แชร์

บทที่ 18

ผู้เขียน: RainyStarSea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-08 17:20:03

เช้านี้ หลินเข่อซิงกำลังเตรียมตัวสำหรับแผนการขั้นต่อไป นางตั้งใจจะเข้าไปใกล้ชิดกับอวิ๋นเฟยหลงมากขึ้น แต่แน่นอนว่าแผนนี้ต้องไม่ใช่การวางท่าเหมือนนางเอกทั่วไปที่ยอมอ่อนให้แล้วกลับไปร้องไห้ หลินเข่อซิงคิดว่าเธอต้องเปลี่ยนวิธีเข้าหาให้ได้ผลกว่านั้น

หลังจากคิดไปคิดมา นางตัดสินใจทำอาหารที่ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้เพื่อเอาไปให้อวิ๋นเฟยหลง เธอตั้งใจจะใช้ความรู้ด้านการทำอาหารจากโลกปัจจุบันมาทำให้เขาประทับใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นยุคไหน “เสน่ห์ปลายจวัก” ก็เป็นเรื่องสำคัญ

“หลิงเฉิน! จัดแจงของให้ข้าเร็วเข้า” หลินเข่อซิงสั่งสาวใช้คนสนิทที่ตอนนี้กำลังจัดจานอาหารที่ถูกทำไว้อย่างประณีต “ข้าต้องการให้ทุกอย่างออกมาดูดี ไม่มีที่ติ”

หลิงเฉินยิ้มขันๆ พลางจัดอาหารตามที่คุณหนูสั่ง “คุณหนูนี่ดูจะจริงจังกับเรื่องนี้มากเลยนะเจ้าคะ”

“แน่นอน! ข้าจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แบบนางเอกเจ้าน้ำตาแน่” เข่อซิงตอบอย่างมั่นใจ ก่อนจะพาอาหารที่เตรียมไว้ออกเดินทางตรงไปยังจวนของอวิ๋นเฟยหลง

เมื่อหลินเข่อซิงมาถึงจวนของอวิ๋นเฟยหลง นางก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ค้นหูอย่างมาก นางเดินเข้าไปยังห้องโถงของจวน และก่อนที่จะได้ย่างเท้าเข้าไปในห้อง นางก็ได้ยินเสียงหัวเราะนุ่มๆ ที่คุ้นเคย

หยางเฟยฮุ่ย นั่นเอง!

เมื่อหลินเข่อซิงเปิดประตูห้องเข้าไป นางเห็นภาพที่ทำให้ต้องขบกรามแน่น หยางเฟยฮุ่ยกำลังนั่งกินข้าวกับอวิ๋นเฟยหลง ทั้งสองนั่งตรงข้ามกันอย่างสง่างาม โดยที่หยางเฟยฮุ่ยดูสบายใจเหมือนนางเป็นเจ้าของที่นี่ ทำท่าทำทางอ่อนหวานจนน่าเวียนหัว

“เฟยหลง ท่านต้องลองซุปนี้นะเจ้าคะ ข้าอุตส่าห์สั่งให้ห้องครัวทำอย่างพิถีพิถันเพื่อท่านโดยเฉพาะ” หยางเฟยฮุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแฝงเสน่ห์

อวิ๋นเฟยหลงยกช้อนตักซุปขึ้นมาชิมอย่างนิ่งๆ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ บนใบหน้า

หลินเข่อซิงแอบเบ้ปาก แหม นางหยางเฟยฮุ่ยนี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกันนะ... แผนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าต้องการอะไร แต่แทนที่จะหลบหลังแล้วถอยออกไป เธอตัดสินใจว่า ไม่ได้! คนอย่างข้าจะไม่ยอมแพ้แบบนางเอกทั่วๆ ไป

หลินเข่อซิงสูดลมหายใจลึก ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องด้วยท่าทางมั่นใจ พร้อมถาดอาหารที่ถือมา

“อ้าว! ขอโทษที่มาขัดจังหวะพวกท่านนะเจ้าคะ” หลินเข่อซิงพูดด้วยน้ำเสียงสดใสพลางยิ้มกว้าง “แต่ข้าเพิ่งทำอาหารสูตรพิเศษมาให้ท่านอวิ๋น เลยอยากนำมามอบให้ด้วยตัวเอง”

หยางเฟยฮุ่ยที่กำลังพูดอย่างสนุกสนานชะงักไปชั่วขณะ นางหันไปมองหลินเข่อซิงด้วยสายตาเย็นชา “หลินเข่อซิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” นางถามอย่างไม่พอใจนัก สายตานางราวกับอยากแผดเผาหลินเข่อซิงให้มอดไหม้ไปเดี๋ยวนั้น

“ข้ามาทำอาหารให้ท่านอวิ๋นเจ้าค่ะ” หลินเข่อซิงตอบพร้อมรอยยิ้มหวาน “เป็นอาหารสูตรพิเศษที่ข้าตั้งใจทำด้วยตัวเอง หวังว่าท่านอวิ๋นจะชอบนะเจ้าคะ”

อวิ๋นเฟยหลงเหลือบตามองหลินเข่อซิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “อาหารของเจ้าหรือ?” เขาถามอย่างเรียบๆ พร้อมมองของในมือของนาง

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ!” หลินเข่อซิงวางถาดอาหารลงตรงหน้าอวิ๋นเฟยหลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปิดฝาครอบออก เผยให้เห็นอาหารที่หน้าตาแปลกใหม่ แต่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมที่ยากจะต้านทาน

หยางเฟยฮุ่ยเห็นดังนั้นก็เริ่มหงุดหงิด นางไม่เคยคาดคิดว่าหลินเข่อซิงจะกล้าปรากฏตัวแบบนี้ แถมยังทำอาหารมาแข่งกับนางอีก นางหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าช่างกล้าดีเสียจริง หลินเข่อซิง คิดว่าฝีมือทำอาหารของเจ้าเทียบกับห้องครัวที่ดีที่สุดของจวนอวิ๋นได้อย่างนั้นหรือ?”

หลินเข่อซิงยิ้มกว้างและพูดต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน “ข้าไม่ได้บอกว่าฝีมือข้าจะดีที่สุดหรอกเจ้าค่ะ แต่ก็มั่นใจว่าอาหารนี้ทำด้วยความตั้งใจจริง ท่านอวิ๋นลองชิมดูก่อนเถิดเจ้าค่ะ”

หยางเฟยฮุ่ยกัดฟันแน่น ก่อนจะหันไปหาอวิ๋นเฟยหลงด้วยสายตาที่หวังว่าชายหนุ่มจะปฏิเสธหลินเข่อซิง แต่กลับผิดคาด อวิ๋นเฟยหลงกลับหยิบช้อนขึ้นมาและตักอาหารจากจานของหลินเข่อซิงเข้าปาก

เขาชิมอาหารนั้นอย่างเงียบๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่แล้วเขาก็พยักหน้าเบาๆ “อืม…อร่อยดี”

คำพูดของอวิ๋นเฟยหลงทำให้หยางเฟยฮุ่ยหน้าเสียไปครู่หนึ่ง นางรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ที่ไม่อาจยอมรับได้ นางตวัดสายตามองหลินเข่อซิงอย่างไม่พอใจ

“ท่านอวิ๋นชอบข้าก็ดีใจเจ้าค่ะ” เข่อซิงพูดอย่างสดใส ก่อนจะยิ้มให้หยางเฟยฮุ่ยที่กำลังพยายามระงับความโกรธอยู่ “ข้าต้องขออภัยจริงๆ ที่มาขัดจังหวะ...แต่ในเมื่อท่านอวิ๋นดูท่าจะเพลิดเพลินกับอาหารของข้า งั้นข้าคงอยู่ต่อได้สินะเจ้าคะ?”

หยางเฟยฮุ่ยแทบอยากจะกรีดร้อง แต่ต้องสะกดอารมณ์ไว้ นางไม่สามารถพูดอะไรได้มากในตอนนี้ นางรู้ดีว่าหากพูดออกไป นอกจากจะทำลายบรรยากาศแล้ว ยังทำให้อวิ๋นเฟยหลงมองนางไม่ดี และเขาอาจจะไม่พอใจได้

“เอาสิ” อวิ๋นเฟยหลงตอบอย่างเรียบง่าย ทำให้หลินเข่อซิงยิ้มกว้างขึ้นอีกครั้ง นางรู้สึกว่าตนเองชนะในศึกเล็กๆ นี้อย่างไม่ต้องสงสัย

แม้จะเป็นแค่อาหารมื้อหนึ่ง แต่สำหรับหลินเข่อซิง มันเป็นก้าวแรกในการเข้าหาอวิ๋นเฟยหลง และนางรู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้เพิ่งเริ่มต้น...และนางจะไม่มีวันยอมแพ้!

ในห้องโถงที่บรรยากาศเริ่มร้อนระอุ หยางเฟยฮุ่ยนั่งนิ่งด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าที่เคยสง่างามกลับดูเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้องเห็นหลินเข่อซิงเข้ามานั่งร่วมโต๊ะและได้รับคำชมจากอวิ๋นเฟยหลง แม้จะแค่เรื่องอาหาร แต่สำหรับหยางเฟยฮุ่ย นี่เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้

“เจ้าก็แค่ทำอาหารเอง ทำไมต้องทำเหมือนว่านี่เป็นเรื่องสำคัญนัก?” หยางเฟยฮุ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เจือความดูถูก “หรือว่าเจ้าไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว? อาหารแปลกๆ นี่คงเป็นทั้งหมดที่เจ้ามีสินะ”

หลินเข่อซิงยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับหันไปสบตาหยางเฟยฮุ่ย “ก็ใช่สิ อาหารมันสำคัญไม่ใช่เหรอ? ถ้าเจ้ารู้จักทำอาหารเองบ้าง บางทีอาจจะช่วยให้ใครบางคนรู้สึกดีกับเจ้ามากขึ้นก็ได้นะเจ้าคะ” หลินเข่อซิงเน้นคำว่า 'เอง'อย่างจงใจ

หยางเฟยฮุ่ยจ้องหน้าเข่อซิง แววตาของนางเย็นชา “เจ้าหมายความว่าอะไร?”

เข่อซิงยิ้มหวาน “ก็หมายความตามนั้นแหละเจ้าค่ะ ข้าว่าความรักมันต้องผ่านกระเพาะถึงจะไปถึงหัวใจ จริงไหมเจ้าคะ?” นางเอียงคอมองเฟยฮุ่ยด้วยสายตาไร้เดียงสา แต่แฝงความยียวนอย่างเห็นได้ชัด

จากนั้นจึงหันไปส่งสายตาหวานเชื่อมให้อวิ๋นเฟยหลง

ทำเอาคนกลางอย่างเขาถึงกับทำหน้าไม่ถูก ได้แต่นิ่งเงียบมองสองสาวเล่นสงครามน้ำลายกัน

หยางเฟยฮุ่ยกัดฟันแน่น “เจ้ากำลังเยาะเย้ยข้าอยู่ใช่ไหม?”

“เยาะเย้ย? โอ้ย! ไม่หรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่พูดตามความจริงเท่านั้น” เข่อซิงพูดพร้อมกับยักไหล่ “แต่ถ้าท่านคิดอย่างนั้น ข้าก็ไม่ว่าอะไรเจ้าค่ะ”

หยางเฟยฮุ่ยยิ้มเย็น หัวใจนางเริ่มเดือดดาล แต่พยายามระงับอารมณ์ไว้ “เจ้ามันช่างน่ารำคาญจริงๆ หลินเข่อซิง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะหน้าด้านแบบนี้ แต่ดูเหมือนเจ้าจะสนุกที่ทำให้ข้าโกรธนะ”

“ข้าก็แค่เป็นตัวของตัวเองเจ้าค่ะ ถ้ามันทำให้ใครบางคนโกรธ ข้าก็เสียใจจริงๆ อ่า... นิดหน่อย” เข่อซิงพูดพร้อมกับทำท่ายกนิ้วชี้และโป้งประกบกัน แล้วชูมาใกล้ตา พร้อมยิ้มมุมปาก “แต่ถ้าใครบางคนทำอะไรให้ข้าไม่พอใจ ข้าก็อาจจะตอบโต้กลับก็ได้”

หยางเฟยฮุ่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองหลินเข่อซิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ นางยกมือขึ้น เตรียมจะตบสั่งสอนให้หลินเข่อซิงได้รู้ถึงความโกรธของนาง

“เจ้าจะทำอะไรน่ะ?” หลินเข่อซิงพูดเสียงหลง พร้อมกับรีบวิ่งไปหลบหลังอวิ๋นเฟยหลงทันที นางจับแขนเขาอย่างออดอ้อน “ท่านอวิ๋น! ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ! คุณหนูหยางจะทำร้ายข้า!”

อวิ๋นเฟยหลงที่นั่งนิ่งอยู่นานมองดูสถานการณ์ตรงหน้า ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อยก่อนจะหลุดขำออกมาเบาๆ คำหนึ่ง

เสียงหัวเราะของอวิ๋นเฟยหลงทำให้หยางเฟยฮุ่ยโกรธจนหน้าแดง เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกหยามเกียรติและอับอายอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก นางยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น กำมือแน่น พยายามสะกดอารมณ์โกรธ

“เฟยฮุ่ย” อวิ๋นเฟยหลงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “เรื่องนี้คงไม่ต้องถึงขั้นใช้กำลังหรอก ข้าคิดว่าทุกคนควรสงบสติอารมณ์”

หยางเฟยฮุ่ยพยายามระงับความโกรธ นางไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าอวิ๋นเฟยหลง “ข้าก็แค่หยอกล้อกับเข่อซิงเท่านั้นเองเจ้าค่ะ ข้าไม่คิดจะทำร้ายอะไรหรอก” นางพูดอย่างฝืนๆ พยายามทำท่าทางไม่ถือสา แต่ในใจนั้นร้อนเป็นไฟ

“นั่นสินะเจ้าคะ ข้าก็แค่หยอกล้อกันเล็กน้อย” หลินเข่อซิงพูดเสริมพลางยิ้มกว้าง ก่อนจะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หยางเฟยฮุ่ยขณะที่อวิ๋นเฟยหลงไม่ทันเห็น

หยางเฟยฮุ่ยเห็นท่าทางนั้นของเข่อซิงก็แทบระเบิด แต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายิ้มอย่างฝืนๆ นางจึงทำได้เพียงพูดเสียงเย็น “ข้าว่าข้ากลับก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ ไว้เจอกันครั้งหน้านะ เข่อซิง” ประโยคท้ายนางหันไปมองหลินเข่อซิงพร้อมรอยยิ้ม แต่ไปไม่ถึงดวงตา

หลินเข่อซิงยิ้มหวานตอบ “ข้ารออยู่เสมอเจ้าค่ะ”

หยางเฟยฮุ่ยกัดฟันแน่น ก่อนจะหันหลังเดินจากไปด้วยความโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ขณะที่หลินเข่อซิงนั่งลงอย่างสบายอกสบายใจ พลางหันมามองอวิ๋นเฟยหลงที่ยังคงมีรอยยิ้มเล็กๆ ติดอยู่ที่มุมปาก

“ท่านก็ยิ้มเป็นนี่นา พอยิ้มแล้วโลกดูสดใสขึ้นมาทันทีเลย ข้าว่าท่านควรจะยิ้มบ่อยๆนะ” หลินเข่อซิงว่าพลางยื่นหน้าไปมองใกล้ๆ คนถูกมองหัวใจกระตุก เขาเผลอสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มนัยน์ตาของนางระยิบระยับราวกับมีดวงดาวมากมายอยู่ในนั้น ภาพที่สะท้อนในดวงตานางคือใบหน้าของเขา

หลินเข่อซิงใจเต้นแรง เธอทำไปแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้เห็นใบหน้าเขาชิดใกล้ถึงเพียงนี้ ถึงได้รู้ว่าเขาหล่อเหลาขนาดไหน ริมฝีปากแดงเรื่ออย่างธรรมชาติของเขาเผยอนิดๆ น่า…

“มีจดหมายมาขอรับ เอ่อ…” บ่าวรับใช้ในจวนเข้ามารายงาน ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก และก้มหน้าลงอย่างไว

“อะแฮ่ม… ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เจ้าก็กลับไปเถอะ ข้ามีงานที่ยังต้องทำอีกมาก” อวิ๋นเฟยหลงพูดพร้อมเบือนหน้าหนีนาง

“ข้า…ข้าก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน ใครอยากจะอยู่กัน” ว่าแล้วหลินเข่อซิงก็รีบร้อนเดินออกไป จจนหลิงเฉินได้แต่วิ่งตามไปติดๆ

“คุณหนูๆ คุณหนูเป็นอะไรเจ้าคะ รอข้าด้วยเจ้าค่ะ”

คล้อยหลังสองนายบ่าวจากไปแล้ว อวิ๋นเฟยหลงจึงถามบ่าวรับใช้ชายถึงจดหมายที่มาส่ง

เขารับจดหมายฉบับนั้นมา ข้างในมีเพียงคำเดียว

หลังอ่านจบ เขาเอาจดหมายฉบับนั้นไปเผาทิ้งทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 19

    หลังจากเหตุการณ์ที่เข่อซิงเพิ่งปะทะกับหยางเฟยฮุ่ย เธอก็กลับมาที่จวนของตน นั่งครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ และนึกถึงเรื่องราวในนิยายที่เธอได้อ่านไป ว่าตอนนี้เหตุการณ์ที่เธอพบ มันไปถึงจุดไหนของเรื่องและจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็พลันแวบขึ้นมาในหัว “น้ำท่วม!” หลินเข่อซิงจำได้ชัดเจนว่า ในช่วงเวลานี้ของนิยายที่เธอเคยอ่านซึ่งเป็นกลางถึงปลายเดือนมีนาคม จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ทำให้เมืองนี้ตกอยู่ในความเดือดร้อน ชาวบ้านจำนวนมากต้องสูญเสียทรัพย์สินและบ้านเรือน ชีวิตของพวกเขาจะพลิกผันเพราะภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด “ถ้าข้าจำไม่ผิด อีกไม่เกิน 7 วันจะเกิดน้ำท่วม...นี่มันโอกาสของข้านี่นา!” เข่อซิงพึมพำกับตัวเอง ในนิยาย เหตุการณ์นี้เป็นจุดที่ทำให้อวิ๋นเฟยหลงและกองทัพต้องลงมือช่วยชาวบ้าน ทว่านางเอกเดิมกลับไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเลย เพราะนางเพียงยืนอยู่ข้างๆ อย่างไร้พลัง แต่ตอนนี้ หลินเข่อซิงในฐานะผู้ที่รู้อนาคต จะไม่ยอมให้เรื่องราวเป็นแบบนั้น! เธอตัดสินใจว่าจะใช้ความรู้จากโลกปัจจุบันเพื่อหาทางช่วยชาวบ้านก่อนที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 20

    “ขอรับ คุณหนูหลิน!” หัวหน้ากลุ่มทหารอาสาโค้งคำนับอย่างเคารพ ก่อนจะออกคำสั่งให้ลูกน้องเริ่มจัดการตามที่หลินเข่อซิงบอก นางเดินต่อไปยังจุดที่ชาวบ้านกำลังรวมตัวกันพลางถามไถ่สถานการณ์เบื้องต้นจากผู้ดูแล “พวกท่านเตรียมตัวอพยพหรือยัง?” “ข้าเตรียมแล้ว แต่ยังมีบางบ้านที่ไม่ยอมย้ายเจ้าค่ะ บางคนกลัวว่าจะทิ้งทรัพย์สินของตนไว้ไม่ได้” หญิงชราผู้ดูแลชาวบ้านกล่าวด้วยความกังวล หลินเข่อซิงพยักหน้าแล้วหันไปยังกลุ่มชาวบ้านที่ยังดูสับสนและไม่แน่ใจว่าควรทำอะไรต่อไป นางตัดสินใจเดินไปข้างหน้า ยืนอยู่บนแท่นสูงๆ เล็กน้อยแล้วเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังพอให้ทุกคนได้ยิน “ทุกท่าน! ข้าคือหลินเข่อซิง! วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยพวกท่านเตรียมการป้องกันน้ำท่วม ข้าเข้าใจว่าพวกท่านกังวลเรื่องทรัพย์สินของตน แต่อย่าลืมว่าชีวิตสำคัญที่สุด! ข้าขอให้พวกท่านเริ่มจัดเตรียมของมีค่าที่จำเป็น และรีบย้ายขึ้นที่สูงให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้สิ่งของผูกมัดเราไว้กับความเสี่ยง เพราะสิ่งของแม้เสียหายหรือสูญไป ยังมีโอกาสหาใหม่ได้ แต่ชีวิตหากดับสิ้นแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 21

    จวนตระกูลหลิน หลังจากวันที่วุ่นวายจากการเตรียมการป้องกันน้ำท่วม หลินเข่อซิงรู้สึกเหนื่อยล้าแต่ก็ดีใจที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว นางนั่งอยู่บนระเบียงเล็กๆ ข้างจวน ทอดสายตาไปยังทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ค่อยๆ สงบลงหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย ท้องฟ้ายามเย็นกลายเป็นสีส้มสวยงาม สายลมเย็นๆ พัดผ่าน นางสูดหายใจลึกๆ รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย แต่ขณะที่นางกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบตัว อวิ๋นเฟยหลงก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ โดยไม่ทันตั้งตัว นางสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเขาพร้อมรอยยิ้ม "ท่านแม่ทัพ มาทำอะไรตรงนี้หรือ?" เข่อซิงถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า อวิ๋นเฟยหลงเลิกคิ้วเล็กน้อย ทำท่าเหมือนจะไม่สนใจ แต่ก็ยังตอบกลับอย่างเย็นชา “ข้ามาดูว่าเจ้ายังหายใจอยู่หรือเปล่าก็เท่านั้น” เข่อซิงยิ้มกว้าง “ท่านมาหาข้าเพราะเป็นห่วงข้าหรือ?” นางแกล้งถามเพื่อหวังดูสีหน้าคนข้างๆ เขาพลันทำหน้าเคร่งทันที “ข้าไม่ได้ห่วงเจ้า ข้าแค่...ตรวจดูความเรียบร้อย ข้าไม่อยากให้เจ้าป่วยเป็นภาระต่อคนอื่นต่างหาก” “โอ้โห ท่านแม่ทัพ ข้าดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 22

    หยางเฟยฮุ่ยนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของนาง ทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบหน้าที่สวยงามฉายแววเจ้าเล่ห์แฝงความโกรธ นางขบฟันแน่นเมื่อคิดถึงภาพหลินเข่อซิงที่ค่อยๆ ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากชาวบ้านและ...อวิ๋นเฟยหลง เธอได้รับข่าวจากสาวใช้คนสนิทเรื่องของหลินเข่อซิงที่ระยะนี้ไปช่วยชาวบ้านโดยมีอวิ๋นเฟยหลงคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆตลอด “ฮึ! นางคิดว่าจะมาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากข้าได้อย่างนั้นรึ?” หยางเฟยฮุ่ยพึมพำเบาๆ พลางมองกระจกเงาสะท้อนใบหน้าที่งดงามของตนเอง นางรู้ดีว่าความงามของตนเองเป็นอาวุธที่แข็งแกร่ง “แต่ข้าจะไม่ลงมือเองหรอก นางไม่คู่ควรให้ข้าต้องเปลืองแรง” แล้วนางก็ยิ้มออกมาอย่างลำพองใจ ขณะที่วางแผนการในใจ นางรู้ว่าที่หมู่บ้านนี้ยังมีชายผู้หนึ่งที่มีอำนาจในท้องที่ และไม่ค่อยพอใจการเข้ามาแทรกแซงของหลินเข่อซิง นั่นก็คือ เฉินอี้เฉียง ชายผู้มีอำนาจจากตระกูลพ่อค้าที่ควบคุมการค้าขายในหมู่บ้าน เขามีชื่อเสียงในเรื่องความหัวรั้นและไม่ชอบใครที่มาขัดขวางผลประโยชน์ของตนเอง หยางเฟยฮุ่ยรู้ว่า ถ้าใช้วิธีที่เหมาะสม นางส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 23

    บรรยากาศในหมู่บ้านหลังจากการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมเริ่มผ่อนคลายลง หลินเข่อซิงและอวิ๋นเฟยหลงก็มักจะได้เจอกันบ่อยขึ้น นางสังเกตเห็นว่าอวิ๋นเฟยหลงที่เคยมีท่าทีเย็นชา ดูเหมือนจะเปิดใจกับนางมากขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงรักษาภาพลักษณ์แม่ทัพที่เยือกเย็นและเคร่งขรึมไว้อยู่เสมอ วันหนึ่ง ขณะที่หลินเข่อซิงกำลังนั่งเขียนบันทึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาลงในสมุดของนาง พลันสายตาของนางก็เหลือบเห็นเงาของใครบางคนเดินเข้ามาหา “คุณหนูหลิน” เสียงทุ้มๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังนาง นางหันกลับไปมองและพบว่าเป็นอวิ๋นเฟยหลงที่กำลังยืนอยู่ เขามีสีหน้าปกติ แต่ในดวงตาแฝงด้วยความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยแสดงออกมาก่อน “ท่านอวิ๋น ท่านรู้จักการเข้าตามตรอกออกตามประตูหรือไม่ มีอะไรกับข้าหรือเจ้าคะ?” หลินเข่อซิงถามด้วยรอยยิ้ม “วันนี้...เจ้าอยากไปกินข้าวที่โรงเตี๊ยมไฉ่หงหรือไม่?” อวิ๋นเฟยหลงพูดออกมาอย่างนิ่งๆ แต่หลินเข่อซิงก็พอจะจับความตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนั้นได้ “โรงเตี๊ยมไฉ่หงงั้นเหรอ?” เข่อซิงยิ้มกว้างขึ้น “ข้าจำได้ว่าที่นั่นมีอาหารอร่อย ข้ากับหลิงเฉินเคยไปกินมาแล้วครั้งหนึ่ง...งั้นเราก็ไปกันเลยเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 24

    หลังจากเดินเที่ยวเล่นกันมานาน ทั้งสองก็มาหยุดนั่งพักที่ม้านั่งหินใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทางเดิน บรรยากาศยามเย็นเริ่มเข้ามาแทนที่ แสงอาทิตย์สีส้มอ่อนๆ สาดส่องผ่านต้นไม้ใบเขียว สร้างเงาสีทองที่กระจายอยู่ทั่วทั้งบริเวณ “ข้าชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลย” เข่อซิงพูดพร้อมกับยิ้มสดใส ขณะที่มองไปยังท้องฟ้า “มันรู้สึกสงบและเป็นอิสระอย่างบอกไม่ถูก” อวิ๋นเฟยหลงที่นั่งข้างๆ นางพยักหน้าเบาๆ “ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน” เข่อซิงหันมามองหน้าเขา “จริงหรือ? ท่านเองก็ดูเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียวเสียมาก ข้าไม่คิดว่าท่านจะชอบบรรยากาศเช่นนี้” อวิ๋นเฟยหลงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ข้าอาจจะชอบอยู่คนเดียวก็จริง แต่บางครั้ง...การมีใครสักคนอยู่ด้วยก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไม่ใช่หรือ” คำพูดนั้นทำให้เข่อซิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่นางจะยิ้มออกมาอย่างสดใส “ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันเจ้าค่ะ” ทั้งสองคนเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ความเงียบนี้กลับไม่อึดอัดเหมือนเคย ตรงกันข้าม มันกลับเป็นความเงียบที่ทำให้ทั้งสองรู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 25

    ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้น ก็ทรงพระสรวลออกมาด้วยเสียงอันดังก้องท้องพระโรง ก่อนจะพยักหน้าให้ขันทีนำของพระราชทานออกมา ขันทีเดินออกมาพร้อมกับกล่องไม้แกะสลักที่ดูหรูหรา ก่อนจะเปิดกล่องเผยให้เห็นเครื่องประดับหยกอันงดงามและผ้าไหมชั้นเลิศ “ข้ามอบเครื่องประดับหยกนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความชื่นชมในความสามารถและความกล้าหาญของเจ้านะคุณหนูหลิน อีกทั้งผ้าไหมนี้จะเป็นของขวัญจากข้าที่เจ้าจะใช้ได้ตามใจชอบ และมอบทองอีก 1,000 ตำลึง เจ้าพอใจรึไม่” หลินเข่อซิงมองเครื่องประดับหยกด้วยความประทับใจ นางไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับรางวัลจากฮ่องเต้เช่นนี้ นางโค้งคำนับอีกครั้ง “ขอบพระทัยฝ่าบาทเป็นอย่างยิ่งเพคะ หม่อมฉันจะรักษาของพระราชทานนี้ไว้ให้ดียิ่งกว่าชีวิตน้อยๆของตัวหม่อมฉันเอง” ฮ่องเต้ทรงแย้มพระโอษฐ์ยกยิ้ม ก่อนจะตรัสปิดท้าย “เจ้ามีความสามารถและมีใจช่วยเหลือผู้อื่น เจิ้นหวังว่าเจ้าอย่าหยุดแค่นี้ และเจิ้นจะรอดูว่าเจ้าจะทำสิ่งดีๆ ต่อไปอย่างไร” หลินเข่อซิงยิ้มด้วยความดีใจและความภาคภูมิใจ นี่ไม่เพียงแต่เป็นการยอมรับจากฮ่องเต้ แต่ยังเป็นโอกาสที่นางจะได้แสดงความสามารถและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในยุคโบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 26

    “หลินเข่อซิง... เจ้ากำลังซ่อนอะไรจากข้ากันแน่?” อวิ๋นเฟยหลงพึมพำ ขณะนั่งพิงเก้าอี้และมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด ในใจของเขาเต็มไปด้วยคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบ เขารู้ว่าเขาจะต้องสืบหาความจริงนี้ให้ได้ และยิ่งเขาเข้าใกล้หลินเข่อซิงมากขึ้นเท่าไร ความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ก็อาจจะปรากฏขึ้นมาในที่สุด ในยามเช้าตรู่ ลานฝึกซ้อมของกองทัพเต็มไปด้วยเสียงโลหะกระทบกัน เสียงฝีเท้าหนักๆ ของทหารที่ฝึกซ้อมอย่างจริงจังดังขึ้นเป็นจังหวะ อวิ๋นเฟยหลงยืนอยู่กลางลานฝึก สายตาเคร่งขรึมจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของทหารทุกคน ฝีมือการต่อสู้ของเขายังยอดเยี่ยมเช่นเคย แต่ในวันนี้มีบางอย่างที่ทำให้บรรยากาศดูตึงเครียดยิ่งขึ้น ที่ข้างสนาม หยางหลี่เฉิง รองแม่ทัพผู้สง่างามและเป็นพี่ชายของหยางเฟยฮุ่ย ยืนมองการฝึกซ้อมอยู่ด้วยแววตานิ่งสงบ เขาเป็นหนึ่งในผู้นำทัพที่มากฝีมือ และเป็นคนที่อวิ๋นเฟยหลงไว้ใจให้ช่วยดูแลกองทัพร่วมกับเขา แต่ทว่า วันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่หยางหลี่เฉิงเท่านั้นที่มาดูการฝึกซ้อม เพราะที่มุมหนึ่งของลานฝึก หยางเฟยฮุ่ยก็มาด้วย นางสวมชุดผ้าไหมบางเบาและงดงาม ใบหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้มหวาน แต่สายตาท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 86

    “กระหม่อมบกพร่องในหน้าที่ และละอายใจยิ่ง หากองค์ชายเจ็บแค้นและอยากสังหาร กระหม่อมก็พร้อมยินดีมอบชีวิตให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งจู่ว่าพลางยื่นกระบี่ในมือให้กับอวิ๋นเฟยหลงชายร่างผอมบางในชุดคลุมสีดำสนิท นั่งนิ่งหลับตาแน่น รอรับโทษทัณฑ์ฟิ้ววว เสียงโลหะแหวกอากาศจนเกือบฟันคอของเจิ้งจู่ขาด เจิ้งจู่รู้สึกถึงความเย็นของดาบที่แตะเบาๆที่คอ แต่เพียงแค่นี้ก็ทำเอาเลือดสดไหลซึมออกมาเล็กน้อยเคร้ง!ดาบถูกโยนทิ้งลงพื้น“ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร หากเจ้ารู้สึกเช่นนั้นก็จงร่วมเดินทางไปกับข้าเถอะ”“องค์ชาย กระหม่อมขอขอบพระทัยในความเมตตาของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งจู่ลุกขึ้นมาคำนับอวิ๋นเฟยหลง“แต่ก่อนอื่นข้ามีเรื่องที่ต้องทำก่อนไป” อวิ๋นเฟยหลงว่าพลางขมวดคิ้วแน่น........แสงอาทิตย์แผดแสงเจิดจ้าส่องเข้ามายังลานบ้านสกุลซุย อวิ๋นเฟยหลงยืนอยู่ในห้องพักอย่างเงียบสงบ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสับสน แต่มั่นคง เขารู้ดีว่าวันนี้เขาต้องบอกลาผู้คนที่นี่ คนที่ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน คนที่คอยช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่เขาความทรงจำขาดห

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 85

    นับจากวันที่เขาประสบเหตุในวันที่ไปเก็บเห็ดกับนายท่านซุย จิ่นสือมักมีภาพเหตุการณ์โผล่ขึ้นมาให้เขาได้เห็น บางคราก็สั้นๆ บางคราก็เป็นเรื่องเป็นราวผุ้เฒ่าสกุลซุยทั้งสองลงความเห็นกันว่าควรให้เขาได้พักผ่อนให้มากหน่อยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและพักฟื้นร่างกายให้ดี รวมถึงกันซุยลี่อินไม่ให้มารบกวนจิ่นสืออีกด้วย นับว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เขารุ้สึกสงบสุขมากที่สุดนับแต่ได้มาอยุ่ที่บ้านสกุลซุยก็ว่าได้สายลมวสันต์ฤดูพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำเอาจิ่นสือต้องยกมือขึ้นมาป้องปากและจมูกที่เย็นจนชาแทบไร้ความรู้สึกวันนี้ยังคงเป็นไปตามปกติเพียงแต่เขาไม่ต้องไปคอยตัดฟืนแบกหามอย่างเช่นทุกที ตามร่างกายยังคงเจ็บระบม ชายหนุ่มร่างกำยำที่เริ่มเบื่อหน่ายจึงไปนั่งขัดสมาธิบนฟูกนอน ก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่สมาธิเวลาล่วงเลยผ่านไปเท่าใดไม่อาจทราบได้ ร่างหนาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าแสงสุริยันลับขอบฟ้าไปแล้ว บนโต๊ะในห้องนอนมีสำรับกับข้าววางไว้ให้ เขาค่อยๆลุกขึ้นมานั่งก่อนจะบิดเอวซ้ายทีขวาที ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะกินข้าวเล็กๆมีอาหารเพียงสองอย่าง ผัดไข่ใส่ใบเซียงชุนและซุปเนื้อหอมกรุ่นที่ตอนน

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 84

    ในห้วงอันเงียบสงบของค่ำคืน หยางเฟยฮุ่ยนั่งลงท่ามกลางแสงเทียนในห้องบรรทม นางประมวลผลทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งความไม่ไว้วางใจระหว่างตนกับหานเจี๋ย และสถานการณ์ในวังที่ตึงเครียด นางยิ้มมุมปาก ก่อนจะตัดสินใจวางแผนสร้างเครือข่ายพันธมิตรของตนเองขึ้นมา“ข้าจะไม่อยุ่รอวันตาย ไม่ฝากชีวิตไว้กับเสือที่ไม่รุ้ว่าจะแว้งกัดข้าตอนไหน” หยางเฟยฮุ่ยกล่าวกับตนเองพลางยิ้มเย็นหยางเฟยฮุ่ยหันไปเริ่มต้นแผนด้วยการพบปะกับเหล่าสนมนางในบุตรีตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในราชสำนัก เพื่อเสริมฐานพันธมิตรให้กว้างขวางมากขึ้น“ข้าอยากให้พวกท่านมาร่วมงานในตำหนักของข้า พวกเราสามารถแบ่งปันความคิดเห็นและสนับสนุนกันและกันได้... จะว่าไปก็นับว่าข้ามีโชคยิ่งนัก ที่ได้พบสตรีชั้นสูงที่มีความสามารถและรู้จักวางตัวอย่างท่านทั้งหลาย”“ฮองเฮาทรงมีน้ำพระทัยกว้างขวางถึงเพียงนี้ พวกข้าก็ยินดีที่จะมาพบปะกับท่านบ่อย ๆ เพคะ” ฮุ่ยเฟยเอ่ยขึ้น นางเป็นบุตรีของเสนาบดีเจ้ากรมโยธา น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเรียบเรื่อยราวสายธารยามสงบนิ่ง“ข้าก็ยินดีเช่นกัน สตรีอย่างพวกเราย่อมต้องพึ่งพากันบ้าง พ

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 83

    จิ่นสือพยักหน้ารับ ขณะที่ลูบใบเทียนเฉ่าเบาๆ กลิ่นหอมฉุนของมันลอยออกมาแตะจมูก สมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณล้ำค่า และเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการแพทย์แผนโบราณถัดมาไม่นาน พวกเขาก็เจอพุ่มไม้ที่ออกดอกเป็นช่อสีขาวเล็กๆ กลีบดอกดูเปราะบางและชุ่มชื่น“นี่คือไป่ฮวา หรือหญ้าพันงู ขึ้นชื่อในสรรพคุณสมานแผลและหยุดเลือดทันทีเมื่อมีแผลสด ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในยาสำหรับทหารหรือผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย”จิ่นสือสังเกตพุ่มไม้ไป่ฮวาด้วยความสนใจ“น่าสนใจนัก ยามศึกสงคราม สมุนไพรนี้คงช่วยได้มากจริงๆ”พวกเขาเดินต่อจนถึงลำธารเล็กๆ ที่ไหลเย็นสบาย สองข้างของลำธารมีต้นไม้เล็กๆ ออกผลเล็กๆ สีแดงจัดเต็มพุ่ม“ต้นนี้เรียกว่าซานจาหรือพุทราจีน ผลสีแดงของมันนี้กินได้ มีรสหวานอมเปรี้ยว ช่วยย่อยอาหารและบำรุงหัวใจเป็นเลิศ” นายท่านซุยหยิบผลซานจามาส่งให้จิ่นสือ“ลองชิมดูสิ หวานอมเปรี้ยวนี่ล่ะช่วยให้รู้สึกสดชื่นยิ่ง”จิ่นสือรับผลซานจามา ลองกัดเบาๆ รสชาติสดชื่นทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันที สมุนไพรนี้ไม่เพียงแต่เป็นยาบำรุงแต่ยังเสริมพลังได้เป็นอย่างดี

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 82

    ซุยลี่อินใจเต้นรัว ใบหน้าเล็กร้อนผ่าว มือน้อยๆ ยกขึ้นไปจับตรงตำแหน่งที่มือใหญ่ได้วางไว้ก่อนหน้าเบาๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มแย้มยิ้มออกมาเสียจนแทบฉีกถึงใบหุ “ข้าจะรอท่านพี่กลับมานะเจ้าคะ” สาวน้อยตะโกนไล่หลังร่างสุงใหญ่ที่เดินทิ้งห่างไปไกล ซุยลี่อินยืนส่งชายในดวงใจจนร่างเขาหายลับไปจากสายตา จึงเดินกลับเข้าไปในบ้าน จิ่นสือได้ยินเสียงใสแว่วๆ แต่เขาไม่ได้หันกลับไป ทำเพียงเร่งฝีเท้าให้ทันนายท่านซุยเพียงเท่านั้น แสงแดดยามสายสาดส่องผ่านยอดไม้หนาทึบลงมาเป็นลำ จิ่นสือก้าวเดินตามผู้เฒ่าอย่างตั้งใจ แม้พื้นดินจะชื้นแฉะ แต่ในความชื้นนั้นกลับทำให้ป่าแห่งนี้อุดมไปด้วยพืชสมุนไพรอันหลากหลาย จิ่นสือมองสำรวจอย่างตั้งอกตั้งใจ "ดูเหมือนป่านี้จะซ่อนสมุนไพรล้ำค่าไว้มิใช่น้อย...ข้าสงสัยว่าเหตุใดต้นไม้เหล่านี้จึงเติบโตได้งดงามนัก" นายท่านซุยยิ้มอย่างยินดีที่ชายหนุ่มถามในเรื่องที่เขามีความรู้เป็นอย่างดี และยินดีแบ่งปันอย่างยิ่ง “ต้นไม้ในป่านี้ได้รับการดูแลจากธรรมชาติ และคนในหมู่บ้านของเราได้ช่วยกันร

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 81

    จิ่นสือมาอยุ่กับครอบครัวสกุลซุยมาได้พักใหญ่แล้ว เขามักจะไปตักน้ำตัดฟืนมาไว้ในบ้านเสมอ รวมถึงการออกไปจับจ่ายซื้อของแทนผุ้เฒ่าซุยอยุ่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าเขามักจะมีดรุณีน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มตามติดไปด้วยอยุ่เสมอ จนผุ้ที่ได้พบเห็นต่างนึกเอ็นดุและชื่นชมในรุปลักษณ์ที่ดีงามของทั้งสองคนจิ่นสือมักมีอาการปวดศีรษะบ่อยครั้ง แต่ละครั้งมักมีอาการไม่นานมาก เพียงชั่วใบไม้ร่วงหล่นลงสุ่พื้น แต่ก็ทำให้เขาเจ็บร้าวในหัวจนแทบทรงตัวไม่อยุ่ในทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงหญิงสาวที่ไม่มีใบหน้า เฝ้าเรียกหาเขาด้วยน้ำเสียงอาทรและห่วงหาคืนนี้ก็เช่นกัน…“ท่านพี่…ท่านพี่…”“…”“เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่” เขาถามออกไปแต่ร่างบอบบางในชุดสีฟ้าอ่อน ผมยาวตรงสยายพลิ้วไหวตามแรงลมที่ไม่ทราบมาจากที่ใด เขาเพ่งมองไปยังใบหน้านั้น แต่แสงสีขาวสว่างจ้าเกินไปจนเขาตาพร่าไม่สามารถมองเห็นใบหน้านั้นได้ชายหนุ่มตัดสินใจเดินเข้าไปหาร่างนั้น แต่ยิ่งเดินยิ่งห่างไกล ราวกับร่างนั้นเคลื่อนถอยหลังหนีเขาอยุ่ร่ำไป“ได้โปรดเถิด ให้ข้าได้เห็นหน้าเจ้าสักนิด”จื

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 80

    บนพื้นที่ห่างไกลออกไปทางเหนือใกล้กับชายแดนแคว้นเกาเยว่ เสียงตัดไม้ดังก้องไปทั่วป่า เมื่อมองลึกเข้าไปจะพบกับชายร่างสูงใหญ่ล่ำสัน เครื่องแต่งกายมีเพียงเสื้อตัวบางทับด้วยเสื้อกั๊กเผยให้เห็นมัดกล้ามสองแขนแกร่ง กำลังตัดไม้อย่างขมักเขม้น หยาดเหงื่อไหลรินผ่านขมับ ชายหนุ่มขบกรามแน่นยามออกแรงยกขวาน ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา หนวดเครารกครึ้ม ส่งให้ใบหน้าคมเข้มไม่ไกลกันนัก มีสาวน้อยวัยกำดัดนั่งเท้าคางมองชายหนุ่มที่กำลังตัดไม้ด้วยแววตาหลงใหล สาวน้อยร่างบางสวมชุดกระโปรงยาวสีชมพูอ่อน ดูน่ารักน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ข้างๆมีตระกร้าใส่อาหารและผลไม้ ดูไปก็คล้ายคู่รักที่ดูรักกันดียิ่ง แต่ความเป็นจริงนั้น…“จิ่นสือ วันนี้อากาศดีมาก ข้าว่าพอแค่นี้ดีไหม แล้วเราไปเดินเล่นในเมืองด้วยกัน” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยชวนแต่ชายร่างกำยำกลับทำราวกับไม่ได้ยินเสียงนาง ยังคงตัดไม้ต่อไปอย่างไม่ลดละ“นี่ เมื่อไหร่ท่านจะยอมคุยกับข้าสักที นี่ก็ผ่านมาจะครึ่งปีอยู่แล้วนะ นับจากวันที่ท่านพ่อกับท่านแม่พาท่านมาอยู่ด้วยกัน”“…”“สมแล้วที่ท่านพ่อตั้งชื่อให้ท่านว่าจิ่

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 79

    หลังผ่านค่ำคืนอันแสนร้อนเร่ากับเจ้าผู้ครองแคว้น หยางเฟยฮุ่ยกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างผู้ชนะ กว่านางจะฝ่าด่านคัดเลือกสตรีนับพัน ฝ่าฟันต่อสู้กับเหล่าคุณหนูในห้องหอที่ต่างก็เพียบพร้อมไปด้วยความงามและความสามารถ แต่ที่ยากลำบากยิ่งกว่าคือการต้องวางแผนสกปรกทำให้น้องรองต้องเสียโฉมตัดโอกาสที่จะมาแย่งชิงกับนาง เพื่อที่นางจะได้เป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล หยางลี่เฟย จะโทษก็โทษที่ชาติกำเนิดตัวเองเถอะ เจ้ามันก็แค่ลุกอนุ แต่อยากจะมาเทียบเคียงข้า อย่าได้โทษข้าเลย ที่ข้าไม่ยั้งมือ หยางเฟยฮุ่ยคิดในใจหยางเฟยฮุ่ยนั่งมองใบหน้าของตนเองในกระจก ดวงหน้างามพิลาส ดวงตาราวรีรุปหงส์ให้ความรุ้สึกหยิ่งผยองยามปรายหางตามอง จมุกเล็กเชิดรั้น ริมฝีปากยามแย้มยิ้มก็เย้ายวนมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ใบหน้านี้ไม่ว่าใครได้มองย่อมตกหลุมนางทั้งนั้น มีแต่เจ้าคนน่าตายอวิ๋นเฟยหลงนั่นคนเดียว ตั้งแต่หลินเข่อซิงโผล่มาก็ไม่มองนางอีกเลย ทั้งที่แต่เล็กทั้งสองตระกุลต่างหมายหมั้นให้พวกนางได้ร่วมหอลงโลง หึ อวิ๋นเฟยหลง ตอนนี้ท่านก็คงจะได้แต่นึกเสียใจเป็นแน่ มาบัดนี้ข้ากลับดีใจที่ไม่ได้แต่งให้ท่าน ไม่เช่นนั้นค

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 78 NC18+

    ในท้องพระโรงอันโอ่อ่า เสียงประโคมกลองและฉาบดังขึ้น ประกาศเริ่มต้นพิธีอภิเษกสมรสของหานเจี๋ย ผู้ครองบัลลังก์มังกร และสตรีที่ทรงเลือกขึ้นเป็นฮองเฮา แม่ของแผ่นดิน พื้นผิวของโถงหลวงถูกปูด้วยพรมผืนใหญ่สีแดงฉาน ขับเน้นให้บรรยากาศยิ่งเต็มไปด้วยความสง่างาม บนโต๊ะยาวด้านหน้าถูกจัดเรียงเครื่องบรรณาการ เครื่องหอม และบรรดาของมีค่าจากทั่วสารทิศที่นำมาถวายแด่คู่บ่าวสาวทางเดินทอดยาวไปยังบัลลังก์ทองคำที่ตั้งตระหง่าน ที่นั่นเอง ฮ่องเต้หนุ่มทรงสวมฉลองพระองค์จักรพรรดิเต็มยศ ผ้าคลุมไหล่ปักดิ้นทองเป็นลวดลายมังกรอันงดงาม เสื้อคลุมทอด้วยไหมชั้นดีจากแดนไกล ที่แขนยาวปักลายพยัคฆ์ทองคำอีกชั้น มือซ้ายของพระองค์วางบนที่วางแขน ขณะที่มือขวาทรงวางนิ่งสงบเบื้องหน้าเขาคือเจ้าสาวในชุดสีแดงสด ประดับด้วยผ้าคลุมหน้าแพรบาง สะท้อนแสงไฟจากโคมทองระยิบระยับ ผ้าคลุมไหล่ยาวลากตามราวสายธารสีแดงที่ไหลริน สะท้อนความงามอันบริสุทธิ์ สตรีนางนี้มาพร้อมกับสายตาที่หวั่นไหวและความรู้สึกอันหลากหลายที่มิได้แสดงออกมาให้เห็นเด่นชัดหลังจากนั้น เสียงของหัวหน้าพิธีการดังกังวานขึ้น “ถวายคำนับแรกแด่ฟ้าและดิน!”

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status