะแต่งงานกับแม่ทัพฉินให้ได้ ก่อให้เกิดวงกระเพื่อมไม่น้อยในเมืองหลวงเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่กลับดึงดันจะเป็นภรรยาเอกอีกคนของคนอื่น แม้ยามนั้นสุขภาพของฉินฮูหยินคนก่อนจะไม่ค่อยดี แต่ถึงอย่างไรคนก็ยังมีชีวิตอยู่ภายหลัง ฉินฮูหยินคนก่อนโทสะจู่โจมหัวใจแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว เกรงว่าคงไม่พ้นถูกนางทำให้โมโห สุดท้ายจึงได้เป็นภรรยาเอกคนใหม่สมใจกู้อวิ๋นเวยคิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะพูดถึงนาง ใบหน้าพลันซีดขาว นางถูกคนเย้ยหยันเพราะเรื่องนี้มาหลายปี ไม่ง่ายเลยกว่าคนจะค่อยๆ ลืมเลือนไป วันนี้กลับถูกเอ่ยถึงอีกครั้ง“จะว่าไปแล้ว สิ่งที่ฉินซวงซวงทำลงไป ฉินฮูหยินกับแม่ทัพฉินก็ไม่ได้มอบคำอธิบายอันใดออกมาเลยนี่!”หลิ่วหรูเยียนดวงตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง สองฝ่ายฉีกหน้ากันไปแล้ว นางยังต้องห่วงศักดิ์ศรีอะไรอีก?การปล่อยให้คนพวกนี้รังแกลูกๆ ของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะห่วงศักดิ์ศรีต่างหากถึงจะ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 120

    “จวนจะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิ เซี่ยงเหิงตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปีกว่าจะได้เป็นจวี่เหริน[1] เขาไม่อาจพลาดโอกาสในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ หวังว่าพวกท่านจะไม่เอาเรื่อง ปล่อยเขาไปสักครั้ง”ในที่สุดฉินเจิงก็กล่าวจุดประสงค์ที่แท้จริงออกมาเจ็ดวันหลังจากนี้ก็จะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิถ้าเกิดคดีความขึ้นในช่วงเวลานี้ เกรงว่าฉินเซี่ยงเหิงคงไม่มีกระทั่งสิทธิ์จะเข้าร่วมการสอบ นั่นไม่ได้เด็ดขาด!หลิ่วหรูเยียนได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็ต้องตกตะลึงในความหน้าด้านไร้ยางอายของฝ่ายตรงข้าม“ฉินเซี่ยงเหิงตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปี แล้วอี้อันเล่า?!”“ตอนเขาทุบอิฐก้อนนั้นลงมาไยไม่คิดบ้างว่าอี้อันก็ตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปี เกรงว่าคงเป็นเพราะอี้อันมีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวางกว่าเขาถึงได้ลงมือหนักขนาดนี้ใช่หรือไม่ คงเสียดายละสิที่อี้อันยังไม่ตาย?”ฉินเจิงเห็นหลิ่วหรูเยียนยังไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเสียทีก็เอ่ยเสียงต่ำ “เซี่ยงเหิงเขาสำนึกผิดแล้ว เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว ถึงตอนนี้จะเสียใจอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ซ่งฮูหยิน ท่านมองไปข้างหน้าหน่อยไม่ได้หรือ? พวกข้าละอายใจ วันหน้าหากมีเรื่องใดต้องการความช่วยเหลือ พวกข้าจะต้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 121

    วันนี้น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ได้ร้านค้าดีๆ มาอีกเช่นนี้ เรียกได้ว่าชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่!ทว่าซ่งรั่วเจินกลับกำลังพินิจเคราะห์เรื่องหนึ่งอยู่ คลับคล้ายคลับคลาว่ามีอะไรบางอย่างที่นางหลงลืมไป“น้องหญิงห้า เจ้าคิดอะไรอยู่?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถามซ่งรั่วเจินหันมอง “ข้ากำลังคิดว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเช่นนี้ เหตุใดฉินซวงซวงและหลินจือเยว่จึงไม่ปรากฏตัว?”นางรู้นิสัยของฉินซวงซวงดี เรื่องราวในหนังสือหลังจากที่นางเกิดใหม่แล้วนางอยากได้อะไรก็ล้วนสมดังใจ กิจธุระใดๆ ของจวนตระกูลฉินล้วนไม่ขาดนางมีส่วนร่วมเรียกได้ว่า แรกเริ่มเดิมทีนางถูกเพิกเฉยไร้คนตระกูลฉินใดเหลียวแล แต่ภายหลังกลับกลายเป็นที่รักของคนทั้งตระกูลฉินในวันสำคัญเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่ปรากฏตัว และเป็นไปไม่ได้อีกที่จะพลาดโอกาสงามในการวางแผนร่างอุบาย ดังนั้นต้องมีเหตุผลเป็นแน่“ฉินซวงซวงเพิ่งกลับจวนสกุลหลินเมื่อวาน จวบจนบัดนี้เงินที่หลินจือเยว่ค้างเอาไว้ยังไม่อาจชำระคืนได้ บ้านตนก็จวนตัวพอแล้ว ย่อมไม่สนจวนสกุลฉินเป็นธรรมดา” ซ่งจืออวี้ว่า“เงิน...”ซ่งรั่วเจินนึกถึงยามที่ตนสวนพบกันโดยผ่านๆ กับฉู่จวินถิงในวันนี้ ก็พลันเข้าใจขึ้น

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 721

    นางจำรายการสินเดิมในปีนั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงกำไรของร้านค้าที่เป็นสินเดิมเพราะหลายปีมานี้ผิดหวังกับอวิ๋นหงหล่างมาก นางจึงหันไปสนใจการค้านางและกู้หรูเยียนเป็นสหายที่ดีต่อกัน การค้าของสกุลซ่งดีมากถึงเพียงนี้ ย่อมชี้แนะนางเป็นอย่างดี ดังนั้นเงินที่หาได้ย่อมมีไม่น้อย ภายในนั้นเขียนไว้ในบัญชีรวมมากมายทว่านางเก็บรักษาบัญชีของร้านไว้อย่างดี แม้แต่ภายในจวนเบิกเงินของนางไปมากน้อยเพียงใด นางก็จำได้ทั้งหมดบัดนี้...จะเอาคืนกลับมาให้หมด!“พี่หญิง คืนของให้ท่านย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ท่านเองก็ต้องการมากเกินไปแล้ว”อนุอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ หันมองอวิ๋นหงหล่างอย่างกังวล กลัวเขาโมโหลงนามลงไปอวิ๋นหงหล่างย่อมไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปวดใจ แต่ยังลงนามประทับลายนิ้วมือลงไป“ตอนนี้ใช้ได้แล้ว พวกเจ้าสามารถช่วยคนได้แล้วกระมัง!”เห็นจางเหวินเก็บหนังสือหย่าไป ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้ข้าลงมือช่วยอนุอวิ๋นก็ย่อมได้ สามแสนตำลึง!”ถ้อยคำนี้พูดออกมา อวิ๋นหงหล่างก็โง่งมแล้ว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำเลยเถิดเกินไปนัก ทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่าขอเพียงลงนามในหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 720

    “ข้าคิดไว้ดีตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่วันที่ติดตามท่านแม่ออกจากสกุลอวิ๋น ข้าก็ไม่คิดกลับไปอีก”พูดไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อแวบหนึ่ง พูดว่า “ภายภาคหน้าไม่ว่าข้าแต่งกับใคร ต่อให้เป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่ง ข้าก็ยินดี”อย่างไรเสีย ชาตินี้หากไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้ ไม่ว่าแต่งกับใครก็ล้วนเหมือนกันเมื่อแรกท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อ ทุกคนล้วนพูดว่าแต่งได้ดี แต่สุดท้ายได้รับอะไรเล่า?อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะแต่งงานกับสามัญชน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือภายในแขนเสื้อกำแน่น ภายในก้นบึ้งของสายตาซับซ้อน“เจ้า ดีนักนะ!” อวิ๋นหงหล่างโมโหจนหัวเราะออกมา “ถึงตอนนั้นเจ้าหาทางออกไปได้ อย่ามาขอข้าให้ช่วยเจ้าก็แล้วกัน!”“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น ตรงข้ามกันภายในหัวใจท่านพ่อ ซีหว่านล้วนสำคัญที่สุดมาโดยตลอด”“นางทำผิดมากเพียงใดล้วนไม่เป็นไร ข้าเพียงทำผิดเล็กน้อยก็ถูกลงโทษ หากข้าตามท่านกลับไป ภายภาคหน้าบ้านหลังนี้มีอนุอวิ๋นดูแล ข้ายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูคิดตกแล้ว เดิมทีอนุอวิ๋นก็โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเขาล้วนมองออก มีเพียงบิดาที่มองไม่ออกบางที...บิดาอาจไม่ยอมมอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 719

    “ยังมีเจ้า!” หลิ่วหรูเยียนชี้อนุอวิ๋น “ตอนยังเป็นสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ช่างเถอะ บัดนี้แก่จนหน้าเหลืองแล้วกลับยังไม่แก้ไข หากชอบร้องไห้ถึงเพียงนั้น ตอนจัดงานศพก็ไปร้องที่นั่นสิ วิ่งมาสร้างความอัปมงคลที่จวนซ่งของพวกเราทำอันใด!”คนสกุลซ่งหันมองมารดาอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมามารดาอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เคยพูดจาเช่นนี้มาก่อน คำพูดวันนี้ช่าง...สาแก่ใจจริงๆ!จางเหวินที่เดิมทีโมโหแทบแย่กลับถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้ขำจนหัวเราะออกมานางหวนนึกถึงเมื่อครั้นยังอยู่ในวัยแรกรุ่น กู้หรูเยียนมีอุปนิสัยอ่อนโยนรังแกง่าย เพราะได้รับความทุกข์จากสกุลหลิ่ว ครอบครัวลำเอียง นางอธิบายไปแล้วก็ไม่มีใครฟัง หนำซ้ำยังถูกลงโทษ ดังนั้นกู้หรูเยียนจึงชินชากับการไม่อธิบายจนกระทั่งมีคนพูดว่าร้ายนาง นางได้เห็นคนอ่อนโยนนุ่มนวลเสมอมาอย่างกู้หรูเยียนออกมาตอบโต้คน ถึงขั้นด่ากลับไปความสะเทือนใจในตอนนั้นก็คล้ายตอนนี้ ฉากตรงหน้าแทบจะซ้อนทับกัน“หลายปีมานี้เจ้าไม่บอกข้ามาโดยตลอด หากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับความทุกข์เช่นนี้ จะต้องช่วยเจ้าด่าชายโฉดหญิงชั่วไร้ยางอายคู่นี้ดีๆ แน่!”จางเหวินจับมือกู้หรูเยียนไว้ ขอบตาแดงเรื่อ “ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 718

    “ข้าไม่ช่วย เดิมทีก็ถูกต้องตามหลักการ หาไม่แล้วคนชั่วในใต้หล้านี้ล้วนมาขอให้ข้าช่วยแก้ผลกรรมให้ นั่นยังไม่กลายเป็นโลกของคนชั่วอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านเป็นขุนนางในราชสสำนักมาหลายสิบปี ถึงขั้นไม่มีหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐานกระนั้นหรือ?”“หากท่านคิดว่าท่านพูดมีเหตุผล ก็สามารถพูดเรื่องทั้งหมดออกมาได้ พอดีจะได้ถามคนทั่วหล้าว่าคิดเห็นเหมือนท่านหรือไม่!”เพียงอนุอวิ๋นได้ยินก็รีบพูด “ข้ามิได้เชิญผีน้อยมาทำร้ายพี่หญิง ข้าเพียงหวังให้นางและนายท่านกลับมาคืนดีกัน ข้าเองก็ถูกคนชั่วนั่นหลอก”“หากข้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีวันทำเช่นนี้”“อ้อ งั้นหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ เนตรขนงเจือรอยยิ้ม “บัดนี้มีคนทำผิดเหมือนท่านไม่น้อย ราชสำนักมีบัญชีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว”“ไม่สู้ไปถามคนเหล่านั้นดู ตกลงพวกเขารู้หรือไม่ว่าที่เชิญผีน้อยมาก็เพื่อทำร้ายคน?”“ถ้อยคำนี้ ท่านหลอกตนเองก็ช่างเถอะ คิดว่าคนทั่วหล้าโง่เขลาเหมือนท่านหรือ?”สายตาซ่งรั่วเจินคมกริบ “ทำร้ายคนและช่วยคน ทำร้ายคนต้องชดใช้มากยิ่งกว่า หากท่านทำเพราะอยากให้ทั้งสองคนคืนดีกันจริง สิ่งที่ท่านเชิญกลับไป สมควรเป็นพระพุทธ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status