บทที่ 3 เกรี้ยวกราด
เสียงร้องไห้ของแป้งปั้นยิ่งทำให้บดินทร์หงุดหงิดใจเข้าไปใหญ่ โอโซนที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามาห้ามปรามเพื่อนก่อน แต่ก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นเพื่อนโกรธขนาดนี้ เพราะปกติบดินทร์แทบจะไม่สุงสิงกับใครและไม่เคยใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ด้วย
"อึก..ฮือ~ แป้งเจ็บ" แป้งปั้นเปล่งเสียงสะอื้นออกมาด้วยความเจ็บ มือเรียวเล็กลูบศีรษะตัวเองเบาๆ จนคนที่เห็นรู้สึกเห็นใจมากๆ ขุนเขาเดินเข้ามายืนตรงหน้าแป้งปั้น เขาทั้งจะยิ้มทั้งจะทำหน้านิ่ง รู้สึกประหม่าไปหมดเพราะไม่เคยปลอบผู้หญิงมาก่อน
"อะ..โอ๋ๆ ไม่เจ็บนะ" เขาตัดสินใจยกมือขึ้นมาลูบผมแป้งปั้นเบาๆ เพราะจำได้ว่าตอนเป็นเด็กแม่ก็เคยโอ๋แบบนี้แต่การกระทำของเขากลับทำให้บดินทร์ไม่ชอบใจอย่างมาก
"ปัญญาอ่อน แม่ง!" ชายหนุ่มสบถคำหยาบแล้วหันหลังเดินไปเอากระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาคล้องบ่าตามด้วยกระเป๋ากีตาร์ตัวโปรดแต่ก่อนจะเดินออกมาก็เหลือบตามองหน้าเพื่อนทุกคนอย่างเบื่อหน่าย
"ไปไหนวะ เฮ้ย! ไปไหนโว้ย" ปกป้องทั้งตะโกนเรียกตามหลังทั้งกวักมือเรียกแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากเพื่อนเลย บดินทร์เห็นเขาเป็นธาตุอากาศรึไงกัน "ไอ้นี่ หัวเสียอะไรนักหนาวะเนี่ย" เขาบ่นอุบแล้วยกมือเท้าเอวหันกลับมามองแป้งปั้นที่ยังยืนร้องไห้อยู่
"มึง กูว่าไอ้ดินมันคงไม่ยอมง่ายๆแน่ กูไม่เคยเห็นมันโกรธใครจนเลือดขึ้นหน้าแบบนี้มาก่อนนะ" ปรินพูดเสียงแผ่วพลางเหลือบตามองแป้งปั้นด้วย ท่าทางเขาที่แสดงออกมาเหมือนไม่อยากให้เด็กสาวได้ยินด้วย ธันวาพยักหน้าเห็นด้วยแล้วเอ่ยขึ้น
"เออ กูก็คิดเหมือนมึง"
"แต่หนูไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ..อึก..ฮือ~ วันนั้นหนูถูกพวกพี่ลากไปด้วย หนูไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรด้วยเลย" ทั้งห้าหนุ่มหันมามองแป้งปั้นพร้อมเพรียงกัน ขุนเขาคลี่ยิ้มแหย่ๆ แล้วเอาไหล่สะกิดไหล่ปกป้อง ส่วนปกป้องพยักหน้าให้โอโซนที่ยืนเงียบอยู่ โอโซนพยักหน้ารับแล้วพูดขึ้น
"พวกพี่ผิดเองแหละที่ลากน้องมาเกี่ยวเรื่องนี้ เรื่องที่เพื่อนพี่มันพูดจาไม่ดีใส่ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน"
"ใช่ๆ" ขุนเขารีบพยักหน้าตาม แต่ประโยคถัดมาของแป้งปั้นก็เล่นเอาปกป้องที่กำลังจะพูดเสริมขึ้นต้องชะงักค้างไป
"แต่หนูไม่ได้โกรธพี่ๆ หนูโกรธคนปากหมาต่างหาก หนูไม่ผิดสักหน่อย ที่หนูมาหาก็เพราะอยากขอโทษจริงๆ ไม่ได้อยากมาหาเรื่องนิคะ" ปรินเบะปากตามแป้งปั้นจนธันวาต้องยื่นมือมาตีหน้าผากเพื่อนเบาๆ และจิ๊ปากใส่
"เออๆ..เอาเป็นว่าเรื่องนี้พวกพี่ขอโทษแล้วกันนะน้อง..?" ปกป้องเม้มปากแน่นแล้วเงี่ยหูรอฟัง ทุกคนก็ด้วย
"ปะ..แป้งปั้นค่ะ"
"อ๋อ น้องตุ๊กตาบาร์บี้"
"ไม่ใช่.." แป้งปั้นเบะปากคว่ำพลางเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มแดงปลั่ง ท่าทางไร้เดียงสาของเธอเรียกความเอ็นดูจากห้าหนุ่มได้เป็นอย่างดี ก็เพราะเธอเป็นเด็กผู้หญิงคนแรกที่พวกเขาได้คุยแบบใกล้ชิดแบบนี้ ขุนเขาขยิบตาให้โอโซนส่วนโอโซนเลิกคิ้วให้ธันวา
"เออ ถ้าวันไหนว่าง เดี๋ยวพวกพี่พาไปกินไอติมนะ ถือเป็นการเลี้ยงแทนคำขอโทษแล้วกัน"
"ค่ะ.." เด็กสาวหันไปมองถุงขนมที่หล่นอยู่บนพื้นด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ "กินด้วยนะคะ นึกถึงเด็กตาดำๆ ที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้กินบ้าง" ทั้งปกป้องและปรินรีบเก็บถุงขนมขึ้นมากอดไว้อย่างดี
"กลับบ้านดีๆนะน้อง" ทุกคนโบกมือให้แป้งปั้น เมื่อเธอเดินออกไปไกลแล้วพวกเขาก็รีบหันมาจับกลุ่มกัน โอโซนมองหน้าเพื่อนทุกคนอย่างเป็นคำถามก่อนที่พวกเขาจะพูดขึ้นพร้อมกันเสียงดัง
"ทำไมต้องยอม!"
"เออ! ทำไมต้องทำแบบนั้นวะ" ปกป้องพูดขึ้นก่อนตามด้วยปรินที่ทำท่ารูดซิปปากแล้วผายมือไปหาขุนเขา ส่วนขุนเขาก็ส่ายหน้าพัลวันแล้วชี้ไปที่โอโซน
"พวกมึงก็นะ กูไม่รู้โว้ยอยากรู้ไปถามไอ้ตัวต้นเรื่องเอง" สิ้นเสียงโอโซนทุกคนก็ต่างกดโทรหาบดินทร์
"ไม่ติดว่ะ"
"โธ่! ไปเปิดคณะตลกดีไหม โทรทีละคนสิวะ ไอ้พวกเหี้ย!" โอโซนว่าให้เพื่อนแล้วเดินออกไปพร้อมกับแก้วน้ำดื่มหนึ่งแก้ว
"เออ! มึงอยู่ไหนวะ" ปกป้องเอ่ยถามคนปลายสายทันทีที่บดินทร์รับสายเขา แต่ความเงียบก็ทำให้เขาต้องยกโทรศัพท์ออกมาดูว่าจริงๆแล้วบดินทร์รับสายจริงไหม "เออ! มึงก็รับสายกูแต่ไม่ยอมพูดเนี่ยนะ"
(กูอยู่หน้าคณะฯ ทางสวนย่อม ทำไม) บดินทร์ถามกลับเสียงเรียบ
"อยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวพวกกูไปหา"
(อืม)
"ดะ! เดี๋ยว…โธ่! แม่งจะรีบวางไปไหนนักหนาวะ" ชายหนุ่มขมวดคิ้วยุ่งแล้วเดินกลับไปเก็บของใส่กระเป๋าเป้เล็กๆ รีบเดินออกมา ไม่นานพวกเขาก็มาถึงตัวบดินทร์
"มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย หัวร้อนอะไรขนาดนั้นวะ" ปรินที่เพิ่งหย่อนก้นนั่งลงบนม้านั่งเอ่ยถามบดินทร์ โอโซนกับธันวาพยักหน้าให้กันเบาๆ แล้วนั่งเบียดเพื่อน
"หงุดหงิด รำคาญ" บดินทร์ตอบเสียงห้วนๆ
"รำคาญอะไรก่อน มึงทำน้องเขาเจ็บนะเว้ย"
"แล้วกูอะ!" ทั้งห้าหนุ่มพร้อมกันเงียบกริบ พวกเขาลืมไปเลยว่าเพื่อนเจ็บกว่า ก็วันที่บดินทร์กลับมาในสภาพโชกเลือด พวกเขาก็หัวร้อนไม่ต่างกัน แต่ไม่ได้คิดว่าคนที่ทำจะเป็นเด็กสาวคนนั้นนิ
"เออว่ะ ไอ้เหี้ยดินเจ็บเยอะกว่าอีก กูจำได้ขึ้นใจเลย ตอนที่เอาผ้าเช็ดเลือดออกให้มันอะ" ปรินทำหน้าแหย่ๆ พลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ "แต่ก็ไม่เกี่ยวกันไหมวะ น้องมันมาขอโทษอะ กูว่ามึงน่าจะคุยกับน้องมันดีๆนะ ยังไงก็เด็ก.."
"พวกมึงเป็นเหี้ยไรกัน มาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง" คนถูกถามทำหน้าเลิ่กลั่กมองหันไปมา
"เปล่า ก็แค่อยากให้จบกันด้วยดี"
"กูไม่จบ! กูไม่ได้ทำอะไรผิด อีกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ" บดินทร์ปรายตามองเพื่อนทุกคนอย่างหงุดหงิด
"แต่เดี๋ยวนะ! เมื่อกี้อะมึงกับน้องเขา..จูบกันนิ!" ปกป้องโพล่งขึ้นแล้วหันไปเย้าหยอกเพื่อนทุกคนยกเว้นบดินทร์ คนถูกแซวทำหน้าเข้ม
"จะกวนต้นตีนกู?"
"เปล่าๆ ก็มันจริงอะ มึงกับน้องเขา.."
"เหี้ย!"
"เหี้ยอีกแล้ว เดี๋ยวฟาดด้วยหางซะหรอก" ปกป้องเบ้ปากใส่บดินทร์ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ "แล้วถ้ามึงเจอน้องเขาอีก ทำไงวะ"
"เสือก!"
"วันนี้มันไปแดกรังแตนที่ไหนมา เหวี่ยงทั้งวัน" ปรินถอนหายใจเบาๆ เอามือมาปิดปากโอโซนไว้ พลางส่ายหน้าไปมาเบาๆ เป็นการบอกให้โอโซนหยุดพูด
"แต่น้องมันน่ารักนะเว้ย.."
"ปัญญาอ่อน!"
"ก็นะ อย่าให้เห็นมีเมียเด็กนะครับ"
"ถ้าไม่มีอะไรดีๆจะพูด มึงช่วยเงียบไปเลยได้ไหมวะโชน" บดินทร์ชักสีหน้าใส่เพื่อนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันหลังให้หมายจะเดินออกมาแต่โอโซนเอ่ยถามก่อน
"ไปไหน ไปดื่มห้องไอ้ป้องกัน วันนี้กูเลี้ยง"
"ไม่ไป เบื่อขี้หน้าพวกมึง"
"เออ! เฮ้ย! โธ่….ไอ้หล่อลากไส้"
บทที่ 4 ลูกชายเดียวบดินทร์เดินอาดๆ ออกมาจากมหาวิทยาลัย เขาตรงไปที่ลานจอดรถ แต่จังหวะนั้นกลับมีรุ่นน้องคนหนึ่งเดินมาชนเขาเต็มๆ จนทำให้กระเป๋ากีต้าร์โปร่งสุดที่รักหล่นลงพื้นอย่างแรง"เดินยังไงวะ ไม่ดูคนเดินสวนมาเลยรึไง""ขะ..ขอโทษค่ะพี่บดินทร์ หนูขอโทษนะคะ""เล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง มันน่า.." เขากำหมัดแน่นแล้วยกกระเป๋ากีต้าร์โปร่งขึ้นมาและได้พบว่าคอกีตาร์หักเสียแล้ว บดินทร์ยืนอึ้งกินกับสิ่งที่เห็น"นะ..หนูจะชดใช้ให้นะคะ""ใสหัวไป ก่อนที่ฉันจะเอากีตาร์ปาดหน้าเธอ" เขากำหมัดแน่นอย่างเดือดดาล หลังจากที่บดินทร์พูดประโยคนั้นออกมารุ่นน้องสาวรีบวิ่งหนีตายทันที"อะ..อ้าวเฮ้ย ทำไมเป็นงี้วะเนี่ย" ขุนเขาที่เดินตามเพื่อนมาเอารถมอเตอร์ไซค์เห็นสภาพกีตาร์ที่บดินทร์ถืออยู่ถึงกับหน้าเหวอไปทันที ในขณะที่บดินทร์ยืนนิ่ง "มึงโอเคไหมวะ""แล้วมึงคิดว่ากูโอเคไหม" บดินทร์ตอบเพื่อนเสียงเรียบก่อนจะพ่นลมหายใจออกหนักๆ "กีตาร์ตัวโปรดที่พ่อกูซื้อให้ก่อนตาย แต่วันนี้มันพังแล้ว" บดินทร์ตัดพ้อเสียงอ่อน เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง"มึงให้กูเอาไปซ้อมให้ไหม ทางผ่านไปบ้านกูพอดีเลยอะ ร้านนั้นซ่อมดีด้วยนะ""ไม่เป
บทที่ 5 เด็กปากดีบดินทร์ขมวดคิ้วเดินเข้ามาหาแม่ที่อยู่ในห้องครัว แต่ก็ต้องคลายสีหน้ากับภาพที่เห็น"มาแล้วเหรอ ไปนั่งรอเลยเดี๋ยวแม่ไปตักข้าวให้" รอยยิ้มบนใบหน้าของแม่ทำให้เขาหลุดยิ้มตามอย่างลืมตัว สายป่านตักเครื่องเคียงข้าวต้มโบราณใส่ถ้วยเล็กๆ มาวางบนโต๊ะตามด้วยข้าวต้มสองถ้วย เธอเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับลูกชาย "ดินชอบกินกุ้งกับหมูใช่ไหม เอาไปเยอะๆ เลยนะ" รอยยิ้มของแม่ทำให้เช้านี้สดใสขึ้นมาเยอะเลย"แต่แม่ไม่ต้องลำบากทำก็ได้""ให้คนแก่ทำบ้างเถอะ อยู่เฉยๆมันก็เบื่อ ทำแค่กับข้าวไว้รอลูกก็ดีใจแล้ว""ครับ แต่ห้ามทำงานหนักเข้าใจไหม เดี๋ยวผมให้ลุงอเนกมาอยู่ด้วย""ไม่เป็นไรๆ แม่อยู่คนเดียวได้""อย่าดื้อ" บดินทร์ปรายตามองเพียงนิดแล้วตักข้าวต้มใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ สายป่านมองหน้าลูกชายอย่างมีความสุข "อร่อยเหมือนเดิมครับ""กินเยอะๆนะลูก" เธอยิ้มหวานให้ลูกแล้วตักข้าวต้มใส่ปากบ้าง นานๆ ทีจะได้นั่งกินข้าวกับลูกชายสองคน เพราะปกติบดินทร์จะออกไปเรียนแต่เช้าและกลับเข้าบ้านดึก เลยพลาดโอกาสนั่งกินข้าวด้วยกัน"วันนี้ผมมีเรียนช่วงบ่าย เดี๋ยวตอนเย็นจะซื้อขนมตาลร้านที่แม่ชอบมาฝาก""จ้ะ" เธอยิ้มกริ่มแล้วตั
บทที่ 6 ‘พี่ดิน’เสียงรถขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ห้าหนุ่มที่กำลังนั่งคุยกับแม่บดินทร์อยู่รีบชะเง้อคอมองพร้อมกัน โอโซนยิ้มมุมปากทันทีที่เห็นบดินทร์เดินทำหน้าบอกบุญไม่รับเข้ามาพรึบ!ถุงลูกชิ้นทอดถูกบดินทร์โยนลงบนโต๊ะตรงกลางโซฟาที่มีเพื่อนเขานั่งล้อมอยู่ สายป่านมองหน้าลูกชายพลางย่นหัวคิ้วเข้าหาหัน"เป็นอะไรไหมลูก" เธออดเป็นห่วงบดินทร์ไม่ได้จนต้องเอ่ยถามออกไป พลางมองหน้าเพื่อนลูกทุกคนด้วย "มานั่งก่อน ค่อยเล่าก็ได้" เธอเขยิบที่ให้ว่างแล้วตบมือลงเบาๆ เป็นการบอกให้ลูกชายนั่งลงข้างๆตัวเอง"ไม่เป็นไรครับ นี่ขนมตาลที่แม่ชอบ เดี๋ยวผมไปเปิดร้านก่อน" ว่าจบบดินทร์ก็เดินอาดๆ ออกมาหน้าบ้านตัวเอง เพราะมีร้านรับซ่อมมอเตอร์ไซค์เล็กๆ อยู่ เมื่อเห็นบดินทร์เดินออกมาแล้วทั้งโอโซนและปกป้องก็รีบตามออกมา ธันวากับปรินก็ด้วย ปล่อยให้ขุนเขาพยุงสายป่านออกมาจากบ้านคนเดียวครืด~เสียงประตูหน้าถังร้านซ่อมเล็กๆ เลื่อนขึ้นเปิดร้าน บดินทร์เดินเข้ามาในร้านพร้อมทั้งเอากล่องเครื่องมือออกมาตั้งไว้กลางร้าน ซึ่งขนาดความกว้างภายในร้านเขาทำให้ยืนทั้งหกคนไม่ได้ โอโซนกับปกป้องจึงต้องถอนออกมายืนพิงกรอบประตู ไม่นานปรินก็เข็นรถมอเตอร์ไ
บทที่ 7 เคยชิน (หอมแก้ม)บดินทร์กำหมัดแน่นเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกหลอก เขาเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วโยนโทรศัพท์มือถือไปบนเตียงอย่างไม่ใยดีแล้วกำหมัดเดินไปยืนรอโอโซนหน้าห้องน้ำ รอไม่นานเพื่อนก็เปิดประตูออกมา"เหี้ย! มึงมายืนทำอะไรตรงนี้วะ" โอโซนตกใจจนหน้าเหวอแล้วพ่นลมหายใจออกหนักๆ เขาก้าวออกมาจากห้องน้ำหน้าตาเฉยโดยที่ไม่รู้ว่าบดินทร์กำลังโมโหที่ถูกหลอกให้คุยโทรศัพท์กับแป้งปั้น"มึงให้กูคุยกับยัยปัญญาอ่อนนั่นเหรอ""มึงได้คุยแล้วเหรอวะ" โอโซนเอ่ยถามหน้านิ่ง ยิ่งทำให้บดินทร์รู้สึกไม่พอใจเข้าไปใหญ่ โอโซนยกมือขึ้นห้ามในตอนที่นั่งลงบนเตียงนอน "ใจเย็นๆ กูก็แค่เห็นว่าน้องมันใจกล้าดี น่ารักด้วยเลยขอเบอร์มาเฉยๆ ไม่ได้จะแกล้งมึงเลยนะ""มึงเอาเบอร์กูโทรไปหายัยเด็กผมเปียนั่นน่ะนะ!" บดินทร์ขบกรามแน่น"เออๆ กูขอโทษก็ตอนนั้นกูเมานิ อีกอย่างก็กลัวลืมด้วยเลยเอาโทรศัพท์มึงโทรไปหาน้องเขา""มึงนี่แม่ง.." บดินทร์ทำได้เพียงระงับความโกรธไว้ในใจแล้วเดินออกมาสูบบุหรี่เพื่อระบายอารมณ์ โอโซนยิ้มมุมปากแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ เดินออกมายืนข้างบดินทร์"ขอไฟหน่อย""ยุ่งไม่เข้าเรื่อง!" บดินทร์ยังหันมาเอ็ดเพื่อนเสียงเข้มแต่
บทที่ 8 เขินบดินทร์ใช้เสียงเชิงตกใจทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นหันมาสนใจเขา ขณะที่แป้งปั้นยืนก้มหน้าด้วยความเขิน ก่อนจะถือโอกาสที่บดินทร์หันไปมองคนอื่นวิ่งเข้ามาในโรงเรียน เธอยืนพิงเสาพลางยกมือขึ้นมาตีปากตัวเองเป็นการลงโทษอีกต่างหาก"แป้งปั้น เธอมันบ้าไปแล้ว ไปหอมแก้มพี่เขาแบบนั้นได้ยังไงกัน ยัยบ้าๆๆ" เด็กสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วแอบมองบดินทร์ที่ยังไม่ทันได้ไปไหน ไม่นานชายหนุ่มก็ขับรถออกไป เธอเห็นสีหน้าตอนที่เขาตกใจอยู่และก็กลัวว่าบดินทร์จะไม่พอใจหลายนาทีต่อมาบดินทร์เดินอาดๆ เข้ามาในห้องเรียนด้วยสีหน้าบึ้งตึงจนเป็นที่สังเกตของเพื่อน โอโซนที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นมามองแล้วเอ่ยถามตรงๆ เป็นการหยอกล้อ"ทำหน้าบึ้งมาแต่ไกลแบบนี้โดนสาวที่ไหนจับไข่มาเหรอครับ""ไข่พ่อมึงสิ""เอ้าไอ้นี่ แล้วไปทำอะไรมา หน้ายับมาแต่เช้าเลย" คำถามของโอโซนทำให้บดินทร์เงียบไป หากตอบไปว่าถูกแป้งปั้นหอมแก้มมาเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ เขาจึงปรายตามองเพื่อนแล้วนั่งลงข้างๆ ขุนเขาที่กำลังจดงานอยู่"ไม่ตอบ แสดงว่าไม่เป็นไร" ปกป้องเปลี่ยนเรื่องคุย "เออ พรุ่งนี้เขามีค่ายอาสานะ อาจารย์บอกว่าให้พวกเราไปกันทุกคนเลย
บทที่ 9 เซอร์ไพรส์โอโซนมองหน้าเพื่อนเลิ่กลั่ก ก่อนจะวิ่งตามแป้งปั้นมา เขารีบยื่นมือไปจับไหล่แป้งปั้นจนเด็กสาวต้องหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าโอโซนอย่างเป็นคำถาม"คือพวกพี่จะออกค่ายอาสาที่จังหวัดน่าน น้องแป้งสนใจไปด้วยกันไหมครับ ไปสี่วัน เอ่อ..พวกพี่ไปซ่อมรถฟรีส่วนน้องแป้ง ถ้าสนใจก็ไปแจกน้ำกับขนมก็ได้" โอโซนเอ่ยชวนแป้งปั้นพลางหันไปมองเพื่อน ปริน ขุนเขา ธันวา ปกป้องต่างยิ้มให้เขาหมด ยกเว้นบดินทร์ที่กำลังถลึงตาใส่และกัดฟันแน่น "ถ้าสนใจยังไงโทรมาหาเพื่อนพี่ได้เลยนะ เบอร์ไอ้ดินครับ มีใช่ไหม?""มีค่ะ ขอแป้งไปขออนุญาตพ่อก่อนนะคะ น่าสนใจอยู่ค่ะ""โอเคเลยครับ เดี๋ยวพวกพี่จะดูแลอย่างดีเลยครับ" โอโซนยิ้มหวานให้แป้งปั้นแล้วโบกมือลาเธอ เขาเดินกลับมาหาเพื่อนก็เจอกับสายตาที่เป็นคำถามจ้องมายกเว้นบดินทร์ที่ส่งสายตาดุดันมาราวกับจะฉีกกระชากเขาออกเป็นชิ้นๆ"มึงไปคุยไรกับน้องวะ" ปรินเอ่ยถามขณะเคี้ยวลูกชิ้นจนแก้มป่อง"ไม่บอก รอเซอร์ไพรส์แล้วกัน""อ่า..มึงนี่นะ ชอบเซอร์ไพรส์อะไรที่ทำให้พวกกูอยากรู้ตลอด""เออ ใจเย็นๆกันหน่อย เดี๋ยวก็ได้รู้เร็วๆนี้""เออ ว่าแต่ไปออกค่าย เราจะเอาไรไปบ้างวะ กูตื่นเต้นฉิบหาย" ปกป้อ
บทที่ 10 ใกล้วันละนิดบดินทร์นิ่งงันไปพักใหญ่จนโอโซนต้องยื่นมือมาตีแขนเขาเบาๆ เพื่อให้เพื่อนได้สติ แต่คนที่ถูกจ้องด้วยสายตาดุดันกลับขนลุกซู่ไปทั้งตัว แป้งปั้นหันหน้ามามองพริกแกงกับหลานชายของเธออย่างรู้กัน ไม่ว่าใครก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอ"ขึ้นรถเลยครับ ขึ้นเลยๆ" ปกป้องตะโกนมาจากด้านหลังทำให้ทุกคนทยอยขึ้นไปจับจองที่นั่งของตัวเอง แป้งปั้นก้าวเท้าขึ้นมาได้หนึ่งข้างก็พบว่าตัวเองต้องนั่งเบาะข้างบดินทร์เพราะพริกแกงก็นั่งกับหลานไปแล้ว เธอทำหน้าลำบากใจใส่พริกแกงแล้วจำใจนั่งลงบนเบาะข้างบดินทร์ซึ่งเป็นเบาะริมประตูพอดี"พี่ขออนุญาตนับคนก่อนออกรถนะครับ" ปกป้องนับจำนวนและให้ขานชื่อจนมาถึงแป้งปั้น "น้องตุ๊กตาบาร์บี้""เอ่อ..เรียกแป้งปั้นก็ได้ค่ะ""น้องแป้งปั้น""มาค่ะ" ทันทีที่แป้งปั้นขานรับเสียงหวานทั้งสี่หนุ่มก็หลุดขำในลำคอด้วยความเอ็นดู เด็กสาวทำหน้าเลิ่กลั่กหันกลับไปมองรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยความอายแล้วก้มหน้า เมื่อเช็กจำนวนคนเสร็จเรียบร้อยรถตู้คันสีขาวก็เคลื่อนตัวออกจากจุดรวมพล บรรยากาศภายในรถไม่ได้ดูน่าอึดอัดเพราะมีโอโซนที่นั่งข้างคนขับเป็นดีเจเปิดเพลงเพราะให้ฟังตลอดทางที่ไปจังหวัดน่าน
บทที่ 11 แก้มแดง"นักศึกษาและ..น้องที่มาค่ายอาสาวันนี้ อาจารย์อยากขอบคุณมากๆ ส่วนวันนี้เราจะพักที่บ้านพ่อผู้ใหญ่ กินข้าวอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยพ่อผู้ใหญ่ค่อยจะพาเราไปดูสถานที่และเตรียมสถานที่นิดหน่อย" อาจารย์หนุ่มเอ่ยบอกนักศึกษาก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปขนกระเป๋าลงมาจากรถ แป้งปั้นกับพริกแกงยิ้มให้กันแล้วเดินเข้ามาในบ้านผู้ใหญ่บ้านเพื่อที่จะเลือกที่นอน เมื่อได้ที่ที่เหมาะแล้วก็ต่างคนต่างเตรียมเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ"บ้านลุงยังเป็นบ้านนอกอยู่ ไม่มีห้องน้ำดีๆ" แป้งปั้นชะงักค้างกับโอ่งมังกรที่เรียงกันอยู่สี่อัน เธอกับเพื่อนมองหน้ากันเลิ่กลั่กก่อนที่รุ่นพี่ผู้หญิงจะเดินตามมา"อาบได้ไหม ถ้าไม่ได้เดี๋ยวพี่ให้หนุ่มหาอะไรมากั้นให้""ไม่เป็นไรค่ะ อาบได้แต่พวกหนูไม่ได้เอา..""ผ้าถุง ผ้าถุงใช่ไหมลูก""ใช่ค่ะ ไม่ได้เอามาเลย.." แป้งปั้นยิ้มเจื่อนแล้วมองหน้ารุ่นพี่ ก่อนที่ลุงผู้ใหญ่บ้านจะพูดขึ้น"ไม่ต้องห่วง ของป้ามีเป็นตู้เลยเดี๋ยวลุงให้ป้าแกเอามาให้แล้วกัน""ขอบคุณค่ะ" ทุกคนต่างยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกัน ไม่นานป้าภรรยาลุงผู้ใหญ่บ้านก็นำผ้าถุงมาแจกสาวๆ พริกแกงรับมาแล้วลองสวมดู ทำเอาทุกคนหัวเราะร่วนกับการใ