หน้าหลัก / โรแมนติก / ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด / บทที่ 5 ท่านแม่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้

แชร์

บทที่ 5 ท่านแม่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-11 09:59:33

บทที่ 5 ท่านแม่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้

ภายในห้องโถงมีสตรีสองนางกำลังพูดคุยหารือกัน สตรีที่มีอายุนั่งอยู่ด้านขวาคือ ‘ฟางเหนียง’ มารดาของท่านแม่ทัพเทียนหลันเซ่อ กำลังใช้มือลูบหลังสตรีที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมืออย่างอ่อนโยน นางกำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กเช็ดน้ำตาที่กำลังรินไหลออกมา ใบหน้าของนางสง่างามไร้ที่ติแถมนางยังเป็นบุตรสาวของท่านใต้เท้าหลิวผู้ที่มีอำนาจนางคือ ‘หลิวอี้เฟ่ย’ สตรีที่มีใจให้แก่ท่านแม่ทัพเทียนหลันเซ่อ

“หลิวอี้เฟ่ยเจ้าหยุดร้องไห้คร่ำครวญเถิดนะ ตอนนี้เทียนหลันเซ่อบุตรชายของข้าได้แต่งฮูหยินเข้ามาแล้ว เราต้องช่วยกันคิดจะทำอย่างไรต่อไปจะดีกว่ามาคร่ำครวญเช่นนี้ "

“ท่านป้าข้าเจ็บตรงนี้เหลือเกินเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าข้าจะได้เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพเสียอีก เหตุไฉนท่านแม่ทัพถึงไปคว้าสตรีที่ต่ำต้อยเช่นนั้นมาเป็นฮูหยิน ข้าไม่ดีตรงไหนหรือเจ้าคะ” เสียงเล็กแหลมสะอึกสะอื้นไห้ เอ่ยออกมาอย่างเจ็บช้ำน้ำใจนางรักเทียนหลันเซ่อจากใจจริงแม้ว่าเขาเคยมีภรรยาหรือมีลูกติดนางเองไม่ได้สน คอยมาหามาดูแลมารดาของท่านแม่ทัพอยู่บ่อยครั้ง จนเอาชนะใจของฟางเหนียงได้

“ไม่เลยเจ้าดีทุกอย่าง เหมาะสมกับเทียนหลันเซ่อทุกประการ แต่ที่เขาแต่งงานในครั้งนี้นั้นเพราะเหตุจำเป็น เอาเช่นนี้แล้วกันอย่างไรข้าเองก็มิได้ชอบฮูหยินของเขา ระหว่างที่นางอยู่ที่นี่ข้าจะบีบบังคับให้นางทนไม่ได้และจากที่นี่ไปเองหลังจากนั้นข้าจะให้เทียนหลันเซ่อไปสู่ขอเจ้าดีหรือไม่? ตอนนี้เจ้าหยุดร้องก่อนเถอะนะ”

“จริงนะเจ้าคะ”

“จริงนะสิเพราะเจ้าเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นฮูหยินของเทียนหลันเซ่อ” ฟางเหนี่ยงเอ่ยปลอบจนสตรีตรงหน้าหยุดร้องไห้ เช็ดหยาดน้ำตาสักพักนางได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังย่างเท้าเข้ามา ทั้งสองจ้องมองพบเห็นว่าตอนนี้เทียนหลันเซ่อกำลังเดินเข้ามา หลิวอี้เฟ่ยใบหน้าระรื่นขึ้นเมื่อเห็บบุรุษที่นางเฝ้าถวินหา นางรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้คารวะเขาทันที

“คารวะท่านแม่ทัพ” นางเงยหน้าขึ้นมองพร้อมยิ้มโปรยเสน่ห์ใบหน้าแดงก่ำอย่างเขินอาย

“คุณหนูหลิวอี้เฟ่ยเองหรอกหรือแขกของท่านแม่ ข้าคิดว่าผู้ใด”

“เหตุใดถึงเอ่ยกับหลิวอี้เฟ่ยเหินห่างเช่นนั้นเล่า มิใช่เจ้ารู้ว่านางมาจึงมาหาข้าแต่เช้าหรอกหรือ”

“ท่านแม่ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหลิวอี้เฟ่ยมาที่นี่ แต่ที่ข้ามาหาท่านแม่เพราะจะพาฮูหยินมายกน้ำชาให้ท่านแม่ขอรับ” เมื่อได้ยินว่าเขาพาฮูหยินมารอยยิ้มของหลิวอี้เฟ่ยก็จางหายทันที ส่วนหลี่มี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังยังไม่เข้ามาด้านในเมื่อได้ยินชื่อนางร้ายนางเองก็อยากเห็นเช่นกันว่าสตรีนางนี้จะงดงามเพียงใด รีบเดินเข้ามาคารวะท่านแม่ของเขา

“ข้าน้อยเยิ่นเม่ยเม่ยคารวะท่านแม่” ฟางเหนียงชักสีหน้าเย็นชาต่างจากที่อยู่กับหลิวอี้เฟ่ยอย่างเห็นได้ชัด

“น้ำชามาแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ที่ท่านแม่ทัพให้ไปนำน้ำชาได้เดินเข้ามาทันเวาลาพอดี หลี่มี่อ่านหนังสือมามากพร้อมกับดูซีรี่ส์ฉากนี้จึงเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับนาง ทั้งเทียนหลันเซ่อกับหลี่มี่ได้ยกน้ำชาให้ฟางเหนียงแม้เขาจะไม่ชอบเยิ่นเม่ยเม่ยแต่เวลาที่อยู่ต่อหน้าบุตรชายของตัวเองต้องเสแสร้งแกล้งทำดี เพราะไม่อยากให้บุตรชายต้องคิดมาก

ไม่นานก็ยกน้ำชาเสร็จ หลี่มี่รู้สึกได้ว่าถูกสายตาของหลิวอี้เฟ่ยจ้องมองอยู่ตลอด เมื่อนางยกน้ำชาเสร็จฟางเหนียงให้ทั้งสองมานั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน

“เจ้าทั้งสองมานั่งร่วมโต๊ะดื่มน้ำชาแล้วค่อยไป ข้าจะให้สาวใช้ไปนำของมามอบให้เยิ่นเม่ยเม่ยเพื่อเป็นการต้อนรับนาง” ฟางเหนียงผายมือให้ทั้งสองมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะหันไปมองหน้าสาวใช้ให้ไปนำกล่องสมบัติของนางมาให้

“ขอรับท่านแม่ รีบลุกมานั่งนี่สิ” เทียนหลันเซ่อประคองตัวหลี่มี่ให้ลุกขึ้นเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตามที่ท่านแม่บอก

“เจ้าค่ะ” หลี่มี่ลุกขึ้นจะมานั่งเก้าอี้ตัวข้าง ๆ หันไปมองหลิวอี้เฟ่ยที่ยืนอยู่จึงเอ่ยชวนให้นางมานั่งด้วยกัน

“เอ่อ…เชิญมานั่งด้วยกันสิเจ้าคะ”

“จริงสิหลิวอี้เฟ่ยเจ้านั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ท่านแม่ทัพสิ ส่วนเจ้ามานั่งใกล้ ๆ ข้า ข้าจะมอบของให้” ฟางเหนียงเอ่ยพลางชี้นิ้วให้หลี่มี่มานั่งใกล้ ๆ ตน นางจึงทำตาม สักพักสาวใช้ได้ยกกล่องไม้สี่เหลี่ยมแกะสลักอย่างสวยงามแค่มองดูผ่านสายตาครั้งเดียวก็รู้ว่ากล่องนั้นน่าจะเป็นกล่องเก็บของมีค่าของฟางเหนียง นางเปิดกล่องออกมาล้วงเอากำไลสีเขียวมรกตมอบให้แก่หลี่มี่ เพื่อเป็นของจวัญตอนรับลูกสะใภ้

“นี่ข้าให้เจ้า”

“ขอบน้ำใจท่านแม่มากเจ้าค่ะ” หลี่มี่รับกำไลจากมือของฟางเหนียงมาถือไว้ แม่ทัพมองดูอย่างมีความสุขที่ท่านแม่ของเขาเอ็นดูนางส่วนหลิวอี้เฟ่ยที่มองอยู่ก็ต้องรู้สึกอิจฉาหากรองแม่ทัพมิได้รับดาบแทนท่านแม่ทัพปานนี้คนที่จะได้รับของนั้นต้องเป็นนนาง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งฮูหยินหรือทุกอย่างที่เกี่ยวกับท่านแม่ทัพล้วนต้องเป็นของนางทุกอย่าง หัวใจของหลิวอี้เฟ่ยร้อนรุ่มด้วยไฟริษยา

“จริงสิว่าแต่แม่นางหลิวอี้เฟ่ยมาหาท่านแม่แต่เช้าเช่นนี้มีเรื่องด่วนอันใดหรือไม่? ” เทียนหลันเซ่อหันไปถามสตรีที่นั่งอย่ข้าง ๆ

“ไม่ได้มีเรื่องด่วนอันใดเจ้าคะ ท่านแม่ทัพก็รู้ว่าข้ามาหาท่านป้าอยู่บ่อย ๆ ”

“นั่นสิ เพราะมีหลิวอี้เฟ่ยมาคอยดูแลข้ากับอ้ายเยว่ทำให้เราทั้งสองไม่เหงาเวลาที่เจ้าไม่อยู่ นับว่าหลิวอี้เฟ่ยมีบุญคุณกับแม่ยิ่งนัก” ฟางเหนียงรีบเยินเยอความดีความชอบให้นางอย่างออกหน้าออกตา

“โธ่ ท่านป้าเรื่องแค่นี้หาใช่บุญคุณไม่ข้าล้วนทำด้วยใจนะเจ้าคะ” หลี่มี่ที่นั่งฟังอยู่ก็ต้องแสยะยิ้มมุมปาก

‘ช่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขรุ่ย เสนอตัวให้ท่านแม่ทัพอย่างเห็นได้ชัด แต่ฉันจะไม่ยอมหรอกนะเพราะในนิยายเยิ่นเม่ยเม่ยคิดว่าหลิวอี้เฟ่ยดีกับตนแต่ที่ไหนได้ นางแค่แสร้งทำเป็นดีด้วยแต่โยนความผิดทุกอย่างให้ เฮอะ! คอยดูเถอะฉันจะไม่ยอมให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนในเนื้อเรื่องหรอก’ หลี่มี่คิดในใจก่อนจะฉีกยิ้มคว้ามือไปจับมือของหลิวอี้เฟ่ยจนนางสะดุ้งตกใจ

“ช่างมีบุญคุญยิ่งนัก ช่างเป็นสตรีที่งดงามทั้งใบหน้าและจิตใจต้องขอบคุณแม่นางหลิวอี้เฟ่ยที่ดูแลแม่สามีกับบุตรชายแสนน่ารัก แต่ต่อจากนี้แม่นางคงไม่ต้องลำบากแล้ว เพราะข้าเป็นฮูหยินเป็นภรรยาของท่านแม่ทัพเป็นสะใภ้ เป็นท่านแม่ของคุณชายอ้ายเยว่ต่อจากนี้ทุกอย่างในจวนนี้ข้าจะดูเองมิให้คุณหนูหลิวอี้เฟ่ยต้องมาลำบากอีกแล้ว” ใบหน้าของฟางเหนียงกับหลิวอี้เฟ่ยพลันเปลี่ยนสี ไม่คิดว่าเยิ่นเม่ยเม่ยจะเอ่ยออกมาเช่นนี้ แต่นางก็ยังคงยิ้มรับพร้อมลูบมือของหลี่มี่คืน

“ฮูหยินที่ข้าทำมิใช่ความลำบากอันใด ข้าล้วนเต็มใจข้าเห็นท่านป้าเป็นดั่งท่านแม่ของข้า เห็นคุณชายอ้ายเยว่เป็นดั่งบุตรชายหากท่านมิให้ข้ามาคงยากเพราะข้าต่างผูกพันธ์”

‘อะไรกัน! นี่ฉันพูดไปขนาดนี้แล้วยังดึงดัน เหอะสมกับเป็นนางร้ายจริง '

“นั่นสิ แม้ว่าแม่นางหลิวอี้เฟ่ยจะเป็นผู้อื่นแต่ข้าเองก็มองนางเป็นบุตรสาวของข้า เจ้าไม่ต้องกังวลเทียนหลันเซ่อหากเจ้าหมดธุระก็จงพาฮูหยินเจ้ากลับไปเถอะ ข้ามีเรื่องจะต้องพูดคุยกับหลิวอี้เฟ่ยต่อ” เทียนหลันเซ่อที่นั่งมองเหตุการณ์เขากอดอกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองการแสดงของหลี่มี่อย่างขบขัน

“ขอรับท่านแม่ ข้าว่าจะขอกลับหลังจากที่ยกน้ำชาเสร็จแต่เห็นว่าฮูหยินพูดคุยเข้ากันได้ดีกับหลิวอี้เฟ่ยข้าจึงยังไม่เอ่ยขอออกไป เช่นนั้นข้าขอตัวฮูหยินกลับห้องพักก่อนนะขอรับ” ฟางเหนียงโบกมือไล่บุตรชายออกไปอย่างเหนื่อยหัวใจ

“รีบ ๆ ไปเถิด”

“ท่านแม่ข้าขอตัวไปพักก่อนนะเจ้าคะ เพราะเมื่อคืนนี้ท่านแม่ทัพไม่ให้ข้าพักเลย ร่างกายกำยำเรี่ยวแรงก็มากมายสมกับเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ ต่อจากนี้ท่านแม่จะไม่ต้องเหงาอีกเป็นแน่เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าไม่นานท่านแม่อาจจะได้อุ้มหลานคนที่สองแน่ ๆ ข้าขอลานะเจ้าคะท่านแม่ คุณหนูหลิวอี้เฟ่ย” ก่อนลาหลี่มี่ก็มิลืมที่จะเอ่ยคำพูดที่ทำให้หลิวอี้เฟ่ยดวงตาร้อนพราว ส่วนเทียนหลันเซ่อกลับถูกใจยิ่งนัก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 6 แผนการ

    บทที่ 6 แผนการเมื่อหลี่มี่โค้งคำนับฟางเหนียงเสร็จนางหันหลังเดินออกมา เทียนหลันเซ่อเองก็รีบเดินตามหลังนางมาติด ๆ เดินผ่านสวนดอกไม้เทียนหลันเซ่อคว้าแขนของนางให้หยุดเดินก่อนจะใช้แขนอีกข้างโอบกอดนางไว้ไม่ให้เดินต่อ“นี่ท่านทำอันใดของท่านเจ้าคะ” หลี่มี่ตกใจที่จู่ ๆ เขาก็เข้ามาสวมกอดแถมแสดงสีหน้าเย้ายวนกวนประสาท“แค่กอดเท่านี้จะเป็นไรไป เมื่อคืนนี้เราก็ผ่านค่ำคืนเร้าร้อนมาด้วยกัน เจ้าบอกท่านแม่ว่าอีกไม่นานเจ้าจะมีหลานให้ท่าน สงสัยคืนนี้ข้าต้องรีบพาเจ้าเข้าห้องตั้งแต่ฟ้าไม่มืดจะได้มีน้องให้อ้ายเยว่ในเร็ววัน” เพราะความอยากเอาชนะหลิวอี้เฟ่ยทำให้หลี่มี่เอ่ยออกไปอย่างลืมคิด จนท่านแม่ทัพเอ่ยมันออกมาแล้วอย่างนี้นางจะหาทางหลบหนีเขาอย่างไร“เมื่อครู่… ที่ข้าเอ่ยออกไปเพราะอยากให้ท่านแม่สบายใจเท่านั้น ท่านแม่ทัพไม่เห็นต้องนำมาใส่ใจเลยเจ้าค่ะ อีกอย่างคืนนี้ข้าขอพักบ้างไม่ได้หรือเจ้าคะ? เนื้อตัวของข้าปวดระบมไปหมดแล้ว” เทียนหลันเซ่อแสยะยิ้มมุมปากครุ่นคิด ที่เขาทำเช่นนี้เพราะอยากแกล้งนางอยากรู้ว่านางจะแสดงได้อีกนานเท่าไหร่ถึงจะแสดงธาตุแท้ออกมา เขารับมือจากศัตรูมามากเพียงมองดูก็รู้ว่าศัตรูจะโจมตีเช่นไรแต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 7 บาดเจ็บ

    บทที่ 7 บาดเจ็บสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าเรียกใช้จึงรีบพากันออกไปตามหาสาวใช้ที่นางต้องการ"ท่านป้าเจ้าคะ เมื่อครู่ที่นางมายกน้ำชาการกระทำคำพูดของนางข้าพอมองออก นางมิใช่สตรีที่อ่อนแอเราจะประมาทมิได้นะเจ้าคะ ""เป็นอย่างที่เจ้าเอ่ย ข้าเองก็พอมองออกเราประเมินนางต่ำไป หากให้สาวใช้คอยปรนนิบัตินาง เราจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นคนเช่นไร เทียนหลันเซ่อผ่านการมีภรรยามาแล้วข้าไม่คิดเลยว่าบุตรชายของข้าจะหลงนางราวกับว่าไม่เคยผ่านสตรีใดมาก่อน หรือว่านางผู้นี้จะมีคาถาเวทย์มนต์หรือว่าใส่ยาเสน่ห์ให้เทียนหลันเซ่อกินกันนะ เขาไม่เคยเอ่ยวาจาเหินห่างกับเจ้าแต่เมื่อมีเยิ่นเม่ยเม่ยเข้ามากลับทำเป็นว่าเจ้าเป็นผู้อื่น เฮ้อ! ยิ่งคิดข้ายิ่งปวดหัว " ฟางเหนียงคิดอันใดก็เอ่ยออกมา ต่างจากหลิวอี้เฟ่ยนางคิดตามคำพูดของฟางเหนียงลุกขึ้นพรวดจนฟางเหนียงตกใจ"หากท่านป้าปวดหัวก็จงพักเถอะเจ้าค่ะ ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีเรื่องต้องทำขอลานะเจ้าคะ อีกสองวันข้าจะมาหาท่านป้าใหม่ " แววตาคมกริบไร้รอยยิ้มย่างเท้าเดินออกจากห้องไปทันที ทำเอาฟางเหนียงมองตามอย่างไม่เข้าใจ"นางมีเรื่องด่วนอันใดถึงรีบร้อนใจออกไปเช่นนี้ คงเป็นเพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 8 ข้าไม่ได้ตั้งใจ

    บทที่ 8 ข้าไม่ได้ตั้งใจไม่นานแม่นมได้กลับมาพร้อมท่านหมอตรวจร่างกายจัดการบาดแผลให้แก่หลี่มี่ โชคดีที่นางไม่ได้รับบาดเจ็บมากเพียงแค่หัวแตกเท่านั้น ส่วนที่นางสลบน่าจะเป็นเพราะนางตกใจจนเกินไปเมื่อท่านหมอรักษาแผลให้หลี่มี่เสร็จเขาจึงขอตัวกลับ ส่วนอ้ายเยว่ไม่กล้าที่จะเข้าไปที่ห้องเดินไปมาอยู่หน้าห้องอย่างเป็นกังวล ส่วนลูกแมวน้อยเขาได้ให้แม่นมพาไปที่ห้องของเขาแล้ว เทียนหลันเซ่อรู้ว่าเยิ่นเม่ยเม่ยปลอดภัย เขาจึงเดินออกมาหน้าห้องพบเห็นอ้ายเยว่เดินไปมาอย่างเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงเดินเข้ามาหาบุตรชายเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น อ้ายเยว่เห็นท่านพ่อเดินออกมาจากห้องจึงรีบเข้าไปเอ่ยถามอาการของเยิ่นเม่ยเม่ย“ท่านพ่อนางเป็นเช่นไรบ้างขอรับ ข้าไม่ได้ทำให้นางตายใช่มั้ย? ท่านพ่อหากนางตายข้าจะทำเช่นไร” เทียนหลันเซ่อวางมือลงบนบ่าของอ้ายเยว่ทั้งสองข้างนั่งคุกเข่าลงเพื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้“อ้ายเยว่บอกข้ามาว่าเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมนางถึงได้รับบาดเจ็บ แล้วทำไมเจ้าต้องคิดว่าตนเองฆ่านางหรือว่าเจ้ารังแกนาง” น้ำเสียงกดต่ำเพียงแค่ได้ยินก็รู้เย็นยะเยือกถึงหัวใจเด็กชายสั่นกลัวส่ายหน้าม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 1 ลืมตามาแต่งงาน

    บทนำ หลี่มี่สาวน้อยนักแต่งนิยายที่ไม่ได้โด่งดัง เธอหลับระหว่างกำลังแต่งนิยายแต่ทว่าชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปเมื่อเธอลืมตาขึ้นมากลับพบว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในนิยายที่ตัวเองแต่ง แถมยังมาอยู่ในร่างของนางเอกที่ต้องตายอย่างไร้ความยุติธรรม ไม่ได้การหากเธอจะใช้ชีวิตอยู่ในร่างนี้เธอจะไม่ยอมตายง่าย ๆ และจะเปลี่ยนแปลงตอนจบของนิยายเรื่องนี้เอง แต่ที่น่าปวดหัวที่สุดก็คือท่านแม่ทัพพร้อมลูกชายของเขา เธอจะทำอย่างไรต่อไปติดตามต่อได้นะคะบทที่ 1 ลืมตามาแต่งงานแคว้นเฉียนเหลียงในฤดูใบไม้ผลิท้องถนนเต็มไปด้วยโคมไฟประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ขบวนรถม้าเจ้าสาวที่กำลังเคลื่อนขบวนไปที่เรือนของบุรุษอันเป็นที่รักเพื่อทำพิธีมงคล ผู้คนมากมายต่างพากันออกมายืนดูขบวนรถม้าอย่างตื่นตา ต่างพากันอยากยลโฉมสตรีที่อยู่ในรถม้านั้นจะงดงามเพียงใดถึงได้ครองใจท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่หารู้ไม่ว่าการแต่งงานในครั้งนี้มิเกิดจากความรักแต่เป็นคำขอร้องคำสุดท้ายของคนสนิทผู้มีพระคุณของท่านแม่ทัพฝากฝังบุตรสาวให้ท่านแม่ทัพช่วยดูแลก่อนที่เขาจะตายต่อหน้าต่อตาท่านแม่ทัพเนื่องจากรับดาบแทนท่านแม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 2 เผชิญหน้า

    บทที่ 2 เผชิญหน้าพิธีการเสร็จสิ้นสาวใช้ได้พาหลี่มี่ไปที่ห้องหอส่วนท่านแม่ทัพนั้นออกตอนรับแขกที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ประตูห้องถูกปิดจากด้านนอกหลี่มี่นั่งลงบนเตียงหนานุ่มใช้มือตบลงที่นอนอย่าน่าพอใจ เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลงนางได้เปิดผ้าคุมหน้ากวาดตามองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจดูภายในห้องที่นางต้องอยู่ต่อจากนี้“ห้องกว้างใหญ่มากนี่น่า ในนิยายฉันจำได้ว่าฉันแต่งออกมาให้ห้องหอเป็นเพียงห้องเล็กเท่านั้น หรือนี่คือห้องที่เล็กที่สุดแล้วนะ เฮ้อ! ผ้าคุมหน้านี่ก็น่ารำคาญเสียจริง อากาศก็ออกจะร้อนขอถอดออกหน่อยละกันอย่างไรเจ้าบ่าวก็ไม่เข้ามาเปิดมันหรอก เพราะฉันจำได้ว่าคืนวันงานเขาไม่แยแสไม่สนใจปล่อยให้เยิ่นเม่ยเม่ยรอคอยจนฟ้าสว่าง ดีเลยอย่างนี้ฉันค่อยสบายใจหน่อยแต่ก็น่าแปลกฉันเข้ามาอยู่ในนิยายได้ยังไงนะ แถมยังมาอยู่ในร่างตัวเอกอีก” หลี่มี่เปิดผ้าขยับอาภรณ์ที่แน่นหนาออกให้สบายตัว พลางคิดเรื่องที่เธอมาอยู่ในนิยายช่างเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก ๆ นางลุกขึ้นเดินทั่วห้องมองดูของใช้ต่าง ๆ“ฉันว่าในห้องนี้ดีจริง ๆ มีทุกสิ่งทุกอย่างราวกับว่าจัดเตรียมไว้ต้อนรับเยิ่นเม่ยเม่ยเป็นอย่างดี แต่ยังไงฉันก็ยังไม่สบายใจหรอกนะจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 3 เกือบไม่รอด

    บทที่ 3 เกือบไม่รอด“คิดไม่ถึงเลยว่าบุตรสาวท่านรองแม่ทัพจะดื่มสุราเก่งเพียงนี้ เอาสิหากเจ้าอยากดื่มจงดื่มให้เพียงพอจากนั้นเราจะได้ใช้ช่วงเวลาหอมหวานด้วยกัน” ดวงตาที่มองมายังนางช่างหวานเยิ้ม หลี่มี่คิดหนักทุกอย่างช่างแตกต่างในนิยายยิ่งนัก เมื่อเห็นว่าเขาตามใจนางจึงรีบรินสุรามอบให้แก่เขาอีกครั้ง“เช่นนั้นท่านแม่ทัพมาดื่มด้วยกันนะเจ้าคะ จะให้ข้าดื่มผู้เดียวได้อย่างไร”“ได้สิหากเจ้าป้อนข้า ข้าจะดื่มทุกจอกที่เจ้ารินให้” ความรู้สึกอึดอัดปะทะใบหน้าแต่ทำได้เพียงแสร้งยิ้มให้คนตรงหน้า‘ตาแม่ทัพบ้าคนนี้ไม่เห็นเย็นชาแต่กลับเป็นท่านแม่ทัพจอมหื่นสินะ เฮ้อ! จะเป็นอะไรก็ช่างขอแค่คืนนี้ฉันต้องผ่านมันไปให้ได้’ หลี่มี่จำยอมยกจอกสุราป้อนไปที่ปากของเขาอย่างจำใจ เขายิ้มกริ่มออกมาอย่างพอใจดื่มสุราที่นางมอบให้จอกแล้วจอกเล่า เมื่อใกล้หมดหลี่มี่จึงตะโกนบอกทหารที่อยู่ด้านนอกไปนำสุรามาอีก ไหแล้วไหเล่าในที่สุดใบหน้าของท่านแม่ทัพเริ่มแดงระเรื่อ ดวงตาหวานเยิ้มเอ่ยวาจาเริ่มติด ๆ ขัด ๆ“อะไรกันสุราหมดไปขนาดนี้แล้วแต่ท่านแม่ทัพยังนั่งได้อยู่ โชคดีที่เราเองคอแข็งมากพอไม่เช่นนั้นจะเป็นฉันเองที่มอมเหล้าตัวเอง "หลี่มี่คิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 4 เด็กแสบ

    บทที่ 4 เด็กแสบฝั่งด้านหลี่มี่นางเดินรับลมมาเรื่อย ๆ เพราะไม่รู้จะเดินไปทางใดทำให้นางเริ่มสับสนว่าที่ที่นางอยู่นี่คือที่ใดกัน เมื่อเดินมาได้สักพักได้ยินเสียงเด็กชายที่ส่งเสียงดังอยู่ด้านหน้า“เสียงเด็กผู้ชายนี่น่าหรือว่าจะเป็นเจ้าก้อนแป้งนะ ชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าจะน่ารักเหมือนในนิยายหรือเปล่า” หลี่มี่รีบย่างเท้าไปด้านหน้าเพื่อพบกับ ‘อ้ายเยว่’ อายุห้าขวบ บุตรชายเพียงผู้เดียวของท่านแม่ทัพ ซึ่งเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นขาดความรักของผู้เป็นแม่ ทำให้เขาเอาแต่ใจตนเองและไม่ชอบเยิ่นเม่ยเม่ยเพราะคิดว่านางจะมาแย่งความรักของท่านพ่อไปจากเขา เมื่อนางเดินเข้ามาใกล้เห็นว่าเด็กชายแก้มตุ้ยนุ้ยอวบอ้วนกำลังรังแกสัตว์อยู่นางรีบเข้าไปห้ามทันทีไม่อยากให้เด็กชายนิสัยเสียไปกว่านี้“หยุดนะ! นี่เจ้ากำลังทำอะไร” เด็กชายหยุดรังแกสัตว์พร้อมหันไปมองที่มาของเสียง แต่เมื่อเห็นใบหน้าของผู้มาเยือนเด็กชายมีท่าทางเปลี่ยนไปทันที“ชิ! ข้าคิดว่าใครที่แท้ก็คนที่มาแย่งท่านพ่อไปจากข้า มีสิทธิ์อะไรมาห้ามข้า ไม่ใช่ท่านแม่ของข้าเสียหน่อย” เด็กชายไม่ได้เกรงกลัวแถมยังแสดงท่าทีอวดเก่งใส่นางอีกด้วยซ้ำ"ตัวแค่นี้ปากเก่งเสียจริงนะ" หลี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 8 ข้าไม่ได้ตั้งใจ

    บทที่ 8 ข้าไม่ได้ตั้งใจไม่นานแม่นมได้กลับมาพร้อมท่านหมอตรวจร่างกายจัดการบาดแผลให้แก่หลี่มี่ โชคดีที่นางไม่ได้รับบาดเจ็บมากเพียงแค่หัวแตกเท่านั้น ส่วนที่นางสลบน่าจะเป็นเพราะนางตกใจจนเกินไปเมื่อท่านหมอรักษาแผลให้หลี่มี่เสร็จเขาจึงขอตัวกลับ ส่วนอ้ายเยว่ไม่กล้าที่จะเข้าไปที่ห้องเดินไปมาอยู่หน้าห้องอย่างเป็นกังวล ส่วนลูกแมวน้อยเขาได้ให้แม่นมพาไปที่ห้องของเขาแล้ว เทียนหลันเซ่อรู้ว่าเยิ่นเม่ยเม่ยปลอดภัย เขาจึงเดินออกมาหน้าห้องพบเห็นอ้ายเยว่เดินไปมาอย่างเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงเดินเข้ามาหาบุตรชายเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น อ้ายเยว่เห็นท่านพ่อเดินออกมาจากห้องจึงรีบเข้าไปเอ่ยถามอาการของเยิ่นเม่ยเม่ย“ท่านพ่อนางเป็นเช่นไรบ้างขอรับ ข้าไม่ได้ทำให้นางตายใช่มั้ย? ท่านพ่อหากนางตายข้าจะทำเช่นไร” เทียนหลันเซ่อวางมือลงบนบ่าของอ้ายเยว่ทั้งสองข้างนั่งคุกเข่าลงเพื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้“อ้ายเยว่บอกข้ามาว่าเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมนางถึงได้รับบาดเจ็บ แล้วทำไมเจ้าต้องคิดว่าตนเองฆ่านางหรือว่าเจ้ารังแกนาง” น้ำเสียงกดต่ำเพียงแค่ได้ยินก็รู้เย็นยะเยือกถึงหัวใจเด็กชายสั่นกลัวส่ายหน้าม

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 7 บาดเจ็บ

    บทที่ 7 บาดเจ็บสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าเรียกใช้จึงรีบพากันออกไปตามหาสาวใช้ที่นางต้องการ"ท่านป้าเจ้าคะ เมื่อครู่ที่นางมายกน้ำชาการกระทำคำพูดของนางข้าพอมองออก นางมิใช่สตรีที่อ่อนแอเราจะประมาทมิได้นะเจ้าคะ ""เป็นอย่างที่เจ้าเอ่ย ข้าเองก็พอมองออกเราประเมินนางต่ำไป หากให้สาวใช้คอยปรนนิบัตินาง เราจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นคนเช่นไร เทียนหลันเซ่อผ่านการมีภรรยามาแล้วข้าไม่คิดเลยว่าบุตรชายของข้าจะหลงนางราวกับว่าไม่เคยผ่านสตรีใดมาก่อน หรือว่านางผู้นี้จะมีคาถาเวทย์มนต์หรือว่าใส่ยาเสน่ห์ให้เทียนหลันเซ่อกินกันนะ เขาไม่เคยเอ่ยวาจาเหินห่างกับเจ้าแต่เมื่อมีเยิ่นเม่ยเม่ยเข้ามากลับทำเป็นว่าเจ้าเป็นผู้อื่น เฮ้อ! ยิ่งคิดข้ายิ่งปวดหัว " ฟางเหนียงคิดอันใดก็เอ่ยออกมา ต่างจากหลิวอี้เฟ่ยนางคิดตามคำพูดของฟางเหนียงลุกขึ้นพรวดจนฟางเหนียงตกใจ"หากท่านป้าปวดหัวก็จงพักเถอะเจ้าค่ะ ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีเรื่องต้องทำขอลานะเจ้าคะ อีกสองวันข้าจะมาหาท่านป้าใหม่ " แววตาคมกริบไร้รอยยิ้มย่างเท้าเดินออกจากห้องไปทันที ทำเอาฟางเหนียงมองตามอย่างไม่เข้าใจ"นางมีเรื่องด่วนอันใดถึงรีบร้อนใจออกไปเช่นนี้ คงเป็นเพ

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 6 แผนการ

    บทที่ 6 แผนการเมื่อหลี่มี่โค้งคำนับฟางเหนียงเสร็จนางหันหลังเดินออกมา เทียนหลันเซ่อเองก็รีบเดินตามหลังนางมาติด ๆ เดินผ่านสวนดอกไม้เทียนหลันเซ่อคว้าแขนของนางให้หยุดเดินก่อนจะใช้แขนอีกข้างโอบกอดนางไว้ไม่ให้เดินต่อ“นี่ท่านทำอันใดของท่านเจ้าคะ” หลี่มี่ตกใจที่จู่ ๆ เขาก็เข้ามาสวมกอดแถมแสดงสีหน้าเย้ายวนกวนประสาท“แค่กอดเท่านี้จะเป็นไรไป เมื่อคืนนี้เราก็ผ่านค่ำคืนเร้าร้อนมาด้วยกัน เจ้าบอกท่านแม่ว่าอีกไม่นานเจ้าจะมีหลานให้ท่าน สงสัยคืนนี้ข้าต้องรีบพาเจ้าเข้าห้องตั้งแต่ฟ้าไม่มืดจะได้มีน้องให้อ้ายเยว่ในเร็ววัน” เพราะความอยากเอาชนะหลิวอี้เฟ่ยทำให้หลี่มี่เอ่ยออกไปอย่างลืมคิด จนท่านแม่ทัพเอ่ยมันออกมาแล้วอย่างนี้นางจะหาทางหลบหนีเขาอย่างไร“เมื่อครู่… ที่ข้าเอ่ยออกไปเพราะอยากให้ท่านแม่สบายใจเท่านั้น ท่านแม่ทัพไม่เห็นต้องนำมาใส่ใจเลยเจ้าค่ะ อีกอย่างคืนนี้ข้าขอพักบ้างไม่ได้หรือเจ้าคะ? เนื้อตัวของข้าปวดระบมไปหมดแล้ว” เทียนหลันเซ่อแสยะยิ้มมุมปากครุ่นคิด ที่เขาทำเช่นนี้เพราะอยากแกล้งนางอยากรู้ว่านางจะแสดงได้อีกนานเท่าไหร่ถึงจะแสดงธาตุแท้ออกมา เขารับมือจากศัตรูมามากเพียงมองดูก็รู้ว่าศัตรูจะโจมตีเช่นไรแต่

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 5 ท่านแม่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้

    บทที่ 5 ท่านแม่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้ภายในห้องโถงมีสตรีสองนางกำลังพูดคุยหารือกัน สตรีที่มีอายุนั่งอยู่ด้านขวาคือ ‘ฟางเหนียง’ มารดาของท่านแม่ทัพเทียนหลันเซ่อ กำลังใช้มือลูบหลังสตรีที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมืออย่างอ่อนโยน นางกำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กเช็ดน้ำตาที่กำลังรินไหลออกมา ใบหน้าของนางสง่างามไร้ที่ติแถมนางยังเป็นบุตรสาวของท่านใต้เท้าหลิวผู้ที่มีอำนาจนางคือ ‘หลิวอี้เฟ่ย’ สตรีที่มีใจให้แก่ท่านแม่ทัพเทียนหลันเซ่อ“หลิวอี้เฟ่ยเจ้าหยุดร้องไห้คร่ำครวญเถิดนะ ตอนนี้เทียนหลันเซ่อบุตรชายของข้าได้แต่งฮูหยินเข้ามาแล้ว เราต้องช่วยกันคิดจะทำอย่างไรต่อไปจะดีกว่ามาคร่ำครวญเช่นนี้ "“ท่านป้าข้าเจ็บตรงนี้เหลือเกินเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าข้าจะได้เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพเสียอีก เหตุไฉนท่านแม่ทัพถึงไปคว้าสตรีที่ต่ำต้อยเช่นนั้นมาเป็นฮูหยิน ข้าไม่ดีตรงไหนหรือเจ้าคะ” เสียงเล็กแหลมสะอึกสะอื้นไห้ เอ่ยออกมาอย่างเจ็บช้ำน้ำใจนางรักเทียนหลันเซ่อจากใจจริงแม้ว่าเขาเคยมีภรรยาหรือมีลูกติดนางเองไม่ได้สน คอยมาหามาดูแลมารดาของท่านแม่ทัพอยู่บ่อยครั้ง จนเอาชนะใจของฟางเหนียงได้“ไม่เลยเจ้าดีทุกอย่าง เหมาะสมกับเทียนหลันเซ่อทุกประการ

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 4 เด็กแสบ

    บทที่ 4 เด็กแสบฝั่งด้านหลี่มี่นางเดินรับลมมาเรื่อย ๆ เพราะไม่รู้จะเดินไปทางใดทำให้นางเริ่มสับสนว่าที่ที่นางอยู่นี่คือที่ใดกัน เมื่อเดินมาได้สักพักได้ยินเสียงเด็กชายที่ส่งเสียงดังอยู่ด้านหน้า“เสียงเด็กผู้ชายนี่น่าหรือว่าจะเป็นเจ้าก้อนแป้งนะ ชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าจะน่ารักเหมือนในนิยายหรือเปล่า” หลี่มี่รีบย่างเท้าไปด้านหน้าเพื่อพบกับ ‘อ้ายเยว่’ อายุห้าขวบ บุตรชายเพียงผู้เดียวของท่านแม่ทัพ ซึ่งเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นขาดความรักของผู้เป็นแม่ ทำให้เขาเอาแต่ใจตนเองและไม่ชอบเยิ่นเม่ยเม่ยเพราะคิดว่านางจะมาแย่งความรักของท่านพ่อไปจากเขา เมื่อนางเดินเข้ามาใกล้เห็นว่าเด็กชายแก้มตุ้ยนุ้ยอวบอ้วนกำลังรังแกสัตว์อยู่นางรีบเข้าไปห้ามทันทีไม่อยากให้เด็กชายนิสัยเสียไปกว่านี้“หยุดนะ! นี่เจ้ากำลังทำอะไร” เด็กชายหยุดรังแกสัตว์พร้อมหันไปมองที่มาของเสียง แต่เมื่อเห็นใบหน้าของผู้มาเยือนเด็กชายมีท่าทางเปลี่ยนไปทันที“ชิ! ข้าคิดว่าใครที่แท้ก็คนที่มาแย่งท่านพ่อไปจากข้า มีสิทธิ์อะไรมาห้ามข้า ไม่ใช่ท่านแม่ของข้าเสียหน่อย” เด็กชายไม่ได้เกรงกลัวแถมยังแสดงท่าทีอวดเก่งใส่นางอีกด้วยซ้ำ"ตัวแค่นี้ปากเก่งเสียจริงนะ" หลี

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 3 เกือบไม่รอด

    บทที่ 3 เกือบไม่รอด“คิดไม่ถึงเลยว่าบุตรสาวท่านรองแม่ทัพจะดื่มสุราเก่งเพียงนี้ เอาสิหากเจ้าอยากดื่มจงดื่มให้เพียงพอจากนั้นเราจะได้ใช้ช่วงเวลาหอมหวานด้วยกัน” ดวงตาที่มองมายังนางช่างหวานเยิ้ม หลี่มี่คิดหนักทุกอย่างช่างแตกต่างในนิยายยิ่งนัก เมื่อเห็นว่าเขาตามใจนางจึงรีบรินสุรามอบให้แก่เขาอีกครั้ง“เช่นนั้นท่านแม่ทัพมาดื่มด้วยกันนะเจ้าคะ จะให้ข้าดื่มผู้เดียวได้อย่างไร”“ได้สิหากเจ้าป้อนข้า ข้าจะดื่มทุกจอกที่เจ้ารินให้” ความรู้สึกอึดอัดปะทะใบหน้าแต่ทำได้เพียงแสร้งยิ้มให้คนตรงหน้า‘ตาแม่ทัพบ้าคนนี้ไม่เห็นเย็นชาแต่กลับเป็นท่านแม่ทัพจอมหื่นสินะ เฮ้อ! จะเป็นอะไรก็ช่างขอแค่คืนนี้ฉันต้องผ่านมันไปให้ได้’ หลี่มี่จำยอมยกจอกสุราป้อนไปที่ปากของเขาอย่างจำใจ เขายิ้มกริ่มออกมาอย่างพอใจดื่มสุราที่นางมอบให้จอกแล้วจอกเล่า เมื่อใกล้หมดหลี่มี่จึงตะโกนบอกทหารที่อยู่ด้านนอกไปนำสุรามาอีก ไหแล้วไหเล่าในที่สุดใบหน้าของท่านแม่ทัพเริ่มแดงระเรื่อ ดวงตาหวานเยิ้มเอ่ยวาจาเริ่มติด ๆ ขัด ๆ“อะไรกันสุราหมดไปขนาดนี้แล้วแต่ท่านแม่ทัพยังนั่งได้อยู่ โชคดีที่เราเองคอแข็งมากพอไม่เช่นนั้นจะเป็นฉันเองที่มอมเหล้าตัวเอง "หลี่มี่คิด

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 2 เผชิญหน้า

    บทที่ 2 เผชิญหน้าพิธีการเสร็จสิ้นสาวใช้ได้พาหลี่มี่ไปที่ห้องหอส่วนท่านแม่ทัพนั้นออกตอนรับแขกที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ประตูห้องถูกปิดจากด้านนอกหลี่มี่นั่งลงบนเตียงหนานุ่มใช้มือตบลงที่นอนอย่าน่าพอใจ เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลงนางได้เปิดผ้าคุมหน้ากวาดตามองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจดูภายในห้องที่นางต้องอยู่ต่อจากนี้“ห้องกว้างใหญ่มากนี่น่า ในนิยายฉันจำได้ว่าฉันแต่งออกมาให้ห้องหอเป็นเพียงห้องเล็กเท่านั้น หรือนี่คือห้องที่เล็กที่สุดแล้วนะ เฮ้อ! ผ้าคุมหน้านี่ก็น่ารำคาญเสียจริง อากาศก็ออกจะร้อนขอถอดออกหน่อยละกันอย่างไรเจ้าบ่าวก็ไม่เข้ามาเปิดมันหรอก เพราะฉันจำได้ว่าคืนวันงานเขาไม่แยแสไม่สนใจปล่อยให้เยิ่นเม่ยเม่ยรอคอยจนฟ้าสว่าง ดีเลยอย่างนี้ฉันค่อยสบายใจหน่อยแต่ก็น่าแปลกฉันเข้ามาอยู่ในนิยายได้ยังไงนะ แถมยังมาอยู่ในร่างตัวเอกอีก” หลี่มี่เปิดผ้าขยับอาภรณ์ที่แน่นหนาออกให้สบายตัว พลางคิดเรื่องที่เธอมาอยู่ในนิยายช่างเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก ๆ นางลุกขึ้นเดินทั่วห้องมองดูของใช้ต่าง ๆ“ฉันว่าในห้องนี้ดีจริง ๆ มีทุกสิ่งทุกอย่างราวกับว่าจัดเตรียมไว้ต้อนรับเยิ่นเม่ยเม่ยเป็นอย่างดี แต่ยังไงฉันก็ยังไม่สบายใจหรอกนะจ

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 1 ลืมตามาแต่งงาน

    บทนำ หลี่มี่สาวน้อยนักแต่งนิยายที่ไม่ได้โด่งดัง เธอหลับระหว่างกำลังแต่งนิยายแต่ทว่าชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปเมื่อเธอลืมตาขึ้นมากลับพบว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในนิยายที่ตัวเองแต่ง แถมยังมาอยู่ในร่างของนางเอกที่ต้องตายอย่างไร้ความยุติธรรม ไม่ได้การหากเธอจะใช้ชีวิตอยู่ในร่างนี้เธอจะไม่ยอมตายง่าย ๆ และจะเปลี่ยนแปลงตอนจบของนิยายเรื่องนี้เอง แต่ที่น่าปวดหัวที่สุดก็คือท่านแม่ทัพพร้อมลูกชายของเขา เธอจะทำอย่างไรต่อไปติดตามต่อได้นะคะบทที่ 1 ลืมตามาแต่งงานแคว้นเฉียนเหลียงในฤดูใบไม้ผลิท้องถนนเต็มไปด้วยโคมไฟประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ขบวนรถม้าเจ้าสาวที่กำลังเคลื่อนขบวนไปที่เรือนของบุรุษอันเป็นที่รักเพื่อทำพิธีมงคล ผู้คนมากมายต่างพากันออกมายืนดูขบวนรถม้าอย่างตื่นตา ต่างพากันอยากยลโฉมสตรีที่อยู่ในรถม้านั้นจะงดงามเพียงใดถึงได้ครองใจท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่หารู้ไม่ว่าการแต่งงานในครั้งนี้มิเกิดจากความรักแต่เป็นคำขอร้องคำสุดท้ายของคนสนิทผู้มีพระคุณของท่านแม่ทัพฝากฝังบุตรสาวให้ท่านแม่ทัพช่วยดูแลก่อนที่เขาจะตายต่อหน้าต่อตาท่านแม่ทัพเนื่องจากรับดาบแทนท่านแม่

DMCA.com Protection Status