Share

ตอนที่4.

ตอนที่4.

แล้วมื้ออาหารเย็นที่แสนจะยาวนานและอึดอัดมากที่สุดกว่าทุกๆ ครั้งอย่างที่เธอรู้สึกได้ก็สิ้นสุดลง คุณป้าเคียร่าชวนเธอเข้าไปรับประทานของหวานที่ห้องนั่งเล่น เพื่อจะได้อ่านหนังสือและดูทีวีกันสองป้าหลานอีกทั้งยังไม่ชอบใจที่นาวีเอาแต่ทำหน้าตาดุใส่หลานสาวที่รัก นางจึงพาบุษกรหลบคนพาลมาเสีย

“หนูบูมเหลืออีกเทอมเดียวก็จะเรียนจบแล้วใช่มั้ยจ๊ะ”

“ค่ะคุณป้า”

“แล้วคิดไว้รึยังว่าจะไปฝึกงานที่ไหน”

“ก็ว่าจะไปฝึกงานกับเพื่อนๆ ที่ต่างจังหวัด ญาติของเพื่อนบูมเขามีโรงแรมแล้วก็รีสอร์ตและบริษัทขนส่งอยู่โคราช บูมว่าจะไปฝึกงานที่นั่นค่ะ”

บุษกรตอบยิ้มๆ ขณะบีบนวดแข้งขาให้ผู้สูงวัยอย่างเอาใจรักใคร่ซึ่งตอนเด็กๆ เธอมักทำเช่นนี้ให้กับคุณป้าเคียร่าเสมอๆ แม้ตอนนี้เธอก็ยังอยากจะทำเช่นนั้นและคุณป้าเองก็ชอบด้วย

“จะลำบากไปไหนไกลๆ ทำไมล่ะจ๊ะ ป้าเป็นห่วง ฝึกงานกับพี่วีเขาไม่ดีกว่าเหรอลูก”

“เอ่อ.. คือว่าบูม...”

“ไม่ต้องกลัวว่าพี่เขาจะว่าหรือดุหรอกลูก ป้าได้ยินคุณลุงบ่นๆ ว่าเลขาของคุณลุงเพิ่งลาออก ตอนนี้ก็มีตำแหน่งว่างอยู่ตั้งหลายตำแหน่งในบริษัทเรา อีกอย่างคุณลุงเองก็งานเยอะ หากหนูบูมไปช่วยแบ่งเบาก็ดีนะลูก อีกหน่อยคุณลุงก็ต้องวางมือแล้ว ป้าก็ได้แต่หวังว่าหนูบูมกับพี่วีจะช่วยกันสานงานต่อจากคุณลุง”

ป้าเคียร่าพูดเรียบๆ แต่สีหน้าค่อนข้างยุ่งยากใจ อาจจะเป็นเพราะนางเห็นว่าช่วงนี้คุณบดินทร์นั้นดูเครียดๆ เพราะงานเยอะเนื่องจากมีอะไรหลายๆ อย่างที่จะต้องทำก่อนจะวางมือ และให้นาวีรับช่วงต่อไปทั้งหมด เนื่องจากท่านเองก็อายุมากแล้วตอนนี้ท่านก็เพียงแต่เข้าไปดูแลความเรียบร้อย และคอยแนะนำสอนงานการบริการทุกอย่างให้กับบุตรชาย เพราะถึงแม้นาวีจะเป็นนักบริหารหนุ่มไฟแรงและมีประสบการณ์พอสมควร แต่คุณบดินทร์ก็ต้องการให้นาวีนั้นเป็นนักบริหารที่สมบูรณ์แบบและแข็งแกร่งในเชิงธุรกิจรอบด้าน อีกทั้งช่วงนี้มีพนักงานหลายตำแหน่งกำลังขาดคนทำงานเพราะการขยายสาขางานออกไปในพื้นต่างจังหวัดและประเทศในแถบอาเซียน

“ขอบูมคิดดูก่อนนะคะ เพราะรับปากเพื่อนไปแล้วค่ะ”

สาวน้อยบอกเสียงแผ่ว ความจริงแล้วบุษกรไม่ได้รับปากอะไรกับพี่ชายของเพื่อนแต่เพราะเธอไม่อยากอยู่ใกล้ยักษ์ใหญ่ใจร้ายต่างหาก แม้จะอยู่ในฐานะเลขาของคุณบดินทร์ก็ตามที

“เอาเถอะ นี่ก็มืดแล้วหนูบูมกลับเรือนได้แล้วล่ะ พี่ส้มล่ะเก็บของเสร็จหรือยัง”

“ใกล้แล้วค่ะถ้าอย่างนั้นบูมขอตัวนะคะคุณป้า”

“จ้า.. ไปเถอะ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ป้าว่าหนูบูมน่าขึ้นมาอยู่บนเรือนกับป้าได้แล้วนะจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา ลำบากเปล่าๆ คนแก่ก็เหงาอยากมีเพื่อน” คุณป้าเคียร่าพูดยิ้มๆ ลูบเรือนผมสลวยอย่างเอ็นดู

“เอาไว้เมื่อไหร่ที่พี่วีออกเรือนไป บูมจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณป้าค่ะจะได้ไม่ต้องเจอยักษ์ใหญ่หน้าบึ้งๆ ไงคะ”

ยื่นหน้ามาพูดเบาๆ ในประโยคสุดท้ายทั้งยังหันไปมองซ้ายมองขวากลัวว่ายักษ์ที่พูดถึงจะมาปรากฏตัวตรงนี้

“โธ่.. หนูบูมก็ไปว่าพี่วีเขาแบบนั้น ฮ่าๆ”

คุณป้าเคียร่าหัวเราะร่วนกับฉายาที่บุษกรตั้งให้ลูกชายของตน นางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม นาวีถึงได้ตั้งแง่กับบุษกรนักเห็นหน้ากันทีไรพ่อลูกชายของนางก็หน้าบึ้งหน้ายักษ์ใส่แม่สาวน้อยหน้าใสผู้น่าสงสารนี้เสียทุกครั้งไป

“ก็น้องบูมกลัวยักษ์ใหญ่นี่คะคุณป้า... บูมไปนะคะราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

บุษกรยิ้มกว้างแล้วจูบแก้มเหี่ยวย่นตามวัยของป้าเคียร่าเบาๆ เช่นทุกวัน ก่อนค่อยๆ ลุกเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น

คุณเคียร่ามองตามร่างบางไปอย่างรักใคร่และแอบคาดหวังว่าจะได้สาวน้อยคนนี้มาเป็นสะใภ้ แต่ก็คงยากเมื่อลูกชายของนางนั้นดูจะไม่นิยมชมชอบบุษกรนัก นางถอนหายใจแล้วเปิดหนังสืออ่านรอสามี นางกับสามีจะมาใช้เวลาร่วมกันในห้องนี้ อ่านหนังสือฟังเพลงด้วยกันก่อนขึ้นนอน ในบางวันก็อาจจะเต้นรำกันสักครึ่งชั่วโมง และบางครั้งบุษกรก็ได้เป็นคู่ซ้อมเต้นรำกับคุณลุงบดินทร์บ่อยๆ และเธอก็เป็นนักเต้นรำที่เก่งหาตัวจับยากเลยทีเดียว เพราะคุณบดินทร์เคยเป็นถึงแชมป์เต้นรำของมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย          

บุษกรเดินมานั่งที่ชิงช้าตัวสวยที่ซุ้มดอกบานบุรีและพวงพูที่แข่งกันออกดอกเป็นพุ่มเป็นพวงสีเหลืองกับชมพูตัดกันงดงามลงตัวแม้จะเป็นเวลาค่ำแล้วแต่สีสันของดอกไม้ทั้งสองก็ยังไม่ลดความงดงามลง กลิ่นดอกราตรีหอมรวยรื่นคละเคล้ากับดอกแก้วริมรั้วทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย เท้าเล็กยันพื้นและโล้ให้ชิงช้าแกว่งไกวเบาๆ อย่างรื่นรมย์ขณะรอพี่ส้มที่กำลังช่วยสาวใช้อีกคนเก็บครัว และตรวจสอบความเรียบร้อยบนเรือนใหญ่

ร่างสูงใหญ่ที่เดินออกมารับลมเย็นๆ ช่วงหัวค่ำหยุดชะงักเมื่อเห็นว่ามีใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ชิงช้าซุ้มบานบุรี ดูท่าทางเจ้าหล่อนจะมีความสุขอยู่ไม่น้อยเพราะเขาได้ยินเสียงฮัมเพลงเบาๆ ลอยมาตามสายลมแผ่วๆ นาวีเองก็กำลังจะเดินไปที่นั่นเพราะเป็นที่ที่เขาโปรดปรานเช่นกัน หลังจากที่เคร่งเครียดกับงานมาทั้งวัน ทั้งงานที่บริษัทและที่มหาวิทยาลัยที่เขาเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ คืนนี้เขาก็คิดว่าเมื่อมารับลมตรงนี้แล้วจะกลับไปเคลียร์งานจากมหาวิทยาลัยให้เรียบร้อยก่อนเพราะเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายที่เขาจะเป็นอาจารย์พิเศษ และนับจากนี้เขาก็จะไม่รับเป็นอาจารย์พิเศษให้กับมหาวิทยาลัยแห่งไหนอีกแล้ว

“ทำไมยังไม่กลับไปที่เรือนเล็ก...”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status