ไป๋จ้าวเหม่ยเดินตามสองพ่อลูกกลับเข้ามาในบ้าน เธอเห็นเด็กน้อยนั่งร้องไห้อยู่มุมห้อง โดยมีคนเป็นพ่อกำลังกอดปลอบ ทว่าคำสอนของอู๋เหวยยิ่งฟัง หัวคิ้วของหญิงสาวก็ยิ่งขมวดแน่น
“พ่อรู้ว่าลูกไม่ชอบไป๋จ้าวเหม่ย และจริง ๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นนิสัยไม่ดี แต่ลูกก็ไม่ควรจะไปต่อว่าเธอแบบนั้น เพราะนั่นจะทำให้ลูกเหมือนกับเธอ กลายเป็นคนไม่ดีเหมือนเธอ เฮ้อ...พ่อไม่อยากให้ซวนซวนนิสัยเลวร้ายเข้าใจหรือเปล่าครับ”
“แต่เธอพูดเหมือนไม่เคยแย่งของหนูกิน ทั้ง ๆ ที่เธอแย่งทุกอย่าง”
“นั่นเพราะเธอเป็นผีหิวโซ เป็นตัวตะกละยังไงล่ะ เราไม่ใช่คนแบบเดียวกันกับเธอ เราไม่ตะกละและไม่อยากได้ของของคนอื่น” จะสอนลูกดี ๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องดึงเธอเข้าไปด่าด้วย ถึงจะรู้ว่าพ่อลูกคู่นั้นด่าร่างเดิม แต่ขอละตอนนี้เธออยู่ในร่างนี้นะ!
ไป๋จ้าวเหม่ยเลิกสนใจพ่อลูกคู่นี้อีก เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เธอหยิบกล่องอาหารที่อู๋เหวยเอามา และจากที่หลิวชิงฮุยเอามา แค่นี้กับข้าวก็มีถึงห้าอย่างแล้ว ไม่ต้องทำเพิ่ม เหลือแค่เพียงหุงข้าวเท่านั้น หญิงสาวยกกล่องอาหารเข้าไปในครัว พอดีกับที่มีคนมาซ่อมรถที่หน้าบ้าน อู๋เหวยจึงแยกไปอีกทาง
แต่เมื่อเข้ามาในครัว ไป๋จ้าวเหม่ยก็ต้องเจออุปสรรคอันยิ่งใหญ่ ที่บ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้า!...ให้ตายเถอะ หญิงสาวชูนิ้วขึ้นไปบนฟ้า อยากจะตะโกนฟักเทวดาดัง ๆ คนอื่นทะลุไปเป็นเมียเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ทะลุไปเป็นกุ้ยเฟย แต่เธอทะลุมาเป็นคนอ้วนไม่พอ เสือกจนอีกต่างหาก ชาติก่อนเธอไปอึไว้หน้าบ้านเทพจันทราหรือยังไงกัน ถึงได้ส่งเธอมาที่นี่
กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จใบหน้าอวบ ๆ ก็เต็มไปด้วยเขม่าควันไฟ เธอเดินออกมาก็เห็นคนเอาจักรยานมารอซ่อมเต็มไปหมด หญิงสาวรีบเดินออกไปช่วยด้านนอก และเมื่อเดินออกมาก็เห็นซวนซวนกำลังช่วยพ่อของเธอหยิบจับอุปกรณ์อยู่ก่อนแล้ว เนื้อแท้ของเด็กคนนี้ดีมาก ขาดแค่การสั่งสอนและขัดเกลา
“พี่ชายเอารถมาทำอะไรหรือคะ ปะยางหรือเติมลมคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นหางแถวอยู่เลยออกไปนอกรั้วบ้าน ก็รีบก้าวขาเข้าไปหา
“เติมลมน่ะสะใภ้อู๋ ภรรยาฉันเอาแต่ขี่ไม่ดูลมรถเลย นี่ถ้าฉันไม่เห็นก่อนคงรั่วไปแล้ว” พี่ชายหน้าหนวดบ่นภรรยาตนเอง เพราะหลายครั้งแล้วที่ภรรยาของเขาเอาแต่ขี่และไม่รู้จักดูแล ไป๋จ้าวเหม่ยตอบกลับติดตลกไปสองสามคำ เรียกเสียงหัวเราะให้กับกลุ่มลูกค้า และดูเป็นกันเองอย่างมาก
“มาค่ะเดี๋ยวฉันเติมให้เอง เดี๋ยวใครจะเติมลมแยกมาตรงนี้เลยนะคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยตะโกนเสร็จ ก็เดินไปหยิบสูบลมจากชั้น ทว่ายามที่เดินกลับมานั้น ก็ถูกสายตาดุดันมองห้ามเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว ๆ นี่เธอกำลังจะทำอะไรจ้าวเหม่ย อย่ามาสร้างปัญหาให้ฉันดีกว่า”
“หุบปากแล้วไปซ่อมรถของนายต่อเถอะ” ไม่ใช่ว่าไป๋จ้าวเหม่ยอยากเอาอกเอาใจผู้ชายคนนี้ แต่เธอเป็นพวกที่อยู่ว่างไม่ได้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็เกิดที่บ้านเด็กกำพร้า อะไรบ้างที่บ้านเด็กกำพร้าไม่สอนพวกเธอ ซ่อมรถจักรยานนับเป็นอะไรได้ ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย
อู๋เหวยส่งสายตาคาดโทษไปให้ แต่เมื่อเห็นไป๋จ้าวเหม่ยทั้งเติมลม ทั้งปะยางได้อย่างชำนาญ เขาก็วางใจ แต่ในความวางใจยังมีความสงสัยปะปนอยู่ด้วย ทั้งสามคนช่วยกันทำงานคนละไม้คนละมือจนกระทั่งเวลาล่วงผ่านไปถึงสองทุ่ม
ลูกค้าที่มาซ่อมรถจึงได้หมดลง คนที่พักอยู่ในกองพันที่สิบเอ็ดหมดไปตั้งแต่หกโมงครึ่งแล้ว เพราะค่ายทหารมีกฎห้ามเข้าออกหลังหนึ่งทุ่ม คนที่เหลือก็จะเป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน ปิดร้านเสร็จทั้งสามก็แยกย้ายไปอาบน้ำ แล้วจึงมานั่งกินข้าวด้วยกัน
“ทำไมข้าวดิบ เธอไม่ได้ใส่น้ำลงไปหรือยังไง” อู๋เหวยกระแทกตะเกียบลงในชามข้าว หลังจากตักเข้าปากไปได้เพียงแค่คำเดียว ใบหน้าหล่อเหลาเสียอารมณ์เป็นอย่างมาก ทั้งเหนื่อยทั้งหิวดันมาเจอข้าวแข็งจนเกือบดิบอีก
“ก็แค่แข็งไปหน่อยไม่ถึงกับดิบ กิน ๆ ไปเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะหุงให้นิ่มกว่านี้ แต่อู๋เหวยถามหน่อยฉันเห็นบางบ้านก็มีไฟฟ้าแล้วนี่ ทำไมบ้านเราไม่มี”
“หึ! ไป๋จ้าวเหม่ยเธอยังมีหน้ามาถามอีกนะ ว่าทำไมถึงไม่มี” จะบอกว่าบ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าก็ไม่ได้ เพราะหญิงสาวเดินสำรวจทั้งหมดแล้ว เห็นว่ามีสายไฟต่อเข้ามาอยู่ หรือว่าจะถูกตัดไฟไปแล้ว
“หรือว่าฉันไม่ควรถาม” เธอย่นคิ้วขึ้น สีหน้าแสดงความสงสัย แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงก่ำ มือที่กำตะเกียบจนหักเป็นสองท่อน เธอก็พลันใบหน้าซีดลง ไม่ใช่ว่าอีกเดี๋ยวอีตานั่นจะมาหักคอเธอหรอกนะ
“ก็น้าไม่ยอมจ่ายค่าไฟ เงินเดือนพ่อหลังจากที่คุณลุงเยี่ยให้คูปองสำหรับซื้อของในร้านของรัฐมาแล้ว น้าก็เอาไปหมด ถ้าอยากมีไฟฟ้าน้าก็ไปจ่ายค่าไฟเสียสิ”
“อ่า...สงสัยฉันลืมไปจ่ายน่ะ”
“หึ...ลืมมาหลายเดือน สมองเธอเสื่อมไปแล้วกระมัง” ไป๋จ้าวเหม่ยอยากจะร้องไห้ ทำไมเธอต้องมาถูกด่าแทนเจ้าของร่างเดิมด้วย ริมฝีปากอวบเบะคว่ำลง
อู๋เหวยเห็นดังนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่ด่ากลับ ทำไมทำเหมือนจะร้องไห้ เขาพลันหุบปากลง และหันมาเปลี่ยนตะเกียบที่หัก และกินข้าวไปเงียบ ๆ เมื่อกินเสร็จ ก็เห็นไป๋จ้าวเหม่ยเก็บโต๊ะอาหารเองคนเดียว ช่างแปลกเกินไปแล้ว แต่ก่อนจะได้คิดดี ๆ เด็กน้อยก็อ้าปากหาวแล้ว เขาจึงสลัดความคิดทิ้งไป และอุ้มลูกสาวเข้าห้องนอน
ไป๋จ้าวเหม่ยล้างถ้วยชามกลับเข้ามาก็เห็นสองพ่อลูกนอนกอดกันหลับไปที่เตียงไม้ในห้องโถงแล้ว เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ แสดงว่าเตียงในห้องก็เป็นของเธอคนเดียวแล้วสิ เฮ้อ...ดีที่ไม่ต้องนอนกับไอ้หล่อหน้ามังกร นิสัยกิ้งกือนั่น
เสียงไก่ข้างบ้านขันปลุกให้ร่างอวบอ้วนตื่นขึ้นมาจากที่นอน ครั้นเมื่อเธอเดินออกมา ก็เห็นว่าสองพ่อลูกยังนอนหลับกันอยู่ เธอจึงรีบเดินไปล้างหน้า และเข้าครัวต้มข้าวต้มง่าย ๆ เอาไว้ให้ทั้งคู่ก่อน
“เธอกำลังทำอะไรอยู่” อู๋เหวยได้กลิ่นหอมลอยออกมาจากห้องครัว ก็เดินตามเข้าไปดู ครั้นเห็นแผ่นหลังอ้วน ๆ กำลังสาละวนอยู่หน้าเตาไฟจึงเอ่ยถาม
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ นายไปล้างหน้าล้างตาก่อน ฉันขอผัดผักบุ้งอีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว นายกินก่อนไปทำงานนะ” อู๋เหวยขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่หันกลับไปผัดผักในกระทะของเธอต่อไป
ปกติก่อนเขาจะไปทำงาน ก็ต้องตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าไว้ให้ลูกสาวเสียก่อน ทว่าวันนี้เขากลับตื่นไม่ทัน อู๋เหวยเดินเหม่อลอยไปล้างหน้าล้างตา เสร็จแล้วก็ปลุกลูกสาวมานั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน ก่อนจะเดินไปคว้าจักรยานจูงออกไปหน้าบ้าน โดยมีลูกสาวเดินตามไปส่ง ทว่าไป๋จ้าวเหม่ยไม่ได้ตามออกมาด้วย
“ซวนซวนพ่อไปทำงานก่อนนะครับ ลูกอยู่บ้านอย่าออกไปเล่นน้ำที่แม่น้ำล่ะ หรือถ้าหนูเบื่อก็ไปเล่นกับเสี่ยวมี่ในหมู่บ้านก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะ แต่วันนี้หนูกับน้าอ้วนนัดกันทำคอกไก่กันค่ะ”
“คอกไก่?”
“ใช่ค่ะ ไข่ที่น้าอ้วนแอบเอาไว้ในหีบ มันฟักออกมาเป็นลูกเจี๊ยบ น้าอ้วนบอกให้หนูเลี้ยงได้ แต่หนูต้องดูแลให้อาหารมันเอง”
“อ้อ...ถ้าอย่างนั้นหนูก็ช่วยเธอทำคอกไก่ก็แล้วกัน พ่อไปทำงานก่อนแล้วครับ” อู๋เหวยก้มลงหอมแก้มลูกสาว และปั่นจักรยานออกไป สีหน้าสงสัยเป็นอย่างมาก มิน่าเมื่อเช้าเขาได้ยินเสียงลูกเจี๊ยบ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นของไป๋จ้าวเหม่ย
************************
ตอนที่ 8 บุญคุณความแค้น“น้าวันนี้ไม่ใช่บอกว่า เราจะสร้างคอกไก่กันหรอกหรือ” ตั้งแต่ส่งคนเป็นพ่อออกไปทำงาน อู๋ชิงซวนก็กลับมานั่งรออยู่นาน ก็ไม่เห็นว่าแม่เลี้ยงจะออกจากห้อง เธอจึงเปิดประตูเดินเข้าไปมอง ทว่าเมื่อเห็นแล้วก็ต้องขมวดคิ้วไม่พอใจ“น้าผิดนัดฉันเพื่อมานอนอ่านนิตยสารเท่านั้นเองเหรอ” เด็กหญิงยกมือกอดอกเชิดหน้า ทำแก้มป่อง ท่าทางของเธอไม่ได้ดูน่ากลัว แต่กลับดูน่ารักเป็นอย่างมากในสายตาของไป๋จ้าวเหม่ย“ใช่แล้วฉันผิดนัด เพราะฉันไม่พอใจ หนูน้อยฉันไม่ชอบที่เธอทำตัวเหมือนจิ้งจก เปลี่ยนสีไปเปลี่ยนสีมา ความจริงเธอฉลาดเลือกก็ดีแล้ว ทั้งยังอยู่เป็นฉันไม่ว่า แต่สำหรับฉัน การกระทำของเธอมันไม่น่ารัก” ไป๋จ้าวเหม่ยวางนิตยสารในมือลง ขยับตัวมานั่งและชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ตรงหน้า“มานั่งคุยกันตรงนี้ก่อน” อู๋ชิงซวนเดินมานั่งอย่างไม่เต็มใจ ทว่าไป๋จ้าวเหม่ยไม่สนใจแม้แต่น้อยความจริงเธอไม่ได้โกรธเด็กน้อยเลย ทว่าเธอแค่ไม่อยากให้เด็กคนนี้โตไปมีนิสัยกลับกลอกอย่างนี้ แต่ลึก ๆ แล้วก็รู้ว่า ที่อู๋ชิงซวนเป็นแบบนี้เพราะเธอ อยู่กับเธอเด็กย่อมไม่กล้าดื้อ แต่เมื่ออยู่กับพ่อของตัวเอง ในใจเด็กรู้ดีว่า พ่อคอยโอ๋ทำอะไรพ่
ตอนที่ 9 คิดว่าหนีกลับบ้าน“ทวดสามท่านมาอยู่กับอาสะใภ้อู๋นี่เอง แม่ให้ฉันมาตามทวดกลับไปกินข้าว”“ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วเหรอ ตายจริงฉันรั้งย่าสามเอาไว้เสียตั้งนาน” หากเจินเจินเรียกทวด เช่นนั้นหญิงชราก็คงเป็นย่าของอู๋เหวยกระมัง“เฮ้อ...วันนี้ได้พูดคุยกับอาเหม่ยย่าก็สบายใจขึ้นมาก ดูเหมือนเจ็บป่วยไปครั้งนี้ อาเหม่ยของพวกเราจะรู้ความขึ้นตั้งเยอะแน่ะ ฮ่า ๆ ดีจริง ๆ วิญญาณน้องชายในปรโลกก็คงวางใจได้แล้ว หลานสะใภ้ที่ตัวเองเลือกเปลี่ยนนิสัย ไม่ถือโทษโกรธคนรุ่นเก่าอีก เอาละ ๆ ย่าสามกลับบ้านก่อน เย็นนี้ก็อย่าลืมมาหุงข้าวที่บ้านล่ะ”“เฮ้อ...เมื่อไรอาสะใภ้อู๋จะไปจ่ายค่าไฟ ไม่รู้หรือไงว่าใช้ไฟบ้านคนอื่นมันน่ารังเกียจ”“เจินเจินหุบปาก!” เด็กหญิงเจินเจินเบ้ปากคว่ำหน้าลง ทว่าสายตาที่เหลือบขึ้นมามองไป๋จ้าวเหม่ยก็ดูไม่เป็นมิตรนัก แต่จะทำอย่างไรได้ ร่างเก่าสร้างเรื่องเอาไว้ขนาดนี้ แม้แต่เด็กน้อยยังเกลียดเธอเลยคิดดูเอาเองเถอะ เฮ้อ...“อย่าว่าเสี่ยวเจินเลยค่ะ เด็กเขาไร้เดียงสาคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น แต่ย่าสามคะฉันต้องขอบคุณที่ย่าเป็นห่วงฉัน เงินเดือนของอาเหวยเดือนที่แล้ว ฉันยังไม่ได้ส่งให้แม่เลย เดี๋ยววัน
ตอนที่ 10 ตรวจสายตา“พ่อคะ พ่อคะ” อู๋ชิงซวนตะโกนเรียกพ่อของเธอดังลั่น น้ำเสียงนั้นฟังดูทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ เสียงเธอดังก่อนที่ตัวเธอจะโผล่มาเสียอีก“หืม...ดูเหมือนซวนซวนของพ่อจะดีใจนะ อะไรทำให้หนูดีใจได้ขนาดนั้นกันคะลูก”“ก็นี่อย่างไรล่ะคะ พ่อแอบซื้อมาเหรอคะ ทำไมเมื่อวานไม่เอามาให้หนูนะ ฮื้อ...ลูกอมกระต่ายขาว หนูรักพ่อที่สุดเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ชิงฮุยเคยเอามาให้กิน แต่แค่เม็ดเดียวเอง หนูยังจำได้เลย ตอนที่นมละลายในปากมันอร่อยมากแค่ไหน โอ้วนั่นแค่เม็ดเดียว แต่นี่ทั้งถุง ให้ตายเถอะหนูตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว”อู๋ชิงซวนกอดห่อลูกอมยอดฮิตไว้แนบอก ใบหน้าเด็กหญิงแสดงออกถึงความดีใจเป็นอย่างมาก อู๋เหวยยิ้มกว้างออกมา ทว่าในใจกลับเจ็บปวดไปทั้งใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวชอบกินอะไร เขาไม่เคยซื้อของพวกนี้ให้ลูกกิน เพราะว่ามันไม่อิ่มท้องของที่เขาซื้อมักจะเป็นขนมโก๋ กินชิ้นเดียวก็อิ่มไปทั้งวัน และไม่ใช่ว่าจะซื้อมาบ่อย ๆ นาน ๆ ครั้งซวนซวนถึงจะได้กิน เพราะเขาไม่มีเงิน ทั้งเงินหยวนทั้งคูปอง ทุกครั้งไป๋จ้าวเหม่ยก็จะบังคับเอาไปจนหมด“พ่อคะพ่อรู้หรือเปล่า เปลือกห่อมันทำมาจากข้าว เรากินมันได้ด้วยนะคะ นี่ค่ะ
ตอนที่ 1 บทนำแสงสีนวลของหลอดไฟส่องลงมาจากเพดานสีขาว ร่างอวบอั๋นนอนบนเตียงขนาดสามฟุตยกมือขึ้นป้องสายตา ดวงตาหงส์หรี่ลง พร้อมกับความเจ็บปวด แล่นปรี๊ดเข้ามาในก้านสมอง เธอนิ่วหน้าลง“โอ๊ย!...ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” ริมฝีปากบางส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ มือเล็กยกไปลูบที่ด้านหลังท้ายทอย แต่เมื่อสัมผัสกับผ้าอะไรบางอย่างที่สาก ๆ มือ หญิงสาวก็พลันลืมตาขึ้น ทว่าภาพที่เห็นในสายตากลับทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าเดิม“นี่มัน! ฉันบาดเจ็บได้ยังไงกัน” หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้องสี่เหลี่ยมสีขาวหม่น สายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางจากเสาต่อเข้าแขนของเธอ พร้อมกับหัวที่ปวดตุ๊บ ๆ บ่งบอกได้อย่างเดียวว่าเธอกำลังบาดเจ็บ แต่ทำไมกัน เธอกำลังนั่งตรวจการบ้านเด็กนักเรียนในห้องพักครูอยู่ไม่ใช่เหรอ อยู่ ๆ มานอนให้น้ำเกลือในโรงพยาบาลได้อย่างไร แต่แล้วเสียงเล็ก ๆ ก็ดังขัดความคิดให้สะดุดลง“คนใจร้าย ทำไมเธอถึงตื่นขึ้นมาอีกล่ะ ไหนพ่อบอกว่าเธอตายไปแล้ว ไม่รู้เหรอว่าทุกคนอยากให้เธอตาย ตื่นขึ้นมาทำไม!” เสียงเด็กน้อยทั้งห้วนและทั้งกระด้างเจือไปด้วยความโมโหดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด หญิงสาวบนเตียงหันไปมองช้า ๆ ก็เห็นเข้ากับเด็กหญิงตัวน้อย ที่ใบหน
ตอนที่ 2 คนเลวอย่างเธอแม้แต่นรกก็ไม่ต้องการปัง!บานประตูถูกกระชากจนกระแทกเข้ากับผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ร่างอวบอั๋นบนเตียงนอนสะดุ้งตื่น พลางกวาดสายตาที่สั่นระริกมองไปรอบ ๆ เสียงรองเท้าหนังกระแทกพื้นเดินเข้ามาหน้าเตียงนอน ใบหน้าหล่อเหลาราวกับพ่อหนุ่มมังกรเทียนเย่า ซีรีส์จีนที่เธอเพิ่งถ่างตาดูจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ดวงตาเรียวโค้งขึ้นเป็นรูปหัวใจ โรคบ้าดารากำเริบขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่“เทียนเย่า” ริมฝีปากอวบอิ่ม เอ่ยเรียกพร้อมกับดวงตาเปล่งประกายเป็นรูปหัวใจ เทียนเย่าเชียวนะ เสี่ยวโยวของเมีย โอ๊ย!“ไม่มีเทียนเย่า เส่าเย่าอะไรทั้งนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยผู้หญิงสารเลวอย่างเธอนี่มันตายยากเหลือเกินนะ แต่ฉันก็เข้าใจ คนเลวอย่างเธอแม้แต่นรกก็ไม่ต้องการ ดังนั้นท่านจึงได้ถีบส่งดวงวิญญาณชั่ว ๆ ของเธอ ให้ฟื้นกลับมาอีกยังไงล่ะ” แต่แล้วคำพูดที่แสนจะระคายเคืองหู ก็บิดเบือนให้ใบหน้าหล่อราวฟ้าประทานพลันดูแสลงตาลงไปทันทีแน่นอนว่าอู๋เหวยเห็นสายตาที่มองเขาอย่างหลงใหลก็พลันรังเกียจ ผู้หญิงสารเลวคนนี้ชอบมองเขาเช่นนี้มาตลอด บ้าผู้ชาย!“เป็นบ้าหรือไง อยู่ ๆ ก็มาอวยพรให้ฉันขนาดนี้ นายเป็นโรคทางสมองเหรอ
ตอนที่ 3 หรือว่าเธอไม่ปากร้ายหลังจากที่อู๋เหวยออกไปแล้ว ไป๋จ้าวเหม่ยก็นอนก่ายหน้าผากมองเพดานสีขาวออกเหลือง บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ เธอถอนหายใจออกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ป่านนี้ร่างกายของเธอจะถูกเผาหรือถูกฝัง ในยุคที่เธอจากมา ประเทศจีนเริ่มรณรงค์ให้มีการเผาศพกันมากขึ้น อาจเพราะพื้นที่มีจำนวนจำกัด แต่ผู้คนก็ยังไม่ยอมรับกันเท่าไรนัก และเธอเองก็ไม่อยากถูกเผาเช่นกัน“เฮ้อ...เอาเถอะจะเผาหรือฝัง ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับฉันอีกแล้ว ฮื้อ...แต่ฉันอยากกลับบ้าน”“อยากกลับบ้านก็ต้องทน ใครใช้ให้น้าอ้วนวิ่งเข้าชนรถพ่อล่ะ รู้ไหมว่าพ่อต้องเสียเงินให้ลุงเยี่ยซานเจ้าของรถ เพื่อซ่อมรอยบุบที่ชนเธอน่ะ แล้วจะบอกอะไรให้ เงินเดือนนี้ของพ่อคงถูกหักหมด เธออย่ามาร้องขอเงินเชียวล่ะ เพราะที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอน้าอ้วน!” เด็กหญิงตัวน้อยนั่งกอดอก เชิดปลายคางขึ้นสูง ปรายตามองลงมาผ่านปลายจมูก ใบหน้าแสดงความรังเกียจแกมปวดใจออกมาไม่รู้ว่าไป๋จ้าวเหม่ยจะตกใจกับเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างคำว่าอ้วน หรือระหว่างคำว่า ที่รถบุบเพราะชนเธอ ให้ตายไม่ว่าจะอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้น ให้ตายเถอะเธอทะลุมิติมาอยู่ในยุคบ้าอะไรกั
ตอนที่ 4 บ้านหรือรังขยะวันต่อมาไป๋จ้าวเหม่ยก็ได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที แน่นอนว่าคนที่ออกจากโรงพยาบาลเป็นไป๋จ้าวเหม่ยคุณครูประถมโรงเรียนซีหู่จากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ไป๋จ้าวเหม่ยแม่เลี้ยงใจร้าย ที่ตอนนี้ไม่รู้วิญญาณไปอยู่ที่ไหนแล้ว“นี่ไงรถที่น้าอ้วนวิ่งชน ยังเป็นรอยบุบอยู่เลย เขายังไม่ได้ซ่อมหรือคะพ่อ”“ลุงเยี่ยซานของลูกบอกว่าบุบแค่นิดเดียวไม่ต้องซ่อม รอเข้าตรวจสภาพประจำปีค่อยทำน่ะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปที่หน้ารถทรงสี่เหลี่ยม และก็เป็นจริงดังคาด ที่หน้ากระโปรงรถมีรอยยุบหนึ่งรอยอยู่จริง ๆ ไม่รู้ชนตรงไหนของเธอ แขนขาไม่หักแต่รถยุบ พระเจ้า!ร่างอวบอ้วนเดินคอตกกลับขึ้นไปนั่งบนรถ เธอเลือกนั่งที่ด้านหลัง ไม่ได้สนใจสีหน้าของสองพ่อลูกที่มองกันอย่างตกใจ และคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่คลั่งรักอู๋เหวยจะไม่ยอมไปนั่งหน้า แสดงตัวตนอวดชาวบ้านเมื่อมีโอกาส กลับปล่อยให้เป็นที่นั่งของอู๋ชิงซวนไปได้ แต่ใครสนสีหน้าหมางงของสองพ่อลูกกันเล่า รอยยุบนั้นทำเอาหัวใจหญิงสาวสะเทือนไปทั้งใจแล้วจริง ๆอู๋เหวยไม่ได้สนใจสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของไป๋จ้าวเหม่ยอีก เขาเดินมาเปิดประตูข้างคนขับ อุ้มลูกสาวขึ้นไป ยกมือขยี้ผมเธอเบา ๆ และปิดป
ตอนที่ 5 เลิกเรียกฉันว่าอ้วนเสียงร้องของไป๋จ้าวเหม่ยดังออกไปถึงหน้าบ้าน นี่ยังไม่รวมถึงเสียงลูกไก่ที่ส่งเสียงกันระนาว อู๋ชิงซวนขมวดคิ้วราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย รีบวางประแจไขจักรยานเอาไว้และรีบวิ่งมาที่ในห้อง“เธอ!...เอ่อ...น้าไป๋ เกิดอะไรขึ้นเหรอ” อู๋ชิงซวนเกือบลืมไปแล้วว่า ถ้าหากเธอพูดไม่เพราะ พ่อจะไม่รัก จึงได้รีบยกมือขึ้นตบปากตนเอง และเรียกแม่เลี้ยงว่าน้าไป๋จ้าวเหม่ยเอียงหน้าไปมอง ยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกไป เด็กหญิงก็วิ่งมาชะโงกหน้ามองหีบสมบัติอันล้ำค่าที่น้าอ้วนคนนี้หวงนักหวงหนา ก่อนหน้านี้เธออยากรู้มาตลอดว่าแม่เลี้ยงปีศาจแอบซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง แน่นอนว่าของที่พ่อเธอซื้อกลับมาไว้ทำอาหารแป้ง ธัญพืช เครื่องปรุงล้วนถูกเก็บเอาไปทั้งหมดครั้งนี้ดีนักถือโอกาสมองสักหน่อยจะได้เอาไปเล่าให้พ่อฟัง ว่าผู้หญิงคนนี้นิสัยแย่แค่ไหน ทว่าเมื่อใบหน้าชะโงกลงไป ดวงตาเรียวก็พลันเบิกขยาย พร้อมกับริมฝีปากที่ยิ้มจนแทบจะถึงใบหู“น้าอ้วน น้าซื้อไข่มาฟักเหรอ ว้าว ๆ พวกเราจะเลี้ยงมันใช่ไหม ดูสิทำไมมันน่ารักขนาดนี้ล่ะ แล้วมันกินอะไรเป็นอาหารเหรอคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นท่าทางดีอกดีใจของเด็กน้อย ก็พูดไม่ออกว่า เธอไม่อยากเ
ตอนที่ 10 ตรวจสายตา“พ่อคะ พ่อคะ” อู๋ชิงซวนตะโกนเรียกพ่อของเธอดังลั่น น้ำเสียงนั้นฟังดูทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ เสียงเธอดังก่อนที่ตัวเธอจะโผล่มาเสียอีก“หืม...ดูเหมือนซวนซวนของพ่อจะดีใจนะ อะไรทำให้หนูดีใจได้ขนาดนั้นกันคะลูก”“ก็นี่อย่างไรล่ะคะ พ่อแอบซื้อมาเหรอคะ ทำไมเมื่อวานไม่เอามาให้หนูนะ ฮื้อ...ลูกอมกระต่ายขาว หนูรักพ่อที่สุดเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ชิงฮุยเคยเอามาให้กิน แต่แค่เม็ดเดียวเอง หนูยังจำได้เลย ตอนที่นมละลายในปากมันอร่อยมากแค่ไหน โอ้วนั่นแค่เม็ดเดียว แต่นี่ทั้งถุง ให้ตายเถอะหนูตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว”อู๋ชิงซวนกอดห่อลูกอมยอดฮิตไว้แนบอก ใบหน้าเด็กหญิงแสดงออกถึงความดีใจเป็นอย่างมาก อู๋เหวยยิ้มกว้างออกมา ทว่าในใจกลับเจ็บปวดไปทั้งใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวชอบกินอะไร เขาไม่เคยซื้อของพวกนี้ให้ลูกกิน เพราะว่ามันไม่อิ่มท้องของที่เขาซื้อมักจะเป็นขนมโก๋ กินชิ้นเดียวก็อิ่มไปทั้งวัน และไม่ใช่ว่าจะซื้อมาบ่อย ๆ นาน ๆ ครั้งซวนซวนถึงจะได้กิน เพราะเขาไม่มีเงิน ทั้งเงินหยวนทั้งคูปอง ทุกครั้งไป๋จ้าวเหม่ยก็จะบังคับเอาไปจนหมด“พ่อคะพ่อรู้หรือเปล่า เปลือกห่อมันทำมาจากข้าว เรากินมันได้ด้วยนะคะ นี่ค่ะ
ตอนที่ 9 คิดว่าหนีกลับบ้าน“ทวดสามท่านมาอยู่กับอาสะใภ้อู๋นี่เอง แม่ให้ฉันมาตามทวดกลับไปกินข้าว”“ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วเหรอ ตายจริงฉันรั้งย่าสามเอาไว้เสียตั้งนาน” หากเจินเจินเรียกทวด เช่นนั้นหญิงชราก็คงเป็นย่าของอู๋เหวยกระมัง“เฮ้อ...วันนี้ได้พูดคุยกับอาเหม่ยย่าก็สบายใจขึ้นมาก ดูเหมือนเจ็บป่วยไปครั้งนี้ อาเหม่ยของพวกเราจะรู้ความขึ้นตั้งเยอะแน่ะ ฮ่า ๆ ดีจริง ๆ วิญญาณน้องชายในปรโลกก็คงวางใจได้แล้ว หลานสะใภ้ที่ตัวเองเลือกเปลี่ยนนิสัย ไม่ถือโทษโกรธคนรุ่นเก่าอีก เอาละ ๆ ย่าสามกลับบ้านก่อน เย็นนี้ก็อย่าลืมมาหุงข้าวที่บ้านล่ะ”“เฮ้อ...เมื่อไรอาสะใภ้อู๋จะไปจ่ายค่าไฟ ไม่รู้หรือไงว่าใช้ไฟบ้านคนอื่นมันน่ารังเกียจ”“เจินเจินหุบปาก!” เด็กหญิงเจินเจินเบ้ปากคว่ำหน้าลง ทว่าสายตาที่เหลือบขึ้นมามองไป๋จ้าวเหม่ยก็ดูไม่เป็นมิตรนัก แต่จะทำอย่างไรได้ ร่างเก่าสร้างเรื่องเอาไว้ขนาดนี้ แม้แต่เด็กน้อยยังเกลียดเธอเลยคิดดูเอาเองเถอะ เฮ้อ...“อย่าว่าเสี่ยวเจินเลยค่ะ เด็กเขาไร้เดียงสาคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น แต่ย่าสามคะฉันต้องขอบคุณที่ย่าเป็นห่วงฉัน เงินเดือนของอาเหวยเดือนที่แล้ว ฉันยังไม่ได้ส่งให้แม่เลย เดี๋ยววัน
ตอนที่ 8 บุญคุณความแค้น“น้าวันนี้ไม่ใช่บอกว่า เราจะสร้างคอกไก่กันหรอกหรือ” ตั้งแต่ส่งคนเป็นพ่อออกไปทำงาน อู๋ชิงซวนก็กลับมานั่งรออยู่นาน ก็ไม่เห็นว่าแม่เลี้ยงจะออกจากห้อง เธอจึงเปิดประตูเดินเข้าไปมอง ทว่าเมื่อเห็นแล้วก็ต้องขมวดคิ้วไม่พอใจ“น้าผิดนัดฉันเพื่อมานอนอ่านนิตยสารเท่านั้นเองเหรอ” เด็กหญิงยกมือกอดอกเชิดหน้า ทำแก้มป่อง ท่าทางของเธอไม่ได้ดูน่ากลัว แต่กลับดูน่ารักเป็นอย่างมากในสายตาของไป๋จ้าวเหม่ย“ใช่แล้วฉันผิดนัด เพราะฉันไม่พอใจ หนูน้อยฉันไม่ชอบที่เธอทำตัวเหมือนจิ้งจก เปลี่ยนสีไปเปลี่ยนสีมา ความจริงเธอฉลาดเลือกก็ดีแล้ว ทั้งยังอยู่เป็นฉันไม่ว่า แต่สำหรับฉัน การกระทำของเธอมันไม่น่ารัก” ไป๋จ้าวเหม่ยวางนิตยสารในมือลง ขยับตัวมานั่งและชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ตรงหน้า“มานั่งคุยกันตรงนี้ก่อน” อู๋ชิงซวนเดินมานั่งอย่างไม่เต็มใจ ทว่าไป๋จ้าวเหม่ยไม่สนใจแม้แต่น้อยความจริงเธอไม่ได้โกรธเด็กน้อยเลย ทว่าเธอแค่ไม่อยากให้เด็กคนนี้โตไปมีนิสัยกลับกลอกอย่างนี้ แต่ลึก ๆ แล้วก็รู้ว่า ที่อู๋ชิงซวนเป็นแบบนี้เพราะเธอ อยู่กับเธอเด็กย่อมไม่กล้าดื้อ แต่เมื่ออยู่กับพ่อของตัวเอง ในใจเด็กรู้ดีว่า พ่อคอยโอ๋ทำอะไรพ่
ตอนที่ 7 สอนลูกยังไงไป๋จ้าวเหม่ยเดินตามสองพ่อลูกกลับเข้ามาในบ้าน เธอเห็นเด็กน้อยนั่งร้องไห้อยู่มุมห้อง โดยมีคนเป็นพ่อกำลังกอดปลอบ ทว่าคำสอนของอู๋เหวยยิ่งฟัง หัวคิ้วของหญิงสาวก็ยิ่งขมวดแน่น“พ่อรู้ว่าลูกไม่ชอบไป๋จ้าวเหม่ย และจริง ๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นนิสัยไม่ดี แต่ลูกก็ไม่ควรจะไปต่อว่าเธอแบบนั้น เพราะนั่นจะทำให้ลูกเหมือนกับเธอ กลายเป็นคนไม่ดีเหมือนเธอ เฮ้อ...พ่อไม่อยากให้ซวนซวนนิสัยเลวร้ายเข้าใจหรือเปล่าครับ”“แต่เธอพูดเหมือนไม่เคยแย่งของหนูกิน ทั้ง ๆ ที่เธอแย่งทุกอย่าง”“นั่นเพราะเธอเป็นผีหิวโซ เป็นตัวตะกละยังไงล่ะ เราไม่ใช่คนแบบเดียวกันกับเธอ เราไม่ตะกละและไม่อยากได้ของของคนอื่น” จะสอนลูกดี ๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องดึงเธอเข้าไปด่าด้วย ถึงจะรู้ว่าพ่อลูกคู่นั้นด่าร่างเดิม แต่ขอละตอนนี้เธออยู่ในร่างนี้นะ!ไป๋จ้าวเหม่ยเลิกสนใจพ่อลูกคู่นี้อีก เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เธอหยิบกล่องอาหารที่อู๋เหวยเอามา และจากที่หลิวชิงฮุยเอามา แค่นี้กับข้าวก็มีถึงห้าอย่างแล้ว ไม่ต้องทำเพิ่ม เหลือแค่เพียงหุงข้าวเท่านั้น หญิงสาวยกกล่องอาหารเข้าไปในครัว พอดีกับที่มีคนมาซ่อมรถที่หน้าบ้าน อู๋เหวยจึงแยกไปอีกทางแต่เม
ตอนที่ 6 ไม่มีใครรับ ก็รับเองตอนเย็นอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านพร้อมกับกล่องอาหารเหมือนทุกวัน เขาเดินเข้ามาในบ้าน มองหน้าลูกสาวอันเป็นที่รักก่อนเป็นอันดับแรกเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้เขากลับไม่เห็นแม้แต่เงา ในใจชายหนุ่มเริ่มวิตกกังวลกลัวว่าลูกสาวจะถูกแม่เลี้ยงรังแกอีกจะไม่ให้กลัวได้ยังไงเพราะทุกวันที่เขาเลิกงานกลับมา ลูกสาวก็มักจะมารอรับที่หน้าบ้านเสมอ แต่วันนี้กลับไม่มี! ในขณะที่กำลังจะเดินไปตามหาที่หลังบ้านนั้น ก็ได้ยินเสียงเรียกจากนอกรั้วเสียก่อน คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน พลางชะเง้อหน้าไปมอง“พี่เหวยคะ พี่กลับมาหรือยังคะ ฉันเอาจักรยานมาเติมลมน่ะค่ะ”อู๋เหวยถอนหายใจออกมา ตัดใจเดินออกไปที่หน้าบ้านก่อน เพราะได้ยินว่าลูกค้าเอารถมาเติมลม บ้านเล็ก ๆ ของเขาแบ่งส่วนหน้าออกมาทำเป็นร้านซ่อมรถจักรยานเล็ก ๆ คนในหมู่บ้านก็เริ่มมีจักรยานกันหลายคนแล้ว และอีกอย่างพวกทหารที่กองพันสิบเอ็ดก็ชอบเอาจักรยานมาซ่อมที่นี่ อาจเพราะมันอยู่ใกล้กว่าในอำเภอ รายได้ของร้านจึงค่อนข้างที่จะดีมากอยู่ครั้นเมื่ออู๋เหวยออกมาหน้าบ้าน ก็เห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงบานสีแดงยาวจนถึงข้อเท้า และเสื้อสีขาวลายดอกไม้สีแดง เส้นผมดัดเป็นลอนยาว
ตอนที่ 5 เลิกเรียกฉันว่าอ้วนเสียงร้องของไป๋จ้าวเหม่ยดังออกไปถึงหน้าบ้าน นี่ยังไม่รวมถึงเสียงลูกไก่ที่ส่งเสียงกันระนาว อู๋ชิงซวนขมวดคิ้วราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย รีบวางประแจไขจักรยานเอาไว้และรีบวิ่งมาที่ในห้อง“เธอ!...เอ่อ...น้าไป๋ เกิดอะไรขึ้นเหรอ” อู๋ชิงซวนเกือบลืมไปแล้วว่า ถ้าหากเธอพูดไม่เพราะ พ่อจะไม่รัก จึงได้รีบยกมือขึ้นตบปากตนเอง และเรียกแม่เลี้ยงว่าน้าไป๋จ้าวเหม่ยเอียงหน้าไปมอง ยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกไป เด็กหญิงก็วิ่งมาชะโงกหน้ามองหีบสมบัติอันล้ำค่าที่น้าอ้วนคนนี้หวงนักหวงหนา ก่อนหน้านี้เธออยากรู้มาตลอดว่าแม่เลี้ยงปีศาจแอบซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง แน่นอนว่าของที่พ่อเธอซื้อกลับมาไว้ทำอาหารแป้ง ธัญพืช เครื่องปรุงล้วนถูกเก็บเอาไปทั้งหมดครั้งนี้ดีนักถือโอกาสมองสักหน่อยจะได้เอาไปเล่าให้พ่อฟัง ว่าผู้หญิงคนนี้นิสัยแย่แค่ไหน ทว่าเมื่อใบหน้าชะโงกลงไป ดวงตาเรียวก็พลันเบิกขยาย พร้อมกับริมฝีปากที่ยิ้มจนแทบจะถึงใบหู“น้าอ้วน น้าซื้อไข่มาฟักเหรอ ว้าว ๆ พวกเราจะเลี้ยงมันใช่ไหม ดูสิทำไมมันน่ารักขนาดนี้ล่ะ แล้วมันกินอะไรเป็นอาหารเหรอคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นท่าทางดีอกดีใจของเด็กน้อย ก็พูดไม่ออกว่า เธอไม่อยากเ
ตอนที่ 4 บ้านหรือรังขยะวันต่อมาไป๋จ้าวเหม่ยก็ได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที แน่นอนว่าคนที่ออกจากโรงพยาบาลเป็นไป๋จ้าวเหม่ยคุณครูประถมโรงเรียนซีหู่จากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ไป๋จ้าวเหม่ยแม่เลี้ยงใจร้าย ที่ตอนนี้ไม่รู้วิญญาณไปอยู่ที่ไหนแล้ว“นี่ไงรถที่น้าอ้วนวิ่งชน ยังเป็นรอยบุบอยู่เลย เขายังไม่ได้ซ่อมหรือคะพ่อ”“ลุงเยี่ยซานของลูกบอกว่าบุบแค่นิดเดียวไม่ต้องซ่อม รอเข้าตรวจสภาพประจำปีค่อยทำน่ะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปที่หน้ารถทรงสี่เหลี่ยม และก็เป็นจริงดังคาด ที่หน้ากระโปรงรถมีรอยยุบหนึ่งรอยอยู่จริง ๆ ไม่รู้ชนตรงไหนของเธอ แขนขาไม่หักแต่รถยุบ พระเจ้า!ร่างอวบอ้วนเดินคอตกกลับขึ้นไปนั่งบนรถ เธอเลือกนั่งที่ด้านหลัง ไม่ได้สนใจสีหน้าของสองพ่อลูกที่มองกันอย่างตกใจ และคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่คลั่งรักอู๋เหวยจะไม่ยอมไปนั่งหน้า แสดงตัวตนอวดชาวบ้านเมื่อมีโอกาส กลับปล่อยให้เป็นที่นั่งของอู๋ชิงซวนไปได้ แต่ใครสนสีหน้าหมางงของสองพ่อลูกกันเล่า รอยยุบนั้นทำเอาหัวใจหญิงสาวสะเทือนไปทั้งใจแล้วจริง ๆอู๋เหวยไม่ได้สนใจสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของไป๋จ้าวเหม่ยอีก เขาเดินมาเปิดประตูข้างคนขับ อุ้มลูกสาวขึ้นไป ยกมือขยี้ผมเธอเบา ๆ และปิดป
ตอนที่ 3 หรือว่าเธอไม่ปากร้ายหลังจากที่อู๋เหวยออกไปแล้ว ไป๋จ้าวเหม่ยก็นอนก่ายหน้าผากมองเพดานสีขาวออกเหลือง บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ เธอถอนหายใจออกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ป่านนี้ร่างกายของเธอจะถูกเผาหรือถูกฝัง ในยุคที่เธอจากมา ประเทศจีนเริ่มรณรงค์ให้มีการเผาศพกันมากขึ้น อาจเพราะพื้นที่มีจำนวนจำกัด แต่ผู้คนก็ยังไม่ยอมรับกันเท่าไรนัก และเธอเองก็ไม่อยากถูกเผาเช่นกัน“เฮ้อ...เอาเถอะจะเผาหรือฝัง ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับฉันอีกแล้ว ฮื้อ...แต่ฉันอยากกลับบ้าน”“อยากกลับบ้านก็ต้องทน ใครใช้ให้น้าอ้วนวิ่งเข้าชนรถพ่อล่ะ รู้ไหมว่าพ่อต้องเสียเงินให้ลุงเยี่ยซานเจ้าของรถ เพื่อซ่อมรอยบุบที่ชนเธอน่ะ แล้วจะบอกอะไรให้ เงินเดือนนี้ของพ่อคงถูกหักหมด เธออย่ามาร้องขอเงินเชียวล่ะ เพราะที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอน้าอ้วน!” เด็กหญิงตัวน้อยนั่งกอดอก เชิดปลายคางขึ้นสูง ปรายตามองลงมาผ่านปลายจมูก ใบหน้าแสดงความรังเกียจแกมปวดใจออกมาไม่รู้ว่าไป๋จ้าวเหม่ยจะตกใจกับเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างคำว่าอ้วน หรือระหว่างคำว่า ที่รถบุบเพราะชนเธอ ให้ตายไม่ว่าจะอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้น ให้ตายเถอะเธอทะลุมิติมาอยู่ในยุคบ้าอะไรกั
ตอนที่ 2 คนเลวอย่างเธอแม้แต่นรกก็ไม่ต้องการปัง!บานประตูถูกกระชากจนกระแทกเข้ากับผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ร่างอวบอั๋นบนเตียงนอนสะดุ้งตื่น พลางกวาดสายตาที่สั่นระริกมองไปรอบ ๆ เสียงรองเท้าหนังกระแทกพื้นเดินเข้ามาหน้าเตียงนอน ใบหน้าหล่อเหลาราวกับพ่อหนุ่มมังกรเทียนเย่า ซีรีส์จีนที่เธอเพิ่งถ่างตาดูจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ดวงตาเรียวโค้งขึ้นเป็นรูปหัวใจ โรคบ้าดารากำเริบขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่“เทียนเย่า” ริมฝีปากอวบอิ่ม เอ่ยเรียกพร้อมกับดวงตาเปล่งประกายเป็นรูปหัวใจ เทียนเย่าเชียวนะ เสี่ยวโยวของเมีย โอ๊ย!“ไม่มีเทียนเย่า เส่าเย่าอะไรทั้งนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยผู้หญิงสารเลวอย่างเธอนี่มันตายยากเหลือเกินนะ แต่ฉันก็เข้าใจ คนเลวอย่างเธอแม้แต่นรกก็ไม่ต้องการ ดังนั้นท่านจึงได้ถีบส่งดวงวิญญาณชั่ว ๆ ของเธอ ให้ฟื้นกลับมาอีกยังไงล่ะ” แต่แล้วคำพูดที่แสนจะระคายเคืองหู ก็บิดเบือนให้ใบหน้าหล่อราวฟ้าประทานพลันดูแสลงตาลงไปทันทีแน่นอนว่าอู๋เหวยเห็นสายตาที่มองเขาอย่างหลงใหลก็พลันรังเกียจ ผู้หญิงสารเลวคนนี้ชอบมองเขาเช่นนี้มาตลอด บ้าผู้ชาย!“เป็นบ้าหรือไง อยู่ ๆ ก็มาอวยพรให้ฉันขนาดนี้ นายเป็นโรคทางสมองเหรอ