แชร์

ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980
ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980
ผู้แต่ง: Ainthira06

ตอนที่1 ย้ายบ้านใหม่

ผู้เขียน: Ainthira06
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 12:14:05

ชีวิตของลิลลี่เป็นชีวิตที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยาจะเป็นแบบเธอ แต่คนเหล่านั้นไม่เคยรู้เลยว่ามันโดดเดี่ยวมากแค่ไหน เกิดในตระกูลเศรษฐีหมื่นล้าน แต่คนในครอบครัวค่อย ๆ จากไปทีละคน อายุเพียงยี่สิบ อาชายผู้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็ด่วนจากไป ลิลลี่ ลลิลิล จึงกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล

มีเงินแล้วอย่างไร สุดท้ายคนเราก็ต้องจากไป มีเงินหมื่นล้านยื้อชีวิตใครไม่ได้สักคน ลิลลี่ในวัยยี่สิบปี เธอรู้ว่าธุรกิจของตระกูลไม่อาจสานต่อได้อีก ขายหุ้นให้คนอื่น รอรับเพียงเงินปันผลก็พอ

อายุยี่สิบสามเรียนจบปริญญาตรีด้านแฟชั่น ก่อนเรียนต่อปริญญาโท ปริญญาเอก ในปีที่สามสิบของชีวิต ลิลลี่ประสบความสำเร็จในด้านดีไซเนอร์ เป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง

ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเรียนจบ เธอก็เสียชีวิตจากความเครียดที่สะสมมาตลอด คิดว่าหลังความตายคงจะถูกบรรพบุรุษสาปแช่งที่ดูแลตระกูลไม่ได้ ใครจะรู้ว่าลืมตาแล้วจะมาอยู่ในร่างของคนอื่น

วันที่เจ็ดเดือนมกราคมปี 1980 ลิลลี่ตื่นขึ้นในในร่างของลูกสาวคนโตของบ้านฉิน ชื่อฉินเสี่ยวหราน มีน้องสาวหนึ่งคน พ่อเป็นทหารเพิ่งได้รับเลื่อนขั้นเป็นพันตรี แม่เป็นหญิงชาวบ้านในชนบท

ฉินเสี่ยวหรานเป็นนักเรียนมัธยมปลายชั้นปีสุดท้าย ส่วนน้องสาวฉินเสี่ยวหลิงเป็นนักเรียนมัธยมต้นชั้นปีสุดท้ายที่จะขึ้นมัธยมปลาย

ขบวนรถไฟจอดลงที่สถานี ฉินเสี่ยวหรานที่ในร่างเป็นลิลลี่ยังไม่ทันได้สติต้องลุกขึ้นเดินออกจากรถไฟ ความทรงจำต่าง ๆ ทำให้หญิงสาวได้รู้ว่าฉินเสี่ยวหรานเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่ไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งน้องสาวที่นั่งตรงข้ามกันยังไม่ได้สังเกต และเธอก็เข้ามาอยู่ในร่างแทน

สี่คนพ่อและลูกเดินเท้าตามกันไปยังกองทัพที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ระหว่างทางมีเสียงหัวเราะของฉินเสี่ยวหลิงลูกสาวคนเล็กของบ้าน ฉินหานผู้เป็นพ่อเหลือบมองลูกสาวคนโตที่เงียบผิดปกติ

ผู้เป็นแม่มีอาการไม่ต่างกันรีบถามลูกสาว "เสี่ยวหรานลูกเป็นอะไรหรือ เหนื่อยหรือไม่ ให้พ่อของลูกหาที่นั่งก่อนไหม"

ฉินเสี่ยวหรานส่ายหน้า "หนูแค่เหนื่อยจากการนั่งรถไฟ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ อีกไม่ไกลจะถึงกองทัพแล้ว พวกเราอย่าเสียเวลาเลยค่ะ" เพียงแค่คิดอะไรไปเรื่อยจึงไม่ได้สนใจบทสนทนานัก

"ใช่ อีกไม่ไกลจะถึงแล้ว อดทนอีกหน่อยนะลูก"

ฉินหานผู้เป็นพ่อได้เลื่อนขั้นเป็นพันตรี และสวัสดิการที่ได้รับนอกจากเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีบ้านพักที่สามารถพาครอบครัวย้ายมาอยู่ได้ เพียงแต่เป็นบ้านหลังเล็กเหมาะกับการอยู่ไม่กี่คน

ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้า มือที่ถือกระเป๋าถูกเปลี่ยน "พ่อคะ แล้วโรงเรียนของหนูกับน้องล่ะคะ พวกเรายังจะได้เรียนต่ออยู่ใช่ไหม ปีนี้หนูจะเรียนจบแล้ว"

ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคต การเรียนเป็นสิ่งสำคัญมาก ยิ่งมีความรู้มากการหางานค่อนข้างง่าย ยังดีที่พ่อของฉินเสี่ยวหรานเป็นทหาร ทำให้เธอกับน้องสาวได้เรียนหนังสือ เพราะทั่วไปแล้วคนที่ได้เรียนจะเป็นผู้ชายเนื่องจากค่านิยมที่ชายเป็นใหญ่

"ลูกไม่ต้องห่วง พ่อให้เพื่อนถามให้แล้ว โรงเรียนที่นี่ย้ายมาได้และยังอยู่ติดกับกองทัพ ไม่ต้องตื่นเช้าเดินเข้าไปเรียนในอำเภออีก นอกจากเรียนและงานบ้าน ลูกก็ไม่ต้องทำอย่างอื่น" ฉินหานบอก เขาสะพายกระเป๋าเป้ลายทหาร มือสองข้างยังถือกระเป๋าของภรรยา

ฉินเสี่ยวหลิงเอ่ยด้วยความสดใส "ดีจังเลยค่ะ แต่ก่อนต้องตื่นเช้ามาทำงานบ้าน ทำอาหาร กว่าจะเสร็จ กินข้าวและไปโรงเรียน กลับมาต้องทำงานบ้านกว่าจะได้นอนก็เช้าแล้ว"

"ใช่"

จ้าวหยู่ฟางส่ายหน้าก่อนเอ่ยแซวลูกสาว "ลูกนอนดึกทุกวัน แต่ก่อนตื่นเช้าตลอดไม่ใช่หรือ บอกให้นอนต่อก็ไม่ยอมนอน"

"โธ่ แม่คะ"

คนที่เหลือต่างหัวเราะ ฉินเสี่ยวหรานมองไปข้างหน้า ที่จริงถ้าแม่ไม่ใช่คนที่ต้องมาทำงานบ้าน สองพี่น้องฉินคงไม่ตื่นมาทำ แต่ทั้งสองต้องทำไม่อย่างนั้นแม่คงได้ทำเอง

เมื่อมองรอบตัว พบว่าที่นี่ไม่ค่อยมีคนมากนัก อาจเพราะเป็นมณฑลกุ้ยโจวที่ค่อนข้างยากจน และเศรษฐกิจยังไม่ค่อยพัฒนา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นมณฑลที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ถึงจะเป็นมณฑลขนาดเล็ก ที่นี่ยังมีกองทัพทหารที่คอยช่วยเหลือคนกุ้ยโจวอยู่

กองทัพหวั่นอิ๋น มีผู้บังคับบัญชาสูงสุดคือท่านนายพลเว่ย เว่ยโม่หาน

ฉินเสี่ยวหรานกำลังนึกถึงเรื่องต่าง ๆ รู้ตัวอีกทีก็มาถึงหน้ากองทัพหวั่นอิ๋นแล้ว มองภายนอกจะเห็นได้ว่าเป็นกองทัพใหญ่ เพราะกำแพงที่ล้อมเอาไว้ไม่รู้ว่ามันไปสุดที่ไหน

นายทหารผู้เฝ้าหน้าประตูเดินออกมาหา พอเห็นฉินหานที่ได้รับยศใหม่ก็รีบเอ่ยแซว "ก่อนจะกลับไป นายบอกว่าไปรับลูกสาวกับภรรยามาที่นี่ คาดไม่ถึงว่าไปไม่กี่วันก็กลับมาแล้ว นี่หรือลูกสาวของนาย น่ารักอย่างที่พูดจริง ๆ"

ฉินหานหัวเราะ "แน่นอน ภรรยาของฉันจ้าวหยู่ฟาง ลูกสาวคนโตฉินเสี่ยวหราน และลูกสาวคนเล็กฉินเสี่ยวหลิง ทุกคนนี่ร้อยโทต้าถงเพื่อนของพ่อเอง" เขาแนะนำลูกสาว

"พี่สะใภ้ฉิน หลานสาว"

"คุณลุง"

"สวัสดีค่ะ"

"สวัสดี ๆ เอาล่ะ นายให้พี่สะใภ้กับหลานลงชื่อก่อน กุญแจแขวนไว้หน้าบ้าน พากันไปพักเถอะ เดินทางเหนื่อยแล้ว" ร้อยโทต้าถงรีบเอ่ย อีกไม่นานก็ใกล้ถึงเวลาปิดประตูแล้ว

"ได้"

จัดการลงชื่อเข้ากองทัพเรียบร้อย ฉินหานพาภรรยากับลูกสาวเดินไปทางบ้านพักที่ลงชื่อจองเอาไว้ สิ้นปีที่ผ่านมามีทหารหลายคนที่ได้เลื่อนตำแหน่ง ฉินหานทำงานในกองทัพตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบ ตอนนี้ใกล้ห้าสิบแล้ว การเลื่อนขั้นของเขาจึงเป็นสิ่งที่ไม่ค้านสายตาคนอื่น

ฉินเสี่ยวหรานเดินตามพ่อของเธอไปยังบ้านพักที่ว่า ทางเดินมีเสาไฟให้แต่ไม่ได้เปิด และทางเดินยังเป็นอิฐที่มีคราบตะไคร่น้ำ หากเดินไม่ระวังอาจลื่นล้มได้ กว่าจะเข้ามาถึงบ้าน นับว่าอยู่ห่างจากประตูทางเข้าพอสมควร

"บ้านหลังนี้"

บ้านหลังใหม่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงบ้านพักที่ฉินหานได้รับสวัสดิการมา แต่กลับกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของทุกคน ในบ้านถูกทำความสะอาดหลังลงชื่อจองบ้านเอาไว้ ไม่ไกลกันยังมีบ้านพักของคนอื่นอีก หน้าบ้านไม่มีรั้วแต่ว่ามีโต๊ะหินอ่อนเก่า ๆ อยู่ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน

ข้างในมีสามห้องนอนและหนึ่งห้องเก็บของที่เล็กมาก ห้องนอนใหญ่กลายเป็นห้องนอนของพ่อและแม่ ส่วนห้องนอนเล็กอีกสองห้องฉินเสี่ยวหรานและฉินเสี่ยวหลิงแยกกันนอน ไม่ต้องนอนรวมกันเหมือนอยู่ที่บ้านเดิมอีกแล้ว

"เก็บของเสร็จแล้วเตรียมชุดไปอาบน้ำ ที่นี่ไม่มีห้องน้ำ ต้องไปอาบห้องรวมที่อยู่ห่างจากที่นี่" ฉินหานบอกลูกสาวก่อนเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป

ฉินเสี่ยวหรานสำรวจในห้อง มีเตียงนอนเป็นเตียงเตา กับตู้เล็ก ๆ ให้เก็บของ ไม่มีตู้เสื้อผ้า แต่มีราวให้แขวนเสื้อผ้า ถือว่ามันยังดีกว่าไม่มีอะไรให้และคงต้องให้พ่อช่วยทำโต๊ะกับเก้าอี้ให้

"คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าห้องนอนที่นี่ยังใหญ่กว่าห้องนอนที่บ้านฉินอีก เสียดายที่เธอไม่ได้อยู่เริ่มต้นใหม่ที่นี่ แต่ไม่เป็นไร ฉันจะช่วยเธอดูแลครอบครัวเอง" ฉินเสี่ยวหรานพึมพำ

เธอเป็นผู้หญิงที่โหยหาครอบครัว เมื่อได้รับโอกาสครั้งนี้ จึงไม่พลาดที่จะรักษาพวกเขาเอาไว้

เสียงเคาะประตูก่อนเปิดออกทำให้ฉินเสี่ยวหรานหันมา "พี่คะ เสร็จหรือยังฉันอยากอาบน้ำไม่ไหวแล้ว" เป็นฉินเสี่ยวหลิงที่โผล่หัวเข้ามาด้านใน

"อืม"

ไม่มีอะไรให้เก็บทั้งนั้น กระเป๋าที่เอามามีเพียงเสื้อผ้าและอุปกรณ์การเรียนไม่กี่อย่าง ฉินเสี่ยวหรานหยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าก่อนจะเดินออกนอกห้อง ตรงข้ามจะเป็นห้องนอนของน้องสาว

ที่นี่ไม่มีห้องครัว แต่ว่าหลังบ้านมีที่ให้ทำอาหาร อยู่ติดหลังห้องนอนพ่อแม่ ฉินเสี่ยวหรานเดินออกนอกบ้านก่อนจะลงกลอนประตูเพื่อไปอาบน้ำ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 2 ครอบครัวบ้านนอก

    จ้าวหยู่ฟางรออยู่ที่บ้าน ในขณะที่สองสาวตามพ่อของพวกเธอไปสมัครเรียนในโรงเรียนมัธยมข้างกองทัพหวั่นอิ๋น โรงเรียนที่นี่มีนักเรียนไม่เยอะและเป็นโรงเรียนที่นักเรียนส่วนมากจะเป็นลูกหลานของคนในกองทัพ ไม่มีค่าเล่าเรียน เพียงแต่มีค่าอุปกรณ์เล็กน้อยฉินเสี่ยวหรานกำลังกรอกเอกสาร ด้านหน้าของเธอเป็นครูธุรการที่ประสานงานด้านการเข้าเรียน "ฉินเสี่ยวหรานหรือจ๊ะ ครูเป็นครูธุรการของที่นี่มีปัญหาอะไรแจ้งได้ คนอื่น ๆ จะเรียกครูว่าครูลู่จ้ะ""สวัสดีค่ะ""ฝากคุณครูดูแลเด็ก ๆ ด้วยนะครับ พวกเธอมาจากต่างมณฑล ภาษาการพูดแตกต่างจากคนที่นี่" ฉินหานรีบบอก มีหลายคนที่พูดภาษาท้องถิ่น ยิ่งเฉพาะเวลาต้องการนินทาใครสักคน"ยินดีค่ะ""คุณครูลู่คะ ที่นี่มีนักเรียนเยอะหรือไม่คะ" ฉินเสี่ยวหรานถามด้วยความสงสัย เนื่องจากข้างในเป็นโรงเรียนที่ใหญ่พอสมควร แต่ไม่เห็นว่าแถวนี้จะมีบ้านคน"ห้องเรียนละสามสิบคนจ้ะ""อ๋อ"ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้าและก้มหน้ากรอกเอกสารต่อ เนื่องจากเธอย้ายมากลางคันจึงต้องทำเอกสารเยอะกว่าคนอื่น แต่ว่าใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เสร็จแล้ว"อีกสองเดือนข้างหน้าเข้ามาเรียนได้เลย หากเอกสารตกหล่นครูจะติดต่อไปยังพันตรีฉินนะค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 3 เสียหน้า

    เฮ้ พี่ชายฉิน เชิญ ๆ"กลุ่มผู้ชายที่อยู่ไม่ไกลโบกมือเรียกฉินหานที่เดินนำครอบครัวเข้ามาในงาน ฉินเสี่ยวหรานมองเห็นแล้ว พวกเขาอยู่ในชุดทหารและยังมีตราที่บ่งบอกยศ แต่ละคนล้วนมีตำแหน่งเล็กกว่า หากให้เดา คงเป็นตำแหน่งเดิมของพ่อเธอ เพราะห้าปีที่ผ่านเพิ่งได้รับการเลื่อยศ"มา มา"ฉินหานมองกลุ่มเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายปี "นี่ภรรยาของฉันเอง พี่สะใภ้ของพวกนายจ้าวหยู่ฟาง หลานสาวใหญ่ฉินเสี่ยวหราน หลานสาวรองฉินเสี่ยวหลิง""พี่สะใภ้ฉิน""พี่สะใภ้"พวกเขาต่างเดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง "หลานสาวใหญ่ หลานสาวรอง หน้าตาดีกันจริง ๆ โตเป็นสาวแล้ว ทำงานกับพี่ชายฉินมานานหลายปีเพิ่งได้เห็นหน้าหลานสาว"ฉินเสี่ยวหรานยิ้มเล็กน้อยมองบรรดาเพื่อนของพ่อ "สวัสดีค่ะคุณอา ฉินเสี่ยวหรานหรือเรียกเสี่ยวหรานก็ได้ค่ะ" ไหน ๆ แล้ว ได้ชีวิตใหม่ทั้งที เธอควรทำความรู้จักกับผู้คน"เสี่ยวหราน"คุณนายทหารเดินมาตั้งแต่ไกลเพื่อมาหาจ้าวหยู่ฟาง และเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา "นี่หรือภรรยาของพันตรีฉิน ฉันเหวยฉิงภรรยาของพันเอกเหยา ไปกับฉันสิ จะแนะนำให้คนอื่นได้รู้จัก"“คุณนายเหยา ฝากพวกเธอด้วยครับ""แน่นอน"คุณนายเหยาดึงมือจ้าวหยู่ฟา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 4 พยาบาลทหาร

    งานเลี้ยงต้อนรับครอบครัวทหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องกระอักกระอ่วนบ้างก็ตาม นาน ๆ ครั้ง กองทัพหวั่นอิ๋นถึงจะมีงานใหญ่สักงาน ทุกคนไม่อยากให้เสียบรรยากาศพ่อฉินยังเหลือวันลาอีกหลายวัน แต่ว่าในเมื่อกลับมาแล้วเขาจึงไปทำงานต่อ ได้รับค่าแรงสองเท่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า เช้าวันนี้คุณนายทหารกลุ่มเมื่อคืนมาที่บ้านและชวนแม่ฉินไปโรงตัดเย็บของกองทัพแม่ฉินตามไปด้วย ที่บ้านจึงเหลือเพียงสองพี่น้องฉินฉินเสี่ยวหรานลงมือออกแบบชุดที่จะตัด มีฉินเสี่ยวหลิงเป็นแบบให้ แม่ของพวกเธอรับจ้างตัดเย็บมาตลอดและนำอุปกรณ์มาด้วย ไม่ต้องออกไปซื้ออุปกรณ์ ฉินเสี่ยวหรานลงมือตัดเย็บทันที"ทำไมพี่ถึงตัดชุดล่ะ ฉันว่าพวกเราอ่านหนังสือรอเปิดภาคเรียนกันดีกว่าไหมคะ ย้ายมาที่นี่หลักสูตรจะต่างกันมากน้อยแค่ไหนพวกเราไม่รู้เลย" ฉินเสี่ยวหลิงบอกแต่หญิงสาวไม่ได้สนใจการเรียน เธอเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ "เธออยากอ่านหนังสือก็อ่านหนังสือเถอะ เรื่องอื่นฉันจะจัดการเอง" ต้องรีบหาเงินก่อนโรงเรียนเปิดฉินเสี่ยวหรานวาดแบบคร่าว ๆ ให้มองออกว่าต้องทำไปในทิศทางไหน เธอไม่ใช่คนวาดรูปสวย แต่มีรายละเอียดที่ชัดเจนก็พอแล้ว อีกอย่างเธอเคยเป็นดีไซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 5 ลูกค้าคนแรก

    เพราะไม่มีตัวช่วยอย่างจักรเย็บผ้าและร่างกายที่ไม่ค่อยถนัดของฉินเสี่ยวหราน ชุดแรกที่ออกแบบและลงมือตัดเย็บใช้เวลานานถึงห้าวันกว่าจะได้หนึ่งชุด ฉินเสี่ยวหลิงลองใส่แล้วพบว่ามันพอดีตัวมาก"ชุดสวยมากเลยค่ะพี่สาวใหญ่ นึกไม่ถึงว่าพี่จะตัดเย็บได้สวยมากขนาดนี้" ฉินเสี่ยวหลิงเอ่ยชม ชุดที่เธอใส่เมื่อตัดกับผิวแล้วขับผิวให้ขาวขึ้น ไหนจะขนาดตัวที่ไม่คับและไม่หลวมเกินไป"ฝีมือของฉันไม่เคยพลาด"ใช่ ไม่ว่าจะลองตัดเย็บครั้งแรกหรือครั้งไหน ๆ ดีไซเนอร์อย่างลิลลี่ไม่เคยทำพลาด ยิ่งฉินเสี่ยวหรานมีพื้นฐานการตัดเย็บอยู่แล้ว ชุดที่ได้มาจึงไร้ที่ติ หากชุดนี้ถูกขายด้วยชื่อของเธอ มันจะขายได้หลายล้านบาทเลยทีเดียวฉินเสี่ยวหรานปล่อยให้น้องสาวตื่นเต้นไปกับชุดใหม่ เธอเข้าครัวเพื่อทำอาหารไปส่งให้แม่ที่โรงตัดเย็บ ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของสมาคมแม่บ้านทหาร ต่อให้ไม่ได้ทำงาน พวกคุณนายทหารก็ชอบไปรวมตัวกันที่นั่น วันนี้พ่อฉินถูกเรียกตัวออกไปช่วยภารกิจนอกกองทัพ ไม่ต้องนำปิ่นโตอาหารไปส่งวันก่อนที่บ้านซื้อเนื้อหมู ขาหมูมา ฉินเสี่ยวหรานใช้วิธีทำหมูน้ำค้างเพื่อให้มีเนื้อกินในทุกวัน และพ่อไม่ต้องออกไปซื้อของที่ตลาดให้เหนื่อย เพียงแค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 6 คุณนายเว่ยซื้อให้จริง ๆ หรือ

    เมื่อได้ขนาดตัวของคนที่ต้องตัดชุดให้แล้ว กลับมาถึงบ้านกินข้าวมื้อเย็น อาบน้ำเสร็จ ฉินเสี่ยวหรานรีบเข้าห้องนอนเพื่อออกแบบชุดทั้งสามตัว ของเด็กนั้นไม่เท่าไรของผู้ใหญ่นี่สิ ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ ผ้าที่ใช้จึงใช้เยอะภายในห้องมีไฟให้ใช้แต่ก็สลัวมาก ฉินเสี่ยวหรานจึงจุดตะเกียงช่วย ถึงแม้ว่าจะสิ้นเปลือง แต่เธอไม่มีเวลาพอ รีบทำให้เสร็จและเข้านอน พรุ่งนี้เช้าพันตรีเว่ยจะมารับเธอไปเลือกม้วนผ้าเพื่อตัดเย็บ ค่าผ้าในส่วนนี้คุณนายเว่ยเป็นคนจ่ายให้ หน้าที่ของเธอคือเลือกซื้อผ้าและตัดเย็บตอนเช้าฉินเสี่ยวหรานรีบลุกไปรดน้ำผัก แล้วไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำเมื่อกลับมาก็เป็นเวลาที่พ่อเธอกลับมาจากวิ่งออกกำลังกาย ทั้งสองทักทายกันเล็กน้อยและแยกย้ายกันทำธุระของตนเองเป็นเวลาที่คนในบ้านตื่นพอดี ฉินเสี่ยวหลิงรับหน้าที่ในการทำอาหารตอนเช้า ฉินเสี่ยวหรานกวาดบ้านระหว่างรอรับประทานอาหาร ส่วนผู้เป็นแม่กำลังช่วยพ่อแต่งตัวในห้อง"แม่คะ วันนี้ให้เสี่ยวหลิงไปกับแม่นะคะ หนูต้องออกไปซื้อม้วนผ้ากับพันตรีเว่ย หากให้น้องสาวไปด้วยก็เกรงใจเขา" ฉินเสี่ยวหรานบอกแม่ของเธอที่เดินออกมาพอดี“จ้ะ"ที่บ้านรู้กันหมดแล้วว่าฉินเสี่ยวหรานต้องตัดเย็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 7 คุณนายทหารน้อยหน้าไม่ได้

    ตัดชุดให้พันตรีเว่ยใช้เวลาเพียงสามวันก็เสร็จแล้ว เนื่องจากเป็นของลูกค้าจะมัวโอ้เอ้ไม่ได้ ฉินเสี่ยวหรานจะให้น้องสาวเป็นคนนำอาหารไปส่งให้พ่อ ส่วนเธอใช้เวลาอันมีค่าในการตัดเย็บ แต่ว่าชุดของเด็กทั้งสองใช้เวลาสี่วันในการตัดเย็บรวม แล้วเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์พอดี เร็วกว่าที่คาดเอาไว้มากฉินเสี่ยวหรานนัดส่งชุดพรุ่งนี้เพราะต้องการตรวจสอบชุดใหม่ว่าจะไม่มีปัญหาตรงไหน ด้วยฝีมือของเธอราคาที่จะเรียกจึงแพง ถ้าเกิดมีตำหนิขึ้นมาจะเสียชื่อเอาได้หลังตรวจสอบชุดทั้งสามอย่างละเอียดดีแล้ว ฉินเสี่ยวหรานยังเย็บกระเป๋าผ้าเพื่อใส่ชุดอีกด้วย เพราะไม่มีถุงกระดาษ หรือถุงที่สามารถใส่เสื้อผ้าได้ ถ้าถือไปเลยเห็นถ้าว่าจะไม่ดี และกระเป๋าของเธอยังเก่าอีกด้วยจ้าวหยู่ฟางกำลังถักไหมพรมเงยหน้ามองลูกสาวที่เตรียมของจะไปส่ง "ลูกตัดเย็บเร็วมาก แม่นึกว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวัน เหล่าคุณนายยังตกใจที่ชุดเสร็จเร็วมาก”"ไม่เร็วเลยค่ะแม่ ถ้ามีจักรเย็บผ้าจะดีกว่านี้""นั่นสิ มีจักรเย็บผ้าเร็วกว่าจริง ๆ" น่าเสียดายที่เธอกับสามีไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อจักรเย็บผ้า ไม่สิ จะว่ามีมันก็มีอยู่แต่ว่าเงินของบ้านก็จะลดลง อีกไม่นานก็จะเปิดภาคเรียนแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 8 เข้าโรงเรียนกลางคัน

    เผลอแป๊บเดียวก็ถึงวันเปิดภาคเรียนแรกของปีแล้ว ฉินเสี่ยวหราน ฉินเสี่ยวหลิงตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมตัว ทั้งสองเป็นเด็กใหม่ของโรงเรียนที่ย้ายมาชั้นปีสุดท้าย แน่นอนว่าต้องมีสายตาของคนที่มองมา ยิ่งไปเร็วเท่าไรยิ่งเป็นผลดีกับสองพี่น้องฉินหานแลกวันลากับเพื่อนเพื่อมาส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนพร้อมภรรยาที่ลางานมาเหมือนกัน ปกติต้องเข้าโรงตัดเย็บทุกวัน และมีค่าแรงวันละห้าเหมา ถึงแม้จะขาดรายได้แต่ก็ไม่เสียหายอะไร"พ่อกับแม่มาส่งได้แค่นี้ มีอะไรให้ไปหาครูธุรการลู่ ระวังตัวด้วย" ฉินหานบอกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง ที่นี่ไม่ใช่อำเภอบ้านเกิดที่คุ้นเคย และไม่มีเพื่อน ลูกสาวต้องเริ่มต้นใหม่“ใช่ ระวังตัวด้วย""หนูจะระวังตัวค่ะ" ฉินเสี่ยวหรานผงกหัว เธอไม่คิดว่าในโรงเรียนจะอันตรายขนาดนั้น "พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ เลิกเรียนหนูกับน้องจะรีบกลับบ้าน""อืม"ฉินเสี่ยวหลิงมองข้างในโรงเรียนอย่างตื่นเต้น มันกว้างกว่าโรงเรียนเดิมหลายเท่าตัว "ไปกันเถอะค่ะพี่สาวใหญ่ ได้ยินว่าวันนี้มีนักเรียนเข้าใหม่หลายคน บางทีฉันอาจจะได้เพื่อนเร็วขึ้น"ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้าบอกลาพ่อแม่เล็กน้อยก่อนเดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมน้องสาว คนที่นี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 9 ทบทวนความรู้สึกตนเอง

    วันถัดมาพันตรีเว่ยยังคงขับรถผ่านหน้าโรงเรียนในช่วงเวลาเลิกเรียนและยังมีอีกหลาย ๆ วันที่มาจอดรอรับอย่างกับนัดไว้ เพื่อรอรับสองสาวบ้านฉินกลับบ้านด้วย จนกระทั่งฉินเสี่ยวหรานคิดว่ามันไม่ใช่แล้ว และรู้สึกถึงความผิดปกตินี้เดิมทีหากพันตรีเว่ยผ่านมาสักวันสองวันคงคิดได้ว่าเป็นเพราะมีภารกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือน ฉินเสี่ยวหรานไม่เคยแม้กระทั่งต้องเดินกลับบ้านเอง หากไม่ติดว่าตอนเช้าพ่อของเธอเป็นคนมาส่ง คงมีรถคอยรับคอยส่งแล้วโรงเรียนและบ้านพักในกองทัพหวั่นอิ๋นนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ติดกัน แต่ว่าถ้าจะเข้าไปด้านในต้องเดินอ้อมอีกทาง ใช้เวลาเพียงห้านาทีเท่านั้นเอง แต่ฉินเสี่ยวหรานก็ไม่เคยได้เดินเหยาหนานรออยู่ตรงทางเข้าโรงเรียน พอเห็นฉินเสี่ยวหรานก็ร้องเรียก "เสี่ยวหรานทางนี้!"ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฉินเสี่ยวหรานมีกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เจิ้งฟางมี่ จูลี่ และหนานเหยา อันที่จริงเจิ้งฟางมี่กับจูลี่ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ส่วนเหยาหนานนั้นเขามีเพื่อนผู้ชายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพอฉินเสี่ยวหรานเข้ามาเรียนที่นี่เขาก็เข้าร่วมกลุ่มทันที"ฟางมี่ จูลี่ล่ะ""พวกเธอเข้าไปรอข้างในห้องเรียนแล้ว จูลี่ปวดท้อง เสี่ยว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10

บทล่าสุด

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 16 ตึกคูหาสองชั้น

    หลังจากบ้านฉินกลับไป เหตุการณ์ในกองทัพก็ไม่มีเรื่องวุ่นวายกวนใจอีก ฉินเสี่ยวหรานออกแบบร้านเสื้อผ้าของเธอเป็นตึกคูหาสองชั้น เป็นตึกที่ต้องใช้เวลาในการสร้างและใช้เงินจำนวนมาก ผู้รับเหมาที่เข้ามาทำงานเป็นคนที่เว่ยเซียวหามา ตกลงแบ่งจ่ายห้าครั้ง ครั้งละห้าร้อยหยวน นั่นหมายความว่าค่ารับเหมามีมูลค่าถึงสองพันห้าร้อยหยวน ยังไม่รวมราคาวัสดุที่ต้องจ่ายแยกอีกฉินเสี่ยวหรานคำนวณการจ่ายในแต่ละครั้ง ผู้รับเหมาให้เวลาห้าเดือนหรือก็คือเดือนละห้าร้อยหยวน เธอวางแผนออกแบบชุดเอาไว้เพื่อรับตัดชุดและตัดชุดสำเร็จเก็บเอาไว้เพื่อวางขายในระยะเวลาหนึ่งเดือนฉินเสี่ยวหรานต้องตัดชุดให้ได้มากกว่าสิบตัวถึงจะมีเงินเหลือใช้จ่ายในแต่ละเดือน ยังดีที่ฉินเสี่ยวหลิงตัดเย็บกระเป๋าไว้บางส่วนจึงขายออกไป ทำให้ฉินเสี่ยวหรานไม่ต้องทำงานหนักแบบไม่ได้พักหลังจ่ายค่าก่อสร้างงวดที่สอง ฉินเสี่ยวหรานก็ไม่ให้แม่ของเธอทำงานในโรงปักเย็บต่อ ให้อยู่ทำอาหารที่บ้าน หรือจะไปในนั่งเล่นที่สมาคมแม่บ้านกับคุณนายอื่น ๆ ได้ แต่ไม่ให้ทำงานแล้ว นั่นเพราะก่อนหน้านี้จ้าวหยู่ฟางวูบอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้งานจะไม่หนักแต่มีผลข้างเคียงจา

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 15 ผู้ชายของฉินเสี่ยวหราน

    ฉินเสี่ยวหรานไม่เข้าไปดูแม่เฒ่าฉินที่ถูกคุมไว้ในห้องขัง และไม่ให้แม่ของเธอได้เข้าเยี่ยม จะหาว่าใจร้ายก็ได้ แต่ย่าของเธอคนนี้เป็นคนใจร้ายมากกว่า ฉินเสี่ยวหลิงก็ไม่เข้าไปเยี่ยม มีเพียงพ่อของเธอที่เข้าไป และเธอก็ไม่ได้ห้ามถึงอย่างไรก็เป็นแม่ลูกกันเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากติดต่อบ้านฉินไป ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงกองทัพ ฉินเสี่ยวหลิงวิ่งเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยหอบ "บ้านฉินขนกันมาทั้งบ้านเลยค่ะ!""มากันทั้งบ้าน?" มือที่กำลังเย็บกระเป๋าชะงักก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ "ถ้าจำไม่ผิดพ่อบอกให้มารับคนไม่ใช่หรือ ทำไมถึงต้องขนกันมาทั้งบ้าน"“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แค่ย่ามาก็วุ่นวายมากพอแล้ว ตอนนี้ยิ่งวุ่นวายมากกว่าเดิม พี่รีบไปดูเถอะค่ะก่อนที่จะแย่ไปมากกว่านี้ คนในกองทัพซุบซิบกันหมดแล้ว""อืม"จากที่ทำงานอยู่ต้องละมือ และจัดการล็อกบ้านอย่างแน่นหนาก่อนจะไปยังจุดที่บ้านฉินมาโวยวาย คนพวกนี้ไม่มีมารยาท และตอนนี้คงทำให้พ่อของเธอลำบากใจไม่น้อย ด้วยนิสัยของพ่อ แต่ก่อนเป็นคนที่ไม่เถียงคนอื่น แต่ก็ใช่ว่าจะรังแกได้ อีกทั้งยังแยกบ้านกันแล้ว คนพวกนี้น่ารังเกียจจริง ๆเป็นตามท

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 14 ขายหลานสาว

    ฉินหานมองลูกศิษย์หรือก็คือทหารใหม่ที่รับมาอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพันตรีเขาก็กลายมาเป็นครูฝึกให้กับทหารใหม่ ต่างจากแต่ก่อนที่ได้เป็นเพียงผู้ช่วยครูฝึก ปีนี้ทหารใหม่มีมากถึงสองร้อยคน จำนวนครูฝึกจึงเพิ่มขึ้นหลายตำแหน่ง และยังมีเงินพิเศษที่ทำให้หลายคนอยากได้ตำแหน่งนี้"ครูฝึกฉินครับ มีญาติต้องการเข้าพบ" ครูฝึกอีกท่านที่ออกไปพักกลับเข้ามากระซิบบอก"ขอบคุณครับ"คงเป็นลูกสาวที่เอาอาหารมื้อกลางวันมาให้ จึงจัดการฝากทหารใหม่ในความดูแลให้คนอื่นก่อนจะเดินออกจากพื้นที่ ฉินหานเร่งฝีเท้าไปยังศาลารับรองเพื่อให้ถึงลูกสาว ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่มาหาไม่ใช่ลูกสาว"แม่" ใช่ ภาพตรงหน้าของฉินหานคือแม่ของเขาที่นอนนาบไปกับพื้นของศาลา ไม่ไกลจากที่นอนยังมีเหล่าคุณนายและทหารคนอื่น พวกเขาหันมามองเป็นตาเดียว"มาแล้วหรือ! ปล่อยให้แม่แก่ ๆ รอแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน ฉันเลี้ยงแกมาตั้งหลายปีไม่คิดที่จะส่งเงินกลับบ้านเลี้ยงดูหน่อยหรือ ปล่อยให้ฉันต้องลำบากแต่ครอบครัวตัวเองสบาย ดีจริง ๆ!" แม่เฒ่าฉินตวาดออกมาด้วยความไม่พอใจหลายเดือนที่ลูกชายพาครอบครัวย้ายมา

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 13 ร้านเช่าสำหรับร้านเสื้อผ้า

    ไม่ใช่ว่ามีคำสั่งซื้อ มีฝีมือแล้วจะไม่มีอะไรที่ผิดพลาดได้ ในแต่ละวันฉินเสี่ยวหรานแทบไม่ได้มีเวลาพักผ่อน เนื่องจากรับงานมากเกินตัว ใช่ รายละเอียดแต่ละชุดต้องทำเพิ่ม และฉินเสี่ยวหรานต้องใช้เวลาตัดเย็บชุดทั้งเจ็ดภายในเวลาครึ่งเดือนหรือสิบห้าวันและพอส่งสินค้าให้ลูกค้าที่สั่งงานแล้ว ฉินเสี่ยวหรานก็รีบนำเงินที่ได้มาไปซื้อจักรเย็บผ้ามาเพื่อความรวดเร็ว เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะเปิดภาคเรียนที่สองแล้ว และการเรียนก็ยุ่งมาก คงต้องหาเงินเก็บเอาไว้ก่อนต้องบอกว่าฉินเสี่ยวหรานคิดถูก ก่อนเปิดภาคเรียนเหลือเวลาสิบสามวัน เธอใช้จักรเย็บผ้าตัดเย็บชุดออกมาขาย และรับคำสั่งตัดเย็บมาบ้าง ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนทำให้ฉินเสี่ยวหรานมีเงินเก็บเป็นพันหยวน ยังไม่รวมที่น้องสาวเย็บกระเป๋าขายและนำบางส่วนมาเป็นการต้นทุนในการซื้อผ้าอีกพอเปิดภาคเรียนที่สองฉินเสี่ยวหรานไม่ได้รับตัดเย็บชุดเพิ่มอีก แต่ก็ตัดเย็บชุดสำเร็จเอาไว้ เนื่องจากฉินเสี่ยวหลิงมาปรึกษาเรื่องการเรียนต่อมัธยมปลายและสนใจการเป็นหมอฉินเสี่ยวหรานผู้เป็นพี่สาวที่ได้ยิน รู้ว่าค่าใช้จ่ายมันต้องเยอะมากแน่ จึงตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 12 ว่าที่ลูกเขยพันตรี

    ปิดภาคเรียนแรกแล้ว ฉินเสี่ยวหรานเดินหน้าทำธุรกิจของเธอทันที นั่นก็คือการเปิดรับตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นรอบ ไม่เหมือนตลอดหลายเดือนที่เรียนอยู่ เธอจะรับเพียงครั้งละหนึ่งตัว พอเย็บเสร็จก็เว้นระยะแล้วรับใหม่ เฉลี่ยแล้วคือสามตัวต่อเดือน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอลำบากสักนิดผ้าที่ใช้ตัดเย็บหนึ่งม้วนตัดชุดผู้ชายร่างใหญ่ได้หนึ่งตัว ของผู้หญิงได้เกือบสองตัว และเสื้อหนึ่งตัวนั้นฉินเสี่ยวหรานก็ไม่ได้คิดราคาถูก มีเพียงคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ลดราคาลงบ้างครั้งนี้มีเวลาว่างเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น ฉินเสี่ยวหรานจึงเปิดรับรอบนี้เจ็ดตัว ตัวละแปดสิบหยวนไม่รวมรายละเอียดอื่น ๆ หากต้องการเพิ่มเติม และการตัดเย็บในตอนนี้เธอคล่องมือขึ้นมาก เสื้อหนึ่งตัวใช้เวลาเพียงสองวันก็เสร็จแล้วสำหรับฉินเสี่ยวหรานแล้ว เงินเดือนของพ่อเธอนั่นให้แม่ใช้ซื้ออาหารและของเข้าบ้าน เงินเก็บก็ได้รับจากเธอที่ได้จากค่าตัดเย็บเสื้อผ้า ค่าขนมของเธอและฉินเสี่ยวหลิงก็เอามาจากเธอ และได้ทำข้อตกลงกับคนในบ้านแล้วพ่อกับแม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยหาเงินเหมือนแต่ก่อน นี่ยังไม่รวมเงินเดือนจากโรงตัดเย็บของแม่อีกครั้งนี้ฉินเสี่ยวห

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 11 ความพยายามของเว่ยเซียว

    หลังจากเปิดเผยความในใจกับผู้เป็นพ่อ ฉินเสี่ยวหรานได้นำเรื่องนี้กลับไปคิด ชีวิตก่อนเธอเป็นลูกคุณหนูจึงรู้เรื่องความสำคัญของที่บ้านดี แม้กระทั่งเมื่อก่อนตอนที่อาชายคนสุดท้ายยังมีชีวิตอยู่ เขาไม่ยอมให้เธอคบกับคนที่ด้อยกว่า ไม่ว่าจะเพื่อน หรือกับเพศตรงข้ามยิ่งเว่ยเซียวเป็นพันตรีและที่บ้านเขาสนับสนุน ทำไมเธอถึงต้องกลัวด้วยล่ะ ดังนั้นเว่ยเซียวที่ตามตื้อฉินเสี่ยวหรานอยู่เป็นเดือนก็ได้รับโอกาสในครั้งนี้ฉินเสี่ยวหรานโบกมือลาเพื่อนในกลุ่มหน้าโรงเรียนเมื่อเห็นว่ารถยนต์คันเดิมมารอรับแล้ว ตั้งแต่ที่ทั้งสองกลับมาพูดคุยกันมันก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง นั่นก็คือไม่ต้องเดินกลับบ้านแล้ว ฉินเสี่ยวหลิงผู้เป็นน้องสาวชอบแบบนี้ที่สุด และว่าที่พี่เขย- อะแฮ่ม พี่เว่ยยังมีรถส่วนตัวที่ซื้อมาภายหลัง ถึงจะเป็นมือสองแต่ก็สภาพดีมากแต่ก่อนที่จะเดินไปถึงรถ สองพี่น้องฉินกลับถูกคนเอ่ยรั้งเอาไว้ก่อน "นักเรียนฉินเสี่ยวหราน นักเรียนฉินเสี่ยวหลิง""คุณครูหยู" ฉินเสี่ยวหรานก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพคุณครูในโรงเรียน ในขณะเดียวกันก็มีความสงสัยไม่น้อย "มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ"ค

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 10 ปฏิเสธความสัมพันธ์

    ถึงแม้จะบอกว่าทบทวนความรู้สึกตัวเอง แต่ฉินเสี่ยวหรานก็ยังหลบหน้าเว่ยเซียวที่มาจอดรถรอรับที่หน้าโรงเรียน นั่นก็คือออกมาจากโรงเรียนก่อนเวลาปกติที่เว่ยเซียวจะมารอรับ ให้เพื่อนในกลุ่มดูต้นทาง ส่วนเธอกับน้องสาวรีบเดินกลับ นี่ทำให้เพื่อนในกลุ่มสงสัยไม่น้อยด้วยปกติทุกคนจะรู้กันดีว่าฉินเสี่ยวหรานกับน้องสาวจะมีพันตรีเว่ยมารอรับทุกวัน แต่จู่ ๆ ก็ไม่กลับไปด้วย ถ้าเป็นเรื่องซุบซิบในโรงเรียน ทุกคนรู้ว่าฉินเสี่ยวหรานไม่ได้สนใจ แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันล่ะในวันหยุดของสัปดาห์นี้ ฉินเสี่ยวหรานกำลังตัดชุดผู้หญิงวัยรุ่นอยู่ที่บ้าน เป็นชุดที่เพื่อนของเธอสั่งตัดเพราะอยากได้ชุดใหม่ จูลี่นำผ้ามาให้ตัดถึงบ้านพัก ค่าฝีมือคิดได้ไม่อั้นเพราะพ่อของเธอเป็นคนจ่าย และฉินเสี่ยวหรานดูแล้วไม่ติดการเรียนจึงยอมตัดเย็บให้ก๊อก! ก๊อก!"เสี่ยวหราน! เสี่ยวหลิง!"เสียงรถยนต์หน้าบ้านไม่ได้ดึงดูดความสนใจของสองพี่น้องที่นั่งอยู่ในบ้าน แต่กลับได้ยินเสียงคนเรียก ฉินเสี่ยวหรานก็รู้ดีว่าเป็นใคร และเธอยอมออกไปดู เผื่อคนข้างนอกมีธุระจะได้ไม่มาเสียเที่ยว เพราะที่ผ่านมา ต่อให้หลบหน้าหลายวันพันตรีเว่ยก็ไม่โผล่มาให้เห็นหน้าเลยสักนิด"แม่

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 9 ทบทวนความรู้สึกตนเอง

    วันถัดมาพันตรีเว่ยยังคงขับรถผ่านหน้าโรงเรียนในช่วงเวลาเลิกเรียนและยังมีอีกหลาย ๆ วันที่มาจอดรอรับอย่างกับนัดไว้ เพื่อรอรับสองสาวบ้านฉินกลับบ้านด้วย จนกระทั่งฉินเสี่ยวหรานคิดว่ามันไม่ใช่แล้ว และรู้สึกถึงความผิดปกตินี้เดิมทีหากพันตรีเว่ยผ่านมาสักวันสองวันคงคิดได้ว่าเป็นเพราะมีภารกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือน ฉินเสี่ยวหรานไม่เคยแม้กระทั่งต้องเดินกลับบ้านเอง หากไม่ติดว่าตอนเช้าพ่อของเธอเป็นคนมาส่ง คงมีรถคอยรับคอยส่งแล้วโรงเรียนและบ้านพักในกองทัพหวั่นอิ๋นนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ติดกัน แต่ว่าถ้าจะเข้าไปด้านในต้องเดินอ้อมอีกทาง ใช้เวลาเพียงห้านาทีเท่านั้นเอง แต่ฉินเสี่ยวหรานก็ไม่เคยได้เดินเหยาหนานรออยู่ตรงทางเข้าโรงเรียน พอเห็นฉินเสี่ยวหรานก็ร้องเรียก "เสี่ยวหรานทางนี้!"ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฉินเสี่ยวหรานมีกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เจิ้งฟางมี่ จูลี่ และหนานเหยา อันที่จริงเจิ้งฟางมี่กับจูลี่ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ส่วนเหยาหนานนั้นเขามีเพื่อนผู้ชายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพอฉินเสี่ยวหรานเข้ามาเรียนที่นี่เขาก็เข้าร่วมกลุ่มทันที"ฟางมี่ จูลี่ล่ะ""พวกเธอเข้าไปรอข้างในห้องเรียนแล้ว จูลี่ปวดท้อง เสี่ยว

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 8 เข้าโรงเรียนกลางคัน

    เผลอแป๊บเดียวก็ถึงวันเปิดภาคเรียนแรกของปีแล้ว ฉินเสี่ยวหราน ฉินเสี่ยวหลิงตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมตัว ทั้งสองเป็นเด็กใหม่ของโรงเรียนที่ย้ายมาชั้นปีสุดท้าย แน่นอนว่าต้องมีสายตาของคนที่มองมา ยิ่งไปเร็วเท่าไรยิ่งเป็นผลดีกับสองพี่น้องฉินหานแลกวันลากับเพื่อนเพื่อมาส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนพร้อมภรรยาที่ลางานมาเหมือนกัน ปกติต้องเข้าโรงตัดเย็บทุกวัน และมีค่าแรงวันละห้าเหมา ถึงแม้จะขาดรายได้แต่ก็ไม่เสียหายอะไร"พ่อกับแม่มาส่งได้แค่นี้ มีอะไรให้ไปหาครูธุรการลู่ ระวังตัวด้วย" ฉินหานบอกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง ที่นี่ไม่ใช่อำเภอบ้านเกิดที่คุ้นเคย และไม่มีเพื่อน ลูกสาวต้องเริ่มต้นใหม่“ใช่ ระวังตัวด้วย""หนูจะระวังตัวค่ะ" ฉินเสี่ยวหรานผงกหัว เธอไม่คิดว่าในโรงเรียนจะอันตรายขนาดนั้น "พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ เลิกเรียนหนูกับน้องจะรีบกลับบ้าน""อืม"ฉินเสี่ยวหลิงมองข้างในโรงเรียนอย่างตื่นเต้น มันกว้างกว่าโรงเรียนเดิมหลายเท่าตัว "ไปกันเถอะค่ะพี่สาวใหญ่ ได้ยินว่าวันนี้มีนักเรียนเข้าใหม่หลายคน บางทีฉันอาจจะได้เพื่อนเร็วขึ้น"ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้าบอกลาพ่อแม่เล็กน้อยก่อนเดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมน้องสาว คนที่นี่

DMCA.com Protection Status