บทนำปิ๊งป่อง!เสียงออดประกาศตามสายภายในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งดังขึ้นตามด้วยเสียงอาจารย์สาวที่ประกาศเตือนนักเรียนที่กำลังทยอยเดินออกมารอผู้ปกครองหลังจากเลิกเรียน‘ประกาศ..นักเรียนคนไหนที่ผู้ปกครองยังไม่มารับ กรุณาเข้ามานั่งรอผู้ปกครองด้านในโรงเรียนด้วย เพื่อความปลอดภัยของตัวนักเรียนเอง..'แป้งปั้นที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่ใต้ต้นจามจุรีกับเพื่อนสนิทเงยหน้าขึ้นมาสบตากันแล้วหลุดขำคิกคักก่อนที่เธอจะพูดขึ้น "เราไม่ได้ให้ผู้ปกครองมารับนี่เนอะ..""นั่นสิ เรามาเรียนเองได้ ก็ต้องกลับเองได้ เราโตแล้วนะอายุสิบแปดปีเต็มแล้วด้วย ปีหน้าก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว" พริกแกงเพื่อนสนิทคนเดียวพูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง"แต่ป๊ะป๋าฉันไม่ยอมสิ เดี๋ยวคงให้คนมารับ" แป้งปั้นตัดพ้อเสียงแผ่ว เมื่อนึกถึงพ่อใบหน้าจิ้มลิ้มก็ไร้รอยยิ้ม ไม่มีใครไม่รู้จักพ่อเธอ รวมทั้งเธอกับแม่ด้วย คนต่างเกรงขามและเกรงใจจนบางทีเธอก็รู้สึกเบื่อที่มีคนมาคอยประจบประแจงด้วยเพราะอยากได้ผลประโยชน์จากพ่อ "วันนี้ไปกินนมปั่นร้านเดิมไหม นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปแป๊บเดียว" เด็กสาวเอ่ยชวนเพื่อนรักด้วยความอยากไปสุดๆ แต่เมื่อเพื่อนเงียบไปเธอจึงจับแขนพริก
บทที่ 1 ไม่ขอเจออีก=ได้เจอพริกแกงทำหน้าเลิ่กลั่กกับคำพูดหยาบคายที่เพิ่งเคยได้ยินเพื่อนพูดออกมาครั้งแรก ก่อนจะรั้งแขนแป้งปั้นเดินออกมาจากตรงนั้น"เจ็บมากไหมเนี่ย ดูสิตรงนี้เขียวหมดแล้ว" พริกแกงปัดเสื้อผ้าแป้งปั้นเบาๆ ก่อนจะดูรอยแผลถลอกจากการล้มให้ "ถ้าพ่อแกรู้จะเป็นยังไงเนี่ย เราสองคนจะไม่ถูกกระทืบใช่ไหม" คนถูกถามถอนหายใจยาวๆอย่างเบื่อหน่าย แค่คิดว่าพ่อจะส่งคนมาคอยติดตามหลังจากนี้ก็รู้สึกหมดสนุกแล้ว"เดี๋ยวแป้งคุยกับพ่อเอง พ่อคงไม่ใจร้ายหรอก""แต่พ่อแกเป็นมาเฟียนะ ไหนจะลุงๆ ทุกคนอีกน่ากลัวกันทั้งนั้นเลย" เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มทำท่าสยดสยองเมื่อนึกถึงบรรดาคุณลุงหน้าหล่อแต่โหดเพื่อนพ่อแป้งปั้น ต่างจากแป้งปั้นที่เอาแต่ก้มหน้าแล้วพ่นลมหายใจออกเบาๆ"แป้งจะไม่ขอเจอคนปากไม่ดีอีก สาธุนะคะอย่าให้ได้เจอเขาอีกเลย" 'ใจร้ายมาก แถมยังปากไม่ดีอีกด้วย!' แป้งปั้นขมวดคิ้วยุ่งเมื่อภาพใบหน้าของบดินทร์ฉายเข้ามาในหัว เธอรีบส่ายหน้าไปมาเบาๆ เพื่อไล่ความคิดบ้าบอนี้ออกจากหัวแล้วรีบพากันกลับไปที่โรงเรียนเหมือนเดิม ไม่นานรถยนต์คันหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดเทียบริมฟุตปาธหน้าโรงเรียน"ไปไหนมา" เบิร์ดคือเจ้าของคำถามนั้น เ
บทที่ 2 มีเรื่องบดินทร์กัดฟันกรอด ท่าทางเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเมื่อครู่ก็ได้ยินสิ่งที่เธออุทานออกมาชัดเจน บดินทร์วางกีตาร์ตัวโปรดลงแล้วเดินตรงมาหาแป้งปั้น"ว่าใคร!" เสียงห้วนจัดเอ่ยถามเด็กสาวแต่ไม่ทันจะได้รับคำตอบบอดี้การ์ดของแป้งปั้นก็เข้ามาล็อกแขนเขาไว้ทั้งสองข้าง เหตุการณ์เริ่มบานปลายไปเรื่อยๆ แป้งปั้นหน้าถอดสีกับการกระทำอุกอาจของบอดี้การ์ด "ปล่อยกู!" บดินทร์ตะเบ็งเสียงดังลั่นพร้อมสะบัดตัวจนหลุดออกจากพันธนาการ"ถอยไป" การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทางเอาจริงในขณะที่บดินทร์เองก็มองด้วยสายตาดุดันเอาเรื่องเหมือนกัน"อยากให้ถอยก็บอกคนของมึงขอโทษกูก่อนสิ" บดินทร์ใช้คำหยาบแล้วตวัดสายตาดุดันมองแป้งปั้น เขาไม่จำเป็นต้องถอยเพราะไม่ได้ก่อเรื่องก่อนสักหน่อย หากเธอไม่ด่าเขาคนปากหมาก่อน บดินทร์ปรี่เข้าไปหาแป้งปั้นพร้อมกับคว้าแขนเธอไว้แน่น "ขอโทษมาดิ""คุณ!" บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ผลักอกแกร่งออกจนบดินทร์เสียหลักล้มลงกับพื้น เขากัดฟันแน่นแล้วลุกขึ้นมาง้างหมัดต่อยหน้าบอดี้การ์ดแป้งปั้นหนักๆ จนหน้าหันไป แป้งปั้นกรีดร้องเสียงหลงยิ่งทำให้เป็นที่สนใจของผู้คนที่มาเดินตลาดจับจ่ายซื้อของ ชา
บทที่ 3 เกรี้ยวกราดเสียงร้องไห้ของแป้งปั้นยิ่งทำให้บดินทร์หงุดหงิดใจเข้าไปใหญ่ โอโซนที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามาห้ามปรามเพื่อนก่อน แต่ก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นเพื่อนโกรธขนาดนี้ เพราะปกติบดินทร์แทบจะไม่สุงสิงกับใครและไม่เคยใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ด้วย"อึก..ฮือ~ แป้งเจ็บ" แป้งปั้นเปล่งเสียงสะอื้นออกมาด้วยความเจ็บ มือเรียวเล็กลูบศีรษะตัวเองเบาๆ จนคนที่เห็นรู้สึกเห็นใจมากๆ ขุนเขาเดินเข้ามายืนตรงหน้าแป้งปั้น เขาทั้งจะยิ้มทั้งจะทำหน้านิ่ง รู้สึกประหม่าไปหมดเพราะไม่เคยปลอบผู้หญิงมาก่อน"อะ..โอ๋ๆ ไม่เจ็บนะ" เขาตัดสินใจยกมือขึ้นมาลูบผมแป้งปั้นเบาๆ เพราะจำได้ว่าตอนเป็นเด็กแม่ก็เคยโอ๋แบบนี้แต่การกระทำของเขากลับทำให้บดินทร์ไม่ชอบใจอย่างมาก"ปัญญาอ่อน แม่ง!" ชายหนุ่มสบถคำหยาบแล้วหันหลังเดินไปเอากระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาคล้องบ่าตามด้วยกระเป๋ากีตาร์ตัวโปรดแต่ก่อนจะเดินออกมาก็เหลือบตามองหน้าเพื่อนทุกคนอย่างเบื่อหน่าย"ไปไหนวะ เฮ้ย! ไปไหนโว้ย" ปกป้องทั้งตะโกนเรียกตามหลังทั้งกวักมือเรียกแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากเพื่อนเลย บดินทร์เห็นเขาเป็นธาตุอากาศรึไงกัน "ไอ้นี่ หัวเสียอะไรนักหนาวะเนี่ย" เขาบ่น
บทที่ 4 ลูกชายเดียวบดินทร์เดินอาดๆ ออกมาจากมหาวิทยาลัย เขาตรงไปที่ลานจอดรถ แต่จังหวะนั้นกลับมีรุ่นน้องคนหนึ่งเดินมาชนเขาเต็มๆ จนทำให้กระเป๋ากีต้าร์โปร่งสุดที่รักหล่นลงพื้นอย่างแรง"เดินยังไงวะ ไม่ดูคนเดินสวนมาเลยรึไง""ขะ..ขอโทษค่ะพี่บดินทร์ หนูขอโทษนะคะ""เล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง มันน่า.." เขากำหมัดแน่นแล้วยกกระเป๋ากีต้าร์โปร่งขึ้นมาและได้พบว่าคอกีตาร์หักเสียแล้ว บดินทร์ยืนอึ้งกินกับสิ่งที่เห็น"นะ..หนูจะชดใช้ให้นะคะ""ใสหัวไป ก่อนที่ฉันจะเอากีตาร์ปาดหน้าเธอ" เขากำหมัดแน่นอย่างเดือดดาล หลังจากที่บดินทร์พูดประโยคนั้นออกมารุ่นน้องสาวรีบวิ่งหนีตายทันที"อะ..อ้าวเฮ้ย ทำไมเป็นงี้วะเนี่ย" ขุนเขาที่เดินตามเพื่อนมาเอารถมอเตอร์ไซค์เห็นสภาพกีตาร์ที่บดินทร์ถืออยู่ถึงกับหน้าเหวอไปทันที ในขณะที่บดินทร์ยืนนิ่ง "มึงโอเคไหมวะ""แล้วมึงคิดว่ากูโอเคไหม" บดินทร์ตอบเพื่อนเสียงเรียบก่อนจะพ่นลมหายใจออกหนักๆ "กีตาร์ตัวโปรดที่พ่อกูซื้อให้ก่อนตาย แต่วันนี้มันพังแล้ว" บดินทร์ตัดพ้อเสียงอ่อน เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง"มึงให้กูเอาไปซ้อมให้ไหม ทางผ่านไปบ้านกูพอดีเลยอะ ร้านนั้นซ่อมดีด้วยนะ""ไม่เป
บทที่ 5 เด็กปากดีบดินทร์ขมวดคิ้วเดินเข้ามาหาแม่ที่อยู่ในห้องครัว แต่ก็ต้องคลายสีหน้ากับภาพที่เห็น"มาแล้วเหรอ ไปนั่งรอเลยเดี๋ยวแม่ไปตักข้าวให้" รอยยิ้มบนใบหน้าของแม่ทำให้เขาหลุดยิ้มตามอย่างลืมตัว สายป่านตักเครื่องเคียงข้าวต้มโบราณใส่ถ้วยเล็กๆ มาวางบนโต๊ะตามด้วยข้าวต้มสองถ้วย เธอเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับลูกชาย "ดินชอบกินกุ้งกับหมูใช่ไหม เอาไปเยอะๆ เลยนะ" รอยยิ้มของแม่ทำให้เช้านี้สดใสขึ้นมาเยอะเลย"แต่แม่ไม่ต้องลำบากทำก็ได้""ให้คนแก่ทำบ้างเถอะ อยู่เฉยๆมันก็เบื่อ ทำแค่กับข้าวไว้รอลูกก็ดีใจแล้ว""ครับ แต่ห้ามทำงานหนักเข้าใจไหม เดี๋ยวผมให้ลุงอเนกมาอยู่ด้วย""ไม่เป็นไรๆ แม่อยู่คนเดียวได้""อย่าดื้อ" บดินทร์ปรายตามองเพียงนิดแล้วตักข้าวต้มใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ สายป่านมองหน้าลูกชายอย่างมีความสุข "อร่อยเหมือนเดิมครับ""กินเยอะๆนะลูก" เธอยิ้มหวานให้ลูกแล้วตักข้าวต้มใส่ปากบ้าง นานๆ ทีจะได้นั่งกินข้าวกับลูกชายสองคน เพราะปกติบดินทร์จะออกไปเรียนแต่เช้าและกลับเข้าบ้านดึก เลยพลาดโอกาสนั่งกินข้าวด้วยกัน"วันนี้ผมมีเรียนช่วงบ่าย เดี๋ยวตอนเย็นจะซื้อขนมตาลร้านที่แม่ชอบมาฝาก""จ้ะ" เธอยิ้มกริ่มแล้วตั
บทที่ 6 ‘พี่ดิน’เสียงรถขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ห้าหนุ่มที่กำลังนั่งคุยกับแม่บดินทร์อยู่รีบชะเง้อคอมองพร้อมกัน โอโซนยิ้มมุมปากทันทีที่เห็นบดินทร์เดินทำหน้าบอกบุญไม่รับเข้ามาพรึบ!ถุงลูกชิ้นทอดถูกบดินทร์โยนลงบนโต๊ะตรงกลางโซฟาที่มีเพื่อนเขานั่งล้อมอยู่ สายป่านมองหน้าลูกชายพลางย่นหัวคิ้วเข้าหาหัน"เป็นอะไรไหมลูก" เธออดเป็นห่วงบดินทร์ไม่ได้จนต้องเอ่ยถามออกไป พลางมองหน้าเพื่อนลูกทุกคนด้วย "มานั่งก่อน ค่อยเล่าก็ได้" เธอเขยิบที่ให้ว่างแล้วตบมือลงเบาๆ เป็นการบอกให้ลูกชายนั่งลงข้างๆตัวเอง"ไม่เป็นไรครับ นี่ขนมตาลที่แม่ชอบ เดี๋ยวผมไปเปิดร้านก่อน" ว่าจบบดินทร์ก็เดินอาดๆ ออกมาหน้าบ้านตัวเอง เพราะมีร้านรับซ่อมมอเตอร์ไซค์เล็กๆ อยู่ เมื่อเห็นบดินทร์เดินออกมาแล้วทั้งโอโซนและปกป้องก็รีบตามออกมา ธันวากับปรินก็ด้วย ปล่อยให้ขุนเขาพยุงสายป่านออกมาจากบ้านคนเดียวครืด~เสียงประตูหน้าถังร้านซ่อมเล็กๆ เลื่อนขึ้นเปิดร้าน บดินทร์เดินเข้ามาในร้านพร้อมทั้งเอากล่องเครื่องมือออกมาตั้งไว้กลางร้าน ซึ่งขนาดความกว้างภายในร้านเขาทำให้ยืนทั้งหกคนไม่ได้ โอโซนกับปกป้องจึงต้องถอนออกมายืนพิงกรอบประตู ไม่นานปรินก็เข็นรถมอเตอร์ไ
บทที่ 7 เคยชิน (หอมแก้ม)บดินทร์กำหมัดแน่นเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกหลอก เขาเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วโยนโทรศัพท์มือถือไปบนเตียงอย่างไม่ใยดีแล้วกำหมัดเดินไปยืนรอโอโซนหน้าห้องน้ำ รอไม่นานเพื่อนก็เปิดประตูออกมา"เหี้ย! มึงมายืนทำอะไรตรงนี้วะ" โอโซนตกใจจนหน้าเหวอแล้วพ่นลมหายใจออกหนักๆ เขาก้าวออกมาจากห้องน้ำหน้าตาเฉยโดยที่ไม่รู้ว่าบดินทร์กำลังโมโหที่ถูกหลอกให้คุยโทรศัพท์กับแป้งปั้น"มึงให้กูคุยกับยัยปัญญาอ่อนนั่นเหรอ""มึงได้คุยแล้วเหรอวะ" โอโซนเอ่ยถามหน้านิ่ง ยิ่งทำให้บดินทร์รู้สึกไม่พอใจเข้าไปใหญ่ โอโซนยกมือขึ้นห้ามในตอนที่นั่งลงบนเตียงนอน "ใจเย็นๆ กูก็แค่เห็นว่าน้องมันใจกล้าดี น่ารักด้วยเลยขอเบอร์มาเฉยๆ ไม่ได้จะแกล้งมึงเลยนะ""มึงเอาเบอร์กูโทรไปหายัยเด็กผมเปียนั่นน่ะนะ!" บดินทร์ขบกรามแน่น"เออๆ กูขอโทษก็ตอนนั้นกูเมานิ อีกอย่างก็กลัวลืมด้วยเลยเอาโทรศัพท์มึงโทรไปหาน้องเขา""มึงนี่แม่ง.." บดินทร์ทำได้เพียงระงับความโกรธไว้ในใจแล้วเดินออกมาสูบบุหรี่เพื่อระบายอารมณ์ โอโซนยิ้มมุมปากแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ เดินออกมายืนข้างบดินทร์"ขอไฟหน่อย""ยุ่งไม่เข้าเรื่อง!" บดินทร์ยังหันมาเอ็ดเพื่อนเสียงเข้มแต่