Share

บทที่ 9 พบโจทก์เก่า

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-21 15:32:00

เจียงหมิงเจ๋อคล้ายรับรู้ได้ถึงสายตาของใครบางคนที่กำลังพุ่งเป้ามาที่ตน เขาจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตาของคนทั้งสองสบประสานกันในชั่วขณะนั้น โจวหว่านหรูพลันใจเต้นตึกตักจนแทบควบคุมตนเองไม่ได้ นางรีบเก็บสายตาของตนกลับคืนทันที

หากบอกว่าคนผู้นั้นที่ก่อกบฏแย่งชิงบัลลังก์น่ากลัวแล้ว คนที่น่ากลัวกว่าคนผู้นั้นก็คือเจียงหมิงเจ๋อ!!!

หลังจากที่เจียงหมิงเจ๋อหนีออกไปจากแคว้นเป่ยฉินได้สำเร็จ นางไม่รู้เลยว่าเขาไปอยู่ที่ใด ยามที่เขายังอยู่ในวังหลวงนางได้พบกับเขาอยู่บ่อยครั้ง ในตอนนั้นนางคิดว่าเขาช่างน่าสงสารเหลือเกิน แต่ทว่าเมื่อได้รับรู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของเขา นางจึงได้รู้ว่าคนผู้นี้ช่างเสแสร้งแกล้งทำได้อย่างแนบเนียนจนน่าตกใจ

เจียงหมิงเจ๋อปรายตามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเดินจากไปพร้อมแม่นมที่คอยประคองเขา เมื่อลับสายตาผู้คน เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางคิดถึงสายตาที่โจวหว่านหรูมองตนเมื่อครู่นี้ด้วยความสงสัย

เหตุใดแววตาของนางที่มองเขาจึงมีแต่ความหวาดกลัวและระแวดระวังเช่นนั้นเล่า?

หรือนางจะรู้ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด? 

เป็นไปไม่ได้!!! ได้ยินว่านางคือเหล่าคุณหนูที่ถูกเรียกตัวเข้ามาคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค์หญิงรองมิใช่หรือ?

หากเป็นคุณหนูที่อยู่แต่ในห้องนอน ก็คงไม่มีทางล่วงรู้เรื่องภายนอกจวนของตนเป็นแน่

แต่เขารู้สึกว่าสายตาของนางแปลก ๆ

แปลกที่ใดเขาเองก็คาดเดาไม่ถูก

ด้านโจวหว่านหรูที่เข้ามาถึงด้านในของวังหลวงแล้ว ก็รีบนำข้าวของไปเก็บตามที่ขันทีบอก พวกนางถูกจัดให้พักอยู่ที่เรือนรับรองขนาดใหญ่ ห้องหนึ่งสามารถพักได้สองคน โจวหว่านหรูได้พักอยู่กับ มู่จั่วหลาน หลานสาวของราชครูมู่

โจวหว่านหรูคุ้นเคยกับสตรีนางนี้ดี ชาติที่แล้วนางคือพระชายาเอกขององค์ชายรอง หยางเฉิง

หยางเฉิง บุรุษที่ทำให้นางต้องเผาตนเองจนตายในตำหนักบูรพา!!!

เขาคือคนผู้นั้น!!!

เรื่องการเมืองเดิมทีนางก็ไม่รู้มากนัก รู้เพียงว่าหยางเฉิงคือคนที่ก่อกบฏ หลังจากฮ่องเต้หยางหลิงไท่สวรรคตได้เพียงสามวัน เขาก็เข่นฆ่าคนที่ไม่ยอมจงรักภักดี หยางจิ่งยังไม่ทันได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้เลยด้วยซ้ำ แผ่นดินแคว้นเป่ยฉินก็เกิดการนองเลือดเสียแล้ว

เขาบีบให้นางเลือก ระหว่างอยู่หรือตาย!!! ท้ายที่สุดนางเลือกความตาย ไม่เลือกที่จะยอมสวามิภักดิ์ให้เขา

ตระกูลโจวของนางซื่อสัตย์ภักดี ย่อมไม่มีทางเข้าข้างกบฏชั่วเช่นหยางเฉิง

เขาสั่งให้คนขังนางเอาไว้ในตำหนักบูรพา ยามนั้นเองที่นางได้ล่วงรู้ว่าคนที่หยางเฉิงสมคบคิดมาทำลายบ้านเมืองของตนเองนั่นก็คือเจียงหมิงเจ๋อ

ฮ่องเต้เจียงหมิงเจ๋อ ผู้ที่หนีออกจากแคว้นเป่ยฉินและยกทัพบุกเข้าไปสังหารพี่ชายของตนเองเพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์แคว้นเยี่ยน ท้ายที่สุดเขาก็สามารถสังหารพี่ชายตนได้สำเร็จ

เบื้องหน้าเขาแสร้งว่าป่วยหนัก นางเองก็เคยสงสารเขา แต่ยามนี้นางรู้สึกหวาดกลัวเขายิ่งนัก

บุรุษที่ตีสองหน้าได้เก่งกาจเช่นเจียงหมิงเจ๋อย่อมไม่ใช่คนดีอะไร

แล้วเจียงหมิงเจ๋อและหยางเฉิงร่วมมือกันได้เช่นไรนั้น นางก็ไม่รู้เช่นกัน

และนางเองก็ไม่รู้ว่าชาตินี้นางจะเริ่มแก้ปัญหานี้ตรงที่ใดดี

การจะบอกเรื่องราวในชาติก่อนกับใครบางคนย่อมดูเป็นเรื่องเหลวไหล ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ท่านแม่ เฉินป๋อเหวิน ย่อมไม่เชื่อนางเป็นแน่ อีกทั้งหากพูดไปเรื่อยเปื่อยไม่มีหลักฐาน อาจจะกลายเป็นตัวนางเองที่เดือดร้อนเอาได้ อีกทั้งอาจจะพาตระกูลโจวให้พบเจอกับหายนะไปด้วย

ส่วนหยางจิ่งน่ะหรือ เขาโง่งมเช่นนั้น นางคงไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเขา ที่แคว้นเป่ยฉินต้องตกอยู่ในกลียุคก็เพราะมีองค์รัชทายาทเช่นเขาที่ไร้ความสามารถ

โจวหว่านหรูคร้านจะคิดสิ่งใดอีก ยามนี้นางเข้ามาอยู่ในวังหลวงแล้ว บางคราอาจจะได้เบาะแสใดมาบ้างก็ได้ นางจะใจร้อนเกินไปไม่ได้ ต้องระแวดระวังตนเองจึงจะดีที่สุด

มู่จั่วหลานที่เก็บของของตนเข้าที่เรียบร้อยแล้ว จึงหันมามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง พลางรู้สึกริษยาไม่น้อย

ได้ยินว่าสตรีนางนี้ไปอยู่ที่ชายแดนตั้งแต่วัยเยาว์ เดิมทีคิดว่าจะมีสภาพดูไม่ได้ ไม่รู้กฎระเบียบ ผิวพรรณไม่น่ามอง เทียบไม่ติดกับคุณหนูที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองหลวง แต่กลับตรงกันข้าม โจวหว่านหรูช่างงดงามน่ามองเหลือเกิน หากบอกว่านางงามแล้ว โจวหว่านหรูย่อมงามกว่า

แน่นอนว่าการที่มีสตรีงดงามมารวมตัวกันอยู่ในวังหลวงย่อมเกิดการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เหล่าคุณหนูที่เข้าวังมาย่อมใฝ่สูงมากกว่านั้น แท้จริงตำแหน่งพระสหายเล่าเรียนนั้นเป็นเพียงบันไดขั้นแรกเท่านั้น แต่ทว่าตำแหน่งชายาเอกขององค์ชายต่างหากคือบันไดขั้นต่อไปที่พวกนางหมายตาเอาไว้

ยิ่งได้อยู่ในวังหลวงนานเท่าใด อาจทำให้ได้พบเจอองค์ชาย นี่คือสิ่งที่พวกนางต้องการ ผู้ใดบ้างจะไม่อยากนั่งอยู่บนอำนาจที่สูงส่ง

โจวหว่านหรูที่รู้ตัวว่าถูกจ้องมองจึงหันไปมองมู่จั่วหลานคราหนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้เล็กน้อย แต่ทว่ามู่จั่วหลานกลับไม่ยิ้มตอบนาง อีกทั้งยังเอ่ยวาจาไม่น่าฟังกับนางอีกด้วย

"ข้าไม่คิดว่าจะได้พักอยู่ห้องเดียวกับเจ้า อย่าไรเสียเจ้าก็ระมัดระวังหน่อยก็แล้วกัน ของของข้าราคาแพงมากนัก เจ้าอยู่ชายแดนแต่เยาว์วัยคงจะไม่เคยเห็นของมีค่าเหล่านี้ ข้าเข้าใจ ได้ยินมาว่ายามอยู่ที่ชายแดนเจ้ามีชีวิตลำบากไม่น้อย ใช้ชีวิตร่วมกับเหล่าชาวบ้าน ข้าเห็นใจเจ้านะ ชายแดนยากแค้น ย่อมไม่มีสิ่งดี ๆ อันใดให้เจ้าได้เรียนรู้"

"เจ้ากำลังกล่าวหาว่าข้าคิดอยากได้ของของเจ้าเช่นนั้นหรือ?"

โจวหว่านหรูเอ่ยถามมู่จั่วหลานด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม มู่จั่วหลานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ย

"ข้าเพียงเอ่ยความจริง หรือว่าเจ้ารับความจริงไม่ได้"

โจวหว่านหรูพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ

"อืม นั่นสินะ มู่จั่วหลาน ข้าไม่สนใจของมีค่าของเจ้าหรอกนะ ข้าใช้ชีวิตอยู่ที่ชายแดน เห็นผู้คนอดอยาก ลำบากมาไม่น้อย เห็นการตายและการพลัดพรากมาจนชินตา ข้าไม่ใส่ใจกับของมีค่าจอมปลอมพวกนี้หรอก ข้าจะบอกเจ้าเอาไว้นะ เจ้าอยู่เมืองหลวงใช้ชีวิตสุขสบาย มีเหล่าทหารแดนหน้าคอยคุ้มครอง เจ้าไม่เคยรู้ว่าพวกเขาลำบากกันมาก ส่วนเจ้ากลับเชิดหน้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แล้วยังมาเอ่ยวาจาไม่น่าฟังกับข้าอีก ข้าเกิดในตระกูลแม่ทัพ ย่อมไม่ขาดแคลนของมีค่าเช่นเจ้า ข้าอยู่ชายแดนก็ไม่เคยมีชีวิตที่ยากแค้นอย่างที่เจ้าว่า อีกอย่างที่ชายแดนมีสิ่งดี ๆ มากมายให้ข้าได้เรียนรู้ไม่ต่างจากเมืองหลวง ผู้คนก็มีมรรยาท ไม่ใช่เปลือกนอกเสแสร้งแกล้งทำแต่ด้านในเหม็นเน่า ท่านพ่อและพี่ใหญ่ของข้าช่วยรักษาความสงบสุขให้ผู้คนทั่วใต้หล้า ของทุกชิ้นที่ได้มาข้าล้วนแบ่งปันให้คนยากไร้ อยู่ร่วมกับเหล่าชาวบ้านแล้วอย่างไร พวกเขาจริงใจและน่าคบหามากนัก แต่ตัวเจ้านั้น นอกจากจะเก่งกาจเรื่องเอ่ยวาจาไม่น่าฟังแล้ว เจ้าทำประโยชน์ใดให้แผ่นดินบ้าง คนเช่นเจ้าหากได้ไปอยู่ชายแดนคงอดตายไปนานแล้ว ถ้ามีผู้ใดล่วงรู้ว่าคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์เช่นเจ้า เอ่ยวาจาดูแคลนคุณหนูจวนแม่ทัพผู้รักษาเมืองและราษฎรที่น่าสงสารเช่นนี้ ตระกูลมู่ของเจ้าคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกระมัง"

"โจวหว่านหรู!!!"

"หากอยากถูกข้าทุบตีจนข้อมือหักก็เข้ามาสิ อย่างมากก็แค่ถูกไล่ออกจากวังหลวง ตัวข้าไม่ได้เป็นทุกข์อยู่แล้ว เจ้าต่างหากคงจะอกแตกตายที่ไม่ได้ดั่งใจหวัง เอาสิ เราจะได้โดนไล่ออกไปพร้อมกัน เจ้ากล้าแลกกับข้าหรือไม่เล่า?"

มู่จั่วหลานกำมือแน่น โจวหว่านหรูรับมือยากกว่าที่นางคิดเสียอีก เมื่อเห็นเช่นนั้นนางจึงส่งเสียงเหอะออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเอ่ย

"ข้าไม่อยากเอาความกับคนไม่รู้กฎระเบียบเช่นเจ้า"

"ก็ดี ในเมื่อรู้แล้วก็จำเอาไว้ ต่างคนต่างอยู่ จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ"

"หึ"

โจวหว่านหรูคร้านจะสนใจมู่จั่วหลานอีก นางจึงเดินออกมารับลมที่ด้านนอกเรือน 

วังหลวงยามนี้ยังคงสงบสุขไร้คลื่นลม แต่ทว่าอีกไม่นานโศกนาฏกรรมที่โหดร้ายกำลังจะมาเยือน

เรื่องราวดำเนินไปเช่นนี้วันแล้ววันเล่า นอกจากเรียนรู้เรื่องกฎระเบียบการเดิน การนั่ง การกินอาหาร และกฎระเบียบในวังหลวงแล้ว ฮ่องเต้หยางหลิงไท่ยังส่งเหล่าอาจารย์ผู้มีความรู้มาสอนพวกนางอีกด้วย  โจวหว่านหรูรู้สึกเบื่อหน่ายไม่น้อย ตำราพวกนี้ก่อนเข้าวังหลวงในชาติก่อนนางย่อมเรียนรู้มาหมดแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่นางไม่รู้

ความหัวไวและชาญฉลาดของโจวหว่านหรู สร้างความไม่พอใจและเป็นที่ริษยาของเหล่าคุณหนูที่มาร่วมคัดเลือกหลายต่อหลายคน โจวหว่านหรูเองก็ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย มีคราหนึ่งคุณหนูจวนตระกูลจ้าว คิดกลั่นแกล้งให้นางตกสระบัวจนขายหน้า แต่ทว่านางไหวตัวทัน จึงซ้อนแผนกลับ กลายเป็นคุณหนูจ้าวที่ตกน้ำลงไปเอง จนเกิดล้มป่วยหนัก จึงต้องถูกตัดออกจากการคัดเลือกในครั้งนี้

ก่อนวันประกาศผลเพียงสองวัน เหล่าหมัวหมัวต่างให้พวกนางได้พักผ่อน ได้ยินว่าอีกสองวันฝ่าบาทและฉินกุ้ยเฟยจะเสด็จมาดูการคัดเลือกสหายเล่าเรียนในครั้งนี้ด้วยตนเอง

เดิมทีนางคิดว่าไม่อยากจะเข้าวังอีก แต่ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนางเองก็มีเรื่องที่ต้องการรู้จากวังหลวงแห่งนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเจียงหมิงเจ๋อ นางจึงต้องเข้ามาเป็นสหายเล่าเรียนขององค์หญิงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ไม่รู้ว่าจะได้เบาะแสมากน้อยเพียงใด แต่ก็ดีกว่าการที่นางไม่รู้อันใดเลยเหมือนชาติที่แล้วมิใช่หรือ

ส่วนหยางจิ่งนางก็หลีกเลี่ยงเขาหน่อย เช่นนี้ก็คงจะไม่มีปัญหาใดมาทำให้นางปวดหัวเพิ่มอีก

โจวหว่านหรูรู้สึกเบื่อหน่ายไม่น้อย ยามนี้เป็นปลายฤดูหนาวแล้ว โจวหว่านหรูออกมาเดินเล่นไม่ไกลจากเรือนที่พักมากนัก นางมองเห็นต้นผิงกั๋วที่ออกผลสีแดงชวนน่าลิ้มลองไม่น้อย 

ภาพในวันเก่า ๆ พลันปรากฏขึ้นมาอีกครา ใต้ต้นผิงกั๋วแห่งนี้นางเคยพบกับหยางจิ่งในวัยเด็ก

เมื่อคิดได้เช่นนั้นโจวหว่านหรูจึงคิดจะหันหลังเดินกลับเพราะไม่อยากคิดถึงเรื่องในกาลก่อนอีก แต่ทว่าโจวหว่านหรูกลับได้ยินเสียงเรียกของสตรีนางหนึ่งเอ่ยเรียกขึ้นมาเสียก่อน

"แม่นาง แม่นาง"

โจวหว่านหรูหันมองซ้ายมองขวาแต่กลับไม่พบผู้ใด นางเริ่มหวาดระแวงขึ้นมาชั่วขณะ 

"แม่นาง เจ้าเงยหน้ามาบนนี้สิ แม่นาง"

โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเงยหน้าขึ้นไปมองบนต้นไม้ ก่อนจะต้องตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่ในความตกใจนั้นมีความดีใจซ่อนอยู่อย่างไม่อาจปิดบัง

หยางจินจิน!!!

หยางจินจินสหายรักของข้า

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 10 มีวาสนาร่วมกัน

    แน่นอนว่าการเข้าวังหลวงมาในครั้งนี้ เป้าหมายแรกไม่ใช่การเข้ามาค้นหาจุดเริ่มต้นของการเกิดโศกนาฏกรรมในชาติก่อน แต่มันคือการที่นางจะได้เข้ามาพบกับสหายรักอีกคราหยางจินจิน องค์หญิงรองผู้นี้ชาติที่แล้วคือสหายรักของนางยามที่นางเข้าวังหลวงมา ก็มักจะมีหยางจินจินที่สามารถพูดคุยด้วยได้ แม้ว่าหยางจิ่งจะไม่ชอบใจที่นางสนทนากับหยางจินจินเท่าใดนัก แต่ทว่านางหาได้ใส่ใจไม่ ทุกคราที่นางไม่สบายใจก็จะมีหยางจินจินที่รับฟังนาง องค์หญิงผู้ไร้เดียงสานางนี้ ชาติที่แล้วกลับพบจุดจบที่น่าเวทนาเหลือเกิน ยามมีชีวิตอยู่ก็ลำบากมากพอแล้ว กลับถูกพี่ชายเช่นหยางจิ่งกลั่นแกล้งและสร้างความลำบากให้เสมอ เพียงเพราะไม่ชอบหน้าและอยากหาที่ระบายอารมณ์นางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้รู้ข่าวว่าหยางจินจินถูกสังหารตายในคืนเข้าหอ นางร้องไห้จนทำสิ่งใดไม่ถูก กินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวันจนถึงขั้นล้มป่วยต้นเหตุมันมาจากหยางจิ่ง ที่สนับสนุนฝ่าบาทให้ส่งหยางจินจินไปแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่แคว้นฉีคนผู้นั้นช่างน่ารังเกียจและน่าชิงชังเหลือเกิน!!!"แม่นาง เจ้าช่วยรับผิงกั๋วในมือของข้าที ข้ากำลังจะลงไปแล้ว โอ๊ะ!!!"โจวหว่านหรูยังไม่ทัน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 11 บรยากาศมาคุ

    หยางจิ่งที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงหันไปมองหยางเฉิงคราหนึ่ง เขาลอบกำหมัดแน่น ในใจคิดอยากจะฆ่าน้องชายร่วมบิดาให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อให้สาสมกับสิ่งชั่วช้าที่หยางเฉิงทำกับเขาและเสด็จพ่อ วางยาบิดาตนเอง สังหารพี่ชายตนเอง และทำให้ให้โจวหว่านหรูต้องฆ่าตัวตาย!!!แม้จะเกลียดชังหยางเฉิงจนแทบอยากจะดื่มเลือดกินเนื้อ แต่ทว่าหยางจิ่งจำต้องทำทุกอย่างให้ไร้พิรุธ เขาปรับสีหน้าตนให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้หยางเฉิงสังเกตเห็นความผิดปกติในชาติก่อนหยางเฉิงยอมเขาทุกอย่าง เขาเองก็วางตนใหญ่โตข่มเหงหยางเฉิง เพราะฉินกุ้ยเฟยตัวดีสั่งสอนเขาในทางไม่ดี บอกว่าเขาเป็นถึงองค์รัชทายาท ว่าที่ฮ่องเต้เป่ยฉินในภายภาคหน้า เขาไม่จำเป็นต้องเห็นหัวผู้ใด มีแต่ผู้อื่นที่จะต้องก้มหัวให้เขา ยามนั้นเขาหลงคิดว่าฉินกุ้ยเฟยรักเขาเหมือนบุตรแท้ ๆ ยามที่เขารังแกหยางเฉิงก็ไม่ตำหนิ อีกทั้งยังเข้าข้างเขา เขาอยากทำสิ่งใดก็ไม่เคยขัดใจเลยสักครา อีกทั้งยังออกรับแทนเขายามที่ถูกเสด็จพ่อตำหนิแต่ความจริงแล้วมันคือกับดัก กับดักที่หลอกให้เขาตายใจ เขาถูกขุนนางยื่นฎีกาว่าทำตัวไม่เหมาะสม รังแกพี่น้อง ไม่สนใจเล่าเรียน ทุบตีรังแกคนที่ด้อยกว่าทุกอย่างล้วนเป็นแ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 12 สหายเล่าเรียน

    ด้านหยางเฉิงนั้นหลังจากที่แยกตัวออกมาจากหยางจิ่งแล้ว เขาจึงมุ่งหน้ามาที่ตำหนักของฉินกุ้ยเฟยมารดาของตน ฉินกุ้ยเฟยที่เห็นว่าลูกรักมาหาก็ดีใจไม่น้อย รีบให้นางกำนัลนำชาร้อนและของว่างมาให้หยางเฉิง ก่อนจะไล่เหล่าข้ารับใช้ออกไปด้านนอกจนหมด เมื่อในตำหนักเหลือเพียงพวกนางสองคนแม่ลูกแล้ว นางจึงเอ่ยถามหยางเฉิงทันที"ผู้ใดทำให้อาเฉิงของแม่อารมณ์เสียมากัน"ฉินกุ้ยเฟยเอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปจับไหล่บุตรชายของตนอย่างรักใคร่ หยางเฉิงในยามนี้นั้นสลัดทิ้งท่าทีองค์ชายรองผู้สง่างามและจิตใจดีออกไปจนหมดสิ้น แววตาของเขาดุดัน เขากำมือตนเองแน่น ก่อนจะเอ่ยกับมารดาของตน"เสด็จแม่ ข้าเกลียดหยางจิ่ง!!!""ช้าก่อน อย่าส่งเสียงดังไปสิ ใจเย็น ๆ ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ"หยางเฉิงควบคุมตนเองไม่อยู่แล้ว เขาอยากจะหาใครสักคนมาระบายความเกลียดชังนี้ออกไป"อาเฉิง""เสด็จแม่ หยางจิ่งดูแปลกไปพ่ะย่ะค่ะ ลูกพูดจายุแยงให้มันโมโหเหมือนทุกครา แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่ใส่ใจ อีกทั้งยังดูสนิทสนมกับหยางจินจินอีกด้วย"ฉินกุ้ยเฟยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ระยะนี้นางไม่ได้ใส่ใจหยางจิ่งเท่าใดนัก แม้เขาจะมาพบนางแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีแปลกไปมิใช่หรือ"เ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 13 สืบ

    เมื่อออกจากวังหลวงมาแล้ว โจวหว่านหรูก็พบกับโจวอวี้หานและเย่หยวนที่กำลังยืนรอนางอยู่หน้าประตูวังหลวงพร้อมกับรถม้าของจวนตระกูลโจว โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย รู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างยิ่งชาตินี้นางจะเก็บเกี่ยวทุกความอบอุ่นและความรักจากท่านพ่อท่านแม่และพี่ใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนทางข้างหน้าเป็นเช่นไรนางเองยังไม่อาจคาดเดาได้ แต่นางจะพยายามอย่างสุดกำลัง เพื่อปกป้องคนในตระกูลโจวให้ปลอดภัยให้ได้"น้องเล็ก"โจวอวี้หานที่เห็นว่าน้องสาวของตนออกมาแล้วก็ดีใจไม่น้อย ช่วงเวลาที่โจวหว่านหรูไม่อยู่ที่จวนนั้น ภายในจวนดูเงียบเหงาไม่น้อยเลย"พี่ใหญ่""ท่านพ่อท่านแม่ให้พี่มารอรับเจ้า อีกทั้งยังมอบตั๋วเงินมาไม่น้อยเลย ท่านพ่อบอกว่าอยู่ในวังหลวงหลายวันเจ้าคงจะเบื่อเป็นแน่ จึงอยากให้เจ้าได้ผ่อนคลาย"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"เช่นนั้น พี่ใหญ่พาข้าไปเดินเล่นที่ตลาดทีเถิด ข้าอยากจะผ่อนคลายเสียหน่อย""ได้สิ เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถิด""เจ้าค่ะ"โจวหว่านหรูก้าวเดินเข้ามาในรถม้า โจวอวี้หานตามน้องสาวเข้าไปนั่งในรถม้าด้วย ก่อนจะเร่งเดินทางไปที่ตลาดทันทีเมื่อมาถึงตลาด โจวหว่านหร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 14 หลอกใช้

    ยามนี้เข้าสู่ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว ท้องฟ้าจึงค่อนข้างแจ่มใสไม่น้อยเลย เจียงหมิงเจ๋อออกมาเดินเล่นรับลมอยู่ที่ใต้ต้นดอกเหมยไม่ไกลจากที่พักของเขามากนัก เขาปรายตามองเหล่าทหารที่ติดตามอยู่ไม่ห่างด้วยแววตาที่เย็นชา แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นเขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ อีกทั้งยังส่งเสียงไอออกมาเป็นระยะเหล่าทหารที่ได้เห็นเช่นนั้นก็นึกดูแคลนเจียงหมิงเจ๋อไม่น้อย องค์ชายขี้โรคเช่นนี้ฝ่าบาทจะรับเอาไว้เป็นตัวประกันทำไมกัน ใช้ประโยชน์ใดไม่ได้ อีกไม่นานก็คงจะป่วยตายอยู่ในวังนี้กระมังเจียงหมิงเจ๋อมีหรือจะไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นดูแคลนตน แต่เขาจะทำสิ่งใดได้เล่า ทำได้เพียงอดทนเท่านั้นเขาคร้านจะใส่ใจกับทหารชั้นต่ำเหล่านั้น จึงทำเป็นมองไม่เห็นสายตาที่ดูแคลนของพวกมันเสีย ก่อนจะหันมาเอ่ยถามแม่นมเถียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา"มีข่าวส่งมาหรือไม่แม่นม?""ทูลองค์ชาย ยังไม่มีเลยเพคะ""คนของเราที่แฝงตัวเข้ามาเล่า""ยามนี้ยังไม่กล้ากระทำการสิ่งใดเพคะ เนื่องจากวังหลวงคุ้มกันแน่นหนา คนของเราจะทำสิ่งใดก็ลำบากไม่น้อยเลย"เจียงหมิงเจ๋อกำมือแน่น หนทางที่เขาจะหนีไปได้มันช่างริบหรี่เหลือเกิน แต่เขาไม่มีทางยอมแพ้เสียหรอกเมื่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 15 ดอกมู่ตาน

    เจียงหมิงเจ๋อเก็บสายตาของตนกลับคืน ก่อนจะเดินกลับมาที่พักของตน เมื่อมาถึงก็พบกับนางกำนัลน้อยผู้หนึ่งกำลังยกถ้วยโจ๊กเข้ามาให้เขา เจียงหมิงเจ๋อจ้องมองถ้วยโจ๊กตรงหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะยกมันขึ้นมากินด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ในใจนึกค่อนขอดไม่น้อยหลังถูกจับมาเป็นเชลยเขาได้ยินว่าแคว้นเยี่ยนและแคว้นเป่ยฉินทำสัญญายุติสงคราม แคว้นเยี่ยนยินยอมเป็นเมืองขึ้นของแคว้นเป่ยฉิน ทั้งยังยินยอมส่งของมีค่าและอาวุธอีกมากมายมาที่เป่ยฉิน เนื่องจากแคว้นเยี่ยนของเขามีเหมืองแร่เหล็กที่สามารถหลอมออกมาเป็นอาวุธชั้นดีได้ ทั้งหมดเป็นเพราะพี่ชายบัดซบของเขา จึงทำให้แคว้นเยี่ยนจำต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เจียงหยงหลางยอมยุติสงครามเพื่อให้ตนเองได้อยู่อย่างสุขสบายบนบัลลังก์ต่อไป ฮ่องเต้แคว้นเป่ยฉินก็ได้อาวุธชั้นดีในราคาที่ไม่สูงมาก บางครายังได้ของบรรณาการชั้นดีที่แคว้นเยี่ยนส่งมาให้อยู่เสมออีกด้วยต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน แต่คนที่ทุกข์ที่สุดกลับเป็นเขา!!เจียงหมิงเจ๋อกำมือแน่น ก่อนจะเงยหน้าไปมองนางกำนัลน้อยผู้นั้น พร้อมกับพยักหน้าคราหนึ่ง นางกำนัลผู้นั้นพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทีที่ไร้พิรุธเมื่อนางกำนั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 16 เริ่มแผนการ

    หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถามนางกำนัลผู้นั้นว่ายามนี้หยางจินจินอยู่ที่ใด เมื่อได้ความแล้วเขาจึงรีบมุ่งหน้าไปที่ตำหนักมังกรสวรรค์ทันที เมื่อมาถึงเขาก็พบกับหยางจินจินที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเทา ใบหน้ามีหยดน้ำตาเปียกปอน หยางจิ่งหันไปมองฉินกุ้ยเฟยที่นั่งอยู่ข้างกายเสด็จพ่อของเขา ก็เห็นว่ายามนี้ฉินกุ้ยเฟยกำลังจ้องมองหยางจินจินด้วยแววตาที่ไม่ชอบใจเท่าใดนักฮ่องเต้หยางหลิงไท่ที่เห็นพระโอรสของตน ก็รีบเอ่ยถามทันที"จิ่งเอ๋อร์ เจ้ามาก็ดี มาดูสิ่งที่น้องสาวตัวดีของเจ้าทำเอาไว้!!!"ฉินกุ้ยเฟยจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่เย็นชาคราหนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ นางได้ยินมาว่าระยะนี้หยางจิ่งและหยางจินจินดูสนิทสนมกันดี อีกทั้งหยางจิ่งก็ดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่าแต่ก่อน นี่คือสิ่งที่นางแปลกใจและสั่งให้คนตามดูมาตลอดจากการจับตาดูมาหลายวัน นางก็พอจะเข้าใจในสิ่งที่หยางเฉิงบอกนางก่อนหน้านี้แล้ว คล้ายว่าหยางจิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจริง ๆหยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามบิดาของตนทันที"จินเอ๋อร์ทำสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?"ฮ่องเต้หยางหลิงไท่ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 17 พิษซ้อนพิษ

    ไป๋อี๋ซินที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่เย็นเยียบพลางขมวดคิ้วมุ่น คนผู้นี้รู้ได้เช่นไรว่านางคิดจะทำสิ่งใดแววตาที่มองนางด้วยความเกลียดชังสลับกับการตัดพ้อต่อว่านั่นมันหมายความว่าเช่นไรกัน!!!หยางจิ่งจ้องมองไป๋อี๋ซินอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน ก่อนจะเห็นว่าท่าทีที่คิดจะสังหารเขาเมื่อครู่พลันมลายหายไปจนหมดสิ้น นางมองน้องชายของตนที่ยามนี้ถูกเขาจับตัวเอาไว้ด้วยแววตาที่ร้อนรน ก่อนจะเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา"ปล่อยน้องชายข้า หากท่านอยากได้สิ่งใด ข้าจะทำตามที่ท่านขอ"หยางจิ่งได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง วันนี้เขาได้รู้ธาตุแท้ของสตรีนางนี้ด้วยตาตนเองแล้ว นางยอมทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดจริง ๆหยางจิ่งยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ย"หากข้าให้เจ้าหักหลังบุรุษที่เจ้ารัก เจ้าก็ยินยอมทำใช่หรือไม่?"ไป๋อี๋ซินเม้มริมฝีปากแน่น นางไม่ได้เอ่ยตอบสิ่งใดออกไป แต่ทว่ากลับจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่ระแวดระวัง บุรุษผู้นี้รู้ได้เช่นไรกันว่านางมีคนรักอยู่?เมื่อหลายเดือนก่อน เพราะน้องชายป่วยหนัก นางไร้หนทางจะหาเงินมารักษา จึงใช้ความงามของตนเข้าไปทำงานร่ายรำที่หอคณิกา นางไม่ได้ขายเรือน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-21

Bab terbaru

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   ตอนพิเศษ

    ค่ำคืนนี้ช่างเหน็บหนาวนัก แต่ทว่าภายในตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนนั้นกลับคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งปรารถนาเจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูแต่งงานกันมาร่วมปีแล้ว แต่ทว่ายังคงไม่มีบุตร อาจเพราะได้รับพิษในครานั้น ทำให้การมีบุตรไม่ใช่เรื่องง่ายบนเตียงใหญ่ เจียงหมิงเจ๋อกำลังตระกองกอดร่างบางระหงตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบดขยี้อย่างเร่าร้อนราวกับคนเอาแต่ใจ ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของนางและเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามัน ยามนี้ร่างกายของคนทั้งสองเปลือยเปล่า กลิ่นหอมกำยานอ่อน ๆ ยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้ลุกโหมมากยิ่งขึ้น เจียงหมิงเจ๋อผละริมฝีปากออกจากนาง แล้วจึงจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาเรื่อย สองมือหนาใหญ่บีบขยำดอกบัวงามทั้งสองข้างของนางอย่างเต็มไม้เต็มมือ พร้อมกับครอบริมฝีปากกลืนกินจุกบัวสีหวานอย่างลำพองใจ โจวหว่านหรูส่งเสียงครางกระเส่าพลางบิดกายเร่า ๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่าน กายสาวถูกบุรุษตรงหน้าลูบคลำเชยชมอย่างไม่ยอมลดละ เจียงหมิงเจ๋อสอดแทรกแท่งหยกสวรรค์เข้าไปในกายของนาง ก่อนจะขยับกายอย่างช้า ๆ แล้วเร่

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 66

    ยามนี้เจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูกำลังเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินเพื่อมุ่งหน้าออกจากวังหลวง ฉับพลันนางก็หันมาเอ่ยถามเขา“เจียงหมิงเจ๋อ ท่านเอ่ยสิ่งใดฝ่าบาทจึงเห็นด้วยง่ายดายเช่นนี้ ข้าคิดว่าจะไม่ทรงเห็นด้วยเสียอีก”เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมามองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ โจวหว่านหรูหนังตากระตุกรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าเริ่มจะออกอาการเจ้าเล่ห์ใส่นางอีกแล้ว“อย่ามองข้าแบบนี้สิ”“ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ข้าเอ่ยเพียงว่า ขอเพียงมีเจ้าข้างกาย และครอบครัวของเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ใต้หล้านี้ข้ายกให้แคว้นเป่ยฉินทั้งหมด ข้าขอมีเพียงแคว้นเยี่ยนและมีเจ้าก็พอ”โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“ท่านทำได้จริง ๆ หรือ”“ทำได้สิ คนอย่างข้าไม่เคยเอ่ยวาจาโป้ปด”“แต่ท่านเคยแกล้งป่วยนะ”“โจวหว่านหรู เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ที่ข้าทำเพราะความอยู่รอดเพียงเท่านั้น”โจวหว่านหรูจ้องมองเจียงหมิงเจ๋อด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย“หากไม่เชื่อ ข้าคงไม่เลือกท่าน”เจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้าง โจวหว่านหรูพลันใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขา“เจ้าจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกข้า

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 65

    โจวหว่านหรูเดินทางกลับมาที่แคว้นเป่ยฉิน หยางจิ่งที่ได้รู้ข่าวว่าโจวหว่านหรูกลับมาถึงแล้ว ก็รีบมาพบนางในทันทีสตรีตรงหน้ายามนี้งดงามเป็นสาวงามสะพรั่งแล้ว โจวหว่านหรูหันมามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เขาเล็กน้อยหลายปีที่ไม่ได้พบกัน มันทำให้นางเข้าใจหัวใจตนเองได้อย่างชัดเจนแล้วนางไม่อาจกลับไปรักเขาเฉกเช่นเดิมได้อีก แม้ในใจของนางจะไม่สามารถตัดขาดจากหยางจิ่งได้อย่างสนิทใจ แต่ทว่านางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเขาแล้ว นางไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังติดค้างสิ่งใดกับนางอยู่ บางคราทุกสิ่งที่มันเปลี่ยนไปแล้วย่อมไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก จะคงไว้เพียงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตที่จะให้จดจำแม้จะดูเหมือนสตรีที่เห็นแก่ตัว แต่โจวหว่านหรูคิดเสมอว่าในเมื่อนางมีชีวิตอีกชาติหนึ่งแล้ว นางควรมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่นางต้องการคราก่อนนางยังไม่แน่ใจในหัวใจของตนเองมากเท่าใดนัก แต่เมื่อได้หลับฝันไปตื่นหนึ่ง ได้รู้ความจริงบางอย่าง ใจของนางก็เริ่มชัดเจนขึ้นหยางจิ่งคือรักแรกของนางส่วนเจียงหมิงเจ๋อคือคนที่นางเลือก เพราะไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้เขาคือคนที่ทำเพื่อนางมากที่สุด“หวานหว่าน เจ้ากลับมาแล้ว”หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 64

    เช้าวันต่อมา โจวหว่านหรูควบม้ามุ่งหน้าไปยังทิศทางของประตูวังหลวง ระหว่างทางนั้นนางมองเห็นหยางจิ่งที่ยืนมองนางอยู่ที่ด้านหน้าประตู เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด ดูแล้วช่างงดงามสง่าราวกับเทพเซียน นางสั่งให้ม้าหยุด ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า และเดินตรงเข้ามาหาเขา หยางจิ่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"แต่งเป็นบุรุษเช่นนี้นับว่าไม่เลวเลย"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"อืม"หยางจิ่งจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ย"หวานหว่าน เจ้าจะกลับมาเมื่อใด"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหนึ่งปี สามปี หรือห้าปี ข้าอยากจะไปทำตามความฝัน ท่องไปในยุทธภพ"หยางจิ่งจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขาอยากยื่นมือไปดึงรั้งนางใจจะขาด แต่ทว่าอีกใจก็ไม่อยากทำลายสิ่งที่นางถวิลหา ตั้งแต่ได้รู้ว่านางตั้งใจจะไปท่องเที่ยวทั่วทั้งใต้หล้า เขาก็ตกใจไม่น้อย เดิมทีคิดจะพานางเข้าวัง แต่งนางเป็นชายาเอก แต่ทว่านางกลับปฏิเสธเขาข้ายังไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ใดในยามนี้"ข้าจะรอเจ้า ต่อให้รอทั้งชีวิต ข้าก็จะรอ"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โจวหว่านห

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 63

    ที่ตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนยามนี้มีเหล่าทหารกำลังผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยาม โจวหว่านหรูรีบตรงมาที่แห่งนี้ทันทีที่ได้ทราบเรื่องราวจากหยางจินจินแท้จริงแล้วนางไม่ได้ฝัน เป็นเขาจริง ๆ ที่ช่วยนาง เขาป้อนโลหิตให้นางดิื่มเพื่อระงับพิษไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนาง"ข้าอยากพบเจียงหมิงเจ๋อ"เหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามปรายตามองนางคราหนึ่ง แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด โจวหว่านหรูที่กำลังร้อนใจ พลันจ้องมองสตรีนางหนึ่งที่เดินออกมาจากตำหนักมังกรสวรรค์ นางสวมชุดเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้างดงามไม่น้อย นางจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้าก็คือโจวหว่านหรูกระมัง"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง สตรีนางนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าคือพระสนมเอกของฝ่าบาท ยามนี้ฝ่าบาทคงกำลังรอพบเจ้าอยู่ เจ้าเข้าไปเถิด"ฟ่านฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปไม่แม้แต่จะมองนางอีก โจวหว่านหรูไม่รอช้ารีบเข้าไปด้านในทันที เมื่อมาถึงนางก็พบกับเจียงหมิงเจ๋อที่กำลังเอนกายนอนพิงขอบเตียง ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวราวกับคนป่วยไข้ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามา เขาจึงหันไปมองคราหนึ่ง ก่อนที่แววตาจะฉาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 62

    หยางจิ่งนั้นยามนี้กำลังเดินออกมาจากตำหนักเหลียนฉง เมื่อออกมาก็ได้พบกับโจวอวี้หาน เฉินป๋อเหวิน รวมถึงหยางจินจินที่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก เขามีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้ามาได้เช่นไรกัน"โจวอวี้หานยิ้มให้หยางจิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าเป็นห่วงน้องเล็กจึงรีบติดตามมาสมทบกับเจ้า เฉินป๋อเหวินและหยางจินจินก็เป็นห่วงนางเช่นกัน จึงขอติดตามข้ามาด้วย"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าอยากให้เจ้าช่วยดูนางสักระยะ ข้ามีเรื่่องต้องไปจัดการ”โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที"เรื่องใดหรือ"หยางจิ่งถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"สมุนไพรที่ใช้ถอนพิษไม่เพียงพอ ข้าจำต้องขึ้นเขาไปเก็บมันมา""ข้าไปกับท่านด้วย"หยางจิ่งหันไปจ้องมองเฉินป๋อเหวินคราหนึ่ง ก่อนจะพบว่าในดวงตาของเฉินป๋อเหวินดูเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวงอันใดกัน เขาจึงเอ่ยกับเฉินป๋อเหวินด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรมากกว่าเดิม"ทางไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขา ข้าได้ยินว่ามันทั้งหนาวเหน็บและอันตรายไม่น้อย กลับมาแล้วอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้า...""ต่อให้ต้องตาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 61

    เจียงหมิงเจ๋อปรายตามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้น เหล่าทหารแคว้นเยี่ยนของเขาก็พุ่งเข้าสังหารทหารแคว้นฉีในทันที อู๋เจี๋ยตื่นตระหนกไม่น้อย เพียงมองอาภรณ์ที่สวมใส่เขาก็พอคาดเดาได้ไม่ยากว่าผู้มาใหม่นี่คือใครฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเช่นนั้นหรือ!!!เจียงหมิงเจ๋อจ้องมองอู๋เจี๋ยคราหนึ่ง ก่่อนจะเอ่ย"เจ้าสินะ ที่ขโมยศีรษะของเจียงหย่งหลางส่งไปให้ฮ่องเต้แคว้นเป่ยฉิน ศีรษะของพี่ชายข้าก็เสียบประจานอยู่ที่หน้าประตูชายแดนดี ๆ เจ้ากลับไร้มรรยาทเอาหัวเขาไปเที่ยวเล่น ช่างบังอาจนัก!!!"อู๋เจี๋ยตกใจไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าแผนการทั้งหมดของเขาจะถูกล่วงรู้ได้รวดเร็วเช่นนี้เขารู้ว่ายามนี้ไม่อาจต่อกรได้แล้ว เจียงหมิงเจ๋อพาทหารแคว้นฉู่ที่ยามนี้รวมเป็นหนึ่งกับแคว้นเยี่ยนบุกเข้ามาเพื่อจัดการเขา มันเป็นไปได้เช่นไรไม่ใช่ว่าเจียงหมิงเจ๋อต้องสังหารหยางจิ่งหรอกหรือ!!!อู๋เจี๋ยไม่รั้งรอ เขารีบควบม้าคิดจะหนี เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก มีหรือที่เขาจะปล่อยศัตรูให้รอดไปได้ ใครที่มันคิดรุกรานเขา เขาไม่เคยเก็บเอาไว้เจียงหมิงเจ๋อคว้าคันธนูมาจากฟ่านเฉียน ก่อนจะยกขึ้นเล็งไปที่อู๋เจี๋ย ลูกธนูพุ่งฝ่าอากาศก่อนจะทะลุเข้าไปที่กลางอกข

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 60

    โจวหว่านหรูสวมชุดเกราะเตรียมออกรบ ในมือของนางถือดาบยาวที่ส่องประกายวาววับ ก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้าและพุ่งทะยานออกไปที่ประตูชายแดนในทันที โดยมีหยางจิ่งและโจวอวี้หานเป็นผู้นำทัพ ยามนี้แขนของท่านพ่อนางดีขึ้นมากแล้ว เมื่อภัยมาถึงด้วยนิสัยของท่านพ่อย่อมไม่อาจอยู่เฉยได้ด้านหยางจินจินนั้นคอยดูแลเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บและถูกหามกลับเข้ามา ใจของนางสั่นไหวไม่น้อยหยางจิ่งที่ควบม้ามายังสนามรบ เมื่อได้มองเห็นกองกำลังทหารเรือนแสนที่แคว้นฉียกทัพมาก็จ้องมองด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะมองไปที่อู๋เจี๋ยซึ่งเป็นผู้นำทัพออกรบอู๋เจี๋ยจ้องมองหยางจิ่งอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน ก่อนจะปรายตามามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ในใจนึกเสียดายที่ไม่อาจนำสาวงามนางนี้มาครอบครองได้ หากเขารบชนะศึกในครานี้และหยางจิ่งพ่ายแพ้ เขาจะลากตัวนางกลับแคว้นฉีและทรมานให้สาแก่ใจโจวหว่านหรูจ้องมองอู๋เจี๋ยด้วยแววตาเกลียดชัง"ไม่คิดว่าคนแคว้นฉีจะตีสองหน้าได้เก่งกาจปานนี้ อาศัยช่วงที่ทัพของข้าอ่อนไหว ตลบหลังได้อย่างหน้าไม่อาย"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ อู๋เจี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ว่าแคว้นฉีขอ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 59

    หยางจิ่งรีบเข้ามากอดโจวหว่านหรูทันที ก่อนจะเอ่ย"เจ้ากลับมาแล้ว รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใด ข้าแทบจะพลิกแผ่นดินตามหาเจ้า"โจวหว่านหรูไม่ได้ขัดขืนหยางจิ่ง ยังคงปล่อยให้เขากอดนางอยู่เช่นนั้น"ข้าเหนื่อยแล้ว"นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เช่นนั้นเรากลับเป่ยฉินกันเถิด"หยางจิ่งกำลังจะพาโจวหว่านหรูเดินไปยังรถม้า แต่ทว่านางกลับรั้งมือของเขาเอาไว้ หยางจิ่งหันกลับมามองนางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"มีสิ่งใดหรือ"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่ง ก่อนจะเอ่ย"ข้าหายไปแคว้นเยี่ยนตั้งหลายวัน ท่านไม่สงสัยข้าเลยหรือ"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือมาลูบศีรษะของนางอย่างรักใคร่"ข้าไม่สนใจ และไม่ติดใจเรื่องใดทั้งสิ้น ข้ารู้ว่าคนเช่นเจ้าหากถูกเอาเปรียบเจ้ายอมตายดีกว่า จริงหรือไม่"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าให้เขา หยางจิ่งชะงักไปชั่วขณะ เขารู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ของนางเขาไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว แต่วันนี้นางกลับยิ้มให้เขาอีกคราโจวหว่านหรูก้าวขึ้นมานั่งบนรถม้า ก่อนจะหันมามองหยางจินจินที่นั่งอยู่ หยางจินจินก็ห

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status