Home / LGBTQ+ / ซ่อนกลิ่นรัก / อวลกลิ่นพุดตาน

Share

อวลกลิ่นพุดตาน

Author: การัณย
last update Last Updated: 2024-11-29 17:01:23

          ๖

          อวลกลิ่นพุดตาน

          “ แม่พุดตานนอนห้องนี้เถิด ประเดี๋ยวข้าจะให้บ่าวมันช่วยขนข้าวของมาไว้ให้เสียบนเรือน ”

          “ เจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ”

          “ ต่อจากนี้ข้าก็ขอฝากเรือนนี้ไว้ให้แม่พุดตานดูแลแทนข้าทีนะ ส่วนเรื่องเมื่อครู่ก็อย่าได้ถือสามันเลยอยู่ให้สบายใจเถิด ”

          “ เจ้าค่ะ... ”

          “ พักผ่อนเสียเถิดวันนี้ข้าต้องเข้าวัง มีกระไรก็เรียกบ่าวในเรือน หรือแม่รำพึงให้มาพูดคุยเป็นเพื่อนเสียก็ได้ ”

          “ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ”

          ท่านเจ้าคุณวรจิตรมองดูหญิงสาวที่ยืนหน้าเรียบเฉยอยู่ แววตาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกภายในใจของเจ้าหล่อนได้เลย ก่อนที่ท่านเจ้าคุณจะเดินออกไปเรียกไอ้มาดให้ไปเตรียมตัวเข้าวัง แม่พุดตานมองตามหลังผัวหมาด ๆ ของตนเองด้วยแววตาเศร้าสร้อย

          “ อย่าร้องไห้ไปเลยเจ้าค่ะ เป็นเมียท่านเจ้าคุณวรจิตรอย่างไรเสียก็มีหน้ามีตานะเจ้าคะ ”

          แม่พุดตานใช้นิ้วเรียวปาดหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ หันกลับมามองบ่าวรับใช้ร่างท้วมที่ยืนมองอยู่ด้านหลังมาพักใหญ่

          “ ได้ผัวคราวพ่อนี่น่ะหรือป้าผัน สู้อยู่เป็นสาวเทื้อคาเรือนมิดีกว่าหรือจ๊ะ ”

          “ คุณพุดตานเจ้าขา...อย่างไรเสียท่านเจ้าคุณวรจิตรก็เป็นผู้มีคุณความดีความชอบ พ่ออยู่หัวจึงทูลขอคุณของบ่าวมาให้เป็นเมียแต่งของท่านเจ้าคุณวรจิตรผู้ซึ่งมีหน้ามีตา มีสมบัติพัสถานมากโขเลี้ยงดูคุณของบ่าวไปได้ทั้งชีวิตเลยนะเจ้าคะ ”

          “ นั่นสินะป้าผัน หากไม่ได้เป็นเมียท่านเจ้าคุณตอนนี้ ข้าคงไม่พ้นเป็นสาวเทื้อคาเรือนให้ชาวบ้านนินทากันสนุกปากว่าเป็นถึงลูกขุนน้ำขุนนางแต่ไม่มีผู้ใดอยากได้ไว้เป็นเมีย ”

          “ โถ...คุณของบ่าว อย่าคิดเช่นนั้นเลยนะเจ้าคะ ไม่เอา ๆ พักผ่อนเสียเถิดเจ้าค่ะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ”

          นังผินประคองตัวนายของมันให้มาเอนหลังที่ตั่งนอน หยิบพัดไม้ไผ่สานมาโบกให้นายของมันเย็นกายเย็นใจเสียหน่อยก็ยังดี

          สายลมยามอาทิตย์อัสดงพัดผ่านเรือนไม้หลังเล็กกลางสวนของท่านเจ้าคุณวรจิตร เงาตะคุ่มนั่งอยู่ในมุมมืด แม้สายลมเย็นจะพัดผ่านกายก็ไม่ได้ทำให้อารมณ์กรุ่นร้อนภายในนั้นลดลงได้เลย มือใหญ่กำแน่นจนเส้นเลือดขึ้นริ้วเขียวไปทั่วท่อนแขน

          “ คุณรักษ์ขอรับ.... ”

          เจ้ากลิ่นค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาบนเรือนส่งเสียงเรียกนายของมันด้วยน้ำเสียงห่วงใย สายตาจับจ้องไปยังเงาตะคุ่ม ๆ ที่นั่งอยู่มุมห้อง

          “ คุณรักษ์ขอรับ...บ่าวขอเข้าไปนะขอรับ ”

          เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากผู้เป็นนาย เจ้ากลิ่นก็ก้าวเข้าไปหาพ่อรักษ์ แล้วนั่งลงข้าง ๆ นายของมัน

          “ ให้บ่าวจุดตะเกียงไหมขอรับ ”

          “ ขอข้าอยู่มืด ๆ แบบนี้เถิดพ่อกลิ่น ”

          “ แต่เริ่มมืดค่ำแล้วนะขอรับ จุดตะเกียงเสียหน่อยให้พอมองเห็นไม่ดีกว่าหรือขอรับ ”

          “ ข้าไม่อยากให้พ่อกลิ่นเห็นข้าตอนนี้ ”

          “ แต่บ่าวเป็นห่วงคุณรักษ์นะขอรับ ”

          “ ข้ารู้ว่าพ่อกลิ่นห่วงข้า แต่ข้าไม่อยากให้พ่อกลิ่นเห็นข้าตอนอ่อนแอเช่นนี้ ”

          เจ้ากลิ่นมองร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ ถึงแม้จะมองเห็นเพียงลาง ๆ แต่มันก็รู้ว่าตอนนี้นายของมันรู้สึกเช่นไร

          “ อ่อนแอแล้วจะเป็นเช่นไรไปเล่าขอรับ หากมันทำให้คุณรักษ์เบาใจขึ้น จะอ่อนแอบ้างมิเห็นจะเป็นกระไรเลยขอรับ แต่หากคุณรักษ์ไม่อยากให้บ่าวเห็น บ่าวก็จะไม่จุดขอรับ ”

          “ ข้าขออยู่แบบนี้นะพ่อกลิ่น ส่วนพ่อกลิ่นอยู่ข้าง ๆ ข้าเช่นนี้ได้หรือไม่ ”

          “ ได้สิขอรับถึงคุณรักษ์ไม่บอก บ่าวก็จะอยู่ข้าง ๆ ไม่ไปไหนหรอกขอรับ ”

          “ ... ”

          จากแสงอัสดงลากผ่านจนหมู่ดาวเริ่มทอประกายแสงบนท้องฟ้าสีดำสนิท คนทั้งคู่นั่งอยู่ข้างกันในความมืด ความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ เสียงจิ้งหรีดดังระงมไปทั่ว แสงไฟวับแวมจากตะเกียงที่ส่องแสงมาจากทางเรือนบ่าวตกกระทบมาที่เรือนเล็กที่มีเจ้ากลิ่นนั่งอยู่ข้างนายของมัน

          เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่สอดประสานกันอยู่บนเรือนเล็ก หลังจากผ่านมาครู่ใหญ่พ่อรักษ์ก็ค่อย ๆ ยันตัวเองลุกขึ้นมาเพื่อเดินไปจุดตะเกียง แสงไฟสีส้มอ่อนตกกระทบมาที่ใบหน้านวลของเจ้ากลิ่น ดวงตาหลับพริ้มพร้อมริมฝีปากเผยอออกจนได้ยินเสียงกรนเบา ๆ

          พ่อรักษ์ค่อย ๆ เดินกลับเข้าไปนั่งข้างบ่าวคนสนิท มือหนาเอื้อมไปประคองหัวของเจ้ากลิ่นให้มาพิงที่ไหล่ของตนเอง เจ้ากลิ่นขยับตัวเล็กน้อยเมื่อโดนกวนการนอน พ่อรักษ์เอี้ยวหน้าหันมามองพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ ให้คนข้างตัวที่กำลังหลับอยู่

          “ โตถึงเพียงนี้แล้วหรือพ่อกลิ่น... ”

          “ ... ”

          “ หากข้าไม่มีพ่อกลิ่นเสียอีกคน ข้าจะโตมาได้ถึงขนาดนี้หรือไม่... ”

          พ่อรักษ์เกลี่ยแก้มนวลของเจ้ากลิ่นเล่นด้วยความเอ็นดู แต่เจ้ากลิ่นเมื่อโดนกวนก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา อาจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าใบหน้าของพ่อรักษ์อยู่ใกล้กับตนไม่ถึงคืบ ด้วยความตกใจเจ้ากลิ่นเลยรีบยกหัวตัวเองขึ้น ทำให้หัวกระแทกเข้ากับปลายคางของพ่อรักษ์อย่างแรง

          “ เจ็บมากไหมขอรับ บ่าวต้องขออภัยด้วยขอรับคุณรักษ์ ”

          เจ้ากลิ่นรีบเข้าไปดูคางของพ่อรักษ์ด้วยท่าทีเป็นห่วง แต่นั่นก็ทำให้พ่อรักษ์ได้มองหน้าของบ่าวตรงหน้าใกล้ ๆ อีกครั้ง รอยยิ้มจางส่งมาให้เจ้ากลิ่น ทำให้รู้สึกตัวจนต้องถอยออกมาจากรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเจ้ากลิ่นเต้นระรัว

          “ เป็นห่วงข้ามากเลยหรือพ่อกลิ่น ”

          “ กะ...ก็ห่วงสิขอรับ บ่าวซุ่มซ่ามทำให้คุณรักษ์เจ็บ เจ็บมากไหมขอรับ ”

          “ ไม่หรอกพ่อกลิ่น แค่พ่อกลิ่นเป็นห่วงข้าก็หายเจ็บหายปวดเสียแล้วล่ะ ”

          “ ... ”

          เจ้ากลิ่นรู้สึกร้อนผะผ่าวบนใบหน้าเมื่อเห็นสายตาที่ส่องประกายบางอย่างมาให้ตน จนต้องเสมองไปทางอื่นด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ

          “ เอ่อ...คุณรักษ์หิวหรือยังขอรับ ตั้งแต่เย็นคุณรักษ์ยังไม่ได้กินกระไรเลยขอรับ ”

          “ ไม่หรอกพ่อกลิ่น วันนี้ข้าไม่หิว แล้วพ่อกลิ่นล่ะหิวหรือไม่ ได้กินกระไรบ้างหรือยัง ”

          “ ยังไม่ได้กินเลยขอรับ แต่ว่าเดี๋ยวบ่าวกลับไปกินที่เรือนได้ขอรับ แม่ปรุงคงเตรียมไว้ให้บ่าวแล้วขอรับ ”

          “ เช่นนั้นข้าไปกินที่เรือนพ่อกลิ่นด้วยเสียเลยแล้วกัน ”

          “ จะดีหรือขอรับ ”

          “ ดีสิพ่อกลิ่น ใช่ว่าข้าไม่เคยไปกินข้าวที่เรือนบ่าวเสียเมื่อไหร่ ”

          พ่อรักษ์ฉวยข้อมือขาวของบ่าวให้ลุกขึ้นและก้าวเดินลงจากเรือนไปยังเรือนบ่าวที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ระหว่างทางเจ้ากลิ่นได้แต่มองดูข้อมือของตนเองที่ถูกมือหนาจับไว้หลวม ๆ ความรู้สึกอิ่มเอมใจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และไม่ต่างจากบ่าวที่เดินตามสักเท่าใดนัก ความรู้สึกอุ่นวาบที่มือหนาได้สัมผัสกับท่อนแขนขาวของบ่าวอย่างเจ้ากลิ่น ช่างเป็นความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความสิเหน่หาแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ใดมาก่อน

          “ แม่รำพึงจ๊ะ ฉันขอดอกมะลิแบ่งมาให้หน่อยสิจ๊ะ ”

          “ ได้เจ้าค่ะคุณแม่ ”

          เสียงเจื้อยแจ้วของหญิงสาวที่อายุอานามห่างกันเพียงไม่กี่ปี แต่สรรพนามที่แม่รำพึงเรียกขานนั้นกลับทำให้คนที่ถูกเรียกเช่นนั้นทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

          “ แม่รำพึงไม่ต้องเรียกฉันแบบนั้นก็ได้นะจ๊ะ อีกอย่างฉันก็อายุมากกว่าแม่รำพึงไม่กี่ขวบปี ”

          “ แต่คุณแม่คือเมียเจ้าคุณพ่อ หากไม่เรียกเช่นนี้รำพึงเกรงว่าจะไม่สมควรนะเจ้าคะ ”

          “ จริงเจ้าค่ะคุณหญิง ตามศักดิ์แล้วคุณพุดตานก็คือแม่ของคุณรำพึงกับคุณรักษ์นะเจ้าคะ ”

          นังผินบ่าวข้างกายของคุณหญิงพุดตานกล่าวสมทบ ก่อนจะหยิบกระจาดดอกมะลิจากคุณรำพึงมาให้นายของตนเอง

          “ แม่กูมีแค่คนเดียวเท่านั้น บ่าวอย่างมึงอย่ามาแส่ให้ใครก็ไม่รู้มาเป็นแม่ของกู ”

          เสียงตวาดดังลั่นของพ่อรักษ์ทำให้หญิงสาวและบ่าวที่อยู่รอบ ๆ สะดุ้งตัวโยน นังผินบ่าวที่มาใหม่และเป็นผู้พูดก้มหน้าด้วยความกลัวจนเนื้อตัวสั่น

          “ คุณพี่... ”

          “ คุณรักษ์...อิชั้นต้องขออภัยแทนป้าผินด้วยเจ้าค่ะ ”

          “ บอกคนของคุณหญิงว่าอย่าได้คิดให้ใครมาแทนแม่ของข้า ไม่มีใครมีสิทธิ์มาแทนแม่ของข้าได้ อย่าให้ข้าได้ยินมันผู้ใดพูดให้ได้ยินถึงหูของข้าอีก ”

          พ่อรักษ์มองไปยังแม่พุดตานด้วยแววตาก้าวร้าว ส่วนแม่รำพึงที่มีส่วนสร้างความขุ่นข้องหมองใจให้กับพี่ชายของตนเองก็ได้แค่นั่งหน้าซีดเผือดอยู่เงียบ ๆ

          “ คุณรักษ์จะรับข้าวเช้าหรือไม่เจ้าคะ ”

          คุณหญิงพุดตานทำใจดีสู้เสือ โพล่งถามออกไปเมื่อเห็นพ่อรักษ์กำลังเดินออกไป สายตาขวางตวัดมองด้วยความโมโห

          “ ไม่ใช่เรื่องของคุณหญิงจะดูแลใครก็ดูแลไป แต่ไม่ต้องคิดจะมาข้องแวะกับข้า ”

          “ แต่ท่านเจ้าคุณมอบหมายให้อิชั้นดูแลทุกคนบนเรือนนี้ นั่นก็หมายถึงให้อิชั้นดูแลคุณรักษ์ด้วยเจ้าค่ะ ”

          พุดตานมองไปยังเสือดุหนุ่มที่ยืนหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธ ถึงแม้ในใจจะกลัวชายหนุ่มกระทำอันใดรุนแรงเมื่อเห็นตนยังยุ่มย่ามทั้ง ๆ ที่ยื่นคำขาดไปแล้ว แต่ในเมื่อเจ้าตัวเองก็มีศักดิ์ศรีเป็นถึงเมียพระราชทาน เป็นรองก็แค่เจ้าของเรือนอย่างท่านเจ้าคุณ อีกอย่างพ่อรักษ์เองก็อ่อนกว่าตนถึงสองปี อย่างไรเสียก็ต้องมีความยำเกรงแก่ตนเองบ้าง

          “ ข้าบอกไปแล้วว่าอย่ามาวุ่นวายกับข้า ”

          “ ... ”

          “ คุณพี่เจ้าคะ... ”

          แม่พุดตานผงะไปด้วยความตกใจ เมื่อพ่อรักษ์ก้าวอาด ๆ เข้าไปประชิดตัว แม่รำพึงได้แต่เรียกพี่ชายตนเองหวังเพียงแค่พี่ของตนนั้นไม่กระทำอันใดร้ายแรงไปกว่านี้

          “ หากคิดว่าจะทำให้ข้าพึงใจที่ได้คุณหญิงเป็นแม่นั้น ขอให้คิดใหม่เสีย นับแต่นี้ต่างคนต่างอยู่อย่าได้มาข้องแวะกันให้ข้ารำคาญใจ เข้าใจรึไม่...คุณหญิง

          “ ... ”

          “ แล้วก็สำรับข้าวที่ตระเตรียมไว้ให้ข้า ข้าเองก็ไม่อยากให้มันเสียเปล่า ไหน ๆ คุณหญิงก็เสียเวลาตระเตรียมไว้แล้ว ข้ารบกวนคุณหญิงให้บ่าวเอาไปโรยให้หมูหมากาไก่ในสวนกินเสียก็แล้วกัน ”

          รอยยิ้มยียวนส่งตรงไปให้คนตรงหน้า ใบหน้านวลของคุณหญิงขึ้นสีแดงระเรื่อ ยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น จนกระทั่งพ่อรักษ์เดินลงจากเรือนไป

          “ ไม่เป็นไรนะเจ้าคะคุณแม่ ”

          “ ม...ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันไม่เป็นไร ”

          “ ป้าผินจ๊ะ พาคุณแม่ไปพักเถิดจ้ะ ”

          “ เจ้าค่ะคุณรำพึง ไปเจ้าค่ะคุณหญิง ”

          นังผินประคองนายของมันเดินเข้าไปพักในห้อง แม่รำพึงมองตามพุดตานไปด้วยความห่วงใย ลำพังตัวเองนั้นเคยชินเสียแล้วสำหรับการกระทำของพี่ชาย แต่กับแม่พุดตานนั้นคงต้องใช้เวลาในการที่จะเข้าใจพี่ชายของตนได้

          “ ป้าจวงไม่ได้จัดสำรับให้คุณรักษ์หรือขอรับ ”

          ไอ้จอมมองหน้าพ่อรักษ์ที่กำลังนั่งกินข้าวร่วมสำรับเดียวกันกับมัน แม่ปรุงและเจ้ากลิ่น สีหน้าไอ้จอมไม่สบอารมณ์เท่าใดนักที่เห็นพ่อรักษ์เคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ อยู่ตรงหน้า

          “ ข้าอยากมากินข้าวฝีมือแม่ปรุง เอ็งมายุ่งกระไรกับข้าไอ้จอม ข้ามาฝากท้องกับแม่ปรุงเสียตั้งแต่เด็ก แม่ปรุงยังไม่เคยว่ากระไรเลย ”

          “ หากป้าปรุงบ่นคิดว่าจะไม่โดนหวายลงหลังหรือขอรับ ”

          “ ใครจะกล้ามาลงหวายแม่ปรุง บอกข้าได้เลยนะแม่ปรุงข้าจะจัดการมันเสียให้เข็ด ”

          ประโยคสุดท้ายพ่อรักษ์หันไปเอ่ยกับนังปรุงที่กำลังคดข้าวใส่จานให้พ่อรักษ์ด้วยรอยยิ้ม

          “ กินเถิดเจ้าค่ะ ไอ้จอมเอ็งก็กินเข้าไปถามจู้จี้ไปได้ อิชั้นบอกแล้วว่าจะจัดสำรับแยกให้คุณรักษ์ จะได้ไม่ต้องมานั่งกินร่วมกับพวกบ่าว คุณรักษ์ก็มิยอม ”

          “ กินรวมกันนี่แหละแม่ปรุง เจริญอาหารดี ใช่ไหมพ่อกลิ่น ”

          “ เห็นจะมีก็แต่คุณรักษ์นี่แหละขอรับที่กินแค่น้ำพริกผักต้มก็อร่อย ”

          “ มันไม่ได้อร่อยเพียงกับข้าวฝีมือแม่ปรุงหรอกนะพ่อกลิ่น แต่มันเป็นเพราะข้าได้กินกับใครด้วยต่างหากเล่า มันจึงอร่อย ”

          สายตาเป็นประกายของพ่อรักษ์ที่ถูกส่งไปยังเจ้ากลิ่นนั้น สร้างความไม่พอใจให้กับไอ้จอม แต่ก็ทำกระไรมากไม่ได้ แต่ไม่ใช่แค่ไอ้จอมเท่านั้นที่เห็นสายตาของพ่อรักษ์ แม่ปรุงเองก็เห็นสายตานั้นเช่นกัน นั่นจึงก่อให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจให้กับแม่ปรุงยิ่งนัก ได้แต่คิดว่าเจ้าตัวน่าจะต้องเตือนบุตรชายของตนไว้เสียจะดีกว่า

Related chapters

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เบญจมาศในหมู่ภมร

    ๗ เบญจมาศในหมู่ภมร “ พี่ชายเจ้าไม่มากินข้าวอีกแล้วหรือแม่รำพึง ” ท่านเจ้าคุณเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบุตรชายไม่อยู่กินข้าวเช้ามาหลายวัน คิ้วหนาแซมขาวขมวดมุ่นจนคนนั่งร่วมสำรับอึดอัด “ รับข้าวเถิดเจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ” แม่พุดตานเอ่ยเสียงเรียบ มือเรียวตักข้าวใส่จานของท่านเจ้าคุณ “ นังจวงไปตามพ่อรักษ์มา ” “ จะ...เจ้าค่ะ ” นังจวงสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงที่ปนไปด้วยความโกรธส่งตรงมาที่ตน มันตอบรับคำสั่งรีบวิ่งไปตามพ่อรักษ์ที่เรือนบ่าว “ เรียกข้ามีกระไรหรือขอรับคุณพ่อ ” พ่อรักษ์ขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใช้หางตาปรายมองหญิงสาวสองคนที่นั่งร่วมสำรับอย่างไม่ชอบใจ “ นั่งลง ” “ คุณพ่อแจ้งมาได้เลยขอรับว่ามีกระไรกับข้า ” “ กูบอกให้มึงนั่งลงไอ้รักษ์ ” “ หากคุณพ่อไม่มีกระไรเพียงแต่อยากเรียกข้ามาให้ร่วมสำรับกับครอบครัวของคุณพ่อ ข้าไม่ต้องการขอรับ ข้ากินข้าวที่เรือนบ่าวกับแม่ปรุงอิ่มแล้วขอรับ ” “ ไอ้ลูกไม่รักดี มึงเห็นบ่าวดีกว่ากูที่เป็นพ่อของมึงเชียวรึไอ้

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   เจ็บกายแต่เต็มใจ

    ๘ เจ็บกายแต่เต็มใจ เปลือกตาดำคล้ำค่อย ๆ เปิดขึ้นมาพร้อมกับความปวดร้าวไปทั่วตัว ดวงตาดำหรี่มองบุคคลข้าง ๆ ที่ดูเลือนรางไปหมด “ คุณรักษ์ขอรับ... ” เสียงเจ้ากลิ่นทำให้พ่อรักษ์แค่นยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเพ่งมองไปยังใบหน้าขาวของบ่าวจนมองเห็นชัดในสายตาของตนเอง “ ดูทำหน้าเข้าซีพ่อกลิ่น ข้ายังไม่ได้ตายเสียหน่อย ” “ คุณรักษ์อย่าพูดเช่นนี้สิขอรับ มันเป็นลางไม่ดีนะขอรับ ” “ แล้วนี่ใครเป็นคนพาข้ากลับมาที่เรือนหรือพ่อกลิ่น ” “ พี่จอมกับลุงมาดขอรับ ” “ แล้วพ่อข้ารู้เรื่องหรือไม่พ่อกลิ่น ” เจ้ากลิ่นพยักหน้าเบา ๆ ด้วยแววตาเป็นห่วง ก่อนที่หัวทุยของมันจะโดนมือกร้านลูบเพื่อให้คลายกังวล “ ไม่ต้องห่วงข้าดอกพ่อกลิ่น...แล้วนี่พ่อกลิ่นมาเฝ้าข้าตั้งแต่เมื่อใดกัน ” “ เมื่อคืนขอรับ พอมีคนมาแจ้งข่าวท่านเจ้าคุณก็สั่งให้บ่าวในเรือนไปพาคุณรักษ์มาที่เรือนขอรับ ท่านเจ้าคุณให้หมอยามาดูคุณรักษ์แล้วก็ให้กินยาให้หมดสามวันขอรับ แล้วนี่คุณรักษ์หิวหรือยังขอรับ ” “ หิวแล้วซีพ่อก

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   เป็นเวรหรือกรรม

    ๙ เป็นเวรหรือกรรม “ เป็นเช่นไรบ้าง เอ็งเจ็บแผลมากหรือไม่ ” ไอ้จอมเอ่ยปากถามเจ้ากลิ่นที่ยังคงนอนคว่ำหน้าเพราะบาดแผลที่โดนโบยยังคงมีเลือดติดอยู่ เจ้ากลิ่นหันหน้ามามองคนที่ตนรักเหมือนพี่ชาย ที่สองวันมานี้เทียวแวะเวียนมาถามไถ่อยู่แทบจะทั้งวี่วัน “ เจ็บอยู่จ้ะพี่จอม แต่ไม่เท่าคราแรก ” “ เอ็งอยากได้กระไรก็บอกพี่นะกลิ่น พี่เอามาให้เอง ” “ ฉันขอบใจพี่มากนะจ๊ะพี่จอม แต่แม่คอยหามาให้ฉันไม่ได้ขาดกระไร อีกอย่างงานพี่จอมก็มากโขอยู่ไม่ต้องห่วงฉันหรอกจ้ะพี่จอม ” " จะไม่ให้ห่วงเอ็งได้ยังไง ดูตัวเอ็งสิเล็กกระจ้อยร่อยเพียงนี้ ลมพัดก็แทบจะปลิวไปตามแรงลมเสียกระมัง ” “ พี่ก็พูดเกินไปพี่จอม ฉันไม่ได้อ่อนแอเยี่ยงนั้นเสียหน่อย ” “ เอาเถิด ๆ นอนพักเสียจะได้หายไว ๆ หายแล้วพี่จะพาเอ็งไปกินขนม ” “ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่จอม ” “ ฮะ ๆ ๆ พี่ไปก่อนนะ นอนเสียเถิด ” ไอ้จอมลูบหัวน้องด้วยความรักใคร่ รอยยิ้มใจดีมอบให้กับเจ้ากลิ่นที่ทำหน้าบึ้งตึงที่โดนมองว่ายังเป็นเด็กน้อยตัวเล็กในสายตาของคนอื่น

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   พี่จะพาเอ็งไปเอง #ฉากใต้ตะเกียง

    ๑๐ พี่จะพาเอ็งไปเอง “ พ่อกลิ่นกลับเรือนไปเสียเถิด เทียวไปเทียวมาเช่นนี้ไม่เหนื่อยเอาดอกรึ “ เสียงทุ้มที่แม้ว่าฟังแล้วคล้ายจะรำคาญ แต่แววตาที่มองมากลับดูเป็นห่วงบ่าวที่นั่งมองตนเอง เจ้ากลิ่นช่วงนี้เทียวไปเทียวมา เพื่อมาพาพ่อรักษ์กลับเรือนตามสั่งของท่านเจ้าคุณ คราแรกพ่อรักษ์ก็จะยอมตามกลับไป แต่เป็นเพราะเจ้ากลิ่นบอกว่าเป็นความต้องการของบิดา ด้วยความเจ้าคิดเจ้าแค้นพ่อรักษ์จึงไม่ยอมกลับเรือนตามที่คิดไว้ “ ไม่เหนื่อยหรอกขอรับ แต่หากคุณรักษ์ยังมิยอมกลับเรือนเยี่ยงนี้ อีกไม่นานบ่าวอาจจะเหนื่อยก็ได้ขอรับ ” “ ดูพูดเข้าซีพ่อกลิ่น...หากพ่อกลิ่นเบื่อหน่ายข้าเสียแล้วเยี่ยงนี้อีกไม่นานข้าก็คงได้เป็นหมาหัวเน่าแน่ ” “ กล่าวเช่นนั้นได้อย่างไรขอรับ บ่าวรับใช้คุณรักษ์มาตั้งแต่จำความได้ บ่าวเคารพรักคุณรักษ์มากกว่าสิ่งใด แล้วเหตุใดบ่าวจะเบื่อหน่ายชีวิตที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ดูแลรับใช้คุณรักษ์ได้เล่าขอรับ ” พ่อรักษ์มองบ่าวด้วยสายตาอ่อนโยน แต่ไหนแต่ไรเจ้ากลิ่นไม่เคยจะปริปากแม้แต่น้อยว่าเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่ต้องคอยมาตามปรนนิบัติตนเอง

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   กลิ่นกรุ่น

    ๑ กลิ่นกรุ่น “ นังจวง ๆ เอ็งรีบไปตามยายกล่ำมาประเดี๋ยวนี้ คุณหญิงท่านใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว ” เสียงโหวกเหวกดังไปทั่วอาณาบริเวณเรือนไม้ใหญ่ บ่าวไพร่วิ่งวุ่นกันไปทั่ว บ้างก็วิ่งเข้าครัวเพื่อตระเตรียมหม้อดินมาต้มน้ำรอยายกล่ำ ผู้ซึ่งเป็นหมอตำแยผู้มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน “ แล้วนี่มีผู้ใดไปแจ้งท่านเจ้าคุณแล้วหรือไม่ ไอ้แจ้ง ข้าให้เอ็งไปบอก แล้วนี่เอ็งไปมาแล้วหรืออย่างไร ” “ ข้าให้คนไปแจ้งแล้วจ้ะพี่ น่าจะอีกสักประเดี๋ยวท่านเจ้าคุณน่าจะถึงจ้ะ ” “ อย่าให้พลาดเชียวนะไอ้แจ้ง ” ไอ้มาด หัวหน้าบ่าวในเรือนกำชับให้แน่ใจ ก่อนจะรีบเดินออกไปดูตรงส่วนอื่นต่อระหว่างที่รอหมอตำแยที่ส่งคนไปตามที่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากเรือนเท่าใดนัก “ พี่มาด ยายกล่ำมาหรือยังพี่ คุณหญิงเจ็บท้องมานานแล้วนะพี่ ” “ กูรู้แล้ว กูก็ร้อนใจไม่ต่างจากมึงหรอก ” “ พี่จะมัวแต่ร้อนใจไม่ได้นะพี่มาด คนเจ็บท้องคือคุณหญิงท่าน รีบให้ใครไปเร่งประเดี๋ยวนี้เลย ” “ เออๆ กูรู้แล้ว มึงรีบเข้าไปดูคุณหญิงท่านซะ ทางนี้กูจัดการเอง ไอ้แจ้

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   ครั้นกลีบบุปผาโรย

    ๒ ครั้นกลีบบุปผาโรย กาลเวลาผ่านพ้นมาจนพ่อรักษ์อายุจวนจะครบเก้าขวบ เจ้ากลิ่นเองก็เติบโตมาเป็นเด็กชายสมวัย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเติบโตมากับบุตรชายของท่านเจ้าคุณหรืออย่างไร ผิวพรรณของลูกบ่าวผู้นี้ถึงได้ผุดผ่อง ผิดแผกจากลูกบ่าวคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเรือนเดียวกัน และด้วยความที่เจ้ากลิ่นนั้นเป็นเด็กไม่ดื้อไม่ซน คุณหญิงกลอยจึงเอ็นดูมันยิ่งนัก “ แค่ก ๆ ” เสียงไอแห้ง ๆ ดังมาจากคุณหญิงที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่ที่ศาลาข้างเรือนใหญ่ มือเรียวกำลังประคองท้องที่นูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว แต่ร่างกายกลับดูซูบผอมไม่เหมือนคนท้องใกล้คลอดแม้แต่น้อย “ ขึ้นเรือนดีหรือไม่เจ้าคะคุณหญิง บ่าวเห็นคุณหญิงไอถี่เหลือเกินเจ้าค่ะ ” “ พ่อรักษ์กับพ่อกลิ่นยังเล่นกันอยู่ ข้าไม่อยากห้ามลูกที่กำลังสนุก อีกอย่างข้าจะมีโอกาสได้ดูลูกเล่นได้เช่นนี้อีกนานไหมก็มิรู้ได้ ” “ คุณหญิงอย่าเอ่ยเช่นนี้สิเจ้าคะ กำลังท้องกำลังไส้อยู่นะเจ้าคะคุณหญิง ” เจ้าหล่อนไม่ได้เอ่ยกระไรตอบกลับ เพราะไม่มีผู้ใดรู้ดีไปกว่าตัวเองว่าร่างกายนั้นกำลัง

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   มั่นคงดั่งทานตะวัน

    ๓ มั่นคงดั่งทานตะวัน “ พี่กลิ่นจ๊ะ คุณพี่ไปไหนแล้วหรือจ๊ะ ” คุณหนูรำพึงบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าคุณวรจิตร เติบโตมาเป็นสาวรุ่นอายุอานามก็เข้าปีที่สิบแล้ว หน้าตาก็สะสวยละม้ายคล้ายคลึงมารดาที่รำพึงเองก็จำหน้ามิได้ “ คุณรักษ์อยู่ที่ท้ายสวนขอรับคุณหนู ” เจ้ากลิ่นละมือจากการคัดดอกมะลิ มองไปยังหญิงสาวด้วยสายตาเอ็นดู “ คุณพี่คงดูชนไก่อีกสินะ แล้วนี่พี่กลิ่นไม่ไปดูบ้างหรือจ๊ะ เห็นมาช่วยรำพึงคัดแต่ดอกมะลิจะเบื่อเอานะ ” “ บ่าวไม่เบื่อหรอกขอรับคุณหนู บ่าวอยู่กงนี้ดีแล้วขอรับไปอยู่กับคุณรักษ์ตอนนี้บ่าวสงสารไก่ขอรับ ” “ พี่กลิ่นนี่ก็ช่างแปลกคน บ่าวผู้ชายคนอื่นก็ขลุกกันอยู่ที่ท้ายสวนกันทั้งนั้น มีก็แต่พี่กลิ่นนี่แหละหนาที่มาขลุกอยู่แต่กับรำพึง ระวังเถิดประเดี๋ยวคุณพี่เรียกหาไม่เจอจะโดนดุเอาเสียอีก ” “ คุณรักษ์ไม่ว่าบ่าวหรอกขอรับ เพราะคุณรักษ์เป็นคนไล่บ่าวให้กลับมาช่วยงานคุณหนูเองขอรับ ” “ คุณพี่น่ะหรือเป็นคนบอกให้พี่กลิ่นมาช่วยงานรำพึงที่เรือนนี้ ” “ ขอรับ คุณรักษ์เป็นคนพูดเองเลยขอร

    Last Updated : 2024-11-29
  • ซ่อนกลิ่นรัก   เข้มแข็งดุจผกากรอง

    ๔ เข้มแข็งดุจผกากรอง สองร่างกายเปลือยเปล่าบนตั่งนอนที่มีเบาะยัดนุ่นหุ้มด้วยผ้าพื้นสีแดง มือใหญ่ของพ่อรักษ์กอบกุมปทุมถันของนางกลางเมืองอย่าง “จำเรียน” ร่างอรชรค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนย่ำรุ่ง หลังผ่านค่ำคืนสวาทกับบุตรชายของท่านเจ้าคุณมีชื่อ ที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่ในวัยกลัดมันหรืออย่างไร จำเรียนจึงต้องปรนเปรอชายหนุ่มผู้นี้จนร่างกายบอบช้ำไปแทบทั้งตัว กว่าจะได้หลับตาพักก็ตอนที่แสงโคมสีแดงที่อยู่ในเรือนไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเรือนแห่งนี้ได้เวลาหลับไหล “ อือ.... ” เสียงครางในลำคอ พร้อมกระชับวงแขนแกร่งให้แน่นขึ้นจนจำเรียนต้องพยายามดันแขนไว้ “ คุณรักษ์เจ้าคะ ขอจำเรียนไปล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ” “ ล้างทำไมให้เปลืองเวลาไปเล่า อีกประเดี๋ยวข้าก็ทำให้เอ็งเหนียวตัวอีกรอบแล้ว เอ็งดูสิตัวของข้ามันต้องการเอ็งอีกรอบแล้วเห็นหรือไม่จำเรียน ” พ่อรักษ์ส่งสายตาหวานเยิ้มไปยังส่วนที่กำลังขยายใหญ่ตรงกลางลำตัว จำเรียนจ้องมองไปยังส่วนนั้น ก่อนที่ร่างบางจะโดนร่างแกร่งจับพลิกตัวลงกับเบาะนอน พร้อม ๆ กับบทเพลงบรร

    Last Updated : 2024-11-29

Latest chapter

  • ซ่อนกลิ่นรัก   พี่จะพาเอ็งไปเอง #ฉากใต้ตะเกียง

    ๑๐ พี่จะพาเอ็งไปเอง “ พ่อกลิ่นกลับเรือนไปเสียเถิด เทียวไปเทียวมาเช่นนี้ไม่เหนื่อยเอาดอกรึ “ เสียงทุ้มที่แม้ว่าฟังแล้วคล้ายจะรำคาญ แต่แววตาที่มองมากลับดูเป็นห่วงบ่าวที่นั่งมองตนเอง เจ้ากลิ่นช่วงนี้เทียวไปเทียวมา เพื่อมาพาพ่อรักษ์กลับเรือนตามสั่งของท่านเจ้าคุณ คราแรกพ่อรักษ์ก็จะยอมตามกลับไป แต่เป็นเพราะเจ้ากลิ่นบอกว่าเป็นความต้องการของบิดา ด้วยความเจ้าคิดเจ้าแค้นพ่อรักษ์จึงไม่ยอมกลับเรือนตามที่คิดไว้ “ ไม่เหนื่อยหรอกขอรับ แต่หากคุณรักษ์ยังมิยอมกลับเรือนเยี่ยงนี้ อีกไม่นานบ่าวอาจจะเหนื่อยก็ได้ขอรับ ” “ ดูพูดเข้าซีพ่อกลิ่น...หากพ่อกลิ่นเบื่อหน่ายข้าเสียแล้วเยี่ยงนี้อีกไม่นานข้าก็คงได้เป็นหมาหัวเน่าแน่ ” “ กล่าวเช่นนั้นได้อย่างไรขอรับ บ่าวรับใช้คุณรักษ์มาตั้งแต่จำความได้ บ่าวเคารพรักคุณรักษ์มากกว่าสิ่งใด แล้วเหตุใดบ่าวจะเบื่อหน่ายชีวิตที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ดูแลรับใช้คุณรักษ์ได้เล่าขอรับ ” พ่อรักษ์มองบ่าวด้วยสายตาอ่อนโยน แต่ไหนแต่ไรเจ้ากลิ่นไม่เคยจะปริปากแม้แต่น้อยว่าเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่ต้องคอยมาตามปรนนิบัติตนเอง

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เป็นเวรหรือกรรม

    ๙ เป็นเวรหรือกรรม “ เป็นเช่นไรบ้าง เอ็งเจ็บแผลมากหรือไม่ ” ไอ้จอมเอ่ยปากถามเจ้ากลิ่นที่ยังคงนอนคว่ำหน้าเพราะบาดแผลที่โดนโบยยังคงมีเลือดติดอยู่ เจ้ากลิ่นหันหน้ามามองคนที่ตนรักเหมือนพี่ชาย ที่สองวันมานี้เทียวแวะเวียนมาถามไถ่อยู่แทบจะทั้งวี่วัน “ เจ็บอยู่จ้ะพี่จอม แต่ไม่เท่าคราแรก ” “ เอ็งอยากได้กระไรก็บอกพี่นะกลิ่น พี่เอามาให้เอง ” “ ฉันขอบใจพี่มากนะจ๊ะพี่จอม แต่แม่คอยหามาให้ฉันไม่ได้ขาดกระไร อีกอย่างงานพี่จอมก็มากโขอยู่ไม่ต้องห่วงฉันหรอกจ้ะพี่จอม ” " จะไม่ให้ห่วงเอ็งได้ยังไง ดูตัวเอ็งสิเล็กกระจ้อยร่อยเพียงนี้ ลมพัดก็แทบจะปลิวไปตามแรงลมเสียกระมัง ” “ พี่ก็พูดเกินไปพี่จอม ฉันไม่ได้อ่อนแอเยี่ยงนั้นเสียหน่อย ” “ เอาเถิด ๆ นอนพักเสียจะได้หายไว ๆ หายแล้วพี่จะพาเอ็งไปกินขนม ” “ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่จอม ” “ ฮะ ๆ ๆ พี่ไปก่อนนะ นอนเสียเถิด ” ไอ้จอมลูบหัวน้องด้วยความรักใคร่ รอยยิ้มใจดีมอบให้กับเจ้ากลิ่นที่ทำหน้าบึ้งตึงที่โดนมองว่ายังเป็นเด็กน้อยตัวเล็กในสายตาของคนอื่น

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เจ็บกายแต่เต็มใจ

    ๘ เจ็บกายแต่เต็มใจ เปลือกตาดำคล้ำค่อย ๆ เปิดขึ้นมาพร้อมกับความปวดร้าวไปทั่วตัว ดวงตาดำหรี่มองบุคคลข้าง ๆ ที่ดูเลือนรางไปหมด “ คุณรักษ์ขอรับ... ” เสียงเจ้ากลิ่นทำให้พ่อรักษ์แค่นยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเพ่งมองไปยังใบหน้าขาวของบ่าวจนมองเห็นชัดในสายตาของตนเอง “ ดูทำหน้าเข้าซีพ่อกลิ่น ข้ายังไม่ได้ตายเสียหน่อย ” “ คุณรักษ์อย่าพูดเช่นนี้สิขอรับ มันเป็นลางไม่ดีนะขอรับ ” “ แล้วนี่ใครเป็นคนพาข้ากลับมาที่เรือนหรือพ่อกลิ่น ” “ พี่จอมกับลุงมาดขอรับ ” “ แล้วพ่อข้ารู้เรื่องหรือไม่พ่อกลิ่น ” เจ้ากลิ่นพยักหน้าเบา ๆ ด้วยแววตาเป็นห่วง ก่อนที่หัวทุยของมันจะโดนมือกร้านลูบเพื่อให้คลายกังวล “ ไม่ต้องห่วงข้าดอกพ่อกลิ่น...แล้วนี่พ่อกลิ่นมาเฝ้าข้าตั้งแต่เมื่อใดกัน ” “ เมื่อคืนขอรับ พอมีคนมาแจ้งข่าวท่านเจ้าคุณก็สั่งให้บ่าวในเรือนไปพาคุณรักษ์มาที่เรือนขอรับ ท่านเจ้าคุณให้หมอยามาดูคุณรักษ์แล้วก็ให้กินยาให้หมดสามวันขอรับ แล้วนี่คุณรักษ์หิวหรือยังขอรับ ” “ หิวแล้วซีพ่อก

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เบญจมาศในหมู่ภมร

    ๗ เบญจมาศในหมู่ภมร “ พี่ชายเจ้าไม่มากินข้าวอีกแล้วหรือแม่รำพึง ” ท่านเจ้าคุณเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบุตรชายไม่อยู่กินข้าวเช้ามาหลายวัน คิ้วหนาแซมขาวขมวดมุ่นจนคนนั่งร่วมสำรับอึดอัด “ รับข้าวเถิดเจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ” แม่พุดตานเอ่ยเสียงเรียบ มือเรียวตักข้าวใส่จานของท่านเจ้าคุณ “ นังจวงไปตามพ่อรักษ์มา ” “ จะ...เจ้าค่ะ ” นังจวงสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงที่ปนไปด้วยความโกรธส่งตรงมาที่ตน มันตอบรับคำสั่งรีบวิ่งไปตามพ่อรักษ์ที่เรือนบ่าว “ เรียกข้ามีกระไรหรือขอรับคุณพ่อ ” พ่อรักษ์ขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใช้หางตาปรายมองหญิงสาวสองคนที่นั่งร่วมสำรับอย่างไม่ชอบใจ “ นั่งลง ” “ คุณพ่อแจ้งมาได้เลยขอรับว่ามีกระไรกับข้า ” “ กูบอกให้มึงนั่งลงไอ้รักษ์ ” “ หากคุณพ่อไม่มีกระไรเพียงแต่อยากเรียกข้ามาให้ร่วมสำรับกับครอบครัวของคุณพ่อ ข้าไม่ต้องการขอรับ ข้ากินข้าวที่เรือนบ่าวกับแม่ปรุงอิ่มแล้วขอรับ ” “ ไอ้ลูกไม่รักดี มึงเห็นบ่าวดีกว่ากูที่เป็นพ่อของมึงเชียวรึไอ้

  • ซ่อนกลิ่นรัก   อวลกลิ่นพุดตาน

    ๖ อวลกลิ่นพุดตาน “ แม่พุดตานนอนห้องนี้เถิด ประเดี๋ยวข้าจะให้บ่าวมันช่วยขนข้าวของมาไว้ให้เสียบนเรือน ” “ เจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ” “ ต่อจากนี้ข้าก็ขอฝากเรือนนี้ไว้ให้แม่พุดตานดูแลแทนข้าทีนะ ส่วนเรื่องเมื่อครู่ก็อย่าได้ถือสามันเลยอยู่ให้สบายใจเถิด ” “ เจ้าค่ะ... ” “ พักผ่อนเสียเถิดวันนี้ข้าต้องเข้าวัง มีกระไรก็เรียกบ่าวในเรือน หรือแม่รำพึงให้มาพูดคุยเป็นเพื่อนเสียก็ได้ ” “ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ” ท่านเจ้าคุณวรจิตรมองดูหญิงสาวที่ยืนหน้าเรียบเฉยอยู่ แววตาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกภายในใจของเจ้าหล่อนได้เลย ก่อนที่ท่านเจ้าคุณจะเดินออกไปเรียกไอ้มาดให้ไปเตรียมตัวเข้าวัง แม่พุดตานมองตามหลังผัวหมาด ๆ ของตนเองด้วยแววตาเศร้าสร้อย “ อย่าร้องไห้ไปเลยเจ้าค่ะ เป็นเมียท่านเจ้าคุณวรจิตรอย่างไรเสียก็มีหน้ามีตานะเจ้าคะ ” แม่พุดตานใช้นิ้วเรียวปาดหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ หันกลับมามองบ่าวรับใช้ร่างท้วมที่ยืนมองอยู่ด้านหลังมาพักใหญ่ “ ได้ผัวคราวพ่อนี่น่ะหรือป้าผัน สู้อยู่เป็นสาวเทื้อคาเรือนมิดีกว่าหรือจ๊ะ ”

  • ซ่อนกลิ่นรัก   สบดวงเนตร

    ๕ สบดวงเนตร สามสี่วันมานี้พ่อรักษ์อยู่ติดเรือนอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดเห็นมาก่อน นั่นก็เป็นเพราะต้องคอยเทียวไปเทียวมาระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนบ่าวเพื่อคอยดูไม่ให้เจ้ากลิ่นลุกขึ้นมาทำงานตอนที่ร่างกายยังไม่หายดี ในขณะที่เจ้าคุณวรจิตรเองช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้กลับเรือน หรือหากกลับก็กลับมาเพียงเปลี่ยนผ้าผ่อนเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าเพลานี้ท่านเจ้าคุณวรจิตรต้องคอยวางแผนให้ทางท่านเจ้าเมืองกำราบเมืองประเทศราชที่มีข่าวแว่วมาว่ากำลังคิดกระด้างกระเดื่อง “ จะไปดูพี่กลิ่นที่เรือนหรือเจ้าคะคุณพี่ ” แม่รำพึงเอ่ยถามพี่ชายที่กำลังลงจากเรือน พ่อรักษ์หันมามองน้องสาวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ รำพึงชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่ชายมองมาด้วยความไม่พอใจ “ ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง... ” พ่อรักษ์เอ่ยกับน้องอย่างไม่ไยดี แม่รำพึงดวงตาร้อนผ่าวเพราะความน้อยใจที่ตั้งแต่โตมาพี่ชายไม่เคยพูดจาดี ๆ ด้วยเลยสักครั้ง “ น้องแค่เห็นว่าหากคุณพี่ไปหาพี่กลิ่น น้องจะฝากข้าวต้มมัดที่น้องทำไปให้พี่กลิ่น แต่หากคุณพี่ไม่สะดวกน้องจะเอาไปให้พี่กลิ่นคราหลังก็ได้ค่ะ ”

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เข้มแข็งดุจผกากรอง

    ๔ เข้มแข็งดุจผกากรอง สองร่างกายเปลือยเปล่าบนตั่งนอนที่มีเบาะยัดนุ่นหุ้มด้วยผ้าพื้นสีแดง มือใหญ่ของพ่อรักษ์กอบกุมปทุมถันของนางกลางเมืองอย่าง “จำเรียน” ร่างอรชรค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนย่ำรุ่ง หลังผ่านค่ำคืนสวาทกับบุตรชายของท่านเจ้าคุณมีชื่อ ที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่ในวัยกลัดมันหรืออย่างไร จำเรียนจึงต้องปรนเปรอชายหนุ่มผู้นี้จนร่างกายบอบช้ำไปแทบทั้งตัว กว่าจะได้หลับตาพักก็ตอนที่แสงโคมสีแดงที่อยู่ในเรือนไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเรือนแห่งนี้ได้เวลาหลับไหล “ อือ.... ” เสียงครางในลำคอ พร้อมกระชับวงแขนแกร่งให้แน่นขึ้นจนจำเรียนต้องพยายามดันแขนไว้ “ คุณรักษ์เจ้าคะ ขอจำเรียนไปล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ” “ ล้างทำไมให้เปลืองเวลาไปเล่า อีกประเดี๋ยวข้าก็ทำให้เอ็งเหนียวตัวอีกรอบแล้ว เอ็งดูสิตัวของข้ามันต้องการเอ็งอีกรอบแล้วเห็นหรือไม่จำเรียน ” พ่อรักษ์ส่งสายตาหวานเยิ้มไปยังส่วนที่กำลังขยายใหญ่ตรงกลางลำตัว จำเรียนจ้องมองไปยังส่วนนั้น ก่อนที่ร่างบางจะโดนร่างแกร่งจับพลิกตัวลงกับเบาะนอน พร้อม ๆ กับบทเพลงบรร

  • ซ่อนกลิ่นรัก   มั่นคงดั่งทานตะวัน

    ๓ มั่นคงดั่งทานตะวัน “ พี่กลิ่นจ๊ะ คุณพี่ไปไหนแล้วหรือจ๊ะ ” คุณหนูรำพึงบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าคุณวรจิตร เติบโตมาเป็นสาวรุ่นอายุอานามก็เข้าปีที่สิบแล้ว หน้าตาก็สะสวยละม้ายคล้ายคลึงมารดาที่รำพึงเองก็จำหน้ามิได้ “ คุณรักษ์อยู่ที่ท้ายสวนขอรับคุณหนู ” เจ้ากลิ่นละมือจากการคัดดอกมะลิ มองไปยังหญิงสาวด้วยสายตาเอ็นดู “ คุณพี่คงดูชนไก่อีกสินะ แล้วนี่พี่กลิ่นไม่ไปดูบ้างหรือจ๊ะ เห็นมาช่วยรำพึงคัดแต่ดอกมะลิจะเบื่อเอานะ ” “ บ่าวไม่เบื่อหรอกขอรับคุณหนู บ่าวอยู่กงนี้ดีแล้วขอรับไปอยู่กับคุณรักษ์ตอนนี้บ่าวสงสารไก่ขอรับ ” “ พี่กลิ่นนี่ก็ช่างแปลกคน บ่าวผู้ชายคนอื่นก็ขลุกกันอยู่ที่ท้ายสวนกันทั้งนั้น มีก็แต่พี่กลิ่นนี่แหละหนาที่มาขลุกอยู่แต่กับรำพึง ระวังเถิดประเดี๋ยวคุณพี่เรียกหาไม่เจอจะโดนดุเอาเสียอีก ” “ คุณรักษ์ไม่ว่าบ่าวหรอกขอรับ เพราะคุณรักษ์เป็นคนไล่บ่าวให้กลับมาช่วยงานคุณหนูเองขอรับ ” “ คุณพี่น่ะหรือเป็นคนบอกให้พี่กลิ่นมาช่วยงานรำพึงที่เรือนนี้ ” “ ขอรับ คุณรักษ์เป็นคนพูดเองเลยขอร

  • ซ่อนกลิ่นรัก   ครั้นกลีบบุปผาโรย

    ๒ ครั้นกลีบบุปผาโรย กาลเวลาผ่านพ้นมาจนพ่อรักษ์อายุจวนจะครบเก้าขวบ เจ้ากลิ่นเองก็เติบโตมาเป็นเด็กชายสมวัย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเติบโตมากับบุตรชายของท่านเจ้าคุณหรืออย่างไร ผิวพรรณของลูกบ่าวผู้นี้ถึงได้ผุดผ่อง ผิดแผกจากลูกบ่าวคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเรือนเดียวกัน และด้วยความที่เจ้ากลิ่นนั้นเป็นเด็กไม่ดื้อไม่ซน คุณหญิงกลอยจึงเอ็นดูมันยิ่งนัก “ แค่ก ๆ ” เสียงไอแห้ง ๆ ดังมาจากคุณหญิงที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่ที่ศาลาข้างเรือนใหญ่ มือเรียวกำลังประคองท้องที่นูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว แต่ร่างกายกลับดูซูบผอมไม่เหมือนคนท้องใกล้คลอดแม้แต่น้อย “ ขึ้นเรือนดีหรือไม่เจ้าคะคุณหญิง บ่าวเห็นคุณหญิงไอถี่เหลือเกินเจ้าค่ะ ” “ พ่อรักษ์กับพ่อกลิ่นยังเล่นกันอยู่ ข้าไม่อยากห้ามลูกที่กำลังสนุก อีกอย่างข้าจะมีโอกาสได้ดูลูกเล่นได้เช่นนี้อีกนานไหมก็มิรู้ได้ ” “ คุณหญิงอย่าเอ่ยเช่นนี้สิเจ้าคะ กำลังท้องกำลังไส้อยู่นะเจ้าคะคุณหญิง ” เจ้าหล่อนไม่ได้เอ่ยกระไรตอบกลับ เพราะไม่มีผู้ใดรู้ดีไปกว่าตัวเองว่าร่างกายนั้นกำลัง

DMCA.com Protection Status