ทางด้านนาวีที่กลับเข้าห้องทำงานของตนก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ของตนอย่างหงุดหงิดไม่สบอารมณ์กับความร้อนระอุที่อัดแน่นอยู่ในกาย ซึ่งอาการเหล่านี้มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาคิดถึงเธอ ยายคุณหนูขี้แย บุษกร... เด็กในปกครองของเขา คำคำนี้มันคือเส้นบางๆ ที่กางกั้นเขาไว้จากความรู้สึกทั้งมวลที่มีต่อเธอ..
“บ้าที่สุด...” ชายหนุ่มสบถเบาๆ ในลำคอแล้วหลับตาลงด้วยความเคร่งเครียดกับอารมณ์ที่เริ่มไม่มั่นคงของตนเอง แล้วภาพในอดีตก็แล่นเข้ามาในสมองเพียงแค่เขาหลับตาลง...
เมื่อสี่ปีก่อน
ในวันฉลองรับปริญญาโทของนาวี บิดามาดาและญาติสนิทไม่กี่คนเดินทางไปที่ที่รีสอร์ตญาติคนหนึ่งของบิดาในจังหวัดเชียงราย และในครั้งนั้นครอบครัวของบุษกรก็ไปร่วมยินดีกับนาวีด้วย การเลี้ยงฉลองวันแรกผ่านไปด้วยดีและวันต่อมาต่างก็พากันเดินสายไปทำบุญในที่ต่างๆ ซึ่งผู้สูงวัยต่างก็ชื่นชอบกันมาก ส่วนเด็กๆ ก็ติดตามไปทำบุญด้วย แต่จากการที่ไปปาร์ตี้ต่อกับเพื่อนๆ ในเมืองทำให้นาวีอ่อนเพลียเกินกว่าจะลุกจากที่นอนไปกับบิดามารดา เขาจึงขออยู่บ้านซึ่งนาวีเองก็ไม่รู้ว่าบุษกรอยู่ด้วย ชายหนุ่มจึงนัดหญิงสาวสวยคนหนึ่งมาพบที่บ้านพักซึ่งปลูกห่างกันพอสมควรเพื่อความเป็นส่วนตัว แน่นอนว่าบรรยากาศฝนพรำๆ กับสาวสวยเซ็กซี่คงไม่มีอะไรดีไปว่าการทำกิจกรรมในร่มอันเร่าร้อน หากไม่ติดที่ว่าเสียงประตูหน้าบ้านหลังเล็กดังขึ้นรัวๆ ทำให้เขาจำต้องผละจากร่างงามพรั่งพร้อมของสาวเจ้าอย่างหงุดหงิด ร่างสูงสวมเพียงกางเกงยีนสีเข้มตัวเดียวโชว์แผงอกเปล่าเปลือยเต็มไปด้วยกล้ามเนื้องดงามเยี่ยงบุรุษเพศ ที่ทำให้หญิงสาวมองตามเขาตาปรอยเลยทีเดียวนั้นเดินไปเปิดประตูอย่างหัวเสีย
“มีอะไร..” น้ำเสียงฟังดูหงุดหงิดของเขาทำให้ใบหน้าเรียวเล็กนั้นซีดขาวปากสั่นแววตาหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด นาวีถอนใจกอดอกมองเด็กสาวตรงหน้านิ่งเมื่อระลึกได้ว่าเธอเป็นเสมือนน้องสาวของเขาและท่าทางของเธอดูไม่สบายนัก
“เอาล่ะ มีอะไรก็ว่ามา ฝนตกแบบนี้เดินตากฝนมาทำไม”
“บูมปวดหัว เห็นว่าที่บ้านของคุณป้าเหมือนมีคนอยู่บูมเลยเดินมาขอยาทานค่ะ”
เธอก้มหน้าตอบแผ่วๆ ไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาซึ่งเขาคิดว่าเจ้าหล่อนคงจะอายกับสภาพของเขานั่นเอง
“เข้ามาแล้วไปหาเอาเองในห้องคุณแม่”
“ค่ะ..” ร่างเล็กบางกว่าเขามากเดินเลี่ยงไปยังห้องนอนของมารดา นาวีส่ายหน้าอย่างหงุดหงิดไม่หายและอารมณ์อยากต่างๆ ก็หมดไปทันที เขาเดินกลับไปบอกสาวสวยเซ็กซี่ให้กลับไปก่อนแม้ว่าเจ้าหล่อนดูจะไม่อยากกลับ แต่เพราะเงินก้อนโตที่ได้แทนการเสียเวลาก็ทำให้เธอกลับไปโดยดีแต่ไม่วายทิ้งโน้ตนัดหมายเพื่อไปสานต่อวิมานที่ล่มไปให้จบ
นาวีเดินมาหยุดที่ประตูห้องของมารดาก็เห็นว่าร่างเล็กยังจดๆ จ้องๆ อยู่กับกระเป๋าถือใบเล็กที่ว่างอยู่หน้ากระจกโต๊ะแต่งตัวของมารดา เมื่อเห็นเขาก็ทำหน้าตื่นๆ เหมือนเด็กตัวเล็กๆ อยากกินไอศกรีมแต่ไม่กล้าหยิบ
“เธอนี่มันตัวยุ่งจริงๆ คุณอาเขาไม่เคยให้เธอหยิบยากินเองรึไงนะ” ทำเสียงดุหน้าดุใส่คนที่ถอยร่นไปทันที ที่เขาเดินเข้ามาเปิดกระเป๋าแล้วหยิบยาแก้ไข้หวัดให้เธอหนึ่งเม็ด
“จะต้องให้ป้อนด้วยมั้ย”
“มะ ไม่ต้องค่ะ บูมกินยาเองได้...”
แล้วบุษกรก็เดินลิ่วออกไป นาวีมองแผ่นหลังบางภายใต้ชุดนอนแบบกระโปรงผ้าฝ้ายลายการ์ตูนเหมือนเด็กหญิงของบุษกร แล้วก็นึกสงสัยว่าเธอมีอายุเท่าไหร่แล้ว ปกติเขาก็ไม่ค่อยได้สุงสิงกับเธอนักเพราะวัยที่ค่อนข้างห่างกัน อีกทั้งเขาก็ไม่ชอบเด็กผู้หญิงที่ดูแล้วน่ารำคาญน่าปวดหัวไม่เหมือนสาวๆ ที่พร้อมจะไปกับเขาได้ทุกที่ เข้ากันได้ทุกท่า อีกทั้งส่วนใหญ่ครอบครัวของบุษกรจะอาศัยอยู่ที่อังกฤษมากกว่าเมืองไทยเพราะมารดาของเธอเป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษและไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองไทยกับอังกฤษ เขาจึงไม่ค่อยได้พบหน้าบุษกรบ่อยนัก แต่มีช่วงหลังๆ มานี้ที่ได้ข่าวว่าครอบครัวของบุษกรจะกลับมาอยู่ที่เมืองไทยเป็นการถาวรเพียงแต่ยังเคลียร์งานที่อังกฤษไม่เรียบร้อย
“บ้าจริง ฝนมาตกอะไรตอนนี้นะ”
ชายหนุ่มสบถเบาๆ ในลำคอเมื่อจู่ๆ ฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา บุษกรที่กำลังจะเดินกลับบ้านพักของตนเองจำต้องถอยหลังกลับเข้ามาในบ้านแล้วไปทรุดนั่งที่โซฟารับแขก ในขณะที่นาวีเดินไปที่บาร์เครื่องดื่มแล้วรินวิสกี้ยี่ห้อดังออกมาดื่มเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท้องฟ้าก็มืดครึ้มจนต้องเปิดไฟในบ้านแทบทุกดวง
“หิวรึเปล่า...” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นทำให้คนที่ทำท่าเหมือนจะหลับสะดุ้งหันมามองนาวีตาโต
“เอ้อ.. คือ หะ หิวค่ะ”
“ที่ถามนี่คือจะบอกว่าไปหากินเองในครัวนะ คุณแม่พี่ซื้ออาหารมาใส่ตู้เย็นไว้ตั้งแต่วันที่มาแล้วไม่รู้มีอะไรบ้าง และจะให้ดีช่วยทำอะไรมาให้พี่กินเล่นด้วยก็ไม่เลวนะ” สั่งด้วยท่าทางราวเจ้าชายสั่งสาวใช้
“ค่ะ...” รับคำเบาๆ แล้วลุกขึ้นเข้าครัวอย่างว่าง่าย นาวียกยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่ม แม้จะเริ่มรู้สึกมึนๆ เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่คิดว่าตนจะคออ่อนเมาได้ ไม่นานกลิ่นอาหารหอมกรุ่นก็ลอยมาแตะจมูกน้ำย่อยก็เริ่มทำงานขึ้นมาทันที นาวีปรายตามองคนที่ถือถาดใส่จานอะไรสักอย่างออกมา
“พอดีบูมเห็นมีแหนมเอ็นข้อไก่อยู่ในตู้เลยทอดมาให้พี่วีค่ะ”
เธอวางจานลายสวยไว้ตรงหน้าเขาแล้วก็จะเดินกลับเข้าไปในครัว แต่ทันใดนั้นเองไฟฟ้าที่สว่างไสวก็ดับพรึบตามมาด้วยเสียงสายฟ้าฟาดเปรี้ยงสนั่นหวั่นไหวไปทั้งผืนฟ้าและยังสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนแม้อยู่ในบ้านหลังเล็กที่มิดชิดแข็งแรง
เปรี้ยงงงง...
“กรี๊ดดดด...” บุษกรกรีดร้องด้วยความตกใจและอารามตกใจทำให้สะดุดข้อเท้าตัวเองร่างเล็กเสียหลักเกือบจะล้มหัวฟาดพื้น แต่สุดท้ายกลับเซถลาเข้าสู่วงแขนแกร่งของนาวีที่ลุกขึ้นคว้าร่างเธอไว้ได้ก่อน
ตอนที่7.“โอ๋ๆ นิ่งซะคนดี ไม่ต้องตกใจนะ”ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขาพูดไปแบบนั้นซึ่งนาวีเองก็ไม่คิดว่าตนเองจะพูดอะไรที่ดูงี่เง่าแบบนั้นกับคนที่ตัวสั่นอยู่กับอกกว้างเปล่าเปลือยของตน เพราะเขาไม่ได้กลัดกระดุมเสื้อร่างเล็กดูบอบบางราวแก้วใสทว่าอวบอิ่มตามวัยสาวเบียดชิดกับร่างแกร่งด้วยความตระหนกนั้นสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่นตกใจกับเสียงฟ้าผ่าและแสงแปลบปลาบบนท้องฟ้านั้นไม่ได้เฉลียวใจเลยว่ามีสิ่งที่น่ากลัวกว่าอยู่ใกล้ตัว และไม่รู้เลยว่าวงแขนแกร่งของคนตัวโตที่ตนซุกซบอยู่นั้นเกี่ยวกระหวัดรัดรอบเอวบางแน่นขึ้น และตอนนี้เธอก็กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนร่างกึ่งเปลือยของเขาอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ที่เพิ่งลุกไปเมื่อครู่นี้ในขณะที่สาวน้อยกำลังหวาดหวั่นกับสถานการณ์ธรรมชาติที่เหมือนบ้าคลั่งอยู่ภายนอก คนที่กำลังถูกธรรมชาติของร่างกายเล่นงานก็กำลังข่มอารมณ์ฝ่ายต่ำที่รบกวนจิตใจอยู่อย่างสุดกำลัง แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายบวกกับความต้องการที่ถูกขัดขวางเมื่อครู่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งกลิ่นสาบสาวกรุ่นกลิ่นยั่วเย้าและบรรยากาศนำพาไปเช่นนี้นาวีจึงทำในสิ่งที่อำนาจฝ่ายมืดดำบงการ โดยไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาภายหลัง...บุษ
ตอนที่8.การตอบสนองอย่างน่ารักของเธอทำให้นาวีไม่อาจยับยั้งชั่งใจอะไรได้อีกต่อไป มือร้อนที่สำรวจดงดอกไม้สดฉ่ำละออกไปถูกทดแทนด้วยปากและลิ้นร้ายกาจพลิกพลิ้วดื่มกินน้ำหวานจากกายสาวที่ไหลเอ่อ ความหวานหอมของกลิ่นเนื้อสาวแรกแย้มยิ่งทำให้มึนเมาเกินกว่าจะคิดถึงความเหมาะสมผิดชอบชั่วดี ยิ่งเสียงครางกระเส่าเร่าร้อนของแม่สาวน้อยร่างบางที่ดังก้องไปทั้งห้องก็ยั่วเย้าให้อารมณ์หนุ่มกระเจิดกระเจิง ใบหน้าหล่อเหลาละจากใจกลางร่างสาวแล้วขยับร่างกายให้พรักพร้อมที่จะโจนจ้วงเข้าสู่แอ่งเสน่หา และทันทีที่แก่นกายใหญ่โตแทรกเข้าไปเพียงนิดแม่สาวน้อยที่สั่นเร่าอยู่ใต้ร่างก็กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดน้ำตาใสๆ เปรอะเปื้อนเต็มใบหน้าแดงก่ำ“โอ๊ย.. จะ เจ็บ ฮือ พี่วีออกไปนะ..” มือน้อยที่เคยลูบไล้กายแกร่งอย่างหลงใหลบัดนี้ทั้งผลักไสทุบตีเขาพัลวัน...“ชู่ววว คนดีนิ่งๆ ก่อน แล้วมันจะดีขึ้นพี่สัญญา น้องบูมคนดีนิ่งก่อนนะครับ...”ปลอบเธอทั้งใบหน้าบิดเบ้ด้วยความทรมานและอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกกับช่องทางคับแน่นที่โอบรัด นาวีพรมจูบไปทั้งใบหน้าแดงก่ำเรื่อยมายังทรวงอกอิ่มฟ้อนเฟ้นลูบไล้เรือนกายอรชรสร้างความหวั่นไหวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใ
ตอนที่9.“ครับผม พี่กล้าเอง” กล้า ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมเข้มแบบฉบับหนุ่มไทยแท้รูปร่างสูงใหญ่ผมยาวระบ่ากว้างกรามแกร่งเต็มไปด้วยหนวดเคราแม้จะไม่ได้ยาวเฟื้อยดูดิบเถื่อน เพราะกร้านงานในไร่แต่มีเสน่ห์สไตล์หนุ่มลูกทุ่งและเขาก็เป็นเพื่อนรักของนาวีด้วยแน่นอนว่าเสน่ห์ของหนุ่มทั้งสองก็กินกันไม่ลง ชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย“สวัสดีค่ะพี่กล้า ไม่คิดว่าจะได้เจอหนุ่มชาวไร่ที่นี่เลยนะคะ” “แหม่.. น้องบูมก็พูดเกินไปครับหนุ่มชาวไร่ชาวนาอย่างพี่กล้าก็มาหาดูอะไรสวยๆ งามๆ ในเมืองบ้างล่ะครับ”“ผึ้งว่าเราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ แถวนี้อากาศเริ่มไม่ดีแล้ว”น้ำผึ้งซึ่งยังเคืองคนที่ว่าเธออ้วนม่อต้อไม่หายเอ่ยชวนใบหน้าบึ้งตึง ไม่หันมามองคนตัวโตที่คอยแต่จะหาเรื่องตนทุกครั้งที่เจอหน้ากัน“พี่กล้าไปด้วยกันสิคะ นานๆ จะได้เจอกันที”“บูม.. ไปชวนเขาทำไม เราที่หมายถึงคือผึ้งกับบูมเท่านั้นนะ”น้ำผึ้งหน้าหงิกเมื่อบุษกรเอ่ยชวนกล้าและชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าจะปฏิเสธเสียด้วยสิ“งั้นดีเลย พี่หิวพอดี ไปร้านไหนน้องบูมเลือกเลยครับ”“ไปร้านนี้เลยค่ะ มาเถอะผึ้ง” บุษกรจูงมือน้ำผึ้งที่ทำท่าจะอ้าปากประท้วงไปยั
ตอนที่10.“บูม ผึ้งกลับแล้วนะ เดี๋ยวจะไปเรียกแท็กซี่กลับเองไม่อยากร่วมทางกับพวกคนเถื่อน” น้ำผึ้งปรายตามองคนตัวสูงอย่างฉุนเฉียวไม่หาย“อ้าวทำไมล่ะผึ้ง”“คนขี้ขลาดก็จะเป็นแบบนี้ล่ะครับน้องบูม”กล้ายกยิ้มหยันๆ ทำให้น้ำผึ้งหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอายและโกรธขึ้นมาเป็นริ้วๆ ตั้งแต่เจอกับกล้าเธอก็ถูกเขาแขวะจิกกัดตลอด ตอนนี้ยังบังอาจมาดูถูกเธอด้วย น้ำผึ้งสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วสะบัดหน้าหนี“ฉันจะไปรอในรถก็แล้วกัน..” พูดแล้วก็กระแทกเท้าเดินไปนั่งรอเขาบนรถซ้ำยังแกล้งปิดประตูรถของเขาเสียเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนกล้าแอบย่นคออย่างหวาดเสียวว่าประตูจะหลุดออกมาจากตัวรถ“อิอิ.. เสียวสันหลังวาบเลยใช่ไหมคะพี่กล้า” บุษกรหัวเราะอย่างอดไม่ไหว“เราก็เหมือนกันยายตัวแสบ”กล้าไม่ตอบแต่หันมาขยี้เรือนผมสลวยของเธออย่างเอ็นดูแกมหมั่นไส้สาวน้อยตรงหน้าที่วันนี้เป็นสาวเต็มตัวแล้วด้วยความชื่นชม บุษกรสวยน่ารักและเก่ง ที่สามารถทำให้ใครบางคนแทบแดดิ้นตายเพียงเพราะเธอปรายตามอง และคนที่กำลังจะดิ้นตายก็เดินมายังพวกเขาด้วยใบหน้าถมึงทึง“ทำอะไรกัน แล้วแกมาทำไมวะไอ้กล้า” ถามเสียงขุ่นแววตากร้าวจัดแต่ไม่ได้ทำให้กล้าหวาดหวั่นแต่แอบขันเ
ตอนที่11.“เก่งขึ้นเยอะเลยนะตั้งแต่มีผู้ชายมาส่งถึงบ้าน จะบอกอะไรให้นะ ไอ้กล้ามันไม่โง่เอาผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างเธอมาเป็นเมียหรอก แล้วก็สึกหรอแล้วแบบนี้มันยิ่งไม่เอา”“หยาบคาย... ปล่อยฉันนะคนถ่อย ทุเรศที่สุด”เหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยกบุษกรดิ้นรนอย่างฉุนเฉียว อารมณ์ที่น้อยเนื้อต่ำใจอยู่แล้วยิ่งมาถูกเขาดูถูกเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยเหมือนถูกบีบอัดจนแตกระเบิด เธอจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว นั่นคือสิ่งที่บุษกรคิด แต่นาวีกลับคิดไปอีกทาง“หึ.. คิดจะดิ้นเพื่อยั่วฉันเหรอ ไม่สำเร็จหรอกสาวน้อย หรือหากฉันจะนอนกับเธออีกครั้งนั่นก็เพื่อสั่งสอนให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเธอได้จำไว้ว่ารสสวาทของฉันมันเป็นยังไง และหากยังอยากจะอ่อยเพื่อนฉันหรือผู้ชายคนไหนอีกฉันจะสั่งสอนเธอให้หลาบจำกว่านี้”“ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วย ฉันไปทำอะไรให้คุณวีนักหนา ทำไม...”ถามเขาทั้งน้ำตานองหน้าทั้งผลักทั้งทุบอกกว้างให้ถอยห่างก็ดูจะไม่เป็นผลและสรรพนามที่พูดกับเขา ไม่เหมือนกับที่พูดกับคนอื่นๆ ก็ยิ่งทำให้คนที่ขุ่นเคืองอยู่แล้วยิ่งฉุนจัดมากขึ้นคิดพาลอย่างคนเอาแต่ใจ“ทีหลังพูดกับผัวให้พูดเพราะๆ กว่านี้หน่อยนะบุษกร ฉันเคยบอกแ
ตอนที่12ดงดอกไม้สดฉ่ำพราวระยับด้วยน้ำหวานนั้นงดงามล่อตาล่อใจ กลิ่นสาบสาวคละคลุ้งชวนให้คลั่งไคล้ซึ่งนาวีไม่อาจจะทนมองเฉยได้ เขาก้มลงดื่มกินน้ำหวานที่เอ่อล้นกวาดลิ้นซอกซอนซุกไซ้เข้าไปสำรวจในโพรงถ้ำนุ่มหยุ่นราวกำมะหยี่อย่างเมามันส่งผลให้สะโพกกลมกลึงส่ายร่อนโรมรันเรียวลิ้นร้ายที่กำลังตวัดไล้ดูดดื่มกลีบดอกไม้สาวของตนอย่างบ้าคลั่งจนนาวีต้องกุมเอวบางไว้มั่นเพื่อให้ตนได้ดื่มกินน้ำหวานแสนอร่อยอย่างเต็มที่“อื้อ โอววว... พี่วี พี่วีขา อ๊ายยย...”บุษกรครางกระเส่าแอ่นกายเหนือที่นอนนุ่มอย่างซ่านรัญจวน ความเสียวเสียดแล่นพล่านไปทั้งกายเลือดสาวร้อนระอุราวจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ นาวีเหลือบตาขึ้นมองคนที่กำลังจะทะยานไปสู่แดนฉิมพลีด้วยลิ้นและปากของตนอย่างพอใจ บุษกรกรีดร้องเสียงแหลมแข่งกับเสียงสายฟ้าที่ฟาดเปรี้ยงขึ้นท่ามกลางพายุดฝนที่กระหน่ำหนักหน่วง“อา.. พี่ก็ทนไม่ไหวแล้วบูมจ๋า น้องบูมสวยที่สุด”นาวีครางเพ้อมือหนาแยกเรียวขาเสลาออกกว้างโดยจับขาเนียนข้างหนึ่งของเธอไว้บนบ่ากว้างแล้วค่อยๆ กดท่อนกายแกร่งเข้าสู่หลืบเร้นอุ่นนุ่มที่เขาเฝ้าโหยหามานานจนสุดทาง ความคับแน่นโอบล้อมเขาไว้รอบทิศทางจนยาวีเบ้หน้าด้วยควา
ตอนที่13.บุษกรตาโตหันไปมองนาฬิกาแขวนผนัง แล้วลนลานเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวทันที ไม่นานหญิงสาวก็ออกมาด้วยชุดที่พร้อมจะไปทำงานแต่พี่ส้มก็ไม่ได้อยู่หน้าห้องของเธอแล้ว บุษกรจึงเดินไปหาพี่ส้มที่เรือนใหญ่แล้วก็พบว่าคุณป้าของเธอมีแขกพอดี“อ้าวนั่นไง มาพอดี ป้าฝากด้วยนะพ่อกล้า..”คุณป้าเคียร่าหันมายิ้มให้บุษกรที่ย่อกายมานั่งข้างๆ กล้าซึ่งมาหาคุณบดินทร์แต่ก็คลาดกันไม่กี่นาทีเท่านั้น“ขอโทษนะคะคุณป้าที่วันนี้น้องบูมตื่นสายไปทำงานไม่ทันคุณลุง”“ไม่เป็นไรจ้า คุณลุงน่ะอยากจะให้หนูพักเสียด้วยซ้ำ วันนี้ไปสายหน่อยไม่เป็นไรหรอกจ้ะ”“ถ้าน้องบูมพร้อมจะไปทำงานก็ไปพร้อมพี่เลยก็ได้นะ พี่ก็กำลังจะไปพบคุณลุงท่านที่บริษัทพอดี มาไม่ทันคุณลุงเหมือนกัน”“งั้นบูมขอติดรถไปด้วยนะคะ”“ถ้าอย่างนั้นผมไปนะครับคุณป้า”“จ้า.. ขับรถดีๆ ล่ะไม่ต้องไปหาเรื่องชนท้ายหรือถอยหลังชนรถใครเขาล่ะ”คุณเคียร่าบอกยิ้มๆ เพื่อให้หนุ่มบ้านไร่มีสติในการขับรถไม่มุทะลุดุดันเหมือนขับรถในไร่ของตนเองซึ่งกล้าก็ยิ้มรับเขินๆ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับบุษกรแต่แล้วพอลับหลังกล้ากับบุษกรไปไม่เท่าไหร่ นาวีก็เดินลงมาจากห้องของตัวเองด้วยสีหน้าแช่มชื่นจนผู
ตอนที่14.“เดี๋ยวก่อนบุษกร”“ค่ะ คะ...” ขานรับแต่ไม่หันกลับไปเผชิญหน้า คุณบดินทร์ที่กำลังจะก้าวพ้นประตูจึงหันมาถาม“มีอะไรหรือตาวี”“พอดีผมอยากได้เอกสารของคุณพ่อไปศึกษาที่บ้านนิดหน่อยครับ ขออนุญาตใช้เลขาคุณพ่อสักนิดนะครับ”“อ้อ.. ได้เลย หนูบูมหาเอกสารที่พี่เขาต้องการทีนะลูก เดี๋ยวลุงจะไปรอที่รถ”“คุณพ่อกลับไปก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวให้บุษกรกลับกับผมก็ได้”นาวียิ้มอ่อนโยนให้บิดาซึ่งคุณบดินทร์ก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่สำหรับบุษกรนั้นกลับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้และทันทีที่ประตูห้องท่านประธานปิดลงเธอก็ถึงกับแข้งขาอ่อนแรงเลยทีเดียว...“เป็นไง ถึงกับเข่าอ่อนเลยเหรอ เมื่อคืนนอนกับฉันแต่พอเช้ามาก็วิ่งร่านไปหาผู้ชายอีกคน”ร่างสูงปรี่เข้ามาประชิดกุมต้นแขนเรียวไว้แน่นจนบุษกรนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแต่นาวีไม่ใส่ใจ ชายหนุ่มคว้าร่างบางเข้ามาในวงแขนแล้วพาร่างเบาหวิวนั้นไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานตัวใหญ่อย่างง่ายดายราวเธอเป็นสิ่งของไร้น้ำหนักและบุษกรไม่มีโอกาสจะต่อต้านขัดขืนใดๆ“บอกมาสิว่าไปให้ท่าไอ้กล้าแบบไหน หรือไปทำอะไรกับมันมาตั้งเป็นวัน”คนขี้หึงคาดคั้นขณะกดจมูกลงบนแก้มนวลและบ่าไหล่มือไม้ก็ไม่อยู่สุ
ตอนที่39.“หากมันทำให้คุณสบายใจขึ้นก็ตามสบาย แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าอย่าทำอะไรเกะกะสายตาผม เพราะผมจะไม่เกรงใจ...”เปรมเดินกลับเข้าไปในบ้านเช่นเดิม ส่วนนาวีก็ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ ที่งานนี้เขาจะต้องเจออะไรอีกมาก คิดแล้วก็สมน้ำหน้าตัวเองสิ้นดี“บูมจะไม่ไปเจอเขาหน่อยเหรอ เขาน่าสงสารออกน้า พี่เปรมงี้อย่างกับเจ้าพ่อเชี่ยงไฮ้ เอะอะๆ ขู่ๆๆ เหมือนป๋อมแป๋มเลย” เปรียวปรียาเข้ามานำเสนอข่าวให้บุษกรฟังอย่างออกรส ด้วยความที่ห่างกันเพียงหนึ่งปีพวกเธอจึงเรียกขานกันด้วยชื่อเล่นอย่างสนิทสนม“เอ๊ะ ป๋อมแป๋มนี่มันน้องหมาของหนูเปรียวไม่ใช่เหรอ แล้วไปเปรียบพี่เปรมเขาแบบนั้นได้” น้ำผึ้งซึ่งนั่งทำงานอยู่ด้วยกันกับบุษกรเงยหน้าจากเอกสารที่ตรวจอยู่อย่างขบขัน“นั่นสิหนูเปรียว พี่เปรมรู้เข้าโกรธตายเลย”“โธ่ๆ บูมก็ มันจริงนี่นา เปรียวน่ะสงสารพี่นาวีเสียจริงๆ ทั้งผอมทั้งโทรมผอมเผ้ารุงรังหนวดเคราเต็มหน้าเหมือนขี
ตอนที่38.“บอกตามตรงนะที่รัก พี่ไม่รู้เลยว่าจะสู้หน้าหนูบูมได้ยังไง มันน่าอายเหลือเกิน ลูกชายเราก็ร่ำเรียนมาเท่าไหร่ หน้าที่การงานหรือก็ไม่เป็นรองใคร แต่การกระทำของนาวีพี่รับไม่ได้จริงๆ”น้ำเสียงของคุณบดินทร์เต็มไปด้วยความผิดหวังเจ็บปวดและละอายใจ คุณเคียร่าถอนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน“อย่าว่าแต่คุณพี่เลยค่ะ น้องเองก็เหมือนกัน วันนั้นหากน้องไม่ใช้แต่อารมณ์ของตัวเอง คิดอคติเผลอพูดไม่ดีกับหนูบูมไป น้องยังรู้สึกผิดไม่น้อยเหมือนไปซ้ำเติมปรักปรำว่าหนูบูมทำตัวเหลวไหล น้องยิ่งกว่าละอายใจนะคะ”สองสามีภรรยามองหน้ากันแล้วถอนใจออกมาพร้อมๆ กัน ก่อนจะหันไปมองลูกชายที่แทบจะคลานเข้าห้องน้ำ ตอนนี้แม้แต่จะเดินขึ้นห้องนาวีก็แทบไม่มีแรงเดิน ร่างสูงแข็งแรงซูบลงไปมากจนเห็นโหนกแก้มสูงชัดเจน ดวงตาลึกโหลเขียวช้ำ หนวดเครารุงรังเพราะเจ้าตัวไม่ใส่ใจ สภาพของนาวีตอนนี้ไม่ต่างจากขี้เมาข้างถนน ไม่มีคราบนักธุรกิจหนุ่มดีกรีด็อกเตอร์ และอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยชื่อดังเลยแม้แต่น้อย&ldqu
ตอนที่37.“นั่นสิคะพี่เปรม หนูเปรียวน่ารักจะตาย บูมว่าหนูเปรียวเหมาะสมกับพี่เปรมที่สุดเลยล่ะค่ะ”บุษกรสนับสนุนอีกคน เพราะรู้จักคุ้นเคยกับเพื่อนรุ่นน้องนามว่า หนูเปรียว ซึ่งบุษกรคิดว่าสาวน้อยแสนซนน่ารักสดใสนั้นจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดหากได้ลงเอยกับผู้ชายที่ดีเช่นเปรม สำหรับเธอคงไม่มีโอกาสนั้นแล้ว“ยายเด็กกะโปโลแสนซนจอมแสบนั่นน่ะเหรอ ยกให้ฟรีๆ แถมไร่ทั้งไร่ให้ด้วยสองตาพี่ก็ยังไม่อยากแลมอง... เด็กอะไรทั้งแสบทั้งคัน ตัวร้ายชัดๆ”“เกลียดอะไรได้อย่างนั้นนะคะพี่เปรมขา...”สิ้นคำพูดดูแคลนของเปรมเสียงหวานใสของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมทั้งร่างโปร่งระหงของสาวสวยคนหนึ่งปรากฏกายขึ้นที่ประตูห้องพร้อมรอยยิ้มหวานฉ่ำสดใส...“หนูเปรียว...”เปรมกับน้ำผึ้งอุทานขึ้นพร้อมกันอย่างคาดไม่ถึง สำหรับน้ำผึ้งนั้นตื่นเต้นที่ได้พบเพื่อนรุ่นน้องที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่สำหรับเปรมกำลังตื่นตะลึงกับความงดงามสดใสของคนตรงหน้าที่ตนเพิ่งสบประมาทเจ้าหล่อนไป...
ตอนที่ 36.นาวีจำต้องถอยออกมาในสภาพสะบักสะบอมไม่น้อยไปกว่าเปรมทั้งปากแตกและศีรษะก็แตกด้วยแม้ไม่ได้เป็นแผลใหญ่แต่การได้แผลมาครั้งนี้คงจะอยู่ในความทรงจำของเขาไปอีกนานเลยทีเดียว“คุณวีไหวไหมครับ” อาทิตย์เข้ามาหมายจะประคองเจ้านายไปที่รถแต่นาวียกมือห้ามไว้แล้วเดินเซน้อยๆ เข้าไปนั่งในรถ อาทิตย์มองเจ้านายด้วยความสงสารและไม่รู้จะช่วยได้อย่างไรเขาเองก็แค่คนขับรถ“คุณวีจะไปไหนต่อไหมครับ”“กลับบ้าน...” อาทิตย์รับคำแล้วค่อยๆ เคลื่อนรถอกไปจากบ้านของเปรม...นาวีพิงเบาะหนังอย่างหมดแรงท่าทางราวคนใกล้จะหมดลมหายใจ ระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนที่เขาตามหาบุษกรด้วยการเสาะสืบตามหาเธอกับเพื่อนๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยซึ่งก็มีไม่กี่คน เนื่องจากบุษกรมีเพื่อนน้อยเพราะเขานั่นเองที่เป็นคนจัดตารางเวลาเรียนและเวลาที่เธอจะต้องกลับบ้านเพื่อเป็นการควบคุมป้องกันไม่ให้ผู้ชายคนไหนมาเกาะแกะวอแวด้วยนั่นเองและการที่เขามาหาเปรมในวันนี้ก็เพราะคิดว่าบุษกรอาจจะมาหาเปรม หรือเปรมอาจจะให้ที่พักพิงแก่เธอเ
ตอนที่35.“เอ... มันไม่ดีแล้วนะป้า ไหนเอากุญแจสำรองมาสิ” พี่ส้มหันมาหาป้าของตนซึ่งป้าพริ้งก็ยินดีที่จะหาให้“เอ๊ะ ป้า ห้องไม่ได้ล็อกนี่นา...” เมื่อสอดกุญแจเข้าไปก็พบว่าห้องของบุษกรไม่ได้มีการล็อกพี่ส้มก็รีบเปิดประตูทันที และพอห้องเปิดออกเท่านั้นทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนหัวใจโหวงวูบดวงตาเบิกกว้างอย่างตระหนกกับสิ่งที่เห็น“น้องบูม...” “คุณหนู...”ทั้งสามอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความรู้สึกใจหาย พี่ส้มได้สติก่อนใครก็วิ่งไปดูในห้องน้ำ เปิดประตูเสื้อผ้าสำรวจดูก็พบว่าเสื้อผ้าบางชุดที่หายไป และภายในห้องไม่มีเงาของบุษกรอยู่เลยแม้แต่น้อย...“คุณหนูหนีพวกเราไปแล้วป้า ไปพร้อมกับคุณหนูตัวน้อยๆ ในท้อง ฮือออ ป้า เราจะทำยังไงกันดี คุณหนูของส้มจะไปอยู่ยังไงที่ไหน...”พี่ส้มร้องไห้โฮ ในขณะที่ป้าพริ้งก็น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความอดสูอัดอั้นตันใจ และเข้าใจดีว่าทำไมคุณหนูของนางจึงเลือกที่จะไปโดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้“เธอไปแล้ว...” นาวีเดินเซออกมาจากห้อง
ตอนที่34.“ตกลงว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ครับคุณพ่อ ผมไม่สบายใจเลยที่คุณแม่เป็นแบบนี้” นาวีหน้ายุ่งเมื่อบรรยากาศในบ้านแปลกไป“พ่อเองก็ไม่สบายใจและเสียใจนะวี แต่เรื่องนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับหนูบูมเลย...”“เกิดอะไรขึ้นกับบุษกรครับ คุณพ่อ เกิดอะไรขึ้นกับน้องบูม”คราวนี้นาวีหน้าตื่นรีบเข้ามาใกล้บิดาแล้วจับแขนเขย่าแรงๆ ด้วยความลืมตัว“ใจเย็นๆ วี หนูบูมไม่ได้เป็นอะไรมาก” คุณบดินทร์รีบบอกและเริ่มฉุกใจอาการของลูกชาย“งั้นเกิดอะไรขึ้นกับบูมล่ะครับ”“คืออย่างนี้นะวี...” แล้วคุณบดินทร์ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลูกชายฟังคร่าวๆ“แม่เขาถามว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร หนูบูมก็ไม่ยอมตอบเอาแต่ร้องไห้และพูดว่าขอโทษ คุณแม่ก็คงเสียใจ แต่คนที่เสียใจที่สุดก็คงจะเป็นหนูบูม ที่เราไม่รู้เลยว่าเธอเต็มใจหรือถูกข่มขืนบังคับจากผู้ชายชั่วๆ คนนั้น พ่อเชื่อว่ามันต้องไม่ใช่คนดีแน่ๆ ถ้าพ่อรู้ว่ามันเป็นใคร พ่อไม่เอามันไว้ให้รกโลกแน่ๆ”ปากพูดไปสาย
ตอนที่33.ตอนแรกนาวีก็โกรธที่คนของตนทำตัวไม่เหมาะสมจนเผลอชกอาทิตย์ไปเต็มๆ จนล้มกองกับพื้นแต่ยังไม่หมดสติและอาการดิ้นทุรนทุรายของอาทิตย์ทำให้นาวีเข้าใจสาเหตุได้ดี จึงพาอาทิตย์ไปที่สระน้ำแล้วจับอาทิตย์ให้ลงไปในน้ำเพื่อให้น้ำระบายฤทธิ์ยาและโชคดีที่อาทิตย์ไม่ได้ดื่มน้ำจนหมดแก้ว ฤทธิ์ยาจึงไม่หนักหนา อาทิตย์มีสติพอที่จะพูดคุยได้ ซึ่งเมื่อความจริงกระจ่างก็ทำให้สองแม่ลูกไม่พอใจมากจึงกลบเกลื่อนด้วยการโวยวาย จะให้นาวีรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยการจ่ายค่าเสียหายหรือไม่ก็ต้องแต่งงานกับธัญญาลักษณ์ เพราะคนของเขาทำให้ชื่อเสียงของพวกตนด่างพร้อย ซึ่งเหตุผลนั้นช่างน่ารังเกียจและแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวและความคิดภายในจิตใจของทั้งสองแม่ลูกนี้อย่างชัดเจน“ฉันก็ว่าอย่างนั้นล่ะ เราไปกันเถอะ”“คุณไปไม่ได้นะวี คุณต้องรับผิดชอบแคท” ธัญญาลักษณ์ยังคงดื้อดึงรี่เข้ามาขางไว้“หากจะให้ผมรับผิดชอบด้วยเงินสักก้อน ผมจะให้คุณแสนหนึ่งนะแคท ถือว่าเป็นค่าเสียหายที่คนของผมล่วงเกินคุณ ซึ่งมันมากกว่าที่คุณไปทอดกายให้เสี่ยบางค
ตอนที่32.หลังจากที่ออกมาจากห้องทำงานด้วยน้ำตานองหน้าบุษกรก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องพี่ส้มกับป้าพริ้งเองก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความหนักใจ“ฉันไม่น่าบอกคุณท่านเลยป้า ดูสิ คุณหนูของฉันต้องเจ็บปวดและอับอาย”พี่ส้มรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเมื่อจนป่านนี้คุณหนูของตนยังไม่ยอมเปิดประตูออกมาเจอหน้าไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง“เฮ้อ.. นังส้ม แกทำถูกแล้ว เพราะเรามันก็แค่ขี้ข้า อีกอย่างการที่แกบอกคุณท่านก็เพราะแกคิดว่ามันเป็นการดีกว่า ดีกว่าที่เราจะรู้กันแค่นี้และเราเองก็ไม่สามารถรับผิดชอบ หรือช่วยเหลืออะไรคุณหนูได้ถูกไหม”“ก็ใช่ ฉันคิดอย่างนั้น กลัวว่าคุณหนูของเราจะถูกบังคับขู่เข็ญ หรือไม่เต็มใจและอยากให้คุณท่านเมตตาช่วยเหลือแต่นี่...”พี่ส้มถอนหายใจเมื่อคิดว่าคุณเคียร่าคงจะพูดอะไรสักอย่างที่ทำร้ายจิตใจของคุณหนูของตนแน่นอน“คุณท่านไม่ได้ว่าอะไรคุณหนูเลยนังส้มท่านเองก็เสียใจพอๆ กัน ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคุณหนู แกคิดดูนะคุณหนูของเราไม่เคยทำตัวเหลวไหล เรียบร้อยน่าร
ตอนที่31. “ยินดีกลับผึ้งด้วยนะ พี่กล้าเป็นคนดีและน่ารักมาก” บุษกรพลอยยิ้มกับน้ำผึ้งไปด้วย“ขอบใจนะ เอาล่ะ เราไปทานข้าวกันดีกว่า ผึ้งหิวแล้ว” น้ำผึ้งเช็ดหน้าเช็ดตาให้และยิ้มให้กำลังใจ บุษกรยิ้มอย่างขอบคุณที่น้ำผึ้งเอื้ออาทรต่อตนถึงเพียงนี้“ขอบใจนะผึ้งที่เข้าใจบูม ไม่คิดว่าบูมเป็นผู้หญิงไม่ดี”“บูมไม่ใช่คนไม่ดี แต่คนไม่ดีคือพี่วีของบูมต่างหากล่ะ อย่าคิดมากเลยเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กจะเจ้าน้ำตาเหมือนแม่นะ”“สาวๆ ครับ อาหารเสร็จแล้วครับเชิญมาทานอาหารฝีมือพ่อครัวสุดหล่อกล้ามใหญ่กันได้แล้ว”กล้าเยี่ยมหน้าเข้ามาเรียกภรรยาตัวอวบด้วยสีหน้าสดชื่นมีความสุข สายตาที่มองน้ำผึ้งนั้นหวานหยดจนคนถูกมองอายม้วนจะตัวแทบจะเป็นเกลียว บุษกรหัวเราะไปกับความหวานน่ารักของทั้งสองพอได้ลืมเรื่องเศร้าๆ ของตนเองหลังจากที่บุษกรกลับไปแล้วน้ำผึ้งก็ตัดสินใจเล่าเรื่องของบุษกรให้สามีฟังแม้จะเป็นการไม่สมควรแต่เธอคิดว่าในเมื่อเธอกลับกล้าเป็นสามีภรรยากัน ปัญหาของเพื่อนเมียก็ต้องเป็นปัญหาของสามีด้วย“พี่กล้าคิดว่าจะทำยังไงดีคะ แต่ว่าเรื่องนี้เรารู้กันแค่สามคนนะคะ”“พี่ไม่นึกเลยว่าไอ้วีมันจะร้ายกาจขนาดนี้ พี่คิดว่ามันทำไปเพราะรักน