Share

บทที่ 22

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2024-12-08 18:30:07

หยางเฟยฮุ่ยนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของนาง ทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบหน้าที่สวยงามฉายแววเจ้าเล่ห์แฝงความโกรธ นางขบฟันแน่นเมื่อคิดถึงภาพหลินเข่อซิงที่ค่อยๆ ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากชาวบ้านและ...อวิ๋นเฟยหลง เธอได้รับข่าวจากสาวใช้คนสนิทเรื่องของหลินเข่อซิงที่ระยะนี้ไปช่วยชาวบ้านโดยมีอวิ๋นเฟยหลงคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆตลอด

“ฮึ! นางคิดว่าจะมาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากข้าได้อย่างนั้นรึ?” หยางเฟยฮุ่ยพึมพำเบาๆ พลางมองกระจกเงาสะท้อนใบหน้าที่งดงามของตนเอง นางรู้ดีว่าความงามของตนเองเป็นอาวุธที่แข็งแกร่ง

“แต่ข้าจะไม่ลงมือเองหรอก นางไม่คู่ควรให้ข้าต้องเปลืองแรง”

แล้วนางก็ยิ้มออกมาอย่างลำพองใจ ขณะที่วางแผนการในใจ นางรู้ว่าที่หมู่บ้านนี้ยังมีชายผู้หนึ่งที่มีอำนาจในท้องที่ และไม่ค่อยพอใจการเข้ามาแทรกแซงของหลินเข่อซิง นั่นก็คือ เฉินอี้เฉียง ชายผู้มีอำนาจจากตระกูลพ่อค้าที่ควบคุมการค้าขายในหมู่บ้าน เขามีชื่อเสียงในเรื่องความหัวรั้นและไม่ชอบใครที่มาขัดขวางผลประโยชน์ของตนเอง

หยางเฟยฮุ่ยรู้ว่า ถ้าใช้วิธีที่เหมาะสม นางสามารถทำให้เฉินอี้เฉียงทำตามที่นางต้องการได้ โดยที่นางไม่ต้องยื่นมือเข้าไปแปดเปื้อนเอง นางก็แค่ต้องใช้ "เสน่ห์" ของตนเล็กน้อย

เช้าวันถัดมา ณ ลานตลาดกลางหมู่บ้าน หลินเข่อซิงกำลังตรวจตราการเตรียมการช่วยเหลือชาวบ้านอยู่ตามปกติ ขณะที่นางกำลังพูดคุยกับชาวบ้านคนหนึ่งเกี่ยวกับการขนย้ายทรัพย์สิน พลันสายตาของนางก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางนางด้วยสีหน้าถมึงทึง

เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างใหญ่โต ใบหน้าหยาบกร้าน แววตาแสดงถึงความเป็นนักธุรกิจผู้มีอำนาจในท้องถิ่น เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหลินเข่อซิง สายตาของเขามองนางด้วยความดูถูก

“เจ้าเป็นใคร ถึงได้มาสั่งการคนที่นี่?” เฉินอี้เฉียงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดุดัน

หลินเข่อซิงหันไปมองเขาด้วยความสงสัย “ข้าคือหลินเข่อซิง ข้าถูกส่งมาช่วยเหลือชาวบ้านในการเตรียมการป้องกันน้ำท่วม ท่านคือ...?”

“ข้าคือเฉินอี้เฉียง” เขาตอบเสียงดัง ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก “เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้มาแทรกแซงธุรกิจของข้าและผู้คนที่นี่ ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อนนะว่า ข้าคุมที่นี่อยู่ และข้าไม่ต้องการให้เจ้ามายุ่งเรื่องของข้า”

หลินเข่อซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าไม่ได้มายุ่งกับธุรกิจของท่าน ข้าเพียงมาช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อให้พวกเขาปลอดภัยจากน้ำท่วมที่กำลังจะมาถึง”

เฉินอี้เฉียงหัวเราะเสียงเย็น “ชาวบ้านงั้นรึ? เจ้าคงไม่รู้ว่าชาวบ้านพวกนี้พึ่งพาข้าในการค้าขายทุกอย่าง เจ้าเข้ามาทำให้การค้าของข้าสะดุดด้วยข่าวโคมลอย หากเจ้ายังไม่หยุดแทรกแซงเรื่องนี้ ข้าจะทำให้เจ้าลำบากแน่”

หลินเข่อซิงเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็พยายามเก็บอารมณ์ “ข้าไม่เคยตั้งใจจะทำให้ท่านลำบาก การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการป้องกันภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของพวกเขา ถ้าน้ำท่วมมา ธุรกิจของท่านก็จะเสียหายไปด้วย ข้าคิดว่าการป้องกันก่อนจะดีกว่าการซ่อมแซมทีหลัง”

“เจ้าไม่ต้องมาสอนข้า!” เฉินอี้เฉียงแค่นเสียงออกมา ใบหน้าแดงด้วยความโมโห “ข้าไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนมาบงการชีวิตของข้า โดยเฉพาะเจ้า!”

“นั่นท่านเฉิน พูดแรงเกินไปหรือไม่เจ้าคะ?” เสียงหวานหูที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่ หยางเฟยฮุ่ย จะปรากฏตัว นางก้าวเข้ามาอย่างงดงามในชุดผ้าแพรพรรณหรูหรา ใบหน้าที่งดงามของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง

“ข้ามิได้ตั้งใจให้ท่านต้องโกรธนะเจ้าคะ แต่ข้าคิดว่าคุณหนูหลินอาจจะยังไม่เข้าใจวิถีของที่นี่ ข้านึกว่าท่านเฉินคงไม่อยากเห็นปัญหามากไปกว่านี้” นางพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แฝงด้วยรอยยิ้มเยาะ

หลินเข่อซิงหันไปมองหยางเฟยฮุ่ยด้วยความสงสัยในเจตนาของนาง หยางเฟยฮุ่ยเพียงแค่ยิ้มหวานกลับมาพลางพูดต่อ “คุณหนูหลิน นี่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ท่านเฉินมีอำนาจมากในพื้นที่นี้ ข้ากลัวว่าหากท่านยังดึงดัน ท่านอาจจะต้องเจอปัญหาที่ไม่คาดคิด”

นางพูดจบก็หัวเราะเบาๆ พร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ หลินเข่อซิงมองเห็นถึงความตั้งใจของหยางเฟยฮุ่ยในทันที หยางเฟยฮุ่ยไม่ได้ลงมือเอง แต่กำลังยุยงให้เฉินอี้เฉียงเป็นคนจัดการนาง

“ท่านเฉิน” หยางเฟยฮุ่ยพูดต่อ “ข้าเข้าใจความไม่พอใจของท่าน ข้าคิดว่าบางทีคุณหนูหลินควรถอยห่างจากเรื่องนี้สักหน่อย ให้ท่านเฉินเป็นผู้ดูแลดีกว่า”

เฉินอี้เฉียงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ถูกต้อง หากเจ้ายังไม่หยุด ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ แน่”

หลินเข่อซิงหันไปมองทั้งสองคน สายตาของนางแข็งกร้าวขึ้น นางรู้ดีว่าหยางเฟยฮุ่ยต้องการขัดขวางไม่ให้นางช่วยชาวบ้านและได้รับความชื่นชม นางก็แค่หาวิธีใช้คนอื่นมาลงมือแทนนางเอง

แต่หลินเข่อซิงก็ไม่คิดจะยอมแพ้ “ท่านเฉิน ข้าเข้าใจว่าท่านเป็นคนที่มีอำนาจในที่นี้ แต่การช่วยเหลือชาวบ้านเป็นเรื่องที่สำคัญ ข้าไม่สามารถเพิกเฉยได้ ข้าเชื่อว่าท่านเองก็คงไม่อยากเห็นความเสียหายมากกว่านี้”

นางพยายามพูดด้วยเหตุผล แต่เฉินอี้เฉียงกลับขัดขึ้น “ข้าไม่สนใจ! ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาทำให้การค้าของข้าพัง”

หยางเฟยฮุ่ยแอบยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นเฉินอี้เฉียงโมโหมากขึ้น แต่ก่อนที่สถานการณ์จะเลยเถิดไปกว่านี้ เสียงทุ้มเย็นของ อวิ๋นเฟยหลง ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

“เฉินอี้เฉียง เจ้ากำลังทำอะไร?”

ทุกคนในลานตลาดต่างเงียบลงทันที เมื่อเสียงทุ้มหนักแน่นของ อวิ๋นเฟยหลง ดังขึ้น เฉินอี้เฉียงหันไปมองด้วยสายตาที่เปลี่ยนเป็นกังวลเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เดินเข้ามา เสียงรองเท้าบูทของอวิ๋นเฟยหลงกระทบพื้นดังก้องในความเงียบของหมู่บ้าน ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าของเขาเรียบนิ่ง แต่ในดวงตากลับแฝงความคมกริบ

"ข้าถามว่า...เจ้ากำลังทำอะไร?" อวิ๋นเฟยหลงพูดซ้ำอีกครั้ง เสียงของเขาเย็นลงกว่าเดิม

หยางเฟยฮุ่ยพยายามยิ้มอย่างประจบประแจง ก่อนจะเอ่ยขึ้น "เฟยหลง ท่านมาที่นี่เองหรือ? ข้าคิดว่าท่านกำลัง..."

"ข้าไม่ได้ถามเจ้า" เขาขัดขึ้นทันควัน ก่อนจะหันไปทางเฉินอี้เฉียง "ตอบข้ามา"

เฉินอี้เฉียงกลืนน้ำลายลงคอ เขารู้ดีว่าอวิ๋นเฟยหลงเป็นใครและอำนาจของเขามีมากเพียงใด แม้ว่าเฉินอี้เฉียงจะมีอิทธิพลในพื้นที่นี้ แต่เมื่อเทียบกับแม่ทัพที่มีอำนาจคุมทหารเช่นอวิ๋นเฟยหลง เขาก็ไม่อาจกล้าขัดขืน

"ข้าเพียงแค่...ไม่พอใจที่นางเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการค้าของข้า ข้าคิดว่านางไม่มีสิทธิ์..."

"การค้าของเจ้า?" อวิ๋นเฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่แฝงความน่ากลัว "การค้าของเจ้ามีความสำคัญมากกว่าชีวิตชาวบ้านหรือ? ข้าไม่สนใจว่าการค้าของเจ้าจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าเจ้าคิดจะขัดขวางการช่วยเหลือชาวบ้านอีก ข้าจะถือว่าเจ้ากำลังขัดคำสั่งของข้า และเจ้าคงไม่อยากรู้หรอกว่าผลจะเป็นอย่างไร"

เฉินอี้เฉียงหน้าซีดลงทันที "ข้า...ข้าไม่กล้าขัดท่านแม่ทัพหรอกขอรับ ข้าเพียงแค่ไม่เข้าใจ..."

"ถ้าเจ้าไม่เข้าใจ ข้าจะอธิบายให้" อวิ๋นเฟยหลงตอบเสียงเย็น "หลินเข่อซิงกำลังทำสิ่งที่ดีและจำเป็นสำหรับคนที่นี่ หากเจ้าคิดจะขัดขวางอีก ข้าจะจัดการเจ้าเอง"

เฉินอี้เฉียงพยักหน้าหงึกๆ ไม่กล้าพูดอะไรต่อ ก่อนจะรีบเดินถอยห่างออกไปจากลานตลาดอย่างรวดเร็ว

หยางเฟยฮุ่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด สีหน้าของนางดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องพยายามเก็บอารมณ์ไว้ นางเหลือบมองไปทางหลินเข่อซิงที่ยืนอยู่ข้างอวิ๋นเฟยหลง นางกัดฟันแน่นก่อนจะพยายามปั้นหน้ายิ้ม

“เฟยหลง ข้าคิดว่าท่านเฉินคงจะไม่กล้าแล้ว เขาคงแค่ขาดสติไปชั่วขณะ” นางพูดด้วยน้ำเสียงหวานๆ พยายามดึงความสนใจของอวิ๋นเฟยหลงกลับมา

แต่เขากลับไม่ได้สนใจนางเลย สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หลินเข่อซิง ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่านางปลอดภัยและไม่ได้แสดงท่าทีตกใจใดๆ

"เจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่?" เขาเอ่ยถามหลินเข่อซิงด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ยังแฝงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด

หลินเข่อซิงยิ้มออกมาอย่างสบายใจ "ข้าสบายดี ขอบคุณที่ช่วยข้าจัดการ"

หยางเฟยฮุ่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับหายใจติดขัด นางรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมองข้ามอย่างสิ้นเชิง นางกัดริมฝีปากแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

หลินเข่อซิงเห็นท่าทีของหยางเฟยฮุ่ย นางยิ้มอย่างไม่สนใจและเอ่ยขึ้น "ข้าคิดว่าทุกคนคงเข้าใจแล้วว่าเราต้องร่วมมือกันเพื่อป้องกันน้ำท่วม ข้าขอให้คุณหนูหยางไปช่วยชาวบ้านตามที่ควรจะเป็น ข้าเชื่อว่าท่านก็คงอยากช่วยเช่นกัน ใช่ไหม?"

หยางเฟยฮุ่ยรู้ว่าตัวเองไม่อาจทำอะไรได้ในตอนนี้ นางทำได้เพียงพยักหน้าช้าๆ อย่างจำใจ “แน่นอน ข้าย่อมอยากช่วย”

แต่ในใจของหยางเฟยฮุ่ยกลับเต็มไปด้วยความโกรธ นางรู้สึกเสียหน้าอย่างยิ่งที่แผนการของตนถูกทำลายลงโดยอวิ๋นเฟยหลง และที่สำคัญ นางไม่อาจยอมรับได้ที่เห็นเขาใส่ใจหลินเข่อซิงมากถึงขนาดนี้

"ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามาแย่งทุกอย่างจากข้าได้" หยางเฟยฮุ่ยคิดในใจขณะที่นางเดินออกไปอย่างเงียบๆ

เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายลง หลินเข่อซิงหันมามองอวิ๋นเฟยหลงด้วยสายตาขอบคุณ “ท่านช่วยข้าไว้อีกแล้วนะ”

“ข้าแค่ทำตามหน้าที่ของข้า” เขาตอบเสียงเรียบ แต่ในดวงตาของเขายังคงแฝงความอ่อนโยน

“ข้ารู้ แต่ท่านก็ทำให้ข้ารู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ท่านอยู่ใกล้” นางพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “ข้าคิดว่าท่านคงจะสนใจข้าไม่น้อยเลยใช่ไหม?”

อวิ๋นเฟยหลงหันมาจ้องหน้านาง สายตาของเขาดูนิ่ง แต่ใบหน้าของเขาแสดงออกว่ากำลังพยายามปกปิดความรู้สึกบางอย่าง “เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว”

“จริงหรือ?” เข่อซิงหัวเราะเบาๆ “ข้าเพียงแค่ถามตามความรู้สึกเท่านั้น ท่านไม่ต้องตอบหรอก ข้ารู้ว่าคำตอบของท่านคืออะไร”

อวิ๋นเฟยหลงหลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนจะหันหน้าหนีแล้วพูดเบาๆ “เจ้านี่มัน...ไม่เคยยอมแพ้จริงๆ”

"แน่นอน ข้าไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ โดยเฉพาะกับเรื่องที่สำคัญ" หลินเข่อซิงพูดจบก็ยิ้มกว้างพลางเดินนำหน้าเขาไป

อวิ๋นเฟยหลงมองตามนางไปด้วยสายตาที่แฝงความห่วงใยและความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเขา นี่ข้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 23

    บรรยากาศในหมู่บ้านหลังจากการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมเริ่มผ่อนคลายลง หลินเข่อซิงและอวิ๋นเฟยหลงก็มักจะได้เจอกันบ่อยขึ้น นางสังเกตเห็นว่าอวิ๋นเฟยหลงที่เคยมีท่าทีเย็นชา ดูเหมือนจะเปิดใจกับนางมากขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงรักษาภาพลักษณ์แม่ทัพที่เยือกเย็นและเคร่งขรึมไว้อยู่เสมอ วันหนึ่ง ขณะที่หลินเข่อซิงกำลังนั่งเขียนบันทึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาลงในสมุดของนาง พลันสายตาของนางก็เหลือบเห็นเงาของใครบางคนเดินเข้ามาหา “คุณหนูหลิน” เสียงทุ้มๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังนาง นางหันกลับไปมองและพบว่าเป็นอวิ๋นเฟยหลงที่กำลังยืนอยู่ เขามีสีหน้าปกติ แต่ในดวงตาแฝงด้วยความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยแสดงออกมาก่อน “ท่านอวิ๋น ท่านรู้จักการเข้าตามตรอกออกตามประตูหรือไม่ มีอะไรกับข้าหรือเจ้าคะ?” หลินเข่อซิงถามด้วยรอยยิ้ม “วันนี้...เจ้าอยากไปกินข้าวที่โรงเตี๊ยมไฉ่หงหรือไม่?” อวิ๋นเฟยหลงพูดออกมาอย่างนิ่งๆ แต่หลินเข่อซิงก็พอจะจับความตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนั้นได้ “โรงเตี๊ยมไฉ่หงงั้นเหรอ?” เข่อซิงยิ้มกว้างขึ้น “ข้าจำได้ว่าที่นั่นมีอาหารอร่อย ข้ากับหลิงเฉินเคยไปกินมาแล้วครั้งหนึ่ง...งั้นเราก็ไปกันเลยเ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 24

    หลังจากเดินเที่ยวเล่นกันมานาน ทั้งสองก็มาหยุดนั่งพักที่ม้านั่งหินใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทางเดิน บรรยากาศยามเย็นเริ่มเข้ามาแทนที่ แสงอาทิตย์สีส้มอ่อนๆ สาดส่องผ่านต้นไม้ใบเขียว สร้างเงาสีทองที่กระจายอยู่ทั่วทั้งบริเวณ “ข้าชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลย” เข่อซิงพูดพร้อมกับยิ้มสดใส ขณะที่มองไปยังท้องฟ้า “มันรู้สึกสงบและเป็นอิสระอย่างบอกไม่ถูก” อวิ๋นเฟยหลงที่นั่งข้างๆ นางพยักหน้าเบาๆ “ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน” เข่อซิงหันมามองหน้าเขา “จริงหรือ? ท่านเองก็ดูเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียวเสียมาก ข้าไม่คิดว่าท่านจะชอบบรรยากาศเช่นนี้” อวิ๋นเฟยหลงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ข้าอาจจะชอบอยู่คนเดียวก็จริง แต่บางครั้ง...การมีใครสักคนอยู่ด้วยก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไม่ใช่หรือ” คำพูดนั้นทำให้เข่อซิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่นางจะยิ้มออกมาอย่างสดใส “ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันเจ้าค่ะ” ทั้งสองคนเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ความเงียบนี้กลับไม่อึดอัดเหมือนเคย ตรงกันข้าม มันกลับเป็นความเงียบที่ทำให้ทั้งสองรู

    Last Updated : 2024-12-11
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 25

    ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้น ก็ทรงพระสรวลออกมาด้วยเสียงอันดังก้องท้องพระโรง ก่อนจะพยักหน้าให้ขันทีนำของพระราชทานออกมา ขันทีเดินออกมาพร้อมกับกล่องไม้แกะสลักที่ดูหรูหรา ก่อนจะเปิดกล่องเผยให้เห็นเครื่องประดับหยกอันงดงามและผ้าไหมชั้นเลิศ “ข้ามอบเครื่องประดับหยกนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความชื่นชมในความสามารถและความกล้าหาญของเจ้านะคุณหนูหลิน อีกทั้งผ้าไหมนี้จะเป็นของขวัญจากข้าที่เจ้าจะใช้ได้ตามใจชอบ และมอบทองอีก 1,000 ตำลึง เจ้าพอใจรึไม่” หลินเข่อซิงมองเครื่องประดับหยกด้วยความประทับใจ นางไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับรางวัลจากฮ่องเต้เช่นนี้ นางโค้งคำนับอีกครั้ง “ขอบพระทัยฝ่าบาทเป็นอย่างยิ่งเพคะ หม่อมฉันจะรักษาของพระราชทานนี้ไว้ให้ดียิ่งกว่าชีวิตน้อยๆของตัวหม่อมฉันเอง” ฮ่องเต้ทรงแย้มพระโอษฐ์ยกยิ้ม ก่อนจะตรัสปิดท้าย “เจ้ามีความสามารถและมีใจช่วยเหลือผู้อื่น เจิ้นหวังว่าเจ้าอย่าหยุดแค่นี้ และเจิ้นจะรอดูว่าเจ้าจะทำสิ่งดีๆ ต่อไปอย่างไร” หลินเข่อซิงยิ้มด้วยความดีใจและความภาคภูมิใจ นี่ไม่เพียงแต่เป็นการยอมรับจากฮ่องเต้ แต่ยังเป็นโอกาสที่นางจะได้แสดงความสามารถและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในยุคโบ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 26

    “หลินเข่อซิง... เจ้ากำลังซ่อนอะไรจากข้ากันแน่?” อวิ๋นเฟยหลงพึมพำ ขณะนั่งพิงเก้าอี้และมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด ในใจของเขาเต็มไปด้วยคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบ เขารู้ว่าเขาจะต้องสืบหาความจริงนี้ให้ได้ และยิ่งเขาเข้าใกล้หลินเข่อซิงมากขึ้นเท่าไร ความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ก็อาจจะปรากฏขึ้นมาในที่สุด ในยามเช้าตรู่ ลานฝึกซ้อมของกองทัพเต็มไปด้วยเสียงโลหะกระทบกัน เสียงฝีเท้าหนักๆ ของทหารที่ฝึกซ้อมอย่างจริงจังดังขึ้นเป็นจังหวะ อวิ๋นเฟยหลงยืนอยู่กลางลานฝึก สายตาเคร่งขรึมจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของทหารทุกคน ฝีมือการต่อสู้ของเขายังยอดเยี่ยมเช่นเคย แต่ในวันนี้มีบางอย่างที่ทำให้บรรยากาศดูตึงเครียดยิ่งขึ้น ที่ข้างสนาม หยางหลี่เฉิง รองแม่ทัพผู้สง่างามและเป็นพี่ชายของหยางเฟยฮุ่ย ยืนมองการฝึกซ้อมอยู่ด้วยแววตานิ่งสงบ เขาเป็นหนึ่งในผู้นำทัพที่มากฝีมือ และเป็นคนที่อวิ๋นเฟยหลงไว้ใจให้ช่วยดูแลกองทัพร่วมกับเขา แต่ทว่า วันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่หยางหลี่เฉิงเท่านั้นที่มาดูการฝึกซ้อม เพราะที่มุมหนึ่งของลานฝึก หยางเฟยฮุ่ยก็มาด้วย นางสวมชุดผ้าไหมบางเบาและงดงาม ใบหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้มหวาน แต่สายตาท

    Last Updated : 2024-12-13
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 27

    “ท่านอวิ๋น! ข้ามีของพิเศษมาให้ท่านลองชิมเจ้าค่ะ!” อวิ๋นเฟยหลงหันไปมอง และพบกับหลินเข่อซิงที่เดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารในมือ นางมีรอยยิ้มกว้างและท่าทางมั่นใจ สายตาของนางจับจ้องมาที่อวิ๋นเฟยหลง โดยไม่ได้ใส่ใจหยางเฟยฮุ่ยที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย หยางเฟยฮุ่ยหันขวับไปมองเข่อซิงด้วยความไม่พอใจ นางคิดในใจว่า ‘หลินเข่อซิงอีกแล้ว! นางจะมาขัดขวางข้าอีกแล้วหรือ!’ “นี่คืออะไร?” อวิ๋นเฟยหลงถามขณะมองถาดอาหารที่หลินเข่อซิงยื่นมาให้ด้วยความสนใจ “นี่คือขนมสูตรพิเศษจากบ้านข้าเจ้าค่ะ ข้าตั้งใจทำมาให้ท่านและทหารในกองทัพได้ลองชิม” เข่อซิงตอบอย่างสดใส “ข้าเรียกมันว่า ‘ขนมปังทอด’ เป็นขนมที่ทั้งกรอบนอกนุ่มใน และข้ามั่นใจว่าทุกคนจะต้องชอบ!” เหล่าทหารที่อยู่ใกล้ๆ พากันหันมามองด้วยความสนใจ เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นอาหารหน้าตาแปลกใหม่เช่นนี้มาก่อน หลินเข่อซิงยื่นถาดขนมปังทอดให้ทหารที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่พวกเขาจะหยิบขึ้นมาลองชิม ทันใดนั้น สีหน้าของทหารแต่ละคนก

    Last Updated : 2024-12-14
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 28

    ณ จวนตระกูลหลิน ในห้องโถงใหญ่ของจวนตระกูลหลิน หลินเจิ้นกั๋วและ ฮูหยินหลิน นั่งอยู่ด้วยกันท่ามกลางบรรยากาศที่ควรจะเต็มไปด้วยความยินดี หลังจากที่ได้รับข่าวเรื่องพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้ แต่สีหน้าของทั้งสองกลับดูเหมือนมีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสุขนั้น นายท่านหลินนั่งกอดอกอยู่ที่เก้าอี้ตัวใหญ่ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มจางๆ แต่อีกมุมหนึ่งของดวงตาแฝงความกังวลอยู่ลึกๆ ขณะที่ฮูหยินหลินนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสับสนใจ เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากความเงียบปกคลุมห้องมาสักพัก “ท่านพี่...ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้หรือเจ้าคะ?” ฮูหยินหลินถามขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน แม้จะพยายามเก็บซ่อนความกังวล แต่ในน้ำเสียงนั้นก็แฝงความห่วงใยชัดเจน นายท่านหลินหันมามองภรรยาของตน ก่อนจะถอนหายใจยาว “ข้าไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นี่เป็นเกียรติสูงสุดสำหรับตระกูลเรา พระราชทานสมรสจากฮ่องเต้เช่นนี้...ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน” “ใช่เจ้าค่ะ ข้าก็ยินดีเช่นกัน” ฮูหยินหลินพยักหน้า “แต่อีกใจหนึ่ง...ข้าก็อดห่วงลูกสาวของเราไม่ได้” เธอกล่าวอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเธอหันไปมองประตูห้องที่ลูกสาวของตนเพิ่งจากไปห

    Last Updated : 2024-12-16
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 29

    เช้าวันรุ่งขึ้น บรรยากาศในจวนตระกูลหลินเต็มไปด้วยความเงียบสงบ แต่ก็มีความเคลื่อนไหวที่แฝงไว้ด้วยความสำรวม สาวใช้หลายคนช่วยกันเตรียมอาหารและของไหว้ต่างๆ สำหรับพิธีไหว้บรรพบุรุษที่ใกล้จะเริ่มขึ้น หลินเข่อซิงในชุดสีเรียบง่าย เดินออกมาจากห้องนอนด้วยท่าทางสำรวม วันนี้นางจะได้เห็นการไหว้บรรพบุรุษของครอบครัวตัวเองเป็นครั้งแรก ชิงหมิง…ชิงหมิง…อ๋อออ…เชงเม้งนั่นเอง หลินเข่อซิงคิดในใจ พ่อบ้านและสาวใช้ต่างเร่งมือกันจัดเตรียมอาหารและของเซ่นไหว้ เพื่อนำไปถวายบรรพบุรุษ หลินเข่อซิงยืนอยู่หน้าห้องของตน มองเห็นการเตรียมงานที่เป็นไปอย่างประณีตด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้น หลินเจิ้นกั๋ว ผู้เป็นพ่อของหลินเข่อซิง เดินออกมาจากห้องโถงใหญ่ในชุดคลุมยาวสีเข้ม บ่งบอกถึงฐานะอันทรงเกียรติ เขายืนอยู่หน้าห้องบูชาด้วยท่าทีสงบนิ่งและเต็มไปด้วยความเคารพ ทุกคนในจวนต่างหยุดยืนเพื่อรอคอยการเริ่มพิธีการจากหัวหน้าครอบครัว “เข่อซิง” เสียงพ่อของนางเรียกเบาๆ “มานี่สิ วันนี้เจ้าจะได้ร่วมไหว้บรรพบุรุษกับพวกเรา เป็นเรื่องสำคัญที่ครอบครัวต้องทำร่วมกัน” หลินเข่อซิงพยักหน้ารับด้วยความตื่นเต้นและรีบเดินไปยื

    Last Updated : 2024-12-16
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 30

    เข่อซิงฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทึ่งในความเชื่อที่ซับซ้อนและลึกซึ้งของผู้คนในยุคนี้ ขณะที่นางเดินผ่านร้านขายอาหาร นางก็เริ่มได้กลิ่นหอมของอาหารหลายชนิดที่ลอยมาจากร้านข้างทาง “นี่เป็นขนมอะไรน่ะ หลิงเฉิน?” เข่อซิงถามเมื่อเห็นขนมรูปร่างกลมๆ ทำจากแป้งสีเขียวและมีกลิ่นหอมหวาน “อ๋อ นั่นคือขนม ‘ชิงถวนจื่อ’ เจ้าค่ะ” หลิงเฉินอธิบาย “เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำอ้ายเฉ่า ซึ่งเป็นพืชที่มีสีเขียว พวกเขาจะปั้นเป็นก้อนกลมและนำมานึ่ง ขนมชนิดนี้นิยมรับประทานกันในเทศกาลชิงหมิงเจ้าค่ะ” “น่าสนใจจริงๆ” เข่อซิงพึมพำ “ข้าอยากลองชิมดูบ้าง” ในขณะที่เข่อซิงและหลิงเฉินเดินต่อไป นางเห็นเด็กๆ กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน บางคนกำลังวิ่งเล่นกับว่าวที่ลอยขึ้นไปในอากาศ ว่าวหลากสีสันถูกปล่อยให้โบยบินสูงขึ้นไปในท้องฟ้าสีคราม “การเล่นว่าวก็เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลชิงหมิงด้วยหรือ?” หลิงเข่อซิงถามด้วยความสงสัย “ใช่เจ้าค่ะ” หลิงเฉินตอบ “การเล่นว่าวเป็นกิจกรรมที่นิยมกันในเทศกาลชิงหมิง นอกจากการไหว้บรรพบุรุษแล้ว ชาวบ้านยั

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 87

    แสงแดดยามสายสาดส่องลงมาบนเส้นทางที่ทอดยาวผ่านป่าเขาและทุ่งหญ้า อวิ๋นเฟยหลงและเจิ้งจู่องครักษ์เงาคู่ใจอยู่บนหลังม้า ทั้งสองเดินทางร่วมกันมานานนับเดือน นับตั้งแต่จากบ้านสกุลซุย เส้นทางที่ผ่านไม่ได้ราบเรียบ มีทั้งความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ความร้อนระอุในบางวัน และความหนาวเหน็บในยามค่ำคืนม้าสีดำตัวใหญ่ของอวิ๋นเฟยหลงย่ำเท้าลงบนพื้นอย่างมั่นคง ชายหนุ่มนั่งตัวตรง ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังเส้นทางข้างหน้า ส่วนเจิ้งจู่ที่อยู่เคียงข้างไม่ห่าง ใช้มือปัดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะ “องค์ชายพ่ะย่ะค่ะดูเหมือนว่าแม้แต่แดดแรงขนาดนี้ยังไม่อาจทำอะไรท่านได้เลย ข้าสิแทบจะละลายอยู่ตรงนี้แล้ว”อวิ๋นเฟยหลงหันมามองเจิ้งจู่ด้วยแววตาขำขัน “เจ้าคิดว่าการบ่นจะช่วยให้เย็นลงหรือ? อีกอย่างเลิกเรียกข้าว่าองค์ชายเสียที เรียกคุณชายจะดีกว่า ยิ่งเข้าใกล้แคว้นฉางจีเท่าไหร่เรายิ่งต้องปกปิดตัวตนมิให้ผู้ใดล่วงรู้”“เข้าใจแล้วขอรับ คุณชาย” เจิ้งจู่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่บางทีข้าก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมท่านถึงเลือกเส้นทางนี้ ทั้งที่ทางหลักก็น่าจะปลอดภัยกว่า”อวิ๋นเฟย

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 86

    “กระหม่อมบกพร่องในหน้าที่ และละอายใจยิ่ง หากองค์ชายเจ็บแค้นและอยากสังหาร กระหม่อมก็พร้อมยินดีมอบชีวิตให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งจู่ว่าพลางยื่นกระบี่ในมือให้กับอวิ๋นเฟยหลงชายร่างผอมบางในชุดคลุมสีดำสนิท นั่งนิ่งหลับตาแน่น รอรับโทษทัณฑ์ฟิ้ววว เสียงโลหะแหวกอากาศจนเกือบฟันคอของเจิ้งจู่ขาด เจิ้งจู่รู้สึกถึงความเย็นของดาบที่แตะเบาๆที่คอ แต่เพียงแค่นี้ก็ทำเอาเลือดสดไหลซึมออกมาเล็กน้อยเคร้ง!ดาบถูกโยนทิ้งลงพื้น“ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร หากเจ้ารู้สึกเช่นนั้นก็จงร่วมเดินทางไปกับข้าเถอะ”“องค์ชาย กระหม่อมขอขอบพระทัยในความเมตตาของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งจู่ลุกขึ้นมาคำนับอวิ๋นเฟยหลง“แต่ก่อนอื่นข้ามีเรื่องที่ต้องทำก่อนไป” อวิ๋นเฟยหลงว่าพลางขมวดคิ้วแน่น........แสงอาทิตย์แผดแสงเจิดจ้าส่องเข้ามายังลานบ้านสกุลซุย อวิ๋นเฟยหลงยืนอยู่ในห้องพักอย่างเงียบสงบ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสับสน แต่มั่นคง เขารู้ดีว่าวันนี้เขาต้องบอกลาผู้คนที่นี่ คนที่ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน คนที่คอยช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่เขาความทรงจำขาดห

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 85

    นับจากวันที่เขาประสบเหตุในวันที่ไปเก็บเห็ดกับนายท่านซุย จิ่นสือมักมีภาพเหตุการณ์โผล่ขึ้นมาให้เขาได้เห็น บางคราก็สั้นๆ บางคราก็เป็นเรื่องเป็นราวผุ้เฒ่าสกุลซุยทั้งสองลงความเห็นกันว่าควรให้เขาได้พักผ่อนให้มากหน่อยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและพักฟื้นร่างกายให้ดี รวมถึงกันซุยลี่อินไม่ให้มารบกวนจิ่นสืออีกด้วย นับว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เขารุ้สึกสงบสุขมากที่สุดนับแต่ได้มาอยุ่ที่บ้านสกุลซุยก็ว่าได้สายลมวสันต์ฤดูพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำเอาจิ่นสือต้องยกมือขึ้นมาป้องปากและจมูกที่เย็นจนชาแทบไร้ความรู้สึกวันนี้ยังคงเป็นไปตามปกติเพียงแต่เขาไม่ต้องไปคอยตัดฟืนแบกหามอย่างเช่นทุกที ตามร่างกายยังคงเจ็บระบม ชายหนุ่มร่างกำยำที่เริ่มเบื่อหน่ายจึงไปนั่งขัดสมาธิบนฟูกนอน ก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่สมาธิเวลาล่วงเลยผ่านไปเท่าใดไม่อาจทราบได้ ร่างหนาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าแสงสุริยันลับขอบฟ้าไปแล้ว บนโต๊ะในห้องนอนมีสำรับกับข้าววางไว้ให้ เขาค่อยๆลุกขึ้นมานั่งก่อนจะบิดเอวซ้ายทีขวาที ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะกินข้าวเล็กๆมีอาหารเพียงสองอย่าง ผัดไข่ใส่ใบเซียงชุนและซุปเนื้อหอมกรุ่นที่ตอนน

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 84

    ในห้วงอันเงียบสงบของค่ำคืน หยางเฟยฮุ่ยนั่งลงท่ามกลางแสงเทียนในห้องบรรทม นางประมวลผลทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งความไม่ไว้วางใจระหว่างตนกับหานเจี๋ย และสถานการณ์ในวังที่ตึงเครียด นางยิ้มมุมปาก ก่อนจะตัดสินใจวางแผนสร้างเครือข่ายพันธมิตรของตนเองขึ้นมา“ข้าจะไม่อยุ่รอวันตาย ไม่ฝากชีวิตไว้กับเสือที่ไม่รุ้ว่าจะแว้งกัดข้าตอนไหน” หยางเฟยฮุ่ยกล่าวกับตนเองพลางยิ้มเย็นหยางเฟยฮุ่ยหันไปเริ่มต้นแผนด้วยการพบปะกับเหล่าสนมนางในบุตรีตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในราชสำนัก เพื่อเสริมฐานพันธมิตรให้กว้างขวางมากขึ้น“ข้าอยากให้พวกท่านมาร่วมงานในตำหนักของข้า พวกเราสามารถแบ่งปันความคิดเห็นและสนับสนุนกันและกันได้... จะว่าไปก็นับว่าข้ามีโชคยิ่งนัก ที่ได้พบสตรีชั้นสูงที่มีความสามารถและรู้จักวางตัวอย่างท่านทั้งหลาย”“ฮองเฮาทรงมีน้ำพระทัยกว้างขวางถึงเพียงนี้ พวกข้าก็ยินดีที่จะมาพบปะกับท่านบ่อย ๆ เพคะ” ฮุ่ยเฟยเอ่ยขึ้น นางเป็นบุตรีของเสนาบดีเจ้ากรมโยธา น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเรียบเรื่อยราวสายธารยามสงบนิ่ง“ข้าก็ยินดีเช่นกัน สตรีอย่างพวกเราย่อมต้องพึ่งพากันบ้าง พ

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 83

    จิ่นสือพยักหน้ารับ ขณะที่ลูบใบเทียนเฉ่าเบาๆ กลิ่นหอมฉุนของมันลอยออกมาแตะจมูก สมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณล้ำค่า และเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการแพทย์แผนโบราณถัดมาไม่นาน พวกเขาก็เจอพุ่มไม้ที่ออกดอกเป็นช่อสีขาวเล็กๆ กลีบดอกดูเปราะบางและชุ่มชื่น“นี่คือไป่ฮวา หรือหญ้าพันงู ขึ้นชื่อในสรรพคุณสมานแผลและหยุดเลือดทันทีเมื่อมีแผลสด ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในยาสำหรับทหารหรือผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย”จิ่นสือสังเกตพุ่มไม้ไป่ฮวาด้วยความสนใจ“น่าสนใจนัก ยามศึกสงคราม สมุนไพรนี้คงช่วยได้มากจริงๆ”พวกเขาเดินต่อจนถึงลำธารเล็กๆ ที่ไหลเย็นสบาย สองข้างของลำธารมีต้นไม้เล็กๆ ออกผลเล็กๆ สีแดงจัดเต็มพุ่ม“ต้นนี้เรียกว่าซานจาหรือพุทราจีน ผลสีแดงของมันนี้กินได้ มีรสหวานอมเปรี้ยว ช่วยย่อยอาหารและบำรุงหัวใจเป็นเลิศ” นายท่านซุยหยิบผลซานจามาส่งให้จิ่นสือ“ลองชิมดูสิ หวานอมเปรี้ยวนี่ล่ะช่วยให้รู้สึกสดชื่นยิ่ง”จิ่นสือรับผลซานจามา ลองกัดเบาๆ รสชาติสดชื่นทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันที สมุนไพรนี้ไม่เพียงแต่เป็นยาบำรุงแต่ยังเสริมพลังได้เป็นอย่างดี

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 82

    ซุยลี่อินใจเต้นรัว ใบหน้าเล็กร้อนผ่าว มือน้อยๆ ยกขึ้นไปจับตรงตำแหน่งที่มือใหญ่ได้วางไว้ก่อนหน้าเบาๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มแย้มยิ้มออกมาเสียจนแทบฉีกถึงใบหุ “ข้าจะรอท่านพี่กลับมานะเจ้าคะ” สาวน้อยตะโกนไล่หลังร่างสุงใหญ่ที่เดินทิ้งห่างไปไกล ซุยลี่อินยืนส่งชายในดวงใจจนร่างเขาหายลับไปจากสายตา จึงเดินกลับเข้าไปในบ้าน จิ่นสือได้ยินเสียงใสแว่วๆ แต่เขาไม่ได้หันกลับไป ทำเพียงเร่งฝีเท้าให้ทันนายท่านซุยเพียงเท่านั้น แสงแดดยามสายสาดส่องผ่านยอดไม้หนาทึบลงมาเป็นลำ จิ่นสือก้าวเดินตามผู้เฒ่าอย่างตั้งใจ แม้พื้นดินจะชื้นแฉะ แต่ในความชื้นนั้นกลับทำให้ป่าแห่งนี้อุดมไปด้วยพืชสมุนไพรอันหลากหลาย จิ่นสือมองสำรวจอย่างตั้งอกตั้งใจ "ดูเหมือนป่านี้จะซ่อนสมุนไพรล้ำค่าไว้มิใช่น้อย...ข้าสงสัยว่าเหตุใดต้นไม้เหล่านี้จึงเติบโตได้งดงามนัก" นายท่านซุยยิ้มอย่างยินดีที่ชายหนุ่มถามในเรื่องที่เขามีความรู้เป็นอย่างดี และยินดีแบ่งปันอย่างยิ่ง “ต้นไม้ในป่านี้ได้รับการดูแลจากธรรมชาติ และคนในหมู่บ้านของเราได้ช่วยกันร

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 81

    จิ่นสือมาอยุ่กับครอบครัวสกุลซุยมาได้พักใหญ่แล้ว เขามักจะไปตักน้ำตัดฟืนมาไว้ในบ้านเสมอ รวมถึงการออกไปจับจ่ายซื้อของแทนผุ้เฒ่าซุยอยุ่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าเขามักจะมีดรุณีน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มตามติดไปด้วยอยุ่เสมอ จนผุ้ที่ได้พบเห็นต่างนึกเอ็นดุและชื่นชมในรุปลักษณ์ที่ดีงามของทั้งสองคนจิ่นสือมักมีอาการปวดศีรษะบ่อยครั้ง แต่ละครั้งมักมีอาการไม่นานมาก เพียงชั่วใบไม้ร่วงหล่นลงสุ่พื้น แต่ก็ทำให้เขาเจ็บร้าวในหัวจนแทบทรงตัวไม่อยุ่ในทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงหญิงสาวที่ไม่มีใบหน้า เฝ้าเรียกหาเขาด้วยน้ำเสียงอาทรและห่วงหาคืนนี้ก็เช่นกัน…“ท่านพี่…ท่านพี่…”“…”“เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่” เขาถามออกไปแต่ร่างบอบบางในชุดสีฟ้าอ่อน ผมยาวตรงสยายพลิ้วไหวตามแรงลมที่ไม่ทราบมาจากที่ใด เขาเพ่งมองไปยังใบหน้านั้น แต่แสงสีขาวสว่างจ้าเกินไปจนเขาตาพร่าไม่สามารถมองเห็นใบหน้านั้นได้ชายหนุ่มตัดสินใจเดินเข้าไปหาร่างนั้น แต่ยิ่งเดินยิ่งห่างไกล ราวกับร่างนั้นเคลื่อนถอยหลังหนีเขาอยุ่ร่ำไป“ได้โปรดเถิด ให้ข้าได้เห็นหน้าเจ้าสักนิด”จื

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 80

    บนพื้นที่ห่างไกลออกไปทางเหนือใกล้กับชายแดนแคว้นเกาเยว่ เสียงตัดไม้ดังก้องไปทั่วป่า เมื่อมองลึกเข้าไปจะพบกับชายร่างสูงใหญ่ล่ำสัน เครื่องแต่งกายมีเพียงเสื้อตัวบางทับด้วยเสื้อกั๊กเผยให้เห็นมัดกล้ามสองแขนแกร่ง กำลังตัดไม้อย่างขมักเขม้น หยาดเหงื่อไหลรินผ่านขมับ ชายหนุ่มขบกรามแน่นยามออกแรงยกขวาน ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา หนวดเครารกครึ้ม ส่งให้ใบหน้าคมเข้มไม่ไกลกันนัก มีสาวน้อยวัยกำดัดนั่งเท้าคางมองชายหนุ่มที่กำลังตัดไม้ด้วยแววตาหลงใหล สาวน้อยร่างบางสวมชุดกระโปรงยาวสีชมพูอ่อน ดูน่ารักน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ข้างๆมีตระกร้าใส่อาหารและผลไม้ ดูไปก็คล้ายคู่รักที่ดูรักกันดียิ่ง แต่ความเป็นจริงนั้น…“จิ่นสือ วันนี้อากาศดีมาก ข้าว่าพอแค่นี้ดีไหม แล้วเราไปเดินเล่นในเมืองด้วยกัน” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยชวนแต่ชายร่างกำยำกลับทำราวกับไม่ได้ยินเสียงนาง ยังคงตัดไม้ต่อไปอย่างไม่ลดละ“นี่ เมื่อไหร่ท่านจะยอมคุยกับข้าสักที นี่ก็ผ่านมาจะครึ่งปีอยู่แล้วนะ นับจากวันที่ท่านพ่อกับท่านแม่พาท่านมาอยู่ด้วยกัน”“…”“สมแล้วที่ท่านพ่อตั้งชื่อให้ท่านว่าจิ่

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 79

    หลังผ่านค่ำคืนอันแสนร้อนเร่ากับเจ้าผู้ครองแคว้น หยางเฟยฮุ่ยกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างผู้ชนะ กว่านางจะฝ่าด่านคัดเลือกสตรีนับพัน ฝ่าฟันต่อสู้กับเหล่าคุณหนูในห้องหอที่ต่างก็เพียบพร้อมไปด้วยความงามและความสามารถ แต่ที่ยากลำบากยิ่งกว่าคือการต้องวางแผนสกปรกทำให้น้องรองต้องเสียโฉมตัดโอกาสที่จะมาแย่งชิงกับนาง เพื่อที่นางจะได้เป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล หยางลี่เฟย จะโทษก็โทษที่ชาติกำเนิดตัวเองเถอะ เจ้ามันก็แค่ลุกอนุ แต่อยากจะมาเทียบเคียงข้า อย่าได้โทษข้าเลย ที่ข้าไม่ยั้งมือ หยางเฟยฮุ่ยคิดในใจหยางเฟยฮุ่ยนั่งมองใบหน้าของตนเองในกระจก ดวงหน้างามพิลาส ดวงตาราวรีรุปหงส์ให้ความรุ้สึกหยิ่งผยองยามปรายหางตามอง จมุกเล็กเชิดรั้น ริมฝีปากยามแย้มยิ้มก็เย้ายวนมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ใบหน้านี้ไม่ว่าใครได้มองย่อมตกหลุมนางทั้งนั้น มีแต่เจ้าคนน่าตายอวิ๋นเฟยหลงนั่นคนเดียว ตั้งแต่หลินเข่อซิงโผล่มาก็ไม่มองนางอีกเลย ทั้งที่แต่เล็กทั้งสองตระกุลต่างหมายหมั้นให้พวกนางได้ร่วมหอลงโลง หึ อวิ๋นเฟยหลง ตอนนี้ท่านก็คงจะได้แต่นึกเสียใจเป็นแน่ มาบัดนี้ข้ากลับดีใจที่ไม่ได้แต่งให้ท่าน ไม่เช่นนั้นค

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status