Share

บทที่ 112

Author: จี้เวยเวย
สายตาของซ่งรั่วเจินกวาดไปทางสวีเฮ่ออันและอวิ๋นเฉิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆ สหายของพี่รองล้วนมีชาติสกุลดี ฉินเซี่ยงเหิงไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุดในจำนวนนั้น เหตุใดจึงมีเขาคนเดียวที่ทำเรื่องแบบนี้?

สองคนนี้เดิมทีก็เป็นหญิงร้ายชายเลวไม่มีใครดีสักคน วันนี้พอเรื่องถูกเปิดโปงกลับโยนความผิดให้จ้าวซูหว่านคนเดียว ช่างน่าขันนัก!

คนอื่นไม่รู้ แต่นางกลับกระจ่างใจดีว่าฉินเซี่ยงเหิงเป็นคนเริ่มก่อน!

แม้ว่าในนิยายสุดท้ายแล้วจ้าวซูหว่านจะได้แต่งให้ฉินเซี่ยงเหิง แต่ก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดี

แต่ฉินซวงซวงเป็นนางเอกในนิยาย มีนางคอยคิดแผนการ เป็นคนทำให้ทั้งจวนหลินโหวและสกุลฉินได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงสามารถปิดบังเรื่องสกปรกของฉินเซี่ยงเหิงเอาไว้ได้

ครั้นพวกสวีเฮ่ออันคนถูกซ่งรั่วเจินมองมาก็รีบก้าวออกมาแสดงท่าที

“มีแต่คนหน้าหนาไร้ยางอายอย่างเจ้าถึงทำเรื่องผิดศีลธรรมพรรค์นี้ออกมาได้!”

อวิ๋นเฉิงเจ๋อตวัดสายตาไปทางเฉียนเหว่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเจ้ายังยินดีเป็นสหายกับคนแบบฉินเซี่ยงเหิงอยู่อีกงั้นรึ?”

พวกเฉียนเหว่ยเปลี่ยนท่าทีตั้งแต่เรื่องราวเปิดเผยออกมาแล้ว ถึงพวกเขาจะอิจฉาซ่งอี้อัน แต่ก็รังเกียจพฤติกรรมของฉินเซี่ยงเห
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 113

    “คิดไม่ถึงว่าจะเกิดไฟไหม้บนเรือของพวกเขาจึงสามารถเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของสองคนนั้นได้อย่างราบรื่น ประเดี๋ยวพวกเราเรียกพี่ใหญ่กับน้องสามมาดื่มฉลองด้วยกันดีหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินหยักมุมปากขึ้นเล็กน้อย “พี่รอง เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายดายปานนั้น...”“น้องหญิงห้า เจ้าหมายความว่า...อีกสักครู่คนสกุลฉินจะมาเยือนที่จวนหรือ?”หลังสงบลงแล้ว ซ่งอี้อันใคร่ครวญอย่างละเอียดก็ตระหนักถึงปัญหา“วันนี้เปิดโปงเรื่องงามหน้าของฉินเซี่ยงเหิงกับจ้าวซูหว่าน สกุลจ้าวคงไม่มากเรื่องนัก แต่ฉินเซี่ยงเหิงเป็นสหายร่วมสำนักกับท่าน เป็นอดีตสหายสนิท เขาทำร้ายท่านจนตาบอดสองข้าง นี่คืออาชญากรรม!”“พี่รอง ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าวันนั้นหลังเกิดเรื่องขึ้นกับท่าน ท่านแม่ไปแจ้งความกับทางการไว้ว่าอันธพาลลอบทำร้ายจนท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส”“ยามนี้พบตัวผู้ร้ายแล้ว ทางการจะต้องมอบคำอธิบายให้พี่รองแน่นอน แต่ใกล้จะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิแล้ว สกุลฉินจะยอมปล่อยให้ฉินเซี่ยงเหิงพลาดโอกาสสอบรับราชการเพราะเรื่องนี้งั้นหรือ?”ประกายแห่งสติปัญญาสะท้อนอยู่ในดวงตาของซ่งรั่วเจิน หากพลาดการสอบฤดูใบไม้ผลิครานี้ไปก็ต้องรอถึงสามปีฉินเซี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 114

    ฉินเจิงเดือดดาลอยู่เป็นทุนเดิม ครั้นได้ยินวาจาของบุตรชายทั้งสองก็ยกเท้าเตะไปทางฉินเซี่ยงเหิง“เจ้าลูกสารเลว ทำไมข้าถึงมีลูกทรพีแบบเจ้าได้!”ฉินเซี่ยงเหิงถูกเตะล้มโดยไม่ทันตั้งตัว ร้องเสียงต่ำด้วยความเจ็บปวด ถึงกับกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง“เหิงเอ๋อร์!” กู้อวิ๋นเวยหน้าเปลี่ยนสี รีบเข้ามาประคองฉินเซี่ยงเหิง ถามอย่างร้อนใจว่า “เจ้าไม่เป็นไรนะ? รีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า!”“ตามหมอมาตามทำไม? เจ้าลูกน่าขายหน้าพรรค์นี้ ปล่อยให้ตายไปทั้งอย่างนี้แหละ!”ฉินเจิงตวาดเสียงเกรี้ยว ในดวงตามีเพียงความเดือดดาล เพียงนึกถึงว่าจะต้องถูกเพื่อนร่วมงานเยาะเย้ยถากถางในท้องพระโรงวันพรุ่งนี้ เขาก็แค้นใจจนอยากตัดขาดสัมพันธ์พ่อลูกเสียให้ได้!“ท่านแม่ทัพ เรื่องนี้เหิงเอ๋อร์ทำไม่ถูกจริงๆ ท่านใจเย็นลงก่อน”กู้อวิ๋นเวยรีบร้อนเอ่ยปาก ตวัดสายตาไปทางคนสองคนที่จงใจกระพือไฟ ในใจมีความโกรธที่พูดออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงอดทนอดกลั้นเอาไว้อย่างเต็มกำลังนางเป็นภรรยาที่มาทีหลัง ถึงจะไม่ชอบบุตรชายที่อดีตภรรยาเอกให้กำเนิด แต่ก็ไม่อาจได้ชื่อว่าปฏิบัติต่อลูกๆ อย่างโหดร้าย ดังนั้นจะไม่พอใจอย่างไรก็ไม่สามารถเอ่ยปากตำหนิ“ท่านแม่ทัพ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 115

    สุดท้ายจ้าวซูหว่านก็ตายไปในฤดูหนาวคราวนั้นสำหรับฉินซวงซวง จ้าวซูหว่านเป็นเพียงสตรีที่ไม่สลักสำคัญคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจผู้ใดจะคาดคิดว่าวันนี้เรื่องราวจะลุกลามบานปลายเช่นนี้ ถึงกับถูกเปิดโปงออกมา เหตุใดเหตุการณ์ต่างๆ จึงแตกต่างจากชาติก่อนมากขนาดนี้?พอฉินซวงซวงมาถึงก็รีบถามว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ เรื่องนี้จะชักช้าไม่ได้ จะต้องไปแบกกิ่งหนามยอมรับความผิด[1]ที่จวนสกุลซ่งโดยเร็วที่สุดเจ้าค่ะ!”“แบกกิ่งหนามยอมรับความผิด? สกุลฉินของพวกเรายอมขายหน้าเช่นนั้นไม่ได้หรอกนะ!”ฉินเจิงมีสีหน้าบึ้งตึงที่ผ่านมา ซ่งหลินกดหัวเขาไว้มาโดยตลอด ยามนี้ในที่สุดซ่งหลินก็ตายไปในสนามรบได้เสียที สกุลซ่งปราศจากผู้นำ พวกเขายังจะต้องไปแบกกิ่งหนามยอมรับความผิดต่อสกุลซ่งอีก จะมิกลายเป็นเรื่องน่าขำไปหรอกรึ?“อนาคตของท่านพี่จะรอช้าไม่ได้ ตอนนี้มีแต่ต้องแบกกิ่งหนามยอมรับความผิดและได้รับการให้อภัยจากสกุลซ่ง จะให้เรื่องไปถึงทางการไม่ได้เด็ดขาดเจ้าค่ะ!”ฉินซวงซวงมีสีหน้าจริงจัง นี่เป็นวิธีคลี่คลายเพียงวิธีเดียวที่นางคิดออกในตอนนี้แม้เรื่องนี้พูดขึ้นมาแล้วอาจไม่น่าฟัง แต่ก็ไม่ได้ละเมิดกฎระเบียบของราชสำนัก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 116

    “พวกเจ้ายังไม่ได้ยินงั้นรึ? ฉินเซี่ยงเหิงผู้นั้นเป็นเดรัจฉานชัดๆ ก่อนหน้านี้ไม่เพียงลักลอบมีสัมพันธ์กับคู่หมั้นของคุณชายรองซ่ง ยังถึงขั้นมีลูกด้วยกันแล้ว!”“วันนี้ตอนถูกจับได้ที่ริมทะเลสาบยังไม่ยอมรับ สุดท้ายถูกคุณชายรองซ่งเปิดโปงต่อหน้าธารกำนัล ผู้ร้ายที่ทำร้ายคุณชายรองซ่งจนตาบอดสองข้างในตอนนั้นก็คือเขานี่แหละ!”ผู้คนที่มองดูด้วยความสงสารในตอนแรกพอได้ยินแบบนี้ก็พลันเปลี่ยนสีหน้า “เดรัจฉานแบบนี้ถูกตีจนตายก็นับว่าสมควรแล้ว!”“ใช่แล้ว ได้ยินว่ากระทั่งเรียงความก็ยังขโมยผลงานของคุณชายรองซ่งมา คนชั่วช้าสารเลวแบบนี้จะเขียนเรียงความดีๆ ออกมาได้อย่างไรกัน?”“ข้าว่านะ ทำไมแม่ทัพฉินต้องมาตีถึงหน้าประตูจวนสกุลซ่งด้วย จัดการสั่งสอนในบ้านตัวเองก็จบแล้วไม่ใช่รึ น่ากลัวว่าคงมาแสดงละครสิท่า?”ฉินเซี่ยงเหิงถูกประคบประหงมมาตั้งแต่เล็กจนโต มีมารดาคอยปกป้อง ไม่เคยถูกลงโทษด้วยกฎบ้านเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรับโทษโบยต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้!ตอนแรกนึกว่าทุกคนจะเห็นใจเขา คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงร่ำร้องสมน้ำหน้าตนเองเช่นนี้ น่าแค้นใจนักที่ไม่อาจด่าทอกลับไปได้!เขาแค่เล่นกับสตรีนางเดียวไม่ใช่หรื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 117

    “ซ่งฮูหยิน เซี่ยงเหิงสำนึกผิดแล้วจริงๆ เรื่องนี้พวกข้าเป็นฝ่ายผิดต่อพวกท่าน ขอเพียงสามารถชดใช้ความผิด ไม่ว่าพวกท่านจะให้พวกข้าทำอันใด พวกข้าล้วนยินดีทำ หวังเพียงพวกท่านคลายโทสะ” กู้อวิ๋นเวยขอร้อง“อี้อัน เจ้ากับเซี่ยงเหิงรู้จักกันมาหลายปี เป็นสหายร่วมสำนักที่ดีต่อกันมาตลอด ที่เขาทำเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ออกมาล้วนเป็นเพราะถูกจ้าวซูหว่านล่อลวง”“ยามนี้เขาสำนึกผิดแล้ว รู้สึกผิดต่อเจ้า เจ้าช่วยเห็นแก่มิตรภาพในอดีต ให้อภัยเขาสักครั้งได้หรือไม่?”ซ่งอี้อันมีสีหน้าเย็นชา “มิตรภาพในฐานะสหายร่วมสำนักระหว่างข้ากับฉินเซี่ยงเหิง จบสิ้นไปตั้งแต่ตอนที่เขาลักลอบมีสัมพันธ์กับจ้าวซูหว่านลับหลังข้าแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้อภัยหรือไม่ให้อภัย ต่อไปก็คงไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดต่อกันอีก”ฉินเจิงยังคงหวดแส้ไม่หยุดรอยเลือดบนแผ่นหลังฉินเซี่ยงเหิงมีมากขึ้นทุกที กระทั่งเสียงร้องก็เปลี่ยนจากเสียงโหยหวนในตอนแรกมาเป็นอ่อนแรงลงทีละนิด ราวกับกำลังจะถูกโบยจนตายกระนั้น“ในเมื่อซ่งฮูหยินกับคุณชายซ่งไม่ยินดีให้อภัย ข้าก็จะตีเจ้าลูกทรพีนี่ให้ตายเสีย!” ฉินเจิงไม่ยั้งมือเลยสักนิด แต่ดวงตาทั้งคู่กลับแดงก่ำผู้คนรอบข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 118

    “สกุลฉินพร่ำพูดขอโทษ แต่ไม่เห็นว่ามีความจริงใจสักแค่ไหน คุณชายรองสกุลซ่งตาบอดสองข้าง อนาคตพังทลาย พวกเขาแค่โบยลูกชายตัวเองยกเดียวก็พอแล้วงั้นรึ?”“บาดแผลอาจดูสาหัส แต่รักษาไม่นานก็หายดี คุณชายรองซ่งกลับต้องมองไม่เห็นไปชั่วชีวิต”“นั่นน่ะสิ ทำร้ายคนอื่นต้องชดใช้คืนถึงจะถูก โบยแค่ยกเดียวจะมีความหมายอะไร?”ซ่งรั่วเจินสบตากับคนในหมู่คนมุงแล้วเก็บสายตากลับมาอย่างพึงพอใจในเมื่อสกุลฉินผิดต่อพี่รองก็ต้องชดใช้คืนมาอย่างสมน้ำสมเนื้อ อาศัยแค่ลมปาก จะมีเรื่องดีที่ไร้ราคาแบบนั้นได้อย่างไร?กู้อวิ๋นเวยกับฉินเจิงสบตากัน สีหน้าล้วนไม่สู้ดี พูดมาถึงขั้นนี้ พวกเขาขึ้นหลังเสือยากจะลง เกรงว่าถ้าไม่นำสิ่งของที่มีราคาสักหน่อยออกมาก็คงจะไม่ได้“ซ่งฮูหยิน เซี่ยงเหิงทำลายอนาคตคุณชายรอง ข้ารู้ว่าไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่สามารถชดเชยบาดแผลของคุณชายรองได้ แต่พวกข้าก็อยากพยายามให้ถึงที่สุด...”ว่าแล้ว กู้อวิ๋นเวยก็ยื่นโฉนดในมือออกมาอย่างสุดแสนเสียดายก่อนจะออกเดินทาง นางตั้งใจเตรียมโฉนดมาทำพอเป็นพิธีไปอย่างนั้น นางเชื่อว่าขอแค่แสดงให้ดี หลิ่วหรูเยียนจะต้องไม่กล้ารับไว้แน่นอน ใครจะคาดคิดว่าจะมาติดขัดอยู่ตรงนี้ คิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 119

    “ฉินซวงซวงผู้นั้นรู้ทั้งรู้ว่าหลินจือเยว่มีพันธะหมั้นหมาย แต่ก็ยังพยายามจะเป็นภรรยาเอกอีกคนให้ได้ เลียนแบบแม่ของนางมาชัดๆ!”เสียงเยาะเย้ยถากถางดังขึ้นในฝูงชน ตอนนั้นกู้อวิ๋นเวยไม่สนใจการคัดค้านของครอบครัว ดึงดันจะแต่งงานกับแม่ทัพฉินให้ได้ ก่อให้เกิดวงกระเพื่อมไม่น้อยในเมืองหลวงเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่กลับดึงดันจะเป็นภรรยาเอกอีกคนของคนอื่น แม้ยามนั้นสุขภาพของฉินฮูหยินคนก่อนจะไม่ค่อยดี แต่ถึงอย่างไรคนก็ยังมีชีวิตอยู่ภายหลัง ฉินฮูหยินคนก่อนโทสะจู่โจมหัวใจแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว เกรงว่าคงไม่พ้นถูกนางทำให้โมโห สุดท้ายจึงได้เป็นภรรยาเอกคนใหม่สมใจกู้อวิ๋นเวยคิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะพูดถึงนาง ใบหน้าพลันซีดขาว นางถูกคนเย้ยหยันเพราะเรื่องนี้มาหลายปี ไม่ง่ายเลยกว่าคนจะค่อยๆ ลืมเลือนไป วันนี้กลับถูกเอ่ยถึงอีกครั้ง“จะว่าไปแล้ว สิ่งที่ฉินซวงซวงทำลงไป ฉินฮูหยินกับแม่ทัพฉินก็ไม่ได้มอบคำอธิบายอันใดออกมาเลยนี่!”หลิ่วหรูเยียนดวงตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง สองฝ่ายฉีกหน้ากันไปแล้ว นางยังต้องห่วงศักดิ์ศรีอะไรอีก?การปล่อยให้คนพวกนี้รังแกลูกๆ ของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะห่วงศักดิ์ศรีต่างหากถึงจะ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 120

    “จวนจะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิ เซี่ยงเหิงตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปีกว่าจะได้เป็นจวี่เหริน[1] เขาไม่อาจพลาดโอกาสในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ หวังว่าพวกท่านจะไม่เอาเรื่อง ปล่อยเขาไปสักครั้ง”ในที่สุดฉินเจิงก็กล่าวจุดประสงค์ที่แท้จริงออกมาเจ็ดวันหลังจากนี้ก็จะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิถ้าเกิดคดีความขึ้นในช่วงเวลานี้ เกรงว่าฉินเซี่ยงเหิงคงไม่มีกระทั่งสิทธิ์จะเข้าร่วมการสอบ นั่นไม่ได้เด็ดขาด!หลิ่วหรูเยียนได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็ต้องตกตะลึงในความหน้าด้านไร้ยางอายของฝ่ายตรงข้าม“ฉินเซี่ยงเหิงตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปี แล้วอี้อันเล่า?!”“ตอนเขาทุบอิฐก้อนนั้นลงมาไยไม่คิดบ้างว่าอี้อันก็ตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปี เกรงว่าคงเป็นเพราะอี้อันมีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวางกว่าเขาถึงได้ลงมือหนักขนาดนี้ใช่หรือไม่ คงเสียดายละสิที่อี้อันยังไม่ตาย?”ฉินเจิงเห็นหลิ่วหรูเยียนยังไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเสียทีก็เอ่ยเสียงต่ำ “เซี่ยงเหิงเขาสำนึกผิดแล้ว เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว ถึงตอนนี้จะเสียใจอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ซ่งฮูหยิน ท่านมองไปข้างหน้าหน่อยไม่ได้หรือ? พวกข้าละอายใจ วันหน้าหากมีเรื่องใดต้องการความช่วยเหลือ พวกข้าจะต้อ

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 642

    ลู่หมิ่นฮุ่ยเห็นคนทั้งสองจากไปแล้วก็ไม่มีแก่ใจมาสนทนากับพระชายาเซียงอ๋องต่ออีก หากแต่รีบสั่งความลงไปผ่านไปไม่นาน ข้ารับใช้ก็กลับมาแล้ว“พระชายา หลังตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่ามุมหนึ่งฝั่งตะวันตกมีน้ำรั่วซึมจริงๆ เป็นเส้นเล็กๆ ซ่อนอยู่ลับตายิ่งนัก”“หากไม่ใช่เพราะทุกคนตรวจหาโดยละเอียดแล้วละก็ คิดว่าคงหาไม่พบเลย”“มีจริงๆ อย่างนั้นรึ?”ลู่หมิ่นฮุ่ยเบิกตากว้าง รู้สึกเพียงว่าซ่งรั่วเจินร้ายกาจเกินไปแล้ว!นางหยิบยันตร์คุ้มภัยออกมาจากในอกเสื้อโดยไม่รู้ตัว ครั้นคิดถึงว่าก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินบอกว่าลูกน้อยในครรภ์จะถือกำเนิดอย่างปลอดภัยแน่นอน รอยยิ้มบนใบหน้านางก็ยิ่งสดใสกว่าเดิม“ก่อนนี้ข้าไม่ควรฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างจนเข้าใจแม่นางซ่งผิดไปเลย ยามนี้ดูแล้วแม่นางผู้นี้ดีไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ”“ไป ไปนำเครื่องประดับที่ข้าเก็บรักษาไว้อย่างดีออกมา ข้าจะต้องเลือกเครื่องประดับสักสองสามชุดส่งไปขอบคุณสักหน่อยแล้ว!”……เมื่อซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงมาถึงเรือนหลังเล็กของสกุลจาง อวิ๋นเนี่ยนชูกำลังมีสีหน้าหนักอึ้งนางเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้ว ดวงตาก็พลันเป็นประกาย รีบรุดออกมา “รั่วเจิน ท่านอ๋อง พวกท่านมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 641

    ได้ยินคำพูดของลู่หมิ่นฮุ่ยแล้ว ทุกคนพลันเปลี่ยนสีหน้าไปโดยไม่รู้ตัว หรือว่าไม่ได้มีแค่คนที่ต้องการทำร้ายพระชายาเซียงอ๋องเท่านั้น แต่ยังคิดจะลงมือกับพระชายาอันหลานอีกด้วย?“น้องหญิงหมิ่นฮุ่ย ยามนี้เจ้าตั้งครรภ์อยู่ มีคนคิดร้ายต่อเจ้าด้วยงั้นรึ?”พระชายาเซียงอ๋องมีสีหน้ากังวลใจ หลายวันนี้นางผ่านมาอย่างลำบากยากเย็นเพียงไรมีเพียงตัวนางเองที่รู้ ถ้าเป็นคนที่ตั้งครรภ์อยู่จะต้องแบกรับไม่ไหวแน่นอนสีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นครั้งเดียวก็น่ากลัวมากพอแล้ว อย่าว่าแต่เกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน คนที่อยู่เบื้องหลังคงไม่ได้ร่วมมือกันหรอกนะ?“พระชายาอันหลาน สถานการณ์ของท่านไม่เหมือนว่าจะเป็นฝีมือของผีน้อยนะเพคะ หากเป็นผีน้อย สิ่งที่ฝันเห็นไม่มีทางเรียบง่ายเช่นนี้” ซ่งรั่วเจินกล่าวลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไปเล็กน้อยแล้วมองไปทางพระชายาเซียงอ๋องโดยไม่รู้ตัว สีหน้าของพระชายาเซียงอ๋องก็เปลี่ยนไปดังคาด หลายวันนี้ในฝันร้ายของนางเต็มไปด้วยผีสางต้องการมาเอาชีวิตนาง แต่หลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น น่ากลัวยิ่งนัก“แล้วข้าเป็นอะไรไปงั้นหรือ?” ลู่หมิ่นฮุ่ยอดถามไม่ได้“พระชายา ท่านลองเล่าความฝันของท่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 640

    มีคนเลี้ยงผีน้อย ตั้งใจทำร้ายพระชายาเซียงอ๋อง วิธีการนี้อำมหิตยิ่งนักฝันร้ายเป็นเวลานาน ยังไม่ต้องพูดว่าพักผ่อนไม่ดีคนโทรมขึ้น ที่ตามมาคือฝันร้ายรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จิตใจคนเปลี่ยนไปกลายเป็นเสียสติเช่นนี้แล้ว ทุกคนก็รอเพียงพระชายาเซียงอ๋องเสียสติ เดิมทีก็ไม่มีคนสังเกตเห็นว่ามีคนมีเจตนาชั่วต้องการทำร้ายถ้อยคำนี้พูดออกมา สีหน้าพระชายาเซียงอ๋องเปลี่ยนไป สมองคิดทบทวนเป็นพันเป็นหมื่นรอบ ใคร่ครวญว่าใครต้องการทำร้ายนางกันแน่“ท่านแม่ เมื่อวานข้าได้ยินอวิ๋นฮูหยินพูดว่าระยะนี้ก็ฝันร้ายเฉกเดียวกัน สถานการณ์ไม่ต่างจากท่านนัก ข้าคิดว่าอาจเกี่ยวข้องกับวัดอวิ๋นฉานที่ท่านไปบ่อยๆ ในระยะนี้”“ท่านคิดดูอย่างละเอียดเถอะ มีปัญหาที่ใดหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยนึกถึงผลลัพธ์หลังได้สนทนากับอวิ๋นเนี่ยนชูเมื่อวาน ความเป็นไปได้มากที่สุดคือเกี่ยวข้องกับวัดอวิ๋นฉานมีคนลอบทำร้ายท่านแม่อยู่เบื้องหลัง หากไม่จับคนผู้นี้ออกมา ก็ยากจะกินอิ่มนอนหลับอย่างไร้กังวลได้!“วัดอวิ๋นฉาน?”รูม่านตาพระชายาเซียงอ๋องหดลง คล้ายนึกถึงบางอย่างขึ้นได้ แต่สีหน้ากลับมาสงบลงอย่างรวดเร็ว มิได้พูดมากความอีกซ่งรั่วเจินเห็นภาพนี้อยู่ใ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 639

    บัดนี้ลู่หมิ่นฮุ่ยเชื่อคำพูดของซ่งรั่วเจินมากเรื่องสกุลหลิ่วและสกุลกู้สลับตัวเด็กกัน ผ่านมานานหลายปีแล้วกลับไม่มีคนพบ ซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นความผิดปกติก็ทำนายออกมาได้แล้ว มองออกว่านางยอดเยี่ยมมากเพียงใดคาดว่าฝันร้ายของพระชายาเซียงอ๋องจะต้องเกิดจากสิ่งชั่วร้ายมารบกวน นางจะต้องสืบออกมาได้แน่นับตั้งแต่ซ่งรั่วเจินเข้ามาก็สำรวจสถานการณ์ภายในเรือนแล้ว ชั่วขณะได้พบพระชายาเซียงอ๋อง ก็พบพลังงานมืดอ่อนๆ บนตัว เห็นได้ว่าการหยั่งเดาของนางเมื่อวานนี้ถูกต้องแล้ว“พระชายาเซียงอ๋องถูกสิ่งสกปรกแปดเปื้อนอยู่จริงๆ”ถ้อยคำนี้พูดออกมา สีหน้าคนภายในห้องล้วนเปลี่ยนไป ถึงขั้นเป็นเรื่องจริง!“แม่นางซ่ง เช่นนั้นยังมีวิธีแก้ไขหรือไม่?” ฉู่จิ่นหวยรีบเอ่ยถามจากนั้น ฉู่จวินถิงกลับดึงนางไปที่ฝั่งหนึ่ง สายตาล้ำลึกดุจมหาสมุทรสะท้อนแววกังวล “จะได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินนึกถึงการแสดงสมจริงของตนก่อนหน้านี้ขึ้นมา ยามกระอักโลหิตออกมาครั้งนั้น ส่ายหน้าพูดว่า “วางใจเถอะ ก็แค่ผีน้อยสองสามตนเท่านั้น ทำอันใดหม่อมฉันไม่ได้”ฉู่จวินถิงเห็นท่าทางผ่อนคลายของฝ่ายหญิง นี่ถึงวางใจลงพระชายาเซียงอ๋องและลู่หมิ่นฮุ่ย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 638

    ผ่านไปเพียงไม่นาน ลู่หมิ่นฮุ่ยก็มาถึงแล้วนับตั้งแต่เข้ามา สายตาของนางก็ตกลงบนตัวซ่งรั่วเจิน ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายซ่งรั่วเจินถูกสายตานี้มองเสียจนประหม่า เกิดความสงสัยภายในใจ ระยะนี้นางมิได้ล่วงเกินพระชายาอันหลาน คงมิใช่มาคิดบัญชีกับนางเพราะฮองเฮาหรอกกระมัง?ดวงตาดำดุจหมึกของฉู่จวินถิงสะท้อนความสงสัยสายหนึ่ง ขยับขึ้นมากำบังซ่งรั่วเจินไว้ข้างหลัง เอ่ยว่า “ท่านน้า วันนี้ท่านมาพบท่านป้าด้วยเหตุใด?”“ไม่ใช่” ลู่หมิ่นฮุ่ยโบกมือ “ข้าได้ยินว่าวันนี้เจ้าและแม่นางซ่งมา นี่จึงตั้งใจมาพบ”พูดไป มองเห็นลู่หมิ่นฮุ่ยสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มกว้างจับมือซ่งรั่วเจิน ตบๆ อย่างสนิทสนม“แม่นางซ่ง ครั้งก่อนขอบคุณเจ้ามาก หากไม่ใช่เจ้าช่วยข้า ข้ายังไม่รู้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ยามใด”“พระชายาไม่จำเป็นต้องเกรงใจถึงเพียงนี้ ต่อให้หม่อมฉันไม่พูด พระชายาก็จะมีข่าวดีอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวินถิงเห็นท้องนูนขึ้นมาเล็กน้อยของลู่หมิ่นฮุ่ย นึกได้ว่าชาติก่อนท่านน้ามิได้ตั้งครรภ์ว่องไวถึงเพียงนี้หากไม่ใช่รั่วเจินกล่าวเตือน ยังต้องรออีกหนึ่งปี ครรภ์นี้ต้องขอบคุณรั่วเจินจริงๆ“ไม่ๆ ต้องขอบคุณเจ้า!”รอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 637

    เช้าวันต่อมา ฉู่จวินถิงมารับซ่งรั่วเจินแล้วซ่งจืออวี้เห็นว่าเพิ่งได้สนทนากับน้องสาวบ้านตนสองประโยค คนก็จากไปแล้ว สลดใจอย่างอดไม่ได้“เมื่อวานน้องหญิงห้าก็ออกไปกับฉู่อ๋องทั้งวันแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดวันนี้ยังไปอีกเล่า? ฉู่อ๋องมาเยี่ยมเยียนบ่อยเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่มีอะไรน่าแปลกกัน? ได้พบกับแม่นางที่ชมชอบย่อมต้องเร็วสักหน่อย หาไม่แล้วจะได้อุ้มหญิงงามกลับไปยามใดกันเล่า?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าเข้าใจ ผินมองซ่งจืออวี้สายตารังเกียจแวบหนึ่ง “มิน่าเล่าท่านถึงยังไม่เปิดใจ!”“เจ้ากลับเปิดใจแล้ว ยังมิสู้ไม่เปิดใจ!” ซ่งจืออวี้เย้ยหยันกลับไป เย้ยหยันเขาด้านอื่นก็ช่างเถอะ บัดนี้ซ่งจิ่งเซินยังเย้ยหยันเขาด้านนี้ นั่นไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย!“ได้ยินมาว่าสองวันนี้เคอหยวนจื่อปรากฎตัวภายในร้าน น่าจะตั้งใจมาหาเจ้ากระมัง? เมื่อวานยามข้าไปหยิบของที่ร้าน นางเกือบจำข้าเป็นเจ้าไปแล้ว”ซ่งจิ่งเซินหน้าดำทึบทึม “ข้ายอมรับ ก่อนนี้ข้าตาบอด พอใจแล้วกระมัง!”ซ่งจืออวี้หัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ข้าเห็นว่าหลายวันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ ปล่อยให้ผู้ดูแลมารายงานสถานการณ์กับเจ้าในจวนก็พอ หาไม่แล้วเคอหยวนจื่อและสหายน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 636

    ดวงตาฉู่จิ่นหวยทอประกาย “ใช่แล้ว ก็เป็นเช่นนี้! ข้าถามท่านแม่ว่าตกลงฝันถึงอะไร นางกลับไม่ยอมพูด พูดเพียงหลับไม่สนิท บอกให้ข้าไม่ต้องกังวล”“พูดเช่นนี้แล้ว สถานการณ์ของพวกเขาล้วนเหมือนกัน?” คนเงียบขรึมอย่างฉู่จวินถิงขมวดคิ้ว สังเกตเห็นปัญหาอย่างว่องไว “เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด?”“ท่านแม่ข้าบอกว่าเมื่อเจ็ดวันก่อน” ฉู่จิ่นหวยเอ่ยตอบอวิ๋นเนี่ยนชูกลับพูด “แม่ข้าเมื่อห้าวันก่อน”“ที่แท้ก็ฝันต่อเนื่องกันหลายวันนี่เอง พวกเราเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่หลายวันนี้ไม่เพียงจิตใจว้าวุ่น แม้แต่คนก็เริ่มบ่นงึมงำ ข้ารู้สึกผิดปกติยิ่งนัก”ได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่ท่านป้าและพระชายาเซียงอ๋องคล้ายไม่มีอะไร เหตุใดถึงฝันร้ายเช่นนี้เล่า?“ระยะอันใกล้นี้มีสิ่งของพิเศษอันใดเพิ่มขึ้นมา หรือมีที่ใดพิเศษบ้างหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยครุ่นคิด พูดว่า “วันปกติท่านแม่ซื้อของไม่น้อย ส่วนมีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมานั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”“ระยะนี้ท่านน้ามิได้เพิ่มสิ่งใด เพียงแต่เมื่อห้าวันก่อนอนุอวิ๋นมาเที่ยวหนึ่ง อ้างว่าหวังดีต่อนางจึงนำของบางส่วนส่งมาให้ แต่ท่านน้าให้คนโยนทิ้งไปทั้งหมด”“ต่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 635

    ในห้องรับรองส่วนตัว อวิ๋นเนี่ยนชูนั่งลงด้านข้างซ่งรั่วเจิน สายตามองไปมาระหว่างซื่อจื่อน้อยผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มและฉู่อ๋องใบหน้าเย็นชาไม่หยุดนางอดไม่ได้ที่จะดึงมือของซ่งรั่วเจินและกระซิบว่า “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่ค่อนข้างแปลกกัน?”ซ่งรั่วเจินลดเสียงลง “บางทีพวกเขาอาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยสนิทกันนัก?”อวิ๋นเนี่ยนชูรู้สึกอึดอัด “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”ซ่งรั่วเจินเฝ้ามองอาหารเลิศรสที่ถูกนำมาทีละจาน จึงพูดสร้างบรรยากาศขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าอาหารในหอสุราเลิศรสอย่างมาก ปกติแล้วจะต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ทุกท่านมาลองชิมดูกันดูเถอะ?”ขณะพูด นางก็คีบกุ้งใส่ลงในชามของฉู่จวินถิง ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มนับตั้งแต่เข้ามา ฉู่จวินถิงก็มีสีหน้าเย็นชา ต้องพูดเลยว่ายามเขาไม่ยิ้ม จะมีบรรยากาศกดดันอย่างยิ่งจนผู้อื่นไม่กล้าหายใจฉู่จวินถิงเหลือบมองกุ้งในชาม คิ้วคลายออกเล็กน้อย และยื่นมือไปคีบอาหารให้ซ่งรั่วเจิน “วันนี้เดินเล่นมานานมากแล้ว เจ้าก็คงหิวมากแล้ว กินเยอะๆ เล่า”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า นางก็ไม่เกรงใจและเริ่มกินทันที ทั้งยังพูดกับอวิ๋นเนี่ยนชูและคนอื่นๆ ว่า “พวกท่านก็รีบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 634

    เมื่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ที่นั่นก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที ทว่าก็เข้าใจในไม่ช้า “เนี่ยนชู เจ้าจะไปหาคุณหนูซ่งเพื่อพูดคุยเรื่องฝันร้ายของท่านน้าใช่หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินชะงักไปชั่วครู่ ก่อนมองไปที่อวิ๋นเนี่ยนชูโดยไม่รู้ตัว “ท่านป้าก็ฝันร้ายเช่นกันหรือเจ้าคะ?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “ช่วงนี้ท่านพ่อของข้ามักจะไปหาท่านแม่ตลอด ท่านตากับท่านน้าเองก็คอยไปกดดันท่านแม่ โดยหวังว่าท่านแม่จะเปลี่ยนใจทว่าท่านแม่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ สถานการณ์จึงตึงเครียดไปหมด อนุอวิ๋นคนนั้นชอบสร้างเรื่อง ชอบพูดจาเสียดสีอยู่เรื่อย เพียงหวังว่าท่านแม่ของข้าจะไม่กลับไป นางจะได้มีโอกาสขึ้นเป็นอวิ๋นฮูหยินตอนแรกท่านแม่เพียงจิตใจเหนื่อยล้า ทว่าต่อมาจู่ๆ ก็เริ่มฝันร้ายจึงไปหาท่านหมอ ท่านหมอเพียงบอกว่านางวิตกกังวลมากเกินไปและความทุกข์รุมเร้า จึงจ่ายยาสงบใจให้จำนวนหนึ่งวันนี้ข้านัดพบกับท่านพี่ที่นี่ก็เพื่อคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้”อย่างไรก็ตาม อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลับพูดว่า “คุณหนูซ่ง ข้าคิดว่าสถานการณ์ของท่านน้าไม่ง่ายขนาดนั้น กลัวว่าจะเป็นการกระทำของวิญญาณร้าย”“เหตุใดคุณชายอวิ๋นจึงพูดเช่นนี้?”“แม้ว่าหลายปีมานี้ใน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status