หลังจากเวลาเลิกงานแล้วราชาวดียังคงทำงานชดเวลาอยู่เหมือนเดิม ไม่มีที่าว่าจะกลับแต่อย่างไร ไม่ได้ต่างไปจากทิติเอกในตอนนี้ที่เขายังคงทำงานเหมือนเดิมไม่ได้จะขยับตัวเองออกจากเก้าอี้ทำงานเลย
แต่ทิติเอกที่เหมือนคนขยัน แต่เปล่าเลยเขาแค่คิดว่าการนั่งทำงานเพื่อที่จะเลิกจดจ่อเรื่องงานของตัวเองมันจะดีกว่าการที่เขานั้นคิดเรื่องของคนตัวเล็ก แต่ยิ่งพยายามไม่คิดเท่าไหร่เขากลับยิ่งคิดมากเท่านั้น
“โธ่เว้ย”ทิติเอกที่หงุดหงิดจนเหลือจะควบคุม เขาก็ได้ขยับตัวเองออกมาจากที่โต๊ะทำงานทันที ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทำงาน แต่เมื่เขาได้เห็นว่าราชาวดียังนั่งทำงานอยู่เขากับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างส่งสัยในตัวของคนตัวเล็กทันที
“ลุก…”
“คะ”
“ฉันบอกให้ลุกแล้วก็กลับบ้านเดี๋ยวนี้”คำพูดของทิติเอกที่เคยใช้ได้ผลกับคนตัวเล็กมาตลอดตอนนี้กลับไม่เป็นผลกับเธอเมื่อหญิงสาวเอาแต่นิ่งเงียบ ไม่ยอมพูดจาเอาแต่นั่งทำงานเท่านั้น
“วดี เธอจะเอายังไงพูดออกมาเลย”
“ได้หรอคะ…แล้วถ้าวดีอยากไปจากที่นี่ล่ะคะ”
“ฉันอยากจะรู้จริงๆ มันเป็นใคร”ทิติเอกเอ่ยออกมาพร้อมกับกัดฟันของตัวเองอย่างพยายามควบคุมอารมณ์
“ถ้าวดีบอกว่ามันไม่มีอะไรและไม่มีใครทั้งนั้น คุณเอกจะเชื่อไหมคะ”หญิงสาวไม่เพียงแต่เอ่ยออกมาเท่านั้น แต่สายตาที่เธอจับจ้องมองหาความไว้ใจที่เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้จะมีมันให้เธอบ้าง นั้นคือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดไม่ใช่สิ่งอื่น
“งั้นไหนลองบอกมาซิ ว่าไปได้สร้อยที่คอมาได้ยังไง”
“วดีไม่รู้ว่าคุณรัตนาต้องการอะไร แต่ถ้าเรื่องสร้อย มันเป็นของที่แม่ครูฝากไว้ให้วดีก่อนที่แม่จะตกบันไดลงมา แม่ครูบอกว่าเป็นของที่พ่อกับแม่วดีทิ้งไว้ให้ตอนพาวดีมาทิ้งที่บ้านเด็กกำพร้า”คำพูดของราชาวดีที่ดูธรรมดาแต่มันกลับคลายปมในใจให้กับชายตรงหน้าของเธอได้จนน่าใจหาย
“อย่าให้ฉันจับได้ก็แล้วกัน”
“งั้นก็แล้วแต่คุณเอกเลยค่ะ วดีจะทำงานต่อ”
“ราชาวดี ลุกเดี๋ยวนี้”ทิติเอกเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ดังจนคนตัวเล็กอดที่จะตกใจจนสะดุ้งไม่ได้ แต่ความตกใจของเธอทำให้ทิติเอกรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
“วดียังมีงานต้องทำ”
“ทำไม่ถึงดื้อได้ขนาดนี้ไม่ทราบ ไปเอานิสัยแบบนี้มาจากไหน”ทิติเอกที่เห็นความดื้อรันของหญิงสาวที่ตอนนี้ก็ยังคงดื้อจนหัวชนฝา เขาก็อดที่จะขยับตัวเองเข้าไปหาเธอก่อนที่จะเอ่ยออกมาไม่ได้ ชายหนุ่มไม่เพียงแต่พูดอย่างต่อว่าคนตัวเล็ก แต่เขานั้นกลับจับลงที่ข้อมือของราชาวดี ก่อนที่จะทำการจับให้เก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่ได้ทำการหมุนมาทางเขาทันที
“แต่คุณเอกคะ”คนตัวเล็กเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปยังใบหน้าของชายหนุ่มที่ตอนนี้ขยับใบหน้าของตัวเองเข้าไปหาหญิงสาว
“ไปหาหมอมาเป็นไงบ้าง”คำถามของที่ทิติเอกที่เอ่ยถามออกมาทำให้คนตัวเล็กที่ได้ยินแทบจะหยุดหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอได้ไปหาหมอมา
“แค่หน้ามืดแล้วเป็นลมค่ะ”
“เหรอ ใช่เหรอ”ทิติเอกเอ่ยออกมาก่อนที่เขานั้นจะขยับใบหน้าของตัวเองเข้าไปหาราชาวดีอีก ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะจูบลงที่ริมฝีปากของคนตัวเล็กทันที พร้อมมือของเขาได้ปล่อยให้จข้อมือของคนตัวเล็กได้เป็นอิสระ
“เก็บของ”การจูบที่เป็นการจูบในระยะสั้นของชายหนุ่มได้หยุดลงก่อนที่เขานั้นจะได้ทำการขยับตัวเองถอยห่างคนตัวเล็ก ที่ตอนนี้ก็ได้เริ่มทำการเก็บของเพื่อที่จะกลับบ้านอย่างที่ชายหนุ่มบอกกับเธอ
ราชาวดีได้ทำการกลับมาที่บ้านของเธอไยการนั่งรถที่เธอเรียกแทนการให้บดินทร์มาส่งด้วยที่ทิติเอกนั้นต้องไปทำงานต่อ และไหนจะงานสังคมที่เขานั้นต้องออกอีกทำให้เธอนั้นไม่อยากจะรบกวน
ราชาวดีที่มาถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็เอาแต่นั่งคิดเรื่องที่เธอท้องอย่างพยายามหาทางออกเพราะถ้าเธอให้ทิติเอกรู้เรื่องนี้มันจะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอนเพราะทางนั้นทั้งแต่งานแล้ว และเรื่องยคุมเขาก็กำชับกับเธอตลอดนั้นก็แสดงให้เห็นว่าเขานั้นไม่ได้อยากให้เธอท้อง
“แม่จะทำไงดี”ราชาวดีที่คิดเรื่องราวต่างๆอย่างหนักหน่วงอยู่ครู่ใหญ่เธอก็ยังคงนอนเล่นที่โซฟาตัวล่างของบ้านเหมือนเดิม จนตอนนี้หญิงสาวก็ได้เผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
ช่วงกลางดึกของวันคนตัวเล็กนั้นยังคงไม่รู้สึกตัว เธอยังคงนอนที่เดิมจนมีคนที่เดินเข้ามาภายในบ้าน
“ทำไมมานอนตรงนี้”
“นั้นซิครับ”
“ไปโรงบาลมาไม่ใช่หรอ แล้วตกลงป่วยเป็นอะไร”ทิติเอกเอ่ยถามออกมาเมื่อเขาจำได้ว่าบดินทร์มาขอตัวเองไปรับคนตัวเล็กที่โรงพยาบาล
“แค่เป็นลม”ทิติเอกที่ได้คำตอบก็พยักหน้ารับแค่นั้น ก่อนที่จะเดินเข้ามาหาราชาวดี เขาไม่รอช้าที่จะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นไปยังสองของบ้านเพื่อที่จะทำการส่งคนตัวเล็กกลับเข้าไปที่ห้องนอนของเธอ
ทิติเอกที่จัดการให้ราชาวดีนอนลงที่เตียงนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาก็ได้เข้าไปอาบน้ำก่อนที่จะเดินกลับมาหาคนตัวเล็กที่ตอนนี้ยังคงหลับไม่รู้เรื่อง แต่ยังดีที่คนตัวเล็กอาบน้ำแล้ว ทิติเอกก็ไม่ต้องลำบากปลุกให้เธอตื่นขึ้นมากเพื่อที่จะให้เธออาบน้ำอีก
สายตาคมมองไปเห็นถุงกำมะหยี่สีขาวที่ว่างอยู่บนกล่องกำมะหยี่สีเดี๋ยวกัน ทิติเอกก็ม่รีรอที่จะขยับตัวเองเข้าไปดูทันที เมื่อเปิดออกมาเขาก็ภพว่าเป็นสร้อยที่ราชาวดีใส่อยู่ และภายในกล่องก็เป็นสร้อยมุกที่ราคาไม่ได้แพง ทิติเอกไม่รีรอที่จะถ่ายรูปส่งไปที่บดินท์ทันที
“ตามชื่อร้านบนกล่อง”ทิติเอกเอ่ยออกมาทันทีเมื่อคนปลายสายได้ทำการกดรับสายโทรศัพท์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ได้ครับ”
หลังจากที่ร่างหนานั้นได้ขยับตัวเองกลับลงมานอนที่เตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กที่นอนนิ่งอยู่ในคราวแรกก็ได้ทำการขยับตัวเองเข้ามาหาอ้อมกอดของทิติเอกทันที
“ตื่นแล้วหรอ”ทิติเอกเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กได้ขยับตัวเข้ามาหาตัวเอง
“ตื่นตั้งแต่ที่อุ้มแล้วค่ะ”
“แล้วหลอกให้อุ้มเนี่ยนะ”ทิติเอกเอ่ยออกมาก่อนที่เขานั้นจะเริ่มทำการขยับตัวเองเพื่อที่จะให้ราชาวดีนอนราบไปกลับเตียงนอน
"ไม่ได้หลอกแต่ไม่ได้บอกเฉยๆ"
"งั้นก็คงต้องจ่ายค่าอุ้มแล้วแหละ"
ทิติเอกไม่เพียงแต่เอ่ยออกมา แต่เขาได้ทำการจูบลงที่ริมฝีปาของหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างของตัวเอง ราชาวดีที่ได้รับการจูบจากชายหนุ่มตรงหน้าของตัวเอง เธอไม่เพียงแต่รับสัมผัสจากเขาเท่านั้น แต่หญิงสาวกลับตอบสนองสัมผัสของชายหนุ่ที่ส่งมาให้กับตัวเอง การจูบที่เรียกว่าทั้งดูดดื่มและเร้าร้อนในเวลาเดียวกัน แทบจะดูวิญญาณของกันและกันในทันทีทิติเอกที่เพียงแต่จูบคนตัวเล็กในคราวแรก ตอนนี้เขานั้นกลับได้ทำการส่งมือของตัวเองเข้าไปสัมผัสที่ทรวงอกของหญิง การกอบกุมที่ทรวงอกพร้อมทั้งเริ่มทำการบีบเค้นที่ทรวงอกของหญิงสาวที่ตอนนี้ได้อยู่ภายใต้บาร์เซียร์ที่บางที่เธอได้สวมใส่อยู่"คุณเอกหายโกธรวดีหรือยังคะ"หญิงสาวที่เคยถูกจูบก่อนได้ ได้เอ่ยถามออกมาเมื่อเธอได้รับอิสระจากชายหนุ่ม ซึ่งตอนนี้ได้ขยับตัวเองลุกขึ้นถอยห่างจากหญิงสาว แต่เพียงไม่มากนัก"จะโกรธเรื่องอะไร ฉันไม่มีเหตุผลมากกว่า"ทิติเอกที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจบทสนทนาของหญิงสาว นอกจากการได้เฉยชมคนตัวเล็กในตอนนี้มือหนาได้ทำการเอื้อมไปถอดเสื้อของหญิงสาว ก่อนท่จะเริ่มทำการสัมผัสลงที่เอวคอดพร้อมกับการที่มืออีกข้างได้เอื้อมไปปลดตะข้อบาร์เซียร์ที่หญิงสาวได้สวมใส่อยู่"มันเล็
ทิติเอกที่ขยับตัวเองอยู่ที่ระหว่างขาของคนตัวเล็กแล้ว ชายหนุ่มก็เริ่มทำการจับลงที่ท่อนเอ็นของตัวเองก่อนที่จะเริ่มจับมันถูไปมาที่ร่องสวาทของหญิงสาว แต่เพียงไม่นานเท่านั้น ทิติเอกก็เริ่มทำการดันท่อนเอ็นของตัวเองเข้าไปภายในรูรักของหญิงสาว แต่เมื่อปลายหยักเข้าไปได้เพียงครึ่งทางทิติเอกก็เริ่มรับรู้ถึงความคดเกร็งของหญิงสาว มือหนาก็เริ่มได้ทำการกอบกุมที่ทรวงอกของหญิงสาวเพื่อเบียงเบนความสนใจของหญิงสาว และมันก็ได้ผลเมื่อชายหนุ่มได้ทำการดันท่อนเอ็นของตัวเองเข้าไปภายในรูรักของหญิงสาวได้จนสุดทางเป็นที่เรียบร้อนแล้วเมื่อท่อนเอ็นของชายหนุ่มได้ดันเข้าไปภายในรูรักของหญิงสาว จนสุดทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทิติเอกก็เริ่มทำการขยับสะโพกสอบของตัวเองเข้าหาร่างบางในทันที การขยับตัวเองของร่างหนาที่เป็นจังหวะที่เรียกว่าไม่เร็วมากแล้วไม่ช้าการกระทำของร่างหนาที่ทำนั้นสร้างความรู้สึกที่เรียกว่าเสียวซ่านได้กลับมาเกิดขึ้นกับคนตัวเล็กมากกว่าเดิม การขยับสะโพกของร่างหนานั้นได้ทำการขยับเร็วเป็นเท่าตัว“ผั่บ ผั่บ ผั่บ ผั่บ ผั่บ ผั่บ ผั่บ ผั่บ ผั่บ ผั่บ”เสียงของเนื้อที่ดังกระทบกันดังออกมาอย่างต่อเนื่อง เป็นจังหวะเดียวกั
ในวันนี้ราชาวดีที่นอนพักจนพอใจแล้วหญิงสาวก็ได้เดินทางมาที่ห้องเพื่อเดินเล่นดีกว่าทิ้งตัวเองนอนซมอยู่ที่บ้านอย่างที่เกิดขึ้น"อ้าว....ราชาวดี"หญิงสาวที่ได้ยินเสียงที่เธอจำได้ว่าเป็นของใครหญิงสาวก็ได้หันกลับไปมองก่อนที่จะยกมือไหว้ผู้หญิงต่งหน้าทันที"สวัสดีค่ะคุณหญิงรัตนา"ราชาวดีเอ่ยออกมาพร้อมยิ้มให้กับผู้หญิงที่ยังคงความสวยเอาได้อย่างไเปลี่ยน เช่นเดียวกับที่รัตนาได้ยิ้มให้กับหญิงสาว แต่รอยยิ้มที่รัตนาส่งมาให้กับคนตัวเล็กมันเป็นรอยยิ้มที่เรียกว่าอบอุ่นจนราชาวดีอดที่จะนิ่งลงไปไม่ได้"เหมือน...เหมือนอย่างกับคนๆเดียวกัน"เสียงที่ดังออกมาเรียกสติของราชาวดีได้เป็นอย่างดี จนเธออดที่จะหันไปมองที่คนข้างกายของรัตนาไม่ได้"ตาสิง...หนูวดีมาธุระหรอลูก ป้าไม่คิดว่าจะได้กันแบบบังเอิญอีก""เปล่าค่ะ พอดีหนูไม่สบายก็เลยได้หยุดงานนะคะ""ผมว่าเราหาที่นั่งคุยกันดีกว่านะครับ"สิงหราชเอ่ยออกมาทำให้ผู้เป็นแม่เห็นชอบกับสิ่งที่ลูกชายของเธอเอ่ยออกมา"สะดวกไหม ป้ารบกวนหรือเปล่า""เปล่าค่ะ""ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับวดีหรือเปล่าคะ"ราชาวดีเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าทั้งรัตนาและสิงหราชลูกชายของเธอเอาแต่จับจ้องมองมาที่เธออย
ทางด้านของทิติเอกที่ควรจะได้ไปภูเก็ตวันพรุ่งนี้ เขาถูกกลับผู้เป็นแม่สั่งอย่างยืนคำขาดให้เขาเดินทางไปภูเก็ตในวันนี้“เจอหรือยัง”ทิติเอกที่ได้รับรายงานจากบดินทร์หลังจากที่เขาได้เดินทางขึ้นเครื่องมาแล้ว ว่าราชาวดีได้หายตัวไป“ยังครับ แต่ตอนนี้ผมให้คนไปดูที่บ้านเพียงรักเพื่อเธอกับไปที่นั้น”“ตามจนกว่าจะเจอถ้าเธอเป็นอะไรไปรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดะไรขึ้น”ทิติเอกมองบดินทร์ด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ยากว่าภายในใจของทิติเอกคิดอะไรอยู่“ครับ”“มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”สายตาคู่คมมองไปยังผู้ที่เดินเข้ามาหาเขาพร้อมคำถามที่เธอเหมือนจะสนใจเป็นพิเศษ“เปล่า…”สายตาคู่คมที่เเคยมองแพรไพลินในตอนแรกได้หันกลับมาสนใจหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงสายเรียกเข้าซึ่งเป็นชื่อของคนที่เขาสั่งให้คนตามหา ทั้งๆที่ก่อนหน้าเขาพยายามโทรหาเธอหลาย่อหลายสาย แต่ก็ไร้การตอบกลับ“ไม่มีอะไรทำ”ทิติเอกปิดหน้าจอโทรศัพท์ลงก่อนที่จะเอ่ยถามคนที่ตอนนี้ให้ความสนใจของเขามากกว่าที่จะสนใจขาเสียอีก“คุณเอกคะ แพรว่าคุณควรรู้ไว้นะคะว่าคุณแต่งงานแล้ว ซึ่งนั้นก็หมายความว่าคุณเป็นสามีของแพร จะทำอะไรก็ให้เกียรติแพรบ้างนะคะ”“แล้ว….เป็นสามีเธอแค่ในนามเท่านั้น”ทิติเอกเอ่ยออก
อาทิตย์ต่อมาราชาวดีก็ยังคงมาทำงานเหมือนเดิมในทุกวัน ต่างไปจากทิตเอกที่ตอนนี้เขาได้ไปๆมาๆแถมเขายังไม่ยอมไปหาคนตัวเล็กที่บ้านความรู้สึกของคนตัวเล็กในตอนนี้เธอเริ่มรักคนที่อยู่กับตัวเองมากกว่าผู้ชายที่เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะครอบครองเขาเลยแม้แต่น้อย“คุณราชาวดีครับ”“คะ”หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าบดินทร์มาตั้งแต่ตอนไหนเงยใบหน้าขึ้นอย่างตั้งคำถามเมื่อเขาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมเอ่ยเรียกหญิงสาว“คุณทิติเอกให้คุณเข้าไปหาครับ”“ค่ะ”ราชาวดีที่ไม่รู้ว่าทิติเอกได้เดินเข้าไปภายในห้องทำงานตั้งแต่ตอนไหนก็อดที่จะขมวดคิ้วตัวเองอย่างสงสัยไม่ได้“มาได้สักพักแล้วครับกำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ”“อ๋อเหรอคะ เปล่าค่ะ วดีไม่ได้คิดอะไร”หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนที่จะขยับตัวเองเพื่อที่จะเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของทิติเอก“คุณเอกเรียกวดีมีอะไรหรือเปล่าคะ”ราชาวดีมองทิติเอกที่ยืนมองวิวอยู่หลังโต๊ะทำงานของตัวเอง แต่เมื่อเธอเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาหยิงสาวจึงได้ตัดสินใจเอ่ยถามออกมา“ซองเอกสารอยู่บนโต๊ะ”“ค่ะราชาวดีเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่มแต่เมื่อเธอได้เห็นซองสีน้ำตาลที่วางอยู่ หญิงสาวอดที่จะหยิบขึ้นมาเดดูไม่ได้ แต่เม
"คุณเอกนั่งก่อนเถอะครับ"บดินทร์เอ่ยออกมาเมื่อทิติเอกเอาแต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้อง ฉุกเฉินต้องแต่เขาได้ส่งแพรไพลินเข้าไปด้านไหนแล้ว"ฉันหวังว่าเด็กในท้องของแพรจะยังอยู่""คุณเอกหมายความว่ายังไงครับ"บดินทร์ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทิติเอกเอ่ยออกมาจึงได้ถามออกมาเพราะเจ้านายของเขาไม่ได้ต้องการมีลูกไม่ว่ากับใคร"ก็เพราะเด็กนั้นไม่ใช่ลูกฉัน ถ้าแท้งเรื่องก็จบ แต่ถ้าไม่คุณแม่จะพูดออกอีกไหม"ทิติเอกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่า ทิติเอกโกรธมากแค่ไหน"ญาติคนไข้ที่ท้องล่ะมายัง...หมอให้ตาม""เกิดอะไรขึ้น..."พยาบาลสาวเอ่ยถามเพื่อนรวมแผนกที่ดูสีหน้าไม่ดีเลย"แม่เสียเลือดเยอะเลย ตอนนี้ต้องการเลือกโอกาสรอดทั้งแม่ทั้งลูกน้อยมากเลย"คำพูดของพยาบาลทำให้ทิติเอกตกใจไม่น้อย"คนไข้ชื่ออะไร....ฉันเป็นคนส่งคนไข้ทั้งสองคนนั้น""ราชาวดี แต่เดี๋ยวนะคะคุณเป็นพามาส่ง แต่ไม่ใช่ญาติ""ญาติหรอครับ"บดินทร์ตกใจในคำพูดของพยาบาลไม่น้อยก่อนที่จะมองไปยังทิติเอกที่ตอนนี้ก็สงสัยไม่ต่างไปจากตัวเอง"ผมเป็นพี่ชายของราชาวดีครับ""ค่ะ...ตามพยาบาลไปเลยค่ะ"ทิติเอกมองสิงหราชเพื่อนสนิทของตัวเองที่เดินเข้ามาพร้อมคุณหญิงรัตนาและมันทำให้เ
"ต่อให้วดีต้องตาย วดีก็ไม่มีทางเอาเข้าออก"เสียงที่ดังขึ้นมาของราชาวดี ที่เธอฟื้นขึ้นมาหลังจากหลับไปได้เกือบสามวัน และเมื่อเธอตื่นขึ้นมากลับต้องพบเจอกับความจริงที่เจ็บปวดหญิงสาวยังคงมองไปที่ผู้เป็นแม่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดภายในใจของเธอ"หมอคิดว่าการตัดสินใจนี้ ขึ้นอยู่กับคนไข้ แต่ถ้าเป็นไปได้หมอก็อยากให้เอาออก"หมอหนุ่มเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบ"ไม่ค่ะ ยังไงวดีก็ไม่ยอม ใครเขาไม่ต้องการก็ชั่งเขา ลูกวดีๆดูแลเขาได้"หญิงสาวยังคงยืนกรานในคำเดิม แต่เหมือนคำยืนกรานของเธอจะถูกกลืนลงในลำคอ ในสายตาของเธอได้ปะทะเข้ากับร่างหนาของคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี"ผมขอคุยกับเธอก่อนได้ไหม"ที่ทิติเอกที่ได้รับรู้เรื่องการฟื้นของราชาวดี เขาก็ไม่รีรอที่จะมาหาเธอในทันที ใบหน้าสวยหันไปอีกทางเพื่อจะหลบสายตาของชายหนุ่มที่มองมาที่เธอ"ราชาวดี หันกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันไม่รู้นะว่าเธอไปได้นิสัยดื้อดึงขนาดนี้มาจากใคร"ทิติเอกเอ่ยออกมาอย่างนึกต่อว่าหญิงสาว แต่เหมือนเธอจะไม่สนใจในคำพูดของเขาเลย ร่างหนาเดินเข้ามาหาหญิงสาว เขาจับที่ใบหน้าของเธอให้หันกลับมาหาเขา"ดูทำหน้าเข้า"ทิติเอกอดที่จะเอ่ยออกมาเมื่อเห็นใบหน้าข
"ไม่ทราบว่าคุณหญิงอรวีมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"ทิติเอกเอ่ยออกมายังประชดประชันผู้เป็นมารดา"เรื่องที่ลูกพูดหมายความว่ายังไง ผู้หญิงของลูกเป็นลูกสาวคนหญิงรัตนา"อรวีไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชายตัวเองเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินตามมาถามความให้รู้เรื่อง"ลูกสาวคุณหญิงรัตนาที่เธอตามหา มาตลอดนะครับ"น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วปกติ แต่แววตาตากับเจ็บปวดของที่ทิติเอก อดทำให้ผู้เป็นแม่ของเขาเป็นห่วงไม่ได้"ลูกรู้เรื่องนานหรือยัง""ทำไม ถ้ารู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นลูกสาวของคุณหญิงรัตนา คุณแม่จะจับเธอให้ผมหรอครับ ทั้งๆที่ปากพร่ำบอกว่าเธอไม่คู่ควรอะไรกับผมเลย""แม่จะให้ลูกอยู่ห่างเธอมากกว่านี้ต่างหาก""ทำไมผมไม่เข้าใจ"ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยกับสิ่งที่แม่ของเขาเอ่ยออกมา ทำให้ชายหนุ่มกับหนักใจในเรื่องนี้มากกว่าเดิม"คุณหญิงรัตนา เธอไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าไปเอื้อมถึงลูกสาวหรือลูกชายของเธอ ต่อให้เป็นเราก็ตามเธอ ไม่มีทาง ที่เธอจะยอมยกลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอให้ แล้วยิ่งพ่อนะ ถ้ารู้ว่าเอกกับลูกสาวเขาคบกันในที่ลับแบบนี้ แม่ไม่อยากจะคิดเลย""เรื่องนี้ผมรู้ว่าผมผิด ที่ไม่เคยให้ความชัดเจนเธอตั้งแต่แร
สามปีผ่านมา"อคิณ...มาหาแม่มาลูก"ราชาวดีเอ่ยเรียกเด็กชายที่ยังคงวิ่งเข้าไปภายในบริษัทของผู้เป็นพ่ออย่างสนุกสนานต่างจากผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้หมดแรงแม้แต่จะเดินแล้ว"คุณแม่ตามสิครับ เร็วๆตามมา"เด็กน้อยวัยสองขวบกว่าเรียกแม่ของตัวเองด้วยเสียงที่สนุกสนาน"ว้า...จับได้แล้ว"ราชาวดีที่เห็นลูกชายถูกยกลอยขึ้นจากพื้นก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจไม่ได้เพราะถ้าให้เธอวิ่งตามอีกคงได้เป็นลมแน่ๆ"คุณพ่อ" เสียงของเด็กชายเอ่ยออกมาก่อนที่จะโอบคอของทิติเอกพร้อมหอมลงที่ใบหน้าของเขาอย่างคิดถึง"ทำไมแกล้งแม่แบบนี้ครับ" ทิติเอกใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้กับลูกชายก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างเอ็นดูแม่ลูกคู่นี้ ที่ลูกชายเขาไม่รู้ไปได้นิสัยขี้แกล้งมาจากใคร วันๆเอาแต่แกล้งผู้เป็นแม่ให้วิ่งตาม แต่ด้วยนิสัยของราชาวดีไม่เคยจับลูกชายของเธอทันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ไม่ได้แกล้งเลย....คุณแม่" อคิณเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปยังราชาวดีที่ยิ้มให้กับสองพ่อลูกอยู่"แม่น่าจะอุ้มเราไม่ไหวแล้วนะคะครับ" ทิติเอกเอื้อมมือไปหาผู้เป็นแม่เพื่อที่จะให้อุ้มตัวเอง"ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ""ครับ...อคิณครับเดี๋ยวไปกับลุงบดินทร์นะครับ""ไปไหนคะ" รา
"มันจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะคะคุณอรวี ทิติเอกเป็นทายาทหมื่นล้าน ราชาวดีไม่มีอะไรเลย การที่นายหัวพูดแบบนั้นมันก็ทำให้คุรนักใจที่จะรับเธอมาเป็นสะใภ้ ดิฉันจะยกทรัพย์สินของฉันส่วนหนึ่งให้กับราชาวดี แต่เป็นทั้งหมดที่อยู่ภายในกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียงเราคำนวณแล้วก็เทียบเท่ากับทรัพสินย์ของคุณตอนนี้เลย แบบนี้เหมาะสมกันหรือยังคะ"รัตนาเอ่ยออกมาอย่างพยายามจับทางของอรวี"มันไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ ทิติเอกเก็บราชาวดีไว้ ไม่ได้เปิดเผย เธอเสียชื่อเสียงกับทางเราไปมากแล้วนะคะ"อรวีเอ่ยออกมาอย่างพยายามที่จะอธิบาย ด้วยเธอกลัวทิติเอกจะไม่เห็นด้วยเพราะเธอเคยผิดพลาดกับลูกชายของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง"งั้นยิ่งต้องตกลงเลย เพราะผมจะรับผิดชอบเธอ"ทิติเอกเอ่ยออกมาทำให้ผู้เป็นแม่ที่เดิมหนักใจไม่น้อย กลัวลูกชายเธอจะไม่เห็นด้วยถ้าเธอรับทางโน่นเลย แต่กลับกัน ทิติเอกอยากจะรับผิดชอบราชาวดีมากจนเธอคาดไม่ถึง"ว่ายังไงครับ"สิงหราชเอ่ยถามออกมาอย่าต้องการคำตอบเช่นเดียวกับทุกคนที่นี่"ค่ะ เห็นสมควรกันขนาดนี้ วีไม่กล้าขัดแล้วค่ะ"คำพูดของอรวีที่เอ่ยออกมาทำให้ทิติเอกดีใจไม่น้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือของตัวเองไปจับลงที่มือของคนตัวเล็กที่น
หลังจากการเดินทางมาที่บ้านของทิติเอกอีกครั้ง หลังจากที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมา เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเดินทางกลับมาที่นี่อีก จนแม่ของเขาให้เข้ามาคุยธุระอย่างวันนี้และพ่อของราชาวดีและรัตนาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับแม่ของเขาในวันนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรออกมาได้นอกจากทำตามที่อรวีต้องการเท่านั้น"เอกมาแล้วหรอลูก"อรวีที่อยากจะเอ่ยคำขอโทษลูกชายของเธออย่างนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องขึ้นมาจนถึงตอนนี้สายตาของอรวีประทะเข้ากับร่างของคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแต่เมื่อเธอได้เห็นว่าอรวีได้หันมามองที่เธอ"สวัสดีค่ะคุณหญิงอรวี"ราชาวดีเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่เต็มสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เลือกที่จะเอ่ยออกไป เพราะถ้าไม่เอ่ย ก็เท่ากับว่าเธอเสียมารยาท"เข้าบ้านก่อน"อรวีเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินนำทั้งสองเข้าไป ราชาวดีที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเกร็งตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีในตอนนี้ แต่มือหนาของชายข้างกายเธอกลับบีบที่ข้อมือของเธอย้ำๆทำให้หญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักให้กับเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในบ้านของทิติเอกตามที่ชายหนุ่มได้จับมือเธอเดินเข้าไปภายในบ้าน"เดี๋
ราชาวดีที่เพิ่งทานอาหารจากที่ทิติเอกเป็นคนค่อยป้อนให้เธอเสร็จ หญิงสาวก็ได้มานั่งจับจ้องที่ทีวี และเธอก็คงต้องอยู่ที่นี่ 1 อาทิตย์เพื่อที่หมอจะได้แน่ใจว่าเธอจะไม่กลับเข้ามาหาเขาอีกครั้ง"ดูอะไร"ทิติเอกที่เดินเข้ามานั่งข้างเตียงนอนก็เอ่ยถามออกมาเมื่อหญิงสาวยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่คิดที่จะสนใจอย่างอื่น"ข่าวทั่วไปค่ะ แล้วไปไหนมาคะไม่ไปทำงานหรอ"ราชาวดีอดที่จะเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัยไม่ได้ เพราะเธอเห็นว่าทิติเอกแต่งตัวด้วยชุกลำรองนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะไม่ไปทำงาน"ไม่อ่ะ...นักข่าวเยอะรำคาญ....ปวดหัวมากเลยเป็นอะไรไม่รู้"ทิตเอกเอ่ยออกมาอย่างอ้อนๆก่อนที่จะซบแขนของคนตัวเล็ก เขาเพิ่งรู้ว่าการอยู่ใกล้ราชาวดีมันทำให้เขานั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"ให้วดีเรียกหมอให้ไหมคะ...""ไม่เอา อยู่แค่นี้ก็หายแล้ว"คนตัวโตเอ่ยออกมาพร้มจับมือของเธอมาซบเอาไว้ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ว่าอะไรพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อที่จะเข้ามาหาทิติเอก"ข่าววันนี้เป็นข่าวที่น่าตกใจมากเลยนะคะ ไฮโซสาวอย่างคุณแพรไพลินที่เป็นลูกสาวของรัฐมนตรีมีข่าวออกมาว่าเธอท้อง แต่ฝ่ายชายไม่รับ คุณแพรพรรณลายเลยจับให้เธอแต่งงานกับคุณทิติเอกเม
"คุณเอกไม่รักวดี วดีไม่ว่านะคะ ไม่ว่าเรืื่องลูกหรือเรื่องอะไรก็ตาม แต่อย่าผลักวดีให้กับคนอื่นได้ไหม วดีของแค่นี้ได้ไหม"ราชาวดีเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทิติเอกตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยออกมาเขาขยับตัวเองเข้าไปหาคนตัวเล็กด้วยความเร็วพร้อมกับการดึงเธอเข้ามาภายในอ้อมกอด"หมอบอกว่าอย่าเครียดไงวดี....ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปฉันจะไม่แต่งงานกลับเธอ"หญิงสาวที่อยู่ภายในอ้อมกอดของชายหนุ่มนิ่งลงพร้อมกับการขยับตัวเองออกมาจากอกแกร่งของอีกคน"หมายความว่าไงคะ""เธอต้องแต่งงาน แล้วคนที่ต้องแต่งด้วยคือฉัน""แล้วคุณแพรละคะ""แพรไพลินท้องนั้นก็เท่ากับว่าเธอคบกับคนอื่นเพียงแค่จะให้ฉันรับผิดชอบแต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่เคยมีความสัมผัสกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ทิติเอกเอ่ยออกมาพยายามที่จะอธิบายให้กับคนตัวเล้กได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น"อ๋อค่ะ...""แค่นี่หรอ""ค่ะ....ต้องให้วดีพูดอะไรคะ"ท่าทางที่ไร้เดียงสาของหญิงสาวทำให้ทิติเอกนักใจมากกว่าจะรู้สึกดีที่เธอไม่ทันคน"บดินทร์บอกว่าเธอทะเลาะกับแพรไพลินหรอ""ก็เขาว่าวดีก่อนทำไม"หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมท่าทางที่เรียกว่าทั้งโกระแค้นทั้งไม่พอใจ จนคนท่เ
"ไม่ทราบว่าคุณหญิงอรวีมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"ทิติเอกเอ่ยออกมายังประชดประชันผู้เป็นมารดา"เรื่องที่ลูกพูดหมายความว่ายังไง ผู้หญิงของลูกเป็นลูกสาวคนหญิงรัตนา"อรวีไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชายตัวเองเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินตามมาถามความให้รู้เรื่อง"ลูกสาวคุณหญิงรัตนาที่เธอตามหา มาตลอดนะครับ"น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วปกติ แต่แววตาตากับเจ็บปวดของที่ทิติเอก อดทำให้ผู้เป็นแม่ของเขาเป็นห่วงไม่ได้"ลูกรู้เรื่องนานหรือยัง""ทำไม ถ้ารู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นลูกสาวของคุณหญิงรัตนา คุณแม่จะจับเธอให้ผมหรอครับ ทั้งๆที่ปากพร่ำบอกว่าเธอไม่คู่ควรอะไรกับผมเลย""แม่จะให้ลูกอยู่ห่างเธอมากกว่านี้ต่างหาก""ทำไมผมไม่เข้าใจ"ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยกับสิ่งที่แม่ของเขาเอ่ยออกมา ทำให้ชายหนุ่มกับหนักใจในเรื่องนี้มากกว่าเดิม"คุณหญิงรัตนา เธอไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าไปเอื้อมถึงลูกสาวหรือลูกชายของเธอ ต่อให้เป็นเราก็ตามเธอ ไม่มีทาง ที่เธอจะยอมยกลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอให้ แล้วยิ่งพ่อนะ ถ้ารู้ว่าเอกกับลูกสาวเขาคบกันในที่ลับแบบนี้ แม่ไม่อยากจะคิดเลย""เรื่องนี้ผมรู้ว่าผมผิด ที่ไม่เคยให้ความชัดเจนเธอตั้งแต่แร
"ต่อให้วดีต้องตาย วดีก็ไม่มีทางเอาเข้าออก"เสียงที่ดังขึ้นมาของราชาวดี ที่เธอฟื้นขึ้นมาหลังจากหลับไปได้เกือบสามวัน และเมื่อเธอตื่นขึ้นมากลับต้องพบเจอกับความจริงที่เจ็บปวดหญิงสาวยังคงมองไปที่ผู้เป็นแม่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดภายในใจของเธอ"หมอคิดว่าการตัดสินใจนี้ ขึ้นอยู่กับคนไข้ แต่ถ้าเป็นไปได้หมอก็อยากให้เอาออก"หมอหนุ่มเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบ"ไม่ค่ะ ยังไงวดีก็ไม่ยอม ใครเขาไม่ต้องการก็ชั่งเขา ลูกวดีๆดูแลเขาได้"หญิงสาวยังคงยืนกรานในคำเดิม แต่เหมือนคำยืนกรานของเธอจะถูกกลืนลงในลำคอ ในสายตาของเธอได้ปะทะเข้ากับร่างหนาของคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี"ผมขอคุยกับเธอก่อนได้ไหม"ที่ทิติเอกที่ได้รับรู้เรื่องการฟื้นของราชาวดี เขาก็ไม่รีรอที่จะมาหาเธอในทันที ใบหน้าสวยหันไปอีกทางเพื่อจะหลบสายตาของชายหนุ่มที่มองมาที่เธอ"ราชาวดี หันกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันไม่รู้นะว่าเธอไปได้นิสัยดื้อดึงขนาดนี้มาจากใคร"ทิติเอกเอ่ยออกมาอย่างนึกต่อว่าหญิงสาว แต่เหมือนเธอจะไม่สนใจในคำพูดของเขาเลย ร่างหนาเดินเข้ามาหาหญิงสาว เขาจับที่ใบหน้าของเธอให้หันกลับมาหาเขา"ดูทำหน้าเข้า"ทิติเอกอดที่จะเอ่ยออกมาเมื่อเห็นใบหน้าข
"คุณเอกนั่งก่อนเถอะครับ"บดินทร์เอ่ยออกมาเมื่อทิติเอกเอาแต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้อง ฉุกเฉินต้องแต่เขาได้ส่งแพรไพลินเข้าไปด้านไหนแล้ว"ฉันหวังว่าเด็กในท้องของแพรจะยังอยู่""คุณเอกหมายความว่ายังไงครับ"บดินทร์ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทิติเอกเอ่ยออกมาจึงได้ถามออกมาเพราะเจ้านายของเขาไม่ได้ต้องการมีลูกไม่ว่ากับใคร"ก็เพราะเด็กนั้นไม่ใช่ลูกฉัน ถ้าแท้งเรื่องก็จบ แต่ถ้าไม่คุณแม่จะพูดออกอีกไหม"ทิติเอกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่า ทิติเอกโกรธมากแค่ไหน"ญาติคนไข้ที่ท้องล่ะมายัง...หมอให้ตาม""เกิดอะไรขึ้น..."พยาบาลสาวเอ่ยถามเพื่อนรวมแผนกที่ดูสีหน้าไม่ดีเลย"แม่เสียเลือดเยอะเลย ตอนนี้ต้องการเลือกโอกาสรอดทั้งแม่ทั้งลูกน้อยมากเลย"คำพูดของพยาบาลทำให้ทิติเอกตกใจไม่น้อย"คนไข้ชื่ออะไร....ฉันเป็นคนส่งคนไข้ทั้งสองคนนั้น""ราชาวดี แต่เดี๋ยวนะคะคุณเป็นพามาส่ง แต่ไม่ใช่ญาติ""ญาติหรอครับ"บดินทร์ตกใจในคำพูดของพยาบาลไม่น้อยก่อนที่จะมองไปยังทิติเอกที่ตอนนี้ก็สงสัยไม่ต่างไปจากตัวเอง"ผมเป็นพี่ชายของราชาวดีครับ""ค่ะ...ตามพยาบาลไปเลยค่ะ"ทิติเอกมองสิงหราชเพื่อนสนิทของตัวเองที่เดินเข้ามาพร้อมคุณหญิงรัตนาและมันทำให้เ
อาทิตย์ต่อมาราชาวดีก็ยังคงมาทำงานเหมือนเดิมในทุกวัน ต่างไปจากทิตเอกที่ตอนนี้เขาได้ไปๆมาๆแถมเขายังไม่ยอมไปหาคนตัวเล็กที่บ้านความรู้สึกของคนตัวเล็กในตอนนี้เธอเริ่มรักคนที่อยู่กับตัวเองมากกว่าผู้ชายที่เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะครอบครองเขาเลยแม้แต่น้อย“คุณราชาวดีครับ”“คะ”หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าบดินทร์มาตั้งแต่ตอนไหนเงยใบหน้าขึ้นอย่างตั้งคำถามเมื่อเขาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมเอ่ยเรียกหญิงสาว“คุณทิติเอกให้คุณเข้าไปหาครับ”“ค่ะ”ราชาวดีที่ไม่รู้ว่าทิติเอกได้เดินเข้าไปภายในห้องทำงานตั้งแต่ตอนไหนก็อดที่จะขมวดคิ้วตัวเองอย่างสงสัยไม่ได้“มาได้สักพักแล้วครับกำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ”“อ๋อเหรอคะ เปล่าค่ะ วดีไม่ได้คิดอะไร”หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนที่จะขยับตัวเองเพื่อที่จะเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของทิติเอก“คุณเอกเรียกวดีมีอะไรหรือเปล่าคะ”ราชาวดีมองทิติเอกที่ยืนมองวิวอยู่หลังโต๊ะทำงานของตัวเอง แต่เมื่อเธอเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาหยิงสาวจึงได้ตัดสินใจเอ่ยถามออกมา“ซองเอกสารอยู่บนโต๊ะ”“ค่ะราชาวดีเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่มแต่เมื่อเธอได้เห็นซองสีน้ำตาลที่วางอยู่ หญิงสาวอดที่จะหยิบขึ้นมาเดดูไม่ได้ แต่เม