"คุณเอกนั่งก่อนเถอะครับ"บดินทร์เอ่ยออกมาเมื่อทิติเอกเอาแต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้อง ฉุกเฉินต้องแต่เขาได้ส่งแพรไพลินเข้าไปด้านไหนแล้ว
"ฉันหวังว่าเด็กในท้องของแพรจะยังอยู่"
"คุณเอกหมายความว่ายังไงครับ"บดินทร์ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทิติเอกเอ่ยออกมาจึงได้ถามออกมาเพราะเจ้านายของเขาไม่ได้ต้องการมีลูกไม่ว่ากับใคร
"ก็เพราะเด็กนั้นไม่ใช่ลูกฉัน ถ้าแท้งเรื่องก็จบ แต่ถ้าไม่คุณแม่จะพูดออกอีกไหม"ทิติเอกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่า ทิติเอกโกรธมากแค่ไหน
"ญาติคนไข้ที่ท้องล่ะมายัง...หมอให้ตาม"
"เกิดอะไรขึ้น..."พยาบาลสาวเอ่ยถามเพื่อนรวมแผนกที่ดูสีหน้าไม่ดีเลย
"แม่เสียเลือดเยอะเลย ตอนนี้ต้องการเลือกโอกาสรอดทั้งแม่ทั้งลูกน้อยมากเลย"คำพูดของพยาบาลทำให้ทิติเอกตกใจไม่น้อย
"คนไข้ชื่ออะไร....ฉันเป็นคนส่งคนไข้ทั้งสองคนนั้น"
"ราชาวดี แต่เดี๋ยวนะคะคุณเป็นพามาส่ง แต่ไม่ใช่ญาติ"
"ญาติหรอครับ"บดินทร์ตกใจในคำพูดของพยาบาลไม่น้อยก่อนที่จะมองไปยังทิติเอกที่ตอนนี้ก็สงสัยไม่ต่างไปจากตัวเอง
"ผมเป็นพี่ชายของราชาวดีครับ"
"ค่ะ...ตามพยาบาลไปเลยค่ะ"ทิติเอกมองสิงหราชเพื่อนสนิทของตัวเองที่เดินเข้ามาพร้อมคุณหญิงรัตนาและมันทำให้เขานึกไม่ถึงในเรื่องเหล่านี้
"คุณหญิงรัตนา...สิงหราชเป็นพี่ชายของราชาวดีหมายความว่ายังไงครับ"ทิติเอกเอ่ยถามออกมาทั้งๆที่ตอนนี้เราไม่กล้าจะรับคำตอบจากอีกคน
"ฉันหวังว่าคุณจะเลิกยุ่งกับราชาวดีนะ"
"ครับ"
"คุณเอก"บดินทร์ตกใจในคำพูดของผู้เป็นเจ้านายตัวเองไม่น้อยเพราะเขาไม่คิดว่าคนตัวโตจะกล้าเอ่ยออกมาอย่างไม่คิดอะไร
"เฝ้าแพรไว้อย่าให้เธอแท้งเด็ดขาด"
"ครับ"
"ตอนแรกฉันก็ว่าดีนะที่ตาเอกจะเลิกยุ่งกับวดี แต่ตอนนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วซิ"รัตนาเอ่ยออกมาอย่างหนักใจเมื่อเห็นท่าทางของทิติเอก ที่เธอรู้ว่าเขาไม่จบเรื่องของราชาวดีแน่นอน
"คุณหญิงหมายความว่ายังไงครับ"
"เป็นลูกน้องแต่ไม่รู้จักนิสัยของตาเอกหรอฉันละเชื่อเลย"รัตนาเอ่ยออกมาแค่นั้นก็นั่งลงเพื่อรอหมอที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน
"หมอออกมายังครับ"สิงหราชที่เดินกลับมาหลังจากที่เขานั้นได้ให้เลือดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ยังลูก ทั้งสอง"
"ทั้งสอง....เกิดอะไรขึ้นมันเกิดเรื่องอะไรกัน"สิงหราชหันไปหาลูกน้องของทิติเอกพร้อมเอ่ยถามออกมา
"คุณแพรไพรลินไปหาคุณราชาวดีแล้วเกิดปากเสียงกันครับ เธอผลักคุณราชาวดีล้มแต่ตัวเองใส่ส้นสูงแล้วล้มตามครับ"
"ข่าวที่ทิติเอกมีเมียแล้วแต่มาแต่งงาน หรือเด็กเก็บที่มันเลี้ยงไว้คือผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม"สิงหราชเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับน้องสาวของเขา และมันก็ไม่ควรเกิดกับผู้หญิงคนไหน
"เรื่องที่คุณทิติเอกแต่งงานคุณสิงห์ก็น่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกบังคับ"
"แต่ราชาวดีไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของใคร"
"ผมรู้....เธอสง่างาม เธอดีแต่เธอแค่อยู่ผิดที่ครับ"คำพูดของบดินทร์ทำให้รัตนาก้มใบหน้าของตัวเองลงอย่างรู้สึกผิดกับราชาวดี เพราะถ้าไม่ใช่เพราะเธอลูกสาวของเธอคงไม่ต้องเผชิญชะตากรรมนี้
"มันผ่านไปแล้ว ครับแค่ต่อไปนี้ผมกับเอกคงเป็นขนานกัน"
การรอคอยของทั้งสามก็ได้จบลงเมื่อหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน
"ใครญาติคุณแพรไพรลินครับ"
"ผมครับ"
"คนไข้ตอนนี้ปลอดภัยทั้งแม่และลูกนะครับหมอจะย้ายไปที่ห้องพักแล้วก็รอดูอาการอีก2-3วันถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็กลับได้เลยครับ"
"ขอบคุณมากครับ"
"ยินดีครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว....เจอกันอีกแล้วนะครับ"
"ไม่ได้อยากจะเจอหมอบ่อยขนาดนี้เลยครับ"สิงหราชเอ่ยประชดออกมา
"มันจำเป็นไงครับ....เอ่อคุณราชาวดีเธอมีภาวะตกเลือดเนื่องจากความเครียดและก็การพักผ่อนของเธอทำให้ตอนที่เธอเกิดอุบัติเหตุเลยมีภาวะนี้เข้ามา....หมอไม่มั่นใจว่าเด็กจะเก็บไว้ได้ไหม แต่ดีที่สุดหมออยากให้เอาออก"
"ถ้าไม่เอาออกล่ะครับ"
"ครรภ์คุณแม่ไม่แข็งแรงโอกาสเสียทั้งแม่ทั้งลูกครับ"คำพูดของหมอทำให้รัตนาเป็นลมล้มพับไปทันที
"คุณแม่..คุณแม่ครับ"สิงหราชที่ประคองแม่ของตัวเองอยู่ก็ตกใจไม่น้อย ทางด้านของบดินทร์ตอนนี้ก็หน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
หลังจากที่บดินทร์กลับมาจากโรงพยาบาลแล้วเขาก็ได้สั่งให้ลูกน้องของตัวเองดูแลแพรไพลินอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะกลับเข้ามาหาผู้เป็นเจ้านายของตัวเองที่บริษัท
"เป็นไงบ้าง"ทิติเอกที่มองวิวทอดสายตาออกไปด้านนอกเอ่ยถามออกมาทันทีเมื่อลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาภายในห้อง
"คุณแพรปลอดภัยครับ....อีก2-3วันหมอก็ให้กลับได้ถ้าไม่มีเรื่องนะครับ"
"ดี..."
"คุณเอกจะปล่อยคุณราชาวดีไปจริงเหรอครับ"บดินทร์ที่เห็นว่าเจ้านายของตัวเองเมินที่จะถามหาอีกคน เขาก็อดที่จะห่วงใจเจ้านายตัวเองไม่ได้
"เธอเป็นไงบ้าง"
"ภาวะแท้งสูงครับ หมอให้เอาเด็กออกเพื่อรักษาชีวิตเธอ แต่คุณก็รู้จักคุณราชาวดีดี เธอไม่ยอมหรอกนะครับ"
"ไม่ยอม...ก็ต้องยอม"
"คุณเอก ถ้าการที่คุณจะให้เธอเอาเด็กออกเพียงเพราะเป็นลูกคุณผมว่ามันไม่ถูกนะครับ"
"ราชาวดีตั้งท้องไม่ได้ เธอตั้งท้องไม่ได้ แค่นี่ยังไม่เข้าใจหรือไง"ทิติเอกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดัง แต่เป็นน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"หมายความว่ายังไงครับ"บดินทร์ขมวดคิ้วกับสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายของตัวเองกำลังบอก
"เธอท้องไม่ได้ เธอไม่แข็งแรงครั้งที่แล้วครรภ์เป็นพิษแล้วแท้ง....ฉันไม่อยากให้เธอเสี่ยงเพียงเพราะเด็กคนเดียว"คำพูดของทิติเอกเหมือนคำพูดทีาวิ่งเข้ามาตบหน้าของเขา เมื่อปีก่อนที่ทติเอกรู้จักราชาวดี แล้ววันที่เธอปวดท้องอย่างหนักแล้วผู้เป็นเจ้านายของเขายอมทิ้งประชุมใหญ่เพื่อพาเธอไปโรงพยาบาล
"ใจฉันตอนนี้อยากให้เธอทำหมัน"ทิติเอกที่ไม่รู้ว่าเขาควรจัดการเรื่องเหล่านี้ยังไงดี แต่ตอนนี้เราปกลับเป็นห่วงคนตัวเล็กมากกว่าชื่อเสียงเงินทองของตัวเองเสียอีก
"คุณลองไปคุยกับเธอก่อนดีกว่านะครับ อย่าปล่อยเธอไว้แบบนั้น"
"อย่าเพิ่งพูดเรื่องแพรท้องกับใคร"
"ครับ"
โลกมักจะมีความลับกับเราเสมอและพวกเรามักจะมีเหตุในการปิดบังมันเสมอ
คอมเมนท์กดใจได้นะคะ
"ต่อให้วดีต้องตาย วดีก็ไม่มีทางเอาเข้าออก"เสียงที่ดังขึ้นมาของราชาวดี ที่เธอฟื้นขึ้นมาหลังจากหลับไปได้เกือบสามวัน และเมื่อเธอตื่นขึ้นมากลับต้องพบเจอกับความจริงที่เจ็บปวดหญิงสาวยังคงมองไปที่ผู้เป็นแม่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดภายในใจของเธอ"หมอคิดว่าการตัดสินใจนี้ ขึ้นอยู่กับคนไข้ แต่ถ้าเป็นไปได้หมอก็อยากให้เอาออก"หมอหนุ่มเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบ"ไม่ค่ะ ยังไงวดีก็ไม่ยอม ใครเขาไม่ต้องการก็ชั่งเขา ลูกวดีๆดูแลเขาได้"หญิงสาวยังคงยืนกรานในคำเดิม แต่เหมือนคำยืนกรานของเธอจะถูกกลืนลงในลำคอ ในสายตาของเธอได้ปะทะเข้ากับร่างหนาของคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี"ผมขอคุยกับเธอก่อนได้ไหม"ที่ทิติเอกที่ได้รับรู้เรื่องการฟื้นของราชาวดี เขาก็ไม่รีรอที่จะมาหาเธอในทันที ใบหน้าสวยหันไปอีกทางเพื่อจะหลบสายตาของชายหนุ่มที่มองมาที่เธอ"ราชาวดี หันกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันไม่รู้นะว่าเธอไปได้นิสัยดื้อดึงขนาดนี้มาจากใคร"ทิติเอกเอ่ยออกมาอย่างนึกต่อว่าหญิงสาว แต่เหมือนเธอจะไม่สนใจในคำพูดของเขาเลย ร่างหนาเดินเข้ามาหาหญิงสาว เขาจับที่ใบหน้าของเธอให้หันกลับมาหาเขา"ดูทำหน้าเข้า"ทิติเอกอดที่จะเอ่ยออกมาเมื่อเห็นใบหน้าข
"ไม่ทราบว่าคุณหญิงอรวีมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"ทิติเอกเอ่ยออกมายังประชดประชันผู้เป็นมารดา"เรื่องที่ลูกพูดหมายความว่ายังไง ผู้หญิงของลูกเป็นลูกสาวคนหญิงรัตนา"อรวีไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชายตัวเองเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินตามมาถามความให้รู้เรื่อง"ลูกสาวคุณหญิงรัตนาที่เธอตามหา มาตลอดนะครับ"น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วปกติ แต่แววตาตากับเจ็บปวดของที่ทิติเอก อดทำให้ผู้เป็นแม่ของเขาเป็นห่วงไม่ได้"ลูกรู้เรื่องนานหรือยัง""ทำไม ถ้ารู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นลูกสาวของคุณหญิงรัตนา คุณแม่จะจับเธอให้ผมหรอครับ ทั้งๆที่ปากพร่ำบอกว่าเธอไม่คู่ควรอะไรกับผมเลย""แม่จะให้ลูกอยู่ห่างเธอมากกว่านี้ต่างหาก""ทำไมผมไม่เข้าใจ"ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยกับสิ่งที่แม่ของเขาเอ่ยออกมา ทำให้ชายหนุ่มกับหนักใจในเรื่องนี้มากกว่าเดิม"คุณหญิงรัตนา เธอไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าไปเอื้อมถึงลูกสาวหรือลูกชายของเธอ ต่อให้เป็นเราก็ตามเธอ ไม่มีทาง ที่เธอจะยอมยกลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอให้ แล้วยิ่งพ่อนะ ถ้ารู้ว่าเอกกับลูกสาวเขาคบกันในที่ลับแบบนี้ แม่ไม่อยากจะคิดเลย""เรื่องนี้ผมรู้ว่าผมผิด ที่ไม่เคยให้ความชัดเจนเธอตั้งแต่แร
"คุณเอกไม่รักวดี วดีไม่ว่านะคะ ไม่ว่าเรืื่องลูกหรือเรื่องอะไรก็ตาม แต่อย่าผลักวดีให้กับคนอื่นได้ไหม วดีของแค่นี้ได้ไหม"ราชาวดีเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทิติเอกตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยออกมาเขาขยับตัวเองเข้าไปหาคนตัวเล็กด้วยความเร็วพร้อมกับการดึงเธอเข้ามาภายในอ้อมกอด"หมอบอกว่าอย่าเครียดไงวดี....ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปฉันจะไม่แต่งงานกลับเธอ"หญิงสาวที่อยู่ภายในอ้อมกอดของชายหนุ่มนิ่งลงพร้อมกับการขยับตัวเองออกมาจากอกแกร่งของอีกคน"หมายความว่าไงคะ""เธอต้องแต่งงาน แล้วคนที่ต้องแต่งด้วยคือฉัน""แล้วคุณแพรละคะ""แพรไพลินท้องนั้นก็เท่ากับว่าเธอคบกับคนอื่นเพียงแค่จะให้ฉันรับผิดชอบแต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่เคยมีความสัมผัสกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ทิติเอกเอ่ยออกมาพยายามที่จะอธิบายให้กับคนตัวเล้กได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น"อ๋อค่ะ...""แค่นี่หรอ""ค่ะ....ต้องให้วดีพูดอะไรคะ"ท่าทางที่ไร้เดียงสาของหญิงสาวทำให้ทิติเอกนักใจมากกว่าจะรู้สึกดีที่เธอไม่ทันคน"บดินทร์บอกว่าเธอทะเลาะกับแพรไพลินหรอ""ก็เขาว่าวดีก่อนทำไม"หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมท่าทางที่เรียกว่าทั้งโกระแค้นทั้งไม่พอใจ จนคนท่เ
ราชาวดีที่เพิ่งทานอาหารจากที่ทิติเอกเป็นคนค่อยป้อนให้เธอเสร็จ หญิงสาวก็ได้มานั่งจับจ้องที่ทีวี และเธอก็คงต้องอยู่ที่นี่ 1 อาทิตย์เพื่อที่หมอจะได้แน่ใจว่าเธอจะไม่กลับเข้ามาหาเขาอีกครั้ง"ดูอะไร"ทิติเอกที่เดินเข้ามานั่งข้างเตียงนอนก็เอ่ยถามออกมาเมื่อหญิงสาวยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่คิดที่จะสนใจอย่างอื่น"ข่าวทั่วไปค่ะ แล้วไปไหนมาคะไม่ไปทำงานหรอ"ราชาวดีอดที่จะเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัยไม่ได้ เพราะเธอเห็นว่าทิติเอกแต่งตัวด้วยชุกลำรองนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะไม่ไปทำงาน"ไม่อ่ะ...นักข่าวเยอะรำคาญ....ปวดหัวมากเลยเป็นอะไรไม่รู้"ทิตเอกเอ่ยออกมาอย่างอ้อนๆก่อนที่จะซบแขนของคนตัวเล็ก เขาเพิ่งรู้ว่าการอยู่ใกล้ราชาวดีมันทำให้เขานั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"ให้วดีเรียกหมอให้ไหมคะ...""ไม่เอา อยู่แค่นี้ก็หายแล้ว"คนตัวโตเอ่ยออกมาพร้มจับมือของเธอมาซบเอาไว้ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ว่าอะไรพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อที่จะเข้ามาหาทิติเอก"ข่าววันนี้เป็นข่าวที่น่าตกใจมากเลยนะคะ ไฮโซสาวอย่างคุณแพรไพลินที่เป็นลูกสาวของรัฐมนตรีมีข่าวออกมาว่าเธอท้อง แต่ฝ่ายชายไม่รับ คุณแพรพรรณลายเลยจับให้เธอแต่งงานกับคุณทิติเอกเม
หลังจากการเดินทางมาที่บ้านของทิติเอกอีกครั้ง หลังจากที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมา เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเดินทางกลับมาที่นี่อีก จนแม่ของเขาให้เข้ามาคุยธุระอย่างวันนี้และพ่อของราชาวดีและรัตนาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับแม่ของเขาในวันนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรออกมาได้นอกจากทำตามที่อรวีต้องการเท่านั้น"เอกมาแล้วหรอลูก"อรวีที่อยากจะเอ่ยคำขอโทษลูกชายของเธออย่างนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องขึ้นมาจนถึงตอนนี้สายตาของอรวีประทะเข้ากับร่างของคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแต่เมื่อเธอได้เห็นว่าอรวีได้หันมามองที่เธอ"สวัสดีค่ะคุณหญิงอรวี"ราชาวดีเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่เต็มสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เลือกที่จะเอ่ยออกไป เพราะถ้าไม่เอ่ย ก็เท่ากับว่าเธอเสียมารยาท"เข้าบ้านก่อน"อรวีเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินนำทั้งสองเข้าไป ราชาวดีที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเกร็งตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีในตอนนี้ แต่มือหนาของชายข้างกายเธอกลับบีบที่ข้อมือของเธอย้ำๆทำให้หญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักให้กับเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในบ้านของทิติเอกตามที่ชายหนุ่มได้จับมือเธอเดินเข้าไปภายในบ้าน"เดี๋
"มันจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะคะคุณอรวี ทิติเอกเป็นทายาทหมื่นล้าน ราชาวดีไม่มีอะไรเลย การที่นายหัวพูดแบบนั้นมันก็ทำให้คุรนักใจที่จะรับเธอมาเป็นสะใภ้ ดิฉันจะยกทรัพย์สินของฉันส่วนหนึ่งให้กับราชาวดี แต่เป็นทั้งหมดที่อยู่ภายในกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียงเราคำนวณแล้วก็เทียบเท่ากับทรัพสินย์ของคุณตอนนี้เลย แบบนี้เหมาะสมกันหรือยังคะ"รัตนาเอ่ยออกมาอย่างพยายามจับทางของอรวี"มันไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ ทิติเอกเก็บราชาวดีไว้ ไม่ได้เปิดเผย เธอเสียชื่อเสียงกับทางเราไปมากแล้วนะคะ"อรวีเอ่ยออกมาอย่างพยายามที่จะอธิบาย ด้วยเธอกลัวทิติเอกจะไม่เห็นด้วยเพราะเธอเคยผิดพลาดกับลูกชายของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง"งั้นยิ่งต้องตกลงเลย เพราะผมจะรับผิดชอบเธอ"ทิติเอกเอ่ยออกมาทำให้ผู้เป็นแม่ที่เดิมหนักใจไม่น้อย กลัวลูกชายเธอจะไม่เห็นด้วยถ้าเธอรับทางโน่นเลย แต่กลับกัน ทิติเอกอยากจะรับผิดชอบราชาวดีมากจนเธอคาดไม่ถึง"ว่ายังไงครับ"สิงหราชเอ่ยถามออกมาอย่าต้องการคำตอบเช่นเดียวกับทุกคนที่นี่"ค่ะ เห็นสมควรกันขนาดนี้ วีไม่กล้าขัดแล้วค่ะ"คำพูดของอรวีที่เอ่ยออกมาทำให้ทิติเอกดีใจไม่น้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือของตัวเองไปจับลงที่มือของคนตัวเล็กที่น
สามปีผ่านมา"อคิณ...มาหาแม่มาลูก"ราชาวดีเอ่ยเรียกเด็กชายที่ยังคงวิ่งเข้าไปภายในบริษัทของผู้เป็นพ่ออย่างสนุกสนานต่างจากผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้หมดแรงแม้แต่จะเดินแล้ว"คุณแม่ตามสิครับ เร็วๆตามมา"เด็กน้อยวัยสองขวบกว่าเรียกแม่ของตัวเองด้วยเสียงที่สนุกสนาน"ว้า...จับได้แล้ว"ราชาวดีที่เห็นลูกชายถูกยกลอยขึ้นจากพื้นก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจไม่ได้เพราะถ้าให้เธอวิ่งตามอีกคงได้เป็นลมแน่ๆ"คุณพ่อ" เสียงของเด็กชายเอ่ยออกมาก่อนที่จะโอบคอของทิติเอกพร้อมหอมลงที่ใบหน้าของเขาอย่างคิดถึง"ทำไมแกล้งแม่แบบนี้ครับ" ทิติเอกใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้กับลูกชายก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างเอ็นดูแม่ลูกคู่นี้ ที่ลูกชายเขาไม่รู้ไปได้นิสัยขี้แกล้งมาจากใคร วันๆเอาแต่แกล้งผู้เป็นแม่ให้วิ่งตาม แต่ด้วยนิสัยของราชาวดีไม่เคยจับลูกชายของเธอทันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ไม่ได้แกล้งเลย....คุณแม่" อคิณเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปยังราชาวดีที่ยิ้มให้กับสองพ่อลูกอยู่"แม่น่าจะอุ้มเราไม่ไหวแล้วนะคะครับ" ทิติเอกเอื้อมมือไปหาผู้เป็นแม่เพื่อที่จะให้อุ้มตัวเอง"ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ""ครับ...อคิณครับเดี๋ยวไปกับลุงบดินทร์นะครับ""ไปไหนคะ" รา
บทนำ“สวัสดีเราชื่อราชาวดี ผู้หญิงที่จะเรียกว่าโง่ก็ได้นะ ที่กลับไปหลงรักคนๆหนึ่ง ซึ่งเราเคยคิดว่าเขารักเรามาตลอด จนวันนี้เราได้รู้แล้วว่าทั้งหมดที่เขาทำ เพราะคำว่าความใคร่มากกว่าเรื่องอื่น เราจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง จะด่าเราก็ได้นะ โดยที่อย่าลืมไปว่าถ้าเป็นเราจะตัดสินใจทำแบบนี้หรือเปล่า”“ที่คุณเอกพูดทั้งหมดหมายความว่ายังไงคะ” เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามอย่างสงสัยต่อผู้ชายตรงหน้าของเธอ เขาคือ ทิติเอก กรวลัยลักษณ์ เป็นลูกชายเพียงของตระกูล กรวลัยลักษณ์“ฉันบอกว่าจะให้เธอ ย้ายเข้าไปอยู่บ้านที่ฉันซื้อให้แทนที่นี่” สายตาของชายหนุ่มมองไปยังห้องพักของหญิงสาว ที่เขาให้การดูแลเธอมาตลอดตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยปีสอง จนตอนนี้เธอเรียนจบมาได้เกือบจะครบเดือนแล้ว“แต่วดีว่า…วดีอยู่ที่นี่ดีกว่านะคะ อีกอย่างการที่คุณจะให้วดีย้ายเข้าไปอยู่ที่นั้น เข้าไปในฐานะอะไรคะ” ราชาวดี หญิงสาวที่มาจากบ้านเด็กกำพร้า เธอเติบโตมาโดยไม่เคยรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นใครมาจากไหน ไม่รู้ว่าตัวเองมาจากที่ไหนเธอใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า จนเข้าเรียนมหาลัย เธอก็ได้ย้ายมาอยู่ที่หอ แต่ชีวิตของเด็กสาวที่เรียกว่าไม่มีต้นท
สามปีผ่านมา"อคิณ...มาหาแม่มาลูก"ราชาวดีเอ่ยเรียกเด็กชายที่ยังคงวิ่งเข้าไปภายในบริษัทของผู้เป็นพ่ออย่างสนุกสนานต่างจากผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้หมดแรงแม้แต่จะเดินแล้ว"คุณแม่ตามสิครับ เร็วๆตามมา"เด็กน้อยวัยสองขวบกว่าเรียกแม่ของตัวเองด้วยเสียงที่สนุกสนาน"ว้า...จับได้แล้ว"ราชาวดีที่เห็นลูกชายถูกยกลอยขึ้นจากพื้นก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจไม่ได้เพราะถ้าให้เธอวิ่งตามอีกคงได้เป็นลมแน่ๆ"คุณพ่อ" เสียงของเด็กชายเอ่ยออกมาก่อนที่จะโอบคอของทิติเอกพร้อมหอมลงที่ใบหน้าของเขาอย่างคิดถึง"ทำไมแกล้งแม่แบบนี้ครับ" ทิติเอกใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้กับลูกชายก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างเอ็นดูแม่ลูกคู่นี้ ที่ลูกชายเขาไม่รู้ไปได้นิสัยขี้แกล้งมาจากใคร วันๆเอาแต่แกล้งผู้เป็นแม่ให้วิ่งตาม แต่ด้วยนิสัยของราชาวดีไม่เคยจับลูกชายของเธอทันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ไม่ได้แกล้งเลย....คุณแม่" อคิณเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปยังราชาวดีที่ยิ้มให้กับสองพ่อลูกอยู่"แม่น่าจะอุ้มเราไม่ไหวแล้วนะคะครับ" ทิติเอกเอื้อมมือไปหาผู้เป็นแม่เพื่อที่จะให้อุ้มตัวเอง"ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ""ครับ...อคิณครับเดี๋ยวไปกับลุงบดินทร์นะครับ""ไปไหนคะ" รา
"มันจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะคะคุณอรวี ทิติเอกเป็นทายาทหมื่นล้าน ราชาวดีไม่มีอะไรเลย การที่นายหัวพูดแบบนั้นมันก็ทำให้คุรนักใจที่จะรับเธอมาเป็นสะใภ้ ดิฉันจะยกทรัพย์สินของฉันส่วนหนึ่งให้กับราชาวดี แต่เป็นทั้งหมดที่อยู่ภายในกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียงเราคำนวณแล้วก็เทียบเท่ากับทรัพสินย์ของคุณตอนนี้เลย แบบนี้เหมาะสมกันหรือยังคะ"รัตนาเอ่ยออกมาอย่างพยายามจับทางของอรวี"มันไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ ทิติเอกเก็บราชาวดีไว้ ไม่ได้เปิดเผย เธอเสียชื่อเสียงกับทางเราไปมากแล้วนะคะ"อรวีเอ่ยออกมาอย่างพยายามที่จะอธิบาย ด้วยเธอกลัวทิติเอกจะไม่เห็นด้วยเพราะเธอเคยผิดพลาดกับลูกชายของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง"งั้นยิ่งต้องตกลงเลย เพราะผมจะรับผิดชอบเธอ"ทิติเอกเอ่ยออกมาทำให้ผู้เป็นแม่ที่เดิมหนักใจไม่น้อย กลัวลูกชายเธอจะไม่เห็นด้วยถ้าเธอรับทางโน่นเลย แต่กลับกัน ทิติเอกอยากจะรับผิดชอบราชาวดีมากจนเธอคาดไม่ถึง"ว่ายังไงครับ"สิงหราชเอ่ยถามออกมาอย่าต้องการคำตอบเช่นเดียวกับทุกคนที่นี่"ค่ะ เห็นสมควรกันขนาดนี้ วีไม่กล้าขัดแล้วค่ะ"คำพูดของอรวีที่เอ่ยออกมาทำให้ทิติเอกดีใจไม่น้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือของตัวเองไปจับลงที่มือของคนตัวเล็กที่น
หลังจากการเดินทางมาที่บ้านของทิติเอกอีกครั้ง หลังจากที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมา เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเดินทางกลับมาที่นี่อีก จนแม่ของเขาให้เข้ามาคุยธุระอย่างวันนี้และพ่อของราชาวดีและรัตนาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับแม่ของเขาในวันนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรออกมาได้นอกจากทำตามที่อรวีต้องการเท่านั้น"เอกมาแล้วหรอลูก"อรวีที่อยากจะเอ่ยคำขอโทษลูกชายของเธออย่างนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องขึ้นมาจนถึงตอนนี้สายตาของอรวีประทะเข้ากับร่างของคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแต่เมื่อเธอได้เห็นว่าอรวีได้หันมามองที่เธอ"สวัสดีค่ะคุณหญิงอรวี"ราชาวดีเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่เต็มสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เลือกที่จะเอ่ยออกไป เพราะถ้าไม่เอ่ย ก็เท่ากับว่าเธอเสียมารยาท"เข้าบ้านก่อน"อรวีเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินนำทั้งสองเข้าไป ราชาวดีที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเกร็งตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีในตอนนี้ แต่มือหนาของชายข้างกายเธอกลับบีบที่ข้อมือของเธอย้ำๆทำให้หญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักให้กับเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในบ้านของทิติเอกตามที่ชายหนุ่มได้จับมือเธอเดินเข้าไปภายในบ้าน"เดี๋
ราชาวดีที่เพิ่งทานอาหารจากที่ทิติเอกเป็นคนค่อยป้อนให้เธอเสร็จ หญิงสาวก็ได้มานั่งจับจ้องที่ทีวี และเธอก็คงต้องอยู่ที่นี่ 1 อาทิตย์เพื่อที่หมอจะได้แน่ใจว่าเธอจะไม่กลับเข้ามาหาเขาอีกครั้ง"ดูอะไร"ทิติเอกที่เดินเข้ามานั่งข้างเตียงนอนก็เอ่ยถามออกมาเมื่อหญิงสาวยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่คิดที่จะสนใจอย่างอื่น"ข่าวทั่วไปค่ะ แล้วไปไหนมาคะไม่ไปทำงานหรอ"ราชาวดีอดที่จะเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัยไม่ได้ เพราะเธอเห็นว่าทิติเอกแต่งตัวด้วยชุกลำรองนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะไม่ไปทำงาน"ไม่อ่ะ...นักข่าวเยอะรำคาญ....ปวดหัวมากเลยเป็นอะไรไม่รู้"ทิตเอกเอ่ยออกมาอย่างอ้อนๆก่อนที่จะซบแขนของคนตัวเล็ก เขาเพิ่งรู้ว่าการอยู่ใกล้ราชาวดีมันทำให้เขานั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"ให้วดีเรียกหมอให้ไหมคะ...""ไม่เอา อยู่แค่นี้ก็หายแล้ว"คนตัวโตเอ่ยออกมาพร้มจับมือของเธอมาซบเอาไว้ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ว่าอะไรพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อที่จะเข้ามาหาทิติเอก"ข่าววันนี้เป็นข่าวที่น่าตกใจมากเลยนะคะ ไฮโซสาวอย่างคุณแพรไพลินที่เป็นลูกสาวของรัฐมนตรีมีข่าวออกมาว่าเธอท้อง แต่ฝ่ายชายไม่รับ คุณแพรพรรณลายเลยจับให้เธอแต่งงานกับคุณทิติเอกเม
"คุณเอกไม่รักวดี วดีไม่ว่านะคะ ไม่ว่าเรืื่องลูกหรือเรื่องอะไรก็ตาม แต่อย่าผลักวดีให้กับคนอื่นได้ไหม วดีของแค่นี้ได้ไหม"ราชาวดีเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทิติเอกตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยออกมาเขาขยับตัวเองเข้าไปหาคนตัวเล็กด้วยความเร็วพร้อมกับการดึงเธอเข้ามาภายในอ้อมกอด"หมอบอกว่าอย่าเครียดไงวดี....ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปฉันจะไม่แต่งงานกลับเธอ"หญิงสาวที่อยู่ภายในอ้อมกอดของชายหนุ่มนิ่งลงพร้อมกับการขยับตัวเองออกมาจากอกแกร่งของอีกคน"หมายความว่าไงคะ""เธอต้องแต่งงาน แล้วคนที่ต้องแต่งด้วยคือฉัน""แล้วคุณแพรละคะ""แพรไพลินท้องนั้นก็เท่ากับว่าเธอคบกับคนอื่นเพียงแค่จะให้ฉันรับผิดชอบแต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่เคยมีความสัมผัสกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ทิติเอกเอ่ยออกมาพยายามที่จะอธิบายให้กับคนตัวเล้กได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น"อ๋อค่ะ...""แค่นี่หรอ""ค่ะ....ต้องให้วดีพูดอะไรคะ"ท่าทางที่ไร้เดียงสาของหญิงสาวทำให้ทิติเอกนักใจมากกว่าจะรู้สึกดีที่เธอไม่ทันคน"บดินทร์บอกว่าเธอทะเลาะกับแพรไพลินหรอ""ก็เขาว่าวดีก่อนทำไม"หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมท่าทางที่เรียกว่าทั้งโกระแค้นทั้งไม่พอใจ จนคนท่เ
"ไม่ทราบว่าคุณหญิงอรวีมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"ทิติเอกเอ่ยออกมายังประชดประชันผู้เป็นมารดา"เรื่องที่ลูกพูดหมายความว่ายังไง ผู้หญิงของลูกเป็นลูกสาวคนหญิงรัตนา"อรวีไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชายตัวเองเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินตามมาถามความให้รู้เรื่อง"ลูกสาวคุณหญิงรัตนาที่เธอตามหา มาตลอดนะครับ"น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วปกติ แต่แววตาตากับเจ็บปวดของที่ทิติเอก อดทำให้ผู้เป็นแม่ของเขาเป็นห่วงไม่ได้"ลูกรู้เรื่องนานหรือยัง""ทำไม ถ้ารู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นลูกสาวของคุณหญิงรัตนา คุณแม่จะจับเธอให้ผมหรอครับ ทั้งๆที่ปากพร่ำบอกว่าเธอไม่คู่ควรอะไรกับผมเลย""แม่จะให้ลูกอยู่ห่างเธอมากกว่านี้ต่างหาก""ทำไมผมไม่เข้าใจ"ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยกับสิ่งที่แม่ของเขาเอ่ยออกมา ทำให้ชายหนุ่มกับหนักใจในเรื่องนี้มากกว่าเดิม"คุณหญิงรัตนา เธอไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าไปเอื้อมถึงลูกสาวหรือลูกชายของเธอ ต่อให้เป็นเราก็ตามเธอ ไม่มีทาง ที่เธอจะยอมยกลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอให้ แล้วยิ่งพ่อนะ ถ้ารู้ว่าเอกกับลูกสาวเขาคบกันในที่ลับแบบนี้ แม่ไม่อยากจะคิดเลย""เรื่องนี้ผมรู้ว่าผมผิด ที่ไม่เคยให้ความชัดเจนเธอตั้งแต่แร
"ต่อให้วดีต้องตาย วดีก็ไม่มีทางเอาเข้าออก"เสียงที่ดังขึ้นมาของราชาวดี ที่เธอฟื้นขึ้นมาหลังจากหลับไปได้เกือบสามวัน และเมื่อเธอตื่นขึ้นมากลับต้องพบเจอกับความจริงที่เจ็บปวดหญิงสาวยังคงมองไปที่ผู้เป็นแม่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดภายในใจของเธอ"หมอคิดว่าการตัดสินใจนี้ ขึ้นอยู่กับคนไข้ แต่ถ้าเป็นไปได้หมอก็อยากให้เอาออก"หมอหนุ่มเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบ"ไม่ค่ะ ยังไงวดีก็ไม่ยอม ใครเขาไม่ต้องการก็ชั่งเขา ลูกวดีๆดูแลเขาได้"หญิงสาวยังคงยืนกรานในคำเดิม แต่เหมือนคำยืนกรานของเธอจะถูกกลืนลงในลำคอ ในสายตาของเธอได้ปะทะเข้ากับร่างหนาของคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี"ผมขอคุยกับเธอก่อนได้ไหม"ที่ทิติเอกที่ได้รับรู้เรื่องการฟื้นของราชาวดี เขาก็ไม่รีรอที่จะมาหาเธอในทันที ใบหน้าสวยหันไปอีกทางเพื่อจะหลบสายตาของชายหนุ่มที่มองมาที่เธอ"ราชาวดี หันกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันไม่รู้นะว่าเธอไปได้นิสัยดื้อดึงขนาดนี้มาจากใคร"ทิติเอกเอ่ยออกมาอย่างนึกต่อว่าหญิงสาว แต่เหมือนเธอจะไม่สนใจในคำพูดของเขาเลย ร่างหนาเดินเข้ามาหาหญิงสาว เขาจับที่ใบหน้าของเธอให้หันกลับมาหาเขา"ดูทำหน้าเข้า"ทิติเอกอดที่จะเอ่ยออกมาเมื่อเห็นใบหน้าข
"คุณเอกนั่งก่อนเถอะครับ"บดินทร์เอ่ยออกมาเมื่อทิติเอกเอาแต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้อง ฉุกเฉินต้องแต่เขาได้ส่งแพรไพลินเข้าไปด้านไหนแล้ว"ฉันหวังว่าเด็กในท้องของแพรจะยังอยู่""คุณเอกหมายความว่ายังไงครับ"บดินทร์ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทิติเอกเอ่ยออกมาจึงได้ถามออกมาเพราะเจ้านายของเขาไม่ได้ต้องการมีลูกไม่ว่ากับใคร"ก็เพราะเด็กนั้นไม่ใช่ลูกฉัน ถ้าแท้งเรื่องก็จบ แต่ถ้าไม่คุณแม่จะพูดออกอีกไหม"ทิติเอกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่า ทิติเอกโกรธมากแค่ไหน"ญาติคนไข้ที่ท้องล่ะมายัง...หมอให้ตาม""เกิดอะไรขึ้น..."พยาบาลสาวเอ่ยถามเพื่อนรวมแผนกที่ดูสีหน้าไม่ดีเลย"แม่เสียเลือดเยอะเลย ตอนนี้ต้องการเลือกโอกาสรอดทั้งแม่ทั้งลูกน้อยมากเลย"คำพูดของพยาบาลทำให้ทิติเอกตกใจไม่น้อย"คนไข้ชื่ออะไร....ฉันเป็นคนส่งคนไข้ทั้งสองคนนั้น""ราชาวดี แต่เดี๋ยวนะคะคุณเป็นพามาส่ง แต่ไม่ใช่ญาติ""ญาติหรอครับ"บดินทร์ตกใจในคำพูดของพยาบาลไม่น้อยก่อนที่จะมองไปยังทิติเอกที่ตอนนี้ก็สงสัยไม่ต่างไปจากตัวเอง"ผมเป็นพี่ชายของราชาวดีครับ""ค่ะ...ตามพยาบาลไปเลยค่ะ"ทิติเอกมองสิงหราชเพื่อนสนิทของตัวเองที่เดินเข้ามาพร้อมคุณหญิงรัตนาและมันทำให้เ
อาทิตย์ต่อมาราชาวดีก็ยังคงมาทำงานเหมือนเดิมในทุกวัน ต่างไปจากทิตเอกที่ตอนนี้เขาได้ไปๆมาๆแถมเขายังไม่ยอมไปหาคนตัวเล็กที่บ้านความรู้สึกของคนตัวเล็กในตอนนี้เธอเริ่มรักคนที่อยู่กับตัวเองมากกว่าผู้ชายที่เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะครอบครองเขาเลยแม้แต่น้อย“คุณราชาวดีครับ”“คะ”หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าบดินทร์มาตั้งแต่ตอนไหนเงยใบหน้าขึ้นอย่างตั้งคำถามเมื่อเขาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมเอ่ยเรียกหญิงสาว“คุณทิติเอกให้คุณเข้าไปหาครับ”“ค่ะ”ราชาวดีที่ไม่รู้ว่าทิติเอกได้เดินเข้าไปภายในห้องทำงานตั้งแต่ตอนไหนก็อดที่จะขมวดคิ้วตัวเองอย่างสงสัยไม่ได้“มาได้สักพักแล้วครับกำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ”“อ๋อเหรอคะ เปล่าค่ะ วดีไม่ได้คิดอะไร”หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนที่จะขยับตัวเองเพื่อที่จะเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของทิติเอก“คุณเอกเรียกวดีมีอะไรหรือเปล่าคะ”ราชาวดีมองทิติเอกที่ยืนมองวิวอยู่หลังโต๊ะทำงานของตัวเอง แต่เมื่อเธอเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาหยิงสาวจึงได้ตัดสินใจเอ่ยถามออกมา“ซองเอกสารอยู่บนโต๊ะ”“ค่ะราชาวดีเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่มแต่เมื่อเธอได้เห็นซองสีน้ำตาลที่วางอยู่ หญิงสาวอดที่จะหยิบขึ้นมาเดดูไม่ได้ แต่เม