Share

บทที่ 17

Author: RainyStarSea
last update Huling Na-update: 2024-12-08 16:53:35

ภายในจวนตระกูลหยาง ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองหลวงของแคว้น มีบรรยากาศที่ไม่ค่อยสงบสุขเท่าใดนัก แม้ด้านนอกจะดูโอ่อ่า หรูหรา และมีอำนาจล้นฟ้า แต่ภายในจวนกลับเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดี ชิงเด่นกันระหว่างบรรดาลูกๆ และภรรยา พ่อของหยางเฟยฮุ่ย ผู้มีบรรดาศักดิ์ “ป๋อ” เป็นคนที่เคร่งขรึมและมีอำนาจ แต่กลับโปรดปรานภรรยารองมากกว่าภรรยาเอกอย่างเห็นได้ชัด

หยางเฟยฮุ่ยนั่งอยู่ในห้องของตัวเอง ใบหน้าที่เคยแสดงความหยิ่งยโสบัดนี้กลับเต็มไปด้วยความหงุดหงิด นางเฝ้ามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพ่อของนางเดินอยู่กับภรรยารองและลูกๆ ท่าทางของท่านพ่อดูผ่อนคลายและมีความสุขอย่างที่หยางเฟยฮุ่ยไม่เคยเห็นเวลาที่อยู่กับนางและท่านแม่

“ทำไมท่านพ่อไม่เคยสนใจข้าเลย...” นางพึมพำกับตัวเอง ดวงตาส่อแววไม่พอใจ “ข้าเป็นลูกสาวของภรรยาเอกแท้ๆ แต่เขากลับเอาใจใส่นางพวกนั้นมากกว่า”

พ่อของหยางเฟยฮุ่ย หยางอวี่ถง แม้จะมีความสามารถในฐานะผู้นำตระกูล แต่เขาก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขารักและโปรดปรานภรรยารองมากกว่าภรรยาเอก ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ของหยางเฟยฮุ่ย ต้องอยู่ในสถานะที่ถูกลดความสำคัญลง นางถูกปล่อยให้อยู่ในจวนอย่างโดดเดี่ยว ขณะที่ภรรยารองได้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ชิดกับหยางอวี่ถงเสมอ

หยางเฟยฮุ่ยมีน้องสาวสองคนที่เกิดจากภรรยารอง หยางลี่เฟยและหยางเหมยหลิน ซึ่งทั้งสองนั้นเป็นที่โปรดปรานของท่านพ่อมากกว่า โดยเฉพาะหยางลี่เฟย น้องสาวคนรองที่สวยและสง่างามไม่แพ้นาง ความสามารถทั้งดีด สี ตี เป่า ขับร้อง ล้วนทำได้ดีเยี่ยม ส่วนเหมยหลินนั้นยังเด็กและซุกซน แต่ก็มีความน่ารักสดใส ทำให้ใครๆ ต่างก็เอ็นดู แม้แต่พ่อของนางเอง

ในห้องโถงใหญ่ หยางอวี่ถงกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับภรรยารองและลูกๆ ของนาง หยางเฟยฮุ่ยที่เพิ่งมาถึงก้าวเข้าไปในห้องนั้น แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความเงียบงัน เมื่อพ่อของนางแทบไม่ชายตามองนางเลย

“ท่านพ่อ” หยางเฟยฮุ่ยเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แฝงความขมขื่น

“อืม” หยางอวี่ถงตอบกลับสั้นๆ สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หยางลี่เฟย ลูกสาวของภรรยารองที่นั่งอยู่ข้างๆ “วันนี้เจ้าได้ไปที่ไหนมาบ้างล่ะ เฟยเอ๋อร์?”

หยางลี่เฟยยิ้มหวานและตอบอย่างร่าเริง “ข้าเพิ่งกลับจากเยี่ยมญาติฝ่ายแม่เจ้าค่ะ ท่านพ่อ ท่านลุงมอบของฝากมาให้ท่านด้วย ข้าจะนำมาให้ท่านในภายหลังนะเจ้าคะ”

หยางอวี่ถงยิ้มอย่างอบอุ่นและพยักหน้า “ดีมาก ข้าภูมิใจในตัวเจ้ามาก เจ้าเป็นเด็กที่รู้จักกตัญญูและเอาใจใส่ครอบครัวเสมอ”

หยางเฟยฮุ่ยมองภาพนั้นด้วยแววตาขุ่นเคือง เธอรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ถูกนับรวมในครอบครัวของตัวเอง

ขณะที่น้องสาวสองคนกำลังพูดคุยหยอกล้อกัน หยางเฟยฮุ่ยได้ยินเสียงหัวเราะที่สดใสของหยางเหมยหลิน ผู้ที่มักจะได้รับความเอ็นดูจากท่านพ่อเสมอ “ท่านพ่อ ท่านจะไปขี่ม้ากับพวกเราพรุ่งนี้ไหมเจ้าคะ? พี่ลี่เฟยบอกว่าอยากไปชมทุ่งดอกไม้ ท่านไปกับพวกเราได้หรือไม่?”

“ได้สิลูก ข้าจะไปกับพวกเจ้า” หยางอวี่ถงตอบด้วยรอยยิ้ม

หยางเฟยฮุ่ยรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดออกไปโดยสิ้นเชิง นางพยายามจะพูดแทรก แต่ไม่มีใครสนใจฟัง พ่อของนางมองข้ามนางไปโดยไม่แม้แต่จะเหลียวมอง ความรู้สึกโดดเดี่ยวในใจนางทวีขึ้นทุกขณะ

หลังจากทนไม่ไหว หยางเฟยฮุ่ยก็ยืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านพ่อ ข้าเองก็มีเรื่องที่อยากจะปรึกษา”

หยางอวี่ถงหันมามองเพียงแวบเดียว ก่อนจะพูดเสียงเรียบ “ข้าไม่ว่างตอนนี้ ไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”

คำตอบนั้นทำให้หยางเฟยฮุ่ยโกรธจนแทบระเบิด นางกำหมัดแน่น พยายามระงับความไม่พอใจและความน้อยใจที่ท่วมท้นอยู่ในใจ

นางเหลือบไปเห็นพี่ชายคนโต หยางหลี่เฉิง รองแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่โปรดปรานของบิดา เขาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของอวิ๋นเฟยหลง ทั้งแข็งแกร่งและมีความสามารถในการรบ แต่เขาเองก็แทบไม่เคยสนใจหยางเฟยฮุ่ยเหมือนกัน เขามักใช้เวลาอยู่กับบิดาหรือฝึกซ้อมกับทหารมากกว่า

“พี่หลี่เฉิง” หยางเฟยฮุ่ยเอ่ยเรียกพี่ชายด้วยความหวังว่าเขาอาจจะให้ความสนใจนางบ้าง

แต่หยางหลี่เฉิงเพียงหันมามองนางด้วยสายตาเฉยชา ก่อนจะพยักหน้าสั้นๆ “ข้ามีธุระ ต้องกลับไปฝึกซ้อมกับท่านแม่ทัพ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันเถอะ”

หยางเฟยฮุ่ยมองตามแผ่นหลังของพี่ชายที่เดินจากไป ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความน้อยใจและโกรธเคือง พี่น้องไม่มีความรักหรือความสามัคคีในจวนนี้ มีแต่การแก่งแย่งชิงดี และนางก็คือผู้ที่ถูกทอดทิ้งในครอบครัวของตัวเอง

หลังจากที่หยางเฟยฮุ่ยเห็นทั้งพ่อและพี่ชายไม่สนใจนาง นางก็กัดฟันแน่น รู้สึกว่าตัวเองต้องลุกขึ้นมาแย่งชิงสิ่งที่ควรเป็นของนางด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความรักของพ่อ หรือความสำเร็จในชีวิต นางจะไม่ยอมถูกมองข้ามอีกต่อไป

ในช่วงบ่ายที่บรรยากาศในจวนตระกูลหยางยังคงอบอวลด้วยความเงียบงัน หยางเฟยฮุ่ยถูกเรียกตัวให้ไปพบหยางอวี่ถง บิดาของนางที่ห้องโถงใหญ่ นางรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ต้องจำใจเดินไปพบตามคำสั่ง

เมื่อหยางเฟยฮุ่ยก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ บิดาของนางนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเคร่งเครียด สายตาคมของเขาจับจ้องไปที่นางเมื่อเดินเข้ามา นางหยุดยืนตรงหน้าเขา ก่อนจะค่อยๆ โค้งคำนับอย่างนอบน้อม

“ท่านพ่อ ท่านเรียกข้ามาหรือเจ้าคะ?” หยางเฟยฮุ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แฝงความกังวล

หยางป๋อมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกดดัน เขาไม่ได้ยิ้ม ไม่ได้ทักทาย และไม่มีความอบอุ่นในสายตานั้นแม้แต่น้อย

“ข้ามีเรื่องอยากคุยกับเจ้า” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมและเย็นชา “เรื่องของเจ้าและอวิ๋นเฟยหลง”

หยางเฟยฮุ่ยสะดุ้งเล็กน้อย ใจเริ่มเต้นแรง นางรู้ว่าคำถามนี้จะต้องมาในสักวัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกถามตรงๆ เช่นนี้

“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? หรือว่าข้าเลี้ยงเจ้ามาให้เสียชื่อเสียงของตระกูลหยาง?” หยางอวี่ถงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากำลังพยายามทำตัวใกล้ชิดกับอวิ๋นเฟยหลง แต่กลับล้มเหลว แค่ผู้ชายคนเดียว เจ้าก็ควบคุมเขาให้อยู่ในกำมือไม่ได้”

หยางเฟยฮุ่ยรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง นางยืนนิ่ง น้ำตาแทบจะไหลออกมา แต่พยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้แสดงออกมา นางรู้สึกถึงความอายและความเสียใจที่พ่อของนางพูดแบบนี้กับนาง

“ท่านพ่อ ข้า...ข้าพยายามแล้วเจ้าค่ะ” นางพยายามตอบเสียงสั่น “แต่อวิ๋นเฟยหลงเป็นคนที่เย็นชาและ...”

“เย็นชางั้นหรือ?” หยางอวี่ถงพูดขัดทันที น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “เจ้ากำลังแก้ตัวอยู่ใช่ไหม? ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าอวิ๋นเฟยหลงเป็นคนสำคัญ เขาเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของตระกูลหยาง และข้าต้องการให้เจ้าสร้างสายสัมพันธ์กับเขา”

หยางเฟยฮุ่ยรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่ถาโถมเข้ามา นางพยายามจะอธิบาย แต่หยางอวี่ถงไม่ให้โอกาส

“ข้าไม่สนใจหรอกว่าเขาจะเย็นชาหรือไม่ ข้าสั่งให้เจ้าไปใกล้ชิด หาโอกาสล้วงความลับมาให้มากที่สุด แต่เจ้ากลับล้มเหลว ข้าผิดหวังในตัวเจ้าจริงๆ!” เขากล่าวอย่างเฉียบขาด สายตาของเขาจ้องนางอย่างกดดัน “ถ้าเจ้ายังทำหน้าที่นี้ไม่ได้ ก็อย่ามาเรียกตัวเองว่าลูกของข้า!”

น้ำเสียงเย็นชาของหยางอวี่ถงทำให้หยางเฟยฮุ่ยรู้สึกเหมือนถูกบีบคอ นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะควบคุมอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามา

“ท่านพ่อ...ข้าไม่ได้ล้มเหลว ข้าจะพยายามอีกครั้ง...” นางพยายามพูดเสียงสั่น แต่หยางอวี่ภงกลับส่ายหัวด้วยความไม่พอใจ

“ข้าไม่อยากฟังข้อแก้ตัวของเจ้าอีกต่อไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ออกไป! ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”

หยางเฟยฮุ่ยชะงัก นางรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากความเป็นครอบครัว ความเจ็บปวดในใจท่วมท้น แต่นางก็รู้ว่าการโต้เถียงในตอนนี้จะทำให้นางลำบากมากขึ้น นางกล้ำกลืนน้ำตา และค่อยๆ โค้งคำนับอย่างเงียบๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องโถงนั้น

เมื่อก้าวออกมานอกห้อง น้ำตาที่นางพยายามกลั้นไว้ก็เริ่มไหลออกมา นางเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองด้วยหัวใจที่บอบช้ำ

หยางเฟยฮุ่ยรู้สึกทั้งเจ็บใจ ทั้งอาย และเสียใจ นางรู้สึกว่าพ่อของนางไม่เคยเห็นคุณค่าของนางเลย ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน หยางอวี่ถงก็สนใจแค่ผลประโยชน์ของตระกูลเท่านั้น ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของนาง

“ข้าจะไม่ยอมแพ้...” หยางเฟยฮุ่ยกัดฟันแน่น พูดกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น “ข้าจะทำให้ทุกคนเห็น ว่าข้าคือคนที่มีค่ามากกว่าที่พวกเขาคิด!”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 18

    เช้านี้ หลินเข่อซิงกำลังเตรียมตัวสำหรับแผนการขั้นต่อไป นางตั้งใจจะเข้าไปใกล้ชิดกับอวิ๋นเฟยหลงมากขึ้น แต่แน่นอนว่าแผนนี้ต้องไม่ใช่การวางท่าเหมือนนางเอกทั่วไปที่ยอมอ่อนให้แล้วกลับไปร้องไห้ หลินเข่อซิงคิดว่าเธอต้องเปลี่ยนวิธีเข้าหาให้ได้ผลกว่านั้นหลังจากคิดไปคิดมา นางตัดสินใจทำอาหารที่ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้เพื่อเอาไปให้อวิ๋นเฟยหลง เธอตั้งใจจะใช้ความรู้ด้านการทำอาหารจากโลกปัจจุบันมาทำให้เขาประทับใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นยุคไหน “เสน่ห์ปลายจวัก” ก็เป็นเรื่องสำคัญ“หลิงเฉิน! จัดแจงของให้ข้าเร็วเข้า” หลินเข่อซิงสั่งสาวใช้คนสนิทที่ตอนนี้กำลังจัดจานอาหารที่ถูกทำไว้อย่างประณีต “ข้าต้องการให้ทุกอย่างออกมาดูดี ไม่มีที่ติ”หลิงเฉินยิ้มขันๆ พลางจัดอาหารตามที่คุณหนูสั่ง “คุณหนูนี่ดูจะจริงจังกับเรื่องนี้มากเลยนะเจ้าคะ”“แน่นอน! ข้าจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แบบนางเอกเจ้าน้ำตาแน่” เข่อซิงตอบอย่างมั่นใจ ก่อนจะพาอาหารที่เตรียมไว้ออกเดินทางตรงไปยังจวนของอวิ๋นเฟยหลงเมื่อหลินเข่อซิงมาถึงจวนของอวิ๋นเฟยหลง นางก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ค้นหูอย่างมาก นางเดินเข้า

    Huling Na-update : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 19

    หลังจากเหตุการณ์ที่เข่อซิงเพิ่งปะทะกับหยางเฟยฮุ่ย เธอก็กลับมาที่จวนของตน นั่งครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ และนึกถึงเรื่องราวในนิยายที่เธอได้อ่านไป ว่าตอนนี้เหตุการณ์ที่เธอพบ มันไปถึงจุดไหนของเรื่องและจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็พลันแวบขึ้นมาในหัว “น้ำท่วม!” หลินเข่อซิงจำได้ชัดเจนว่า ในช่วงเวลานี้ของนิยายที่เธอเคยอ่านซึ่งเป็นกลางถึงปลายเดือนมีนาคม จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ทำให้เมืองนี้ตกอยู่ในความเดือดร้อน ชาวบ้านจำนวนมากต้องสูญเสียทรัพย์สินและบ้านเรือน ชีวิตของพวกเขาจะพลิกผันเพราะภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด “ถ้าข้าจำไม่ผิด อีกไม่เกิน 7 วันจะเกิดน้ำท่วม...นี่มันโอกาสของข้านี่นา!” เข่อซิงพึมพำกับตัวเอง ในนิยาย เหตุการณ์นี้เป็นจุดที่ทำให้อวิ๋นเฟยหลงและกองทัพต้องลงมือช่วยชาวบ้าน ทว่านางเอกเดิมกลับไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเลย เพราะนางเพียงยืนอยู่ข้างๆ อย่างไร้พลัง แต่ตอนนี้ หลินเข่อซิงในฐานะผู้ที่รู้อนาคต จะไม่ยอมให้เรื่องราวเป็นแบบนั้น! เธอตัดสินใจว่าจะใช้ความรู้จากโลกปัจจุบันเพื่อหาทางช่วยชาวบ้านก่อนที

    Huling Na-update : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 20

    “ขอรับ คุณหนูหลิน!” หัวหน้ากลุ่มทหารอาสาโค้งคำนับอย่างเคารพ ก่อนจะออกคำสั่งให้ลูกน้องเริ่มจัดการตามที่หลินเข่อซิงบอก นางเดินต่อไปยังจุดที่ชาวบ้านกำลังรวมตัวกันพลางถามไถ่สถานการณ์เบื้องต้นจากผู้ดูแล “พวกท่านเตรียมตัวอพยพหรือยัง?” “ข้าเตรียมแล้ว แต่ยังมีบางบ้านที่ไม่ยอมย้ายเจ้าค่ะ บางคนกลัวว่าจะทิ้งทรัพย์สินของตนไว้ไม่ได้” หญิงชราผู้ดูแลชาวบ้านกล่าวด้วยความกังวล หลินเข่อซิงพยักหน้าแล้วหันไปยังกลุ่มชาวบ้านที่ยังดูสับสนและไม่แน่ใจว่าควรทำอะไรต่อไป นางตัดสินใจเดินไปข้างหน้า ยืนอยู่บนแท่นสูงๆ เล็กน้อยแล้วเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังพอให้ทุกคนได้ยิน “ทุกท่าน! ข้าคือหลินเข่อซิง! วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยพวกท่านเตรียมการป้องกันน้ำท่วม ข้าเข้าใจว่าพวกท่านกังวลเรื่องทรัพย์สินของตน แต่อย่าลืมว่าชีวิตสำคัญที่สุด! ข้าขอให้พวกท่านเริ่มจัดเตรียมของมีค่าที่จำเป็น และรีบย้ายขึ้นที่สูงให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้สิ่งของผูกมัดเราไว้กับความเสี่ยง เพราะสิ่งของแม้เสียหายหรือสูญไป ยังมีโอกาสหาใหม่ได้ แต่ชีวิตหากดับสิ้นแล้ว

    Huling Na-update : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 21

    จวนตระกูลหลิน หลังจากวันที่วุ่นวายจากการเตรียมการป้องกันน้ำท่วม หลินเข่อซิงรู้สึกเหนื่อยล้าแต่ก็ดีใจที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว นางนั่งอยู่บนระเบียงเล็กๆ ข้างจวน ทอดสายตาไปยังทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ค่อยๆ สงบลงหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย ท้องฟ้ายามเย็นกลายเป็นสีส้มสวยงาม สายลมเย็นๆ พัดผ่าน นางสูดหายใจลึกๆ รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย แต่ขณะที่นางกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบตัว อวิ๋นเฟยหลงก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ โดยไม่ทันตั้งตัว นางสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเขาพร้อมรอยยิ้ม "ท่านแม่ทัพ มาทำอะไรตรงนี้หรือ?" เข่อซิงถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า อวิ๋นเฟยหลงเลิกคิ้วเล็กน้อย ทำท่าเหมือนจะไม่สนใจ แต่ก็ยังตอบกลับอย่างเย็นชา “ข้ามาดูว่าเจ้ายังหายใจอยู่หรือเปล่าก็เท่านั้น” เข่อซิงยิ้มกว้าง “ท่านมาหาข้าเพราะเป็นห่วงข้าหรือ?” นางแกล้งถามเพื่อหวังดูสีหน้าคนข้างๆ เขาพลันทำหน้าเคร่งทันที “ข้าไม่ได้ห่วงเจ้า ข้าแค่...ตรวจดูความเรียบร้อย ข้าไม่อยากให้เจ้าป่วยเป็นภาระต่อคนอื่นต่างหาก” “โอ้โห ท่านแม่ทัพ ข้าดู

    Huling Na-update : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 22

    หยางเฟยฮุ่ยนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของนาง ทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบหน้าที่สวยงามฉายแววเจ้าเล่ห์แฝงความโกรธ นางขบฟันแน่นเมื่อคิดถึงภาพหลินเข่อซิงที่ค่อยๆ ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากชาวบ้านและ...อวิ๋นเฟยหลง เธอได้รับข่าวจากสาวใช้คนสนิทเรื่องของหลินเข่อซิงที่ระยะนี้ไปช่วยชาวบ้านโดยมีอวิ๋นเฟยหลงคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆตลอด “ฮึ! นางคิดว่าจะมาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากข้าได้อย่างนั้นรึ?” หยางเฟยฮุ่ยพึมพำเบาๆ พลางมองกระจกเงาสะท้อนใบหน้าที่งดงามของตนเอง นางรู้ดีว่าความงามของตนเองเป็นอาวุธที่แข็งแกร่ง “แต่ข้าจะไม่ลงมือเองหรอก นางไม่คู่ควรให้ข้าต้องเปลืองแรง” แล้วนางก็ยิ้มออกมาอย่างลำพองใจ ขณะที่วางแผนการในใจ นางรู้ว่าที่หมู่บ้านนี้ยังมีชายผู้หนึ่งที่มีอำนาจในท้องที่ และไม่ค่อยพอใจการเข้ามาแทรกแซงของหลินเข่อซิง นั่นก็คือ เฉินอี้เฉียง ชายผู้มีอำนาจจากตระกูลพ่อค้าที่ควบคุมการค้าขายในหมู่บ้าน เขามีชื่อเสียงในเรื่องความหัวรั้นและไม่ชอบใครที่มาขัดขวางผลประโยชน์ของตนเอง หยางเฟยฮุ่ยรู้ว่า ถ้าใช้วิธีที่เหมาะสม นางส

    Huling Na-update : 2024-12-08
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 23

    บรรยากาศในหมู่บ้านหลังจากการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมเริ่มผ่อนคลายลง หลินเข่อซิงและอวิ๋นเฟยหลงก็มักจะได้เจอกันบ่อยขึ้น นางสังเกตเห็นว่าอวิ๋นเฟยหลงที่เคยมีท่าทีเย็นชา ดูเหมือนจะเปิดใจกับนางมากขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงรักษาภาพลักษณ์แม่ทัพที่เยือกเย็นและเคร่งขรึมไว้อยู่เสมอ วันหนึ่ง ขณะที่หลินเข่อซิงกำลังนั่งเขียนบันทึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาลงในสมุดของนาง พลันสายตาของนางก็เหลือบเห็นเงาของใครบางคนเดินเข้ามาหา “คุณหนูหลิน” เสียงทุ้มๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังนาง นางหันกลับไปมองและพบว่าเป็นอวิ๋นเฟยหลงที่กำลังยืนอยู่ เขามีสีหน้าปกติ แต่ในดวงตาแฝงด้วยความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยแสดงออกมาก่อน “ท่านอวิ๋น ท่านรู้จักการเข้าตามตรอกออกตามประตูหรือไม่ มีอะไรกับข้าหรือเจ้าคะ?” หลินเข่อซิงถามด้วยรอยยิ้ม “วันนี้...เจ้าอยากไปกินข้าวที่โรงเตี๊ยมไฉ่หงหรือไม่?” อวิ๋นเฟยหลงพูดออกมาอย่างนิ่งๆ แต่หลินเข่อซิงก็พอจะจับความตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนั้นได้ “โรงเตี๊ยมไฉ่หงงั้นเหรอ?” เข่อซิงยิ้มกว้างขึ้น “ข้าจำได้ว่าที่นั่นมีอาหารอร่อย ข้ากับหลิงเฉินเคยไปกินมาแล้วครั้งหนึ่ง...งั้นเราก็ไปกันเลยเ

    Huling Na-update : 2024-12-10
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 24

    หลังจากเดินเที่ยวเล่นกันมานาน ทั้งสองก็มาหยุดนั่งพักที่ม้านั่งหินใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทางเดิน บรรยากาศยามเย็นเริ่มเข้ามาแทนที่ แสงอาทิตย์สีส้มอ่อนๆ สาดส่องผ่านต้นไม้ใบเขียว สร้างเงาสีทองที่กระจายอยู่ทั่วทั้งบริเวณ “ข้าชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลย” เข่อซิงพูดพร้อมกับยิ้มสดใส ขณะที่มองไปยังท้องฟ้า “มันรู้สึกสงบและเป็นอิสระอย่างบอกไม่ถูก” อวิ๋นเฟยหลงที่นั่งข้างๆ นางพยักหน้าเบาๆ “ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน” เข่อซิงหันมามองหน้าเขา “จริงหรือ? ท่านเองก็ดูเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียวเสียมาก ข้าไม่คิดว่าท่านจะชอบบรรยากาศเช่นนี้” อวิ๋นเฟยหลงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ข้าอาจจะชอบอยู่คนเดียวก็จริง แต่บางครั้ง...การมีใครสักคนอยู่ด้วยก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไม่ใช่หรือ” คำพูดนั้นทำให้เข่อซิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่นางจะยิ้มออกมาอย่างสดใส “ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันเจ้าค่ะ” ทั้งสองคนเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ความเงียบนี้กลับไม่อึดอัดเหมือนเคย ตรงกันข้าม มันกลับเป็นความเงียบที่ทำให้ทั้งสองรู

    Huling Na-update : 2024-12-11
  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 25

    ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้น ก็ทรงพระสรวลออกมาด้วยเสียงอันดังก้องท้องพระโรง ก่อนจะพยักหน้าให้ขันทีนำของพระราชทานออกมา ขันทีเดินออกมาพร้อมกับกล่องไม้แกะสลักที่ดูหรูหรา ก่อนจะเปิดกล่องเผยให้เห็นเครื่องประดับหยกอันงดงามและผ้าไหมชั้นเลิศ “ข้ามอบเครื่องประดับหยกนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความชื่นชมในความสามารถและความกล้าหาญของเจ้านะคุณหนูหลิน อีกทั้งผ้าไหมนี้จะเป็นของขวัญจากข้าที่เจ้าจะใช้ได้ตามใจชอบ และมอบทองอีก 1,000 ตำลึง เจ้าพอใจรึไม่” หลินเข่อซิงมองเครื่องประดับหยกด้วยความประทับใจ นางไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับรางวัลจากฮ่องเต้เช่นนี้ นางโค้งคำนับอีกครั้ง “ขอบพระทัยฝ่าบาทเป็นอย่างยิ่งเพคะ หม่อมฉันจะรักษาของพระราชทานนี้ไว้ให้ดียิ่งกว่าชีวิตน้อยๆของตัวหม่อมฉันเอง” ฮ่องเต้ทรงแย้มพระโอษฐ์ยกยิ้ม ก่อนจะตรัสปิดท้าย “เจ้ามีความสามารถและมีใจช่วยเหลือผู้อื่น เจิ้นหวังว่าเจ้าอย่าหยุดแค่นี้ และเจิ้นจะรอดูว่าเจ้าจะทำสิ่งดีๆ ต่อไปอย่างไร” หลินเข่อซิงยิ้มด้วยความดีใจและความภาคภูมิใจ นี่ไม่เพียงแต่เป็นการยอมรับจากฮ่องเต้ แต่ยังเป็นโอกาสที่นางจะได้แสดงความสามารถและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในยุคโบ

    Huling Na-update : 2024-12-12

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทสุดท้าย

    “เฮือก…” เสียงสูดลมหายใจเข้าลึกดังขึ้น ทำเอาทรวงอกของหญิงสาวยกขึ้นสูง ขนตางอนยาวเรียงตัวสวยเริ่มขยับไหว ในที่สุดเปลือกตาก็คอยๆเลิกขึ้น ปรากฎดวงตากลมโตสดใสที่มองไปมารอบๆ แสงไฟสีขาวนวลสว่างขึ้นในห้องเล็กๆ ของเธอมาจากหลอดฟลูออเรสเซนต์บนเพดานห้องสี่เหลี่ยมที่คุ้นเคย เมื่อมองไปตรงมุมห้องขวามือ ก็มีโต๊ะเขียนหนังสือรกๆ ที่มีหนังสือและแก้วน้ำวางอยู่ โทรศัพท์มือถือวางแน่นิ่งบนหัวเตียง สายชาร์จรวมถึงสายสมอลทอร์คพันกันยุ่งเหยิงเป็นก้อนกลม หลินเข่อซิงค่อยๆลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง“เรากลับมาแล้วเหรอ…” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง ราวกับไม่แน่ใจว่านี่คือความจริงหรือเพียงอีกหนึ่งความฝันอันยาวนานนางลูบอกตัวเองเบาๆ เพื่อปลอบใจว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเผชิญมา เป็นเพียงฝันร้ายยาวนานเท่านั้น แต่มันช่างสมจริงเหลือเกิน ความรู้สึกของสายลมในป่าลึก กลิ่นดินหลังฝนตก เสียงหัวเราะของหลิงเฉิน หรือแม้แต่สัมผัสอันอบอุ่นของอวิ๋นเฟยหลง...“เฟยหลง…”เพียงเอ่ยชื่อเขา น้ำตาก็เอ่อคลอเบ้า ราวกับหัวใจถูกบีบรัด เธอรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก พยายา

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 103

    นับจากโศกนาฏกรรมนองเลือดวันนั้น ก็ผ่านมาได้หนึ่งปีแล้ว อวิ๋นเฟยหลงไม่ยอมรับตำแหน่ง เขาทำเพียงรักษาการณ์แทน และให้เหล่าเสนาบดีเป็นที่ปรึกษาคอยชี้แนะแก่เขาย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน หลังได้รับชัยชนะ เข้ากอบกู้วังหลวงจากคนชั่ว และทวงแค้นจากหานเจี๋ย เขากลับไม่รู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อย อวิ๋นเฟยหลงประกาศต่อหน้าที่ประชุมขุนนางและแม่ทัพนายกองทั้งหลาย“ข้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้”คำพูดนั้นสร้างความตกตะลึงไปทั่วห้องประชุม เฟยหลงก้าวออกมายืนกลางห้อง สายตาแน่วแน่“ตลอดชีวิตของข้า ข้าเกิดมาเพื่อรับใช้แผ่นดินและต่อสู้ในสนามรบ ข้าไม่เคยมีความปรารถนาจะครอบครองบัลลังก์มังกร ข้าเชื่อว่าแคว้นนี้สมควรมีผู้นำที่ดีกว่า”นับจากวันนั้นอวิ๋นเฟยหลงก็ทำหน้าที่ได้ดีมาตลอดไม่ขาดตกบกพร่องอันใด จนราษฎรต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ ในใจทุกคนอวิ๋นเฟยหลงคือฮ่องเต้ พ่อของแผ่นดินของพวกเขา คอยปกปักคุ้มครองให้แคว้นฉางจีอยู่รอดปลอดภัย บุ๋นก็ชำนาญ บู๊ก็คือเทพเซียนมาจุติและแล้วข่าวดีที่เขารอคอยก็มาถึง เจิ้งจู่ได้รายงานข่าวสำคัญที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขาค้น

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 102

    ก่อนที่อวิ๋นเฟยหลงจะได้ปัดป้องตอบโต้ ก็มีเสียงกังวานใสของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น“หยุดนะ!” หยางเฟยฮุ่ยยืนอยู่เบื้องหลังของฮ่องเต้ โดยมีทหารองครักษ์ผู้หนี่งใช้ดาบพาดคอของหานเจี๋ย“หากท่านละเว้นอวิ๋นเฟยหลง ข้าก็จะไว้ชีวิตท่าน!” สตรีผู้ได้ชื่อว่าฮองเฮา แม่ของแผ่นดิน ก้าวขึ้นหน้ามาอีกก้าว หยุดยืนมองหานเจี๋ยนิ่ง“เจ้า!... นี่เจ้ากล้าก่อกบฏหรือ ดีนี่ฮองเฮา ดี … ดียิ่งนัก ทหาร! กุดหัวนางหญิงชั่วนี่ให้ข้าเดี๋ยวนี้!”เงียบ มีเพียงความเงียบงันเป็นคำตอบ ไม่มีทหารคนใดขยับ ต่างมองไปทางอวิ๋นเฟยหลงอย่างรอฟังคำสั่ง“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น?!” หานเจี๋ยตื่นตระหนกแล้ว เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้“ราชโองการในฮ่องเต้พระองค์ก่อน มาถึงแล้ว! อวิ๋นเฟยหลง รับราชโองการ!”ถึงตอนนี้ทหารที่จ่อปลายดาบคุมตัวหานเจี๋ยได้เตะดาบในมือเขาจนกระเด็น ก่อนลากตัวหานเจี๋ยให้ออกห่างจากอวิ๋นเฟยหลง“กระหม่อมอวิ๋นเฟยหลงพ่ะย่ะค่ะ” อดีตแม่ทัพหนุ่มหันกายคุกเข่ามาทางกงกงที่ยืนถือพระราชโองการสีทองอร่ามในมือ“ด้วยโองการสวรรค์ ข้าโอรสสวรรค์ผู้คร

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 101

    เสียงอาวุธกระทบกันดังไม่หยุด อวิ๋นเฟยหลงหอบหายใจเสียงดัง หลินเข่อซิงมองเสี้ยวหน้าของชายอันเป็นที่รักด้วยความเจ็บปวดในหัวใจ นางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ท่านพี่ ทิ้งข้าไว้เถอะ หากไม่มีข้าท่านก็จะทำศึกได้อย่างเต็มที่ และปกป้องพวกเราทั้งหมดได้”“เหลวไหล! ข้าไม่มีทางทิ้งเจ้ากับลูกแน่ อย่าคิดอะไรฟุ้งซ่าน และข้าจะไม่มีวันแพ้! เจ้าอดทนไว้ก่อนนะ” อวิ๋นเฟยหลงปวดใจนักเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆนั่นพูด ประกอบกับบาดแผลที่ไหล่ของนาง เขายิ่งอยากจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด กระบวนท่าของอดีตแม่ทัพใหญ่แกว่งไกวดาบเข้าห้ำหั่นศัตรู ร่างกายพลิ้วไหว มือเท้าผสานกัน แม้มือซ้ายจะโอบกอดหลินเข่อซิง แต่นั่นกลับไม่อาจสร้างปัญหาให้ชายหนุ่มได้“เหล่าพี่น้องของข้า จงฟัง! พวกเจ้าทุกคน วันนี้เราจะเด็ดหัวฮ่องเต้ทรราชนั่นซะ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อพ่อแม่ญาติพี่น้องของพวกเจ้า ราษฎรแคว้นฉางเยว่ และเพื่อฮ่องเต้องค์ก่อนที่ต้องสวรรคตอย่างมีเงื่อนงำ จงตามข้ามา!”“เฮๆ ๆ ๆ” เหล่าทหารฝ่ายอวิ๋นเฟยหลงต่างส่งเสียงร้องกู่ก้องไปทั่วลานด้วยการนำของอวิ๋นเฟยหลง ตอนนี้พวกเขาบุ

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 100

    ‘ท่านพี่ เมื่อท่านได้รับสารฉบับนี้ หวังเพียงว่าท่านจะยังไม่กระทำการรุนแรงกับท่านหมอประจำตัวข้าหรอกนะ’ อวิ๋นเฟยหลงเลิกคิ้วสูง ก่อนเหลือบมองไปยังใบหน้าช้ำดำเขียว และเปรอะด้วยโลหิตของหมอหนุ่ม ก่อนจะก้มหน้าอ่านต่อ‘ข้าได้ยินมาว่าท่านได้ยกทัพมาประชิดประตูเมืองแล้ว คืนนี้ยามโหย่ว (17.00น. - 19.00น. โดยประมาณ) ข้าจะแอบมารอท่าน ขอท่านพี่ช่วยมารับข้าด้วย ข้าจะไปรอที่ประตูเมืองด้านทักษิณ หลิงเฉินบอกว่าประตูด้านนั้นค่อนข้างหละหลวม เพราะทหารไปรวมกันที่ประตูหน้าเสียส่วนใหญ่ ข้าจะรอท่านนะ’อวิ๋นเฟยหลงหรี่ตามองไปยังหมอหนุ่มที่ยังนั่งแหงนหน้ามองฟ้า ดูท่ากำเดาคงจะใกล้หยุดไหลแล้วกระมัง อวิ๋นเฟยหลงทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วต่ำ“ข้าต้องขออภัยท่านหมอแทนทหารของข้าด้วย ฝากบอกซิงเอ๋อร์ว่า ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปตามนัดหมาย”เวินสือชูมองบุรุษร่างใหญ่บึกบึนตรงหน้าด้วยความยำเกรง ก่อนจะยิ้มออกมาหน่อยๆ“มิเป็นไร ข้าเข้าใจว่านั่นคือหน้าที่ของพวกเขา หากมิมีอันใดแล้ว ข้าขอตัวก่อน หากมานานเกินไป อาจถูกสงสัยได้”อวิ๋นเฟยหลงพยัก

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 99

    แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับดาบของเหล่าทหารหาญที่ตั้งทัพอย่างเป็นระเบียบอยู่เบื้องหน้าประตูเมือง เมื่ออวิ๋นเฟยหลงประสานสายตากับเหล่าทหารกล้าที่เขารวบรวมมา พวกเขาคือผู้ที่ยังภักดีต่อแผ่นดินและเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของแม่ทัพผู้เคยกอบกู้แผ่นดิน“วันนี้มิใช่เพียงการทวงคืนวังหลวง” อวิ๋นเฟยหลงประกาศเสียงกร้าว “แต่คือการทวงคืนความยุติธรรม ทวงคืนอนาคตของบ้านเมือง และนำแสงสว่างกลับสู่แคว้นฉางจีอีกครั้ง”เสียงโห่ร้องดังกระหึ่มจากทหารนับหมื่นที่เข้าร่วม ขบวนธงสีดำลายมังกรทองสะบัดปลิวไสว เสียงอาวุธกระทบกันดังก้อง ขับเคลื่อนจิตใจอันห้าวหาญของนักรบทุกคนเหล่าทหารที่คอยรักษาการณ์ประจำตำแหน่งประตูหน้าต่างตื่นตัวและคอยจับตามองทัพของอดีตแม่ทัพอวิ๋นเฟยหลง อดีตรองแม่ทัพหยางซึ่งในขณะนี้ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ทองลงไปยังอดีตผู้ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่กว่าตน ในสายตามีทั้งความกริ่งเกรง และหวาดกลัวอยู่หน่อยๆ“ท่านแม่ทัพขอรับ” นายทหารหนุ่มผู้หนึ่งขึ้นมารายงานกับแม่ทัพหยาง“ว่ามา”“ข้าได้รายงานให้กับฝ่าบาททราบแล้วขอรับ ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งใหม่ เห็นว่าฝ่าบา

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 98

    กลางดึกคืนหนึ่งใต้ฟ้าสีดำสนิท อวิ๋นเฟยหลงและเจิ้งจู่นั่งปรึกษาแผนการกันภายในกระท่อมร้างที่พวกเขาหลบซ่อนอยู่“นายท่าน ครั้งนี้เราจะไม่ยอมให้พลาดอีก” เจิ้งจู่กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สายตาแน่วแน่มองผู้เป็นนายอวิ๋นเฟยหลงนั่งนิ่ง ตากลมคมปลาบจ้องมองแผนที่ที่กางอยู่บนโต๊ะไม้เก่า เขามองเส้นทางเข้าออกวังหลวงด้วยสมาธิเต็มเปี่ยม“พลาดไม่ได้อีก เจิ้งจู่” เสียงทุ้มของเขาแฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว “ครั้งนี้เราต้องเอาตัวซิงเอ๋อร์ออกมาให้ได้”อวิ๋นเฟยหลงเงยหน้าขึ้นจากแผนที่ มองไปยังเจิ้งจู่“แล้วเรื่องที่ข้าสั่งไปถึงไหนแล้ว?”“เรียบร้อยดีขอรับ เรารวบรวมกำลังพลได้มากถึงห้าหมื่นนายที่ยังคงภักดีต่อฮ่องเต้องค์ก่อน แต่ก็ยังนับว่าน้อยนักหากเทียบกับทหารที่ประจำการภายในพระราชวัง”“ดี! ดีมาก ขอบใจเจ้ามากเจิ้งจู่ ผลแพ้ชนะมิได้วัดกันเพียงจำนวนทหาร มีกำลังพลมากแล้วอย่างไร หากเขาเหล่านั้นขาดแรงใจและศรัทธาในผู้นำ” อวิ๋นเฟยหลงยืนเหยียดหลังตรงสองมือไพล่ไว้ด้านหลัง เหม่อมองไปยังจันทราบนฟากฟ้า“ข้าดีใจที่ในที่สุด ท่านก็เลือกจะเปิดเผยตั

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 97

    ค่ำคืนอันมืดมิดปกคลุมไปทั่ววังหลวง แสงจันทร์ซีดจางลอดผ่านหน้าต่างห้อง หลินเข่อซิงนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยใบหน้าหม่นหมอง สายตาของนางทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวกลับไม่ได้ช่วยให้นางรู้สึกสงบใจเลยแม้แต่น้อย“คุณหนู...อย่ามัวแต่คิดมากเลยเจ้าค่ะ” หลิงเฉินยกถ้วยชามาวางบนโต๊ะ ใบหน้าของสาวใช้เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “พักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ ร่างกายของท่านจะได้ไม่เหนื่อยล้าเกินไป”หลินเข่อซิงถอนหายใจยาว นางก้มมองท้องที่นูนเด่นของตนด้วยสายตาอ่อนล้า “ข้าห่วงเขาเหลือเกิน เฉินเอ๋อร์ เจ้าว่าตอนนี้เขาจะปลอดภัยไหม?”หลิงเฉินนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ทัพเป็นคนที่แข็งแกร่งและฉลาด ท่านต้องหาทางรอดได้แน่เจ้าค่ะ”หลินเข่อซิงเม้มริมฝีปากแน่น สองมือประสานกันแน่นจนสั่น “ข้าไม่อยากนั่งรออยู่อย่างนี้อีกแล้ว เฉินเอ๋อร์ ข้าควรทำอะไรสักอย่าง”หลิงเฉินมองเจ้านายของนางด้วยความตกใจ “คุณหนูจะทำอะไรเจ้าคะ?”หลินเข่อซิงเบือนสายตามองไปทางประตู “ข้าจะหนีออกไปตามหาเขา ข้าจะต้องหาทางช่วยเขาให้ได้”คำพูดนั้นทำให้ห

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 96

    แสงจันทร์เล็ดลอดผ่านรอยแยกเล็กๆ บนเพดานห้องขัง เสียงน้ำหยดลงพื้นดังเป็นจังหวะก้องในความเงียบ อวิ๋นเฟยหลงนั่งนิ่งอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง โซ่ที่ล่ามข้อมือและข้อเท้าของเขายังคงกดทับแน่นจนรู้สึกถึงความเจ็บปวด ร่างกายอ่อนแรงเต็มที แต่หัวใจยังคงเต็มไปด้วยความหวังทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากทางเดินไกลๆ เสียงโลหะกระทบกันดังแว่ว อวิ๋นเฟยหลงเงยหน้าขึ้น สายตาคมกริบจ้องไปยังประตูเหล็กตรงหน้าเสียงดาบกระทบกันดังสนั่น เสียงร้องของทหารที่รักษาคุกดังตามมา อวิ๋นเฟยหลงลุกขึ้นยืน แม้ว่าโซ่จะพันธนาการเขาไว้ แต่เขายังคงตั้งใจเฝ้ารอฟัง ทันใดนั้น เสียงทุบประตูเหล็กก็ดังลั่น“นายท่าน! ข้ามาแล้ว!” เสียงที่คุ้นเคยตะโกนขึ้นประตูเหล็กพังลง เผยให้เห็นเจิ้งจู่ที่ยืนหอบหายใจอยู่ เขาสวมชุดดำสนิทพร้อมดาบเปื้อนเลือดในมือ“เจิ้งจู่...” อวิ๋นเฟยหลงเอ่ยด้วยเสียงแผ่ว“ข้าขอโทษที่มาช้า แต่เราจะพาท่านออกไปเดี๋ยวนี้!”เจิ้งจู่เข้าไปแก้โซ่ที่ล่ามอวิ๋นเฟยหลงอย่างรวดเร็ว ทหารในชุดดำอีกสิบกว่าคนเข้ามาเสริมกำลังกันที่ทางเดิน เสียงต่อสู้ยังคงดังมาจ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status