เสียงห้าวๆ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบทำให้คนที่นั่งหลับตาฮัมเพลงเบาๆ ในลำคอขณะไกวชิงช้าเบาๆ นั้นลืมตาขึ้นทันทีด้วยอารามตกใจทำให้ร่างเล็กหงายหลังจนแทบจะตกชิงช้าหากเขาไม่รั้งเอวบางไว้พร้อมทั้งจับเชือกชิงช้าไว้ด้วยมืออีกข้าง
“อะ เอ่อ...” ดวงตากลมโตเบิกกว้างหาเสียงของตนเองไม่เจอและบุษกรมักเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่เจอหน้าเขา และการที่เธอเงียบไปนานทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่พอใจคิดไปว่าเธอรังเกียจที่เห็นหน้าเขาหรือไม่ก็กลัวเพราะทำงานส่งเขาไม่ทัน
“เป็นใบ้เหรอ แล้วงานที่เอากลับมาแก้น่ะทำเสร็จรึยัง”
บุษกรหน้าซีดลงทันทีที่เขาตวัดเสียงใส่หน้าตาขึงขัง ยิ่งทำให้ชายหนุ่มหน้าตึงมากขึ้นเมื่อเห็นเธอไม่พูดอะไรเสียทีเอาแต่นิ่งเงียบทีอยู่กับบิดามารดาของเขาหรืออยู่กับคนอื่น เจ้าหล่อนคุยจ้อยิ้มแย้มสดใส และยิ่งเวลาคุยกับผู้ชายคนอื่นยิ่งระริกรี้เชียวล่ะ นาวีรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่นึกถึงภาพเธอคุยกับหนุ่มๆ คนอื่น...
“บะ บูม เอ่อดิฉันกำลังจะกลับไปแก้ค่ะ เอ่อ ขะ ขอตัวนะคะ”
บอกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วพร่าติดๆ ขัดๆ น้ำเสียงและสรรพนามฟังดูห่างเหินยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ
ดิฉัน อย่างนั้นหรือ ทีคุยกับคนอื่น น้องบูมอย่างนั้น บูมอย่างนี้ ทีกับเขาเธอพูดอย่างกับเขาเป็นชายแก่ที่ควรวางไว้บนหิ้ง หรือยักษ์ใหญ่ที่น่ากลัวจนแทบอยากจะวิ่งหนีเสียทุกครั้ง...
“ยายเด็กแก่แดด เห็นหน้าฉันเป็นลุงเป็นตาแก่หรือไงถึงได้แทนตัวเองแบบนี้”
“มะ ไม่นะคะ เพียงแค่...”
“ยังจะมาเถียงอีก ทำไม.. ฉันนี่มันน่ากลัวมากหรือไงถึงได้ทำท่าเหมือนจะขาดใจตายเสียให้ได้เวลาเจอหน้าฉันน่ะ”
นาวีกระชับวงแขนรั้งร่างเล็กให้เข้ามาชิดด้วยความฉุนเฉียวยิ่งเห็นท่าทางหวาดหวั่นของเธอก็ยิ่งกรุ่นในใจ
“คุณวี ปละ ปล่อย ฉันเถอะนะคะ” เธอคงจะรู้ตัวว่าใกล้ชิดกับเขามากเกินไปมือเล็กผลักอกแกร่งเบาๆ เบาจนเขาแทบไม่รู้สึก
ดีล่ะ.. ในเมื่อเธอกลัวเขานักเรียกเขาเสียห่างเหินนักเขาจะทำให้มันใกล้ชิดเอง..
ชายหนุ่มคิดอย่างเจ้าเล่ห์ยิ่งเห็นตาใสๆ นั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นนาวีก็ยิ่งกระหยิ่มใจ คอยดูเถอะพ่อจะทำให้เจ้าหล่อนนอนไม่หลับทั้งคืนเลย...
“ถ้าฉันไม่ปล่อยเธอจะมีปัญญาทำอะไรได้ฮึ ยายคุณหนูขี้แย...”
เสียงนั้นข่มขู่กรายๆ พร้อมทั้งกระชับวงแขนมากขึ้นแล้วโน้มใบหน้าลงไปหาใบหน้าเล็กๆ ที่แหงนเงยมองเขาอย่างตระหนกด้วยความอยากจะแกล้ง แต่กลิ่นหอมจากกายสาวนุ่มนิ่มในวงแขนทำให้นาวีนึกฉุนตัวเองที่คิดอะไรตื้นๆ แบบนั้น เพราะเมื่อถึงตอนนี้อารมณ์บางอย่างที่กักเก็บมานานก็ปะทุขึ้นมาอย่างที่เขาไม่อาจจะต้านทาน
ทันทีที่บุษกรเผยอปากจะค้านขัด เขาก็ทาบริมฝีปากหยักของตนลงไปปิดกลีบปากระเรื่อนั้นอย่างรวดเร็วและฉวยโอกาสที่เจ้าหล่อนมัวตื่นตะลึงสอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากสาวเกี่ยวกระหวัดฉกชิมรสชาติจากเรียวปากอิ่มที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ลิ้มลอง
ยังหวานไม่เปลี่ยน... นั่นคือสิ่งที่รับรู้ได้ทันทีที่เรียวลิ้นเล็กพลิกพลิ้วตอบสนองอย่างลืมตัวเพราะด้อยเดียงสากว่า นาวีบดเคล้าจุมพิตเร่าร้อนร่ายมนต์เสน่หาใส่คนตัวบางที่อ่อนระทวยอยู่ในวงแขนมือน้อยที่คอยผลักอกกว้างออกห่างตอนนี้เลื่อนไล้อยู่ในกลุ่มผมดกดำของเขาทั้งยังขยับกายเบียดชิดร่างแกร่งของเขาอย่างลืมตัว เสียงฝีเท้าเบาๆ ของใครสักคนเดินมาทางพวกเขาทำให้นาวีได้สติ ปล่อยร่างบางออกจากวงแขนเหมือนว่าเธอเป็นของร้อน ซึ่งทันทีที่เขาปล่อยบุษกรก็เซเล็กน้อยหน้าตาเหรอหราก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงซ่านด้วยความอับอาย ในขณะที่นาวีเดินเลี่ยงอีกทางโดยไม่ใส่ใจว่าคนที่ถูกเขาจูบอย่างเร่าร้อนเมื่อครู่จะรู้สึกอย่างไร...
“คุณหนูขาเรากลับเรือนกันเถอะค่ะพี่ส้มจัดการบนเรือนใหญ่เรียบร้อยแล้ว”
พี่ส้มยิ้มร่าเข้ามาหา บุษกรลูบใบหน้าตัวเองที่รู้สึกร้อนชาไปทั้งหน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติของตนกลับมาแล้วรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดส่งยิ้มให้พี่ส้มบางๆ
“นึกว่าพี่ส้มจะลืมน้องบูมแล้ว”
“จะลืมได้ยังไงคะ พี่ส้มรีบช่วยเด็กๆ มันเก็บจานชุดใหม่เข้าตู้เลยช้า”
“ไม่เป็นไรค่ะ เราไปกันเถอะค่ะ”
“เอ๊ะ แต่เมื่อกี้เหมือนพี่ส้มเห็นคุณวีแว้บๆ นะคะ เธอมาทำอะไรแถวนี้คะ” บุษกรใจเต้นแรงไม่คิดว่าพี่ส้มจะตาดีทันเห็นเขา
“เอ่อ.. มะ ไม่เห็นมีใครนี่คะ พี่ส้มตาฝาดหรือเปล่า คุณวีเขารังเกียจบูมจะตาย เขาจะมาตรงที่มีบูมอยู่ทำไมล่ะคะ” พูดออกไปแล้วก็ลอบถอนใจเบาๆ เมื่อพี่ส้มพยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสิคะ สงสัยพี่ส้มตาฝาด ช่างเถอะค่ะ เรากลับไปนอนพักผ่อนดีกว่านะคะ คุณหนูมีสอบไม่ใช่เหรอคะสองสามวันนี้”
“ค่ะ” บุษกรตอบเบาๆ แล้วเดินกลับเรือนเล็กกับพี่ส้มไปเงียบๆ และเมื่อกลับถึงห้องของตนเองสาวน้อยก็ทรุดนั่งลงบนเตียงเล็กสีหวานอย่างหมดแรง มือบางยกขึ้นลูบที่ริมฝีปากบวมน้อยๆ ของตนเบาๆ พร้อมทั้งรู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั้งกายสาว ทั้งอับอาย น้อยเนื้อต่ำใจและร้อนรุ่มในเวลาเดียวกัน
“ทำไมพี่วีต้องทำแบบนี้กับบูมด้วยคะ พี่วีเกลียดอะไรบูมนักหนา”
บุษกรพึมพำกับตนเองเบาๆ น้ำใสๆ คลอหน่วยตางามดวงใจน้อยๆ ราวกับถูกบีบเค้นจากมือยักษ์ใหญ่ใจร้ายที่หมายเอาชีวิตผู้คนให้สิ้นซาก... และเธอก็เป็นหนึ่งในชีวิตเล็กๆ เหล่านั้นที่ตกอยู่ในอุ้งมือของยักษ์ใจร้ายนามว่านาวี...
ตอนที่6.ทางด้านนาวีที่กลับเข้าห้องทำงานของตนก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ของตนอย่างหงุดหงิดไม่สบอารมณ์กับความร้อนระอุที่อัดแน่นอยู่ในกาย ซึ่งอาการเหล่านี้มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาคิดถึงเธอ ยายคุณหนูขี้แย บุษกร... เด็กในปกครองของเขา คำคำนี้มันคือเส้นบางๆ ที่กางกั้นเขาไว้จากความรู้สึกทั้งมวลที่มีต่อเธอ..“บ้าที่สุด...” ชายหนุ่มสบถเบาๆ ในลำคอแล้วหลับตาลงด้วยความเคร่งเครียดกับอารมณ์ที่เริ่มไม่มั่นคงของตนเอง แล้วภาพในอดีตก็แล่นเข้ามาในสมองเพียงแค่เขาหลับตาลง...เมื่อสี่ปีก่อนในวันฉลองรับปริญญาโทของนาวี บิดามาดาและญาติสนิทไม่กี่คนเดินทางไปที่ที่รีสอร์ตญาติคนหนึ่งของบิดาในจังหวัดเชียงราย และในครั้งนั้นครอบครัวของบุษกรก็ไปร่วมยินดีกับนาวีด้วย การเลี้ยงฉลองวันแรกผ่านไปด้วยดีและวันต่อมาต่างก็พากันเดินสายไปทำบุญในที่ต่างๆ ซึ่งผู้สูงวัยต่างก็ชื่นชอบกันมาก ส่วนเด็กๆ ก็ติดตามไปทำบุญด้วย แต่จากการที่ไปปาร์ตี้ต่อกับเพื่อนๆ ในเมืองทำให้นาวีอ่อนเพลียเกินกว่าจะลุกจากที่นอนไปกับบิดามารดา เขาจึงขออยู่บ้านซึ่งนาวีเองก็ไม่รู้ว่าบุษกรอยู่ด้วย ชายหนุ่มจึงนัดหญิงสาวสวยคนหนึ่งมาพบที่บ้านพักซึ่งปลูกห่างกันพอ
ตอนที่7.“โอ๋ๆ นิ่งซะคนดี ไม่ต้องตกใจนะ”ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขาพูดไปแบบนั้นซึ่งนาวีเองก็ไม่คิดว่าตนเองจะพูดอะไรที่ดูงี่เง่าแบบนั้นกับคนที่ตัวสั่นอยู่กับอกกว้างเปล่าเปลือยของตน เพราะเขาไม่ได้กลัดกระดุมเสื้อร่างเล็กดูบอบบางราวแก้วใสทว่าอวบอิ่มตามวัยสาวเบียดชิดกับร่างแกร่งด้วยความตระหนกนั้นสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่นตกใจกับเสียงฟ้าผ่าและแสงแปลบปลาบบนท้องฟ้านั้นไม่ได้เฉลียวใจเลยว่ามีสิ่งที่น่ากลัวกว่าอยู่ใกล้ตัว และไม่รู้เลยว่าวงแขนแกร่งของคนตัวโตที่ตนซุกซบอยู่นั้นเกี่ยวกระหวัดรัดรอบเอวบางแน่นขึ้น และตอนนี้เธอก็กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนร่างกึ่งเปลือยของเขาอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ที่เพิ่งลุกไปเมื่อครู่นี้ในขณะที่สาวน้อยกำลังหวาดหวั่นกับสถานการณ์ธรรมชาติที่เหมือนบ้าคลั่งอยู่ภายนอก คนที่กำลังถูกธรรมชาติของร่างกายเล่นงานก็กำลังข่มอารมณ์ฝ่ายต่ำที่รบกวนจิตใจอยู่อย่างสุดกำลัง แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายบวกกับความต้องการที่ถูกขัดขวางเมื่อครู่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งกลิ่นสาบสาวกรุ่นกลิ่นยั่วเย้าและบรรยากาศนำพาไปเช่นนี้นาวีจึงทำในสิ่งที่อำนาจฝ่ายมืดดำบงการ โดยไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาภายหลัง...บุษ
ตอนที่8.การตอบสนองอย่างน่ารักของเธอทำให้นาวีไม่อาจยับยั้งชั่งใจอะไรได้อีกต่อไป มือร้อนที่สำรวจดงดอกไม้สดฉ่ำละออกไปถูกทดแทนด้วยปากและลิ้นร้ายกาจพลิกพลิ้วดื่มกินน้ำหวานจากกายสาวที่ไหลเอ่อ ความหวานหอมของกลิ่นเนื้อสาวแรกแย้มยิ่งทำให้มึนเมาเกินกว่าจะคิดถึงความเหมาะสมผิดชอบชั่วดี ยิ่งเสียงครางกระเส่าเร่าร้อนของแม่สาวน้อยร่างบางที่ดังก้องไปทั้งห้องก็ยั่วเย้าให้อารมณ์หนุ่มกระเจิดกระเจิง ใบหน้าหล่อเหลาละจากใจกลางร่างสาวแล้วขยับร่างกายให้พรักพร้อมที่จะโจนจ้วงเข้าสู่แอ่งเสน่หา และทันทีที่แก่นกายใหญ่โตแทรกเข้าไปเพียงนิดแม่สาวน้อยที่สั่นเร่าอยู่ใต้ร่างก็กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดน้ำตาใสๆ เปรอะเปื้อนเต็มใบหน้าแดงก่ำ“โอ๊ย.. จะ เจ็บ ฮือ พี่วีออกไปนะ..” มือน้อยที่เคยลูบไล้กายแกร่งอย่างหลงใหลบัดนี้ทั้งผลักไสทุบตีเขาพัลวัน...“ชู่ววว คนดีนิ่งๆ ก่อน แล้วมันจะดีขึ้นพี่สัญญา น้องบูมคนดีนิ่งก่อนนะครับ...”ปลอบเธอทั้งใบหน้าบิดเบ้ด้วยความทรมานและอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกกับช่องทางคับแน่นที่โอบรัด นาวีพรมจูบไปทั้งใบหน้าแดงก่ำเรื่อยมายังทรวงอกอิ่มฟ้อนเฟ้นลูบไล้เรือนกายอรชรสร้างความหวั่นไหวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใ
ตอนที่9.“ครับผม พี่กล้าเอง” กล้า ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมเข้มแบบฉบับหนุ่มไทยแท้รูปร่างสูงใหญ่ผมยาวระบ่ากว้างกรามแกร่งเต็มไปด้วยหนวดเคราแม้จะไม่ได้ยาวเฟื้อยดูดิบเถื่อน เพราะกร้านงานในไร่แต่มีเสน่ห์สไตล์หนุ่มลูกทุ่งและเขาก็เป็นเพื่อนรักของนาวีด้วยแน่นอนว่าเสน่ห์ของหนุ่มทั้งสองก็กินกันไม่ลง ชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย“สวัสดีค่ะพี่กล้า ไม่คิดว่าจะได้เจอหนุ่มชาวไร่ที่นี่เลยนะคะ” “แหม่.. น้องบูมก็พูดเกินไปครับหนุ่มชาวไร่ชาวนาอย่างพี่กล้าก็มาหาดูอะไรสวยๆ งามๆ ในเมืองบ้างล่ะครับ”“ผึ้งว่าเราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ แถวนี้อากาศเริ่มไม่ดีแล้ว”น้ำผึ้งซึ่งยังเคืองคนที่ว่าเธออ้วนม่อต้อไม่หายเอ่ยชวนใบหน้าบึ้งตึง ไม่หันมามองคนตัวโตที่คอยแต่จะหาเรื่องตนทุกครั้งที่เจอหน้ากัน“พี่กล้าไปด้วยกันสิคะ นานๆ จะได้เจอกันที”“บูม.. ไปชวนเขาทำไม เราที่หมายถึงคือผึ้งกับบูมเท่านั้นนะ”น้ำผึ้งหน้าหงิกเมื่อบุษกรเอ่ยชวนกล้าและชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าจะปฏิเสธเสียด้วยสิ“งั้นดีเลย พี่หิวพอดี ไปร้านไหนน้องบูมเลือกเลยครับ”“ไปร้านนี้เลยค่ะ มาเถอะผึ้ง” บุษกรจูงมือน้ำผึ้งที่ทำท่าจะอ้าปากประท้วงไปยั
ตอนที่10.“บูม ผึ้งกลับแล้วนะ เดี๋ยวจะไปเรียกแท็กซี่กลับเองไม่อยากร่วมทางกับพวกคนเถื่อน” น้ำผึ้งปรายตามองคนตัวสูงอย่างฉุนเฉียวไม่หาย“อ้าวทำไมล่ะผึ้ง”“คนขี้ขลาดก็จะเป็นแบบนี้ล่ะครับน้องบูม”กล้ายกยิ้มหยันๆ ทำให้น้ำผึ้งหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอายและโกรธขึ้นมาเป็นริ้วๆ ตั้งแต่เจอกับกล้าเธอก็ถูกเขาแขวะจิกกัดตลอด ตอนนี้ยังบังอาจมาดูถูกเธอด้วย น้ำผึ้งสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วสะบัดหน้าหนี“ฉันจะไปรอในรถก็แล้วกัน..” พูดแล้วก็กระแทกเท้าเดินไปนั่งรอเขาบนรถซ้ำยังแกล้งปิดประตูรถของเขาเสียเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนกล้าแอบย่นคออย่างหวาดเสียวว่าประตูจะหลุดออกมาจากตัวรถ“อิอิ.. เสียวสันหลังวาบเลยใช่ไหมคะพี่กล้า” บุษกรหัวเราะอย่างอดไม่ไหว“เราก็เหมือนกันยายตัวแสบ”กล้าไม่ตอบแต่หันมาขยี้เรือนผมสลวยของเธออย่างเอ็นดูแกมหมั่นไส้สาวน้อยตรงหน้าที่วันนี้เป็นสาวเต็มตัวแล้วด้วยความชื่นชม บุษกรสวยน่ารักและเก่ง ที่สามารถทำให้ใครบางคนแทบแดดิ้นตายเพียงเพราะเธอปรายตามอง และคนที่กำลังจะดิ้นตายก็เดินมายังพวกเขาด้วยใบหน้าถมึงทึง“ทำอะไรกัน แล้วแกมาทำไมวะไอ้กล้า” ถามเสียงขุ่นแววตากร้าวจัดแต่ไม่ได้ทำให้กล้าหวาดหวั่นแต่แอบขันเ
ตอนที่11.“เก่งขึ้นเยอะเลยนะตั้งแต่มีผู้ชายมาส่งถึงบ้าน จะบอกอะไรให้นะ ไอ้กล้ามันไม่โง่เอาผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างเธอมาเป็นเมียหรอก แล้วก็สึกหรอแล้วแบบนี้มันยิ่งไม่เอา”“หยาบคาย... ปล่อยฉันนะคนถ่อย ทุเรศที่สุด”เหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยกบุษกรดิ้นรนอย่างฉุนเฉียว อารมณ์ที่น้อยเนื้อต่ำใจอยู่แล้วยิ่งมาถูกเขาดูถูกเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยเหมือนถูกบีบอัดจนแตกระเบิด เธอจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว นั่นคือสิ่งที่บุษกรคิด แต่นาวีกลับคิดไปอีกทาง“หึ.. คิดจะดิ้นเพื่อยั่วฉันเหรอ ไม่สำเร็จหรอกสาวน้อย หรือหากฉันจะนอนกับเธออีกครั้งนั่นก็เพื่อสั่งสอนให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเธอได้จำไว้ว่ารสสวาทของฉันมันเป็นยังไง และหากยังอยากจะอ่อยเพื่อนฉันหรือผู้ชายคนไหนอีกฉันจะสั่งสอนเธอให้หลาบจำกว่านี้”“ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วย ฉันไปทำอะไรให้คุณวีนักหนา ทำไม...”ถามเขาทั้งน้ำตานองหน้าทั้งผลักทั้งทุบอกกว้างให้ถอยห่างก็ดูจะไม่เป็นผลและสรรพนามที่พูดกับเขา ไม่เหมือนกับที่พูดกับคนอื่นๆ ก็ยิ่งทำให้คนที่ขุ่นเคืองอยู่แล้วยิ่งฉุนจัดมากขึ้นคิดพาลอย่างคนเอาแต่ใจ“ทีหลังพูดกับผัวให้พูดเพราะๆ กว่านี้หน่อยนะบุษกร ฉันเคยบอกแ
ตอนที่12ดงดอกไม้สดฉ่ำพราวระยับด้วยน้ำหวานนั้นงดงามล่อตาล่อใจ กลิ่นสาบสาวคละคลุ้งชวนให้คลั่งไคล้ซึ่งนาวีไม่อาจจะทนมองเฉยได้ เขาก้มลงดื่มกินน้ำหวานที่เอ่อล้นกวาดลิ้นซอกซอนซุกไซ้เข้าไปสำรวจในโพรงถ้ำนุ่มหยุ่นราวกำมะหยี่อย่างเมามันส่งผลให้สะโพกกลมกลึงส่ายร่อนโรมรันเรียวลิ้นร้ายที่กำลังตวัดไล้ดูดดื่มกลีบดอกไม้สาวของตนอย่างบ้าคลั่งจนนาวีต้องกุมเอวบางไว้มั่นเพื่อให้ตนได้ดื่มกินน้ำหวานแสนอร่อยอย่างเต็มที่“อื้อ โอววว... พี่วี พี่วีขา อ๊ายยย...”บุษกรครางกระเส่าแอ่นกายเหนือที่นอนนุ่มอย่างซ่านรัญจวน ความเสียวเสียดแล่นพล่านไปทั้งกายเลือดสาวร้อนระอุราวจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ นาวีเหลือบตาขึ้นมองคนที่กำลังจะทะยานไปสู่แดนฉิมพลีด้วยลิ้นและปากของตนอย่างพอใจ บุษกรกรีดร้องเสียงแหลมแข่งกับเสียงสายฟ้าที่ฟาดเปรี้ยงขึ้นท่ามกลางพายุดฝนที่กระหน่ำหนักหน่วง“อา.. พี่ก็ทนไม่ไหวแล้วบูมจ๋า น้องบูมสวยที่สุด”นาวีครางเพ้อมือหนาแยกเรียวขาเสลาออกกว้างโดยจับขาเนียนข้างหนึ่งของเธอไว้บนบ่ากว้างแล้วค่อยๆ กดท่อนกายแกร่งเข้าสู่หลืบเร้นอุ่นนุ่มที่เขาเฝ้าโหยหามานานจนสุดทาง ความคับแน่นโอบล้อมเขาไว้รอบทิศทางจนยาวีเบ้หน้าด้วยควา
ตอนที่13.บุษกรตาโตหันไปมองนาฬิกาแขวนผนัง แล้วลนลานเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวทันที ไม่นานหญิงสาวก็ออกมาด้วยชุดที่พร้อมจะไปทำงานแต่พี่ส้มก็ไม่ได้อยู่หน้าห้องของเธอแล้ว บุษกรจึงเดินไปหาพี่ส้มที่เรือนใหญ่แล้วก็พบว่าคุณป้าของเธอมีแขกพอดี“อ้าวนั่นไง มาพอดี ป้าฝากด้วยนะพ่อกล้า..”คุณป้าเคียร่าหันมายิ้มให้บุษกรที่ย่อกายมานั่งข้างๆ กล้าซึ่งมาหาคุณบดินทร์แต่ก็คลาดกันไม่กี่นาทีเท่านั้น“ขอโทษนะคะคุณป้าที่วันนี้น้องบูมตื่นสายไปทำงานไม่ทันคุณลุง”“ไม่เป็นไรจ้า คุณลุงน่ะอยากจะให้หนูพักเสียด้วยซ้ำ วันนี้ไปสายหน่อยไม่เป็นไรหรอกจ้ะ”“ถ้าน้องบูมพร้อมจะไปทำงานก็ไปพร้อมพี่เลยก็ได้นะ พี่ก็กำลังจะไปพบคุณลุงท่านที่บริษัทพอดี มาไม่ทันคุณลุงเหมือนกัน”“งั้นบูมขอติดรถไปด้วยนะคะ”“ถ้าอย่างนั้นผมไปนะครับคุณป้า”“จ้า.. ขับรถดีๆ ล่ะไม่ต้องไปหาเรื่องชนท้ายหรือถอยหลังชนรถใครเขาล่ะ”คุณเคียร่าบอกยิ้มๆ เพื่อให้หนุ่มบ้านไร่มีสติในการขับรถไม่มุทะลุดุดันเหมือนขับรถในไร่ของตนเองซึ่งกล้าก็ยิ้มรับเขินๆ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับบุษกรแต่แล้วพอลับหลังกล้ากับบุษกรไปไม่เท่าไหร่ นาวีก็เดินลงมาจากห้องของตัวเองด้วยสีหน้าแช่มชื่นจนผู
ตอนที่33.ตอนแรกนาวีก็โกรธที่คนของตนทำตัวไม่เหมาะสมจนเผลอชกอาทิตย์ไปเต็มๆ จนล้มกองกับพื้นแต่ยังไม่หมดสติและอาการดิ้นทุรนทุรายของอาทิตย์ทำให้นาวีเข้าใจสาเหตุได้ดี จึงพาอาทิตย์ไปที่สระน้ำแล้วจับอาทิตย์ให้ลงไปในน้ำเพื่อให้น้ำระบายฤทธิ์ยาและโชคดีที่อาทิตย์ไม่ได้ดื่มน้ำจนหมดแก้ว ฤทธิ์ยาจึงไม่หนักหนา อาทิตย์มีสติพอที่จะพูดคุยได้ ซึ่งเมื่อความจริงกระจ่างก็ทำให้สองแม่ลูกไม่พอใจมากจึงกลบเกลื่อนด้วยการโวยวาย จะให้นาวีรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยการจ่ายค่าเสียหายหรือไม่ก็ต้องแต่งงานกับธัญญาลักษณ์ เพราะคนของเขาทำให้ชื่อเสียงของพวกตนด่างพร้อย ซึ่งเหตุผลนั้นช่างน่ารังเกียจและแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวและความคิดภายในจิตใจของทั้งสองแม่ลูกนี้อย่างชัดเจน“ฉันก็ว่าอย่างนั้นล่ะ เราไปกันเถอะ”“คุณไปไม่ได้นะวี คุณต้องรับผิดชอบแคท” ธัญญาลักษณ์ยังคงดื้อดึงรี่เข้ามาขางไว้“หากจะให้ผมรับผิดชอบด้วยเงินสักก้อน ผมจะให้คุณแสนหนึ่งนะแคท ถือว่าเป็นค่าเสียหายที่คนของผมล่วงเกินคุณ ซึ่งมันมากกว่าที่คุณไปทอดกายให้เสี่ยบางค
ตอนที่32.หลังจากที่ออกมาจากห้องทำงานด้วยน้ำตานองหน้าบุษกรก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องพี่ส้มกับป้าพริ้งเองก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความหนักใจ“ฉันไม่น่าบอกคุณท่านเลยป้า ดูสิ คุณหนูของฉันต้องเจ็บปวดและอับอาย”พี่ส้มรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเมื่อจนป่านนี้คุณหนูของตนยังไม่ยอมเปิดประตูออกมาเจอหน้าไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง“เฮ้อ.. นังส้ม แกทำถูกแล้ว เพราะเรามันก็แค่ขี้ข้า อีกอย่างการที่แกบอกคุณท่านก็เพราะแกคิดว่ามันเป็นการดีกว่า ดีกว่าที่เราจะรู้กันแค่นี้และเราเองก็ไม่สามารถรับผิดชอบ หรือช่วยเหลืออะไรคุณหนูได้ถูกไหม”“ก็ใช่ ฉันคิดอย่างนั้น กลัวว่าคุณหนูของเราจะถูกบังคับขู่เข็ญ หรือไม่เต็มใจและอยากให้คุณท่านเมตตาช่วยเหลือแต่นี่...”พี่ส้มถอนหายใจเมื่อคิดว่าคุณเคียร่าคงจะพูดอะไรสักอย่างที่ทำร้ายจิตใจของคุณหนูของตนแน่นอน“คุณท่านไม่ได้ว่าอะไรคุณหนูเลยนังส้มท่านเองก็เสียใจพอๆ กัน ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคุณหนู แกคิดดูนะคุณหนูของเราไม่เคยทำตัวเหลวไหล เรียบร้อยน่าร
ตอนที่31. “ยินดีกลับผึ้งด้วยนะ พี่กล้าเป็นคนดีและน่ารักมาก” บุษกรพลอยยิ้มกับน้ำผึ้งไปด้วย“ขอบใจนะ เอาล่ะ เราไปทานข้าวกันดีกว่า ผึ้งหิวแล้ว” น้ำผึ้งเช็ดหน้าเช็ดตาให้และยิ้มให้กำลังใจ บุษกรยิ้มอย่างขอบคุณที่น้ำผึ้งเอื้ออาทรต่อตนถึงเพียงนี้“ขอบใจนะผึ้งที่เข้าใจบูม ไม่คิดว่าบูมเป็นผู้หญิงไม่ดี”“บูมไม่ใช่คนไม่ดี แต่คนไม่ดีคือพี่วีของบูมต่างหากล่ะ อย่าคิดมากเลยเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กจะเจ้าน้ำตาเหมือนแม่นะ”“สาวๆ ครับ อาหารเสร็จแล้วครับเชิญมาทานอาหารฝีมือพ่อครัวสุดหล่อกล้ามใหญ่กันได้แล้ว”กล้าเยี่ยมหน้าเข้ามาเรียกภรรยาตัวอวบด้วยสีหน้าสดชื่นมีความสุข สายตาที่มองน้ำผึ้งนั้นหวานหยดจนคนถูกมองอายม้วนจะตัวแทบจะเป็นเกลียว บุษกรหัวเราะไปกับความหวานน่ารักของทั้งสองพอได้ลืมเรื่องเศร้าๆ ของตนเองหลังจากที่บุษกรกลับไปแล้วน้ำผึ้งก็ตัดสินใจเล่าเรื่องของบุษกรให้สามีฟังแม้จะเป็นการไม่สมควรแต่เธอคิดว่าในเมื่อเธอกลับกล้าเป็นสามีภรรยากัน ปัญหาของเพื่อนเมียก็ต้องเป็นปัญหาของสามีด้วย“พี่กล้าคิดว่าจะทำยังไงดีคะ แต่ว่าเรื่องนี้เรารู้กันแค่สามคนนะคะ”“พี่ไม่นึกเลยว่าไอ้วีมันจะร้ายกาจขนาดนี้ พี่คิดว่ามันทำไปเพราะรักน
ตอนที่30.“ผมคงไม่ไดแพ้ท้องแทนใครหรอกครับ ก็แค่อาจจะนอนดึกและเครียดๆ เท่านั้นก็เลยอยากกินอะไรที่มันทำให้สดชื่นตาสว่างเท่านั้นล่ะ”“ก็นั่นสิคะ คุณวียังไม่มีเมียนี่นา”“หรือว่าลูกแอบไปทำลูกสาวบ้านไหนท้องรึเปล่า คงไม่ใช่แม่นางแบบกรวงโบ๋นั่นหรอกนะ” คุณเคียร่าเอยพาดพิงถึงธัญญาลักษณ์ด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจทำให้นาวียิ้มกว้างกับท่าทางค้อนควักของมารดา“โธ่.. คุณแม่ครับ ผมกับแคทไม่ได้จริงจังต่อกัน เราก็แค่คบกันแบบเพื่อนเท่านั้นเธอก็รู้ดีว่าผมคิดยังไงกับเธอ”“หึ.. เด็กสมัยนี้ก็ล้ำเกินไป เพื่อนกิน เพื่อนนอน เพื่อนกินเพื่อน” ผู้เป็นแม่ค้อนอีกระลอก ไม่นึกสนับสนุนการคบหากันของหนุ่มสาวในลักษณะนี้เลย“โธ่.. คุณแม่ครับ สมัยนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปนะครับ ถึงผมจะเคยมีสัมพันธ์กับเธอแต่ก็นานมาแล้ว หลายปีแล้วก่อนที่ผมจะกลับมาเมืองไทย แต่ตอนนี้รับรองได้เลยครับว่าผมไม่มีอะไรกับเธอเลย” นาวีรีบเข้ามากอดเอวมารดาอย่างออดอ้อน“หึ.. จ
ตอนที่29.บุษกรมองดูหมอนที่มีรอนบุ๋มตรงหน้าด้วยความรู้สึกอาลัยโหยหาและเริ่มหวั่นไหวกับการตัดสินใจของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันคำพูดของธัญญาลักษณ์ก็แว่วเข้ามาในหัว“เราจะต้องไปจากที่นี่...” บุษกรบอกตัวเองอย่างแน่วแน่ เธอจะต้องไป เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเธอจะต้องเจ็บปวดมากว่านี้หลายเท่านัก คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากใช้สามีร่วมกับคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกให้บุษกรตื่นจากภวังค์แล้วลุกไปเปิดประตูซึ่งก็พบว่าพี่ส้มนนำอาหารขึ้นมาให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเคย“คุณหนูตื่นนานรึยังคะ แล้วหิวรึยัง”“น้องบูมเพิ่งตื่นค่ะพี่ส้ม แล้วก็ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ลงไปช่วยทำงาน”“ช่วยอะไรกันคะคุณหนู แค่นี้พี่ส้มทำเองได้ เด็กๆ ในบ้านอีกตั้งหลายคนคุณหนูจะมาทำให้ลำบากทำไมล่ะคะ อย่ามัวคุยเลยค่ะมาทานข้าวต้มก่อนดีกว่า”พี่ส้มจัดโต๊ะอาหารให้อย่างคล่องแคล่วบุษกรจึงเดินไปที่ระเบียงซึ่งมีโต๊ะนั่งเล่นและใช้สำหรับรับประทานหารหรือได้และนั่งชมสวนสวยร่มรื่นเบื้
ตอนที่28.บุษกรเบี่ยงกายหนีวงแขนแข็งแรงที่คลายออกเล็กน้อยทันทีแล้วไปยืนตั้งหลักอยู่ข้างเตียงมือน้อยลูบผมเผ้ายุ่งเหยิงของตนแล้วกอดอกไว้เพื่อปิดป้องทรวงอกที่ไร้บราเซียปกปิดมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้วางใจ“ก็เข้ามาดูคนป่วยว่าหายรึยัง สรุปว่าบูมเป็นอะไรเมารถหรือแพ้ท้อง...” คำถามโต้งๆ ของเขาทำให้คนฟังใจแป้วไปโชคดีที่ภายในห้องมีเพียงแสงสลัวไม่เช่นนั้นเขาคงเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดของเธออย่างแน่นอน“บูมแค่เมารถแล้วก็พักผ่อนไม่เพียงพอเท่านั้นค่ะ การที่บูมพักผ่อนไม่เพียงพอก็มาจากสาเหตุอะไรพี่วีก็น่าจะรู้ดีนี่คะ”พูดออกไปบุษกรก็พลอยนึกขัดเขินตัวเองเต็มที เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ แต่มันก็จำเป็นเพื่อไม่ให้เขาสงสัยหรือซักถามมากความซึ่งก็ได้ผลเพราะพ่อคุณรีบเปลี่ยนเรื่องมาคุยเรื่องที่ตนเองจะได้ผลประโยชน์ทันที“อืม.. พี่ไม่รู้หรอกว่าทำอะไรให้บูมถึงได้พักผ่อนไม่เพียงพอ ต้องลองทำดูอีกที”“มะ ไม่ต้องค่ะ ตอนนี้บูมอยากพักผ่อน” รีบคัดค้านพลางก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยเมื
ตอนที่27.แต่สำหรับธัญญลักษณ์เขาก็ป้องกันด้วยการสวมถุงยางเสมอและไม่เคยร่วมหลับนอนกับธัญญาลักษณ์แบบไร้สติ และเขาก็ไม่ได้หลับนอนกับธัญญาลักษณ์มาเกือบจะสามปีแล้วกระมัง เพราะคนอย่างเขาไม่คิดจะใช้ผู้หญิงซ้ำซาก มีผู้หญิงมากมายให้เขาเลือกใช้ซึ่งแน่นอนว่าแทบไม่ซ้ำหน้าแม้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาจะดูเคร่งขรึมเย็นชา แต่เรื่องผู้หญิงนั้นเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าคาสโนว่าคนใดเลย ซ้ำตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมาระหว่างที่เขารอให้บุษกรเรียนจบเขาแทบไม่ต้องการผู้หญิงคนไหนเลย“เธอคิดอะไรของเธอนะบุษกร เธอท้องจริงหรือเปล่า...”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองจนรถแล่นมาจอดหน้าบ้านหลังจากที่ส่งธัญญาลักษณ์แล้วเรียบร้อยซึ่งแน่นอนว่าเจ้าหล่อนจะออดอ้อนและใช้มารยาสารพัดที่จะรั้งให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอก็ตาม“คุณวีจะให้ผมปลุกคุณหนูไหมครับ” อาทิตย์ลงมาเปิดประตูให้และถามตามมารยาท“ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจัดการเอง นายเอากระเป๋าของน้องบูมไปเก็บเถอะแล้วเรียกพี่ส้มมาให้ที”“ครับ” อาทิตย์รับคำแล้วไม่นานพี่ส้มก็วิ่
ตอนที่26.“ผมว่าคุณควรจะไปรอที่รถกับอาทิตย์จะดีกว่ามั้ยหากไม่คิดจะพูดอะไรที่มันฟังแล้วดีกว่าการเหน็บแนมคนอื่น”“วีคะ นี่วีด่าแคทเหรอ วีไม่เคยพูดแบบนี้กับแคทเลยนะคะ”“ก็เพราะเมื่อก่อนแคทไม่ล้ำเส้นผมไงล่ะ หากตอนนี้คุณอยากจะกลับเองก็ได้นะ ให้อาทิตย์ไปส่งที่ท่ารถใกล้ๆ แถวนี้ก็ได้” นาวีไม่คิดจะรักษาน้ำใจเธออีกต่อไป เขารู้สึกรำคาญและยุ่งยากใจเมื่อเห็นท่าทางหึงหวงของธัญญาลักษณ์ที่แสดงออกชัดเจนว่าต้องการอะไรซึ่งเขาไม่ปรารถนา“นาวี... แคทโกรธแล้วนะคะ คุณทำเหมือนแคทไม่มีค่าไม่มีความหมายเลยทั้งๆ ที่เราเคย...”“อาทิตย์ช่วยพาธัญญาลักษณ์ไปท่ารถที่ใกล้ที่สุดแถวๆ นี้ที หรือไม่ก็หารถรับจ้างไปส่งเธอที่กรุงเทพฯ ก็ได้” นาวีตวัดสายตามองอย่างเย็นชาจนธัญญาลักษณ์หน้าม้านไปในใจเดือดดาลยิ่งนัก“โอเคค่ะ แคทจะไปรอคุณที่รถ และจะไม่รบกวนคุณอีก ขอโทษนะคะ”กล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิวพยายามเก็บอารมณ์อย่างแนบเนียนแล้วเดินกลับไป
ตอนที่25.“ฉันว่านายควรบอกน้องบูมว่านายรู้สึกอย่างไรกับเธอมากกว่าจะมาเอ่ยปากขอโทษฉันนะ” กล้าถอนใจแล้วบอกเพื่อนรักไปตามที่คิดว่ามันควรจะเป็น“ฉันไม่แน่ใจ”“ห๊า นี่ขนาดนายไม่แน่ใจนะว่ารู้สึกยังไงกับน้องบูมนายยังหึงซะขนาดนั้น นี่ถ้านายรักน้องบูมไม่เก็บเขาไว้ในกล่องหรือขังไว้แต่ในบ้านรึไงวะ” กล้าอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ หากไม่เห็นหน้าเคร่งเครียดของนาวี“ก็ฉัน...”“แกมันปากแข็ง หากแกไม่รักเขาจะเฝ้าหึงหวงทำไม จะคอยกันท่าผู้ชายทุกคนที่เข้ามาหาน้องบูมทำไม นี่หากนายไม่หวงก้างนะป่านนี้น้องบูมอาจจะได้แต่งงานกับไอ้บอมเป็นคุณนายนายแพทย์ใหญ่สบายไปแล้ว หรือไม่ก็ได้เป็นคุณนายภริยาท่านนายพลอย่างไอ้ศรัญไปแล้ว ฉันล่ะเสียดายโอกาสดีๆ ของน้องบูมจริงๆ”กล้าเอ่ยถึงความหลังเมื่อครั้งที่เรียนมหาวิทยาลัยที่เพื่อนๆ ของเขาที่กล่าวมานั้นล้วนแล้วแต่เข้ามาแจกขนมจีบบุษกรแต่ถูกนาวีกันท่าด้วยการอ้างสิทธิ์ความเป็นพี่ชายและเป็นว่าที่คู่หมั้นของบุษกรไว้เสียก่อนโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า