Home / LGBTQ+ / ซ่อนกลิ่นรัก / มั่นคงดั่งทานตะวัน

Share

มั่นคงดั่งทานตะวัน

Author: การัณย
last update Last Updated: 2024-11-29 17:01:23

          ๓

          มั่นคงดั่งทานตะวัน

          “ พี่กลิ่นจ๊ะ คุณพี่ไปไหนแล้วหรือจ๊ะ ”

          คุณหนูรำพึงบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าคุณวรจิตร เติบโตมาเป็นสาวรุ่นอายุอานามก็เข้าปีที่สิบแล้ว หน้าตาก็สะสวยละม้ายคล้ายคลึงมารดาที่รำพึงเองก็จำหน้ามิได้

          “ คุณรักษ์อยู่ที่ท้ายสวนขอรับคุณหนู ”

          เจ้ากลิ่นละมือจากการคัดดอกมะลิ มองไปยังหญิงสาวด้วยสายตาเอ็นดู

          “ คุณพี่คงดูชนไก่อีกสินะ แล้วนี่พี่กลิ่นไม่ไปดูบ้างหรือจ๊ะ เห็นมาช่วยรำพึงคัดแต่ดอกมะลิจะเบื่อเอานะ ”

          “ บ่าวไม่เบื่อหรอกขอรับคุณหนู บ่าวอยู่กงนี้ดีแล้วขอรับไปอยู่กับคุณรักษ์ตอนนี้บ่าวสงสารไก่ขอรับ ”

          “ พี่กลิ่นนี่ก็ช่างแปลกคน บ่าวผู้ชายคนอื่นก็ขลุกกันอยู่ที่ท้ายสวนกันทั้งนั้น มีก็แต่พี่กลิ่นนี่แหละหนาที่มาขลุกอยู่แต่กับรำพึง ระวังเถิดประเดี๋ยวคุณพี่เรียกหาไม่เจอจะโดนดุเอาเสียอีก ”

          “ คุณรักษ์ไม่ว่าบ่าวหรอกขอรับ เพราะคุณรักษ์เป็นคนไล่บ่าวให้กลับมาช่วยงานคุณหนูเองขอรับ ”

          “ คุณพี่น่ะหรือเป็นคนบอกให้พี่กลิ่นมาช่วยงานรำพึงที่เรือนนี้ ”

          “ ขอรับ คุณรักษ์เป็นคนพูดเองเลยขอรับ ” เจ้ากลิ่นพูดบอกคุณรำพึงก่อนจะอมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงตอนที่ถูกพ่อรักษ์ไล่ให้ออกมาช่วยงานแทนที่จะอยู่กับตน

          ท้ายสวนก่อนหน้านี้

          “ เฮ้...เอาเลยสิวะไอ้เหลืองลูกพ่อ ”

          เสียงโห่ร้องดังลั่นอยู่ท้ายสวน บ่าวผู้ชายหลายคนยืนล้อมคอกไม้ไผ่สานเป็นวงกลม ด้านในมีไก่ชนพันธุ์ดีสองตัวกำลังเข้าสู้กันตามสัญชาตญาณ

          คุณรักษ์นั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ที่บ่าวในบ้านเป็นคนทำไว้ นุ่งโจงนั่งชันเข่าท่อนบนเปลือยเปล่าอวดมัดกล้ามพร้อมผิวกร้านที่ดูสมกับวัยที่ครบสิบเก้าปี สายตามองไปยังไก่ชนที่กำลังไล่ตีไล่จิกกันอยู่ในคอก

          “ เอาสิวะ อย่าไปยอมมัน ”

          เสียงทุ้มห้าวดวงตามุ่งมาด ผนวกกับใบหน้าคร้ามที่สันกรามเด่นชัด จมูกเป็นสันโด่งรั้นเข้ากับริมฝีปากหนา ส่งผลให้เจ้าตัวดูมีราศีเป็นที่ต้องตาต้องใจหญิงสาวที่เข้ามาทอดสะพานให้แทบไม่ว่างเว้น ไม่เว้นแม้แต่บ่าวสาวๆ ในเรือน

          “ พ่อกลิ่นส่งน้ำมาให้ข้าที ”

          คุณรักษ์สั่งบ่าวคนสนิทด้วยคำเรียกที่ถ้าเป็นคนอื่นคงแปลกใจเพราะมันไม่ใช่ถ้อยคำที่จะใช้เรียกบ่าวไพร่ แต่กับคนในบ้านหลังนี้ไม่ได้แปลกใจเลยสักน้อย เพราะต่างก็รู้ว่าเจ้ากลิ่นกับพ่อรักษ์โตมาพร้อมกันจนแทบจะเป็นพี่น้องกันได้เสียด้วยซ้ำ

          “ น้ำลอยดอกมะลิขอรับคุณรักษ์ ”

          เจ้ากลิ่นยื่นขันน้ำให้นาย อาจเพราะเจ้ากลิ่นมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก จากที่พ่อรักษ์สนใจแต่กับไก่ชนของตน ก็ต้องหันมามองหน้าบ่าวข้างกายแทน

          “ เป็นกระไรหรือพ่อกลิ่น ”

          น้ำเสียงอ่อนโยนส่งตรงไปให้คนข้างกาย

          “ บ่าวไม่ได้เป็นกระไรขอรับ ”

          “ จะไม่เป็นกระไรได้อย่างไร คิ้วพ่อขมวดเป็นปมเสียขนาดนี้ หรือพ่อกลิ่นไม่ชอบตีไก่ ”

          “ ขะ...ขอรับ บ่าวแค่สงสารไก่มันน่ะขอรับ คนเราจับมันมาตีกันเยี่ยงนี้กันเพื่อกระไรหรือขอรับคุณรักษ์ ”

          “ ก็เพื่อความสนุกของคนกระมัง ดูสิบ่าวไพร่ในเรือนก็ดูมีความสุขดีมิใช่รึ ”

          “ ให้คนมีความสุข แล้วความสุขของไก่เล่าขอรับ คนเรายังไม่ชอบความเจ็บปวด แล้วไก่มันจะชอบความเจ็บปวดหรือขอรับ ”

          พ่อรักษ์ได้แต่นิ่งเงียบแล้วคิดตามคำพูดของบ่าวข้างกาย เอื้อมมือหนาไปวางบนหัวแล้วใช้หัวแม่มือลูบหัวเบา ๆ

          “ หากพ่อกลิ่นไม่ชอบใจ ข้าก็ไม่ได้ฝืนใจพ่อให้อยู่ดูหรอก แต่หากจะให้ข้าห้ามไม่ให้บ่าวในเรือนตีไก่ ซึ่งมันเป็นความสุขเล็กน้อยของพวกมัน ข้าว่าก็ไม่ควร ”

          “ บ่าวเข้าใจขอรับ... ”

          “ เช่นนั้นพ่อกลิ่นก็ขึ้นไปช่วยงานบนเรือนเถิด เห็นว่าน้องข้าอยากได้คนไปช่วยคัดดอกมะลิอยู่พอดี ”

          “ หากให้บ่าวไปแล้วใครจะช่วยงานล่ะขอรับ ”

          “ ไปเถิด ข้ายังไม่อยากได้กระไรตอนนี้ดอก ”

          “ เช่นนั้นบ่าวไปช่วยคุณหนูบนเรือนนะขอรับ ”

          “ ไปเถิดพ่อกลิ่น... ”

          “ พี่กลิ่น ๆ ” เสียงเรียกของคุณรำพึงทำให้เจ้ากลิ่นหลุดออกจากภวังค์

          “ ขอรับคุณหนู ”

          “ อยู่ดี ๆ ก็นั่งยิ้มอยู่อย่างนั้น คิดกระไรอยู่หรือจ๊ะพี่กลิ่น ”

          “ บ่าวก็คิดไปเรื่อยขอรับ ”

          เจ้ากลิ่นบอกกับคุณรำพึง แล้วก็นั่งคัดดอกมะลิให้รำพึงต่อ

          “ นายเอ็งไปไหนเสียล่ะไอ้กลิ่น ”

          เสียงท่านเจ้าคุณดังมาจากบันไดหัวเรือน ริ้วรอยบนใบหน้ายิ่งสร้างความน่าเกรงขามให้มีมากขึ้นไปอีกโข ไอ้มาดบ่าวข้างกายเองก็ดูแก่ตัวลงไปมากทีเดียว มันถือดาบตามนายของมันมาต้อย ๆ

          “ เจ้าคุณพ่อ ”

          รำพึงเข้าไปหาท่านเจ้าคุณ ก่อนจะตักน้ำให้ผู้เป็นบิดากินให้หายเหนื่อย

          “ ว่าอย่างไรไอ้กลิ่น นายเอ็งออกไปก่อเรื่องที่ไหนอีก ”

          “ คุณรักษ์อยู่เล้าไก่ที่ท้ายสวนขอรับ ”

          “ กูเพิ่งจะมาจากท้ายสวนกูไม่ยักเห็นนายมึง แล้วนี่มึงขึ้นมาทำกระไรบนเรือนใหญ่ ”

          ท่านเจ้าคุณมองไปที่เจ้ากลิ่นตาเขม็ง ก่อนหน้านี้ใช่ว่าเจ้ากลิ่นไม่เคยขึ้นมาช่วยงานบนเรือนใหญ่ แต่เป็นเพราะตอนนั้นมันกับรำพึงยังเป็นเด็กนัก แต่ตอนนี้เจ้ากลิ่นเริ่มเข้าสู่วัยกำหนัดแล้วท่านเจ้าคุณจึงไม่ใคร่ชอบใจนัก

          “ คุณพี่ให้พี่กลิ่นมาช่วยลูกคัดดอกมะลิเจ้าค่ะ ”

          “ บ่าวไพร่มีตั้งมากตั้งมายที่จะเรียกใช้ได้ ไอ้กลิ่นมันก็ผู้ชายคัดดอกมะลิมันหน้าที่ผู้หญิงมันไม่สมควร อีกอย่างพี่ชายเจ้าน่ะหรือจะให้บ่าวของมันมาช่วยเจ้า พ่ออยากจะขำให้ฟันร่วงเสียให้หมดปาก ”

          ท่านเจ้าคุณแค่นหัวเราะออกมาอย่างขบขัน

          “ คุณรักษ์สั่งให้บ่าวมาช่วยคุณหนูจริง ๆ นะขอรับท่านเจ้าคุณ ”

          เจ้ากลิ่นรีบยืนยันกับท่านเจ้าคุณ เพราะต้องการให้ท่านเจ้าคุณเห็นความดีความชอบของบุตรชายบ้าง

          “ เอ็งมันรักนายเอ็งไอ้กลิ่น ก็ต้องเข้าข้างนายเอ็ง แต่ไหนแต่ไรนายเอ็งเห็นหน้าน้องสาวตัวเองก็ไม่แม้แต่จะชายตามอง เหน็บแนมน้องนุ่งยิ่งเสียกว่าผู้หญิงเสียอีก ”

          “ แต่คุณรักษ์สั่งบ่าวจริง ๆ นะขอรับ ”

          “ ไป ๆ เอ็งจะไปไหนก็ไป ข้าเห็นหน้าเอ็งแล้วก็พาลจะหงุดหงิด ”

          เจ้ากลิ่นได้แต่ถดถอยตัวออกมาจากเรือนใหญ่ ก่อนที่จะวิ่งไปดูนายของมันที่เล้าไก่ท้ายสวน

          “ พี่จอมๆ เห็นคุณรักษ์บ้างไหมจ๊ะ ”

          เจ้ากลิ่นเอ่ยถามจอมบ่าวหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่เพิ่งเข้ามาเป็นบ่าวที่เรือนนี้ได้ไม่นาน จอมเป็นลูกชายของน้าผาดที่เป็นเพื่อนของแม่เจ้ากลิ่น พอแม่จอมตายก็เลยให้บุตรชายมาพึ่งใบบุญของท่านเจ้าคุณ เพราะแม่เจ้ากลิ่นมักจะมาเล่าถึงความเมตตาของนายเรือนนี้ให้แม่ของจอมฟัง

          “ ข้าเห็นคุณรักษ์เดินดุ่ม ๆ ออกไปตอนท่านเจ้าคุณมาน่ะ แต่ก็ไม่รู้ดอกว่าคุณรักษ์ไปที่ใด ”

          “ หรือว่าคุณรักษ์จะไปตลาดวังหว้า ”

          “ แล้วนั่นเอ็งจะไปไหนกลิ่น นี่ก็ใกล้จะมืดแล้วหนา ”

          “ ข้าจะไปตามคุณรักษ์จ้ะพี่จอม บอกแม่ข้าให้ทีนะจ๊ะพี่ ” เจ้ากลิ่นรีบวิ่งออกไปยังท่าน้ำเพื่อพายเรือไปที่ตลาดวังหว้า

          ตลาดวังหว้า เป็นตลาดที่อยู่ตีนเขาห่างไกลจากหมู่บ้านออกมาสมควร ตลาดนี้เป็นที่รู้กันว่าเป็นแหล่งโสมมที่สุด เพราะมีทั้งโรงบ่อน โรงมวย โรงชำเรา ไหนจะร้านเหล้าดองยาดองที่ตั้งกันให้เต็มพื้นที่ ทำให้ตลาดแห่งนี้คือที่ที่รวมเหล่ากระทาชายหลากหลายวัย รวมไปถึงนักเลงเจ้าถิ่นที่เดินกันขวักไขว่ไม่เกรงกลัวผู้ใด

          เจ้ากลิ่นพายเรือมาเทียบที่ท่าน้ำตลาดวังหว้า ผูกเรือเสร็จสรรพก็รีบกุลีกุจอวิ่งตามหานายของตน แต่จนแล้วจนรอดก็ตามหาไม่เจอ ทุกที่ที่นายมันเคยไปก็ตามไปดูจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นแม้กระทั่งเงา ถามผู้ใดก็ไม่มีใครพบเห็นเลยสักคน

          “ หรือคุณรักษ์จะไปที่โรงชำเรา...แต่คุณรักษ์ไม่เคยไปเสียหน่อย ”

          สถานที่สุดท้ายที่เจ้ากลิ่นยังไม่ได้ไปคือโรงชำเรา ถึงแม้ในใจจะไม่คิดว่านายของตนจะไปแต่ขาก็ก้าวเดินเข้าไปในซอยที่เจ้ากลิ่นไม่ชอบเลยแม้แต่น้อย

          เจ้ากลิ่นเดินเข้ามาในซอยที่มีแสงสีแดงสลัว ตลอดทางที่เดินมีหญิงสาวยืนอยู่หน้าเรือนไม้ที่ดูจะมืดสลัวไปเสียหมด บางคนก็เปลือยท่อนบนจนเห็นปทุมถัน บางคนก็มีเพียงผ้าแพรบาง ๆ ปิดไว้เท่านั้น เจ้ากลิ่นได้แต่ยืนชะโงกหน้ามองอยู่ด้านหน้า ไม่กล้าเข้าไปด้านใน

          “ เฮ้ย เอ็งมายืนทำกระไรกงนี้ ”

          เจ้ากลิ่นสะดุ้งตัวโยน หันไปมองกระทาชายร่างกำยำสามสี่คนที่มองมาด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร

          “ ข้ามาตามหานายของข้าน่ะจ้ะพี่ พวกพี่เห็นนายข้าบ้างหรือไม่จ๊ะ ”

          “ แล้วนายเอ็งเป็นใครล่ะวะ ”

          “ คุณรักษ์น่ะจ้ะพี่ ลูกชายของท่านเจ้าคุณวรจิตรน่ะ เห็นบ้างไหมจ๊ะ ”

          “ อ๋อ นายเอ็งชื่อคุณรักษ์งั้นรึ เห็นสิข้าเห็นนายเอ็งไปทางโน้นน่ะ เดี๋ยวข้าพาเอ็งไปหานายเอ็งเอง ตามข้ามาสิ ”

          แววตาที่ตอนแรกว่าน่ากลัวแล้ว แต่ตอนนี้กลับดูเยือกเย็นกว่าเก่า แต่ดวงตาแข็งกร้าวก็ไม่ทำให้เจ้ากลิ่นเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย

          “ พี่จ๊ะพี่ คุณรักษ์มาที่นี่จริงหรือจ๊ะ ฉันไม่เห็นมีใครผ่านมาแถวนี้เลยจ้ะ ” เจ้ากลิ่นทักในขณะที่เดินตามเข้ามาในตรอกมืด ๆ ไม่มีผู้ใดเดินสวนไปมาเลยสักคน

          พลั่ก

          เจ้ากลิ่นล้มลงเพราะแรงเตะที่ขาพับด้านหลัง ก่อนที่มันจะโดนคนที่มันเดินตามมารุมเตะมันบนพื้นดินที่เต็มไปด้วยกรวดแข็ง ๆ

          พลั่ก ๆ ๆ

          “ อั่ก โอ้ยยย ”

          “ นายมึงมันระยำแย่งอีจำเรียนของกูไป กูทำกระไรนายมึงไม่ได้เพราะนายมึงเป็นลูกคนมียศมีตำแหน่ง เช่นนั้นมึงก็ต้องรับกรรมแทนนายมึงเสียก็แล้วกัน ”

          “ โอ้ย อั่ก อุกกก อย่าทำ โอ้ยย กระไรคุณรักษ์ ”

          “ กูไม่ทำกระไรนายมึงดอก แต่มึงต้องมาเป็นที่ระบายอารมณ์ให้กู ”

          พลั่ก ผัวะ ๆ

          “ เฮ้ย พี่เชิดพอได้แล้วพี่ เดี๋ยวมันก็ตายห่ากันพอดี เรื่องใหญ่เลยนะพี่ ”

          เสียงห้ามทำให้ ไอ้เชิด นักเลงที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักดี เพราะมันเป็นคนคุมตลาดวังหว้าแห่งนี้นั้นหยุดเตะเจ้ากลิ่น ร่างบางสะบักสะบอม เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลจากกรวด และรอยช้ำจากการถูกทำร้าย

          “ ฝากไปบอกนายมึงด้วยว่ากูชื่อไอ้เชิด ใครที่มันมายุ่งกับของ ๆ กู ของ ๆ มันก็ต้องย่อยยับเหมือนกัน ถุย!! ”

          “ ... ”

          เจ้ากลิ่นได้แต่นอนหายใจรวยริน มันไม่รู้ว่าเป็นเพราะที่ตรงนี้มันมืด หรือเพราะตาของมันฝ้าฟางกันแน่จึงทำให้มันมองกระไรพร่าเลือนไปเสียหมด

          ไอ้เชิดกับลูกน้องทิ้งร่างเจ้ากลิ่นที่แทบจะไร้วิญญาณไว้ เจ้ากลิ่นได้แต่ยื่นมือไปหวังจะคว้าตัวของไอ้เชิดไว้

          “ อย่า...ทำกระไร...คุณรักษ์... ”

          “ กลิ่น กลิ่น ใครทำกระไรเอ็ง ”

          ก่อนสติจะดับหายเงาสลัว ๆ ที่ดูคุ้นเคยก็เข้ามาช่วยร่างที่นอนอยู่บนพื้น ร่างสูงอุ้มเจ้ากลิ่นไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะรีบวิ่งไปท่าน้ำเพื่อพาเจ้ากลิ่นกลับเรือน

Related chapters

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เข้มแข็งดุจผกากรอง

    ๔ เข้มแข็งดุจผกากรอง สองร่างกายเปลือยเปล่าบนตั่งนอนที่มีเบาะยัดนุ่นหุ้มด้วยผ้าพื้นสีแดง มือใหญ่ของพ่อรักษ์กอบกุมปทุมถันของนางกลางเมืองอย่าง “จำเรียน” ร่างอรชรค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนย่ำรุ่ง หลังผ่านค่ำคืนสวาทกับบุตรชายของท่านเจ้าคุณมีชื่อ ที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่ในวัยกลัดมันหรืออย่างไร จำเรียนจึงต้องปรนเปรอชายหนุ่มผู้นี้จนร่างกายบอบช้ำไปแทบทั้งตัว กว่าจะได้หลับตาพักก็ตอนที่แสงโคมสีแดงที่อยู่ในเรือนไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเรือนแห่งนี้ได้เวลาหลับไหล “ อือ.... ” เสียงครางในลำคอ พร้อมกระชับวงแขนแกร่งให้แน่นขึ้นจนจำเรียนต้องพยายามดันแขนไว้ “ คุณรักษ์เจ้าคะ ขอจำเรียนไปล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ” “ ล้างทำไมให้เปลืองเวลาไปเล่า อีกประเดี๋ยวข้าก็ทำให้เอ็งเหนียวตัวอีกรอบแล้ว เอ็งดูสิตัวของข้ามันต้องการเอ็งอีกรอบแล้วเห็นหรือไม่จำเรียน ” พ่อรักษ์ส่งสายตาหวานเยิ้มไปยังส่วนที่กำลังขยายใหญ่ตรงกลางลำตัว จำเรียนจ้องมองไปยังส่วนนั้น ก่อนที่ร่างบางจะโดนร่างแกร่งจับพลิกตัวลงกับเบาะนอน พร้อม ๆ กับบทเพลงบรร

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   สบดวงเนตร

    ๕ สบดวงเนตร สามสี่วันมานี้พ่อรักษ์อยู่ติดเรือนอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดเห็นมาก่อน นั่นก็เป็นเพราะต้องคอยเทียวไปเทียวมาระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนบ่าวเพื่อคอยดูไม่ให้เจ้ากลิ่นลุกขึ้นมาทำงานตอนที่ร่างกายยังไม่หายดี ในขณะที่เจ้าคุณวรจิตรเองช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้กลับเรือน หรือหากกลับก็กลับมาเพียงเปลี่ยนผ้าผ่อนเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าเพลานี้ท่านเจ้าคุณวรจิตรต้องคอยวางแผนให้ทางท่านเจ้าเมืองกำราบเมืองประเทศราชที่มีข่าวแว่วมาว่ากำลังคิดกระด้างกระเดื่อง “ จะไปดูพี่กลิ่นที่เรือนหรือเจ้าคะคุณพี่ ” แม่รำพึงเอ่ยถามพี่ชายที่กำลังลงจากเรือน พ่อรักษ์หันมามองน้องสาวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ รำพึงชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่ชายมองมาด้วยความไม่พอใจ “ ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง... ” พ่อรักษ์เอ่ยกับน้องอย่างไม่ไยดี แม่รำพึงดวงตาร้อนผ่าวเพราะความน้อยใจที่ตั้งแต่โตมาพี่ชายไม่เคยพูดจาดี ๆ ด้วยเลยสักครั้ง “ น้องแค่เห็นว่าหากคุณพี่ไปหาพี่กลิ่น น้องจะฝากข้าวต้มมัดที่น้องทำไปให้พี่กลิ่น แต่หากคุณพี่ไม่สะดวกน้องจะเอาไปให้พี่กลิ่นคราหลังก็ได้ค่ะ ”

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   อวลกลิ่นพุดตาน

    ๖ อวลกลิ่นพุดตาน “ แม่พุดตานนอนห้องนี้เถิด ประเดี๋ยวข้าจะให้บ่าวมันช่วยขนข้าวของมาไว้ให้เสียบนเรือน ” “ เจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ” “ ต่อจากนี้ข้าก็ขอฝากเรือนนี้ไว้ให้แม่พุดตานดูแลแทนข้าทีนะ ส่วนเรื่องเมื่อครู่ก็อย่าได้ถือสามันเลยอยู่ให้สบายใจเถิด ” “ เจ้าค่ะ... ” “ พักผ่อนเสียเถิดวันนี้ข้าต้องเข้าวัง มีกระไรก็เรียกบ่าวในเรือน หรือแม่รำพึงให้มาพูดคุยเป็นเพื่อนเสียก็ได้ ” “ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ” ท่านเจ้าคุณวรจิตรมองดูหญิงสาวที่ยืนหน้าเรียบเฉยอยู่ แววตาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกภายในใจของเจ้าหล่อนได้เลย ก่อนที่ท่านเจ้าคุณจะเดินออกไปเรียกไอ้มาดให้ไปเตรียมตัวเข้าวัง แม่พุดตานมองตามหลังผัวหมาด ๆ ของตนเองด้วยแววตาเศร้าสร้อย “ อย่าร้องไห้ไปเลยเจ้าค่ะ เป็นเมียท่านเจ้าคุณวรจิตรอย่างไรเสียก็มีหน้ามีตานะเจ้าคะ ” แม่พุดตานใช้นิ้วเรียวปาดหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ หันกลับมามองบ่าวรับใช้ร่างท้วมที่ยืนมองอยู่ด้านหลังมาพักใหญ่ “ ได้ผัวคราวพ่อนี่น่ะหรือป้าผัน สู้อยู่เป็นสาวเทื้อคาเรือนมิดีกว่าหรือจ๊ะ ”

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   เบญจมาศในหมู่ภมร

    ๗ เบญจมาศในหมู่ภมร “ พี่ชายเจ้าไม่มากินข้าวอีกแล้วหรือแม่รำพึง ” ท่านเจ้าคุณเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบุตรชายไม่อยู่กินข้าวเช้ามาหลายวัน คิ้วหนาแซมขาวขมวดมุ่นจนคนนั่งร่วมสำรับอึดอัด “ รับข้าวเถิดเจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ” แม่พุดตานเอ่ยเสียงเรียบ มือเรียวตักข้าวใส่จานของท่านเจ้าคุณ “ นังจวงไปตามพ่อรักษ์มา ” “ จะ...เจ้าค่ะ ” นังจวงสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงที่ปนไปด้วยความโกรธส่งตรงมาที่ตน มันตอบรับคำสั่งรีบวิ่งไปตามพ่อรักษ์ที่เรือนบ่าว “ เรียกข้ามีกระไรหรือขอรับคุณพ่อ ” พ่อรักษ์ขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใช้หางตาปรายมองหญิงสาวสองคนที่นั่งร่วมสำรับอย่างไม่ชอบใจ “ นั่งลง ” “ คุณพ่อแจ้งมาได้เลยขอรับว่ามีกระไรกับข้า ” “ กูบอกให้มึงนั่งลงไอ้รักษ์ ” “ หากคุณพ่อไม่มีกระไรเพียงแต่อยากเรียกข้ามาให้ร่วมสำรับกับครอบครัวของคุณพ่อ ข้าไม่ต้องการขอรับ ข้ากินข้าวที่เรือนบ่าวกับแม่ปรุงอิ่มแล้วขอรับ ” “ ไอ้ลูกไม่รักดี มึงเห็นบ่าวดีกว่ากูที่เป็นพ่อของมึงเชียวรึไอ้

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   เจ็บกายแต่เต็มใจ

    ๘ เจ็บกายแต่เต็มใจ เปลือกตาดำคล้ำค่อย ๆ เปิดขึ้นมาพร้อมกับความปวดร้าวไปทั่วตัว ดวงตาดำหรี่มองบุคคลข้าง ๆ ที่ดูเลือนรางไปหมด “ คุณรักษ์ขอรับ... ” เสียงเจ้ากลิ่นทำให้พ่อรักษ์แค่นยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเพ่งมองไปยังใบหน้าขาวของบ่าวจนมองเห็นชัดในสายตาของตนเอง “ ดูทำหน้าเข้าซีพ่อกลิ่น ข้ายังไม่ได้ตายเสียหน่อย ” “ คุณรักษ์อย่าพูดเช่นนี้สิขอรับ มันเป็นลางไม่ดีนะขอรับ ” “ แล้วนี่ใครเป็นคนพาข้ากลับมาที่เรือนหรือพ่อกลิ่น ” “ พี่จอมกับลุงมาดขอรับ ” “ แล้วพ่อข้ารู้เรื่องหรือไม่พ่อกลิ่น ” เจ้ากลิ่นพยักหน้าเบา ๆ ด้วยแววตาเป็นห่วง ก่อนที่หัวทุยของมันจะโดนมือกร้านลูบเพื่อให้คลายกังวล “ ไม่ต้องห่วงข้าดอกพ่อกลิ่น...แล้วนี่พ่อกลิ่นมาเฝ้าข้าตั้งแต่เมื่อใดกัน ” “ เมื่อคืนขอรับ พอมีคนมาแจ้งข่าวท่านเจ้าคุณก็สั่งให้บ่าวในเรือนไปพาคุณรักษ์มาที่เรือนขอรับ ท่านเจ้าคุณให้หมอยามาดูคุณรักษ์แล้วก็ให้กินยาให้หมดสามวันขอรับ แล้วนี่คุณรักษ์หิวหรือยังขอรับ ” “ หิวแล้วซีพ่อก

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   เป็นเวรหรือกรรม

    ๙ เป็นเวรหรือกรรม “ เป็นเช่นไรบ้าง เอ็งเจ็บแผลมากหรือไม่ ” ไอ้จอมเอ่ยปากถามเจ้ากลิ่นที่ยังคงนอนคว่ำหน้าเพราะบาดแผลที่โดนโบยยังคงมีเลือดติดอยู่ เจ้ากลิ่นหันหน้ามามองคนที่ตนรักเหมือนพี่ชาย ที่สองวันมานี้เทียวแวะเวียนมาถามไถ่อยู่แทบจะทั้งวี่วัน “ เจ็บอยู่จ้ะพี่จอม แต่ไม่เท่าคราแรก ” “ เอ็งอยากได้กระไรก็บอกพี่นะกลิ่น พี่เอามาให้เอง ” “ ฉันขอบใจพี่มากนะจ๊ะพี่จอม แต่แม่คอยหามาให้ฉันไม่ได้ขาดกระไร อีกอย่างงานพี่จอมก็มากโขอยู่ไม่ต้องห่วงฉันหรอกจ้ะพี่จอม ” " จะไม่ให้ห่วงเอ็งได้ยังไง ดูตัวเอ็งสิเล็กกระจ้อยร่อยเพียงนี้ ลมพัดก็แทบจะปลิวไปตามแรงลมเสียกระมัง ” “ พี่ก็พูดเกินไปพี่จอม ฉันไม่ได้อ่อนแอเยี่ยงนั้นเสียหน่อย ” “ เอาเถิด ๆ นอนพักเสียจะได้หายไว ๆ หายแล้วพี่จะพาเอ็งไปกินขนม ” “ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่จอม ” “ ฮะ ๆ ๆ พี่ไปก่อนนะ นอนเสียเถิด ” ไอ้จอมลูบหัวน้องด้วยความรักใคร่ รอยยิ้มใจดีมอบให้กับเจ้ากลิ่นที่ทำหน้าบึ้งตึงที่โดนมองว่ายังเป็นเด็กน้อยตัวเล็กในสายตาของคนอื่น

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   พี่จะพาเอ็งไปเอง #ฉากใต้ตะเกียง

    ๑๐ พี่จะพาเอ็งไปเอง “ พ่อกลิ่นกลับเรือนไปเสียเถิด เทียวไปเทียวมาเช่นนี้ไม่เหนื่อยเอาดอกรึ “ เสียงทุ้มที่แม้ว่าฟังแล้วคล้ายจะรำคาญ แต่แววตาที่มองมากลับดูเป็นห่วงบ่าวที่นั่งมองตนเอง เจ้ากลิ่นช่วงนี้เทียวไปเทียวมา เพื่อมาพาพ่อรักษ์กลับเรือนตามสั่งของท่านเจ้าคุณ คราแรกพ่อรักษ์ก็จะยอมตามกลับไป แต่เป็นเพราะเจ้ากลิ่นบอกว่าเป็นความต้องการของบิดา ด้วยความเจ้าคิดเจ้าแค้นพ่อรักษ์จึงไม่ยอมกลับเรือนตามที่คิดไว้ “ ไม่เหนื่อยหรอกขอรับ แต่หากคุณรักษ์ยังมิยอมกลับเรือนเยี่ยงนี้ อีกไม่นานบ่าวอาจจะเหนื่อยก็ได้ขอรับ ” “ ดูพูดเข้าซีพ่อกลิ่น...หากพ่อกลิ่นเบื่อหน่ายข้าเสียแล้วเยี่ยงนี้อีกไม่นานข้าก็คงได้เป็นหมาหัวเน่าแน่ ” “ กล่าวเช่นนั้นได้อย่างไรขอรับ บ่าวรับใช้คุณรักษ์มาตั้งแต่จำความได้ บ่าวเคารพรักคุณรักษ์มากกว่าสิ่งใด แล้วเหตุใดบ่าวจะเบื่อหน่ายชีวิตที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ดูแลรับใช้คุณรักษ์ได้เล่าขอรับ ” พ่อรักษ์มองบ่าวด้วยสายตาอ่อนโยน แต่ไหนแต่ไรเจ้ากลิ่นไม่เคยจะปริปากแม้แต่น้อยว่าเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่ต้องคอยมาตามปรนนิบัติตนเอง

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   กลิ่นกรุ่น

    ๑ กลิ่นกรุ่น “ นังจวง ๆ เอ็งรีบไปตามยายกล่ำมาประเดี๋ยวนี้ คุณหญิงท่านใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว ” เสียงโหวกเหวกดังไปทั่วอาณาบริเวณเรือนไม้ใหญ่ บ่าวไพร่วิ่งวุ่นกันไปทั่ว บ้างก็วิ่งเข้าครัวเพื่อตระเตรียมหม้อดินมาต้มน้ำรอยายกล่ำ ผู้ซึ่งเป็นหมอตำแยผู้มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน “ แล้วนี่มีผู้ใดไปแจ้งท่านเจ้าคุณแล้วหรือไม่ ไอ้แจ้ง ข้าให้เอ็งไปบอก แล้วนี่เอ็งไปมาแล้วหรืออย่างไร ” “ ข้าให้คนไปแจ้งแล้วจ้ะพี่ น่าจะอีกสักประเดี๋ยวท่านเจ้าคุณน่าจะถึงจ้ะ ” “ อย่าให้พลาดเชียวนะไอ้แจ้ง ” ไอ้มาด หัวหน้าบ่าวในเรือนกำชับให้แน่ใจ ก่อนจะรีบเดินออกไปดูตรงส่วนอื่นต่อระหว่างที่รอหมอตำแยที่ส่งคนไปตามที่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากเรือนเท่าใดนัก “ พี่มาด ยายกล่ำมาหรือยังพี่ คุณหญิงเจ็บท้องมานานแล้วนะพี่ ” “ กูรู้แล้ว กูก็ร้อนใจไม่ต่างจากมึงหรอก ” “ พี่จะมัวแต่ร้อนใจไม่ได้นะพี่มาด คนเจ็บท้องคือคุณหญิงท่าน รีบให้ใครไปเร่งประเดี๋ยวนี้เลย ” “ เออๆ กูรู้แล้ว มึงรีบเข้าไปดูคุณหญิงท่านซะ ทางนี้กูจัดการเอง ไอ้แจ้

    Last Updated : 2024-11-29

Latest chapter

  • ซ่อนกลิ่นรัก   พี่จะพาเอ็งไปเอง #ฉากใต้ตะเกียง

    ๑๐ พี่จะพาเอ็งไปเอง “ พ่อกลิ่นกลับเรือนไปเสียเถิด เทียวไปเทียวมาเช่นนี้ไม่เหนื่อยเอาดอกรึ “ เสียงทุ้มที่แม้ว่าฟังแล้วคล้ายจะรำคาญ แต่แววตาที่มองมากลับดูเป็นห่วงบ่าวที่นั่งมองตนเอง เจ้ากลิ่นช่วงนี้เทียวไปเทียวมา เพื่อมาพาพ่อรักษ์กลับเรือนตามสั่งของท่านเจ้าคุณ คราแรกพ่อรักษ์ก็จะยอมตามกลับไป แต่เป็นเพราะเจ้ากลิ่นบอกว่าเป็นความต้องการของบิดา ด้วยความเจ้าคิดเจ้าแค้นพ่อรักษ์จึงไม่ยอมกลับเรือนตามที่คิดไว้ “ ไม่เหนื่อยหรอกขอรับ แต่หากคุณรักษ์ยังมิยอมกลับเรือนเยี่ยงนี้ อีกไม่นานบ่าวอาจจะเหนื่อยก็ได้ขอรับ ” “ ดูพูดเข้าซีพ่อกลิ่น...หากพ่อกลิ่นเบื่อหน่ายข้าเสียแล้วเยี่ยงนี้อีกไม่นานข้าก็คงได้เป็นหมาหัวเน่าแน่ ” “ กล่าวเช่นนั้นได้อย่างไรขอรับ บ่าวรับใช้คุณรักษ์มาตั้งแต่จำความได้ บ่าวเคารพรักคุณรักษ์มากกว่าสิ่งใด แล้วเหตุใดบ่าวจะเบื่อหน่ายชีวิตที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ดูแลรับใช้คุณรักษ์ได้เล่าขอรับ ” พ่อรักษ์มองบ่าวด้วยสายตาอ่อนโยน แต่ไหนแต่ไรเจ้ากลิ่นไม่เคยจะปริปากแม้แต่น้อยว่าเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่ต้องคอยมาตามปรนนิบัติตนเอง

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เป็นเวรหรือกรรม

    ๙ เป็นเวรหรือกรรม “ เป็นเช่นไรบ้าง เอ็งเจ็บแผลมากหรือไม่ ” ไอ้จอมเอ่ยปากถามเจ้ากลิ่นที่ยังคงนอนคว่ำหน้าเพราะบาดแผลที่โดนโบยยังคงมีเลือดติดอยู่ เจ้ากลิ่นหันหน้ามามองคนที่ตนรักเหมือนพี่ชาย ที่สองวันมานี้เทียวแวะเวียนมาถามไถ่อยู่แทบจะทั้งวี่วัน “ เจ็บอยู่จ้ะพี่จอม แต่ไม่เท่าคราแรก ” “ เอ็งอยากได้กระไรก็บอกพี่นะกลิ่น พี่เอามาให้เอง ” “ ฉันขอบใจพี่มากนะจ๊ะพี่จอม แต่แม่คอยหามาให้ฉันไม่ได้ขาดกระไร อีกอย่างงานพี่จอมก็มากโขอยู่ไม่ต้องห่วงฉันหรอกจ้ะพี่จอม ” " จะไม่ให้ห่วงเอ็งได้ยังไง ดูตัวเอ็งสิเล็กกระจ้อยร่อยเพียงนี้ ลมพัดก็แทบจะปลิวไปตามแรงลมเสียกระมัง ” “ พี่ก็พูดเกินไปพี่จอม ฉันไม่ได้อ่อนแอเยี่ยงนั้นเสียหน่อย ” “ เอาเถิด ๆ นอนพักเสียจะได้หายไว ๆ หายแล้วพี่จะพาเอ็งไปกินขนม ” “ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่จอม ” “ ฮะ ๆ ๆ พี่ไปก่อนนะ นอนเสียเถิด ” ไอ้จอมลูบหัวน้องด้วยความรักใคร่ รอยยิ้มใจดีมอบให้กับเจ้ากลิ่นที่ทำหน้าบึ้งตึงที่โดนมองว่ายังเป็นเด็กน้อยตัวเล็กในสายตาของคนอื่น

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เจ็บกายแต่เต็มใจ

    ๘ เจ็บกายแต่เต็มใจ เปลือกตาดำคล้ำค่อย ๆ เปิดขึ้นมาพร้อมกับความปวดร้าวไปทั่วตัว ดวงตาดำหรี่มองบุคคลข้าง ๆ ที่ดูเลือนรางไปหมด “ คุณรักษ์ขอรับ... ” เสียงเจ้ากลิ่นทำให้พ่อรักษ์แค่นยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเพ่งมองไปยังใบหน้าขาวของบ่าวจนมองเห็นชัดในสายตาของตนเอง “ ดูทำหน้าเข้าซีพ่อกลิ่น ข้ายังไม่ได้ตายเสียหน่อย ” “ คุณรักษ์อย่าพูดเช่นนี้สิขอรับ มันเป็นลางไม่ดีนะขอรับ ” “ แล้วนี่ใครเป็นคนพาข้ากลับมาที่เรือนหรือพ่อกลิ่น ” “ พี่จอมกับลุงมาดขอรับ ” “ แล้วพ่อข้ารู้เรื่องหรือไม่พ่อกลิ่น ” เจ้ากลิ่นพยักหน้าเบา ๆ ด้วยแววตาเป็นห่วง ก่อนที่หัวทุยของมันจะโดนมือกร้านลูบเพื่อให้คลายกังวล “ ไม่ต้องห่วงข้าดอกพ่อกลิ่น...แล้วนี่พ่อกลิ่นมาเฝ้าข้าตั้งแต่เมื่อใดกัน ” “ เมื่อคืนขอรับ พอมีคนมาแจ้งข่าวท่านเจ้าคุณก็สั่งให้บ่าวในเรือนไปพาคุณรักษ์มาที่เรือนขอรับ ท่านเจ้าคุณให้หมอยามาดูคุณรักษ์แล้วก็ให้กินยาให้หมดสามวันขอรับ แล้วนี่คุณรักษ์หิวหรือยังขอรับ ” “ หิวแล้วซีพ่อก

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เบญจมาศในหมู่ภมร

    ๗ เบญจมาศในหมู่ภมร “ พี่ชายเจ้าไม่มากินข้าวอีกแล้วหรือแม่รำพึง ” ท่านเจ้าคุณเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบุตรชายไม่อยู่กินข้าวเช้ามาหลายวัน คิ้วหนาแซมขาวขมวดมุ่นจนคนนั่งร่วมสำรับอึดอัด “ รับข้าวเถิดเจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ” แม่พุดตานเอ่ยเสียงเรียบ มือเรียวตักข้าวใส่จานของท่านเจ้าคุณ “ นังจวงไปตามพ่อรักษ์มา ” “ จะ...เจ้าค่ะ ” นังจวงสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงที่ปนไปด้วยความโกรธส่งตรงมาที่ตน มันตอบรับคำสั่งรีบวิ่งไปตามพ่อรักษ์ที่เรือนบ่าว “ เรียกข้ามีกระไรหรือขอรับคุณพ่อ ” พ่อรักษ์ขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใช้หางตาปรายมองหญิงสาวสองคนที่นั่งร่วมสำรับอย่างไม่ชอบใจ “ นั่งลง ” “ คุณพ่อแจ้งมาได้เลยขอรับว่ามีกระไรกับข้า ” “ กูบอกให้มึงนั่งลงไอ้รักษ์ ” “ หากคุณพ่อไม่มีกระไรเพียงแต่อยากเรียกข้ามาให้ร่วมสำรับกับครอบครัวของคุณพ่อ ข้าไม่ต้องการขอรับ ข้ากินข้าวที่เรือนบ่าวกับแม่ปรุงอิ่มแล้วขอรับ ” “ ไอ้ลูกไม่รักดี มึงเห็นบ่าวดีกว่ากูที่เป็นพ่อของมึงเชียวรึไอ้

  • ซ่อนกลิ่นรัก   อวลกลิ่นพุดตาน

    ๖ อวลกลิ่นพุดตาน “ แม่พุดตานนอนห้องนี้เถิด ประเดี๋ยวข้าจะให้บ่าวมันช่วยขนข้าวของมาไว้ให้เสียบนเรือน ” “ เจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ” “ ต่อจากนี้ข้าก็ขอฝากเรือนนี้ไว้ให้แม่พุดตานดูแลแทนข้าทีนะ ส่วนเรื่องเมื่อครู่ก็อย่าได้ถือสามันเลยอยู่ให้สบายใจเถิด ” “ เจ้าค่ะ... ” “ พักผ่อนเสียเถิดวันนี้ข้าต้องเข้าวัง มีกระไรก็เรียกบ่าวในเรือน หรือแม่รำพึงให้มาพูดคุยเป็นเพื่อนเสียก็ได้ ” “ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ” ท่านเจ้าคุณวรจิตรมองดูหญิงสาวที่ยืนหน้าเรียบเฉยอยู่ แววตาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกภายในใจของเจ้าหล่อนได้เลย ก่อนที่ท่านเจ้าคุณจะเดินออกไปเรียกไอ้มาดให้ไปเตรียมตัวเข้าวัง แม่พุดตานมองตามหลังผัวหมาด ๆ ของตนเองด้วยแววตาเศร้าสร้อย “ อย่าร้องไห้ไปเลยเจ้าค่ะ เป็นเมียท่านเจ้าคุณวรจิตรอย่างไรเสียก็มีหน้ามีตานะเจ้าคะ ” แม่พุดตานใช้นิ้วเรียวปาดหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ หันกลับมามองบ่าวรับใช้ร่างท้วมที่ยืนมองอยู่ด้านหลังมาพักใหญ่ “ ได้ผัวคราวพ่อนี่น่ะหรือป้าผัน สู้อยู่เป็นสาวเทื้อคาเรือนมิดีกว่าหรือจ๊ะ ”

  • ซ่อนกลิ่นรัก   สบดวงเนตร

    ๕ สบดวงเนตร สามสี่วันมานี้พ่อรักษ์อยู่ติดเรือนอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดเห็นมาก่อน นั่นก็เป็นเพราะต้องคอยเทียวไปเทียวมาระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนบ่าวเพื่อคอยดูไม่ให้เจ้ากลิ่นลุกขึ้นมาทำงานตอนที่ร่างกายยังไม่หายดี ในขณะที่เจ้าคุณวรจิตรเองช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้กลับเรือน หรือหากกลับก็กลับมาเพียงเปลี่ยนผ้าผ่อนเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าเพลานี้ท่านเจ้าคุณวรจิตรต้องคอยวางแผนให้ทางท่านเจ้าเมืองกำราบเมืองประเทศราชที่มีข่าวแว่วมาว่ากำลังคิดกระด้างกระเดื่อง “ จะไปดูพี่กลิ่นที่เรือนหรือเจ้าคะคุณพี่ ” แม่รำพึงเอ่ยถามพี่ชายที่กำลังลงจากเรือน พ่อรักษ์หันมามองน้องสาวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ รำพึงชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่ชายมองมาด้วยความไม่พอใจ “ ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง... ” พ่อรักษ์เอ่ยกับน้องอย่างไม่ไยดี แม่รำพึงดวงตาร้อนผ่าวเพราะความน้อยใจที่ตั้งแต่โตมาพี่ชายไม่เคยพูดจาดี ๆ ด้วยเลยสักครั้ง “ น้องแค่เห็นว่าหากคุณพี่ไปหาพี่กลิ่น น้องจะฝากข้าวต้มมัดที่น้องทำไปให้พี่กลิ่น แต่หากคุณพี่ไม่สะดวกน้องจะเอาไปให้พี่กลิ่นคราหลังก็ได้ค่ะ ”

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เข้มแข็งดุจผกากรอง

    ๔ เข้มแข็งดุจผกากรอง สองร่างกายเปลือยเปล่าบนตั่งนอนที่มีเบาะยัดนุ่นหุ้มด้วยผ้าพื้นสีแดง มือใหญ่ของพ่อรักษ์กอบกุมปทุมถันของนางกลางเมืองอย่าง “จำเรียน” ร่างอรชรค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนย่ำรุ่ง หลังผ่านค่ำคืนสวาทกับบุตรชายของท่านเจ้าคุณมีชื่อ ที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่ในวัยกลัดมันหรืออย่างไร จำเรียนจึงต้องปรนเปรอชายหนุ่มผู้นี้จนร่างกายบอบช้ำไปแทบทั้งตัว กว่าจะได้หลับตาพักก็ตอนที่แสงโคมสีแดงที่อยู่ในเรือนไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเรือนแห่งนี้ได้เวลาหลับไหล “ อือ.... ” เสียงครางในลำคอ พร้อมกระชับวงแขนแกร่งให้แน่นขึ้นจนจำเรียนต้องพยายามดันแขนไว้ “ คุณรักษ์เจ้าคะ ขอจำเรียนไปล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ” “ ล้างทำไมให้เปลืองเวลาไปเล่า อีกประเดี๋ยวข้าก็ทำให้เอ็งเหนียวตัวอีกรอบแล้ว เอ็งดูสิตัวของข้ามันต้องการเอ็งอีกรอบแล้วเห็นหรือไม่จำเรียน ” พ่อรักษ์ส่งสายตาหวานเยิ้มไปยังส่วนที่กำลังขยายใหญ่ตรงกลางลำตัว จำเรียนจ้องมองไปยังส่วนนั้น ก่อนที่ร่างบางจะโดนร่างแกร่งจับพลิกตัวลงกับเบาะนอน พร้อม ๆ กับบทเพลงบรร

  • ซ่อนกลิ่นรัก   มั่นคงดั่งทานตะวัน

    ๓ มั่นคงดั่งทานตะวัน “ พี่กลิ่นจ๊ะ คุณพี่ไปไหนแล้วหรือจ๊ะ ” คุณหนูรำพึงบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าคุณวรจิตร เติบโตมาเป็นสาวรุ่นอายุอานามก็เข้าปีที่สิบแล้ว หน้าตาก็สะสวยละม้ายคล้ายคลึงมารดาที่รำพึงเองก็จำหน้ามิได้ “ คุณรักษ์อยู่ที่ท้ายสวนขอรับคุณหนู ” เจ้ากลิ่นละมือจากการคัดดอกมะลิ มองไปยังหญิงสาวด้วยสายตาเอ็นดู “ คุณพี่คงดูชนไก่อีกสินะ แล้วนี่พี่กลิ่นไม่ไปดูบ้างหรือจ๊ะ เห็นมาช่วยรำพึงคัดแต่ดอกมะลิจะเบื่อเอานะ ” “ บ่าวไม่เบื่อหรอกขอรับคุณหนู บ่าวอยู่กงนี้ดีแล้วขอรับไปอยู่กับคุณรักษ์ตอนนี้บ่าวสงสารไก่ขอรับ ” “ พี่กลิ่นนี่ก็ช่างแปลกคน บ่าวผู้ชายคนอื่นก็ขลุกกันอยู่ที่ท้ายสวนกันทั้งนั้น มีก็แต่พี่กลิ่นนี่แหละหนาที่มาขลุกอยู่แต่กับรำพึง ระวังเถิดประเดี๋ยวคุณพี่เรียกหาไม่เจอจะโดนดุเอาเสียอีก ” “ คุณรักษ์ไม่ว่าบ่าวหรอกขอรับ เพราะคุณรักษ์เป็นคนไล่บ่าวให้กลับมาช่วยงานคุณหนูเองขอรับ ” “ คุณพี่น่ะหรือเป็นคนบอกให้พี่กลิ่นมาช่วยงานรำพึงที่เรือนนี้ ” “ ขอรับ คุณรักษ์เป็นคนพูดเองเลยขอร

  • ซ่อนกลิ่นรัก   ครั้นกลีบบุปผาโรย

    ๒ ครั้นกลีบบุปผาโรย กาลเวลาผ่านพ้นมาจนพ่อรักษ์อายุจวนจะครบเก้าขวบ เจ้ากลิ่นเองก็เติบโตมาเป็นเด็กชายสมวัย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเติบโตมากับบุตรชายของท่านเจ้าคุณหรืออย่างไร ผิวพรรณของลูกบ่าวผู้นี้ถึงได้ผุดผ่อง ผิดแผกจากลูกบ่าวคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเรือนเดียวกัน และด้วยความที่เจ้ากลิ่นนั้นเป็นเด็กไม่ดื้อไม่ซน คุณหญิงกลอยจึงเอ็นดูมันยิ่งนัก “ แค่ก ๆ ” เสียงไอแห้ง ๆ ดังมาจากคุณหญิงที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่ที่ศาลาข้างเรือนใหญ่ มือเรียวกำลังประคองท้องที่นูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว แต่ร่างกายกลับดูซูบผอมไม่เหมือนคนท้องใกล้คลอดแม้แต่น้อย “ ขึ้นเรือนดีหรือไม่เจ้าคะคุณหญิง บ่าวเห็นคุณหญิงไอถี่เหลือเกินเจ้าค่ะ ” “ พ่อรักษ์กับพ่อกลิ่นยังเล่นกันอยู่ ข้าไม่อยากห้ามลูกที่กำลังสนุก อีกอย่างข้าจะมีโอกาสได้ดูลูกเล่นได้เช่นนี้อีกนานไหมก็มิรู้ได้ ” “ คุณหญิงอย่าเอ่ยเช่นนี้สิเจ้าคะ กำลังท้องกำลังไส้อยู่นะเจ้าคะคุณหญิง ” เจ้าหล่อนไม่ได้เอ่ยกระไรตอบกลับ เพราะไม่มีผู้ใดรู้ดีไปกว่าตัวเองว่าร่างกายนั้นกำลัง

DMCA.com Protection Status