Home / รักโบราณ / ดอกไม้ในเปลวเพลิง / บทที่ 29 วางแผนขอสมรสพระราชทาน

Share

บทที่ 29 วางแผนขอสมรสพระราชทาน

last update Last Updated: 2025-03-01 16:32:01

เมื่อพระชายากู้ชุนฉือยังคงสงวนท่าที จงเฝิ่นลู่ผู้ซึ่งนั่งฟังผู้ใหญ่สนทนาอย่างเรียบร้อยในจวนอ๋อง เมื่อกลับมาถึงจวนเสนาบดีกรมคลัง นางก็ปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บกดไว้ออกมาจนหมด สาวใช้ผู้เคราะห์ร้ายยกน้ำชาพร้อมขนมมาวางบนโต๊ะ จงเฝิ่นลู่มองไปที่ขนมแล้วก็กรี๊ดออกมาดังมาดัง ๆ

“กรี๊ดดดด ขนมคู่รักนี่ใครซื้อมา” นางหยิบขนมแท่งยาว ๆ มีสีแดงเหลืองพันเป็นเกลียว ขว้างลงไปบนพื้น เล็บแหลม ๆ ข่วนเข้าที่แก้มของสาวใช้ เสียงดังแควก เลือดสีแดงสดค่อย ๆ ซึมออกมา นางจิกผมของสาวใช้แล้วกระชากอย่างแรง

“โอ๊ย คุณหนู บ่าวผิดไปแล้ว คุณหนู ยกโทษให้บ่าวด้วย” สาวใช้ร้องด้วยความเจ็บเบา ๆ ไม่กล้าส่งเสียงดัง ไม่รู้หรอกว่าผิดอะไร แต่ขออภัยไว้ก่อนดีกว่า

ฮูหยินเสนาบดีกรมคลังยกมือห้ามปราม “พอแล้วลู่เอ๋อร์ ปล่อยเด็กไปเถอะ ระวังเล็บหัก”

จงเฝิ่นลู่คลายมือจากศีรษะ สาวใช้รีบเก็บขนมบนพื้นแล้วออกไปให้พ้นหน้าโดยเร็ว คุณหนูจวนนี้อารมณ์ร้ายมาก ถ้าไม่ใช่เพราะติดสัญญาซื้อขายก็คงไม่อยู่ด้วยแล้ว

จงเฝิ่นลู่ยังคงนั่งหน้าบึ้ง “ข้าไม่ชอบชื่อขนม แล้วก็ไม่ชอบพระชายาด้วย นางไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา”

“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้พวกเราเข้าวังกัน ท่านน้าของเจ้าอาจช
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 30 ว่าที่ลูกสะใภ้จวนฉินอ๋อง

    ฮูหยินเสนาบดีกรมคลังตัดสินใจเอ่ยตรง ๆ กับน้องสาวผู้สูงศักดิ์ว่า“ฉินอ๋องยังไม่มีหญิงคนรัก แต่เมื่ออยู่เมืองหลวงเขาเข้าออกจวนอดีตแม่ทัพใหญ่เกือบทุกวัน นอกจากคุณชายสุ่ยแล้ว ที่นั่นยังมีบุตรีของอดีตแม่ทัพใหญ่ด้วย หากปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน หม่อมฉันเกรงว่าคุณหนูในห้องหออย่างลู่เอ๋อร์จะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของพี่น้องคู่นั้นเพคะ”ฮูหยินเสนาบดีกรมคลังถอนหายใจ ก่อนกล่าวต่อไปว่า “ตอนนี้ฉินอ๋องไปแก้ไขปัญหาอุทกภัยทางดินแดนใต้ ขุนนางท้องถิ่นก็ส่งบุตรีมาดูแลถึงที่พักเพคะ”“แล้วพี่หญิงคิดว่าข้าจะช่วยได้อย่างไร”“ขอสมรสพระราชทานระหว่างฉินอ๋องและลู่เอ๋อร์เพคะ เมื่อมาเป็นเขยของตระกูลก็ย่อมต้องสนับสนุนองค์ชายรอง”ใบหน้าของจงเฝิ่นลู่กลับมามีสีแดงเข้มอีกครั้ง ครั้งนี้มิใช่เขินอาย แต่กลับเป็นอับอายเล็กน้อยที่ต้องขอสมรสพระราชทานโดยว่าที่เจ้าบ่าวไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่มีวิธีใดจะราบรื่นไปกว่านี้อีกแล้ว เมื่อมีเส้นสายอย่างน้าสาวผู้สูงศักดิ์ ก็จงใช้เส้นสายให้เกิดประโยชน์เมิ่งกุ้ยเฟยมองจงเฝิ่นลู่อย่างเอ็นดู หลานสาวของนางหน้าตางดงาม อีกทั้งเป็นบุตรีภริยาเอกของเสนาบดีกรมคลัง คุณสมบัติเช่นนี้ก็สมควรใช้ให้เกิดประโยชน์“ลู่เอ

    Last Updated : 2025-03-02
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 31 คุณหนูสุ่ยเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว

    กว่าท่านหมอจะมาถึงเรือน เหอฮวาก็แทบจะหมดลมหายใจ ความเจ็บปวดรวดร้าวจู่โจมระลอกแล้วระลอกเล่า สาวใช้ก็วิ่งวุ่นต้มน้ำร้อนบ้าง หยิบจับสิ่งของส่งให้ตามแต่ท่านหมอจะสั่ง เหงื่อเม็ดเป้ง ๆ ผุดขึ้นเต็มใบหน้าของเหอฮวาผสมกับน้ำตาของนางอย่างเข้ากันดี“คลอดแล้ว คลอดแล้ว” สาวใช้ส่งเสียงดังเมื่อร่างเล็กกระจ้อยร่อยออกมาจากตัวมารดา ท่านหมอตัดสายสะดือแล้วยกเด็กขึ้นตีก้นเบา ๆ เสียงร้องไห้จึงดังขึ้น เหอฮวาเหลือบตามองทารกที่ยังอยู่ในมือท่านหมอ คำแรกที่นางถามคือ“เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเจ้าคะ”“ท่านได้ลูกสาว เด็กคลอดก่อนกำหนดจะอ่อนแอเล็กน้อย ต้องเอาใจใส่ให้มาก”เหอฮวาหลับตาลง ความผิดหวังจู่โจมเข้ามาอย่างเต็มหัวใจ เดิมนางหวังว่าเด็กคนนี้จะเป็นชาย เมื่อเมิ่งหยางกลับมาเขาจะต้องดีใจหากนางคลอดบุตรชายให้เขา แต่เด็กนี่เป็นผู้หญิง เมิ่งหยางต้องไม่พอใจแน่ ๆ เขาเคยแสดงท่าทีรำคาญเด็กผู้หญิง แต่ชื่นชมเด็กผู้ชาย เขามีความคิดว่าผู้ชายเท่านั้นสามารถสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลได้ ผู้หญิงต้องพึ่งพาสามีจึงจะมีความเป็นอยู่ที่ดีนางหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งท่านหมอก็จากไปแล้ว มีเพียงทารกน้อยในห่อผ้าวางอย

    Last Updated : 2025-03-02
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 32 ลูกของใคร

    อยู่ ๆ สุ่ยเฉินเฟิงก็ถามผู้คนที่มุงดูหนูน้อย “นางชื่ออะไร”ทุกคนมองหน้ากันแล้วก็ส่ายหน้า ถิงถิงค้นตระกร้าแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาบอกว่า “ไม่มีชื่อติดมาด้วยเจ้าค่ะ ไม่มีป้ายหยก ป้ายชื่อ หรือว่าอะไรติดมาด้วยเหมือนในเรื่องของนักเล่าเรื่องทั้งหลาย”สุ่ยเฉินเฟิงกรอกตามองบนแล้วหัวเราะ “ถิงถิง เจ้าชอบฟังนิยายประโลมโลกมากเกินไปแล้ว งั้นข้าจะเรียกนางว่าเพียวเพียว”“คุณหนูตั้งชื่อให้นาง จะเลี้ยงไว้หรือเจ้าคะ” ถิงถิงถามอย่างสงสัย“คงเลี้ยงไม่ได้หรอก เราไม่รู้ว่าเด็กคนนี้พ่อแม่นำมาทิ้งไว้เองหรือถูกลักพาตัวมา ต้องรอปรึกษาท่านแม่ อีกครึ่งเดือนท่านแม่จึงจะกลับมา”“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรกับนางเจ้าคะ”“ข้าจะเลี้ยงไว้ชั่วคราวก่อน” สุ่ยเฉินเฟิงหันไปทางพ่อบ้านซึ่งก็มามุงดูทารกน้อยด้วย “พ่อบ้านช่วยสั่งให้คนไปดูที่ตงฉาน ว่าแม่นางเหอคลอดบุตรหรือยัง เป็นหญิงหรือชาย บุตรของนางยังอยู่ที่นั่นหรือไม่”พ่อบ้านรับคำ แล้วเดินออกไปสั่งบ่าวใช้ชายให้เร่งเดินทางไปที่ตงฉานสุ่ยเฉินเฟิงหันมามองทารกน้อยแล้วบอกถิงถิงว่า “เจ้าไปที่ร้านหมอ เชิญลุงหมอมาตรวจร่างกายนางหน่อย นางตัวผอมเหลือเกินดูบอบบางจนข้าไม่กล้าแตะ”เมื่อท่านหมอประจำ

    Last Updated : 2025-03-03
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 33 สืบหาที่มาของทารกน้อย

    เหมยกุ้ยก็ได้ข่าวการการตั้งครรภ์ของสุ่ยเฉินเฟิง นางฟังแล้วความโกรธพุ่งจี๊ดขึ้นสมอง ข่าวไปถึงหูนางตอนกลางคืน วันรุ่งขึ้นนางจึงเดินทางไปถึงจวนอดีตแม่ทัพใหญ่ตั้งแต่ตะวันเพิ่งขึ้น เข้าประตูจวนก็เห็นสหายรักในเครื่องแต่งกายที่เรียบง่ายยืนอุ้มทารกอยู่ในลานหน้าของจวน สุ่ยเฉินเฟิงสวมใส่เสื้อสีฟ้าอ่อน เป็นผ้านิ่มลื่นไม่ปักลวดลาย บนศีรษะปักปิ่นมุกเรียบง่าย“ลูกใครน่ะ” คำแรกที่เหมยกุ้ยเอ่ยเมื่อพบหน้าสหาย เสียงแหลมและดังมาก“จุ๊ จุ๊ เบาหน่อย เดี๋ยวเพียวเพียวตกใจ” สุ่ยเฉินเฟิงจุ๊ปากเหมยกุ้ยจึงลดเสียงลง “เจ้าไปเอาลูกใครมาเลี้ยง ทั้งตลาดลือกันทั่วว่าเจ้าตั้งครรภ์โดยยังไม่มีพิธีแต่ง”“ห๊า!!!!” สุ่ยเฉินเฟิงร้องเสียงหลง ครั้งนี้เป็นนางเองที่ส่งเสียงทั้งแหลมทั้งดัง ร่างกระจ้อยร่อยที่ซบบ่าของนางสะดุ้งทั้งตัว สุ่ยเฉินเฟิงรีบเอามือลูบหลังเบา ๆ “โอ๋ โอ๋ อย่าตกใจนะหนูน้อย”เหมยกุ้ยเดินอ้อมมาข้างหลังสุ่ยเฉินเฟิง มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ซบบ่าของเพื่อน ร่างนั้นสวมใส่เสื้อเด็กที่หนานุ่ม มีหมวกเด็กอ่อนบนศีรษะด้วย โผล่ออกมาแค่วงหน้าเท่านั้น ผิวของเพียวเพียวยังคงเหี่ยวย่น“นางป่วยหรือ ผิวหน้านางย่นมาก คงจะเจ็บ” เหมยกุ้ย

    Last Updated : 2025-03-03
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 34 ตามล่าต้นตอของข่าวลือ

    เหมยกุ้ยหันมาถามถิงถิงว่า “ถิงถิงแน่ใจนะว่าผู้หญิงพวกนั้นเป็นคนของฮูหยินลั่ว”ถิงถิงยืนยันว่า “บ่าวเคยเห็นติดตามฮูหยินลั่วไปซื้อของถึงสองครั้ง และเดินอยู่กับคหบดีลั่วครั้งหนึ่งเจ้าค่ะ”“คนใส่ร้ายครั้งนี้จะใช่คนของเรือนคหบดีลั่วหรือไม่ ข้าจะไปถามให้ชัดเจน” สุ่ยเฉินเฟิงดึงนิ้วออกมาจากมือเพียวเพียวที่กำไว้แน่น นางลูบแขนเล็ก ๆ บอกว่า “เจ้ารอพี่สาวอยู่ที่นี่นะ พี่สาวไปทำธุระก่อน” แม่ครัวรีบเข้ามาดูแลทารกน้อยสุ่ยเฉินเฟิงเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย แล้วสั่งรถม้าประจำจวนให้ไปส่งที่เรือนคหบดีลั่ว เหมยกุ้ยและถิงถิงก็ไปด้วยกัน เรือนคหบดีลั่วใหญ่โตและเต็มไปด้วยสีสัน วัสดุก่อสร้างแต่ละอย่างล้วนมีราคาแพง ทุกชิ้นมีขนาดใหญ่สะดุดตา แต่เมื่อนำมาประกอบกันแล้วกลับมองดูเลอะเทอะ“สิ่งที่หาซื้อไม่ได้ก็คือรสนิยมจริง ๆ” เหมยกุ้ยเปรยเมื่อรถม้าจอดหน้าเรือนสุ่ยเฉินเฟิงแจ้งแก่สาวใช้ของเรือนว่าบุตรีอดีตแม่ทัพใหญ่สุ่ยลี่หรงมาพบฮูหยินลั่ว สาวใช้ฟังแล้วก็รู้สึกว่าคนในสังคมชั้นสูงมาหาเจ้านายถึงเรือนต้องต้อนรับให้ดี เชิญไปรอในห้องโถง ความฉูดฉาดของเฟอร์นิเจอร์ทำให้สีเสื้อของหญิงสาวทั้งสามดูจืดชืดไปเลยฮูหยินลั่วเมื่อได้ยินว

    Last Updated : 2025-03-04
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 35 ปะทะคารม

    เช้าวันรุ่งขึ้น เรือนคหบดีลั่วเกิดความปั่นป่วน สำนักตรวจสอบส่งคนเข้าตรวจสอบการก่อสร้างห้องเรียนของสำนักศึกษาสำหรับเด็ก คหบดีลั่วเป็นเจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้าง วัสดุที่นำมาก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตกระฉ่อนไปทั้งเมืองหลวงสุ่ยเฉินเฟิงและเหมยกุ้ยนั่งจิบชาหอมหมื่นลี้ด้วยกันอย่างสบายอารมณ์ สุ่ยเฉินเฟิงหยิบขนมกุ้ยฮวาส่งให้ “ขนมกุ้ยฮวานี้ ข้าทำพิเศษเพื่อขอบคุณเจ้าเลยนะ”“ข้าก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เรื่องนี้มีคนร้องเรียนมาระยะหนึ่งแล้ว ลูกพี่ลูกน้องของข้ามีหน้าที่ตรวจสอบ เขารวบรวมหลักฐานและกำลังจะเข้าตรวจอยู่พอดี ข้าก็เลยเร่งรัดไปหน่อยเท่านั้น เขาก็ตรวจทันที ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เหมยกุ้ยหัวเราะเสียงดัง “ทำไมลูกพี่ลูกน้องของเจ้าจึงตามใจเจ้ามากอย่างนี้”“เขาติดหนี้บุญคุณข้า ครั้งนี้ก็ชดใช้หมดพอดี”หญิงสาวทั้งสองพูดคุยกันอย่างออกอรรถรส เพียวเพียวนอนส่งเสียงอ้อแอ้อยู่ใกล้ ๆ วันนี้ผิวเริ่มหายเหี่ยวย่นแล้ว น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คหบดีลั่วเข้าใจผิดว่าการตรวจสอบครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะฮูหยินของเขาไปพูดจาไม่ดีกับบุตรีอดีตแม่ทัพใหญ่และบุตรีของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่มาเยือนเมื่อวาน หัวหน้าผู

    Last Updated : 2025-03-04
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 36 นางคือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    สุ่ยเฉินเฟิงและเหมยกุ้ยขยับตัวหันหลังให้โถงกลาง พลันสีหน้าก็เปลี่ยนอีกครั้ง สุ่ยเฉินเฟิงเหยียดมุมปาก แล้วพูดเบาพอให้ได้ยินเฉพาะกลุ่มว่า “งานเลี้ยงจะแปดเปื้อนก็เพราะมีพวกทุจริตเข้ามาปะปนนี่แหละ”ฮูหยินลั่วได้ฟังแล้วก็ระเบิดอารมณ์ “พวกเจ้าก้าวร้าวไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตา นิสัยเช่นนี้ใครจะอยากรับเป็นสะใภ้เข้าจวน ไม่มีคนมาสู่ขอสินะ”สายตาของฮูหยินลั่วกวาดตามองขึ้น ๆ ลง ๆ ทั่วร่างของสุ่ยเฉินเฟิง ทำให้เหวินอิงบุตรชายคนเล็กของจวนเสนาบดีกรมโยธาหันสายตามามองด้วยวันนี้สุ่ยเฉินเฟิงสวมใส่เสื้อสีม่วงอ่อน สายรัดเอวสีม่วงเข้มปักด้วยด้ายเงินสวยงาม มวยผมประดับด้วยปิ่นดอกไม้สีเงิน เกสรดอกไม้เป็นอัญมณีสีม่วงขนาดใหญ่ มีระย้าเป็นดอกไม้เงินเล็ก ๆ สลับกับอัญมณีสีม่วงขนาดเล็ก เมื่อนางเคลื่อนไหวระย้าจะแกว่งไปมา เกิดแสงระยิบระยับกระทบสายตาผู้คน ขับให้ใบหน้านั้นสวยเด่นขึ้นอีก เหวินอิงมองด้วยสายตาหลงใหลบุตรชายคนเล็กของเสนาบดีกรมโยธาหันมามองใบหน้าขุ่นเคืองของฮูหยินลั่ว แล้วจึงเอ่ยว่า “ท่านน้า ผู้ใหญ่ที่มางานเลี้ยงรวมตัวกันอยู่ทางโน้น เชิญท่านน้าทางโน้นจะดีกว่า อีกซักครู่จะมีการแสดงของคณะเชียงเปียว การแสดงกำลัง

    Last Updated : 2025-03-05
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 37 คลี่คลายเรื่องตั้งครรภ์

    พระชายากู้ชุนฉือมองเอวที่คอดกิ่วและหน้าท้องที่แบนราบของสุ่ยเฉินเฟิงแล้วก็สงสัยว่านางตั้งครรภ์จริงหรือ ออกจากจวนเสนาบดีกรมโยธาแล้วค่อยถามฮูหยินลั่วให้รู้เรื่องมารดาของเหมยกุ้ยนั่งอยู่ไม่ห่างจากพระชายานัก นางมองตามสายตาของพระชายาก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในใจ ข่าวลือนั้นกระฉ่อนไปทั่ว นึกสงสารสุ่ยเฉินเฟิง เด็กดีแท้ ๆ ต้องมาเสียชื่อเพราะคำคนใส่ร้ายป้ายสีมารดาของเหมยกุ้ยเอ่ยขึ้นกับฮูหยินขุนนางที่นั่งทางซ้ายมือว่า “ปิ่นพลอยสีฟ้าของกุ้ยเอ๋อร์และปิ่นพลอยสีม่วงของเฟิงเอ๋อร์มาจากเหมืองอัญมณีของญาติข้าเอง วันก่อนกุ้ยเอ๋อร์ไปที่เหมืองเพื่อเยี่ยมญาติที่เพิ่งคลอดลูก เฟิงเอ๋อร์ก็ตามไปเที่ยวด้วย มีของเด็กอ่อนดี ๆ ไปฝากมากมาย พวกนางจึงได้ปิ่นมาในราคามิตรภาพ”แล้วนางก็หันไปทางขวา คุยกับฮูหยินอีกนางหนึ่งว่า “หากพวกท่านสนใจพลอยน้ำงามราคาเป็นมิตร ก็บอกได้นะข้าจะบอกญาติให้ราคาพิเศษ”ฮูหยินผู้นั้นเบิกตาโตแล้วกล่าวว่า “อ้อ งั้นที่มีข่าวว่าคุณหนูสุ่ยไปซื้อของเด็กอ่อน ก็เพื่อนำไปฝากลูกของญาติท่านหรือ” มารดาของเหมยกุ้ยพยักหน้าแล้วเอารีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาความจริงมีอยู่ว่าสุ่ยเฉินเฟิงและเหมยกุ้ยเคยไปเยี่ยมญาติที่เพิ่

    Last Updated : 2025-03-06

Latest chapter

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 114 ใต้หล้าล้วนสงบสุข

    สิบปีผ่านไป ณ ตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง นั่งดื่มชาในสวนดอกไม้ อากาศอบอุ่น มีลมพัดผ่านเบา ๆ นึกถึงชะตาชีวิตที่แปลกประหลาด ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่มีชีวิตสงบสุขเหมือนคุณหนูสูงศักดิ์ทั่วไป แต่เมื่อถึงวัยมีคู่ครองก็มีเรื่องเดือดร้อนไม่จบไม่สิ้น ชีวิตเหมือนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง กว่าจะฝ่าฟันมาถึงวันนี้ก็ได้รับประคับประคองจากพระสวามีผู้สง่างามและครอบครัวเดิม สุ่ยเฉินเฟิงสัญญากับตนเองว่าจะทะนุถนอมความรักของพวกเขาไว้อย่างดีฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง และฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมห้าองค์ องค์ชายหย่งเฉิงคล้ายเสด็จพ่อมากที่สุดทั้งรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย และความรู้ความสามารถ องค์ชายหย่งเฉิงชื่นชอบการฝึกซ้อมอาวุธทุกประเภท อีกทั้งยังชำนาญหมากล้อมและการฝึกเชาว์ปัญญาต่าง ๆ เรียกว่าเก่งทั้งบู๊และบุ๋นองค์หญิงเฟิงซินหน้าตาคล้ายเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ ทำให้นางเป็นที่โปรดปรานของเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือยิ่งนัก บางครั้งฮ่องเต้ยังจำใจต้องอนุญาตให้องค์หญิงเฟิงซินไปพักค้างที่ตำหนักนอกวังบ้างเพราะทนการรบเร้าของผู้เป็นมารดาไม่ไหว แรก ๆ ก็ไปพักค้างครั้งละหนึ่งคืน พอนานเข้าเสด็จย่าไทเฮา

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 113 ราษฎรกินอิ่มนอนอุ่น

    ราษฎรต้อนรับการประสูติขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงอย่างเอิกเกริก ร้านค้าในตลาดและบ้านเรือนราษฎรปักธงถวายพระพร เหลาเฉียนจัดทำอาหารพิเศษแจกจ่ายให้ลูกค้าโดยไม่คิดเงิน ร้านขายผลไม้ก็นำส้มมงคลมาแจกจ่ายให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเมื่อครั้งเทียนตี้หย่งยังดำรงตำแหน่งฉินอ๋อง ราษฎรก็รักใคร่ชื่นชม แม้ในจวนอ๋องจะไม่มีพระชายา พระชายารอง หรืออนุ ก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจ ต่อมาขึ้นครองราชย์ ราษฎรก็ปลื้มปิติ แต่ก็กังวลเพราะฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ลั่นวาจาไว้ว่าจะมีฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิงเพียงพระองค์เดียวแม้ในขณะที่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฮองเฮา พระนางจะตั้งครรภ์แล้วก็ตาม หากเป็นพระราชธิดาพวกเขาก็ยังไม่วางใจ ดังนั้นเมื่อองค์ชายน้อยหย่งเฉิงประสูติ จึงเป็นทั้งความยินดีและความโล่งใจของราษฎรทั้งหลาย อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่า แคว้นต้าเจียมีผู้สืบทอดบัลลังก์มังกรแล้วในแต่ละวันขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงมีเสด็จย่าทั้งสองและท่านยายผลัดกันมาดูแล คือเสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้ เสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ และท่านยายเจียงจือไฉ แต่เสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้จะได้เปรียบมากกว่าเพราะประทับในวังเช่นเดียวกัน จึงมาดูแลเกือบทุกวัน เว้นแต่วันที่เสด็จย่าไทเฮ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 112 เจ้าก้อนแป้งตัวน้อยน่ารัก

    พระราชพิธีแต่งตั้งฮองเฮาเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามความประสงค์ของสุ่ยเฉินเฟิง ตำหนักคุนหนิงของฮองเฮาได้รับการปรับปรุงใหม่ มีห้องสำหรับทารกติดกับห้องบรรทมของฮองเฮา สำหรับฮ่องเต้เทียนคงอิงฉงนั้นแม้จะมีตำหนักเฉียนชิง แต่พระองค์ก็จะมาบรรทมที่ตำหนักคุนหนิงเป็นประจำ เว้นแต่ช่วงที่ทรงงานดึกจึงจะพักผ่อนที่ตำหนักเฉียนชิงเพื่อให้ฮองเฮาพักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องตื่นกลางดึกสุ่ยฝานหรงซึ่งบัดนี้ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีนั้น บางวันจะพาเหมยกุ้ยเข้าวังมาส่งที่ตำหนักคุนหนิงในช่วงเช้า และมารับกลับหลังจากประชุมขุนนางเสร็จ ชีวิตของสุ่ยเฉินเฟิงจึงไม่เงียบเหงาเกินไป ส่วนถิงถิงซึ่งบัดนี้เป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาก็ช่างมีเรื่องซุบซิบมาเล่าให้ฟัง แม้กระทั่งองค์หญิงนาราที่เสวยผลไป่เซียงกั่วเพื่อให้เกิดผื่นจะได้ยืดเวลาการอยู่ในวังหลวงเพื่อมีเวลาขอถวายตัวเป็นสนมก็มาเล่าให้ฟัง เรียกได้ว่าทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ถิงถิงไม่ค่อยจะพลาดข่าว ถิงถิงมีความเห็นว่ารู้มากหน่อยดีกว่ารู้น้อยไปเมื่อสุ่ยฝานหรงเข้ารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแล้ว ฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ก็ต้องวางกำลังคนที่ไว้ใจให้ควบคุมหน่วยกำลัง

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 111 เข้าวัง

    ไทเฮาสือจินอวี้ลุกขึ้นจากที่ประทับ ตรงไปยังองค์หญิงนาราที่นั่งคุกเข่า ใช้สองพระหัตถ์แตะไหล่ประคองให้องค์หญิงน้อยลุกขึ้นยืน แล้วตรัสว่า “องค์หญิงนารามีหน้าตาสวยงามและเพียบพร้อมด้วยความรู้ ไม่ควรจะมาเป็นสนม ความหวังดีนี้ไม่อาจรับไว้ได้ ขอให้แคว้นต้าเจียและเผ่าตู้ผูกพันเป็นมิตรที่ดีต่อกันเถิด”ภายนอกมีเสียงดังขึ้นว่า “ฮ่องเต้เสด็จ”เมื่อร่างสูงสง่าของฮ่องเต้ก้าวเข้ามาในโถงกลางของวังหลัง พระองค์ทำความเคารพไทเฮาก่อน แล้วจึงหันไปตรัสแก่ผู้อื่นที่ทำความเคารพว่า “ไม่ต้องมากพิธี” องค์หญิงน้อยมองด้วยสายตาหลงใหลเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อยแล้วตรัสด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เจิ้นขอบใจในน้ำใจของถู่ซือและองค์หญิง แต่ไม่อาจรับไว้ได้ ต้าเจียและเผ่าตู้ไม่จำเป็นต้องผูกพันกันด้วยการอภิเษกหรือการเป็นสนม แต่ยังเป็นพันธมิตรกันต่อไปได้”องค์หญิงน้อยทำได้เพียงกล่าวเสียงเบาว่า “เพคะ” รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดิน ไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกปฏิเสธแม้แต่การเป็นสนม เทียนตี้หย่งหันไปทางทูตเผ่าตู้แล้วตรัสว่า “เผ่าตู้มีสินค้าหายากหลายอย่างที่ต้าเจียไม่มี เจิ้นจะให้ทูตการค้าต้าเจียหารือเรื่องการพัฒนาการค้าขายระหว่างกันดีห

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 110 ใคร ๆ ก็หลงรักฮ่องเต้ผู้สง่างาม

    พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เทียนตี้หย่ง ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง ราษฎรทั่วแคว้นต้าเจียเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเขาล้วนมีความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดที่เคยหวัง ต่างแคว้นล้วนส่งทูตมาแสดงความยินดี ไม่มีแคว้นใดหาญกล้าทดสอบความแข็งแกร่งของฮ่องเต้พระองค์ใหม่เผ่าตู้เป็นชนเผ่าที่เคยถูกแคว้นต้าเลี่ยงรุกรานและสร้างความอัปยศให้แก่องค์หญิงหลายองค์จนปลิดชีพตนเอง เมื่อแคว้นต้าเจียปราบปรามแคว้นต้าเลี่ยงทำให้เผ่าตู้ได้รับอิสระอีกครั้ง เมื่อมาแสดงความยินดีในครั้งนี้ มีองค์หญิงน้อยเผ่าตู้ร่วมเดินทางมาด้วย องค์หญิงนาราเป็นองค์หญิงองค์เดียวที่ปลอดภัยจากการรุกราน เนื่องจากช่วงเวลานั้นไม่ได้อยู่ในดินแดนเผ่าตู้ ในท้องพระโรง พระเจ้าเทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ขาวใส ดวงตาดำขลับยาวรีปลายชี้ฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ช่างสง่างามเหลือเกิน องค์หญิงน้อยมองดูด้วยความตะลึง หลงรักบุรุษผู้สง่างามนี้ทันทีเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์ขอบคุณแคว้นต่าง ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี และเชิญทูตทุกแคว้นทุกชนเผ่าเข้าร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 109 เทพสงครามครองบัลลังก์มังกร

    หลังจากพระเจ้าเต๋อหมิงได้รับบาดเจ็บ คณะหมอหลวงก็พยายามทุกวิธีในการรักษา เพราะฤทธิ์ยาระงับความเจ็บปวดที่หมอหลวงปรุงขึ้น แม้พระพักตร์จะขาวซีดแต่ก็ไม่แสดงถึงความเจ็บปวด เวลาผ่านไปสิบกว่าวัน ลมหายใจที่แผ่วเบานั้นก็หยุดนิ่ง หัวหน้าหมอหลวงตรวจชีพจรอีกครั้งก่อนจะหันมาทูลต่อไทเฮาสือจินอวี้ว่า“พระองค์กลับคืนสู่สวรรค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาสือจินอวี้ตัวอ่อน เป็นลมล้มพับ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ที่ยืนอยู่ใกล้กันรับตัวเสด็จป้าสะใภ้ไว้ทันก่อนพระวรกายกระทบพื้น หมอหลวงแบ่งคนมาปฐมพยาบาลไทเฮา ความเศร้าโศกเสียใจล้นห้องบรรทมออกไปครอบคลุมวังหลวงและกระจายออกไปทั่วแคว้น พระเจ้าเต๋อหมิงเป็นผู้ปกครองใต้หล้าด้วยความเมตตา จึงเป็นที่รักใคร่ของราษฎร ในช่วงเวลาอันเศร้าหมอง ฉินอ๋องเป็นกำลังหลักในการสั่งการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากพิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไป ไทเฮาสือจินอวี้ก็เรียกฉินอ๋องเข้าเฝ้า สุ่ยเฉินเฟิงดูแลเครื่องแต่งกายให้พระสวามี ฉินอ๋องใช้นิ้วดันคางของนางให้เงยหน้าขึ้น“เฟิงเอ๋อร์ เจ้ากังวลอะไรหรือ”สุ่ยเฉินเฟิงถอนหายใจ “ไม่แน่ว่าการเรียกตัวเข้าเฝ้าในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับบัลลังก์ที่ว่างอยู่เพ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 108 ศาสตร์และศิลป์ในการปกครอง

    พระเจ้าเต๋อหมิงบาดเจ็บสาหัส นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุพระองค์ก็ยังไม่ลืมพระเนตรขึ้นมา มีเพียงชีพจรและลมหายใจแผ่วเบาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ เกิดความโกลาหลในการบริหารงานเล็กน้อย ไทเฮาสือจินอวี้ต้องออกนั่งเป็นประธานการประชุมขุนนางในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระนางไม่ประทับบนบัลลังก์มังกร แต่กลับให้คนนำเก้าอี้หงส์จากตำหนักของพระนางมาใช้ประทับเป็นการชั่วคราวแม้ว่าปกติไม่ว่าไทเฮาหรือฮองเฮาพระองค์ใดก็ตาม ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของวังหลวงได้ ผู้เป็นมารดาของแผ่นดินมีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลวังหลังให้เป็นไปโดยเรียบร้อย แต่สถานการณ์ของแคว้นต้าเจียในคราวนี้แตกต่างออกไป พระเจ้าเต๋อหมิงไม่ได้อภิเษกสมรสเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ให้กับไท่ซ่างหวงซึ่งก็คือเสด็จพ่อของพระองค์นั่นเอง อีกทั้งพระเจ้าเต๋อหมิงก็ไม่มีสนมจึงยังไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาแม้แต่พระองค์เดียว แคว้นต้าเจียจึงยังไม่มีรัชทายาทเดิมทีเหล่าขุนนางตั้งใจว่าหลังจากพ้นการไว้ทุกข์ให้ไท่ซ่างหวงแล้ว พวกเขาจะกดดันให้พระเจ้าเต๋อหมิงอภิเษกสมรสและแต่งตั้งฮองเฮา รวมทั้งให้เริ่มการคัดเลือกสนมเข้ามาปรนนิบัติตามธรรมเนียมท

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 107 ขบวนการทำลายแคว้นจบสิ้น

    ก่อนที่สุ่ยฝานหรงจะออกไป ฉินอ๋องสั่งการเพิ่มเติมว่า “ตอนที่จับกุมเมิ่งกุ้ยเฟย คนที่สุสานบรรพชนล้วนถูกลงโทษ นางกำนัลอู่ก็ติดตามกุ้ยเฟยไปที่สุสานด้วย ท่านตรวจสอบด้วยว่าผู้ใดช่วยเหลือให้นางหลบหนีจนรอดพ้นได้” “พ่ะย่ะค่ะ”สุ่ยฝานหรงออกไปแล้ว ฉินอ๋องกลับเข้าไปในห้องบรรทมของพระเจ้าเต๋อหมิง มีโต๊ะวางไว้มุมห้อง เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ จางชุนรินน้ำชาส่งให้ เขารับมาถือไว้นิ่ง ๆ มองตรงไปก็เห็นญาติผู้พี่นอนนิ่ง พระพักตร์ซีดเซียว นี่คือสิ่งที่เขากังวลอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้น และแล้วก็เกิดขึ้นจริง พี่สี่ของเขาพระทัยอ่อน ใช้สายพระเนตรที่เมตตามองผู้คนโดยรอบ ใช้พระคุณแต่เพียงอย่างเดียวในการปกครองเวลาผ่านไป แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงกลับมาอีกครั้งเมื่อเข้ายามอิ๋น เขาสีหน้าไม่ดีนัก รายงานว่า“ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางกำนัลอู่ไม่ถูกจับกุมเพราะนางลากลับบ้านเดิมเพื่อจัดการงานศพของมารดา เมื่องานศพเสร็จแล้ว ระหว่างทางที่เดินทางกลับเมืองหลวง ก็ได้ข่าวว่าคนที่สุสานบรรพชนถูกจับกุม นางจึงซ่อนเร้นตัว เมื่อทหารที่ไปตรวจค้นสุสานบรรพชนและทำลายเห็ดเมากลับไปแล้ว นางก็ลักลอบเข้าไปในสุสานบรรพชน เพราะนางอยู่ที่นั่นกั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 106 บาดเจ็บสาหัส

    “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ หลานจะสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้สภาพในคุกไม่เหมาะสำหรับผู้บาดเจ็บ” เขาหันถามหัวหน้าหมอหลวงว่า “จะเคลื่อนย้ายฝ่าบาทได้หรือไม่ หรือต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน”หัวหน้าหมอหลวงตอบว่า “สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง คุกหลวงไม่เหมาะกับการรักษาผู้ป่วยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ในที่สุด พระเจ้าเต๋อหมิงก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำหนักเฉียนชิง ฉินอ๋องประคองไทเฮา สือจินอวี้ไปพร้อมกัน โดยให้สุ่ยฝานหรงซึ่งตามมาถึงแล้ว ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไทเฮานั่งกุมพระหัตถ์พระราชโอรส พระพักตร์ของพระองค์และพระเจ้าเต๋อหมิงซีดขาวพอกัน"เสด็จป้าสะใภ้พักผ่อนก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ไทเฮาสือจินอวี้ส่ายพระพักตร์ “ป้าสะใภ้จะเฝ้าเต๋อเอ๋อร์ เมื่อเขาฟื้นจะได้เห็นหน้าแม่เป็นคนแรก”“ถ้าเช่นนั้นหลานจะให้คนจัดห้องด้านข้างเป็นที่บรรทมชั่วคราวดีไหมพ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ไปพักผ่อนก่อน มิฉะนั้นอาจจะประชวรไปอีกพระองค์ หากพี่สี่รู้สึกตัวแม้เพียงเล็กน้อยจะให้คนไปทูลให้ทรงทราบทันที”ไทเฮาพยักพระพักตร์ ฉินอ๋องจึงสั่งให้ขันทีประจำตำหนักเฉียนชิงเร่งจัดห้องบรรทมช

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status