“ทวดสามท่านมาอยู่กับอาสะใภ้อู๋นี่เอง แม่ให้ฉันมาตามทวดกลับไปกินข้าว”
“ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วเหรอ ตายจริงฉันรั้งย่าสามเอาไว้เสียตั้งนาน” หากเจินเจินเรียกทวด เช่นนั้นหญิงชราก็คงเป็นย่าของอู๋เหวยกระมัง
“เฮ้อ...วันนี้ได้พูดคุยกับอาเหม่ยย่าก็สบายใจขึ้นมาก ดูเหมือนเจ็บป่วยไปครั้งนี้ อาเหม่ยของพวกเราจะรู้ความขึ้นตั้งเยอะแน่ะ ฮ่า ๆ ดีจริง ๆ วิญญาณน้องชายในปรโลกก็คงวางใจได้แล้ว หลานสะใภ้ที่ตัวเองเลือกเปลี่ยนนิสัย ไม่ถือโทษโกรธคนรุ่นเก่าอีก เอาละ ๆ ย่าสามกลับบ้านก่อน เย็นนี้ก็อย่าลืมมาหุงข้าวที่บ้านล่ะ”
“เฮ้อ...เมื่อไรอาสะใภ้อู๋จะไปจ่ายค่าไฟ ไม่รู้หรือไงว่าใช้ไฟบ้านคนอื่นมันน่ารังเกียจ”
“เจินเจินหุบปาก!” เด็กหญิงเจินเจินเบ้ปากคว่ำหน้าลง ทว่าสายตาที่เหลือบขึ้นมามองไป๋จ้าวเหม่ยก็ดูไม่เป็นมิตรนัก แต่จะทำอย่างไรได้ ร่างเก่าสร้างเรื่องเอาไว้ขนาดนี้ แม้แต่เด็กน้อยยังเกลียดเธอเลยคิดดูเอาเองเถอะ เฮ้อ...
“อย่าว่าเสี่ยวเจินเลยค่ะ เด็กเขาไร้เดียงสาคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น แต่ย่าสามคะฉันต้องขอบคุณที่ย่าเป็นห่วงฉัน เงินเดือนของอาเหวยเดือนที่แล้ว ฉันยังไม่ได้ส่งให้แม่เลย เดี๋ยววันนี้ฉันจะออกไปจ่ายค่าไฟ แต่อาเหวยเอารถจักรยานไปทำงานน่ะสิคะ”
“จะไปยากอะไร เธอก็ไปเอาของพ่อเจินเจินไปใช้ก่อนเถอะ”
“ดีเลยค่ะ อย่างนั้นฉันก็คงต้องรบกวนย่าสามแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันไปเอากระเป๋าเงินก่อน ย่ารอฉันสักครู่นะคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยกลัวว่าย่าสามกับเจินเจินจะกลับไปก่อน คราวนี้ความลับคงแตกเพราะเธอไม่รู้ว่าบ้านของย่าสามอยู่ที่ไหน ดังนั้นจึงต้องไปพร้อมกัน!
ไป๋จ้าวเหม่ยวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน เธอรีบหยิบคูปองซื้อของ และเงินที่แอบเก็บไว้มาจนหมด จากนั้นก็หยิบเสื้อแขนยาวมาสวมทับ ตามย่าสามออกไปที่บ้านทันที
“อาหว่านหล่อนไปจูงรถจักรยานมาให้อาเหม่ยยืมไปในอำเภอหน่อย อาเหม่ยจะไปจ่ายค่าไฟ” เมื่อสักครู่ที่เดินเข้ามา เธอได้ยินผู้หญิงผมหยิกเรียกอาหว่าน ว่าหลานสะใภ้เจียง นั่นแสดงว่าย่าสามแต่งงานกับปู่เจียงและก็มีลูก ลูกชายย่าสามก็แต่งงานแล้ว ส่วนเจินเจินก็เป็นเหลนของย่าสามอีกที โอ้วลำดับญาติของบ้านสกุลเจียงช่างเยอะแยะเหลือเกิน ทว่าเธอก็แอบจดจำเอาไว้แล้ว
“รบกวนพี่สะใภ้เจียงด้วยค่ะ” สะใภ้เจียง หานหว่านแทบจะสะดุดขาตนเองล้ม สะใภ้อู๋เสแสร้งเก่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีก
ทว่าไป๋จ้าวเหม่ยเห็นท่าทางของสะใภ้เจียงที่ตกใจเกือบสะดุดล้ม ก็พลันหมดแรง ทำไมการเป็นตัวเองของเธอมันยากเย็นขนาดนี้ สวรรค์ส่งฉันกลับโลกเดิมทีเถอะ!
โอดครวญได้แค่ในใจเท่านั้น ไป๋จ้าวเหม่ยรับจักรยานมาจากสะใภ้เจียง กล่าวลาทุกคนเสร็จก็รีบถีบรถจักรยานเข้าไปในอำเภอ ทว่าเมื่อมาถึงอำเภอเธอจึงเพิ่งรู้ว่า สถานีไฟฟ้าอยู่ที่ในเมือง! หญิงสาวรีบคว้าจักรยานโน้มตัวลงปั่นออกไปอย่างสุดแรง กว่าจะถึงในเมืองก็แทบจะหมดแรงแล้ว
หลังจากจ่ายค่าไฟแล้ว ก็รอให้เขาไปต่อหม้อไฟในวันพรุ่งนี้ ออกจากสถานีไฟฟ้าก็รีบแวะซื้อของใช้ในบ้าน ผ้าอีกหลายหลา ทั้งขนมและเมล็ดผัก อาหารลูกไก่ หนังสือแบบฝึกหัดเรียน หญิงสาวซื้อโดยที่ไม่เสียดายเงินเลยแม้แต่น้อย ครั้นตรวจดูทุกอย่างจนครบแล้ว ก็รีบปั่นจักรยานกลับไปที่หมู่บ้านลั่วฉาง
หมู่บ้านลั่วฉางเวลาสี่ทุ่ม
ย่าสาม เจียงจัวลูกชาย เกาหนี่ย์ลูกสะใภ้ เจียงอู่ลูกชายเจียงจัว สะใภ้เจียง ต่างก็มานั่งที่บ้านของสกุลอู๋ อู๋เหวยเห็นทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียดก็พลันโมโหขึ้นมา เขาคิดว่าไป๋จ้าวเหม่ยจะดีแล้วเชียว ที่ไหนได้เธอก็ยังสารเลวเหมือนเดิม
“ย่าสาม อาจัว พี่อู่ไม่ต้องเป็นห่วง จักรยานของบ้านพี่ที่ไป๋จ้าวเหม่ยขโมยไป ผมจะชดใช้เอง พี่อู่ขี่ของผมกลับไปที่บ้านได้เลย รับรองว่าสภาพยังดีอยู่ หากว่ามันพังก็เอามาให้ผมซ่อมให้ฟรี”
“อาเหวยคิดว่าย่าสามเสียดายจักรยานหรือไง เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ที่ย่าสามเป็นห่วงก็คืออาเหม่ยต่างหาก ค่ำมืดขนาดนี้แล้ว ทำไมเธอยังไม่กลับมาอีก ไม่ใช่ว่าเกิดอะไรขึ้นอีกนะ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาด้วย”
ย่าสามส่งสายตาไม่พอใจไปให้หลานชายสกุลอู๋ เวลานี้ใช่เวลามาห่วงจักรยานอีกหรืออย่างไร ไม่รู้จักเป็นห่วงเมียตนเอง
อู๋เหวยถูกตำหนิก็ยิ้มออกมาอย่างจนใจ ในใจเขากลับคิดว่า ไป๋จ้าวเหม่ยคงจะหนีกลับไปบ้านเดิมของเธอที่อยู่อำเภอเต๋อชิงมากกว่า ความจริงครอบครัวสกุลอู๋ก็อยู่ที่อำเภอเต๋อชิงเหมือนกัน
แต่เพราะประมาณสิบปีที่แล้ว เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ผู้คนจึงได้เดินทางเสาะหาที่อยู่ใหม่ พ่อกับแม่อู๋เหวยจึงพาเขามาอยู่ที่นี่ ทว่าปู่ของเขาก็ยังอยู่ที่เดิม และเมื่อปู่จากไป พ่อกับแม่ก็กลับไปทำไร่ทำนาดูแลย่าที่เดิม
“ยังไม่รีบไปตามหาเมียอีกอาเหวยนี่ยังไงกัน”
“ครับ ๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ถ้าอย่างนั้นผมรบกวนย่าสามดูแลซวนซวนให้ผมด้วย” ย่าสามโบกมือไล่อีกครั้ง
“ซวนซวนอยู่กับเจินเจินในบ้าน ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าดึกนักคืนนี้ย่าสามกับเจินเจินจะนอนเป็นเพื่อนซวนซวนเอง อาเหวยรีบไปเถอะ”
อู๋เหวยผงกศีรษะขึ้น เขาเดินไปคว้าจักรยานและมัดไฟฉายที่หน้ารถ เตรียมจะออกไปตามหาไป๋จ้าวเหม่ย ทว่ายังไม่ทันได้ออกพ้นประตูบ้าน ร่างอวบอ้วนก็ปั่นจักรยานกลับเข้ามา มาถึงก็รีบลงจากรถตั้งขาตั้งได้ ก็ทิ้งตัวนั่งเหยียดขากับพื้น ใบหน้าอ้วนแดงก่ำ อ้าปากหอบหายใจจนลิ้นห้อย
“เร็วเข้าไปตักน้ำมาให้อาเหม่ยกิน” สะใภ้เจียงถูกย่าสามีถลึงตามองก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้าน และตักน้ำมาให้ไป๋จ้าวเหม่ยกิน ในใจก็ด่ากราดเป็นร้อย ๆ รอบ นังหมูอ้วนสร้างแต่ปัญหา
“อาเหม่ยดื่มน้ำก่อน ค่อย ๆ นะเดี๋ยวสำลัก” ไป๋จ้าวเหม่ยรับแก้วน้ำมาดื่มดังอึก ๆ
“สะใภ้เจียงฉันขออีกสักแก้วเถอะ เหนื่อยแทบขาดใจแล้วจริง ๆ” สะใภ้เจียงหน้าบึ้งตึง แต่ก็รับแก้วมาและวิ่งกลับไปในบ้านอีกรอบ หลังจากดื่มน้ำนั่งพักจนหายเหนื่อย ถึงได้รู้ตัวว่าตอนนี้ มีแต่คนมองมาที่เธอด้วยความสงสัย คนบ้านเจียงขนกันมาทั้งบ้านแล้วกระมัง
“แฮ่ ๆ ย่าสาม ฉันขอโทษนะคะที่เอารถจักรยานบ้านเจียงไปนานเลย พอดีฉันคิดว่าจ่ายค่าไฟในอำเภอได้ ที่ไหนได้ต้องเข้าไปในเมือง ฉันรีบแล้วนะคะ แต่เพราะฉันอ้วนเกินไปจึงทำให้มาช้ามาก”
“เฮ้อฉันก็คิดว่าเธอจะเข้าไปหาอาเหวย ให้อาเหวยยืมรถเจ้าของโรงอาหารเสียอีก ไม่คิดว่าเธอจะเข้าไปในเมืองเอง เอาเถอะ ๆ กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ เสี่ยวอู่ไปอุ้มเจินเจินกลับบ้าน อาหว่านขี่จักรยานกลับไปก่อนเลย อาจัว อาหนี่ย์มาประคองแม่กลับ”
“พี่สะใภ้เจียงเดี๋ยวก่อนค่ะ ล้อรถมันลมอ่อน เดี๋ยวฉันเติมให้”
“เอาไว้พรุ่งนี้เช้าก็ได้สะใภ้อู๋ วันนี้ดึกแล้ว ของในกล่องนี่ฉันช่วยยกเอาไปเก็บในบ้านให้เธอก็แล้วกัน” สะใภ้เจียงสอดส่ายสายตามองไปในกล่อง ทว่าเห็นสายตาดุดันของย่าสามีก็พลันหดคอหนีไม่กล้ามองอีก
“ขอบคุณพี่สะใภ้เจียงมาก แต่เดี๋ยวฉันยกเองก็ได้ค่ะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปแก้เชือกที่มัดเอาไว้แน่น เธอหยิบของในกล่องออกมา
“ขนมถุงนี้เอาให้เจินเจินพรุ่งนี้นะคะ ส่วนชากล่องนี้ของย่าสามและอาสะใภ้หนี่ย์ค่ะ ยาสูบของอาจัว เนื้อชิ้นนี้พี่สะใภ้เจียงทำอาหารให้พี่อู่กับเจินเจินพรุ่งนี้เถอะ”
“โอ๊ยเอาเก็บไว้ที่นี่ให้หมด ของดี ๆ ซื้อมาหลายหยวน เสียดายเงินทอง เอาไว้ ๆ อีกอย่างบ้านสกุลเจียงไม่ขาดเนื้อ เธอลืมไปแล้วหรือว่าอาจัวและพี่อู่ของเธอมีอาชีพล่าสัตว์ขาย”
“ฉันไม่ลืมหรอกค่ะ แต่นี่คือขาหมูของยูนนานเชียวนะ อีกอย่างหากย่าสามทำแบบนี้ คราวหน้าฉันไม่กล้าไปยืมรถบ้านย่าแล้วละค่ะ” อู๋เหวยที่เงียบมาตลอดก็พลันเปิดปากขึ้น ที่เขาเงียบไปเพราะตั้งแต่ที่ไป๋จ้าวเหม่ยขี่รถจักรยานเข้ามา เขาก็เริ่มสังเกตเธอมาตลอด และยิ่งมองก็ยิ่งแปลกใจมากยิ่งขึ้น คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้เชียวหรือ
“ในเมื่อเธอซื้อมาให้แล้ว ย่าสามก็รับเอาไว้เถอะครับ ของที่เธอซื้อมายังมีอีกเต็มกล่อง พวกเราแบ่งให้ย่าก็สมควรแล้ว”
“ใช่ๆ อาเหวยพูดถูก ย่ารับไปเถอะค่ะ เดี๋ยวครั้งหน้าวันหยุดอาเหวย ฉันก็ตั้งใจจะซื้อของกลับไปเยี่ยมแม่ฉัน กับพ่อแม่อาเหวยที่หมู่บ้านลั่วจงอีกด้วย
“เฮ้อ...อาเหม่ยมีน้ำใจแล้ว ย่าสามไม่เกรงใจแล้วนะ ขอบใจมาก ๆ”
ย่าสามและคนบ้านเจียงกลับไปแล้ว ไป๋จ้าวเหม่ยก็ยกกล่องใบใหญ่เข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี พรุ่งนี้บ้านเธอก็จะมีไฟฟ้าใช้แล้ว ไม่ต้องหุงข้าวกับไม้ฟืนอีก
“เธอกินอะไรมาหรือยัง อาหารในครัวฉันแบ่งเก็บไว้ให้แล้วไปกินสิ”
“ได้...ฉันไปกินข้าว นายเข้านอนก่อนเลย” ริมฝีปากอวบกัดปากตนเอง พูดออกไปแล้วก็อดจะหน้าแดงไม่ได้ บ้าจริงดีนะที่อู๋เหวยไม่ได้สนใจคำพูดเธอ
ให้ตายเถอะ เธอพูดเหมือนกับว่าเธอกับอู๋เหวยจะนอนด้วยกันอย่างนั้นแหละ เฮ้อ...เหนื่อยจนเพี้ยนไปแล้วกระมัง แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เรื่องที่เร่งด่วนสำหรับเธอ ก็คือการลดน้ำหนัก ไม่ไหวแล้วโว้ย!
ตอนที่ 10 ตรวจสายตา“พ่อคะ พ่อคะ” อู๋ชิงซวนตะโกนเรียกพ่อของเธอดังลั่น น้ำเสียงนั้นฟังดูทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ เสียงเธอดังก่อนที่ตัวเธอจะโผล่มาเสียอีก“หืม...ดูเหมือนซวนซวนของพ่อจะดีใจนะ อะไรทำให้หนูดีใจได้ขนาดนั้นกันคะลูก”“ก็นี่อย่างไรล่ะคะ พ่อแอบซื้อมาเหรอคะ ทำไมเมื่อวานไม่เอามาให้หนูนะ ฮื้อ...ลูกอมกระต่ายขาว หนูรักพ่อที่สุดเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ชิงฮุยเคยเอามาให้กิน แต่แค่เม็ดเดียวเอง หนูยังจำได้เลย ตอนที่นมละลายในปากมันอร่อยมากแค่ไหน โอ้วนั่นแค่เม็ดเดียว แต่นี่ทั้งถุง ให้ตายเถอะหนูตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว”อู๋ชิงซวนกอดห่อลูกอมยอดฮิตไว้แนบอก ใบหน้าเด็กหญิงแสดงออกถึงความดีใจเป็นอย่างมาก อู๋เหวยยิ้มกว้างออกมา ทว่าในใจกลับเจ็บปวดไปทั้งใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวชอบกินอะไร เขาไม่เคยซื้อของพวกนี้ให้ลูกกิน เพราะว่ามันไม่อิ่มท้องของที่เขาซื้อมักจะเป็นขนมโก๋ กินชิ้นเดียวก็อิ่มไปทั้งวัน และไม่ใช่ว่าจะซื้อมาบ่อย ๆ นาน ๆ ครั้งซวนซวนถึงจะได้กิน เพราะเขาไม่มีเงิน ทั้งเงินหยวนทั้งคูปอง ทุกครั้งไป๋จ้าวเหม่ยก็จะบังคับเอาไปจนหมด“พ่อคะพ่อรู้หรือเปล่า เปลือกห่อมันทำมาจากข้าว เรากินมันได้ด้วยนะคะ นี่ค่ะ
ตอนที่ 1 บทนำแสงสีนวลของหลอดไฟส่องลงมาจากเพดานสีขาว ร่างอวบอั๋นนอนบนเตียงขนาดสามฟุตยกมือขึ้นป้องสายตา ดวงตาหงส์หรี่ลง พร้อมกับความเจ็บปวด แล่นปรี๊ดเข้ามาในก้านสมอง เธอนิ่วหน้าลง“โอ๊ย!...ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” ริมฝีปากบางส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ มือเล็กยกไปลูบที่ด้านหลังท้ายทอย แต่เมื่อสัมผัสกับผ้าอะไรบางอย่างที่สาก ๆ มือ หญิงสาวก็พลันลืมตาขึ้น ทว่าภาพที่เห็นในสายตากลับทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าเดิม“นี่มัน! ฉันบาดเจ็บได้ยังไงกัน” หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้องสี่เหลี่ยมสีขาวหม่น สายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางจากเสาต่อเข้าแขนของเธอ พร้อมกับหัวที่ปวดตุ๊บ ๆ บ่งบอกได้อย่างเดียวว่าเธอกำลังบาดเจ็บ แต่ทำไมกัน เธอกำลังนั่งตรวจการบ้านเด็กนักเรียนในห้องพักครูอยู่ไม่ใช่เหรอ อยู่ ๆ มานอนให้น้ำเกลือในโรงพยาบาลได้อย่างไร แต่แล้วเสียงเล็ก ๆ ก็ดังขัดความคิดให้สะดุดลง“คนใจร้าย ทำไมเธอถึงตื่นขึ้นมาอีกล่ะ ไหนพ่อบอกว่าเธอตายไปแล้ว ไม่รู้เหรอว่าทุกคนอยากให้เธอตาย ตื่นขึ้นมาทำไม!” เสียงเด็กน้อยทั้งห้วนและทั้งกระด้างเจือไปด้วยความโมโหดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด หญิงสาวบนเตียงหันไปมองช้า ๆ ก็เห็นเข้ากับเด็กหญิงตัวน้อย ที่ใบหน
ตอนที่ 2 คนเลวอย่างเธอแม้แต่นรกก็ไม่ต้องการปัง!บานประตูถูกกระชากจนกระแทกเข้ากับผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ร่างอวบอั๋นบนเตียงนอนสะดุ้งตื่น พลางกวาดสายตาที่สั่นระริกมองไปรอบ ๆ เสียงรองเท้าหนังกระแทกพื้นเดินเข้ามาหน้าเตียงนอน ใบหน้าหล่อเหลาราวกับพ่อหนุ่มมังกรเทียนเย่า ซีรีส์จีนที่เธอเพิ่งถ่างตาดูจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ดวงตาเรียวโค้งขึ้นเป็นรูปหัวใจ โรคบ้าดารากำเริบขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่“เทียนเย่า” ริมฝีปากอวบอิ่ม เอ่ยเรียกพร้อมกับดวงตาเปล่งประกายเป็นรูปหัวใจ เทียนเย่าเชียวนะ เสี่ยวโยวของเมีย โอ๊ย!“ไม่มีเทียนเย่า เส่าเย่าอะไรทั้งนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยผู้หญิงสารเลวอย่างเธอนี่มันตายยากเหลือเกินนะ แต่ฉันก็เข้าใจ คนเลวอย่างเธอแม้แต่นรกก็ไม่ต้องการ ดังนั้นท่านจึงได้ถีบส่งดวงวิญญาณชั่ว ๆ ของเธอ ให้ฟื้นกลับมาอีกยังไงล่ะ” แต่แล้วคำพูดที่แสนจะระคายเคืองหู ก็บิดเบือนให้ใบหน้าหล่อราวฟ้าประทานพลันดูแสลงตาลงไปทันทีแน่นอนว่าอู๋เหวยเห็นสายตาที่มองเขาอย่างหลงใหลก็พลันรังเกียจ ผู้หญิงสารเลวคนนี้ชอบมองเขาเช่นนี้มาตลอด บ้าผู้ชาย!“เป็นบ้าหรือไง อยู่ ๆ ก็มาอวยพรให้ฉันขนาดนี้ นายเป็นโรคทางสมองเหรอ
ตอนที่ 3 หรือว่าเธอไม่ปากร้ายหลังจากที่อู๋เหวยออกไปแล้ว ไป๋จ้าวเหม่ยก็นอนก่ายหน้าผากมองเพดานสีขาวออกเหลือง บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ เธอถอนหายใจออกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ป่านนี้ร่างกายของเธอจะถูกเผาหรือถูกฝัง ในยุคที่เธอจากมา ประเทศจีนเริ่มรณรงค์ให้มีการเผาศพกันมากขึ้น อาจเพราะพื้นที่มีจำนวนจำกัด แต่ผู้คนก็ยังไม่ยอมรับกันเท่าไรนัก และเธอเองก็ไม่อยากถูกเผาเช่นกัน“เฮ้อ...เอาเถอะจะเผาหรือฝัง ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับฉันอีกแล้ว ฮื้อ...แต่ฉันอยากกลับบ้าน”“อยากกลับบ้านก็ต้องทน ใครใช้ให้น้าอ้วนวิ่งเข้าชนรถพ่อล่ะ รู้ไหมว่าพ่อต้องเสียเงินให้ลุงเยี่ยซานเจ้าของรถ เพื่อซ่อมรอยบุบที่ชนเธอน่ะ แล้วจะบอกอะไรให้ เงินเดือนนี้ของพ่อคงถูกหักหมด เธออย่ามาร้องขอเงินเชียวล่ะ เพราะที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอน้าอ้วน!” เด็กหญิงตัวน้อยนั่งกอดอก เชิดปลายคางขึ้นสูง ปรายตามองลงมาผ่านปลายจมูก ใบหน้าแสดงความรังเกียจแกมปวดใจออกมาไม่รู้ว่าไป๋จ้าวเหม่ยจะตกใจกับเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างคำว่าอ้วน หรือระหว่างคำว่า ที่รถบุบเพราะชนเธอ ให้ตายไม่ว่าจะอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้น ให้ตายเถอะเธอทะลุมิติมาอยู่ในยุคบ้าอะไรกั
ตอนที่ 4 บ้านหรือรังขยะวันต่อมาไป๋จ้าวเหม่ยก็ได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที แน่นอนว่าคนที่ออกจากโรงพยาบาลเป็นไป๋จ้าวเหม่ยคุณครูประถมโรงเรียนซีหู่จากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ไป๋จ้าวเหม่ยแม่เลี้ยงใจร้าย ที่ตอนนี้ไม่รู้วิญญาณไปอยู่ที่ไหนแล้ว“นี่ไงรถที่น้าอ้วนวิ่งชน ยังเป็นรอยบุบอยู่เลย เขายังไม่ได้ซ่อมหรือคะพ่อ”“ลุงเยี่ยซานของลูกบอกว่าบุบแค่นิดเดียวไม่ต้องซ่อม รอเข้าตรวจสภาพประจำปีค่อยทำน่ะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปที่หน้ารถทรงสี่เหลี่ยม และก็เป็นจริงดังคาด ที่หน้ากระโปรงรถมีรอยยุบหนึ่งรอยอยู่จริง ๆ ไม่รู้ชนตรงไหนของเธอ แขนขาไม่หักแต่รถยุบ พระเจ้า!ร่างอวบอ้วนเดินคอตกกลับขึ้นไปนั่งบนรถ เธอเลือกนั่งที่ด้านหลัง ไม่ได้สนใจสีหน้าของสองพ่อลูกที่มองกันอย่างตกใจ และคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่คลั่งรักอู๋เหวยจะไม่ยอมไปนั่งหน้า แสดงตัวตนอวดชาวบ้านเมื่อมีโอกาส กลับปล่อยให้เป็นที่นั่งของอู๋ชิงซวนไปได้ แต่ใครสนสีหน้าหมางงของสองพ่อลูกกันเล่า รอยยุบนั้นทำเอาหัวใจหญิงสาวสะเทือนไปทั้งใจแล้วจริง ๆอู๋เหวยไม่ได้สนใจสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของไป๋จ้าวเหม่ยอีก เขาเดินมาเปิดประตูข้างคนขับ อุ้มลูกสาวขึ้นไป ยกมือขยี้ผมเธอเบา ๆ และปิดป
ตอนที่ 5 เลิกเรียกฉันว่าอ้วนเสียงร้องของไป๋จ้าวเหม่ยดังออกไปถึงหน้าบ้าน นี่ยังไม่รวมถึงเสียงลูกไก่ที่ส่งเสียงกันระนาว อู๋ชิงซวนขมวดคิ้วราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย รีบวางประแจไขจักรยานเอาไว้และรีบวิ่งมาที่ในห้อง“เธอ!...เอ่อ...น้าไป๋ เกิดอะไรขึ้นเหรอ” อู๋ชิงซวนเกือบลืมไปแล้วว่า ถ้าหากเธอพูดไม่เพราะ พ่อจะไม่รัก จึงได้รีบยกมือขึ้นตบปากตนเอง และเรียกแม่เลี้ยงว่าน้าไป๋จ้าวเหม่ยเอียงหน้าไปมอง ยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกไป เด็กหญิงก็วิ่งมาชะโงกหน้ามองหีบสมบัติอันล้ำค่าที่น้าอ้วนคนนี้หวงนักหวงหนา ก่อนหน้านี้เธออยากรู้มาตลอดว่าแม่เลี้ยงปีศาจแอบซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง แน่นอนว่าของที่พ่อเธอซื้อกลับมาไว้ทำอาหารแป้ง ธัญพืช เครื่องปรุงล้วนถูกเก็บเอาไปทั้งหมดครั้งนี้ดีนักถือโอกาสมองสักหน่อยจะได้เอาไปเล่าให้พ่อฟัง ว่าผู้หญิงคนนี้นิสัยแย่แค่ไหน ทว่าเมื่อใบหน้าชะโงกลงไป ดวงตาเรียวก็พลันเบิกขยาย พร้อมกับริมฝีปากที่ยิ้มจนแทบจะถึงใบหู“น้าอ้วน น้าซื้อไข่มาฟักเหรอ ว้าว ๆ พวกเราจะเลี้ยงมันใช่ไหม ดูสิทำไมมันน่ารักขนาดนี้ล่ะ แล้วมันกินอะไรเป็นอาหารเหรอคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นท่าทางดีอกดีใจของเด็กน้อย ก็พูดไม่ออกว่า เธอไม่อยากเ
ตอนที่ 6 ไม่มีใครรับ ก็รับเองตอนเย็นอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านพร้อมกับกล่องอาหารเหมือนทุกวัน เขาเดินเข้ามาในบ้าน มองหน้าลูกสาวอันเป็นที่รักก่อนเป็นอันดับแรกเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้เขากลับไม่เห็นแม้แต่เงา ในใจชายหนุ่มเริ่มวิตกกังวลกลัวว่าลูกสาวจะถูกแม่เลี้ยงรังแกอีกจะไม่ให้กลัวได้ยังไงเพราะทุกวันที่เขาเลิกงานกลับมา ลูกสาวก็มักจะมารอรับที่หน้าบ้านเสมอ แต่วันนี้กลับไม่มี! ในขณะที่กำลังจะเดินไปตามหาที่หลังบ้านนั้น ก็ได้ยินเสียงเรียกจากนอกรั้วเสียก่อน คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน พลางชะเง้อหน้าไปมอง“พี่เหวยคะ พี่กลับมาหรือยังคะ ฉันเอาจักรยานมาเติมลมน่ะค่ะ”อู๋เหวยถอนหายใจออกมา ตัดใจเดินออกไปที่หน้าบ้านก่อน เพราะได้ยินว่าลูกค้าเอารถมาเติมลม บ้านเล็ก ๆ ของเขาแบ่งส่วนหน้าออกมาทำเป็นร้านซ่อมรถจักรยานเล็ก ๆ คนในหมู่บ้านก็เริ่มมีจักรยานกันหลายคนแล้ว และอีกอย่างพวกทหารที่กองพันสิบเอ็ดก็ชอบเอาจักรยานมาซ่อมที่นี่ อาจเพราะมันอยู่ใกล้กว่าในอำเภอ รายได้ของร้านจึงค่อนข้างที่จะดีมากอยู่ครั้นเมื่ออู๋เหวยออกมาหน้าบ้าน ก็เห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงบานสีแดงยาวจนถึงข้อเท้า และเสื้อสีขาวลายดอกไม้สีแดง เส้นผมดัดเป็นลอนยาว
ตอนที่ 7 สอนลูกยังไงไป๋จ้าวเหม่ยเดินตามสองพ่อลูกกลับเข้ามาในบ้าน เธอเห็นเด็กน้อยนั่งร้องไห้อยู่มุมห้อง โดยมีคนเป็นพ่อกำลังกอดปลอบ ทว่าคำสอนของอู๋เหวยยิ่งฟัง หัวคิ้วของหญิงสาวก็ยิ่งขมวดแน่น“พ่อรู้ว่าลูกไม่ชอบไป๋จ้าวเหม่ย และจริง ๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นนิสัยไม่ดี แต่ลูกก็ไม่ควรจะไปต่อว่าเธอแบบนั้น เพราะนั่นจะทำให้ลูกเหมือนกับเธอ กลายเป็นคนไม่ดีเหมือนเธอ เฮ้อ...พ่อไม่อยากให้ซวนซวนนิสัยเลวร้ายเข้าใจหรือเปล่าครับ”“แต่เธอพูดเหมือนไม่เคยแย่งของหนูกิน ทั้ง ๆ ที่เธอแย่งทุกอย่าง”“นั่นเพราะเธอเป็นผีหิวโซ เป็นตัวตะกละยังไงล่ะ เราไม่ใช่คนแบบเดียวกันกับเธอ เราไม่ตะกละและไม่อยากได้ของของคนอื่น” จะสอนลูกดี ๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องดึงเธอเข้าไปด่าด้วย ถึงจะรู้ว่าพ่อลูกคู่นั้นด่าร่างเดิม แต่ขอละตอนนี้เธออยู่ในร่างนี้นะ!ไป๋จ้าวเหม่ยเลิกสนใจพ่อลูกคู่นี้อีก เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เธอหยิบกล่องอาหารที่อู๋เหวยเอามา และจากที่หลิวชิงฮุยเอามา แค่นี้กับข้าวก็มีถึงห้าอย่างแล้ว ไม่ต้องทำเพิ่ม เหลือแค่เพียงหุงข้าวเท่านั้น หญิงสาวยกกล่องอาหารเข้าไปในครัว พอดีกับที่มีคนมาซ่อมรถที่หน้าบ้าน อู๋เหวยจึงแยกไปอีกทางแต่เม
ตอนที่ 10 ตรวจสายตา“พ่อคะ พ่อคะ” อู๋ชิงซวนตะโกนเรียกพ่อของเธอดังลั่น น้ำเสียงนั้นฟังดูทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ เสียงเธอดังก่อนที่ตัวเธอจะโผล่มาเสียอีก“หืม...ดูเหมือนซวนซวนของพ่อจะดีใจนะ อะไรทำให้หนูดีใจได้ขนาดนั้นกันคะลูก”“ก็นี่อย่างไรล่ะคะ พ่อแอบซื้อมาเหรอคะ ทำไมเมื่อวานไม่เอามาให้หนูนะ ฮื้อ...ลูกอมกระต่ายขาว หนูรักพ่อที่สุดเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ชิงฮุยเคยเอามาให้กิน แต่แค่เม็ดเดียวเอง หนูยังจำได้เลย ตอนที่นมละลายในปากมันอร่อยมากแค่ไหน โอ้วนั่นแค่เม็ดเดียว แต่นี่ทั้งถุง ให้ตายเถอะหนูตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว”อู๋ชิงซวนกอดห่อลูกอมยอดฮิตไว้แนบอก ใบหน้าเด็กหญิงแสดงออกถึงความดีใจเป็นอย่างมาก อู๋เหวยยิ้มกว้างออกมา ทว่าในใจกลับเจ็บปวดไปทั้งใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวชอบกินอะไร เขาไม่เคยซื้อของพวกนี้ให้ลูกกิน เพราะว่ามันไม่อิ่มท้องของที่เขาซื้อมักจะเป็นขนมโก๋ กินชิ้นเดียวก็อิ่มไปทั้งวัน และไม่ใช่ว่าจะซื้อมาบ่อย ๆ นาน ๆ ครั้งซวนซวนถึงจะได้กิน เพราะเขาไม่มีเงิน ทั้งเงินหยวนทั้งคูปอง ทุกครั้งไป๋จ้าวเหม่ยก็จะบังคับเอาไปจนหมด“พ่อคะพ่อรู้หรือเปล่า เปลือกห่อมันทำมาจากข้าว เรากินมันได้ด้วยนะคะ นี่ค่ะ
ตอนที่ 9 คิดว่าหนีกลับบ้าน“ทวดสามท่านมาอยู่กับอาสะใภ้อู๋นี่เอง แม่ให้ฉันมาตามทวดกลับไปกินข้าว”“ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วเหรอ ตายจริงฉันรั้งย่าสามเอาไว้เสียตั้งนาน” หากเจินเจินเรียกทวด เช่นนั้นหญิงชราก็คงเป็นย่าของอู๋เหวยกระมัง“เฮ้อ...วันนี้ได้พูดคุยกับอาเหม่ยย่าก็สบายใจขึ้นมาก ดูเหมือนเจ็บป่วยไปครั้งนี้ อาเหม่ยของพวกเราจะรู้ความขึ้นตั้งเยอะแน่ะ ฮ่า ๆ ดีจริง ๆ วิญญาณน้องชายในปรโลกก็คงวางใจได้แล้ว หลานสะใภ้ที่ตัวเองเลือกเปลี่ยนนิสัย ไม่ถือโทษโกรธคนรุ่นเก่าอีก เอาละ ๆ ย่าสามกลับบ้านก่อน เย็นนี้ก็อย่าลืมมาหุงข้าวที่บ้านล่ะ”“เฮ้อ...เมื่อไรอาสะใภ้อู๋จะไปจ่ายค่าไฟ ไม่รู้หรือไงว่าใช้ไฟบ้านคนอื่นมันน่ารังเกียจ”“เจินเจินหุบปาก!” เด็กหญิงเจินเจินเบ้ปากคว่ำหน้าลง ทว่าสายตาที่เหลือบขึ้นมามองไป๋จ้าวเหม่ยก็ดูไม่เป็นมิตรนัก แต่จะทำอย่างไรได้ ร่างเก่าสร้างเรื่องเอาไว้ขนาดนี้ แม้แต่เด็กน้อยยังเกลียดเธอเลยคิดดูเอาเองเถอะ เฮ้อ...“อย่าว่าเสี่ยวเจินเลยค่ะ เด็กเขาไร้เดียงสาคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น แต่ย่าสามคะฉันต้องขอบคุณที่ย่าเป็นห่วงฉัน เงินเดือนของอาเหวยเดือนที่แล้ว ฉันยังไม่ได้ส่งให้แม่เลย เดี๋ยววัน
ตอนที่ 8 บุญคุณความแค้น“น้าวันนี้ไม่ใช่บอกว่า เราจะสร้างคอกไก่กันหรอกหรือ” ตั้งแต่ส่งคนเป็นพ่อออกไปทำงาน อู๋ชิงซวนก็กลับมานั่งรออยู่นาน ก็ไม่เห็นว่าแม่เลี้ยงจะออกจากห้อง เธอจึงเปิดประตูเดินเข้าไปมอง ทว่าเมื่อเห็นแล้วก็ต้องขมวดคิ้วไม่พอใจ“น้าผิดนัดฉันเพื่อมานอนอ่านนิตยสารเท่านั้นเองเหรอ” เด็กหญิงยกมือกอดอกเชิดหน้า ทำแก้มป่อง ท่าทางของเธอไม่ได้ดูน่ากลัว แต่กลับดูน่ารักเป็นอย่างมากในสายตาของไป๋จ้าวเหม่ย“ใช่แล้วฉันผิดนัด เพราะฉันไม่พอใจ หนูน้อยฉันไม่ชอบที่เธอทำตัวเหมือนจิ้งจก เปลี่ยนสีไปเปลี่ยนสีมา ความจริงเธอฉลาดเลือกก็ดีแล้ว ทั้งยังอยู่เป็นฉันไม่ว่า แต่สำหรับฉัน การกระทำของเธอมันไม่น่ารัก” ไป๋จ้าวเหม่ยวางนิตยสารในมือลง ขยับตัวมานั่งและชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ตรงหน้า“มานั่งคุยกันตรงนี้ก่อน” อู๋ชิงซวนเดินมานั่งอย่างไม่เต็มใจ ทว่าไป๋จ้าวเหม่ยไม่สนใจแม้แต่น้อยความจริงเธอไม่ได้โกรธเด็กน้อยเลย ทว่าเธอแค่ไม่อยากให้เด็กคนนี้โตไปมีนิสัยกลับกลอกอย่างนี้ แต่ลึก ๆ แล้วก็รู้ว่า ที่อู๋ชิงซวนเป็นแบบนี้เพราะเธอ อยู่กับเธอเด็กย่อมไม่กล้าดื้อ แต่เมื่ออยู่กับพ่อของตัวเอง ในใจเด็กรู้ดีว่า พ่อคอยโอ๋ทำอะไรพ่
ตอนที่ 7 สอนลูกยังไงไป๋จ้าวเหม่ยเดินตามสองพ่อลูกกลับเข้ามาในบ้าน เธอเห็นเด็กน้อยนั่งร้องไห้อยู่มุมห้อง โดยมีคนเป็นพ่อกำลังกอดปลอบ ทว่าคำสอนของอู๋เหวยยิ่งฟัง หัวคิ้วของหญิงสาวก็ยิ่งขมวดแน่น“พ่อรู้ว่าลูกไม่ชอบไป๋จ้าวเหม่ย และจริง ๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นนิสัยไม่ดี แต่ลูกก็ไม่ควรจะไปต่อว่าเธอแบบนั้น เพราะนั่นจะทำให้ลูกเหมือนกับเธอ กลายเป็นคนไม่ดีเหมือนเธอ เฮ้อ...พ่อไม่อยากให้ซวนซวนนิสัยเลวร้ายเข้าใจหรือเปล่าครับ”“แต่เธอพูดเหมือนไม่เคยแย่งของหนูกิน ทั้ง ๆ ที่เธอแย่งทุกอย่าง”“นั่นเพราะเธอเป็นผีหิวโซ เป็นตัวตะกละยังไงล่ะ เราไม่ใช่คนแบบเดียวกันกับเธอ เราไม่ตะกละและไม่อยากได้ของของคนอื่น” จะสอนลูกดี ๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องดึงเธอเข้าไปด่าด้วย ถึงจะรู้ว่าพ่อลูกคู่นั้นด่าร่างเดิม แต่ขอละตอนนี้เธออยู่ในร่างนี้นะ!ไป๋จ้าวเหม่ยเลิกสนใจพ่อลูกคู่นี้อีก เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เธอหยิบกล่องอาหารที่อู๋เหวยเอามา และจากที่หลิวชิงฮุยเอามา แค่นี้กับข้าวก็มีถึงห้าอย่างแล้ว ไม่ต้องทำเพิ่ม เหลือแค่เพียงหุงข้าวเท่านั้น หญิงสาวยกกล่องอาหารเข้าไปในครัว พอดีกับที่มีคนมาซ่อมรถที่หน้าบ้าน อู๋เหวยจึงแยกไปอีกทางแต่เม
ตอนที่ 6 ไม่มีใครรับ ก็รับเองตอนเย็นอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านพร้อมกับกล่องอาหารเหมือนทุกวัน เขาเดินเข้ามาในบ้าน มองหน้าลูกสาวอันเป็นที่รักก่อนเป็นอันดับแรกเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้เขากลับไม่เห็นแม้แต่เงา ในใจชายหนุ่มเริ่มวิตกกังวลกลัวว่าลูกสาวจะถูกแม่เลี้ยงรังแกอีกจะไม่ให้กลัวได้ยังไงเพราะทุกวันที่เขาเลิกงานกลับมา ลูกสาวก็มักจะมารอรับที่หน้าบ้านเสมอ แต่วันนี้กลับไม่มี! ในขณะที่กำลังจะเดินไปตามหาที่หลังบ้านนั้น ก็ได้ยินเสียงเรียกจากนอกรั้วเสียก่อน คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน พลางชะเง้อหน้าไปมอง“พี่เหวยคะ พี่กลับมาหรือยังคะ ฉันเอาจักรยานมาเติมลมน่ะค่ะ”อู๋เหวยถอนหายใจออกมา ตัดใจเดินออกไปที่หน้าบ้านก่อน เพราะได้ยินว่าลูกค้าเอารถมาเติมลม บ้านเล็ก ๆ ของเขาแบ่งส่วนหน้าออกมาทำเป็นร้านซ่อมรถจักรยานเล็ก ๆ คนในหมู่บ้านก็เริ่มมีจักรยานกันหลายคนแล้ว และอีกอย่างพวกทหารที่กองพันสิบเอ็ดก็ชอบเอาจักรยานมาซ่อมที่นี่ อาจเพราะมันอยู่ใกล้กว่าในอำเภอ รายได้ของร้านจึงค่อนข้างที่จะดีมากอยู่ครั้นเมื่ออู๋เหวยออกมาหน้าบ้าน ก็เห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงบานสีแดงยาวจนถึงข้อเท้า และเสื้อสีขาวลายดอกไม้สีแดง เส้นผมดัดเป็นลอนยาว
ตอนที่ 5 เลิกเรียกฉันว่าอ้วนเสียงร้องของไป๋จ้าวเหม่ยดังออกไปถึงหน้าบ้าน นี่ยังไม่รวมถึงเสียงลูกไก่ที่ส่งเสียงกันระนาว อู๋ชิงซวนขมวดคิ้วราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย รีบวางประแจไขจักรยานเอาไว้และรีบวิ่งมาที่ในห้อง“เธอ!...เอ่อ...น้าไป๋ เกิดอะไรขึ้นเหรอ” อู๋ชิงซวนเกือบลืมไปแล้วว่า ถ้าหากเธอพูดไม่เพราะ พ่อจะไม่รัก จึงได้รีบยกมือขึ้นตบปากตนเอง และเรียกแม่เลี้ยงว่าน้าไป๋จ้าวเหม่ยเอียงหน้าไปมอง ยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกไป เด็กหญิงก็วิ่งมาชะโงกหน้ามองหีบสมบัติอันล้ำค่าที่น้าอ้วนคนนี้หวงนักหวงหนา ก่อนหน้านี้เธออยากรู้มาตลอดว่าแม่เลี้ยงปีศาจแอบซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง แน่นอนว่าของที่พ่อเธอซื้อกลับมาไว้ทำอาหารแป้ง ธัญพืช เครื่องปรุงล้วนถูกเก็บเอาไปทั้งหมดครั้งนี้ดีนักถือโอกาสมองสักหน่อยจะได้เอาไปเล่าให้พ่อฟัง ว่าผู้หญิงคนนี้นิสัยแย่แค่ไหน ทว่าเมื่อใบหน้าชะโงกลงไป ดวงตาเรียวก็พลันเบิกขยาย พร้อมกับริมฝีปากที่ยิ้มจนแทบจะถึงใบหู“น้าอ้วน น้าซื้อไข่มาฟักเหรอ ว้าว ๆ พวกเราจะเลี้ยงมันใช่ไหม ดูสิทำไมมันน่ารักขนาดนี้ล่ะ แล้วมันกินอะไรเป็นอาหารเหรอคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นท่าทางดีอกดีใจของเด็กน้อย ก็พูดไม่ออกว่า เธอไม่อยากเ
ตอนที่ 4 บ้านหรือรังขยะวันต่อมาไป๋จ้าวเหม่ยก็ได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที แน่นอนว่าคนที่ออกจากโรงพยาบาลเป็นไป๋จ้าวเหม่ยคุณครูประถมโรงเรียนซีหู่จากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ไป๋จ้าวเหม่ยแม่เลี้ยงใจร้าย ที่ตอนนี้ไม่รู้วิญญาณไปอยู่ที่ไหนแล้ว“นี่ไงรถที่น้าอ้วนวิ่งชน ยังเป็นรอยบุบอยู่เลย เขายังไม่ได้ซ่อมหรือคะพ่อ”“ลุงเยี่ยซานของลูกบอกว่าบุบแค่นิดเดียวไม่ต้องซ่อม รอเข้าตรวจสภาพประจำปีค่อยทำน่ะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปที่หน้ารถทรงสี่เหลี่ยม และก็เป็นจริงดังคาด ที่หน้ากระโปรงรถมีรอยยุบหนึ่งรอยอยู่จริง ๆ ไม่รู้ชนตรงไหนของเธอ แขนขาไม่หักแต่รถยุบ พระเจ้า!ร่างอวบอ้วนเดินคอตกกลับขึ้นไปนั่งบนรถ เธอเลือกนั่งที่ด้านหลัง ไม่ได้สนใจสีหน้าของสองพ่อลูกที่มองกันอย่างตกใจ และคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่คลั่งรักอู๋เหวยจะไม่ยอมไปนั่งหน้า แสดงตัวตนอวดชาวบ้านเมื่อมีโอกาส กลับปล่อยให้เป็นที่นั่งของอู๋ชิงซวนไปได้ แต่ใครสนสีหน้าหมางงของสองพ่อลูกกันเล่า รอยยุบนั้นทำเอาหัวใจหญิงสาวสะเทือนไปทั้งใจแล้วจริง ๆอู๋เหวยไม่ได้สนใจสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของไป๋จ้าวเหม่ยอีก เขาเดินมาเปิดประตูข้างคนขับ อุ้มลูกสาวขึ้นไป ยกมือขยี้ผมเธอเบา ๆ และปิดป
ตอนที่ 3 หรือว่าเธอไม่ปากร้ายหลังจากที่อู๋เหวยออกไปแล้ว ไป๋จ้าวเหม่ยก็นอนก่ายหน้าผากมองเพดานสีขาวออกเหลือง บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ เธอถอนหายใจออกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ป่านนี้ร่างกายของเธอจะถูกเผาหรือถูกฝัง ในยุคที่เธอจากมา ประเทศจีนเริ่มรณรงค์ให้มีการเผาศพกันมากขึ้น อาจเพราะพื้นที่มีจำนวนจำกัด แต่ผู้คนก็ยังไม่ยอมรับกันเท่าไรนัก และเธอเองก็ไม่อยากถูกเผาเช่นกัน“เฮ้อ...เอาเถอะจะเผาหรือฝัง ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับฉันอีกแล้ว ฮื้อ...แต่ฉันอยากกลับบ้าน”“อยากกลับบ้านก็ต้องทน ใครใช้ให้น้าอ้วนวิ่งเข้าชนรถพ่อล่ะ รู้ไหมว่าพ่อต้องเสียเงินให้ลุงเยี่ยซานเจ้าของรถ เพื่อซ่อมรอยบุบที่ชนเธอน่ะ แล้วจะบอกอะไรให้ เงินเดือนนี้ของพ่อคงถูกหักหมด เธออย่ามาร้องขอเงินเชียวล่ะ เพราะที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอน้าอ้วน!” เด็กหญิงตัวน้อยนั่งกอดอก เชิดปลายคางขึ้นสูง ปรายตามองลงมาผ่านปลายจมูก ใบหน้าแสดงความรังเกียจแกมปวดใจออกมาไม่รู้ว่าไป๋จ้าวเหม่ยจะตกใจกับเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างคำว่าอ้วน หรือระหว่างคำว่า ที่รถบุบเพราะชนเธอ ให้ตายไม่ว่าจะอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้น ให้ตายเถอะเธอทะลุมิติมาอยู่ในยุคบ้าอะไรกั
ตอนที่ 2 คนเลวอย่างเธอแม้แต่นรกก็ไม่ต้องการปัง!บานประตูถูกกระชากจนกระแทกเข้ากับผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ร่างอวบอั๋นบนเตียงนอนสะดุ้งตื่น พลางกวาดสายตาที่สั่นระริกมองไปรอบ ๆ เสียงรองเท้าหนังกระแทกพื้นเดินเข้ามาหน้าเตียงนอน ใบหน้าหล่อเหลาราวกับพ่อหนุ่มมังกรเทียนเย่า ซีรีส์จีนที่เธอเพิ่งถ่างตาดูจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ดวงตาเรียวโค้งขึ้นเป็นรูปหัวใจ โรคบ้าดารากำเริบขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่“เทียนเย่า” ริมฝีปากอวบอิ่ม เอ่ยเรียกพร้อมกับดวงตาเปล่งประกายเป็นรูปหัวใจ เทียนเย่าเชียวนะ เสี่ยวโยวของเมีย โอ๊ย!“ไม่มีเทียนเย่า เส่าเย่าอะไรทั้งนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยผู้หญิงสารเลวอย่างเธอนี่มันตายยากเหลือเกินนะ แต่ฉันก็เข้าใจ คนเลวอย่างเธอแม้แต่นรกก็ไม่ต้องการ ดังนั้นท่านจึงได้ถีบส่งดวงวิญญาณชั่ว ๆ ของเธอ ให้ฟื้นกลับมาอีกยังไงล่ะ” แต่แล้วคำพูดที่แสนจะระคายเคืองหู ก็บิดเบือนให้ใบหน้าหล่อราวฟ้าประทานพลันดูแสลงตาลงไปทันทีแน่นอนว่าอู๋เหวยเห็นสายตาที่มองเขาอย่างหลงใหลก็พลันรังเกียจ ผู้หญิงสารเลวคนนี้ชอบมองเขาเช่นนี้มาตลอด บ้าผู้ชาย!“เป็นบ้าหรือไง อยู่ ๆ ก็มาอวยพรให้ฉันขนาดนี้ นายเป็นโรคทางสมองเหรอ