Home / รักโบราณ / ดั่งบุปผา ดุจจันทรา / บทที่ 4 พานพบอีกครา

Share

บทที่ 4 พานพบอีกครา

last update Last Updated: 2025-04-21 15:29:10

คล้ายห้วงเวลาในชาติภพก่อนย้อนกลับมาอีกครา หยางจิ่งจ้องมองไป๋อี๋ซินด้วยแววตาที่ล้ำลึก ไป๋อี๋ซินเองรับรู้ได้ว่าตนถูกจ้องมองก็หันกลับมาสบสายตากับหยางจิ่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้เขา ดวงตาของนางช่างดูงดงามและน่าทะนุถนอม

หยางจิ่งยกยิ้มมุมปาก หากเป็นชาติที่แล้วยามนี้เขาคงตกหลุมพรางของสตรีผู้นี้ไปเสียแล้ว ท่าทีอ่อนหวาน งดงาม ร่างอรชรอ้อนแอ้นที่ราวกับต้องลมก็จะล้มลงได้นั้น ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงการเสแสร้งทั้งสิ้น

ไป๋อี๋ซินเดินจากไปแล้ว แต่ทว่าหยางจิ่งยังคงมองตามแผ่นหลังของนางไปจนลับสายตา

เขาอยากจะรู้เช่นกันว่าจิตใจของไป๋อี๋ซินทำด้วยสิ่งใด นางจึงหลอกลวงและทรยศเขาได้ลงคอ ทั้งที่เขารักนางอย่างสุดหัวใจ

โจวอวี้หานที่เห็นว่าหยางจิ่งนิ่งงันไม่ยอมเดินก็รีบหันมามอง ก่อนจะเอ่ยหยอกเย้า

"นี่อาจิ่ง เจอสตรีที่พึงใจหรือ ข้าเห็นเจ้ามองนางไม่วางตาเลยนะ"

หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมายิ้มให้โจวอวี้หานคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"ไม่ใช่ ข้าเพียงรู้สึกคุ้นหน้านางน่ะ ไปกันเถิด"

"ข้าเห็นเจ้าก็คุ้นหน้าสตรีทุกคน"

"พูดมาก รีบไปเร็วเข้า"

"รู้แล้ว ๆ"

หยางจิ่งเอ่ยเพียงเท่านั้น แล้วเดินตามโจวอวี้หานเข้าไปนั่งในรถม้าเพื่อมุ่งหน้าไปที่จวนตระกูลโจว แต่ก่อนจะขึ้นรถม้า เขาได้หันไปกระซิบบางอย่างกับหวังซุนทหารคนสนิทของตนคราหนึ่ง

"จับตาดูความเป็นไปของสตรีนางนั้นให้ดี แล้วรีบมารายงานข้า"

แม้หวังซุนจะไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้านายของเขาถึงสั่งให้ตามติดสตรีน้อยนางนั้นอย่างลับ ๆ แต่เขาก็ไม่กล้าเอ่ยถามสิ่งใดให้มากความ

..........

ฉึก

"คุณหนู ฝีมือการยิงธนูของท่านก้าวหน้าไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ"

เย่หยวนเอ่ยพลางตบมืออย่างชื่นชม ก่อนจะเทชาร้อนใส่ถ้วยและส่งมาให้โจวหว่านหรู โจวหว่านหรูรับชาร้อนไปดื่มจนหมดถ้วย ความหอมหวานของชาไหลพาดผ่านลำคอของนางทำให้รู้สึกดีไม่น้อย ชาที่ท่านแม่ได้มาใหม่นี่นับว่ารสชาติดีไม่เลวเลย

โจวหว่านหรูง้างคันธนูขึ้นอีกครา ก่อนจะยิงมันเข้าไปตรงกลางเป้าหมายอย่างแม่นยำ หลายวันมานี้นางฝึกฝนการต่อสู้แทบทุกชนิดอย่างตั้งใจ แม้กระทั่งท่านพ่อยังเอ่ยปากชมว่านางฉลาดหัวไว หากเป็นบุรุษนางจะต้องเก่งกาจไม่แพ้บิดาและพี่ชายเป็นแน่

แปะ แปะ แปะ

เสียงปรบมือของใครบางคนทำให้โจวหว่านหรูหันไปมองก่อนจะลดคันธนูลง นางเห็นว่ามีบุรุษสองคนเดินเข้ามา คนหนึ่งคือโจวอวี้หานพี่ชายของนาง ส่วนบุรุษอีกคนที่เดินเข้ามาพร้อมพี่ชายของนางนั้น เมื่อได้พบเห็นเขาอีกครามันทำให้จิตใจของนางปั่นป่วน มือสั่นเทาจนเริ่มควบคุมตนเองไม่อยู่

หยางจิ่ง!!!

โจวหว่านหรูพยายามควบคุมสติของตน และปรับสีหน้าให้เป็นปกติ นางไม่คาดคิดว่าหยางจิ่งจะมาที่จวนของนางในเวลาเช่นนี้

นางไม่ออกไปพบเขา แต่เขากลับมาที่นี่เสียเอง

นี่มันเรื่องใดกัน?

แต่ไหนแต่ไร เขาแทบไม่เคยเหยียบย่างมาที่จวนตระกูลโจวของนาง แม้ว่าท่านพี่ของนางจะเป็นสหายรักของเขา แต่ทว่าเขากลับเอ่ยวาจาเหน็บแนมพี่ชายนาง ทั้งที่สนิทสนมแต่ก็ยังแบ่งฐานันดรศักดิ์ ยามนั้นนางดีใจที่พี่ชายของนางสนิทสนมกับหยางจิ่ง เพราะนางจะได้แอบสอบถามความเป็นไปของเขา ว่าชอบหรือไม่ชอบสิ่งใดบ้างผ่านทางพี่ชายของตน

แต่ทว่ายามนี้นางเริ่มไม่เข้าใจแล้ว ว่าท่านพี่ของนางคิดสิ่งใดอยู่กันแน่ จึงไปสนิทสนมกับคนเช่นนี้ได้ นางไม่เข้าใจพี่ชายของนางเลยจริง ๆ

โจวอวี้หานยิ้มให้โจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"หวานหว่าน เจ้ามานี่สิ มาทำความเคารพองค์ชายใหญ่"

โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย นางลดคันธนูลง ก่อนจะทำความเคารพหยางจิ่งคราหนึ่ง

"ถวายพระพรองค์ชายใหญ่เพคะ"

"ไม่ต้องมากพิธี ฝีมือการยิงธนูของเจ้าช่างสง่างามยิ่งนัก"

โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบมองหยางจิ่งคราหนึ่งก็พบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นเดียวกัน

หยางจิ่งจ้องมองโจวหว่านหรูด้วยแววตาที่อ่อนโยน เขาไม่เคยเห็นนางในด้านนี้มาก่อน ทุกคราที่นางพบเขาจะต้องคอยเอาใจเขา อีกทั้งนางยังอ่อนหวาน ดูเป็นสตรีที่บอบบาง คราก่อนนั้นเขารังเกียจที่นางเสแสร้ง ได้ยินโจวอวี้หานบอกว่าแท้จริงแล้วโจวหว่านหรูนั้นมีวรยุทธ์ ฉลาดหัวไว และชอบเรียนการต่อสู้ เนื่องจากเป็นบุตรสาวจวนแม่ทัพ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาจึงเกลียดนาง คิดว่านางเสแสร้งทำดีเพื่อหวังผลประโยชน์จากเขา

แต่ยามนี้เขารู้แล้วว่านางต้องอดทนและฝืนตนเองมากเพียงใดเพื่อให้เขาพึงพอใจ ทั้งที่สิ่งจอมปลอมเหล่านั้นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของนาง

นางเด็ดเดี่ยว จนตายก็ไม่ยอมถูกคนชั่วผู้นั้นเอาเปรียบ จึงยอมเผาตนเองจนตายทั้งเป็นในตำหนักบูรพา

แม้ตัวตายนางก็ยังได้ชื่อว่าเป็นชายาเอกของเขา

เขารู้สึกชอบที่นางเป็นเช่นนี้ ท่าทีตอนนางยิงธนู แววตาของนางมุ่งมั่นเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวและหวาดหวั่นต่อสิ่งใด

โจวหว่านหรูที่ถูกหยางจิ่งจ้องมองเช่นนั้นก็รู้สึกไม่ชอบใจเล็กน้อย นางจึงหันไปเอ่ยกับโจวอวี้หานทันที

"พี่ใหญ่ ข้าเหนื่อยแล้ว อยากไปพักสักหน่อย เชิญท่านพี่กับองค์ชายใหญ่ตามสบายนะเจ้าคะ หากขาดเหลือสิ่งใดก็บอกเย่หยวนได้ นางรู้งานที่สุด"

"อืม เจ้าไปเถิด"

หยางจิ่งมีใจอยากจะรั้งโจวหว่านหรูให้อยู่นานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่กลับไม่อาจทำได้ 

แววตาที่นางมองเขาเหตุใดมันจึงทำให้เขาหนาวสะท้านและเศร้าในจิตใจอย่างแปลกประหลาด

หรือว่าเขาจะคิดมากเกินไป

"คุณหนูเจ้าคะ คุณชายเฉินมาขอพบคุณหนูเจ้าค่ะ"

ในขณะที่โจวหว่านหรูกำลังจะเดินกลับเรือนของตนไป สาวใช้น้อยผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาบอกนางว่าเฉินป๋อเหวินมาขอพบ โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้น แววตาก็ทอประกายขึ้นมา

"เฉินป๋อเหวินกลับมาจากทำการค้าแล้วหรือ?"

"เจ้าค่ะ บ่าวให้คุณชายเฉินไปรอคุณหนูที่ศาลาริมสระบัวแล้วเจ้าค่ะ"

"ได้ ข้าจะรีบไปพบเขาเดี๋ยวนี้"

โจวหว่านหรูส่งคันธนูให้เย่หยวน ก่อนจะบอกให้สาวใช้นางนั้นนำชาและขนมชั้นดีไปที่ศาลาริมสระบัว และรีบเดินมุ่งหน้าไปพบกับเฉินป๋อเหวินในทันที 

หยางจิ่งลอบกำมือแน่น เฉินป๋อเหวินชื่อนี้เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี

เขาคือบุตรชายเพียงคนเดียวของจวนคหบดีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงเป่ยฉิน การค้าทุกอย่างหากเข้ามือเขาย่อมทำเงินได้มหาศาล อีกทั้งตระกูลเฉินยังมอบเงินสนับสนุนให้แก่กองทัพทหารและมอบเงินเข้าคลังหลวงเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อฝ่าบาทอีกด้วย บิดาของเฉินป๋อเหวินนั้นเป็นสหายสนิทอีกหนึ่งคนของเสด็จพ่อเขา ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญอีกหนึ่งคนที่ช่วยสนับสนุนเงินทองมากมายให้เสด็จพ่อของเขาเมื่อครั้งที่ต้องออกศึกปกป้องแคว้นเป่ยฉิน

บุรุษผู้นี้รักโจวหว่านหรูอย่างสุดหัวใจ เขาเป็นบุรุษด้วยกันย่อมมองท่าทีของเฉินป๋อเหวินออก เขาเคยบอกโจวหว่านหรูว่า ให้นางไปแต่งกับเฉินป๋อเหวินเสีย เขายินดีหย่าขาดจากนาง และรับปากว่าจะไม่ถือสาที่นางเคยแต่งเป็นชายาเอกของเขา เขาไม่สนกฎระเบียบธรรมเนียมใดทั้งสิ้น ขอเพียงให้นางหายไปจากชีวิตของเขาก็พอ

หยางจิ่งถอนหายใจออกมาหนัก ๆ อีกครา เขาพยายามควบคุมจิตใจตนเองไว้ ยามนี้เขาทำสิ่งใดไม่ได้ ทำได้เพียงอดทนรอเวลาเพียงเท่านั้น

ชาตินี้ เขาจะต้องทำให้นางรักเขาอีกครา และเขาจะไม่มีวันทำให้นางเสียใจอีกเป็นอันขาด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 5 สหายสนิท

    โจวหว่านหรูรีบเร่งฝีเท้าไปที่ศาลาริมสระบัวในทันที เมื่อมาถึงก็พบกับเฉินป๋อเหวินที่ยามนี้สวมชุดสีขาว ในมือถือพัดโบกไปมา กำลังยืนมองไปที่สระบัวเบื้องหน้าด้วยแววตาที่อ่อนโยน"ป๋อเหวิน"เฉินป๋อเหวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้โจวหว่านหรูคราหนึ่งเขากับนางนับว่าเป็นสหายสนิทกันตั้งแต่วัยเยาว์ ยามนั้นนางติดตามบิดาไปอยู่ที่ชายแดน เฉินป๋อเหวินเองก็ได้ตามท่านพ่อของเขาไปค้าขายใกล้ชายแดนเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีหลายครั้งที่ตระกูลเฉินต้องเดินทางมาที่ชายแดนเพื่อช่วยเหลือเรื่องเสบียงอาหาร ตระกูลเฉินนับว่าร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งในเมืองหลวงแคว้นเป่ยฉิน ท่านพ่อของเขาสนับสนุนเสบียงและตั๋วเงินเข้าคลังหลวงทุกเดือน ฝ่าบาทเองก็ไว้วางพระทัยตระกูลเฉินไม่น้อย บางคราเฉินป๋อเหวินต้องมาทำการค้าและพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมติดกับชายแดนอยู่หลายเดือนวัน ทำให้เขาได้พบกับนางอยู่บ่อยครั้ง ด้วยนิสัยที่กล้าหาญและซุกซนของโจวหว่านหรู นางเคยช่วยเหลือเขาอยู่หลายครา ยามนั้นเขาตกลงไปในน้ำ เป็นนางที่กระโดดลงไปช่วยเขาอย่างไม่คิดชีวิต เขาในวัยเก้าขวบปียังคงจดจำโจวหว่านหรูเด็กสาวตัวน้อยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขาได้เป็นอย่างดี เขากั

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 6 องค์ชายตัวประกัน

    หยางจิ่งขยับกายเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ต้นไม้ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก พลางจ้องมองหยางจินจินและเจียงหมิงเจ๋อด้วยความสงสัยเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชาติที่แล้วหยางจินจินและเจียงหมิงเจ๋อจะรู้จักกันหรือว่าวันนั้นที่หยางจินจินต่อต้านการแต่งงานและบอกว่านางมีคนรักอยู่แล้ว บุรุษผู้นั้นก็คือเจียงหมิงเจ๋อเขาจำได้ว่าก่อนเสด็จพ่อจะสิ้นพระชนม์ เขาได้ข่าวว่าเจียงหมิงเจ๋อหนีออกจากเป่ยฉินได้สำเร็จ และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ยามนั้นเขาไม่ได้สนใจองค์ชายกบฏผู้นี้เท่าใดนัก จึงไม่ได้รับรู้ความเป็นไปของเจียงหมิงเจ๋ออีกเลย ได้ข่าวอีกคราก็พบว่าเจียงหมิงเจ๋อขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของแคว้นเยี่ยนไปเสียแล้วหลังจากเจียงหมิงเจ๋อขึ้นเป็นฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไม่นานเสด็จพ่อของเขาก็สวรรคตในสามวันให้หลัง บ้านเมืองก็นองไปด้วยโลหิต ด้วยฝีมือคนในที่ก่อกบฏสำเร็จเขาจ้องมองไปที่เจียงหมิงเจ๋อคราหนึ่ง บางอย่างบอกเขาว่าชาตินี้เขาจะต้องจับตาดูเจียงหมิงเจ๋อให้มากกว่าชาติที่แล้วหยางจิ่งขมวดคิ้วมุ่น คล้ายว่าในชาติก่อนจะมีเรื่องราวอีกหลายเรื่องที่เขายังไม่รู้?ด้านเจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตน จึงหยุดฝีเท้าก็หันไปมองคราหนึ่

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 7 สหายเล่าเรียน

    ยามเช้าของวันต่อมา หยางจินจินตื่นแต่เช้า ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ตำหนักของฉินกุ้ยเฟยในทันที ยามนี้วังหลังยังไม่มีฮองเฮาพระองค์ใหม่ ฉินกุ้ยเฟยจึงเป็นผู้ที่มีอำนาจปกครองวังหลังเพียงผู้เดียว ฝ่าบาทเองก็ทรงโปรดปรานและไว้ใจนางไม่น้อย ผู้คนต่างเล่าลือกันว่า ตำแหน่งว่าที่ฮองเฮาพระองค์ใหม่ย่อมต้องตกเป็นของฉินกุ้ยเฟยไม่ช้าก็เร็ว แต่ผู้ใดเล่าจะรู้ดีเท่าฉินกุ้ยเฟย เดิมทีพี่สาวของนางตายจากไปนานแล้ว นางเองก็อดทนกัดฟันเลี้ยงดูหยางจิ่งมาราวกับบุตรในอุทร ทั้งที่ความจริงนางเกลียดชังหยางจิ่งยิ่งนัก นางกับมารดาของหยางจิ่งเป็นพี่น้องต่างมารดากัน นางเป็นบุตรของภรรยารอง ต้องทุ่มเทกำลังแรงกายไปไม่ใช่น้อยกว่าจะมาอยู่ในตำแหน่งนี้ หากนางเป็นบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอก ยามนี้ตำแหน่งฮองเฮาคงตกเป็นของนางนานแล้ว ไม่ต้องมาทนรอคอยอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้!!!ฝ่าบาทเองก็ช่างกระไร นางทำดีถึงเพียงนี้ ผ่านมาหลายสิบปีกลับยังได้เป็นเพียงฉินกุ้ยเฟย ช่างน่าเจ็บใจนัก"ถวายพระพรฉินกุ้ยเฟยเพคะ"ฉินกุ้ยเฟยที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่มพลันปรายตามองหยางจินจินคราหนึ่ง เดิมทีนางไม่ได้ใส่ใจองค์หญิงที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยผู้นี้เท่าใดนัก แต่ทว่าฝ่าบ

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 8 เข้าวัง

    สามวันต่อมา ได้มีราชโองการจากฮ่องเต้หยางหลิงไท่ ประกาศให้คุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์ เข้าร่วมคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค์หญิงรองหยางจินจินเดิมทีหากไม่มีราชโองการจากฝ่าบาท เหล่าขุนนางก็พอจะหลับหูหลับตาไม่ส่งบุตรสาวของตนไป องค์หญิงรองนางนี้อย่างไรเสียพวกเขาก็หาผลประโยชน์อันใดจากนางไม่ได้อยู่แล้วแต่ทว่าเมื่อมีราชโองการออกมาเช่นนี้ ย่อมไม่อาจนิ่งเฉยได้พวกเขาจำต้องส่งบุตรสาวของตนเข้าร่วมคัดเลือกเป็นพระสหายเล่าเรียนในครานี้ด้วย ไม่เว้นแม้แต่ โจวหว่านหรูยามนี้โจวหว่านหรูกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงที่เรือนใหญ่ พลางมองดูมารดาของตนกำลังเย็บปักผ้าเช็ดหน้าอย่างประณีตงดงาม หากพูดเรื่องการบ้านการเรือนนั้น นางไม่เก่งเลยสักอย่าง นางชื่นชอบการยิงธนู ขี่ม้า ฟันดาบ แม้ท่านแม่จะสอนนางเท่าใดนางก็ไม่สามารถทำออกมาได้ดีเลยสักอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นท่านแม่ก็ไม่เคยบังคับนางให้ทำในสิ่งที่นางไม่ชอบเลยแม้แต่น้อย"หวานหว่าน อีกไม่กี่วันเจ้าจะต้องเข้าวังเพื่อคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค์หญิงรอง เจ้าเตรียมตัวให้ดีเล่า""เจ้าค่ะ"โจวหว่านหรูรับคำ ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวในกาลก่อนนั้นหลังจากที่นางตกหลุมรักหยางจิ่

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 9 พบโจทก์เก่า

    เจียงหมิงเจ๋อคล้ายรับรู้ได้ถึงสายตาของใครบางคนที่กำลังพุ่งเป้ามาที่ตน เขาจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตาของคนทั้งสองสบประสานกันในชั่วขณะนั้น โจวหว่านหรูพลันใจเต้นตึกตักจนแทบควบคุมตนเองไม่ได้ นางรีบเก็บสายตาของตนกลับคืนทันทีหากบอกว่าคนผู้นั้นที่ก่อกบฏแย่งชิงบัลลังก์น่ากลัวแล้ว คนที่น่ากลัวกว่าคนผู้นั้นก็คือเจียงหมิงเจ๋อ!!!หลังจากที่เจียงหมิงเจ๋อหนีออกไปจากแคว้นเป่ยฉินได้สำเร็จ นางไม่รู้เลยว่าเขาไปอยู่ที่ใด ยามที่เขายังอยู่ในวังหลวงนางได้พบกับเขาอยู่บ่อยครั้ง ในตอนนั้นนางคิดว่าเขาช่างน่าสงสารเหลือเกิน แต่ทว่าเมื่อได้รับรู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของเขา นางจึงได้รู้ว่าคนผู้นี้ช่างเสแสร้งแกล้งทำได้อย่างแนบเนียนจนน่าตกใจเจียงหมิงเจ๋อปรายตามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเดินจากไปพร้อมแม่นมที่คอยประคองเขา เมื่อลับสายตาผู้คน เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางคิดถึงสายตาที่โจวหว่านหรูมองตนเมื่อครู่นี้ด้วยความสงสัยเหตุใดแววตาของนางที่มองเขาจึงมีแต่ความหวาดกลัวและระแวดระวังเช่นนั้นเล่า?หรือนางจะรู้ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด? เป็นไปไม่ได้!!! ได้ยินว่านางคือเหล่าคุณหนูที่ถูกเรียกตัวเข้ามาคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 10 มีวาสนาร่วมกัน

    แน่นอนว่าการเข้าวังหลวงมาในครั้งนี้ เป้าหมายแรกไม่ใช่การเข้ามาค้นหาจุดเริ่มต้นของการเกิดโศกนาฏกรรมในชาติก่อน แต่มันคือการที่นางจะได้เข้ามาพบกับสหายรักอีกคราหยางจินจิน องค์หญิงรองผู้นี้ชาติที่แล้วคือสหายรักของนางยามที่นางเข้าวังหลวงมา ก็มักจะมีหยางจินจินที่สามารถพูดคุยด้วยได้ แม้ว่าหยางจิ่งจะไม่ชอบใจที่นางสนทนากับหยางจินจินเท่าใดนัก แต่ทว่านางหาได้ใส่ใจไม่ ทุกคราที่นางไม่สบายใจก็จะมีหยางจินจินที่รับฟังนาง องค์หญิงผู้ไร้เดียงสานางนี้ ชาติที่แล้วกลับพบจุดจบที่น่าเวทนาเหลือเกิน ยามมีชีวิตอยู่ก็ลำบากมากพอแล้ว กลับถูกพี่ชายเช่นหยางจิ่งกลั่นแกล้งและสร้างความลำบากให้เสมอ เพียงเพราะไม่ชอบหน้าและอยากหาที่ระบายอารมณ์นางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้รู้ข่าวว่าหยางจินจินถูกสังหารตายในคืนเข้าหอ นางร้องไห้จนทำสิ่งใดไม่ถูก กินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวันจนถึงขั้นล้มป่วยต้นเหตุมันมาจากหยางจิ่ง ที่สนับสนุนฝ่าบาทให้ส่งหยางจินจินไปแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่แคว้นฉีคนผู้นั้นช่างน่ารังเกียจและน่าชิงชังเหลือเกิน!!!"แม่นาง เจ้าช่วยรับผิงกั๋วในมือของข้าที ข้ากำลังจะลงไปแล้ว โอ๊ะ!!!"โจวหว่านหรูยังไม่ทัน

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 11 บรยากาศมาคุ

    หยางจิ่งที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงหันไปมองหยางเฉิงคราหนึ่ง เขาลอบกำหมัดแน่น ในใจคิดอยากจะฆ่าน้องชายร่วมบิดาให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อให้สาสมกับสิ่งชั่วช้าที่หยางเฉิงทำกับเขาและเสด็จพ่อ วางยาบิดาตนเอง สังหารพี่ชายตนเอง และทำให้ให้โจวหว่านหรูต้องฆ่าตัวตาย!!!แม้จะเกลียดชังหยางเฉิงจนแทบอยากจะดื่มเลือดกินเนื้อ แต่ทว่าหยางจิ่งจำต้องทำทุกอย่างให้ไร้พิรุธ เขาปรับสีหน้าตนให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้หยางเฉิงสังเกตเห็นความผิดปกติในชาติก่อนหยางเฉิงยอมเขาทุกอย่าง เขาเองก็วางตนใหญ่โตข่มเหงหยางเฉิง เพราะฉินกุ้ยเฟยตัวดีสั่งสอนเขาในทางไม่ดี บอกว่าเขาเป็นถึงองค์รัชทายาท ว่าที่ฮ่องเต้เป่ยฉินในภายภาคหน้า เขาไม่จำเป็นต้องเห็นหัวผู้ใด มีแต่ผู้อื่นที่จะต้องก้มหัวให้เขา ยามนั้นเขาหลงคิดว่าฉินกุ้ยเฟยรักเขาเหมือนบุตรแท้ ๆ ยามที่เขารังแกหยางเฉิงก็ไม่ตำหนิ อีกทั้งยังเข้าข้างเขา เขาอยากทำสิ่งใดก็ไม่เคยขัดใจเลยสักครา อีกทั้งยังออกรับแทนเขายามที่ถูกเสด็จพ่อตำหนิแต่ความจริงแล้วมันคือกับดัก กับดักที่หลอกให้เขาตายใจ เขาถูกขุนนางยื่นฎีกาว่าทำตัวไม่เหมาะสม รังแกพี่น้อง ไม่สนใจเล่าเรียน ทุบตีรังแกคนที่ด้อยกว่าทุกอย่างล้วนเป็นแ

    Last Updated : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 12 สหายเล่าเรียน

    ด้านหยางเฉิงนั้นหลังจากที่แยกตัวออกมาจากหยางจิ่งแล้ว เขาจึงมุ่งหน้ามาที่ตำหนักของฉินกุ้ยเฟยมารดาของตน ฉินกุ้ยเฟยที่เห็นว่าลูกรักมาหาก็ดีใจไม่น้อย รีบให้นางกำนัลนำชาร้อนและของว่างมาให้หยางเฉิง ก่อนจะไล่เหล่าข้ารับใช้ออกไปด้านนอกจนหมด เมื่อในตำหนักเหลือเพียงพวกนางสองคนแม่ลูกแล้ว นางจึงเอ่ยถามหยางเฉิงทันที"ผู้ใดทำให้อาเฉิงของแม่อารมณ์เสียมากัน"ฉินกุ้ยเฟยเอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปจับไหล่บุตรชายของตนอย่างรักใคร่ หยางเฉิงในยามนี้นั้นสลัดทิ้งท่าทีองค์ชายรองผู้สง่างามและจิตใจดีออกไปจนหมดสิ้น แววตาของเขาดุดัน เขากำมือตนเองแน่น ก่อนจะเอ่ยกับมารดาของตน"เสด็จแม่ ข้าเกลียดหยางจิ่ง!!!""ช้าก่อน อย่าส่งเสียงดังไปสิ ใจเย็น ๆ ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ"หยางเฉิงควบคุมตนเองไม่อยู่แล้ว เขาอยากจะหาใครสักคนมาระบายความเกลียดชังนี้ออกไป"อาเฉิง""เสด็จแม่ หยางจิ่งดูแปลกไปพ่ะย่ะค่ะ ลูกพูดจายุแยงให้มันโมโหเหมือนทุกครา แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่ใส่ใจ อีกทั้งยังดูสนิทสนมกับหยางจินจินอีกด้วย"ฉินกุ้ยเฟยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ระยะนี้นางไม่ได้ใส่ใจหยางจิ่งเท่าใดนัก แม้เขาจะมาพบนางแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีแปลกไปมิใช่หรือ"เ

    Last Updated : 2025-04-21

Latest chapter

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   ตอนพิเศษ

    ค่ำคืนนี้ช่างเหน็บหนาวนัก แต่ทว่าภายในตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนนั้นกลับคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งปรารถนาเจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูแต่งงานกันมาร่วมปีแล้ว แต่ทว่ายังคงไม่มีบุตร อาจเพราะได้รับพิษในครานั้น ทำให้การมีบุตรไม่ใช่เรื่องง่ายบนเตียงใหญ่ เจียงหมิงเจ๋อกำลังตระกองกอดร่างบางระหงตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบดขยี้อย่างเร่าร้อนราวกับคนเอาแต่ใจ ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของนางและเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามัน ยามนี้ร่างกายของคนทั้งสองเปลือยเปล่า กลิ่นหอมกำยานอ่อน ๆ ยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้ลุกโหมมากยิ่งขึ้น เจียงหมิงเจ๋อผละริมฝีปากออกจากนาง แล้วจึงจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาเรื่อย สองมือหนาใหญ่บีบขยำดอกบัวงามทั้งสองข้างของนางอย่างเต็มไม้เต็มมือ พร้อมกับครอบริมฝีปากกลืนกินจุกบัวสีหวานอย่างลำพองใจ โจวหว่านหรูส่งเสียงครางกระเส่าพลางบิดกายเร่า ๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่าน กายสาวถูกบุรุษตรงหน้าลูบคลำเชยชมอย่างไม่ยอมลดละ เจียงหมิงเจ๋อสอดแทรกแท่งหยกสวรรค์เข้าไปในกายของนาง ก่อนจะขยับกายอย่างช้า ๆ แล้วเร่

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 66

    ยามนี้เจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูกำลังเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินเพื่อมุ่งหน้าออกจากวังหลวง ฉับพลันนางก็หันมาเอ่ยถามเขา“เจียงหมิงเจ๋อ ท่านเอ่ยสิ่งใดฝ่าบาทจึงเห็นด้วยง่ายดายเช่นนี้ ข้าคิดว่าจะไม่ทรงเห็นด้วยเสียอีก”เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมามองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ โจวหว่านหรูหนังตากระตุกรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าเริ่มจะออกอาการเจ้าเล่ห์ใส่นางอีกแล้ว“อย่ามองข้าแบบนี้สิ”“ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ข้าเอ่ยเพียงว่า ขอเพียงมีเจ้าข้างกาย และครอบครัวของเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ใต้หล้านี้ข้ายกให้แคว้นเป่ยฉินทั้งหมด ข้าขอมีเพียงแคว้นเยี่ยนและมีเจ้าก็พอ”โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“ท่านทำได้จริง ๆ หรือ”“ทำได้สิ คนอย่างข้าไม่เคยเอ่ยวาจาโป้ปด”“แต่ท่านเคยแกล้งป่วยนะ”“โจวหว่านหรู เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ที่ข้าทำเพราะความอยู่รอดเพียงเท่านั้น”โจวหว่านหรูจ้องมองเจียงหมิงเจ๋อด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย“หากไม่เชื่อ ข้าคงไม่เลือกท่าน”เจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้าง โจวหว่านหรูพลันใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขา“เจ้าจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกข้า

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 65

    โจวหว่านหรูเดินทางกลับมาที่แคว้นเป่ยฉิน หยางจิ่งที่ได้รู้ข่าวว่าโจวหว่านหรูกลับมาถึงแล้ว ก็รีบมาพบนางในทันทีสตรีตรงหน้ายามนี้งดงามเป็นสาวงามสะพรั่งแล้ว โจวหว่านหรูหันมามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เขาเล็กน้อยหลายปีที่ไม่ได้พบกัน มันทำให้นางเข้าใจหัวใจตนเองได้อย่างชัดเจนแล้วนางไม่อาจกลับไปรักเขาเฉกเช่นเดิมได้อีก แม้ในใจของนางจะไม่สามารถตัดขาดจากหยางจิ่งได้อย่างสนิทใจ แต่ทว่านางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเขาแล้ว นางไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังติดค้างสิ่งใดกับนางอยู่ บางคราทุกสิ่งที่มันเปลี่ยนไปแล้วย่อมไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก จะคงไว้เพียงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตที่จะให้จดจำแม้จะดูเหมือนสตรีที่เห็นแก่ตัว แต่โจวหว่านหรูคิดเสมอว่าในเมื่อนางมีชีวิตอีกชาติหนึ่งแล้ว นางควรมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่นางต้องการคราก่อนนางยังไม่แน่ใจในหัวใจของตนเองมากเท่าใดนัก แต่เมื่อได้หลับฝันไปตื่นหนึ่ง ได้รู้ความจริงบางอย่าง ใจของนางก็เริ่มชัดเจนขึ้นหยางจิ่งคือรักแรกของนางส่วนเจียงหมิงเจ๋อคือคนที่นางเลือก เพราะไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้เขาคือคนที่ทำเพื่อนางมากที่สุด“หวานหว่าน เจ้ากลับมาแล้ว”หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 64

    เช้าวันต่อมา โจวหว่านหรูควบม้ามุ่งหน้าไปยังทิศทางของประตูวังหลวง ระหว่างทางนั้นนางมองเห็นหยางจิ่งที่ยืนมองนางอยู่ที่ด้านหน้าประตู เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด ดูแล้วช่างงดงามสง่าราวกับเทพเซียน นางสั่งให้ม้าหยุด ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า และเดินตรงเข้ามาหาเขา หยางจิ่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"แต่งเป็นบุรุษเช่นนี้นับว่าไม่เลวเลย"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"อืม"หยางจิ่งจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ย"หวานหว่าน เจ้าจะกลับมาเมื่อใด"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหนึ่งปี สามปี หรือห้าปี ข้าอยากจะไปทำตามความฝัน ท่องไปในยุทธภพ"หยางจิ่งจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขาอยากยื่นมือไปดึงรั้งนางใจจะขาด แต่ทว่าอีกใจก็ไม่อยากทำลายสิ่งที่นางถวิลหา ตั้งแต่ได้รู้ว่านางตั้งใจจะไปท่องเที่ยวทั่วทั้งใต้หล้า เขาก็ตกใจไม่น้อย เดิมทีคิดจะพานางเข้าวัง แต่งนางเป็นชายาเอก แต่ทว่านางกลับปฏิเสธเขาข้ายังไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ใดในยามนี้"ข้าจะรอเจ้า ต่อให้รอทั้งชีวิต ข้าก็จะรอ"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โจวหว่านห

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 63

    ที่ตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนยามนี้มีเหล่าทหารกำลังผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยาม โจวหว่านหรูรีบตรงมาที่แห่งนี้ทันทีที่ได้ทราบเรื่องราวจากหยางจินจินแท้จริงแล้วนางไม่ได้ฝัน เป็นเขาจริง ๆ ที่ช่วยนาง เขาป้อนโลหิตให้นางดิื่มเพื่อระงับพิษไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนาง"ข้าอยากพบเจียงหมิงเจ๋อ"เหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามปรายตามองนางคราหนึ่ง แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด โจวหว่านหรูที่กำลังร้อนใจ พลันจ้องมองสตรีนางหนึ่งที่เดินออกมาจากตำหนักมังกรสวรรค์ นางสวมชุดเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้างดงามไม่น้อย นางจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้าก็คือโจวหว่านหรูกระมัง"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง สตรีนางนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าคือพระสนมเอกของฝ่าบาท ยามนี้ฝ่าบาทคงกำลังรอพบเจ้าอยู่ เจ้าเข้าไปเถิด"ฟ่านฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปไม่แม้แต่จะมองนางอีก โจวหว่านหรูไม่รอช้ารีบเข้าไปด้านในทันที เมื่อมาถึงนางก็พบกับเจียงหมิงเจ๋อที่กำลังเอนกายนอนพิงขอบเตียง ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวราวกับคนป่วยไข้ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามา เขาจึงหันไปมองคราหนึ่ง ก่อนที่แววตาจะฉาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 62

    หยางจิ่งนั้นยามนี้กำลังเดินออกมาจากตำหนักเหลียนฉง เมื่อออกมาก็ได้พบกับโจวอวี้หาน เฉินป๋อเหวิน รวมถึงหยางจินจินที่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก เขามีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้ามาได้เช่นไรกัน"โจวอวี้หานยิ้มให้หยางจิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าเป็นห่วงน้องเล็กจึงรีบติดตามมาสมทบกับเจ้า เฉินป๋อเหวินและหยางจินจินก็เป็นห่วงนางเช่นกัน จึงขอติดตามข้ามาด้วย"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าอยากให้เจ้าช่วยดูนางสักระยะ ข้ามีเรื่่องต้องไปจัดการ”โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที"เรื่องใดหรือ"หยางจิ่งถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"สมุนไพรที่ใช้ถอนพิษไม่เพียงพอ ข้าจำต้องขึ้นเขาไปเก็บมันมา""ข้าไปกับท่านด้วย"หยางจิ่งหันไปจ้องมองเฉินป๋อเหวินคราหนึ่ง ก่อนจะพบว่าในดวงตาของเฉินป๋อเหวินดูเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวงอันใดกัน เขาจึงเอ่ยกับเฉินป๋อเหวินด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรมากกว่าเดิม"ทางไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขา ข้าได้ยินว่ามันทั้งหนาวเหน็บและอันตรายไม่น้อย กลับมาแล้วอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้า...""ต่อให้ต้องตาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 61

    เจียงหมิงเจ๋อปรายตามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้น เหล่าทหารแคว้นเยี่ยนของเขาก็พุ่งเข้าสังหารทหารแคว้นฉีในทันที อู๋เจี๋ยตื่นตระหนกไม่น้อย เพียงมองอาภรณ์ที่สวมใส่เขาก็พอคาดเดาได้ไม่ยากว่าผู้มาใหม่นี่คือใครฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเช่นนั้นหรือ!!!เจียงหมิงเจ๋อจ้องมองอู๋เจี๋ยคราหนึ่ง ก่่อนจะเอ่ย"เจ้าสินะ ที่ขโมยศีรษะของเจียงหย่งหลางส่งไปให้ฮ่องเต้แคว้นเป่ยฉิน ศีรษะของพี่ชายข้าก็เสียบประจานอยู่ที่หน้าประตูชายแดนดี ๆ เจ้ากลับไร้มรรยาทเอาหัวเขาไปเที่ยวเล่น ช่างบังอาจนัก!!!"อู๋เจี๋ยตกใจไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าแผนการทั้งหมดของเขาจะถูกล่วงรู้ได้รวดเร็วเช่นนี้เขารู้ว่ายามนี้ไม่อาจต่อกรได้แล้ว เจียงหมิงเจ๋อพาทหารแคว้นฉู่ที่ยามนี้รวมเป็นหนึ่งกับแคว้นเยี่ยนบุกเข้ามาเพื่อจัดการเขา มันเป็นไปได้เช่นไรไม่ใช่ว่าเจียงหมิงเจ๋อต้องสังหารหยางจิ่งหรอกหรือ!!!อู๋เจี๋ยไม่รั้งรอ เขารีบควบม้าคิดจะหนี เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก มีหรือที่เขาจะปล่อยศัตรูให้รอดไปได้ ใครที่มันคิดรุกรานเขา เขาไม่เคยเก็บเอาไว้เจียงหมิงเจ๋อคว้าคันธนูมาจากฟ่านเฉียน ก่อนจะยกขึ้นเล็งไปที่อู๋เจี๋ย ลูกธนูพุ่งฝ่าอากาศก่อนจะทะลุเข้าไปที่กลางอกข

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 60

    โจวหว่านหรูสวมชุดเกราะเตรียมออกรบ ในมือของนางถือดาบยาวที่ส่องประกายวาววับ ก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้าและพุ่งทะยานออกไปที่ประตูชายแดนในทันที โดยมีหยางจิ่งและโจวอวี้หานเป็นผู้นำทัพ ยามนี้แขนของท่านพ่อนางดีขึ้นมากแล้ว เมื่อภัยมาถึงด้วยนิสัยของท่านพ่อย่อมไม่อาจอยู่เฉยได้ด้านหยางจินจินนั้นคอยดูแลเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บและถูกหามกลับเข้ามา ใจของนางสั่นไหวไม่น้อยหยางจิ่งที่ควบม้ามายังสนามรบ เมื่อได้มองเห็นกองกำลังทหารเรือนแสนที่แคว้นฉียกทัพมาก็จ้องมองด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะมองไปที่อู๋เจี๋ยซึ่งเป็นผู้นำทัพออกรบอู๋เจี๋ยจ้องมองหยางจิ่งอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน ก่อนจะปรายตามามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ในใจนึกเสียดายที่ไม่อาจนำสาวงามนางนี้มาครอบครองได้ หากเขารบชนะศึกในครานี้และหยางจิ่งพ่ายแพ้ เขาจะลากตัวนางกลับแคว้นฉีและทรมานให้สาแก่ใจโจวหว่านหรูจ้องมองอู๋เจี๋ยด้วยแววตาเกลียดชัง"ไม่คิดว่าคนแคว้นฉีจะตีสองหน้าได้เก่งกาจปานนี้ อาศัยช่วงที่ทัพของข้าอ่อนไหว ตลบหลังได้อย่างหน้าไม่อาย"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ อู๋เจี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ว่าแคว้นฉีขอ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 59

    หยางจิ่งรีบเข้ามากอดโจวหว่านหรูทันที ก่อนจะเอ่ย"เจ้ากลับมาแล้ว รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใด ข้าแทบจะพลิกแผ่นดินตามหาเจ้า"โจวหว่านหรูไม่ได้ขัดขืนหยางจิ่ง ยังคงปล่อยให้เขากอดนางอยู่เช่นนั้น"ข้าเหนื่อยแล้ว"นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เช่นนั้นเรากลับเป่ยฉินกันเถิด"หยางจิ่งกำลังจะพาโจวหว่านหรูเดินไปยังรถม้า แต่ทว่านางกลับรั้งมือของเขาเอาไว้ หยางจิ่งหันกลับมามองนางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"มีสิ่งใดหรือ"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่ง ก่อนจะเอ่ย"ข้าหายไปแคว้นเยี่ยนตั้งหลายวัน ท่านไม่สงสัยข้าเลยหรือ"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือมาลูบศีรษะของนางอย่างรักใคร่"ข้าไม่สนใจ และไม่ติดใจเรื่องใดทั้งสิ้น ข้ารู้ว่าคนเช่นเจ้าหากถูกเอาเปรียบเจ้ายอมตายดีกว่า จริงหรือไม่"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าให้เขา หยางจิ่งชะงักไปชั่วขณะ เขารู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ของนางเขาไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว แต่วันนี้นางกลับยิ้มให้เขาอีกคราโจวหว่านหรูก้าวขึ้นมานั่งบนรถม้า ก่อนจะหันมามองหยางจินจินที่นั่งอยู่ หยางจินจินก็ห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status