ตอนพิเศษ 4บดินทร์เดินเข้ามาหาแป้งปั้นที่กำลังเลื่อนเก้าอี้ในโต๊ะอาหารออก เขากระซิบเสียงเบาข้างหูเธอ"พรุ่งนี้พี่ขออนุญาตพาไอ้โชนไปธุระนะ""ธุระที่ไหนเหรอ""นัดกินข้าวที่บ้านผู้หญิง มันไม่กล้าไปคนเดียว""อ๋อ ได้ค่ะ แล้วกลับกี่โมง" เธอถามต่อ"ไม่รู้ เดี๋ยวคุยกับมันอีกที" แป้งปั้นพยักหน้ารับแล้วใช้สายตาออกคำสั่งแฟนหนุ่มให้นั่งลงข้างๆ เธอแต่บดินทร์กลับส่ายหน้าปฏิเสธ เขาเป็นเพียงลูกน้องจะมานั่งกินข้าวกับเจ้านายได้ยังไงกัน"นั่งเถอะ ยังไงนายก็คือคนคนหนึ่งในครอบครัวฉันแล้ว" เบิร์ดเดินเข้ามานั่งที่ประจำและพูดออกมาโดยไม่เงยหน้าขึ้นสบตากับเด็กหนุ่ม บดินทร์เก้กังแล้วรีบนั่งลงเพราะถูกแฟนสาวฉุดแขนให้นั่งลง แม่บ้านวัยกลางคนเดินเข้ามาตักข้าวใส่จานให้อย่างรู้งาน"จะนั่งกินตรงไหน หรือไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารกัน นายก็เป็นมากกว่าลูกน้องอยู่ดี" เบิร์ดพูดขึ้นอีกครั้งทำเอาหัวใจแกร่งเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ บดินทร์ยกมือไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อมและนี่อาจจะเป็นอีกเรื่องที่เบิร์ดชอบในตัวบดินทร์ เขาค่อนข้างถ่อมตัว รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ อีกอย่างคือเรื่องงาน ไม่เคยทำให้เบิร์ดผิดหวังสักครั้ง เขาตั้งใจทำมันออกมาอย่างดีและทำ
ตอนพิเศษ 5แป้งปั้นที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่ในห้องต้องรีบเดินมาส่องหน้าต่างเพราะรถยนต์คันใหม่เพิ่งขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน โครงคิ้วสวยขมวดยุ่ง ทำไมพี่ดินมาเร็วกว่าปกติ ไปกินข้าวหรือไปทำอะไรมากันแน่นะ เมื่อคิดแบบนั้นแป้งปั้นจึงลงไปหาแฟนหนุ่มด้านล่าง"ทำไมกลับมาเร็วจังเลยคะ""มีเรื่องนิดหน่อยครับ""ฮะ! คงไม่ได้ไปหาเรื่องพ่อผู้หญิงคนนั้นหรอกใช่ไหม" บดินทร์ส่ายหน้าปฏิเสธ "ยังไง" แป้งปั้นคลายสีหน้าและรอฟังบดินทร์พูด"ไอ้โชนมันโดนหลอก ดีนะที่พี่ไปด้วยน่ะ ไม่งั้นคงได้รับเลี้ยงลูกใครก็ไม่รู้""นี่อย่าบอกนะว่าพี่โชนถูกผู้หญิงคนนั้นจับทำผัว โดยที่เธอตั้งท้องอยู่เหรอ""ใช่""พี่โชนนะพี่โชน เกือบไปแล้วไหมล่ะ คาสโนวาแท้ๆ เกือบเหลือแต่ชื่อไหม" แป้งปั้นจิ๊ปากเบาๆ ก่อนจะถูกบดินทร์รวบตัวมากอดไว้แนบแน่น เขากดริมฝีปากจูบหน้าผากมนเบาๆ"ถ้าเป็นพี่นะ พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอก พี่จะรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองกระทำทุกอย่างเลย ลูกในท้องก็ด้วย" แป้งปั้นช้อนตามองที่เห็นเขาอมยิ้มและมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ"ลูกอะไรอะ แป้งไม่ได้ท้องสักหน่อย""ก็รู้ว่าไม่ได้ท้อง แค่เปรียบเปรยเฉยๆ ไง""ค่ะ แค่เปรียบเปรยแต่ทำไมต้องยิ้มเหมือนมันเกิดขึ้
บทนำปิ๊งป่อง!เสียงออดประกาศตามสายภายในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งดังขึ้นตามด้วยเสียงอาจารย์สาวที่ประกาศเตือนนักเรียนที่กำลังทยอยเดินออกมารอผู้ปกครองหลังจากเลิกเรียน‘ประกาศ..นักเรียนคนไหนที่ผู้ปกครองยังไม่มารับ กรุณาเข้ามานั่งรอผู้ปกครองด้านในโรงเรียนด้วย เพื่อความปลอดภัยของตัวนักเรียนเอง..'แป้งปั้นที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่ใต้ต้นจามจุรีกับเพื่อนสนิทเงยหน้าขึ้นมาสบตากันแล้วหลุดขำคิกคักก่อนที่เธอจะพูดขึ้น "เราไม่ได้ให้ผู้ปกครองมารับนี่เนอะ..""นั่นสิ เรามาเรียนเองได้ ก็ต้องกลับเองได้ เราโตแล้วนะอายุสิบแปดปีเต็มแล้วด้วย ปีหน้าก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว" พริกแกงเพื่อนสนิทคนเดียวพูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง"แต่ป๊ะป๋าฉันไม่ยอมสิ เดี๋ยวคงให้คนมารับ" แป้งปั้นตัดพ้อเสียงแผ่ว เมื่อนึกถึงพ่อใบหน้าจิ้มลิ้มก็ไร้รอยยิ้ม ไม่มีใครไม่รู้จักพ่อเธอ รวมทั้งเธอกับแม่ด้วย คนต่างเกรงขามและเกรงใจจนบางทีเธอก็รู้สึกเบื่อที่มีคนมาคอยประจบประแจงด้วยเพราะอยากได้ผลประโยชน์จากพ่อ "วันนี้ไปกินนมปั่นร้านเดิมไหม นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปแป๊บเดียว" เด็กสาวเอ่ยชวนเพื่อนรักด้วยความอยากไปสุดๆ แต่เมื่อเพื่อนเงียบไปเธอจึงจับแขนพริก
บทที่ 1 ไม่ขอเจออีก=ได้เจอพริกแกงทำหน้าเลิ่กลั่กกับคำพูดหยาบคายที่เพิ่งเคยได้ยินเพื่อนพูดออกมาครั้งแรก ก่อนจะรั้งแขนแป้งปั้นเดินออกมาจากตรงนั้น"เจ็บมากไหมเนี่ย ดูสิตรงนี้เขียวหมดแล้ว" พริกแกงปัดเสื้อผ้าแป้งปั้นเบาๆ ก่อนจะดูรอยแผลถลอกจากการล้มให้ "ถ้าพ่อแกรู้จะเป็นยังไงเนี่ย เราสองคนจะไม่ถูกกระทืบใช่ไหม" คนถูกถามถอนหายใจยาวๆอย่างเบื่อหน่าย แค่คิดว่าพ่อจะส่งคนมาคอยติดตามหลังจากนี้ก็รู้สึกหมดสนุกแล้ว"เดี๋ยวแป้งคุยกับพ่อเอง พ่อคงไม่ใจร้ายหรอก""แต่พ่อแกเป็นมาเฟียนะ ไหนจะลุงๆ ทุกคนอีกน่ากลัวกันทั้งนั้นเลย" เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มทำท่าสยดสยองเมื่อนึกถึงบรรดาคุณลุงหน้าหล่อแต่โหดเพื่อนพ่อแป้งปั้น ต่างจากแป้งปั้นที่เอาแต่ก้มหน้าแล้วพ่นลมหายใจออกเบาๆ"แป้งจะไม่ขอเจอคนปากไม่ดีอีก สาธุนะคะอย่าให้ได้เจอเขาอีกเลย" 'ใจร้ายมาก แถมยังปากไม่ดีอีกด้วย!' แป้งปั้นขมวดคิ้วยุ่งเมื่อภาพใบหน้าของบดินทร์ฉายเข้ามาในหัว เธอรีบส่ายหน้าไปมาเบาๆ เพื่อไล่ความคิดบ้าบอนี้ออกจากหัวแล้วรีบพากันกลับไปที่โรงเรียนเหมือนเดิม ไม่นานรถยนต์คันหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดเทียบริมฟุตปาธหน้าโรงเรียน"ไปไหนมา" เบิร์ดคือเจ้าของคำถามนั้น เ
บทที่ 2 มีเรื่องบดินทร์กัดฟันกรอด ท่าทางเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเมื่อครู่ก็ได้ยินสิ่งที่เธออุทานออกมาชัดเจน บดินทร์วางกีตาร์ตัวโปรดลงแล้วเดินตรงมาหาแป้งปั้น"ว่าใคร!" เสียงห้วนจัดเอ่ยถามเด็กสาวแต่ไม่ทันจะได้รับคำตอบบอดี้การ์ดของแป้งปั้นก็เข้ามาล็อกแขนเขาไว้ทั้งสองข้าง เหตุการณ์เริ่มบานปลายไปเรื่อยๆ แป้งปั้นหน้าถอดสีกับการกระทำอุกอาจของบอดี้การ์ด "ปล่อยกู!" บดินทร์ตะเบ็งเสียงดังลั่นพร้อมสะบัดตัวจนหลุดออกจากพันธนาการ"ถอยไป" การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทางเอาจริงในขณะที่บดินทร์เองก็มองด้วยสายตาดุดันเอาเรื่องเหมือนกัน"อยากให้ถอยก็บอกคนของมึงขอโทษกูก่อนสิ" บดินทร์ใช้คำหยาบแล้วตวัดสายตาดุดันมองแป้งปั้น เขาไม่จำเป็นต้องถอยเพราะไม่ได้ก่อเรื่องก่อนสักหน่อย หากเธอไม่ด่าเขาคนปากหมาก่อน บดินทร์ปรี่เข้าไปหาแป้งปั้นพร้อมกับคว้าแขนเธอไว้แน่น "ขอโทษมาดิ""คุณ!" บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ผลักอกแกร่งออกจนบดินทร์เสียหลักล้มลงกับพื้น เขากัดฟันแน่นแล้วลุกขึ้นมาง้างหมัดต่อยหน้าบอดี้การ์ดแป้งปั้นหนักๆ จนหน้าหันไป แป้งปั้นกรีดร้องเสียงหลงยิ่งทำให้เป็นที่สนใจของผู้คนที่มาเดินตลาดจับจ่ายซื้อของ ชา
บทที่ 3 เกรี้ยวกราดเสียงร้องไห้ของแป้งปั้นยิ่งทำให้บดินทร์หงุดหงิดใจเข้าไปใหญ่ โอโซนที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามาห้ามปรามเพื่อนก่อน แต่ก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นเพื่อนโกรธขนาดนี้ เพราะปกติบดินทร์แทบจะไม่สุงสิงกับใครและไม่เคยใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ด้วย"อึก..ฮือ~ แป้งเจ็บ" แป้งปั้นเปล่งเสียงสะอื้นออกมาด้วยความเจ็บ มือเรียวเล็กลูบศีรษะตัวเองเบาๆ จนคนที่เห็นรู้สึกเห็นใจมากๆ ขุนเขาเดินเข้ามายืนตรงหน้าแป้งปั้น เขาทั้งจะยิ้มทั้งจะทำหน้านิ่ง รู้สึกประหม่าไปหมดเพราะไม่เคยปลอบผู้หญิงมาก่อน"อะ..โอ๋ๆ ไม่เจ็บนะ" เขาตัดสินใจยกมือขึ้นมาลูบผมแป้งปั้นเบาๆ เพราะจำได้ว่าตอนเป็นเด็กแม่ก็เคยโอ๋แบบนี้แต่การกระทำของเขากลับทำให้บดินทร์ไม่ชอบใจอย่างมาก"ปัญญาอ่อน แม่ง!" ชายหนุ่มสบถคำหยาบแล้วหันหลังเดินไปเอากระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาคล้องบ่าตามด้วยกระเป๋ากีตาร์ตัวโปรดแต่ก่อนจะเดินออกมาก็เหลือบตามองหน้าเพื่อนทุกคนอย่างเบื่อหน่าย"ไปไหนวะ เฮ้ย! ไปไหนโว้ย" ปกป้องทั้งตะโกนเรียกตามหลังทั้งกวักมือเรียกแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากเพื่อนเลย บดินทร์เห็นเขาเป็นธาตุอากาศรึไงกัน "ไอ้นี่ หัวเสียอะไรนักหนาวะเนี่ย" เขาบ่น
บทที่ 4 ลูกชายเดียวบดินทร์เดินอาดๆ ออกมาจากมหาวิทยาลัย เขาตรงไปที่ลานจอดรถ แต่จังหวะนั้นกลับมีรุ่นน้องคนหนึ่งเดินมาชนเขาเต็มๆ จนทำให้กระเป๋ากีต้าร์โปร่งสุดที่รักหล่นลงพื้นอย่างแรง"เดินยังไงวะ ไม่ดูคนเดินสวนมาเลยรึไง""ขะ..ขอโทษค่ะพี่บดินทร์ หนูขอโทษนะคะ""เล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง มันน่า.." เขากำหมัดแน่นแล้วยกกระเป๋ากีต้าร์โปร่งขึ้นมาและได้พบว่าคอกีตาร์หักเสียแล้ว บดินทร์ยืนอึ้งกินกับสิ่งที่เห็น"นะ..หนูจะชดใช้ให้นะคะ""ใสหัวไป ก่อนที่ฉันจะเอากีตาร์ปาดหน้าเธอ" เขากำหมัดแน่นอย่างเดือดดาล หลังจากที่บดินทร์พูดประโยคนั้นออกมารุ่นน้องสาวรีบวิ่งหนีตายทันที"อะ..อ้าวเฮ้ย ทำไมเป็นงี้วะเนี่ย" ขุนเขาที่เดินตามเพื่อนมาเอารถมอเตอร์ไซค์เห็นสภาพกีตาร์ที่บดินทร์ถืออยู่ถึงกับหน้าเหวอไปทันที ในขณะที่บดินทร์ยืนนิ่ง "มึงโอเคไหมวะ""แล้วมึงคิดว่ากูโอเคไหม" บดินทร์ตอบเพื่อนเสียงเรียบก่อนจะพ่นลมหายใจออกหนักๆ "กีตาร์ตัวโปรดที่พ่อกูซื้อให้ก่อนตาย แต่วันนี้มันพังแล้ว" บดินทร์ตัดพ้อเสียงอ่อน เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง"มึงให้กูเอาไปซ้อมให้ไหม ทางผ่านไปบ้านกูพอดีเลยอะ ร้านนั้นซ่อมดีด้วยนะ""ไม่เป
บทที่ 5 เด็กปากดีบดินทร์ขมวดคิ้วเดินเข้ามาหาแม่ที่อยู่ในห้องครัว แต่ก็ต้องคลายสีหน้ากับภาพที่เห็น"มาแล้วเหรอ ไปนั่งรอเลยเดี๋ยวแม่ไปตักข้าวให้" รอยยิ้มบนใบหน้าของแม่ทำให้เขาหลุดยิ้มตามอย่างลืมตัว สายป่านตักเครื่องเคียงข้าวต้มโบราณใส่ถ้วยเล็กๆ มาวางบนโต๊ะตามด้วยข้าวต้มสองถ้วย เธอเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับลูกชาย "ดินชอบกินกุ้งกับหมูใช่ไหม เอาไปเยอะๆ เลยนะ" รอยยิ้มของแม่ทำให้เช้านี้สดใสขึ้นมาเยอะเลย"แต่แม่ไม่ต้องลำบากทำก็ได้""ให้คนแก่ทำบ้างเถอะ อยู่เฉยๆมันก็เบื่อ ทำแค่กับข้าวไว้รอลูกก็ดีใจแล้ว""ครับ แต่ห้ามทำงานหนักเข้าใจไหม เดี๋ยวผมให้ลุงอเนกมาอยู่ด้วย""ไม่เป็นไรๆ แม่อยู่คนเดียวได้""อย่าดื้อ" บดินทร์ปรายตามองเพียงนิดแล้วตักข้าวต้มใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ สายป่านมองหน้าลูกชายอย่างมีความสุข "อร่อยเหมือนเดิมครับ""กินเยอะๆนะลูก" เธอยิ้มหวานให้ลูกแล้วตักข้าวต้มใส่ปากบ้าง นานๆ ทีจะได้นั่งกินข้าวกับลูกชายสองคน เพราะปกติบดินทร์จะออกไปเรียนแต่เช้าและกลับเข้าบ้านดึก เลยพลาดโอกาสนั่งกินข้าวด้วยกัน"วันนี้ผมมีเรียนช่วงบ่าย เดี๋ยวตอนเย็นจะซื้อขนมตาลร้านที่แม่ชอบมาฝาก""จ้ะ" เธอยิ้มกริ่มแล้วตั