หน้าหลัก / LGBTQ+ / ซ่อนกลิ่นรัก / กลับเรือนกันเถิดขอรับ

แชร์

กลับเรือนกันเถิดขอรับ

ผู้เขียน: การัณย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-05 19:50:52

          ๑๑

          กลับเรือนกันเถิดขอรับ

          เช้านี้เจ้ากลิ่นตื่นแต่ไก่โห่ ใบหน้าแช่มชื่นฉาบไปด้วยรอยยิ้มเพราะนอนเต็มตื่นจนร่างกายเหมือนดอกไม้ยามเช้าที่ได้รับแสงแดดอุ่น

          “ แม่จ๋า วันนี้มีกระไรให้ฉันกินบ้างจ๊ะแม่ ”

          “ ก็น้ำพริกผักต้มนั่นแหละ อ้อ วันนี้ไอ้จอมได้ปลาดุกมาตัวโตเชียวแม่เลยว่าจะย่างมากินกับน้ำพริก ”

          “ พูดก็น้ำลายสอเสียแล้ว ใกล้เสร็จหรือยังจ๊ะแม่ ”

          “ รออีกประเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว เอ็งไปตามพี่เอ็งมากินข้าวไป ”

          “ จ้ะแม่ แล้วพี่จอมอยู่ไหนล่ะจ๊ะ ”

          “ เมื่อตะกี้แม่เห็นมันอยู่แถว ๆ สวนผักหลังเรือนนู่นน่ะ สงสัยคงจะตักน้ำรดผักอยู่เอ็งไปตามทีไป ”

          เจ้ากลิ่นเดินออกไปตามไอ้จอมตามที่แม่บอก สองเท้าก้าวไปเรื่อย ๆ จนมาถึงแปลงผักที่มีบ่าวไพร่สามสี่คนกำลังช่วยกันตักน้ำรดผักที่ปลูกไว้กินในเรือน หากเหลือกินท่านเจ้าคุณก็ให้เอาไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง

          “ พี่จอม...พี่จอม แม่ให้มาตามไปกินข้าวจ้ะพี่ ”

          เสียงตะโกนเรียกของเจ้ากลิ่นทำให้ไอ้จอมชะงัก เหตุการณ์เมื่อคืนที่ไอ้จอมได้เผลอเอาน้องชายไปคิดเรื่องสัปดนนั้นทำให้ไอ้จอมไม่กล้าแม้จะเอ่ยกับร่างบางที่ยืนอยู่ห่างออกไป

          “ พี่จอมได้ยินฉันไหมจ๊ะพี่ แม่บอกให้ฉันมาตามพี่ไปกินข้าวจ้ะ ”

          “ ข้าได้ยินแล้วเอ็งไปก่อนเลย บอกป้าปรุงว่าข้ายังไม่หิว ”

          “ ได้อย่างไรเล่าพี่จอม ปลาดุกย่างที่พี่เอามาเลยหนา มากินพร้อมกันนี่แหละพี่ กินหลายคนเจริญอาหารดีจะตาย ”

          เจ้ากลิ่นพูดพร้อมกับเดินมาลากไอ้จอมให้ออกมาจากแปลงผัก ด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนทำให้ไอ้จอมดึงท่อนแขนออกจากการจับของเจ้ากลิ่น

          “ พอดีตัวข้าเหนียวเหงื่อน่ะ เอ็งเดินไปก่อนเลยประเดี๋ยวข้าไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วตามไป ”

          “ จ้ะพี่จอม รีบตามมานะจ๊ะพี่ ”

          เจ้ากลิ่นกำชับไอ้จอมก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับไปทางเก่าที่เดินมา ไอ้จอมได้แต่มองตามแผ่นหลังบางได้แต่ทอดถอนใจอย่างไม่รู้ว่าต้องจัดการกับความรู้สึกผิดของตนเองอย่างไร

          “ อิ่มแล้วหรือจ๊ะพี่จอม ”

          “ อิ่มแล้ววันนี้ข้าไม่ค่อยหิว ป้าปรุงฉันไปทำงานต่อก่อนนะป้า ”

          ไอ้จอมเอ่ยบอกก่อนจะล้างมือในชามสังกะสีที่อยู่ข้างตัว แววตาเฉยชาจนเจ้ากลิ่นเองมองตามร่างของพี่ชายด้วยความฉงนในใจ มันเองก็ได้รีบล้างมือของตนก่อนจะรีบลุกแล้ววิ่งตามไอ้จอมไป

          “ พี่จอมจ๊ะ พี่จอม ”

          “ เอ็งมีกระไร ข้าจะรีบไปทำงาน ”

          “ ยังเหลืองานอีกหรือจ๊ะพี่ ”

          “ เอ็งมีกระไร ”

          ไอ้จอมเมื่อเห็นน้องชายทำหน้าจ๋อย ๆ ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

          “ ฉันเห็นว่าพี่เป็นห่วงเรื่องที่ฉันจะไปตามคุณรักษ์ที่ตลาดวังหว้า ก็เลยคิดว่าฉันจะชวนพี่ไปด้วยกันน่ะจ้ะ ”

          “ ข้าไปกับเอ็งมิได้ดอก งานการข้ายังเหลืออีกมากโข ”

          ไอ้จอมตอบเสียงเครียด แม้ในใจอยากจะตอบตกลง แต่เพราะความรู้สึกกระอักกระอ่วนจากเหตุการณ์ที่ตนได้ทำไปเมื่อคืน มันทำให้มันมองหน้าเจ้ากลิ่นได้ไม่สนิทใจเหมือนแต่ก่อน

          “ เช่นนั้นฉันไปคนเดียวก็ได้จ้ะพี่ ”

          เจ้ากลิ่นตอบเสียงอ่อย ๆ ก่อนจะเดินออกไปทางท่าที่จอดเรือหน้าเรือนดังเช่นทุกวัน

          ตลาดวังหว้าวันนี้ดูจะเงียบเหงากว่าทุก ๆ วันที่ผ่านมา ผู้คนที่เคยพลุกพล่านเดินกันให้ทั่วตลาด แต่บัดนี้กลับดูบางตาอย่างเห็นได้ชัด เจ้ากลิ่นรีบสาวเท้าให้ยาวกว่าเดิมจนถึงเรือนไม้ที่มาประจำ

          “ มาอีกแล้วรึไอ้กลิ่น ”

          “ จ๊ะป้า คุณรักษ์อยู่ข้างในหรือไม่จ๊ะป้า ”

          เจ้ากลิ่นเอ่ยถามกับเจ้าของเรือนที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับมันเสียแล้ว

          “ ก็อยู่กับอีจำเรียนนั่นแหละ เห็นทีว่าวันนี้เอ็งได้รอเก้ออยู่กงนี้อีกนั่นแล้ว คุณรักษ์เรียกอีจำเรียนเข้าไปรับใช้จนเสียงดังลั่นเชียว ”

          “ หรือจ๊ะป้า ”

          “ ก็เออสิวะ นายเอ็งวัน ๆ ก็ขลุกอยู่กับอีจำเรียนดูท่าจะติดอกติดใจรสสวาทอีจำเรียนมากเลยทีเดียว ”

          “ ... ”

          เจ้ากลิ่นได้แต่ยิ้มส่งให้ด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบในทรวงอก แต่เพราะนั่นคือความสุขของคนเป็นนาย มันจึงต้องแบกรับความรู้สึกอัดอั้นแบบนี้ไปอย่างจำใจ

          “ คุณรักษ์เจ้าขา... ”

          เสียงหวานของจำเรียนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของคุณรักษ์ เนื้อตัวเปลือยเปล่าของทั้งคู่แนบชิดอยู่บนที่นอนอันยับย่นจากสัมผัสสวาทที่ผ่านมาไม่นาน

          “ มือเอ็งนี่ซนไม่เข้าเรื่องนะจำเรียน ”

          พ่อรักษ์เอ่ยขึ้นก่อนจะมองเชื่อมไปยังดวงตาของอีกฝ่ายที่มือเรียวนั้นกำลังเล่นวนอยู่กับอาวุธประจำกายของตนเองจนมันเริ่มกลับมาพองตัวอีกครา

          “ คุณพระคุณเจ้า นี่คุณรักษ์ต้องการอีกแล้วหรือเจ้าคะ ”

          “ ก็ไม่เป็นเพราะเอ็งดอกรึที่ทำให้มันเป็นเช่นนี้ ”

          “ ก็คุณรักษ์ช่างช่ำชองเหลือเกินนี่เจ้าคะ อีกอย่างคุณรักษ์รูปก็งามแถมยังหนุ่มยังแน่นกว่าใครคนอื่นที่จำเรียนเคยรับใช้ ”

          “ เอ็งจะบอกว่าข้าทำให้เอ็งพอใจงั้นรึ ”

          “ แล้วหากจำเรียนบอกว่าใช่เล่าเจ้าคะ คุณรักษ์จะสนองให้จำเรียนได้อีกหรือไม่เจ้าคะ ”

          “ เอ็งพูดมาเยี่ยงนี้แล้ว ข้าจะขัดใจเอ็งได้เยี่ยงไร มิหนำซ้ำข้าก็ยังหนุ่มยังแน่นแบบที่เอ็งว่า มีรึจะสนองเอ็งไม่ได้ อย่าว่าแต่รอบเดียวเลยวันนี้ทั้งวันข้าจะทำให้เอ็งหมดแรงจนทำกระไรต่อไม่ได้เลย ”

          พ่อรักษ์พลิกตัวคร่อมนังจำเรียน ก่อนจะกดจูบไปที่ซอกคอขาว มือหนาบีบเค้นไปที่ปทุมถันอันเต็มไม้เต็มมือของร่างที่อยู่ใต้อาณัติ เมื่อครานี้ไม่ใช่คราแรกของวันความพร้อมของนังจำเรียนจึงทำให้พ่อรักษ์กดอาวุธขนาดเขื่องของตนเข้าสู่วังวนของกามารมทันที

          “ คุณรักษ์เจ้าขา...อ๊าาา... ”

          ตะวันที่เคยสาดแสงจ้ากำลังทอประกายเรื่อ ๆ เมื่อเพลาเลื่อนผ่านมาเย็นย่ำ อากาศที่ร้อนระอุกำลังแปรเปลี่ยนจนคนที่นั่งรออยู่หน้าเรือนโคมแดงตั้งแต่ช่วงเช้านั้นสะดุ้งตัวโยนเมื่อหัวของตนเองแทบจะทิ่มลงพื้นเสียแล้วเพราะอาการง่วงงัน

          “ กลับเรือนไปเสียเถิดไอ้กลิ่นเอ๊ย...คุณรักษ์เอ็งท่านคงยังไม่กลับเรือนเสียวันนี้หรอกว่ะ ”

          เจ้าของเรือนเดินออกมาเอ่ยกับบ่าวในเรือนของท่านเจ้าคุณมีชื่อด้วยความสมเพช

          “ คุณรักษ์ยังไม่ออกมาอีกหรือจ๊ะป้า ”

          “ เฮ้อ เอ็งนี่ก็นะนายเอ็งไม่เคยแม้แต่จะแยแสเอ็งสักนิด เอ็งก็ยังรออยู่จนเย็นย่ำเอ็งไม่เบื่อบ้างรึ ”

          “ จะเบื่อได้อย่างไรจ๊ะป้า คุณรักษ์ดีกับข้าเพียงนี้ ข้าก็ไม่อยากเห็นนายของข้าออกมาตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกหรอกจ้ะป้า ”

          “ ลำบากรึ นายเอ็งหรือเอ็งกันแน่ที่ลำบาก ข้าเห็นนายเอ็งก็สบายดีไม่ทุกข์ไม่ยากกระไร จะมีก็แต่เอ็งนี่แหละที่ลำบากลำบนเทียวไปเทียวมาจากเรือนมาที่ตลาดวังหว้านี่ไม่เว้นวัน ”

          “ คุณรักษ์จะสบายดีได้อย่างไรจ๊ะป้า อยู่นอกเรือนเช่นนี้ความสบายจะเหมือนกับอยู่ในเรือนได้อย่างไร ”

          “ ข้าไม่เถียงกับเอ็งแล้ว ไป ๆ กลับเรือนไปเสียจะมืดจะค่ำแล้วไป๊ ”

          เจ้ากลิ่นชะเง้อหน้ามองไปในเรือนที่เจ้านายกำลังอยู่ด้ายใน แม้ภายในใจจะมิได้ต้องการกลับแต่ในเมื่ออยู่ต่อก็ไม่ได้มีประโยชน์กระไร มันจึงได้แต่เดินคอตกกลับออกไป แต่เพียงไม่กี่ก้าวสายตาของเจ้ากลิ่นก็สบเข้ากับสายตาดุดันของเจ้าเชิดที่เดินมากับพรรคพวก แววตาที่ส่งมาดูเกรี้ยวกราดและดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

          “ มึงจะไปไหน ”

          เสียงตะคอกดังไปทั่วบริเวณ จนชาวบ้านที่เดินอยู่แถว ๆ นั้นหันกลับมามอง

          “ ฉันกำลังจะกลับเรือนจ้ะ ”

          “ แล้วนายมึงเล่า มิกลับไปกับมึงด้วยดอกรึ ”

          “ คุณรักษ์ท่านยังไม่กลับจ้ะพี่ หากพี่ไม่มีกระไรแล้วฉันขอตัวกลับเรือนก่อนนะจ๊ะ ”

          เจ้ากลิ่นเดินเบี่ยงตัวเพื่อจะเดินกลับออกไป แต่ไอ้เชิดก็เข้ามาขวางทางไว้ไม่ให้เจ้ากลิ่นเดินกลับไปอย่างง่าย ๆ

          “ พี่มีกระไรกับฉันอีกหรือจ๊ะ ”

          “ มีน่ะมีแน่ แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับมึงดอก มันเกี่ยวกับนายของมึง ”

          “ พี่อย่าทำกระไรคุณรักษ์เลยนะจ๊ะพี่ ”

          เมื่อไอ้เชิดกล่าวถึงนายของมัน สีหน้าที่เป็นกังวลอยู่แล้วของเจ้ากลิ่นก็ดูจะเคร่งเครียดมากกว่าเดิม

          “ มึงคิดว่ากูจะทำกระไรนายมึงได้งั้นรึ ”

          “ หากเป็นเช่นนั้นแล้วก็ให้ฉันกลับเรือนเถิดจ้ะพี่ นี่ก็ใกล้จะมืดค่ำแล้วด้วยจ้ะ ”

          “ มึงจะไปไหน ถึงแม้มึงจะไม่เกี่ยวแต่มึงก็เป็นขี้ข้าของไอ้รักษ์ กูรู้มาว่านายมึงรักมึงเหมือนน้องแท้ ๆ มิใช่รึ ”

          “ ไม่หรอกจ้ะพี่ ปล่อยฉันเถิดจ้ะพี่ ”

          เจ้ากลิ่นขัดขืนท่อนแขนแกร่งของลูกน้องไอ้เชิดที่เดินมาจับท่อนแขนของมันจนขึ้นรอยแดง

          “ ในเมื่อนายมึงเอาอีจำเรียนไป นายมึงมันชอบมายุ่งกับของรักของกู กูก็จะทำลายของรักของมันบ้าง ”

          พูดจบไอ้เชิดก็ย่างสามขุมเข้ามายังเจ้ากลิ่นที่กำลังใช้กำลังที่มันมีเอาตัวรอด

          พลั่ก

          หมัดลุ่น ๆ จากคนตัวใหญ่กว่าเจ้ากลิ่นมากโข กระหน่ำลงบนกลางลำตัวของมันจนตัวงอ น้ำหูน้ำตาไหลออกมาเพราะความเจ็บจุก ท่อนแขนที่โดนรั้งไว้ไม่ให้มันล้มลงไปกองกับพื้นนั้นยิ่งถูกกระชับให้แน่นขึ้นเพื่อรอรับแรงจากกำปั้นของไอ้เชิด

          “ พวกมึงมองกระไรไม่ใช่เรื่องของพวกมึง อย่าได้มีใครหน้าไหนเข้ามาสอดเชียว คราที่แล้วกูยังมิได้ชำระความกับไอ้พวกชอบสอดเลย จะไปไหนก็ไป ”

          ไอ้เชิดหันไปตวาดชาวบ้านที่เดินมองพวกมันอย่างเกรี้ยวกราด

           พลั่ก

          “ โอ๊ย...อัก ”

          เจ้ากลิ่นไม่รู้ว่ามันโดนพวกไอ้เชิดทำกระไรกับมันบ้าง เพราะความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วกายทำให้มันอยากที่จะหลับใหลไปเสียให้พ้นจากการโดนกระทำ

          สติที่เหลือเพียงน้อยนิดของเจ้ากลิ่น ไม่ได้นึกถึงตนเองเลยแม้แต่น้อย ในรอบหลายวันที่เจ้ากลิ่นมาตามนายของมันให้กลับเรือน วันนี้เป็นเพียงวันเดียวที่มันต้องการให้นายของมันอยู่แต่ในเรือนโคมแดงนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องออกมาประสบพบเจอกับเหตุการณ์แบบที่มันกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

          “ คุณรักษ์เจ้าคะ คุณรักษ์!!! ”

          เสียงโหวกเหวกดังลั่นมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าวิ่งโครมครามเข้ามาบริเวณห้องที่คุณรักษ์กับนังจำเรียนนอนพักผ่อนอยู่

          “ มีกระไรหรือจ๊ะป้าเสียงดังเชียว คุณรักษ์กำลังนอนอยู่จ้ะ ”

          “ ก็ไอ้กลิ่นบ่าวคุณรักษ์น่ะสิ โดนพวกไอ้เชิดตีจนเจียนจะตายแล้วเอ็งเข้าไปบอกคุณรักษ์ทีไป๊ ”

          “ จ้ะป้า ”

          นังจำเรียนขมวดคิ้วมุ่นทันทีก่อนจะปิดประตูแล้วหันหลังกลับมามองร่างกำยำที่นอนหลับด้วยความเหนื่อยจากกิจกามที่ทำกับมันเมื่อครู่

          “ มึงมันมารคอหอยจริง ๆ นะไอ้กลิ่น โดนตีนไอ้เชิดตาย ๆ ไปซะได้ยิ่งดี ”

          นังจำเรียนพูดกับตัวเองขณะที่ร่างบางค่อย ๆ หย่อนตัวลงนอนข้างพ่อรักษ์ที่มันดูท่าจะมีจิตเสน่หาด้วยเพราะรสกามที่พ่อรักษ์จัดให้มันนั้นล้ำลึกและเร่าร้อนเพียงใด มิหนำซ้ำหน้าตารึก็หล่อเหลายิ่งกว่าพวกตาเฒ่ามักมากหลายเท่านัก

          “ มีกระไรรึ เสียงเอะอะมะเทิ่งเชียว ”

          “ ไม่มีกระไรหรอกเจ้าค่ะคุณรักษ์ นักเลงตีกันประจำนั่นแหละเจ้าค่ะ คุณรักษ์พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะตื่นมาอีกคราจำเรียนจะสนองคุณรักษ์ให้ชื่นอกชื่นใจนะเจ้าคะ ”

          “ เอ็งนี่มันรู้ใจข้าจริงเชียว ”

          พ่อรักษ์คว้าร่างบางมาไว้ในอ้อมกอด แขนเรียวของจำเรียนลูบไล้ไปตามลอนสวยบนหน้าท้องของชายหนุ่ม ก่อนมือเล็กจะกอบกุมส่วนแข็งแกร่งของพ่อรักษ์ดังตนเองเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว

          “ พอแล้วพี่เชิด เดี๋ยวมันก็ตายห่ากันพอดีพี่ ”

          เสียงลูกน้องของเจ้าเชิดที่ตะโกนบอกไอ้เชิดที่ตอนนี้กำลังเลือดขึ้นหน้าไม่ฟังใคร ดวงตาแข็งกร้าวของมันมองดูร่างขาวเนียนของเจ้ากลิ่นที่ทั่วทั้งร่างของมันถูกโชลมไปด้วยเลือดและบาดแผล

          “ ปล่อยกู ฮึ้ย...ถุย ”

          ไอ้เชิดสะบัดตัวเองให้ออกจากการฉุดรั้งของลูกน้อง ถ่มน้ำลายไปบนร่างกายที่นอนสลบไม่ได้สติของเจ้ากลิ่นด้วยอารมณ์โทสะ ก่อนที่มันจะใช้สายตามองไปรอบ ๆ ที่ตอนนี้แสงพระอาทิตย์รอบตัวนั้นหายไปหมดแล้วถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดที่มีเพียงแสงตะเกียงส่องมารำไร

           “ พวกมึงฟังกูให้ดีหากมีอ้ายอีตัวใดช่วยมัน หากกูรู้พวกมึงไม่ตายดีแน่ ”

          น้ำเสียงและดวงตาที่มีแต่ความดุดันของไอ้เชิดที่เปล่งออกมาทำให้ผู้คนที่ได้ยินไม่กล้าแม้แต่จะมองไปยังต้นเสียงด้วยซ้ำ ได้แต่ก้มหน้าเวทนาเจ้ากลิ่นที่นอนคลุกดินคลุกฝุ่นอยู่อย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีผู้ใดกล้าที่จะย่างกรายเข้าไปดูเจ้ากลิ่นแม้สักนิดว่ามันจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง

          อรุณรุ่งฉายแสงยามเช้า อากาศดูช่างเย็นยะเยือก เพราะเมื่อคืนมีฝนปรอยเม็ดลงมาเบา ๆ ร่างหนาที่ปกติจะตื่นตอนตะวันแยงตาไปแล้ว แต่วันนี้กลับตื่นมาเสียตั้งแต่ไก่โห่ ความรู้สึกแปลก ๆ กระไรบางอย่างฉุดรั้งเปลือกตาให้ลืมขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ มือกร้านของพ่อรักษ์ค่อย ๆ เอาท่อนแขนเล็กของนังจำเรียนที่นอนเปลือยเปล่าให้ออกจากร่างท่อนบนของตน พ่อรักษ์จำไม่ได้เสียแล้วว่าเมื่อวานนี้เสียแรงไปกับแม่จำเรียนเท่าใด รู้แต่เพียงว่าตนเองอยู่กับจำเรียนจนลืมไปเสียขนัดว่าปกติบ่าวข้างกายจะมาหาเพื่อตามกลับเรือนในทุก ๆ วัน

          พ่อรักษ์เดินออกมาจากห้อง เอาน้ำลูบหน้าลูบตาให้สดชื่น ก่อนจะก้าวเท้าออกมาจากเรือนโคมแดงอันเหมือนจะเป็นอีกเรือนของตนเสียแล้ว

          เมื่อก้าวเท้ายังไม่ทันพ้นหน้าประตูเรือนโคมแดง พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับกลุ่มก้อนอะไรบางอย่างที่ดูแสนจะคุ้นเคยเข้า พ่อรักษ์รีบก้าวเดินเข้าไปหาในทันที ดวงตาสีนิลสั่นสะท้านในทันทีเมื่อเห็นใบหน้านวลที่ตอนนี้ปูดบวมไปทั่ว

          “ พ่อกลิ่น ๆ ๆ... ”

          พ่อรักษ์ระล่ำระลักเรียกชื่อบ่าวคนสนิท ดวงตาเป็นกังวลจนเห็นได้ชัด ท่อนแขนแกร่งยกตัวบ่าวมาไว้ในอ้อมกอดก่อนที่จะอุ้มร่างอันไร้สติของเจ้ากลิ่นรีบวิ่งออกไปทางท่าเรือที่อยู่ห่างออกไป

          ในใจของพ่อรักษ์ตอนนี้ไม่ได้คิดสิ่งใดอีกนอกจากตนเองต้องรีบพาเจ้ากลิ่นไปโรงหมอให้ไวที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำได้

          “ พ่อกลิ่น ๆ ๆ เจ้าอย่าเป็นกระไรนะพ่อกลิ่น ”

          วิ่งไปก็พยายามส่งเสียงเรียกเจ้ากลิ่นประหนึ่งว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้จะไม่ยอมตื่นขึ้นมาฟังกระไรอีกเสียแล้ว

          “ อย่าเป็นกระไรไปนะพ่อกลิ่น ตื่นขึ้นมาคุยกับข้าก่อนพ่อกลิ่น.... ”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ซ่อนกลิ่นรัก   แสนห่วงใย

    ๑๒ แสนห่วงใย “ พ่อหมอๆ !!! ” เสียงตะโกนลั่นโรงหมอตั้งแต่ก่อนที่ร่างกำยำจะอุ้มร่างอันไร้สติของเจ้ากลิ่นเข้ามาถึงด้านในโรงหมอเสียอีก “ ใจเย็น ๆ เจ้าค่ะ เอ็งไปตามหมอยามาประเดี๋ยวนี้ ” สาวใหญ่ร่างท้วมเอ่ยบอกกับบ่าวที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อนที่ตนเองจะรีบพาพ่อรักษ์ให้อุ้มเจ้ากลิ่นมาวางที่เตียงไม้ มืออวบจับพลิกเนื้อตัวดูทันทีที่พ่อรักษ์วางเจ้ากลิ่นลง “ มิเป็นกระไรมากดอกเจ้าค่ะ อย่าได้เป็นกังวลใจนะเจ้าคะ ” “ หากมิเป็นกระไร เหตุใดพ่อกลิ่นถึงไม่ได้ตื่นขึ้นมาเล่า เอ็งรีบไปตามท่านหมอมาประเดี๋ยวนี้ ” “ ข้าให้บ่าวไปตามให้แล้วเจ้าค่ะ อีกประเดี๋ยวก็น่าจะถึงแล้วเจ้าค่ะ ขอคุณท่านโปรดสงบจิตสงบใจด้วยเจ้าค่ะ โรงหมอยังมีผู้ป่วยไข้อื่นอยู่ด้วยนะเจ้าคะ ” ถึงแม้จะดูต่ำศักดิ์กว่าพ่อรักษ์ แต่เพราะหญิงตรงหน้ามีแววตาและท่าทางน่าไว้ใจ พ่อรักษ์จึงได้แต่เก็บกลั้นความกังวลใจเอาไว้เพราะไม่อยากให้ไปกระทบถึงผู้อื่น รออยู่ครู่ใหญ่ท่านหมอก็มาตรวจเจ้ากลิ่นที่ยังไม่ได้สติ ก่อนจะหันไปสั่งให้บ่าวในเรือนต้มยาตามที่ตนเองสั่ง แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ซ่อนกลิ่นรัก   สายตาอันน่ารังเกียจ

    ๑๓ สายตาอันน่ารังเกียจ ค่ำคืนอันแสนยาวนานกำลังผ่านเข้ามา พ่อรักษ์นั่งอยู่ข้าง ๆ ร่างบางอันบอบช้ำที่ยังคงนอนไม่ได้สติ หน้าผากมนนั้นมีเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมดเพราะพิษไข้ ผ้าเนื้อดีที่พ่อรักษ์ให้บ่าวหามาถูกชุบน้ำไม่รู้เป็นคราที่เท่าไหร่แล้ว มันถูกบรรจงซับเอาพิษไข้ออกจากร่างกายของเจ้ากลิ่น “ รีบตื่นเสียเถิดหนาพ่อกลิ่น พี่เป็นห่วงเจ้าเหลือเกินแล้ว ” ร่างกำยำในเงามืดที่มีเพียงแสงตะเกียงตกกระทบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใย มือกร้านกอบกุมมืออันบอบช้ำไว้เบา ๆ ดั่งว่าหากสัมผัสแรงกว่านี้มือนี้จะมลายหายไปเสียอย่างนั้น “ อื้อ... ” เสียงครางเบา ๆ ทำให้พ่อรักษ์รีบยืดตัวขึ้นมาดูเจ้ากลิ่นที่ขยับตัวเพราะความเจ็บปวดไปทั่วกาย “ พ่อกลิ่นเป็นเช่นไรบ้าง เจ็บกงไหนอีกหรือไม่ ” พ่อรักรีบถามทันทีที่เปลือกตาของเจ้ากลิ่นเปิดขึ้น เจ้ากลิ่นมองไปที่นายของมันด้วยดวงตาที่ห่วงใย มือเล็กของมันที่เต็มไปด้วยรอยแผลเอื้อมไปสัมผัสมือของนายตนเองพลางละล่ำละลักถาม “ คุณ...รักษ์เป็นกระไรหรือไม่ขอรับ เจ็บกงไหนมั้ยขอรับ ” “ พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ซ่อนกลิ่นรัก   หวงมีนัยยะมากกว่าห่วง (๑)

    ๑๔ หวงมีนัยยะมากกว่าห่วง (๑) หลังจากรับข้าวเช้ากับท่านเจ้าคุณพร้อม ๆ ความอึดอัดในสายตาเย้ายวนของแม่พุดตานที่ลอบมองตนเองตลอดช่วงที่กินข้าวด้วยกัน ถึงแม้ว่าในใจอยากตะโกนออกมาดัง ๆ ว่ารังเกียจมากขนาดไหน แต่เป็นเพราะไม่ได้ต้องการที่จะก่อปัญหาซ้ำให้เสียบรรยากาศ พ่อรักษ์จึงจำต้องนั่งกินข้าวร่วมกับเจ้าของสายตาอันน่ารังเกียจนี้ต่อไป และถึงแม้จะมีกระไรมาทำให้ขุ่นข้องหมองใจ แต่พ่อรักษ์ก็อดไม่ได้ที่จะมาลอบ ๆ มอง ๆ แถวเรือนบ่าว ร่างสูงชะเง้อมองเข้าไปในเรือนหวังเพียงว่าจะเห็นเพียงเสี้ยวหน้าของคนที่ตนเองนั้นห่วงใยเพียงครู่เดียวก็จะกลับเรือน แต่เฝ้ามองแล้วเฝ้ามองอีกก็ไม่เห็นแม้แต่เพียงเงา “ คุณรักษ์กลับเรือนไปเถิดขอรับ ไอ้กลิ่นมันกินยานอนไปแล้วขอรับ คุณรักษ์มาก็ช่วยกระไรมันไม่ได้หรอกขอรับ ” น้ำเสียงยียวนกวนโทสะของไอ้จอมดังขึ้นด้านหลัง พ่อรักษ์หันไปมองตามเสียงก่อนยืดตัวตรงเต็มความสูงของตนเอง “ กูเป็นเจ้าของเรือนกูจะไปจะมาไม่เห็นจำเป็นต้องให้ขี้ข้าอย่างมึงมาสั่งกูไอ้จอม ” “ ใช่ขอรับ เพราะคนอย่างพวกข้ามันก็เป็นได้แค่ขี้ข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ซ่อนกลิ่นรัก   หวงมีนัยยะมากกว่าห่วง (๒)

    ๑๕ หวงมีนัยยะมากกว่าห่วง (๒) “ คุณรักษ์ขอรับวันนี้จะรับข้าวที่เรือนนอนหรือที่เรือนใหญ่ดีขอรับ บ่าวจะได้แจ้งไปที่เรือนใหญ่ขอรับ ” เจ้ากลิ่นเอ่ยถามเมื่อรับอ่างกระเบื้องลายสวยที่ด้านในบรรจุน้ำสะอาดจากบ่าวบนเรือนมาให้นายของมันล้างหน้าล้างตาแต่เช้าตรู่ “ รับที่เรือนนี้นี่แหละพ่อกลิ่น หากไปที่เรือนใหญ่วันนี้เกรงว่าจะเสียเพลา พี่กะว่าจะไปดูซื้อของที่จะใช้ในการเรียนเสียหน่อย ” “ เช่นนั้นบ่าวไปแจ้งที่เรือนใหญ่ให้คนยกสำรับมาที่เรือนนี้นะขอรับ ” พ่อรักษ์พยักหน้าเป็นการรับรู้ มือหนาก็ยื่นมือไปรับผ้าเนื้อนิ่มจากมือบ่าวที่กำลังยื่นมาให้ นิ้วหยาบจงใจสัมผัสไปให้โดนมือนิ่มของเจ้ากลิ่น ค่อย ๆ ลากไล้จากกลางนิ้วขาวมาจนสุดปลายนิ้ว ตาดำสุกสกาวจ้องมองหน้านวลของเจ้ากลิ่นจนหน้าของมันเห่อร้อน เพราะสัมผัสยั่วยวนที่ยังคงหลงเหลือบนปลายนิ้วของตนนั้นชวนให้ใจหวิวไหว “ บะ...บ่าวไปแจ้งที่เรือนใหญ่ก่อนนะขอรับ ” เจ้ากลิ่นรีบเดินออกไปจากห้องนอน ด้วยเพราะความรีบหรืออาจจะเป็นเพราะหัวใจนั้นเต้นไม่เป็นส่ำจึงทำให้ร่างกายควบคุมแทบไม่ได้ ป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ซ่อนกลิ่นรัก   สูญเสีย

    ๑๖สูญเสีย" ไอ้ก้าน!!! "เมื่อแผ่นหลังของเจ้ากลิ่นลับตาไป ไอ้จอมมองตามอย่างหงุดหงิดก่อนจะตะโกนไปหาไอ้ก้านที่มันกำลังตักน้ำรดผักอยู่ห่างออกไปสามสี่แปลง" มึงเรียกกูทำไมไอ้จอม "" นังบัวที่มึงบอกกู ฝากไปบอกมันทีว่าคืนนี้กูจะรอที่เรือน "" ให้มันได้อย่างนี้สิวะไอ้จอมเพื่อนรัก "ค่ำคืนอันหนาวเหน็บในยามฤดูหนาวเช่นนี้บางคนอาจนอนอยู่ใต้ผ้าผวยผืนหนาเพื่อให้ตัวเองอบอุ่นและหลบความหนาวเย็นได้ แต่ไม่ใช่กับเรือนของไอ้จอมที่ตอนนี้สองร่างเปลือยเปล่าของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ไอ้ก้านเป็นพ่อสื่อให้คนหนุ่มที่ยังไม่มีคู่ครองกับหม้ายสาวผัวตายที่มีลูกอ่อนวัยไม่กี่เดือนให้ทั้งคู่ได้มาสนองความต้องการของความรู้สึกเบื้องลึกของตนเอง“ พี่จอมจ๋า... ”เสียงหวานใสของนังบัวที่คืนนี้มันฝากลูกของมันไว้กับบ่าวในเรือนเอ่ยขึ้นเมื่อมันเหยียบเข้ามาบนเรือนบ่าวของไอ้จอม แสงตะเกียงพลิ้วชวนให้บรรยากาศหวามไหว ไอ้จอมนั่งพิงกับเรือนร่างหนาไม่ได้สวมเสื้อเสียด้วยซ้ำมีเพียงโจงกระเบนเก่า ๆ เท่านั้นที่ยังคงอยู่บดบังความใหญ่โตของสิ่งที่อยู่ใต้โจงนั้นที่มันคงนูนเด่นให้เห็นแม้ว่าจะยังไม่เหยียดขยายเต็มที่ก็ตาม“ ฉันไม่คิดว่าพี่จอมจะยอมให้ฉั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • ซ่อนกลิ่นรัก   ความเข้าใจ

    ๑๗ความเข้าใจงานศพนังปรุงผ่านไปแล้วโดยมีท่านเจ้าคุณวรจิตรเป็นธุระจัดการให้ และมีพ่อรักษ์กับไอ้จอมในการจัดแจงทุกสิ่งอันที่พึงทำให้บ่าวในเรือนได้ ส่วนเจ้ากลิ่นสภาพของมันตอนนี้ใครมาเห็นก็ให้ได้สงสารและเวทนา มันเหม่อลอย ดวงตาบวมคล้ำไปหมดเพราะผ่านการร้องไห้มานานหลายวัน“ กินข้าวกินปลาเสียบ้างสิกลิ่น ”ไอ้จอมยกสำรับข้าวมาให้เจ้ากลิ่นในเรือนที่ไม่มีแม้แต่แสงเทียนส่องสว่าง ร่างบางนั่งกอดเข่าอยู่ด้านในดวงตาทอดมองไปยังจันทร์เต็มดวงที่ทอแสงนวลอยู่บนท้องฟ้าสีครามเข้ม“ เอ็งจะเอาแต่เศร้าสร้อยอยู่เยี่ยงนี้ไม่ได้นะ ป้าปรุงจะเป็นห่วงเอ็งจนตายตาไม่หลับเอาเสีย ”“ ฉันยังไม่หิวจ้ะพี่จอม... ”“ แต่เอ็งไม่ได้กินกระไรมาหลายวันแล้วนะ เจ็บไข้ไปจะทำเยี่ยงไร ”“ ...พี่จอม...ฮึกๆ ”เมื่อการอดกลั้นสิ้นสุดลง เจ้ากลิ่นที่นั่งนิ่งหันกลับไปมองพี่ชายที่มองมาด้วยความเป็นห่วง เหมือนเด็กน้อยที่เห็นญาติผู้ใหญ่ที่ชอบตามใจ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ในที่สุดก็พรั่งพรูออกเป็นสายธาร“ มาหาพี่มากลิ่น ”“ ฮื้อ.... ”เจ้ากลิ่นโผเข้ากอดพี่ชายที่อ้าแขนรอตนเอง ความอบอุ่นที่อยู่ในอ้อมกอดของไอ้จอม ทำให้เจ้ากลิ่นกระชับอ้อมกอดของตัวเองแน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • ซ่อนกลิ่นรัก   หลบเลี่ยง

    ๑๘หลบเลี่ยง“ นี่พ่อกลิ่นตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางอีกแล้วรึ ”พ่อรักษ์บ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นว่าตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเหมือนดังเช่นหลายวันที่ผ่านมา ตั้งแต่คราที่เกิดเหตุการณ์หวามไหวบนเรือนบ่าวเมื่อสามสี่วันก่อน พ่อรักษ์สังเกตว่าเจ้ากลิ่นพยายามหลบหน้าหลบตา หากพอพบกันก็แสร้งว่าต้องไปช่วยทำงานที่อื่น ทั้ง ๆ ที่ความจริงเจ้ากลิ่นมีหน้าที่ดูแลแค่พ่อรักษ์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ช่วงนี้เหมือนเจ้ากลิ่นพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่ต้องมีงานทำอยู่ตลอดเวลาพ่อรักษ์ล้างหน้าล้างตาจากน้ำในโถเบญจรงค์ที่เจ้ากลิ่นเตรียมไว้ตั้งแต่เช้า สำรับข้าวปลาก็จัดหาไว้ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แต่สิ่งที่ขัดใจคนตัวโตที่นั่งอยู่บนฟูกนอนนั่นก็คือการไม่ได้เห็นหน้าคนที่อยากเห็นมากที่สุด“ ไอ้กลิ่นเอ้ย... ”เสียงเรียกจากบ่าวบนเรือนใหญ่เอ่ยมาจากทางด้านหลัง ทำให้เจ้ากลิ่นที่กำลังหาบน้ำอยู่ที่ท่าน้ำต้องหยุดหันหลังกลับไปมอง“ มีกระไรหรือจ๊ะป้า ”“ คุณรักษ์เรียกหาเอ็งน่ะ รีบไปเสียอย่าให้คุณรักษ์ท่านรอนาน ”“ จ้ะ ๆ ป้า พี่จ๊ะฉันฝากหาบน้ำสองกระบุงนี้ด้วยนะจ๊ะ ”เจ้ากลิ่นหันไปบอกกับบ่าวที่มาด้วยกันก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นไปที่เรือนใหญ่“ คุณรักษ์มี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • ซ่อนกลิ่นรัก   เกี้ยวพาราสี

    ๑๙เกี้ยวพาราสีบรรยากาศคืนนี้ดูต่างจากทุกค่ำคืนที่ผ่านมา สองร่างที่นอนในห้องเดียวกัน ต่างกันที่คนหนึ่งนอนบนฟูกนอนด้านบน อีกคนนอนที่เสื่อด้านล่างข้าง ๆ ไม่ไกลกันเท่าใดนัก เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ดังฝ่าความเงียบ เสียงหัวใจเต้นระรัวจนเหมือนกับกลองมโหระทึก ดวงตาสีนิลของพ่อรักษ์ดูสั่นไหวและลอบมองไปยังบ่าวที่นอนด้านล่างอยู่เนือง ๆเจ้ากลิ่นเองก็มีอาการไม่ได้แตกต่างจากผู้เป็นนายของมันเท่าใดนัก ร่างบางดูกระสับกระส่ายหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างนายกับบ่าวนั้นดูจะแตกต่างไปจากเดิมที่เคยเป็น“ นอนไม่หลับหรือพ่อกลิ่น ”“ ขะ....ขอรับ คุณรักษ์ก็นอนไม่หลับหรือขอรับ ”“ เรียกพี่สิพ่อรักษ์...หรือพ่อกลิ่นอยากให้พี่หอมแก้มพ่อกลิ่นอีกกระมังถึงไม่ยอมเรียกเสียที ”“ เปล่านะขอรับบ่าวแค่ยังไม่คุ้นปากน่ะขอรับ คุณรักษ์ เอ่อ...พี่รักษ์ให้เวลาบ่าวหน่อยนะขอรับ ”“ พ่อกลิ่นแทนตัวพ่อกลิ่นเองด้วยชื่อให้พี่ฟังหน่อยสิ ”“ แทนตัวด้วยชื่อของบ่าวเองหรือขอรับ ”“ ใช่...พี่อยากได้ยินพ่อกลิ่นเรียกพี่ว่าพี่ แล้วแทนตัวพ่อกลิ่นเองด้วยชื่อของพ่อกลิ่น พูดให้พี่ฟังหน่อยหนาพ่อกลิ่น ”น้ำเสียงหวานทุ้มละมุนละไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06

บทล่าสุด

  • ซ่อนกลิ่นรัก   สุดท้ายเราอาจจะได้พบกัน (ตอนพิเศษสุดท้าย)

    ตอนที่ ๓สุดท้ายเราอาจจะได้พบกัน...เคยเป็นมั้ยที่ตื่นขึ้นมาแล้วชีวิตเหมือนมีอะไรหายไปบางอย่าง...ตั้งแต่ที่ผมฝันประหลาดครั้งนั้น ทุกเช้าที่ตื่นมาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้จะมีความสุขอยู่กับพ่อแม่แต่ก็เป็นความสุขที่มันไม่เต็มอิ่ม ผมได้แต่เฝ้าถามกับตัวเองว่าเพราะอะไร แต่มันก็ไม่เคยมีคำตอบ“ ตื่นแล้วเหรอลูก ”“ ครับแม่ พ่อล่ะครับ ”“ ออกไปบริษัทแล้วล่ะ แม่ให้ทานข้าวก่อนพ่อก็ไม่ยอม บอกว่าต้องรีบเข้าไปเคลียงานด่วน แต่กรณ์ต้องกินนะแม่ทำไว้แล้ว ”“ ครับแม่ วันนี้ผมไม่ได้รีบไปไหนครับ ”“ ดีเลยงั้นก็มาทานข้าวสิ แม่ก็กำลังจะทานพอดีจะได้มีเพื่อนกินข้าว ”“ ครับ ”ทุกเช้ามันก็ดำเนินไปเหมือนอย่างเช่นทุกวัน อีกไม่เท่าไหร่ผมก็ใกล้ที่จะเรียนจบแล้ว กะว่าจะขอพ่อกับแม่พักผ่อนหลังจากที่เรียนมาอย่างหนักซักปีหนึ่งก่อน ค่อยเข้าไปเรียนรู้งานที่บริษัท“ แล้ววันนี้กรณ์จะออกไปไหนหรือเปล่าลูก ”“ ผมนัดพี่ทัพไว้ครับ ว่าจะออกไปหาอะไรกินกันตอนกลางวันครับ ”“ งั้นเหรอ ถ้างั้นแม่ฝากบอกพี่เราหน่อยสิว่ากลับมาค้างที่บ้านบ้าง นอนอยู่แต่ที่คอนโดไม่รู้ว่าแอบซ่อนสาว ๆ ไว้หรือเปล่า ”“ อย่างพี่ทัพเนี่ยเหรอจะซ่อนสาว ผมเห็นเ

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เฝ้ามองจวบจนวาระสุดท้าย (ตอนพิเศษ ๒)

    ตอนที่ ๒เฝ้ามองจวบจนวาระสุดท้าย“ ช่วยแจ้งคุณรักษ์บุตรของท่านเจ้าคุณวรจิตรทีได้หรือไม่ขอรับว่าเย็นนี้ให้รีบกลับเรือนทีขอรับ ”เสียงบ่าวในเรือนของพ่อรักษ์เอ่ยบอกกับนายทวารที่เฝ้าอยู่หน้าประตู น้ำเสียงของมันดูร้อนรนและมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ใจของมันอยากจะเข้าไปในอาณาบริเวณที่พ่อรักษ์ทำงานอยู่เสีย เพื่อแจ้งให้นายของมันได้รู้ในทันที แต่ขี้ข้าอย่างมันไม่สามารถเข้าไปในด้านในได้ เลยได้แต่เพียงฝากแจ้งข่าวคราวไว้ให้แต่เพียงเท่านั้น หวังก็เพียงว่านายของมันจะได้รับทราบความนี้แต่โดยเร็ว" มีกระไรหรือรำพึง มีคนแจ้งพี่ว่ามีบ่าวให้พี่รีบกลับมาที่เรือน "" คุณพี่รักษ์เจ้าคะ พี่นวลเจ้าค่ะ ฮึก ๆ ฮืออออ.... "" เป็นกระไร แม่นวลเป็นกระไรหรือ "" น้องก็มิรู้เจ้าค่ะ อยู่ดี ๆ วันนี้คุณพี่นวลก็ถ่ายและสำรอกทั้งวันเจ้าค่ะ น้องให้บ่าวไปตามหมอยามา กำลังตรวจดูเจ้าค่ะคุณพี่ ฮืออออ... "" อย่าร้องแม่รำพึง หมอยามาแล้วพี่นวลเจ้ามิเป็นกระไรมากดอก "พ่อรักษ์นั้นพูดให้กำลังใจน้องสาวของตนเอง นับตั้งแต่คราที่เจ้ากลิ่นตายจากไป พ่อรักษ์ก็จมอยู่กับความเศร้าสร้อย จะมีก็แต่สองหญิงสาวที่เป็นเสมือนเพื่อนที่คอยดูแลกันเป็นหลักเพร

  • ซ่อนกลิ่นรัก   แกงสายบัว (ตอนพิเศษ ๑)

    ..มอบไว้แด่ความรักในชาตินี้ของพ่อรักษ์และเจ้ากลิ่น..ตอนที่ ๑แกงสายบัวงานศพของเจ้ากลิ่นผ่านมาแรมเดือนแล้ว แต่บรรยากาศในเรือนกลับยังคงอบอวลไปด้วยความเงียบงัน บนเรือนใหญ่นั้นมีเพียงแม่รำพึงกับแม่นวลลออที่อยู่กับบ่าวเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ไม่เห็นร่างสูงของชายหนุ่มหนึ่งเดียวของเจ้าของเรือนนี้แม้แต่น้อยแต่นั่นก็มิแปลกกระไร เพราะร่างสูงในตอนนี้อาศัยอยู่แต่เพียงที่เรือนเล็กหลังสวน เก็บตัวเงียบอยู่เพียงคนเดียวในเรือน หน้าคร้ามหนวดเคราขึ้นเขียวครึ้ม ใต้ดวงตาสีนิลดำคล้ำปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนดูทรุดโทรมไปโขแม้ว่าพ่อรักษ์ยังคงทำงานอยู่ตามปกติ แต่พอมีเวลาว่างอย่างเช่นวันนี้ก็จะขลุกตัวอยู่แต่ที่เรือนเล็กไม่ออกไปไหน“ คุณรักษ์เจ้าคะ...คุณนวลให้บ่าวนำสำรับมาให้เจ้าค่ะ ”ร่างสูงหลุดออกจากภวังค์หลังจากที่ปล่อยให้ตนเองจมอยู่กับอดีตที่ไม่สามารถหวนคืนกลับมาได้อยู่ครู่ใหญ่“ วางไว้เสียกงนั้นแหละ ประเดี๋ยวข้าออกไปกิน ”“ เจ้าค่ะ... ”พ่อรักษ์วางหนังสือในมือที่เปิดค้างเอาไว้โดยไม่ได้อ่านเลยแม้แต่นิดลง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังสำรับข้าวที่วางไว้ มองไปยังของคาวหวานที่จัดเอาไว้ ก่อนดวงตาจะจับจ้องไปยังแกงสายบัว

  • ซ่อนกลิ่นรัก   สิ่งแรก สิ่งเดียว และสิ่งสุดท้ายที่จะรัก (ตอนจบ)

    ๓๖สิ่งแรก สิ่งเดียว และสิ่งสุดท้ายที่จะรัก“ พี่รักษ์ขอรับ... ”“ ว่าอย่างไรพ่อกลิ่น ”“ ยังไม่มีผู้ใดพบพี่จอมอีกหรือขอรับ ”พ่อรักษ์ส่ายหน้าแทนคำตอบให้กับเจ้ากลิ่น เจ้ากลิ่นเองก็ได้แต่มีสีหน้ากังวล ผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบเจอคนที่ตามหา“ หากไอ้จอมยังอยู่มันคงไม่อยากกลับมาเสียแล้วกระมัง มันคงละอายใจในสิ่งที่ทำลงไปจนมาสู้หน้าพ่อกลิ่นไม่ไหว แม้ว่าสิ่งที่มันทำจะทำเพื่อปกป้องพ่อกลิ่นก็เถอะ ”“ น้องเป็นห่วงพี่จอมขอรับ... ”“ พี่รู้...แต่หากพี่ชายของพ่อจอมยังอยู่ดี หรือหากร้ายกว่านั้นเราก็ต้องพบเจอแล้ว แต่นี่กลับไม่พบแม้แต่เงา นั่นก็แสดงว่าพี่ชายของพ่อกลิ่นไม่อยากให้ใครพบเจอ ”“ ... ”“ ชีวิตต้องดำเนินต่อไปนะพ่อกลิ่น แม้ว่าพี่มิใช่คนดีเด่กระไรนัก แต่นับจากนี้พี่สัญญาว่าจะปกป้องพ่อกลิ่น และคนในเรือนนี้อย่างเต็มพละกำลังที่พี่มี และพอที่จะทำได้แทนไอ้จอมเอง พ่อกลิ่นเชื่อพี่ได้หรือไม่ ”“ ...ขอรับพี่รักษ์ ต่อจากนี้น้องจะเชื่อพี่รักษ์ขอรับ ”“ เช่นนั้นเรากลับเรือนกันดีหรือไม่ พี่ว่าแม่นวลกับแม่รำพึงรอเรากินข้าวเย็นกันนานแล้วล่ะ ”พ่อรักษ์เอ่ยบอกก่อนที่จะกุมมือขาวของเจ้ากลิ่นให้

  • ซ่อนกลิ่นรัก   กลับสู่เรือน

    ๓๕กลับสู่เรือนผ่านมาหลายเพลาแล้วแต่ร่างบางที่นอนนิ่งบนเบาะนุ่มก็ยังไม่แม้แต่จะครางให้ได้ยิน พ่อรักษ์เองก็ได้แต่นั่งเฝ้าอยู่เยี่ยงนี้มาหลายเพลาแล้ว มือหนากอบกุมมือขาวซีดของเจ้ากลิ่นไว้ด้วยความทะนุถนอม“ รีบตื่นมาเถิดหนาพ่อกลิ่นของพี่...นอนนานเกินไปแล้วนะ ”น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความเป็นห่วง ดวงตาทอดมองไปยังร่างบางไม่วางตา“ กินข้าวเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะคุณพี่ ”“ วางไว้ก่อนเถิด...พี่ยังไม่หิว ”“ กินกระไรบ้างเถิดเจ้าค่ะ หากคุณพี่เป็นกระไรขึ้นมาอีกคนจะยิ่งแย่นะเจ้าคะ ”“ ... ”เมื่อเห็นแววตาอ้อนวอนของน้องสาว ร่างหนาจึงขยับตัวเข้ามาหาสำรับข้าวที่วางไว้“ คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ”“ ก็สามวันดีสี่วันไข้น่ะเจ้าค่ะ คุณพี่ไปดูคุณพ่อบ้างสิเจ้าคะ คุณพ่อมองหาแต่คุณพี่ ”“ หมอยามาดูทุกวันอยู่ใช่ไหม ”“ เจ้าค่ะ...คุณพี่เจ้าคะ น้องขอร้องนะเจ้าคะ ”“ ไว้พี่จะไปก็แล้วกัน... ”“ ขอบคุณนะเจ้าคะ... ”“ แล้วนี่ได้ข่าวไอ้จอมบ้างหรือไม่ ”พ่อรักษ์เอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่บอกมันเรื่องของคุณพุดตานไป ก็ไม่ได้ข่าวคราวกระไรอีกเลย“ น้องให้คนไปสอบถามจากหมู่บ้านใกล้ ๆ รวมถึงที่เรือนของคุณพุดตานแล้วเจ้าค่ะ แต่ม

  • ซ่อนกลิ่นรัก   ร่ำลา

    ๓๔ร่ำลาฉับ!!!“ อ๊ากกกกกกก ”เลือดสีแดงกระเซ็นไปทั่วพร้อมกับเสียงร้องของคนที่โดนคมดาบตัดฉับไปที่ข้อมือจนขาด“ ไอ้เดรัจฉาน!!!! ”ไอ้จอมถีบไอ้เชิดกระเด็นออกไปจากตัวของเจ้ากลิ่น เสียงร้องอันเจ็บปวดของมันไม่ได้ทำให้ไอ้จอมนั้นเห็นใจเลยแม้แต่น้อย ลุงมั่นที่วิ่งตามมาถึงทีหลังก็รีบเข้าไปดูเจ้ากลิ่นทันที“ กลิ่นเอ้ย กลิ่นเป็นกระไรลูก... ”“ ลุงมั่น ข้าฝากดูไอ้กลิ่นให้ข้าหน่อย ”“ เอ็งไม่ต้องกังวล เดี๋ยวลุงพาเจ้ากลิ่นไปโรงหมอเอง แต่เอ็งอย่าทำกระไรวู่วามไปเสียล่ะไอ้จอม ”ไอ้จอมไม่ได้ตอบกลับ มันได้แต่ย่างสามขุมไปทางไอ้เชิดที่กำลังลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด มืออีกข้างที่เหลือกอบกุมแขนที่เหลือแต่ข้อมือของตนเอง เลือดไหลออกมาเป็นทาง มันถอยหลังเมื่อเห็นว่าตัวเองนั้นเสียเปรียบ แต่ไอ้จอมไม่ยอมให้มันหนีไปไหนได้ มันวิ่งไปถีบเข้าที่ยอดอกของไอ้เชิดจนมันล้มลงไปอีกครั้งไอ้จอมขึ้นคร่อมไปบนตัวของไอ้เชิดก่อนที่จะสาวหมัดรัวใส่ไอ้เชิดด้วยความเดือดดาล หากเป็นเพลาปกติแล้วไอ้เชิดไม่น่าจะโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเยี่ยงนี้ แต่นี่เป็นเพราะมันมีร่างกายไม่สมบูรณ์อีกต่อไปทำให้มันตอบโต้กระไรไอ้จอมแทบไม่ได้เลย“ มึงบอกกูมา มึ

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เดือดดาล

    ๓๓เดือดดาลพ่อรักษ์กินข้าวเช้าที่น้องสาวเอามาให้จนหมดสำรับ มื้อนี้ดูเหมือนจะเจริญอาหารมากกว่าปกติ แต่ถึงแม้ภายในใจจะโล่งอกเพราะตนเองนั้นไม่ได้มีกระไรเกินเลยกับเมียในนาม แต่พอมานั่งคิดดูแล้วเหตุการณ์ทุกอย่างที่มันล่วงเลยจนกลายเป็นแผลขนาดใหญ่ นั้นมีสาเหตุมาจากคนเพียงแค่คนเดียว เมื่อนึกได้แล้วพ่อรักษ์ก็ได้แต่นึกก่นด่าตนเองอยู่ในใจ ที่ผ่านมามัวแต่เห็นแก่ความรู้สึกของตนเองเพียงอย่างเดียว จนมองไม่เห็นถึงต้นตอของปัญหาเลยสักนิด“ มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง...เข้ามาหากูที ”“ เจ้าคะคุณรักษ์ มีกระไรให้บ่าวทำหรือเจ้าคะ ”“ มึงไปดูทีว่าคุณหญิงพุดตานอยู่ที่ห้องหรือไม่ ”“ คุณหญิงออกไปตลาดตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ คุณรักษ์มีกระไรหรือไม่เจ้าคะ ”“ ไม่มี...เอ็งจะไปทำกระไรก็ไปเถิด อีกประเดี๋ยวข้าก็จะกลับเรือนข้าแล้ว ”“ เจ้าค่ะ... ”พ่อรักษ์ได้แต่นั่งอยู่บนเตียงนอนในห้องของแม่รำพึง แววตามีประกายกระไรบางอย่าง ในใจครุ่นคิดว่าต่อแต่นี้ตนเองจะต้องใช้ชีวิตให้มีสติมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จะไม่ปล่อยให้อารมณ์นำพาตนเองให้ทำกระไรโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนอีกแล้วคืนนี้พ่อรักษ์มานั่งมองจันทร์เสี้ยวที่ลอยอยู่บนนภา หวนรำ

  • ซ่อนกลิ่นรัก   ผิดแผน

    ๓๒ผิดแผนเสียงหรีดหริ่งร้องระงมในคืนที่หนาวเหน็บเช่นคืนนี้ ร่างขาวนวลเอวคอดกิ่วนอนหันหลังให้กับร่างคร้ามสีเข้มลมหายใจไม่เป็นจังหวะ บ้างสั้น บ้างยาวที่พ่นออกมาของพ่อรักษ์นั้นยิ่งทำให้ค่ำคืนนี้เย็นยะเยือกมากขึ้นไปอีก ดวงตากลมโตค่อย ๆ ลืมขึ้นมาเมื่อข่มตาหลับอย่างไรก็ไม่มีทางหลับลงได้ แม้ว่าค่ำคืนตั้งแต่แต่งงานกันเข้ามาก็ผ่านมาร่วมเดือนแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของพ่อรักษ์กับแม่นวลลออนั้นไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ยิ่งเมื่อเจ้ากลิ่นออกจากเรือนนี้ไปแล้วก็ยิ่งดูเหมือนว่าพ่อรักษ์นั้นจะปิดกั้นตนเองออกจากคนอื่น ๆ“ นวลว่าตั้งแต่วันพรุ่ง นวลจะกลับไปนอนที่ห้องของนวลนะเจ้าคะ... ”“ ... ”“ นวลรู้ดีเจ้าค่ะว่าคุณพี่มิได้รักนวล แต่ที่เราต้องแต่งงานกันเยี่ยงนี้เป็นเพราะนวลไม่กล้าเอง ตั้งแต่วันพรุ่งนวลจะกลับไปนอนที่ห้องของนวลเราสองคนจะได้มิต้องมาอึดอัดใจกันเยี่ยงนี้นะเจ้าคะ ”แม่นวลลออเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบที่มีเพียงเสียงของแมลงคลออยู่ไกล ๆ พ่อรักษ์ได้แต่นอนฟังอยู่เงียบ ๆ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาพรูใหญ่“ แม่นวลก็นอนเสียที่ห้องนี้ ห้องหับใหญ่สะดวกกว่าห้องเล็กเดิมที่เคยนอน ส่วนข้าจะกลับไปนอนที่เรือนเล็กหลัง

  • ซ่อนกลิ่นรัก   จำต้องปล่อยไป

    ๓๑จำต้องปล่อยไปงานแต่งของพ่อรักษ์กับแม่นวลถูกเร่งให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เมื่อเรื่องที่แม่นวลลออกับพ่อรักษ์นั้นทำผิดผีกันนั้นแพร่งพรายออกไปยังนอกเรือน ไม่ต้องบอกก็รู้แจ้งว่าเป็นฝีมือของผู้ใดหากไม่ใช่คุณพุดตานบ่าวไพร่ในเรือนต่างง่วนอยู่กับการตระเตรียมงานให้พร้อม ข้าวปลาอาหารของมงคลต่าง ๆ ถูกตระเตรียมไว้มิให้ขาดตกบกพร่อง ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นถูกคุณพุดตานเตรียมการไว้เป็นอย่างดี ปานว่าของเหล่านี้นั้นมีพร้อมมานานแล้วเสียด้วยซ้ำนับตั้งแต่เกิดเรื่องของพ่อรักษ์กับแม่นวลลออ เจ้ากลิ่นก็กลับมานอนที่เรือนบ่าวเพราะไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของมันไปกระทบกับแม่นวลลออ คราแรกพ่อรักษ์มิยอมทำตามเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับแม่นวลลออ แต่เมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงชาวบ้านร้านประชาด้านนอก ชื่อเสียงของแม่นวลก็พลอยด่างพร้อยไปด้วย เจ้ากลิ่นจึงใช้ข้ออ้างที่ว่าหากเรื่องของมันกับพ่อกลิ่นออกไปยังคนนอกเรือนอีก รังแต่จะทำให้ท่านเจ้าคุณเสียชื่อและอาจจะทำให้อาการเจ็บไข้ที่ดูเหมือนดีขึ้นให้กลับมาทรุดหนักเอาได้ พ่อรักษ์จึงยอมให้เจ้ากลิ่นกลับมานอนที่เรือนบ่าว ส่วนตนเองก็นอนอยู่ที่เรือนเล็กมิได้กลับขึ้นไปอยู่ที่เรือนใหญ่ แม้ว่าท่านเ

DMCA.com Protection Status