"ไม่ทราบว่าคุณหญิงอรวีมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"ทิติเอกเอ่ยออกมายังประชดประชันผู้เป็นมารดา
"เรื่องที่ลูกพูดหมายความว่ายังไง ผู้หญิงของลูกเป็นลูกสาวคนหญิงรัตนา"อรวีไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชายตัวเองเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินตามมาถามความให้รู้เรื่อง
"ลูกสาวคุณหญิงรัตนาที่เธอตามหา มาตลอดนะครับ"น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วปกติ แต่แววตาตากับเจ็บปวดของที่ทิติเอก อดทำให้ผู้เป็นแม่ของเขาเป็นห่วงไม่ได้
"ลูกรู้เรื่องนานหรือยัง"
"ทำไม ถ้ารู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นลูกสาวของคุณหญิงรัตนา คุณแม่จะจับเธอให้ผมหรอครับ ทั้งๆที่ปากพร่ำบอกว่าเธอไม่คู่ควรอะไรกับผมเลย"
"แม่จะให้ลูกอยู่ห่างเธอมากกว่านี้ต่างหาก"
"ทำไมผมไม่เข้าใจ"ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยกับสิ่งที่แม่ของเขาเอ่ยออกมา ทำให้ชายหนุ่มกับหนักใจในเรื่องนี้มากกว่าเดิม
"คุณหญิงรัตนา เธอไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าไปเอื้อมถึงลูกสาวหรือลูกชายของเธอ ต่อให้เป็นเราก็ตามเธอ ไม่มีทาง ที่เธอจะยอมยกลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอให้ แล้วยิ่งพ่อนะ ถ้ารู้ว่าเอกกับลูกสาวเขาคบกันในที่ลับแบบนี้ แม่ไม่อยากจะคิดเลย"
"เรื่องนี้ผมรู้ว่าผมผิด ที่ไม่เคยให้ความชัดเจนเธอตั้งแต่แรก แต่คงปล่อยเธอไปไม่ได้จริงๆ"
"เอก แม่ตัดสินใจให้เราผิดมาก่อน แต่ถ้าวันนี้แม่จะขอให้เราเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นได้ไหม"
"ถ้าคุณพ่ออยู่คุณพ่อคงบอกให้ผมไปฉุดเธอมาแล้วว่าไหม"ทิติเอกเอ่ยออกมาอย่างย้ำเตือนผู้เป็นแม่ของตัวเอง เพราะครั้งนี้คุณหญิงอรวีที่มีฐานอันดรศักดิ์ เป็นหม่อมหลวงก็ถูกพ่อของเขาที่มีแต่ตัวฉุดมาจากวัง
"ตาเอก...."
"ขอโทษนะครับ จัดการลูกสะใภ้คนดีของแม่ด้วย"ทิติเอกเอ่ยออกมาก่อนที่จะขยับตัวเองเดินกลับไปขึ้นรถอีกครั้ง
"คุณเอกจะไปไหนครับ"บดินทร์เอ่ยถามออกมาหลังจากรถได้เคลื่อนตัวออกมาจากบ้านของผู้เป็นแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ที่บ้าน จัดตกแต่งเสร็จยัง"
"จะฉุดหรอครับ"บดินทร์ที่ได้ยินผู้เป็นเจ้านายของตัวเองเอ่ยออกมาเมื่อครู่ตอนคุณกับผู้เป็นแม่ เขาอดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้
"เห้อ...คิดว่าครั้งนี้เด็กในท้องจะยังอยู่ไหม"ทิติเอกที่ยังคงพยายามภาวะนาอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ลูกและแม่ปลอดภัยแม่สิ่งที่เขาคิดอยู่นั้นจะเป็เรื่องยากก็ตามแต่
"คุณราชาวดีเป็นคนดีครับ"
"นั้นซิ ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าใครที่ไม่คู่ควรกับเธอ"
โรงพยาบาล
"เอกฉันขอคุยด้วยหน่อย"สิงหราชที่เดินตรงมาที่ห้องพักของน้องสาวแล้วพบกับคนเป็นเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่หน้าห้องอย่างไม่ยอมที่จะเดินเข้าไป เขาจึงได้เอ่ยออกมา
"อืม ได้ซิ"
"ราชาวดีคบกับนายมาตลอดเลยหรอ"สิงหราชที่เห็นท่าทางเหมอลอยของน้องสาวตั้งแต่ตอนที่หมอเดินมาบอกกับเธอว่า เด็กในครรภ์สามารถที่จะอยู่ต่อได้ แต่ช่วงเดือนนี้หมออยากให้หยุดการเคลื่อนไหวทุกกิจกรรม แต่เธอกลับดูเหมือนมีเรื่องที่หนักใจอยู่เหมือนเดิม
"ตั้งแต่เธอเรียนปีสอง ฉันไปช่วยเธอไว้จากคนอื่น แล้วก็ส่งเรียนมาตลอดพร้อมกับส่งเงินให้บ้านเด็กกำพร้าที่พาแกไป"
"ไม่รู้เลยหรือไงว่านั้นน้องฉัน"สิงหราชยังคงถามออกมาอย่างส่งสัยในตัวเพื่อนของตัวเอง
"แกยังไม่รู้เลย ฉันจะรู้ไหม ถ้ารู้ว่าน้องแกนะ ฉันจับทำเมียเร็วกว่านั้นอีก"
"ไอเอก...."
"ฉันขอโทษ...."
"ฉันไม่รับ"
"พ่อ"สิงหราชตกใจไม่น้อยเพราะคนที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเข้มเมื่อครู่คือผู้เป็นพ่อของเขา อย่างนายหัวเสือ
"ตาเอก...ฉันไม่คิดว่าที่ร่ำลือว่ามีเมียเก็บจะเป็นเรื่องจริง นิสัยเหมือนพ่อ"ทิติเอกที่ทำได้เพียงแต่ก้มใบหน้าขงตัวเองอย่างรับคำด่าจากพ่อของเพื่อน
"ผมรู้ว่าผมผิด แต่เรื่องนี้ผมแค่อยากให้รู้ว่าที่ผมทำผมไม่คิดกับเธอแค่เล่นๆ"
"งั้นก็แต่ง ไม่แต่งก็ตาย"ทั้งทิติเอกและสิงหราชกับนิ่งงั้นไปเพราะคำพูดของผู้เป็นพ่อ จากเดิมที่คิดว่าเรื่องทั้งหมดมันจะเป็นเรื่องใหญ่โต แต่กลับกลายเป็นเรื่องง่าย
"ไปบอกคุณหญิงอรวีด้วย ฉันจะไปทวงสัญญา"
"สัญญา"ทิติเอกเอ่ยออกมาอย่างพยายามนึกในสิ่งที่นายหัวเสือเอ่ยออกมา
"ไปบอกเธอเธอรู้"
"ตาสิงลูกน้องไม่ยอมกินเลย อ้าวคุณ"รัตนาที่เดินออกมาจากห้องพักของลูกสาวอย่างตื่นตระหนก รีบเดินเข้ามาหาลูกชายก่อนที่จะหันไปเห็นสามีของตัวเอง
"ราชาวดีไม่ได้เป็นเด็กที่คุณกับผมเลี้ยง นิสัยเธอดื้อแต่เด็กตาสิงก็เอาไม่อยู่หลอกคุณ"นายหัวเสือเอ่ยออกมาอย่างพยายามบอกอะไรกับอีกคนที่ยืนอยู่กับพวกเขา
"ผมจัดการเองครับ"ทิติเอกเอ่ยออกมาก่อนที่จะขยับตัวเองเดินตรงไปที่ห้องพักของราชาวดี
"วดีบอกแล้วไงคะ ว่าวดีอยากพัก"ราชาวดีที่นั่งมองทอดยาวออกไปนอกหน้าตาเอ่ยออกมาอย่างไม่คิดจะหันกลับมามองคนที่เดินเข้ามาใหม่ภายในห้อง
"แต่นี่มันของชอบทั้งนั้นเลยนะ แล้วอีกอย่างไหนบอกว่าอยากเก็บลูกไว้แล้วจะมาทำแบบนี้"ทิติเอกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบอย่างต้องการที่จะทำให้คนตัวเล็กกลัวเขา แต่เปล่าเลยเธอกับหันมามองชายหนุ่มก่อนยิ้มออกมา
"หมอให้เก็บได้ แต่ต้องไม่ขยับตัว แต่คุณเอกไม่ได้อยากได้นิคะ"
"ฉันขอโทษ....ฉันแค่ห่วงเธอมากไป...กินข้าวก่อน"ทิตเอกเอ่ยออกมาพร้อมกับเริ่มจัดอาหารใหม่อีกครั้ง เพราะมีบ้างอย่างที่ราชาวดีไม่กิน
"กินอะไรมายังคะ"ราชาวดีที่ยังไม่แน่ใจและยังไม่สบายสักเท่าไหร่ ทำได้เพียงเอ่ยออกมาอย่างห่วงใยคนตัวโตเท่านั้น
"ยัง...."
"กินเป็นเพื่อนวดีนะคะ"
"อย่ามายิ้มแบบนี้เดี๋ยวฉันจะจับเธอกินแทน"ทิติเอกขยับใบหน้าเข้าไปหอมลงที่แก้มสวยของหญิงสาวก่อนที่จะขยับอาหารมาตรงหน้าเธอ
การทานอาหารที่เรียกว่าเจริญอาหารของคนที่ไม่ยอมกินในตอนแรกกลับทำให้ทิติเอกยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
"พ่อกับแม่จะให้เธอแต่งงานนะ"ทิติเอกเอ่ยออกมาหลังจากที่เขาจัดให้คนตัวเล็กนอนแล้ว
"ไม่ค่ะ....คนที่มีสิทธิ์ในวดีมีแค่แม่ครู กับคุณ พวกเขาไม่เลี้ยงวดีมาจะมีสิทธิ์อะไร"หญิงสาวที่ไม่เคยแม้แต่จะต่อต้านใคร ในตอนนี้กลับพูดออกมาอย่างไม่คิดที่จะแค่ใคร
"แต่ฉันอยากให้แต่ง"
"คุณเอกไม่รักวดี วดีไม่ว่านะคะ ไม่ว่าเรืื่องลูกหรือเรื่องอะไรก็ตาม แต่อย่าผลักวดีให้กับคนอื่นได้ไหม วดีของแค่นี้ได้ไหม"ราชาวดีเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทิติเอกตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยออกมาเขาขยับตัวเองเข้าไปหาคนตัวเล็กด้วยความเร็วพร้อมกับการดึงเธอเข้ามาภายในอ้อมกอด"หมอบอกว่าอย่าเครียดไงวดี....ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปฉันจะไม่แต่งงานกลับเธอ"หญิงสาวที่อยู่ภายในอ้อมกอดของชายหนุ่มนิ่งลงพร้อมกับการขยับตัวเองออกมาจากอกแกร่งของอีกคน"หมายความว่าไงคะ""เธอต้องแต่งงาน แล้วคนที่ต้องแต่งด้วยคือฉัน""แล้วคุณแพรละคะ""แพรไพลินท้องนั้นก็เท่ากับว่าเธอคบกับคนอื่นเพียงแค่จะให้ฉันรับผิดชอบแต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่เคยมีความสัมผัสกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ทิติเอกเอ่ยออกมาพยายามที่จะอธิบายให้กับคนตัวเล้กได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น"อ๋อค่ะ...""แค่นี่หรอ""ค่ะ....ต้องให้วดีพูดอะไรคะ"ท่าทางที่ไร้เดียงสาของหญิงสาวทำให้ทิติเอกนักใจมากกว่าจะรู้สึกดีที่เธอไม่ทันคน"บดินทร์บอกว่าเธอทะเลาะกับแพรไพลินหรอ""ก็เขาว่าวดีก่อนทำไม"หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมท่าทางที่เรียกว่าทั้งโกระแค้นทั้งไม่พอใจ จนคนท่เ
ราชาวดีที่เพิ่งทานอาหารจากที่ทิติเอกเป็นคนค่อยป้อนให้เธอเสร็จ หญิงสาวก็ได้มานั่งจับจ้องที่ทีวี และเธอก็คงต้องอยู่ที่นี่ 1 อาทิตย์เพื่อที่หมอจะได้แน่ใจว่าเธอจะไม่กลับเข้ามาหาเขาอีกครั้ง"ดูอะไร"ทิติเอกที่เดินเข้ามานั่งข้างเตียงนอนก็เอ่ยถามออกมาเมื่อหญิงสาวยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่คิดที่จะสนใจอย่างอื่น"ข่าวทั่วไปค่ะ แล้วไปไหนมาคะไม่ไปทำงานหรอ"ราชาวดีอดที่จะเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัยไม่ได้ เพราะเธอเห็นว่าทิติเอกแต่งตัวด้วยชุกลำรองนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะไม่ไปทำงาน"ไม่อ่ะ...นักข่าวเยอะรำคาญ....ปวดหัวมากเลยเป็นอะไรไม่รู้"ทิตเอกเอ่ยออกมาอย่างอ้อนๆก่อนที่จะซบแขนของคนตัวเล็ก เขาเพิ่งรู้ว่าการอยู่ใกล้ราชาวดีมันทำให้เขานั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"ให้วดีเรียกหมอให้ไหมคะ...""ไม่เอา อยู่แค่นี้ก็หายแล้ว"คนตัวโตเอ่ยออกมาพร้มจับมือของเธอมาซบเอาไว้ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ว่าอะไรพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อที่จะเข้ามาหาทิติเอก"ข่าววันนี้เป็นข่าวที่น่าตกใจมากเลยนะคะ ไฮโซสาวอย่างคุณแพรไพลินที่เป็นลูกสาวของรัฐมนตรีมีข่าวออกมาว่าเธอท้อง แต่ฝ่ายชายไม่รับ คุณแพรพรรณลายเลยจับให้เธอแต่งงานกับคุณทิติเอกเม
หลังจากการเดินทางมาที่บ้านของทิติเอกอีกครั้ง หลังจากที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมา เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเดินทางกลับมาที่นี่อีก จนแม่ของเขาให้เข้ามาคุยธุระอย่างวันนี้และพ่อของราชาวดีและรัตนาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับแม่ของเขาในวันนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรออกมาได้นอกจากทำตามที่อรวีต้องการเท่านั้น"เอกมาแล้วหรอลูก"อรวีที่อยากจะเอ่ยคำขอโทษลูกชายของเธออย่างนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องขึ้นมาจนถึงตอนนี้สายตาของอรวีประทะเข้ากับร่างของคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแต่เมื่อเธอได้เห็นว่าอรวีได้หันมามองที่เธอ"สวัสดีค่ะคุณหญิงอรวี"ราชาวดีเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่เต็มสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เลือกที่จะเอ่ยออกไป เพราะถ้าไม่เอ่ย ก็เท่ากับว่าเธอเสียมารยาท"เข้าบ้านก่อน"อรวีเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินนำทั้งสองเข้าไป ราชาวดีที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเกร็งตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีในตอนนี้ แต่มือหนาของชายข้างกายเธอกลับบีบที่ข้อมือของเธอย้ำๆทำให้หญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักให้กับเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในบ้านของทิติเอกตามที่ชายหนุ่มได้จับมือเธอเดินเข้าไปภายในบ้าน"เดี๋
"มันจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะคะคุณอรวี ทิติเอกเป็นทายาทหมื่นล้าน ราชาวดีไม่มีอะไรเลย การที่นายหัวพูดแบบนั้นมันก็ทำให้คุรนักใจที่จะรับเธอมาเป็นสะใภ้ ดิฉันจะยกทรัพย์สินของฉันส่วนหนึ่งให้กับราชาวดี แต่เป็นทั้งหมดที่อยู่ภายในกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียงเราคำนวณแล้วก็เทียบเท่ากับทรัพสินย์ของคุณตอนนี้เลย แบบนี้เหมาะสมกันหรือยังคะ"รัตนาเอ่ยออกมาอย่างพยายามจับทางของอรวี"มันไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ ทิติเอกเก็บราชาวดีไว้ ไม่ได้เปิดเผย เธอเสียชื่อเสียงกับทางเราไปมากแล้วนะคะ"อรวีเอ่ยออกมาอย่างพยายามที่จะอธิบาย ด้วยเธอกลัวทิติเอกจะไม่เห็นด้วยเพราะเธอเคยผิดพลาดกับลูกชายของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง"งั้นยิ่งต้องตกลงเลย เพราะผมจะรับผิดชอบเธอ"ทิติเอกเอ่ยออกมาทำให้ผู้เป็นแม่ที่เดิมหนักใจไม่น้อย กลัวลูกชายเธอจะไม่เห็นด้วยถ้าเธอรับทางโน่นเลย แต่กลับกัน ทิติเอกอยากจะรับผิดชอบราชาวดีมากจนเธอคาดไม่ถึง"ว่ายังไงครับ"สิงหราชเอ่ยถามออกมาอย่าต้องการคำตอบเช่นเดียวกับทุกคนที่นี่"ค่ะ เห็นสมควรกันขนาดนี้ วีไม่กล้าขัดแล้วค่ะ"คำพูดของอรวีที่เอ่ยออกมาทำให้ทิติเอกดีใจไม่น้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือของตัวเองไปจับลงที่มือของคนตัวเล็กที่น
สามปีผ่านมา"อคิณ...มาหาแม่มาลูก"ราชาวดีเอ่ยเรียกเด็กชายที่ยังคงวิ่งเข้าไปภายในบริษัทของผู้เป็นพ่ออย่างสนุกสนานต่างจากผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้หมดแรงแม้แต่จะเดินแล้ว"คุณแม่ตามสิครับ เร็วๆตามมา"เด็กน้อยวัยสองขวบกว่าเรียกแม่ของตัวเองด้วยเสียงที่สนุกสนาน"ว้า...จับได้แล้ว"ราชาวดีที่เห็นลูกชายถูกยกลอยขึ้นจากพื้นก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจไม่ได้เพราะถ้าให้เธอวิ่งตามอีกคงได้เป็นลมแน่ๆ"คุณพ่อ" เสียงของเด็กชายเอ่ยออกมาก่อนที่จะโอบคอของทิติเอกพร้อมหอมลงที่ใบหน้าของเขาอย่างคิดถึง"ทำไมแกล้งแม่แบบนี้ครับ" ทิติเอกใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้กับลูกชายก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างเอ็นดูแม่ลูกคู่นี้ ที่ลูกชายเขาไม่รู้ไปได้นิสัยขี้แกล้งมาจากใคร วันๆเอาแต่แกล้งผู้เป็นแม่ให้วิ่งตาม แต่ด้วยนิสัยของราชาวดีไม่เคยจับลูกชายของเธอทันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ไม่ได้แกล้งเลย....คุณแม่" อคิณเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปยังราชาวดีที่ยิ้มให้กับสองพ่อลูกอยู่"แม่น่าจะอุ้มเราไม่ไหวแล้วนะคะครับ" ทิติเอกเอื้อมมือไปหาผู้เป็นแม่เพื่อที่จะให้อุ้มตัวเอง"ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ""ครับ...อคิณครับเดี๋ยวไปกับลุงบดินทร์นะครับ""ไปไหนคะ" รา
บทนำ“สวัสดีเราชื่อราชาวดี ผู้หญิงที่จะเรียกว่าโง่ก็ได้นะ ที่กลับไปหลงรักคนๆหนึ่ง ซึ่งเราเคยคิดว่าเขารักเรามาตลอด จนวันนี้เราได้รู้แล้วว่าทั้งหมดที่เขาทำ เพราะคำว่าความใคร่มากกว่าเรื่องอื่น เราจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง จะด่าเราก็ได้นะ โดยที่อย่าลืมไปว่าถ้าเป็นเราจะตัดสินใจทำแบบนี้หรือเปล่า”“ที่คุณเอกพูดทั้งหมดหมายความว่ายังไงคะ” เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามอย่างสงสัยต่อผู้ชายตรงหน้าของเธอ เขาคือ ทิติเอก กรวลัยลักษณ์ เป็นลูกชายเพียงของตระกูล กรวลัยลักษณ์“ฉันบอกว่าจะให้เธอ ย้ายเข้าไปอยู่บ้านที่ฉันซื้อให้แทนที่นี่” สายตาของชายหนุ่มมองไปยังห้องพักของหญิงสาว ที่เขาให้การดูแลเธอมาตลอดตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยปีสอง จนตอนนี้เธอเรียนจบมาได้เกือบจะครบเดือนแล้ว“แต่วดีว่า…วดีอยู่ที่นี่ดีกว่านะคะ อีกอย่างการที่คุณจะให้วดีย้ายเข้าไปอยู่ที่นั้น เข้าไปในฐานะอะไรคะ” ราชาวดี หญิงสาวที่มาจากบ้านเด็กกำพร้า เธอเติบโตมาโดยไม่เคยรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นใครมาจากไหน ไม่รู้ว่าตัวเองมาจากที่ไหนเธอใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า จนเข้าเรียนมหาลัย เธอก็ได้ย้ายมาอยู่ที่หอ แต่ชีวิตของเด็กสาวที่เรียกว่าไม่มีต้นท
หลังจากที่ชายหนุ่มได้พาหญิงสาวออกมาจากที่ห้องพักแล้ว เขานั้นก็ได้พาราชาวดีกลับมาที่คอนโดมิเนียมของตัวเอง ที่เรียกว่าคนรวยอย่างเดียวคงจับจ้องไม่ได้ ในชั้นบนสุดแบบนี้ เพราะการแข่งขันเพื่อที่จะได้มาครอบครอง เป็นเรื่องที่เรียกว่ายากพอสมควร แต่สำหรับทิติเอกเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับเขาไม่น้อย"วันนี้คุณเอกไม่ไปทำงานเหรอคะ" ราชาวดีเอ่ยถามขึ้น เมื่อชายหนุ่มที่พาเธอเดินเข้ามาภายในลิฟต์ เริ่มคลอเคลียที่ซอกคอขาวของเธอ ซึ่งราชาวดีรู้ดีว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เธอจึงอดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้ ด้วยที่วันนี้ไม่ใช่วันหยุด"มีช่วงบ่าย เธอรู้ไหม ทำไมฉันถึงให้เธอทำงานเป็นเลขา""ไม่ทราบค่ะ " ราชาวดีเอ่ยออกมาเพราะเธอไม่ทราบถึงเหตุผลของผู้ชายตรงหน้าเธอเลยสักนิด"ก็เพราะเธอชอบถามฉันแบบนี้ไง ฉันเลยให้เธอเป็นคนจัดตารางงานฉันเลย จะได้รู้เวลางานฉัน" ทิติเอกเอ่ยออกมา ก่อนที่จะจูบลงที่ริมฝีปากของคนตัวเล็ก เพราะเขาไม่ได้อยากได้ยินคำพูดเดิมของราชาวดี ที่ทุกครั้งเมื่อเขาได้ติเตียนเธอ หญิงสาวก็จะเอ่ยคำขอโทษออกมา และจะไม่ถามเรื่องนั้นซ้ำอีก ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวมือของชายหนุ่มได้ถู
ทิติเอกที่ตอนนี้จับจ้องมองมายังราชาวดีจนพอใจจนพอใจแล้ว เขาก็ได้ถอดป้อมปราการสุดท้ายของคนตัวเล็กออก ก่อนที่เขาจะจับขาของราชาวดีพาดลงที่ไหล่ของตัวเองทิติเอกใช้มือของตัวเองลูปไล่ที่ร่องสวาทของคนตัวเล็ก แต่เพียงไม่นานเขาก็ได้ขยับใบหน้าของตัวเองเข้าไปหาร่องสวาทของราชาวดี ชายหนุ่มใช้ปลายลิ้นร้อนของตัวเองสัมผัสไปที่ร่องสวาทที่มีน้ำรักไหลออกมา การขบเม้นและดูดดึงที่กลีบรักสลับกับการใช้ปลายลิ้นเขี่ยไปมาที่เม็ดทับทิม สร้างสัมผัสที่หวาบหวิวให้กับราชวดีจนเธอแทบจะยืนไมาไหว อีกทั้งตอนนี้ชายหนุ่มยังส่งนิ้วร้ายของตัวเองเข้าไปที่ร่องสวาทของเธอทิติเองขยับนิ้วร้ายของตัวเองเข้าออกเป็นจังหวะที่ค่อยข้างเร็ว และเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับสัมผัสด้วยลิ้นร้ายที่เขาส่งไปให้กับหญิงสาว จนตอนนี้น้ำรักที่เคยไหลออกมาได้ไหลเพิ่มจนเริ่มเลอะไปตามง้ามนิ้วของทิติเอก"อืมม์ คุณเอก วดี ไม่ไหวแล้วค่ะ" หญิงสาวส่งสียงครางกระเซ่าออกมา เมื่อสัมผัสที่ได้รับทำให้เธอแทบจะกักเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่ได้เสียงครางหวานและการตอดรัดที่แน่นขึ้นของร่องสวาท มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้ราชาวเีเข้าใกล้ปลายทางแค่ไหนแล้ว และเมื่อเจ้าข
สามปีผ่านมา"อคิณ...มาหาแม่มาลูก"ราชาวดีเอ่ยเรียกเด็กชายที่ยังคงวิ่งเข้าไปภายในบริษัทของผู้เป็นพ่ออย่างสนุกสนานต่างจากผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้หมดแรงแม้แต่จะเดินแล้ว"คุณแม่ตามสิครับ เร็วๆตามมา"เด็กน้อยวัยสองขวบกว่าเรียกแม่ของตัวเองด้วยเสียงที่สนุกสนาน"ว้า...จับได้แล้ว"ราชาวดีที่เห็นลูกชายถูกยกลอยขึ้นจากพื้นก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจไม่ได้เพราะถ้าให้เธอวิ่งตามอีกคงได้เป็นลมแน่ๆ"คุณพ่อ" เสียงของเด็กชายเอ่ยออกมาก่อนที่จะโอบคอของทิติเอกพร้อมหอมลงที่ใบหน้าของเขาอย่างคิดถึง"ทำไมแกล้งแม่แบบนี้ครับ" ทิติเอกใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้กับลูกชายก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างเอ็นดูแม่ลูกคู่นี้ ที่ลูกชายเขาไม่รู้ไปได้นิสัยขี้แกล้งมาจากใคร วันๆเอาแต่แกล้งผู้เป็นแม่ให้วิ่งตาม แต่ด้วยนิสัยของราชาวดีไม่เคยจับลูกชายของเธอทันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ไม่ได้แกล้งเลย....คุณแม่" อคิณเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปยังราชาวดีที่ยิ้มให้กับสองพ่อลูกอยู่"แม่น่าจะอุ้มเราไม่ไหวแล้วนะคะครับ" ทิติเอกเอื้อมมือไปหาผู้เป็นแม่เพื่อที่จะให้อุ้มตัวเอง"ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ""ครับ...อคิณครับเดี๋ยวไปกับลุงบดินทร์นะครับ""ไปไหนคะ" รา
"มันจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะคะคุณอรวี ทิติเอกเป็นทายาทหมื่นล้าน ราชาวดีไม่มีอะไรเลย การที่นายหัวพูดแบบนั้นมันก็ทำให้คุรนักใจที่จะรับเธอมาเป็นสะใภ้ ดิฉันจะยกทรัพย์สินของฉันส่วนหนึ่งให้กับราชาวดี แต่เป็นทั้งหมดที่อยู่ภายในกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียงเราคำนวณแล้วก็เทียบเท่ากับทรัพสินย์ของคุณตอนนี้เลย แบบนี้เหมาะสมกันหรือยังคะ"รัตนาเอ่ยออกมาอย่างพยายามจับทางของอรวี"มันไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ ทิติเอกเก็บราชาวดีไว้ ไม่ได้เปิดเผย เธอเสียชื่อเสียงกับทางเราไปมากแล้วนะคะ"อรวีเอ่ยออกมาอย่างพยายามที่จะอธิบาย ด้วยเธอกลัวทิติเอกจะไม่เห็นด้วยเพราะเธอเคยผิดพลาดกับลูกชายของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง"งั้นยิ่งต้องตกลงเลย เพราะผมจะรับผิดชอบเธอ"ทิติเอกเอ่ยออกมาทำให้ผู้เป็นแม่ที่เดิมหนักใจไม่น้อย กลัวลูกชายเธอจะไม่เห็นด้วยถ้าเธอรับทางโน่นเลย แต่กลับกัน ทิติเอกอยากจะรับผิดชอบราชาวดีมากจนเธอคาดไม่ถึง"ว่ายังไงครับ"สิงหราชเอ่ยถามออกมาอย่าต้องการคำตอบเช่นเดียวกับทุกคนที่นี่"ค่ะ เห็นสมควรกันขนาดนี้ วีไม่กล้าขัดแล้วค่ะ"คำพูดของอรวีที่เอ่ยออกมาทำให้ทิติเอกดีใจไม่น้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือของตัวเองไปจับลงที่มือของคนตัวเล็กที่น
หลังจากการเดินทางมาที่บ้านของทิติเอกอีกครั้ง หลังจากที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมา เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเดินทางกลับมาที่นี่อีก จนแม่ของเขาให้เข้ามาคุยธุระอย่างวันนี้และพ่อของราชาวดีและรัตนาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับแม่ของเขาในวันนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรออกมาได้นอกจากทำตามที่อรวีต้องการเท่านั้น"เอกมาแล้วหรอลูก"อรวีที่อยากจะเอ่ยคำขอโทษลูกชายของเธออย่างนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องขึ้นมาจนถึงตอนนี้สายตาของอรวีประทะเข้ากับร่างของคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแต่เมื่อเธอได้เห็นว่าอรวีได้หันมามองที่เธอ"สวัสดีค่ะคุณหญิงอรวี"ราชาวดีเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่เต็มสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เลือกที่จะเอ่ยออกไป เพราะถ้าไม่เอ่ย ก็เท่ากับว่าเธอเสียมารยาท"เข้าบ้านก่อน"อรวีเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินนำทั้งสองเข้าไป ราชาวดีที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเกร็งตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีในตอนนี้ แต่มือหนาของชายข้างกายเธอกลับบีบที่ข้อมือของเธอย้ำๆทำให้หญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักให้กับเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในบ้านของทิติเอกตามที่ชายหนุ่มได้จับมือเธอเดินเข้าไปภายในบ้าน"เดี๋
ราชาวดีที่เพิ่งทานอาหารจากที่ทิติเอกเป็นคนค่อยป้อนให้เธอเสร็จ หญิงสาวก็ได้มานั่งจับจ้องที่ทีวี และเธอก็คงต้องอยู่ที่นี่ 1 อาทิตย์เพื่อที่หมอจะได้แน่ใจว่าเธอจะไม่กลับเข้ามาหาเขาอีกครั้ง"ดูอะไร"ทิติเอกที่เดินเข้ามานั่งข้างเตียงนอนก็เอ่ยถามออกมาเมื่อหญิงสาวยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่คิดที่จะสนใจอย่างอื่น"ข่าวทั่วไปค่ะ แล้วไปไหนมาคะไม่ไปทำงานหรอ"ราชาวดีอดที่จะเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัยไม่ได้ เพราะเธอเห็นว่าทิติเอกแต่งตัวด้วยชุกลำรองนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะไม่ไปทำงาน"ไม่อ่ะ...นักข่าวเยอะรำคาญ....ปวดหัวมากเลยเป็นอะไรไม่รู้"ทิตเอกเอ่ยออกมาอย่างอ้อนๆก่อนที่จะซบแขนของคนตัวเล็ก เขาเพิ่งรู้ว่าการอยู่ใกล้ราชาวดีมันทำให้เขานั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"ให้วดีเรียกหมอให้ไหมคะ...""ไม่เอา อยู่แค่นี้ก็หายแล้ว"คนตัวโตเอ่ยออกมาพร้มจับมือของเธอมาซบเอาไว้ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ว่าอะไรพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อที่จะเข้ามาหาทิติเอก"ข่าววันนี้เป็นข่าวที่น่าตกใจมากเลยนะคะ ไฮโซสาวอย่างคุณแพรไพลินที่เป็นลูกสาวของรัฐมนตรีมีข่าวออกมาว่าเธอท้อง แต่ฝ่ายชายไม่รับ คุณแพรพรรณลายเลยจับให้เธอแต่งงานกับคุณทิติเอกเม
"คุณเอกไม่รักวดี วดีไม่ว่านะคะ ไม่ว่าเรืื่องลูกหรือเรื่องอะไรก็ตาม แต่อย่าผลักวดีให้กับคนอื่นได้ไหม วดีของแค่นี้ได้ไหม"ราชาวดีเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทิติเอกตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยออกมาเขาขยับตัวเองเข้าไปหาคนตัวเล็กด้วยความเร็วพร้อมกับการดึงเธอเข้ามาภายในอ้อมกอด"หมอบอกว่าอย่าเครียดไงวดี....ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปฉันจะไม่แต่งงานกลับเธอ"หญิงสาวที่อยู่ภายในอ้อมกอดของชายหนุ่มนิ่งลงพร้อมกับการขยับตัวเองออกมาจากอกแกร่งของอีกคน"หมายความว่าไงคะ""เธอต้องแต่งงาน แล้วคนที่ต้องแต่งด้วยคือฉัน""แล้วคุณแพรละคะ""แพรไพลินท้องนั้นก็เท่ากับว่าเธอคบกับคนอื่นเพียงแค่จะให้ฉันรับผิดชอบแต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่เคยมีความสัมผัสกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ทิติเอกเอ่ยออกมาพยายามที่จะอธิบายให้กับคนตัวเล้กได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น"อ๋อค่ะ...""แค่นี่หรอ""ค่ะ....ต้องให้วดีพูดอะไรคะ"ท่าทางที่ไร้เดียงสาของหญิงสาวทำให้ทิติเอกนักใจมากกว่าจะรู้สึกดีที่เธอไม่ทันคน"บดินทร์บอกว่าเธอทะเลาะกับแพรไพลินหรอ""ก็เขาว่าวดีก่อนทำไม"หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมท่าทางที่เรียกว่าทั้งโกระแค้นทั้งไม่พอใจ จนคนท่เ
"ไม่ทราบว่าคุณหญิงอรวีมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"ทิติเอกเอ่ยออกมายังประชดประชันผู้เป็นมารดา"เรื่องที่ลูกพูดหมายความว่ายังไง ผู้หญิงของลูกเป็นลูกสาวคนหญิงรัตนา"อรวีไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชายตัวเองเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินตามมาถามความให้รู้เรื่อง"ลูกสาวคุณหญิงรัตนาที่เธอตามหา มาตลอดนะครับ"น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วปกติ แต่แววตาตากับเจ็บปวดของที่ทิติเอก อดทำให้ผู้เป็นแม่ของเขาเป็นห่วงไม่ได้"ลูกรู้เรื่องนานหรือยัง""ทำไม ถ้ารู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นลูกสาวของคุณหญิงรัตนา คุณแม่จะจับเธอให้ผมหรอครับ ทั้งๆที่ปากพร่ำบอกว่าเธอไม่คู่ควรอะไรกับผมเลย""แม่จะให้ลูกอยู่ห่างเธอมากกว่านี้ต่างหาก""ทำไมผมไม่เข้าใจ"ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยกับสิ่งที่แม่ของเขาเอ่ยออกมา ทำให้ชายหนุ่มกับหนักใจในเรื่องนี้มากกว่าเดิม"คุณหญิงรัตนา เธอไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าไปเอื้อมถึงลูกสาวหรือลูกชายของเธอ ต่อให้เป็นเราก็ตามเธอ ไม่มีทาง ที่เธอจะยอมยกลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอให้ แล้วยิ่งพ่อนะ ถ้ารู้ว่าเอกกับลูกสาวเขาคบกันในที่ลับแบบนี้ แม่ไม่อยากจะคิดเลย""เรื่องนี้ผมรู้ว่าผมผิด ที่ไม่เคยให้ความชัดเจนเธอตั้งแต่แร
"ต่อให้วดีต้องตาย วดีก็ไม่มีทางเอาเข้าออก"เสียงที่ดังขึ้นมาของราชาวดี ที่เธอฟื้นขึ้นมาหลังจากหลับไปได้เกือบสามวัน และเมื่อเธอตื่นขึ้นมากลับต้องพบเจอกับความจริงที่เจ็บปวดหญิงสาวยังคงมองไปที่ผู้เป็นแม่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดภายในใจของเธอ"หมอคิดว่าการตัดสินใจนี้ ขึ้นอยู่กับคนไข้ แต่ถ้าเป็นไปได้หมอก็อยากให้เอาออก"หมอหนุ่มเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบ"ไม่ค่ะ ยังไงวดีก็ไม่ยอม ใครเขาไม่ต้องการก็ชั่งเขา ลูกวดีๆดูแลเขาได้"หญิงสาวยังคงยืนกรานในคำเดิม แต่เหมือนคำยืนกรานของเธอจะถูกกลืนลงในลำคอ ในสายตาของเธอได้ปะทะเข้ากับร่างหนาของคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี"ผมขอคุยกับเธอก่อนได้ไหม"ที่ทิติเอกที่ได้รับรู้เรื่องการฟื้นของราชาวดี เขาก็ไม่รีรอที่จะมาหาเธอในทันที ใบหน้าสวยหันไปอีกทางเพื่อจะหลบสายตาของชายหนุ่มที่มองมาที่เธอ"ราชาวดี หันกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันไม่รู้นะว่าเธอไปได้นิสัยดื้อดึงขนาดนี้มาจากใคร"ทิติเอกเอ่ยออกมาอย่างนึกต่อว่าหญิงสาว แต่เหมือนเธอจะไม่สนใจในคำพูดของเขาเลย ร่างหนาเดินเข้ามาหาหญิงสาว เขาจับที่ใบหน้าของเธอให้หันกลับมาหาเขา"ดูทำหน้าเข้า"ทิติเอกอดที่จะเอ่ยออกมาเมื่อเห็นใบหน้าข
"คุณเอกนั่งก่อนเถอะครับ"บดินทร์เอ่ยออกมาเมื่อทิติเอกเอาแต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้อง ฉุกเฉินต้องแต่เขาได้ส่งแพรไพลินเข้าไปด้านไหนแล้ว"ฉันหวังว่าเด็กในท้องของแพรจะยังอยู่""คุณเอกหมายความว่ายังไงครับ"บดินทร์ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทิติเอกเอ่ยออกมาจึงได้ถามออกมาเพราะเจ้านายของเขาไม่ได้ต้องการมีลูกไม่ว่ากับใคร"ก็เพราะเด็กนั้นไม่ใช่ลูกฉัน ถ้าแท้งเรื่องก็จบ แต่ถ้าไม่คุณแม่จะพูดออกอีกไหม"ทิติเอกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่า ทิติเอกโกรธมากแค่ไหน"ญาติคนไข้ที่ท้องล่ะมายัง...หมอให้ตาม""เกิดอะไรขึ้น..."พยาบาลสาวเอ่ยถามเพื่อนรวมแผนกที่ดูสีหน้าไม่ดีเลย"แม่เสียเลือดเยอะเลย ตอนนี้ต้องการเลือกโอกาสรอดทั้งแม่ทั้งลูกน้อยมากเลย"คำพูดของพยาบาลทำให้ทิติเอกตกใจไม่น้อย"คนไข้ชื่ออะไร....ฉันเป็นคนส่งคนไข้ทั้งสองคนนั้น""ราชาวดี แต่เดี๋ยวนะคะคุณเป็นพามาส่ง แต่ไม่ใช่ญาติ""ญาติหรอครับ"บดินทร์ตกใจในคำพูดของพยาบาลไม่น้อยก่อนที่จะมองไปยังทิติเอกที่ตอนนี้ก็สงสัยไม่ต่างไปจากตัวเอง"ผมเป็นพี่ชายของราชาวดีครับ""ค่ะ...ตามพยาบาลไปเลยค่ะ"ทิติเอกมองสิงหราชเพื่อนสนิทของตัวเองที่เดินเข้ามาพร้อมคุณหญิงรัตนาและมันทำให้เ
อาทิตย์ต่อมาราชาวดีก็ยังคงมาทำงานเหมือนเดิมในทุกวัน ต่างไปจากทิตเอกที่ตอนนี้เขาได้ไปๆมาๆแถมเขายังไม่ยอมไปหาคนตัวเล็กที่บ้านความรู้สึกของคนตัวเล็กในตอนนี้เธอเริ่มรักคนที่อยู่กับตัวเองมากกว่าผู้ชายที่เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะครอบครองเขาเลยแม้แต่น้อย“คุณราชาวดีครับ”“คะ”หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าบดินทร์มาตั้งแต่ตอนไหนเงยใบหน้าขึ้นอย่างตั้งคำถามเมื่อเขาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมเอ่ยเรียกหญิงสาว“คุณทิติเอกให้คุณเข้าไปหาครับ”“ค่ะ”ราชาวดีที่ไม่รู้ว่าทิติเอกได้เดินเข้าไปภายในห้องทำงานตั้งแต่ตอนไหนก็อดที่จะขมวดคิ้วตัวเองอย่างสงสัยไม่ได้“มาได้สักพักแล้วครับกำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ”“อ๋อเหรอคะ เปล่าค่ะ วดีไม่ได้คิดอะไร”หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนที่จะขยับตัวเองเพื่อที่จะเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของทิติเอก“คุณเอกเรียกวดีมีอะไรหรือเปล่าคะ”ราชาวดีมองทิติเอกที่ยืนมองวิวอยู่หลังโต๊ะทำงานของตัวเอง แต่เมื่อเธอเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาหยิงสาวจึงได้ตัดสินใจเอ่ยถามออกมา“ซองเอกสารอยู่บนโต๊ะ”“ค่ะราชาวดีเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่มแต่เมื่อเธอได้เห็นซองสีน้ำตาลที่วางอยู่ หญิงสาวอดที่จะหยิบขึ้นมาเดดูไม่ได้ แต่เม