Share

บทที่ 13 สืบ

last update Last Updated: 2025-04-21 15:33:30

เมื่อออกจากวังหลวงมาแล้ว โจวหว่านหรูก็พบกับโจวอวี้หานและเย่หยวนที่กำลังยืนรอนางอยู่หน้าประตูวังหลวงพร้อมกับรถม้าของจวนตระกูลโจว โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย รู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างยิ่ง

ชาตินี้นางจะเก็บเกี่ยวทุกความอบอุ่นและความรักจากท่านพ่อท่านแม่และพี่ใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนทางข้างหน้าเป็นเช่นไรนางเองยังไม่อาจคาดเดาได้ แต่นางจะพยายามอย่างสุดกำลัง เพื่อปกป้องคนในตระกูลโจวให้ปลอดภัยให้ได้

"น้องเล็ก"

โจวอวี้หานที่เห็นว่าน้องสาวของตนออกมาแล้วก็ดีใจไม่น้อย ช่วงเวลาที่โจวหว่านหรูไม่อยู่ที่จวนนั้น ภายในจวนดูเงียบเหงาไม่น้อยเลย

"พี่ใหญ่"

"ท่านพ่อท่านแม่ให้พี่มารอรับเจ้า อีกทั้งยังมอบตั๋วเงินมาไม่น้อยเลย ท่านพ่อบอกว่าอยู่ในวังหลวงหลายวันเจ้าคงจะเบื่อเป็นแน่ จึงอยากให้เจ้าได้ผ่อนคลาย"

โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย

"เช่นนั้น พี่ใหญ่พาข้าไปเดินเล่นที่ตลาดทีเถิด ข้าอยากจะผ่อนคลายเสียหน่อย"

"ได้สิ เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถิด"

"เจ้าค่ะ"

โจวหว่านหรูก้าวเดินเข้ามาในรถม้า โจวอวี้หานตามน้องสาวเข้าไปนั่งในรถม้าด้วย ก่อนจะเร่งเดินทางไปที่ตลาดทันที

เมื่อมาถึงตลาด โจวหว่านหรูก็มองไปโดยรอบด้วยความตื่นเต้น ชาติที่แล้วนางรีบเร่งแต่งงานเกินไป ทำให้ไม่ได้มองเห็นความสนุกสนานเช่นนี้เท่าใดนัก โจวอวี้หานเห็นน้องสาวตนที่แววตาเป็นประกายยามที่ได้ออกมาเที่ยวเล่น ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ โจวหว่านหรูเดินชมร้านนั้นซื้อของร้านนี้จนรู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อย นางจึงชวนโจวอวี้หานกลับจวน โจวอวี้หานเองก็ไม่คิดขัดใจน้องสาวของตน สองพี่น้องจึงกลับจวนมาพร้อมกับของกินและของเล่นมากมาย

เมื่อกลับมาถึงจวน โจวหว่านหรูก็รีบโผเข้าไปกอดบิดาและมารดาของตนทันที แม่ทัพใหญ่โจวที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ขบขัน

"อันใดกัน ออกจวนไปเพียงไม่กี่วันก็กลายเป็นเด็กขี้อ้อนเสียแล้ว"

"ท่านพ่อ อยู่ในวังน่าเบื่อมากเลยนะเจ้าคะ ข้าน่ะนับวันรอกลับเข้าจวนจะแย่แล้ว"

โจวหว่านหรูเอ่ยพลางหยิบขนมเปี๊ยะขึ้นมากัดกินชิ้นหนึ่ง แม่ทัพใหญ่โจวมองบุตรสาวของตนด้วยแววตาที่เอ็นดู ก่อนจะเอ่ยถามอีกครา

"อืม ได้ยินว่าเจ้าได้รับคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค์หญิงแล้ว เจ้าเก่งมาก จำไว้ว่าจะต้องตั้งใจทำให้ดีเล่า"

"เจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าง่วงแล้ว อยากนอนพักเหลือเกิน"

โจวหว่านหรูหันไปยิ้มให้มารดาของตนคราหนึ่ง โจวฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นก็มองบุตรสาวตนด้วยความเอ็นดูก่อนจะเอ่ย

"เช่นนั้นก็ไปพักเถิด อย่าลืมตื่นมาก่อนเวลาอาหารเย็นด้วยเล่า"

"เจ้าค่ะ"

โจวหว่านหรูรีบกลับมาอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ในทันที ก่อนจะทิ้งกายลงนอน เมื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา นางก็ฝันถึงเรื่องราวในชาติก่อน

ร้อนเหลือเกิน ข้าร้อนเหลือเกิน!!!

"ร้อน!!!"

โจวหว่านหรูดีดกายลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ใบหน้างามมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาจนเต็มใบหน้า เย่หยวนที่ได้ยินเสียงของเจ้านายตนจึงรีบวิ่งเข้ามาหาทันที

"คุณหนู เป็นอันใดเจ้าคะ เหตุใดเจ้าจึงเหงื่อออกเช่นนี้ รอสักครู่บ่าวจะนำผ้ามาเช็ดใบหน้าให้ท่าน"

"ไม่ต้อง เทชาส่งมาให้ข้าสักถ้วยก็พอ ข้าเพียงฝันร้ายเท่านั้น"

"เจ้าค่ะ"

โจวหว่านหรูยกมือขึ้นจับหน้าผากของตนคราหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมา 

ตั้งแต่ที่นางย้อนเวลากลับมา นางมักจะฝันเห็นเหตุการณ์เดิมในชาติก่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียงผู้คนกรีดร้อง ภาพกองเพลิงที่โหมไหม้นางไปพร้อมกับตำหนักบูรพา

เรื่องราวเหล่านั้นมันส่งผลกระทบต่อจิตใจของนางไม่น้อยเลย

ไม่นานนักเย่หยวนก็นำชาร้อนมาให้นาง โจวหว่านหรูยกมันขึ้นมาดื่มจนหมดถ้วย ก่อนจะไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ก่อนจะพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ มันก็เพียงแค่ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนนางเท่านั้น

เมื่อเดินมาที่เรือนใหญ่ นางก็ได้ยินเสียงพูดคุยสนทนากันอย่างสนิทสนม โจวหว่านหรูยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน

"น้องเล็กเจ้ามาแล้วหรือ?"

โจวอวี้หานที่เห็นว่าโจวหว่านหรูมาถึงแล้วก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม โจวหว่านหรูพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มให้เฉินป๋อเหวินที่นั่งอยู่ข้างกายโจวอวี้หาน

"ป๋อเหวิน เจ้ามาตั้งแต่เมื่อใดกัน"

"สักพักแล้ว ได้ยินว่าเจ้านอนอยู่ ข้าจึงไม่ได้ให้คนไปปลุกเจ้า ข้ารอได้"

โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย พลางทิ้งกายลงนั่งบนเก้าอี้ เฉินป๋อเหวินที่เห็นว่าโจวหว่านหรูมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก จึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย

"หวานหว่าน เจ้าไม่สบายหรือ เหตุใดหน้าจึงดูซีดเผือดเช่นนี้เล่า"

เมื่อทุกคนได้ยินที่เฉินป๋อเหวินเอ่ยก็รีบหันมามองนางทันที แม่ทัพใหญ่โจวจึงเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความห่วงใย

"นั่นสิ หน้าเจ้าดูซีด ๆ นะ"

โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ

"ไม่เป็นอันใดหรอกเจ้าค่ะ คงเพราะนอนมากไปแล้วก็หิวมาก"

เฉินป๋อเหวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มเต็มใบหน้า ก่อนจะพยักหน้าให้คนนำกล่องอาหารมาวางตรงหน้าโจวหว่านหรู โจวหว่านหรูจ้องมองกล่องอาหารตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามเฉินป๋อเหวิน

"นี่คือสิ่งใดกัน?"

"ข้ามีอาหารและขนมอร่อย ๆ มาให้เจ้าได้ลองชิม วันนี้ทำมาหลายชุดเลย ข้าแบ่งให้ท่านลุงท่านป้าและพี่ใหญ่ของเจ้าแล้ว ส่วนอันนี้ของเจ้า"

"ขอบใจเจ้ามากนะ"

"รีบเปิดดูเถิด"

โจวหว่านหรูพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเปิดกล่องอาหารออกดู ดวงตาของนางพลันเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย

นี่มันคือรากบัวยัดไส้ข้าวเหนียวผสมดอกกุ้ยฮวาและขนมดอกบัวของโปรดที่นางชอบนี่นา

โจวหว่านหรูหยิบตะเกียบขึ้นมา ก่อนจะคีบรากบัวยัดไส้ข้าวเหนียวผสมดอกกุ้ยฮวาขึ้นมากัดกินคราหนึ่ง นางจำได้ว่าอาหารเหล่านี้เป็นอาหารจากภัตตาคารที่บิดาของเฉินป๋อเหวินเป็นเจ้าของ อาหารที่นั่นนับว่ารสชาติยอดเยี่ยมเลย รากบัวยัดไส้อร่อยมาก ส่วนขนมดอกบัวก็กรอบหวานรสชาติละมุนลิ้นจนนางหยุดกินไม่ได้ ไม่นานนักอาหารตรงหน้าก็ลงไปอยู่ในท้องของโจวหว่านหรูจนหมด

"อิ่มมาก"

เฉินป๋อเหวินยิ้มเต็มใบหน้า เขาดีใจที่นางชอบ

"หวานหว่าน ได้ยินว่าเจ้าได้รับเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค์หญิงรองแล้ว ข้าดีใจด้วยนะ"

"อืม"

เฉินป๋อเหวินจ้องมองโจวหว่านหรูด้วยแววตาที่อ่อนโยน ทุกการกระทำของนางเขาชื่นชอบทุกอย่าง ความรู้สึกในใจนี้เขาได้เพียงเก็บเอาไว้ในใจไม่ได้เอ่ยให้นางรู้

เพราะเขาไม่อยากสูญเสียนางไป

ขอเพียงนางมีความสุขเขาก็ดีใจแล้ว

อาหารมื้อนี้นับว่าเป็นมื้อที่อบอุ่นไม่น้อยเลย โจวหว่านหรูที่ไม่มีสิ่งใดทำ จึงชวนเฉินป๋อเหวินมาแข่งปาลูกดอกกัน เฉินป๋อเหวินอยู่สนทนากับโจวหว่านหรูจนท้องฟ้าเริ่มมืดสนิท เขาจึงขอตัวกลับจวนของตน

ด้านหยางจิ่งนั้น ยามนี้เขากำลังนั่งอ่านตำราอยู่บนโต๊ะ ตั้งแต่ย้อนเวลากลับมาเขาก็ร่ำเรียนทุกอย่างด้วยความตั้งใจ เขาเป็นคนหัวไวเพียงไม่นานก็เรียนรู้ได้ทุกอย่างทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ทว่าเขากลับทำเหมือนตนเองไม่ได้เก่งกาจเท่าใดนัก บางคราที่ไม่เข้าเรียนก็มี นั่นเพราะเขาไม่ต้องการให้ศัตรูมองเห็นว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงที่แปลกไป

"สืบได้เรื่องใดมาบ้าง?"

หยางจิ่งวางตำราในมือลง ก่อนจะเอ่ยถามหวังซุนที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าเขา

"ทูลองค์ชาย แม่นางผู้นั้นมีนามว่าไป๋อี๋ซิน เป็นสตรีที่ทำงานอยู่ในหอคณิกา แต่นางไม่ได้รับแขก เพียงออกมาร่ายรำเท่านั้น ได้ยินว่ามีผู้สูงศักดิ์เลี้ยงดูนางอย่างลับ ๆ กระหม่อมพยายามสืบแล้ว แต่กลับไม่พบว่าผู้ใดคือคนที่เลี้ยงดูนางพ่ะย่ะค่ะ"

หยางจิ่งพยักหน้าเล็กน้อย หากเขาเดาไม่ผิด คนที่เลี้ยงดูไป๋อี๋ซินคงจะเป็นหยางเฉิง สองคนนี้มีความสัมพันธ์กันมานานแล้วสินะ

"แล้วมีเรื่องใดอีก?"

"จากการติดตามนางมาหลายวัน กระหม่อมสืบมาได้อีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือนางเชี่ยวชาญการปรุงยาพ่ะย่ะค่ะ"

"เชี่ยวชาญการปรุงยาเช่นนั้นหรือ?"

"พ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าบิดานางเคยเป็นหมอยาที่มีฝีมือแต่กลับล้มป่วยตายไป ไม่นานมารดาของนางก็ตายตามสามีไป เหลือเพียงนางและน้องชายผู้หนึ่ง อีกทั้งกระหม่อมยังสืบพบว่านอกจากอยู่ที่หอคณิกาแล้ว นางยังมีที่พักอยู่ใกล้ ๆ โรงพนัน ซึ่งมีตรอกเล็ก ๆ ตรอกหนึ่งอยู่ มีผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก กระหม่อมเห็นนางเข้าไปในบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่ง ทั้งยังนำสิ่งของติดไปมากมาย คาดว่าน่าจะนำไปเลี้ยงดูน้องชายพ่ะย่ะค่ะ"

"ติดตามนางต่อไป"

"พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย"

เมื่อหวังซุนออกไปแล้ว หยางจิ่งก็ขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด ชาติที่แล้วเพราะเขาเอาแต่หลงมัวเมาในความงามของไป๋อี๋ซิน จึงไม่ได้สนใจสิ่งใดเลย ไป๋อี๋ซินเชี่ยวชาญการปรุงยา เช่นนั้นการตายของเสด็จพ่อ ไป๋อี๋ซินย่อมต้องมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นแน่ หยางเฉิงบอกว่าเป็นคนวางยาเสด็จพ่อเองกับมือ เช่นนั้นหยางเฉิงเริ่มวางยาเสด็จพ่อตั้งแต่เมื่อใด เรื่องนี้เขาต้องเร่งสืบหาความจริงโดยเร่งด่วน สิ่งที่เขาอยากรู้มากที่สุดนั่นก็คือแรงจูงใจใดกันที่ทำให้หยางเฉิงคิดวางยาบิดาแท้ ๆ ของตนได้ลงคอ เขาคิดว่ามันอาจจะมีบางอย่างที่มากกว่าการแย่งชิงบัลลังก์ คนที่หยางเฉิงควรสังหารมากที่สุดควรจะเป็นเขา แต่ทว่าเหตุใดหยางเฉิงจึงพุ่งเป้าไปที่เสด็จพ่อแทนกันเล่า 

อย่างไรเสียเรื่องนี้ต้องกระทำการอย่างลับ ๆ เพราะไม่รู้ว่าขันทีและนางกำนัลในวังหลวงยามนี้ ถูกฉินกุ้ยเฟยซื้อตัวไปมากเท่าใดแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 14 หลอกใช้

    ยามนี้เข้าสู่ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว ท้องฟ้าจึงค่อนข้างแจ่มใสไม่น้อยเลย เจียงหมิงเจ๋อออกมาเดินเล่นรับลมอยู่ที่ใต้ต้นดอกเหมยไม่ไกลจากที่พักของเขามากนัก เขาปรายตามองเหล่าทหารที่ติดตามอยู่ไม่ห่างด้วยแววตาที่เย็นชา แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นเขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ อีกทั้งยังส่งเสียงไอออกมาเป็นระยะเหล่าทหารที่ได้เห็นเช่นนั้นก็นึกดูแคลนเจียงหมิงเจ๋อไม่น้อย องค์ชายขี้โรคเช่นนี้ฝ่าบาทจะรับเอาไว้เป็นตัวประกันทำไมกัน ใช้ประโยชน์ใดไม่ได้ อีกไม่นานก็คงจะป่วยตายอยู่ในวังนี้กระมังเจียงหมิงเจ๋อมีหรือจะไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นดูแคลนตน แต่เขาจะทำสิ่งใดได้เล่า ทำได้เพียงอดทนเท่านั้นเขาคร้านจะใส่ใจกับทหารชั้นต่ำเหล่านั้น จึงทำเป็นมองไม่เห็นสายตาที่ดูแคลนของพวกมันเสีย ก่อนจะหันมาเอ่ยถามแม่นมเถียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา"มีข่าวส่งมาหรือไม่แม่นม?""ทูลองค์ชาย ยังไม่มีเลยเพคะ""คนของเราที่แฝงตัวเข้ามาเล่า""ยามนี้ยังไม่กล้ากระทำการสิ่งใดเพคะ เนื่องจากวังหลวงคุ้มกันแน่นหนา คนของเราจะทำสิ่งใดก็ลำบากไม่น้อยเลย"เจียงหมิงเจ๋อกำมือแน่น หนทางที่เขาจะหนีไปได้มันช่างริบหรี่เหลือเกิน แต่เขาไม่มีทางยอมแพ้เสียหรอกเมื่

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 15 ดอกมู่ตาน

    เจียงหมิงเจ๋อเก็บสายตาของตนกลับคืน ก่อนจะเดินกลับมาที่พักของตน เมื่อมาถึงก็พบกับนางกำนัลน้อยผู้หนึ่งกำลังยกถ้วยโจ๊กเข้ามาให้เขา เจียงหมิงเจ๋อจ้องมองถ้วยโจ๊กตรงหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะยกมันขึ้นมากินด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ในใจนึกค่อนขอดไม่น้อยหลังถูกจับมาเป็นเชลยเขาได้ยินว่าแคว้นเยี่ยนและแคว้นเป่ยฉินทำสัญญายุติสงคราม แคว้นเยี่ยนยินยอมเป็นเมืองขึ้นของแคว้นเป่ยฉิน ทั้งยังยินยอมส่งของมีค่าและอาวุธอีกมากมายมาที่เป่ยฉิน เนื่องจากแคว้นเยี่ยนของเขามีเหมืองแร่เหล็กที่สามารถหลอมออกมาเป็นอาวุธชั้นดีได้ ทั้งหมดเป็นเพราะพี่ชายบัดซบของเขา จึงทำให้แคว้นเยี่ยนจำต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เจียงหยงหลางยอมยุติสงครามเพื่อให้ตนเองได้อยู่อย่างสุขสบายบนบัลลังก์ต่อไป ฮ่องเต้แคว้นเป่ยฉินก็ได้อาวุธชั้นดีในราคาที่ไม่สูงมาก บางครายังได้ของบรรณาการชั้นดีที่แคว้นเยี่ยนส่งมาให้อยู่เสมออีกด้วยต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน แต่คนที่ทุกข์ที่สุดกลับเป็นเขา!!เจียงหมิงเจ๋อกำมือแน่น ก่อนจะเงยหน้าไปมองนางกำนัลน้อยผู้นั้น พร้อมกับพยักหน้าคราหนึ่ง นางกำนัลผู้นั้นพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทีที่ไร้พิรุธเมื่อนางกำนั

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 16 เริ่มแผนการ

    หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถามนางกำนัลผู้นั้นว่ายามนี้หยางจินจินอยู่ที่ใด เมื่อได้ความแล้วเขาจึงรีบมุ่งหน้าไปที่ตำหนักมังกรสวรรค์ทันที เมื่อมาถึงเขาก็พบกับหยางจินจินที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเทา ใบหน้ามีหยดน้ำตาเปียกปอน หยางจิ่งหันไปมองฉินกุ้ยเฟยที่นั่งอยู่ข้างกายเสด็จพ่อของเขา ก็เห็นว่ายามนี้ฉินกุ้ยเฟยกำลังจ้องมองหยางจินจินด้วยแววตาที่ไม่ชอบใจเท่าใดนักฮ่องเต้หยางหลิงไท่ที่เห็นพระโอรสของตน ก็รีบเอ่ยถามทันที"จิ่งเอ๋อร์ เจ้ามาก็ดี มาดูสิ่งที่น้องสาวตัวดีของเจ้าทำเอาไว้!!!"ฉินกุ้ยเฟยจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่เย็นชาคราหนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ นางได้ยินมาว่าระยะนี้หยางจิ่งและหยางจินจินดูสนิทสนมกันดี อีกทั้งหยางจิ่งก็ดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่าแต่ก่อน นี่คือสิ่งที่นางแปลกใจและสั่งให้คนตามดูมาตลอดจากการจับตาดูมาหลายวัน นางก็พอจะเข้าใจในสิ่งที่หยางเฉิงบอกนางก่อนหน้านี้แล้ว คล้ายว่าหยางจิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจริง ๆหยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามบิดาของตนทันที"จินเอ๋อร์ทำสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?"ฮ่องเต้หยางหลิงไท่ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 17 พิษซ้อนพิษ

    ไป๋อี๋ซินที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่เย็นเยียบพลางขมวดคิ้วมุ่น คนผู้นี้รู้ได้เช่นไรว่านางคิดจะทำสิ่งใดแววตาที่มองนางด้วยความเกลียดชังสลับกับการตัดพ้อต่อว่านั่นมันหมายความว่าเช่นไรกัน!!!หยางจิ่งจ้องมองไป๋อี๋ซินอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน ก่อนจะเห็นว่าท่าทีที่คิดจะสังหารเขาเมื่อครู่พลันมลายหายไปจนหมดสิ้น นางมองน้องชายของตนที่ยามนี้ถูกเขาจับตัวเอาไว้ด้วยแววตาที่ร้อนรน ก่อนจะเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา"ปล่อยน้องชายข้า หากท่านอยากได้สิ่งใด ข้าจะทำตามที่ท่านขอ"หยางจิ่งได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง วันนี้เขาได้รู้ธาตุแท้ของสตรีนางนี้ด้วยตาตนเองแล้ว นางยอมทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดจริง ๆหยางจิ่งยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ย"หากข้าให้เจ้าหักหลังบุรุษที่เจ้ารัก เจ้าก็ยินยอมทำใช่หรือไม่?"ไป๋อี๋ซินเม้มริมฝีปากแน่น นางไม่ได้เอ่ยตอบสิ่งใดออกไป แต่ทว่ากลับจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่ระแวดระวัง บุรุษผู้นี้รู้ได้เช่นไรกันว่านางมีคนรักอยู่?เมื่อหลายเดือนก่อน เพราะน้องชายป่วยหนัก นางไร้หนทางจะหาเงินมารักษา จึงใช้ความงามของตนเข้าไปทำงานร่ายรำที่หอคณิกา นางไม่ได้ขายเรือน

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 18 ขนม

    เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยางจิ่งก็เดินออกมาจากเรือนของไป๋อี๋ซิน ก่อนจะยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง แล้วจึงหันไปเอ่ยกับหวังซุน“ประคองข้า”“ประคองทำไมพ่ะย่ะค่ะ”หวังซุนงงงันไม่น้อย ก่อนหน้านี้องค์ชายก็พาเขาเดินย้อนไปย้อนมา เข้าร้านสุรา แวะโรงพนัน ก่อนจะอ้อมไปตามทางเดินจนมาถึงที่อยู่ของไป๋อี๋ซิน มาครานี้ยังแกล้งเมาอีก“เราไม่รู้ว่าจะมีคนของหยางเฉิงอยู่แถวนี้หรือไม่ รีบประคองเร็วเข้า”“พ่ะย่ะค่ะ”หวังซุนพยักหน้าด้วยความมึนงง ก่อนจะรีบตรงเข้าไปประคองหยางจิ่งทันที หยางจิ่งที่เห็นเช่นนั้นก็แกล้งทำเป็นเมาจนเดินโซเซ พูดไม่เป็นภาษา แล้วเดินตามทางไปเรื่อยเปื่อยหลายวันก่อนเขาสั่งให้หวังซุนไปตามหาหมอปรุงยาพิษผู้หนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนภูเขาด้านหลังวัดไป๋หวา เขาจำได้ว่าในชาติก่อน ตอนเดินทางไปวัดไป๋หวาพร้อมกับเสด็จพ่อเพื่อกราบขอพรพระโพธิสัตว์ เสด็จพ่อของเขาชอบไหว้พระขอพรเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปที่วัดไป๋หวาทุก ๆ ปี เคยได้ยินว่ามีหมอเทวดาผู้หนึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการปรุงยารักษาคน อีกทั้งยังเชี่ยวชาญด้านการปรุงยาพิษและยาถอนพิษ ฝีมือนั้นเก่งกาจจนแทบหาตัวจับยาก แต่ทว่าราคาค่อนข้างแพงไปเสียหน่อย หากต้อง

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 19 เริ่มลงมือ

    เฉินป๋อเหวินที่เห็นหยางจิ่งก็ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะทำความเคารพอย่างนอบน้อม เพราะเขาติดตามท่านพ่อเข้าวังหลวงอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ได้พบหน้าหยางจิ่งอยู่บ้างในบางครา แต่เพราะเขาเป็นเพียงบุตรชายตระกูลคหบดี ส่วนหยางจิ่งเป็นถึงองค์ชาย อีกทั้งด้วยวัยที่ห่างกันทำให้เขาไม่ได้สนิทสนมกับหยางจิ่งมากเท่าใดนัก เขาเองไม่ค่อยได้อยู่ที่เมืองหลวง เนื่องจากชอบตามท่านพ่อไปค้าขายนอกเมืองตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่เหมือนกับโจวอวี้หานที่เป็นเพื่อนเล่นวัยเดียวกันกับหยางจิ่งมาตั้งแต่วัยเด็ก หยางจิ่งเพียงพยักหน้าให้เฉินป๋อเหวิน ก่อนจะปรายตามองกล่องอาหารในมือของเฉินป๋อเหวินคราหนึ่งโจวหว่านหรูที่เห็นว่าเฉินป๋อเหวินมาหา นางก็ยิ้มให้เขาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ป๋อเหวิน เจ้ามาตั้งแต่เมื่อใดกัน?"เฉินป๋อเหวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยตอบนางอย่างสนิทสนม"สักพักแล้ว พอข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่จึงรีบมาพบเจ้า ข้านำขนมมาให้เจ้าด้วยนะ เจ้าหิวแล้วหรือไม่?"หยางจิ่งจ้องมองคนทั้งสองที่สนทนากันอย่างสนิทสนมด้วยแววตาที่ไม่พอใจ แต่ทว่าไม่นานเขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติโจวอวี้หานที่ได้เห็นเช่นนั้น จึงเอ่ยขึ้นมาทันที"ไหน ๆ ก็มากันแล้ว ไปนั่งเล่นกัน

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 20 แผนซ้อนแผน

    ด้านไป๋อี๋ซินที่ได้ฟังคำสั่งจากหวังซุน นางก็ลอบกลืนน้ำลายลงคอตนเองคราหนึ่ง คนผู้นี้นับว่าลงมือได้รวดเร็วไม่น้อยเลยนางจ้องมองขวดยาระงับพิษที่หวังซุนมอบให้คราหนึ่ง ในใจรู้สึกขมขื่นจนยากจะอธิบาย ตั้งแต่วันนั้นนางก็ตัดสินใจได้แล้ว ว่านางจะเลือกรักษาชีวิตของผู้ใดเอาไว้แน่นอนว่านางเลือกไป๋หลงน้องชายของนางหากนางเลือกหยางเฉิง ยามใดที่นางตายไป นางจะมองหน้าดวงวิญญาณของท่านพ่อท่านแม่ในปรโลกได้เช่นไรกันไป๋อี๋ซินยิ้มทั้งน้ำตา ความรู้สึกของนางในยามนี้สับสนมืดมนเหลือเกิน นางเลือกทางใดย่อมไม่เป็นผลดีต่อจิตใจของนางเลยแม้แต่ทางเดียวหลายวันต่อจากนั้น หยางเฉิงก็มาพบนาง เขายังคงปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี แต่ทว่าเขากลับเอ่ยกับนางขึ้นมาประโยคหนึ่ง"ไป๋อี๋ซิน""เพคะ""อีกไม่นานข้ามีงานหนึ่งให้เจ้าไปทำ หากงานนี้สำเร็จ เจ้าจะสุขสบายไปทั้งชีวิต น้องชายเจ้าก็จะมีท่านหมอดี ๆ คอยรักษา"ไป๋อี๋ซินรินชาร้อนส่งให้หยางเฉิง เขารับมันไปดื่มจนหมดถ้วย ก่อนจะยิ้มให้นาง ไป๋อี๋ซินจ้องมองเขาด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะจ้องมองถ้วยชาที่หยางเฉิงดื่มจนหมดด้วยแววตาที่เจ็บปวดนางยังคงไม่กล้าลงมือกับเขา!นางใจไม่แข็งพอที่จะทำเช่นนี้

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 21 วังหลวงช่างแคบยิ่งนัก

    หยางจิ่งได้ฟังเรื่องราวที่หวังซุนนำมารายงานก็ยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง เมล็ดพันธุ์แห่งความระแวงที่เขาหว่านให้ไป๋อี๋ซินยามนี้เห็นผลแล้ว รอเวลาอีกเพียงไม่นาน เขาย่อมสามารถจัดการหยางเฉิงได้เป็นแน่“แล้วเรื่องที่ข้าให้เจ้าไปตามคนชุดดำผู้นั้นไปถึงไหนแล้ว”หวังซุนที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยที่มาที่ไปของชายชุดดำผู้นั้นให้ฟังอย่างละเอียด หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ย“เจ้าแน่ใจหรือว่ามันไปที่นั่นจริง ๆ”“พ่ะย่ะค่ะ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ คนของเราที่แฝงตัวอยู่ในวังหลวงมารายงานว่า ไม่นานมานี้ ฉินกุ้ยเฟยให้คนนำจดหมายไปส่งให้คนผู้หนึ่ง คนของเราจึงตามสืบต่อไป จนกระทั่งพบว่า...”"อ้ำอึ้งทำไมกัน รีบบอกมาสิ"หวังซุนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาหยางจิ่ง พลางกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเขา หยางจิ่งได้ฟังที่หวังซุนบอกเขาก็กำมือแน่น แววตาคมพลันมีท่าทีตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก"เจ้าแน่ใจหรือ?""พ่ะย่ะค่ะ คนของเรายืนยันหนักแน่นว่าเป็นเรื่องจริง อีกทั้งยังบอกว่าการส่งจดหมายโต้ตอบกันไปมาเช่นนี้ มิใช่เพิ่งเริ่มทำ แต่คล้ายว่าทำมานานแล้ว เห็นได้

    Last Updated : 2025-04-21

Latest chapter

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   ตอนพิเศษ

    ค่ำคืนนี้ช่างเหน็บหนาวนัก แต่ทว่าภายในตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนนั้นกลับคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งปรารถนาเจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูแต่งงานกันมาร่วมปีแล้ว แต่ทว่ายังคงไม่มีบุตร อาจเพราะได้รับพิษในครานั้น ทำให้การมีบุตรไม่ใช่เรื่องง่ายบนเตียงใหญ่ เจียงหมิงเจ๋อกำลังตระกองกอดร่างบางระหงตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบดขยี้อย่างเร่าร้อนราวกับคนเอาแต่ใจ ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของนางและเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามัน ยามนี้ร่างกายของคนทั้งสองเปลือยเปล่า กลิ่นหอมกำยานอ่อน ๆ ยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้ลุกโหมมากยิ่งขึ้น เจียงหมิงเจ๋อผละริมฝีปากออกจากนาง แล้วจึงจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาเรื่อย สองมือหนาใหญ่บีบขยำดอกบัวงามทั้งสองข้างของนางอย่างเต็มไม้เต็มมือ พร้อมกับครอบริมฝีปากกลืนกินจุกบัวสีหวานอย่างลำพองใจ โจวหว่านหรูส่งเสียงครางกระเส่าพลางบิดกายเร่า ๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่าน กายสาวถูกบุรุษตรงหน้าลูบคลำเชยชมอย่างไม่ยอมลดละ เจียงหมิงเจ๋อสอดแทรกแท่งหยกสวรรค์เข้าไปในกายของนาง ก่อนจะขยับกายอย่างช้า ๆ แล้วเร่

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 66

    ยามนี้เจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูกำลังเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินเพื่อมุ่งหน้าออกจากวังหลวง ฉับพลันนางก็หันมาเอ่ยถามเขา“เจียงหมิงเจ๋อ ท่านเอ่ยสิ่งใดฝ่าบาทจึงเห็นด้วยง่ายดายเช่นนี้ ข้าคิดว่าจะไม่ทรงเห็นด้วยเสียอีก”เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมามองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ โจวหว่านหรูหนังตากระตุกรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าเริ่มจะออกอาการเจ้าเล่ห์ใส่นางอีกแล้ว“อย่ามองข้าแบบนี้สิ”“ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ข้าเอ่ยเพียงว่า ขอเพียงมีเจ้าข้างกาย และครอบครัวของเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ใต้หล้านี้ข้ายกให้แคว้นเป่ยฉินทั้งหมด ข้าขอมีเพียงแคว้นเยี่ยนและมีเจ้าก็พอ”โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“ท่านทำได้จริง ๆ หรือ”“ทำได้สิ คนอย่างข้าไม่เคยเอ่ยวาจาโป้ปด”“แต่ท่านเคยแกล้งป่วยนะ”“โจวหว่านหรู เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ที่ข้าทำเพราะความอยู่รอดเพียงเท่านั้น”โจวหว่านหรูจ้องมองเจียงหมิงเจ๋อด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย“หากไม่เชื่อ ข้าคงไม่เลือกท่าน”เจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้าง โจวหว่านหรูพลันใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขา“เจ้าจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกข้า

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 65

    โจวหว่านหรูเดินทางกลับมาที่แคว้นเป่ยฉิน หยางจิ่งที่ได้รู้ข่าวว่าโจวหว่านหรูกลับมาถึงแล้ว ก็รีบมาพบนางในทันทีสตรีตรงหน้ายามนี้งดงามเป็นสาวงามสะพรั่งแล้ว โจวหว่านหรูหันมามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เขาเล็กน้อยหลายปีที่ไม่ได้พบกัน มันทำให้นางเข้าใจหัวใจตนเองได้อย่างชัดเจนแล้วนางไม่อาจกลับไปรักเขาเฉกเช่นเดิมได้อีก แม้ในใจของนางจะไม่สามารถตัดขาดจากหยางจิ่งได้อย่างสนิทใจ แต่ทว่านางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเขาแล้ว นางไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังติดค้างสิ่งใดกับนางอยู่ บางคราทุกสิ่งที่มันเปลี่ยนไปแล้วย่อมไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก จะคงไว้เพียงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตที่จะให้จดจำแม้จะดูเหมือนสตรีที่เห็นแก่ตัว แต่โจวหว่านหรูคิดเสมอว่าในเมื่อนางมีชีวิตอีกชาติหนึ่งแล้ว นางควรมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่นางต้องการคราก่อนนางยังไม่แน่ใจในหัวใจของตนเองมากเท่าใดนัก แต่เมื่อได้หลับฝันไปตื่นหนึ่ง ได้รู้ความจริงบางอย่าง ใจของนางก็เริ่มชัดเจนขึ้นหยางจิ่งคือรักแรกของนางส่วนเจียงหมิงเจ๋อคือคนที่นางเลือก เพราะไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้เขาคือคนที่ทำเพื่อนางมากที่สุด“หวานหว่าน เจ้ากลับมาแล้ว”หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 64

    เช้าวันต่อมา โจวหว่านหรูควบม้ามุ่งหน้าไปยังทิศทางของประตูวังหลวง ระหว่างทางนั้นนางมองเห็นหยางจิ่งที่ยืนมองนางอยู่ที่ด้านหน้าประตู เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด ดูแล้วช่างงดงามสง่าราวกับเทพเซียน นางสั่งให้ม้าหยุด ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า และเดินตรงเข้ามาหาเขา หยางจิ่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"แต่งเป็นบุรุษเช่นนี้นับว่าไม่เลวเลย"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"อืม"หยางจิ่งจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ย"หวานหว่าน เจ้าจะกลับมาเมื่อใด"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหนึ่งปี สามปี หรือห้าปี ข้าอยากจะไปทำตามความฝัน ท่องไปในยุทธภพ"หยางจิ่งจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขาอยากยื่นมือไปดึงรั้งนางใจจะขาด แต่ทว่าอีกใจก็ไม่อยากทำลายสิ่งที่นางถวิลหา ตั้งแต่ได้รู้ว่านางตั้งใจจะไปท่องเที่ยวทั่วทั้งใต้หล้า เขาก็ตกใจไม่น้อย เดิมทีคิดจะพานางเข้าวัง แต่งนางเป็นชายาเอก แต่ทว่านางกลับปฏิเสธเขาข้ายังไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ใดในยามนี้"ข้าจะรอเจ้า ต่อให้รอทั้งชีวิต ข้าก็จะรอ"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โจวหว่านห

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 63

    ที่ตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนยามนี้มีเหล่าทหารกำลังผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยาม โจวหว่านหรูรีบตรงมาที่แห่งนี้ทันทีที่ได้ทราบเรื่องราวจากหยางจินจินแท้จริงแล้วนางไม่ได้ฝัน เป็นเขาจริง ๆ ที่ช่วยนาง เขาป้อนโลหิตให้นางดิื่มเพื่อระงับพิษไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนาง"ข้าอยากพบเจียงหมิงเจ๋อ"เหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามปรายตามองนางคราหนึ่ง แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด โจวหว่านหรูที่กำลังร้อนใจ พลันจ้องมองสตรีนางหนึ่งที่เดินออกมาจากตำหนักมังกรสวรรค์ นางสวมชุดเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้างดงามไม่น้อย นางจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้าก็คือโจวหว่านหรูกระมัง"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง สตรีนางนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าคือพระสนมเอกของฝ่าบาท ยามนี้ฝ่าบาทคงกำลังรอพบเจ้าอยู่ เจ้าเข้าไปเถิด"ฟ่านฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปไม่แม้แต่จะมองนางอีก โจวหว่านหรูไม่รอช้ารีบเข้าไปด้านในทันที เมื่อมาถึงนางก็พบกับเจียงหมิงเจ๋อที่กำลังเอนกายนอนพิงขอบเตียง ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวราวกับคนป่วยไข้ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามา เขาจึงหันไปมองคราหนึ่ง ก่อนที่แววตาจะฉาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 62

    หยางจิ่งนั้นยามนี้กำลังเดินออกมาจากตำหนักเหลียนฉง เมื่อออกมาก็ได้พบกับโจวอวี้หาน เฉินป๋อเหวิน รวมถึงหยางจินจินที่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก เขามีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้ามาได้เช่นไรกัน"โจวอวี้หานยิ้มให้หยางจิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าเป็นห่วงน้องเล็กจึงรีบติดตามมาสมทบกับเจ้า เฉินป๋อเหวินและหยางจินจินก็เป็นห่วงนางเช่นกัน จึงขอติดตามข้ามาด้วย"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าอยากให้เจ้าช่วยดูนางสักระยะ ข้ามีเรื่่องต้องไปจัดการ”โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที"เรื่องใดหรือ"หยางจิ่งถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"สมุนไพรที่ใช้ถอนพิษไม่เพียงพอ ข้าจำต้องขึ้นเขาไปเก็บมันมา""ข้าไปกับท่านด้วย"หยางจิ่งหันไปจ้องมองเฉินป๋อเหวินคราหนึ่ง ก่อนจะพบว่าในดวงตาของเฉินป๋อเหวินดูเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวงอันใดกัน เขาจึงเอ่ยกับเฉินป๋อเหวินด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรมากกว่าเดิม"ทางไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขา ข้าได้ยินว่ามันทั้งหนาวเหน็บและอันตรายไม่น้อย กลับมาแล้วอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้า...""ต่อให้ต้องตาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 61

    เจียงหมิงเจ๋อปรายตามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้น เหล่าทหารแคว้นเยี่ยนของเขาก็พุ่งเข้าสังหารทหารแคว้นฉีในทันที อู๋เจี๋ยตื่นตระหนกไม่น้อย เพียงมองอาภรณ์ที่สวมใส่เขาก็พอคาดเดาได้ไม่ยากว่าผู้มาใหม่นี่คือใครฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเช่นนั้นหรือ!!!เจียงหมิงเจ๋อจ้องมองอู๋เจี๋ยคราหนึ่ง ก่่อนจะเอ่ย"เจ้าสินะ ที่ขโมยศีรษะของเจียงหย่งหลางส่งไปให้ฮ่องเต้แคว้นเป่ยฉิน ศีรษะของพี่ชายข้าก็เสียบประจานอยู่ที่หน้าประตูชายแดนดี ๆ เจ้ากลับไร้มรรยาทเอาหัวเขาไปเที่ยวเล่น ช่างบังอาจนัก!!!"อู๋เจี๋ยตกใจไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าแผนการทั้งหมดของเขาจะถูกล่วงรู้ได้รวดเร็วเช่นนี้เขารู้ว่ายามนี้ไม่อาจต่อกรได้แล้ว เจียงหมิงเจ๋อพาทหารแคว้นฉู่ที่ยามนี้รวมเป็นหนึ่งกับแคว้นเยี่ยนบุกเข้ามาเพื่อจัดการเขา มันเป็นไปได้เช่นไรไม่ใช่ว่าเจียงหมิงเจ๋อต้องสังหารหยางจิ่งหรอกหรือ!!!อู๋เจี๋ยไม่รั้งรอ เขารีบควบม้าคิดจะหนี เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก มีหรือที่เขาจะปล่อยศัตรูให้รอดไปได้ ใครที่มันคิดรุกรานเขา เขาไม่เคยเก็บเอาไว้เจียงหมิงเจ๋อคว้าคันธนูมาจากฟ่านเฉียน ก่อนจะยกขึ้นเล็งไปที่อู๋เจี๋ย ลูกธนูพุ่งฝ่าอากาศก่อนจะทะลุเข้าไปที่กลางอกข

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 60

    โจวหว่านหรูสวมชุดเกราะเตรียมออกรบ ในมือของนางถือดาบยาวที่ส่องประกายวาววับ ก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้าและพุ่งทะยานออกไปที่ประตูชายแดนในทันที โดยมีหยางจิ่งและโจวอวี้หานเป็นผู้นำทัพ ยามนี้แขนของท่านพ่อนางดีขึ้นมากแล้ว เมื่อภัยมาถึงด้วยนิสัยของท่านพ่อย่อมไม่อาจอยู่เฉยได้ด้านหยางจินจินนั้นคอยดูแลเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บและถูกหามกลับเข้ามา ใจของนางสั่นไหวไม่น้อยหยางจิ่งที่ควบม้ามายังสนามรบ เมื่อได้มองเห็นกองกำลังทหารเรือนแสนที่แคว้นฉียกทัพมาก็จ้องมองด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะมองไปที่อู๋เจี๋ยซึ่งเป็นผู้นำทัพออกรบอู๋เจี๋ยจ้องมองหยางจิ่งอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน ก่อนจะปรายตามามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ในใจนึกเสียดายที่ไม่อาจนำสาวงามนางนี้มาครอบครองได้ หากเขารบชนะศึกในครานี้และหยางจิ่งพ่ายแพ้ เขาจะลากตัวนางกลับแคว้นฉีและทรมานให้สาแก่ใจโจวหว่านหรูจ้องมองอู๋เจี๋ยด้วยแววตาเกลียดชัง"ไม่คิดว่าคนแคว้นฉีจะตีสองหน้าได้เก่งกาจปานนี้ อาศัยช่วงที่ทัพของข้าอ่อนไหว ตลบหลังได้อย่างหน้าไม่อาย"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ อู๋เจี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ว่าแคว้นฉีขอ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 59

    หยางจิ่งรีบเข้ามากอดโจวหว่านหรูทันที ก่อนจะเอ่ย"เจ้ากลับมาแล้ว รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใด ข้าแทบจะพลิกแผ่นดินตามหาเจ้า"โจวหว่านหรูไม่ได้ขัดขืนหยางจิ่ง ยังคงปล่อยให้เขากอดนางอยู่เช่นนั้น"ข้าเหนื่อยแล้ว"นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เช่นนั้นเรากลับเป่ยฉินกันเถิด"หยางจิ่งกำลังจะพาโจวหว่านหรูเดินไปยังรถม้า แต่ทว่านางกลับรั้งมือของเขาเอาไว้ หยางจิ่งหันกลับมามองนางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"มีสิ่งใดหรือ"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่ง ก่อนจะเอ่ย"ข้าหายไปแคว้นเยี่ยนตั้งหลายวัน ท่านไม่สงสัยข้าเลยหรือ"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือมาลูบศีรษะของนางอย่างรักใคร่"ข้าไม่สนใจ และไม่ติดใจเรื่องใดทั้งสิ้น ข้ารู้ว่าคนเช่นเจ้าหากถูกเอาเปรียบเจ้ายอมตายดีกว่า จริงหรือไม่"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าให้เขา หยางจิ่งชะงักไปชั่วขณะ เขารู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ของนางเขาไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว แต่วันนี้นางกลับยิ้มให้เขาอีกคราโจวหว่านหรูก้าวขึ้นมานั่งบนรถม้า ก่อนจะหันมามองหยางจินจินที่นั่งอยู่ หยางจินจินก็ห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status