หน้าหลัก / รักโบราณ / ชายาอสรพิษ / ล่อเสือออกจากถ้ำ 2

แชร์

ล่อเสือออกจากถ้ำ 2

ผู้เขียน: เสี่ยวหลันฮวา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 19:34:25

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ย่างเข้าสู่วันที่ห้าของการฝึกพลังยุทธ์เสียแล้ว เสี่ยวไป๋ที่วันๆ ไม่มีอะไรทำนอกจากเฝ้าหลี่หลิงเฟิ่งที่นั่งฝึกพลังยุทธ์ ก็ทำได้แต่นั่งแทะนอนแทะหินแร่ที่เหลือที่กอบโกยมาจากหออวี้หลิ่วจนเกลี้ยง ในระหว่างที่มันกำลังนอนหมอบอยู่ข้างหญิงสาวนั้น ในที่สุดหลี่หลิงเฟิ่งก็ลืมตาขึ้นมา พร้อมกันนั้นมิติมายาพลันเกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย ส่งเสียง ‘ครืด’ สองสามครั้งก่อนจะหยุดลง

“แอ๊ว แอ๊ว” เสียงเล็กๆ ของเสี่ยวไป๋ร้องขึ้นด้วยความดีใจ โถมตัวเข้าสู่อ้อมกอดของหลี่หลิงเฟิ่งทันที ศีรษะกลมๆ ถูไถหน้าท้องของนางอย่างร่าเริง

“เติบโตขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว” หลี่หลิงเฟิ่งลูบหัวเจ้าสัตว์อสูรที่นับวันยิ่งเหมือนสุนัขตัวน้อยเข้าไปทุกทีด้วยความเอ็นดู รอยยิ้มตรงมุมปากของนางเด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะสะกดความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ เพราะอานิสงส์ของปราณบริสุทธิ์ทำให้นางรวบรวมพลังยุทธ์ที่ไหลทะลักภายในกายไม่ขาดสายนี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว และเพราะเวลาในห้วงมิติมายาของนางที่เร็วกว่าปกติสองเท่าจึงทำให้ได้เปรียบกว่าผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นอย่างมาก เท่ากับว่านางอยู่ในมิติมายาสิบวัน แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นเพียงผ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาอสรพิษ   หลุมพราง 1

    หลี่หลิงเฟิ่งสองพี่น้องเดินทางมาถึงหอแพทย์โอสถก็ไม่รอช้ารีบขอพบเหยาจี้ทันที เจ้าหน้าที่หอแพทย์โอสถคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลพาพวกนางไปพบเหยาจี้ที่กำลังตรวจคนไข้อยู่บนชั้นสอง เนื่องด้วยพวกเขาสองพี่น้องไม่ต้องการรบกวนเหยาจี้ขณะกำลังรักษาคนเจ็บอยู่จึงขอให้เจ้าหน้าที่ท่านนั้นพาพวกเขาไปนั่งรอที่ห้องรับแขก จากนั้นค่อยแจ้งแก่เหยาจี้ว่าพวกเขามาขอพบก็พอเจ้าหน้าที่พยักหน้ารับคำอย่างเห็นด้วยว่าควรจะเป็นเช่นนี้ถึงจะถูกต้อง จึงรีบทำตามคำแนะนำของหลี่หลิงเฟิ่งสองพี่น้อง โดยปกติแล้วหน้าที่ดูแลแขกเหรื่อที่เข้ามาใช้บริการในหอแพทย์โอสถก็ไม่ได้เป็นหน้าที่ของเขาแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะหลายวันมานี้ผู้ดูแลถงสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดีจึงได้ขอลาหยุดไปหลายวัน เด็กห้องจัดยาอย่างเขาจึงต้องมาทำหน้านี้แทนเป็นครั้งคราวหากแขกผู้มาเยือนเป็นคนอื่นก็แล้วไป แต่สองท่านนี้เป็นแขกพิเศษที่ผู้อาวุโสหวังและท่านหมอเหยาให้ความสำคัญและกำชับเป็นพิเศษว่าต้องต้อนรับพวกนางให้ดี โดยเฉพาะคุณหนูห้าหลี่หลิงเฟิ่ง หากนางต้องการขอพบก็ให้รีบแจ้งแก่เขาทันทีอย่าได้ชักช้าอืดอาด ให้แม่นางน้อยต้องรอนานหลังจากเจ้าหน้าที่คนนั้นออกไปไม่นาน เหยาจี้ที่กำล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   หลุมพราง 2

    “เสี่ยวไป๋ อย่าซน!” ขณะที่พวกนางกำลังกลัดกลุ้มอยู่นั้น เสี่ยวไป๋ที่ทำตัวเชื่องเชื่ออยู่ในอ้อมอกของหลี่หลิงเฟิ่งมาตลอด พลันดิ้นออกจากอ้อมกอดของนาง กระโดดลงพื้นอย่างรวดเร็ว วิ่งไปหาบุรุษคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกนางมากนัก ไม่เพียงเท่านี้สัตว์อสูรน่าตายของนางยังปีนขึ้นไปอยู่บนหัวไหล่ของชายผู้นั้น พลางซุกหน้าลงบนคอแกร่ง ออดอ้อนอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด สองพี่น้องผู้เห็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ได้แต่นิ่งอึ้ง ถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ“เสี่ยวไป๋เป็นมิตรกับคนตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ” หลี่เจี้ยนมองภาพตรงหน้าปากอ้าตาค้างไปนานแล้ว แม้เขาจะรู้จักมันเพียงไม่กี่วัน แต่ก็รู้ว่าสัตว์อสูรของน้องเล็กตนนั้นเย่อหยิ่งแค่ไหน นอกจากจะยอมให้น้องเล็กจับเพียงคนเดียวเท่านั้น คนอื่นที่ไม่ใช่นางอย่าแม้แต่จะคิดเข้าใกล้มันได้เลย เหตุไฉนถึงได้ไปเกาะอยู่บนไหล่คนอื่นอย่างนั้นเล่าเสี่ยวไป๋ กลับมานี่ หลี่หลิงส่งกระแสจิตเรียกมันในใจ ทว่ากลับถูกเจ้าตัวแสบเมินใส่ ใบหน้าที่เคยกลัดกลุ้มก่อนหน้าเปลี่ยนเป็นดำทะมึนทันที นางส่งเสียง ฮึ่ม ในใจอย่างหัวเสียคนผู้นั้นดูเหมือนจะประหลาดใจมากเช่นกันที่จู่ๆ ก็โดนสัตว์อสูรตัวหนึ่งหน้าตาราว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ความจริงในคำลวง

    เมื่อจับตัวคนร้ายได้แล้ว เหยาจี้ก็เริ่มสอบสวนทันทีด้วยประสบการณ์ของหลี่หลิงเฟิ่งที่สั่งสมมาจากชาติก่อน หากคนร้ายเป็นคนใกล้ชิด พื้นเพเบื้องหลังขาวสะอาด เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและรักในอาชีพที่ทำ หากจะเป็นสายลับทำลายองค์กรได้นั้นย่อมมีเหตุจูงใจบางอย่าง ทว่าฟังจากคำสารภาพของผู้ดูแลถงแล้วช่างน่าขันสิ้นดีชายผู้นี้สารภาพออกมาเต็มปากเต็มคำว่าตนเองเป็นสายลับ ได้รับมอบหมายให้มาชิงยารักษาของหลี่หลิงเฟิ่ง ทว่าพอเหยาจี้ถามถึงครั้งก่อนที่เขาบุกเข้ามาก็เพราะยาขวดนั้นของนางเช่นกันหรือ ถงลี่กลับตอบไม่ได้แค่ฟังเพียงประโยคเดียว หลี่หลิงเฟิ่งก็รู้แล้วว่าถงลี่ผู้นี้ไม่ใช่คนร้ายตัวจริง จะบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ไม่ผิด เป้าหมายที่แท้จริงมีเพียงพวกนางสามคนกับคนร้ายเท่านั้นที่รู้ แน่นอนว่าผู้ดูแลถงอาจจะตบตาพวกตนอยู่ก็เป็นได้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ออกจะแนบเนียนเกินไปหน่อยแล้ว หลี่หลิงเฟิ่งจะยอมยกให้เขาเป็นตัวอันตรายคนหนึ่งเลยล่ะจากคำสารภาพที่คลุมเครือ ไร้แก่นสาร แถมยังรวดเร็ว เหมาะเจาะอะไรเช่นนี้ เมื่อเขาถูกจับ ก็ถือเป็นอันสิ้นสุด จงใจเกินไปหน่อยหรือไม่แต่ว่าจำเป็นต้องทำอย่างนี้ด้วยหรือ หากนางเป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   การพบเจอที่คาดไม่ถึง 1

    สองวันสองคืนอันแสนรันทดของหลี่หลิงเฟิ่ง ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปอย่างทุลักทุเล อากาศหนาวเย็นอันเกิดจากฤดูหนาวตลอดทั้งปีกระทบผิวของนางจนซีดขาว ใบไม้ร่วงหล่น ต้นไม้ใบหญ้าแห้งเหี่ยวเหลือเพียงกิ่งก้านเกาะอยู่บนลำต้นเท่านั้น พวกมันล้วนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เนื่องจากแคว้นนี้ตั้งอยู่เหนือสุดของแผ่นดิน ตลอดทั้งปีจึงมีเพียงฤดูหนาวฤดูเดียว“เฟิ่งเอ๋อร์ พวกเราเข้าเขตลุ่มน้ำเมืองจวินมาแล้ว อีกไม่กี่สิบลี้ก็จะถึงเมืองหลวง” หลายวันมานี้ที่อยู่ด้วยกันเขาเอาที่เรียกนางว่าเฟิ่งเอ๋อร์ ห้ามปรามอย่างไรก็ไม่ฟัง นางคร้านจะถือสาหาความกับโม่จื่อหลิงแล้ว อยากจะเรียกอย่างไรก็เชิญตามสบาย“ท่านมีธุระต้องทำไม่ใช่หรือ เช่นนั้นเราแยกกันตรงนี้เลยดีกว่า” ในใจหลี่หลิงเฟิ่งยังคงต้องการขีดเส้นแบ่งกับโม่จื่อหลิงตลอดเวลา หากมีช่องทางสลัดหลุดจากเขาได้นั่นย่อมเป็นเรื่องดี“ไม่รีบร้อนอันใด ข้าเพียงผ่านมามอบของขวัญเล็กน้อยให้กษัตริย์แค้นจวินเท่านั้น ยังคงมีเวลาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าจัดการธุระได้อีกหลายวัน” โม่จื่อหลิงยักไหล่เล็กน้อย เดิมทีเขาไม่จำเป็นต้องเดินทางมาด้วยตนเอง เพียงเพราะนาง เขาจึงได้อยากมาได้ยินคำตอบเช่นนี้จากโม่จื่อหลิง น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   การพบเจอที่คาดไม่ถึง 2

    ที่ใดที่หนึ่ง ณ ตีนเขาทมิฬกาล หลี่หลิงเฟิ่งและโม่จื่อหลิงยังไม่ได้พักผ่อนเลยแม้แต่น้อย เป็นเวลาหลายชั่วยามที่พวกนางติดอยู่วังวนนี้ แรกเริ่มตอนย่างเท้าเข้ามาพวกนางยังไม่พบสิ่งผิดปกติใด สัตว์เล็กๆ ที่อาศัยอยู่บริเวณตีนเขายังมีให้เห็นประปรายจนเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้านี้ที่พวกนางรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง สัตว์น้อยใหญ่ที่เคยมีพลันไม่ปรากฏให้เห็นสักตัว แม้กระทั่งส่งเสียงยังคร้านจะทำ ขณะที่พวกนางเดินลึกเข้ามาเรื่อย ๆ พลันพบว่าทิวทัศน์รอบด้านไม่มีความแตกต่างเลยสักนิดยิ่งลึกเท่าไหร่ยิ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ หลี่หลิงเฟิ่งอาศัยความรู้ในอดีตทำร่องรอยไว้บนลำต้นไม้ใหญ่ทุกต้นที่พวกนางเดินผ่าน เมื่อเดินไปได้ร่วมชั่วยามหญิงสาวพลันพบสัญลักษณ์กากบาทที่ตนเคยทำไว้ ใบหน้าสวยพลันเคร่งขรึมลงทันใด “ไม่ผิดจากที่คาด พวกเราติดอยู่ในค่ายกลกักกัน”“น่าแปลก ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าสำนักแพทย์โอสถจะสร้างค่ายกลบริเวณรอบหุบเขา” ทุกครั้งที่โม่จื่อหลิงเยือนก็ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเลย ทำไมครั้งนี้ถึงได้ต่างออกไปโม่จื่อหลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “พวกเราคงต้องรอถึงฟ้าสางถึงจะหาทางออกไปจากที่นี่ได้” ถึงเขาจะไม่รู้จุดป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   การพบเจอที่คาดไม่ถึง 3

    กว่าที่หลี่หลิงเฟิ่งจะหลุดออกจากภวังค์ได้ก็ผ่านมาราว ๆ หนึ่งเค่อ*แล้ว นางเริ่มรับรู้ถึงความเจ็บปวดบนร่างกายที่บอบช้ำ แต่นางกลับทนได้ มิหนำซ้ำยังมีความสบายแทรกซึมเข้ามาอีกต่างหาก ความเจ็บทุเลาลง บาดแผลภายนอกและภายในค่อยๆ สมานกัน ทั่วทั้งร่างกลับมาเป็นปกติ หัวใจของนางกระตุกอีกครั้งหรือว่ามังกรตนนั้นจะเป็นมังกรบรรพกาล เทพเจ้าแห่งมังกรที่ผู้คนกราบไหว้ สุดท้ายแล้วท่านก็อวยพรให้นางสินะ หลี่หลิงเฟิ่งนึกขอบคุณอยู่ในใจ“มีอะไรหรือ” เมื่อนางหันกลับมา เห็นโม่จื่อหลิงเอาแต่จ้องนางไม่วางตา จึงถามออกไป“เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” มือหนายกขึ้นคล้ายอยากลูบผมปลอบประโลมชะงักกลางอากาศ ไม่นานก็ชักกลับไปข้างลำตัวเหมือนเดิม เผยรอยยิ้มบางที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักออกมาหลี่หลิงเฟิ่งยักไหล่ พลางอุ้มเสี่ยวไป๋ที่ออกมาจากมิติไปนั่งอยู่มุมหนึ่งของถ้ำ “พระองค์ควรจะซึมซับพลังงานบริสุทธิ์ในนี้ให้ได้มากที่สุดดีกว่านะเพคะ”“ถูกของเจ้า ที่นี่เหมาะแก่การฝึกพลังยุทธ์ยิ่งนัก” น้ำเสียงยียวนกลับมาอีกครั้ง ชายหนุ่มเดินมานั่งถัดจากนาง พลางหลับตาซึมซับไอปราณอยู่ข้างหลี่หลิงเฟิ่งหลี่หลิงเฟิ่งอ้าปากจะพูดบางอย่าง ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้เอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ทดสอบ 1

    ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ หลี่หลิงเฟิ่งค่อย ๆ รู้สึกตัว รู้สึกเหมือนร่างกายของนางเบาหวิวราวกับปุยนุ่น เบาสบายจนไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาอีกเลยเพียงแต่ว่าร่างกายของนางไม่ยอมทำตามจิตใจ นิ้วมือเรียวขยับแผ่วเบา ในที่สุดก็ลืมตาอย่างช่วยไม่ได้หือ?หลี่หลิงเฟิ่งกะพริบตาปรับทัศนียภาพรอบ ๆ ตัว ภาพที่เข้าในม่านตาคือความสว่างไสวของดวงดาวบนท้องฟ้าและขนสีเงินของสัตว์อสูรที่นอนอยู่ข้าง ๆ นาง“ท่านนี่ช่างไม่กลัวตายเสียนี่กระไร คิดว่าตัวเองมีกี่ชีวิตกัน ข้าเก็บชีวิตท่านกลับมาไม่ได้ทุกครั้งหรอกนะ ลองคิดดูหากข้าไม่ปลุกท่าน ท่านคงออกมาไม่ได้ไปตลอดชีวิตแล้ว” เสียงที่คุ้นเคยที่นางไม่ได้ยินมานานดังชัดในโสตประสาทของหลี่หลิงเฟิ่ง“เสี่ยว...มู่ แค่กๆๆ” หลี่หลิงเฟิ่งยิ้มรับเบา ๆ พลางตอบกลับ เพียงแต่พูดไม่กี่คำก็พบว่าตัวเองคอแห้งจากอาการขาดน้ำขั้นสุด “เจ็บคอสุด ๆ ไปเลย”“ไม่เจ็บสิแปลก ใครใช้ให้ท่านกรีดร้องขนาดนั้นเล่า เชื่อหรือไม่ว่าข้าตื่นขึ้นมาเพราะทนฟังเสียงโหยหวนของท่านไม่ไหวจริง ๆ หากข้าเป็นเจ้าหนุ่มนั่นคงทุบท่านสลบไปนานแล้ว” เสียงอ้อแอ้ดังข้างหูของนางไม่หยุด เด็กทารกในชุดขาวตัวอวบอ้วน ผิวขาวนวลดั่งหยก สองแก้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ทดสอบ 2

    หลี่หลิงเฟิ่งไม่คิดเลยว่าการเข้ามาในถ้ำ หยิบอาวุธชิ้นหนึ่งขึ้นมาจะทำให้ชีวิตของนางเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ การบังเอิญครั้งนี้เป็นประโยชน์กับนางอย่างมหาศาลเรื่องราวภายนอกมิติมายานั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นางเพ่งจิตออกไปข้างนอกสำรวจดูก็พบว่าตนเองอยู่บนตัวของวิหคเพลิงที่กำลังบินว่อนอยู่กลางอากาศ โดยมีโม่จื่อหลิงโอบกอดนางไว้ หลี่หลิงเฟิ่งที่สลบไสลไปนานไม่อาจรู้เลยว่าค่ายกลกักกันสลายไปตั้งแต่ตอนไหน อาจจะตั้งแต่ที่นางหยิบดาบแห่งจิตวิญญาณเล่มนั้นขึ้นมาก็เป็นได้หลี่หลิงเฟิ่งสังเกตตนเอง ครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ข้าเลื่อนขั้นอีกแล้วหรือ”ยอมรับว่านางตกใจเล็กน้อย เพียงฝึกพลังยุทธ์ไม่กี่เดือนแต่นางกลับคืบหน้ากว่าคนอื่นที่ฝึกมาเป็นสิบปีเสียอีก แน่นอนว่าเป็นเรื่องดีสำหรับตัวหลี่หลิงเฟิ่ง การฝึกพลังยุทธ์เป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด แข็งแกร่งขึ้นใคร ๆ ก็ชอบทั้งนั้นแหละหลังจากที่หลี่หลิงเฟิ่งรู้สึกกระปรี้กระเปร่าจากการพักผ่อนมาหลายชั่วยามในมิติมายา นางจึงสามารถวางเรื่องต่าง ๆ ที่น่าปวดหัวในอนาคตไว้ก่อนได้ หันไปยิ้มน้อย ๆ ให้เสี่ยวมู่ หยิกแก้มนุ่มนิ่มนั่นอย่างอดใจไม่ไหว “ข้าอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว สมควรแก่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25

บทล่าสุด

  • ชายาอสรพิษ   รู้ความจริง

    “ท่านทำอันใดกับข้า!” หวาหยุนตื่นตระหนก ร่างกายแข็งทื่อทุกสัดส่วน“น้าหยุนอย่ากังวล ข้าไม่ทำท่านเจ็บตัวแน่นอน แต่ท่านคงไม่มีโอกาสใช้ของพวกนี้ทำร้ายข้าแล้วล่ะ” หลี่หลิงเฟิ่งสบเข้ากับสายตาเคียดแค้นของหญิงกลางคน ชี้ไปยังจุดที่นางซ่อนอาวุธและยาพิษไว้นังโง่นี่รู้ได้ยังไงยิ่งน้ำเสียงหญิงสาวเย็นชาเท่าไหร่ หวาหยุนยิ่งกลัวมากเท่านั้น อยู่มาครึ่งชีวิตกลับพลาดท่าง่ายๆ ให้กับเด็กสาวที่นางคิดว่าไร้พิษสง นางงูพิษ!“ไหนพูดอีกทีซิ เรื่องราวความรักของบิดามารดาข้าเป็นมาอย่างไร” หลี่หลิงเฟิ่งหยิบพัดบนโต๊ะมาคลี่เล่น โบกสะบัดคลายความร้อนหวาหยุนไม่อยากพูด แต่นางควบคุมปากที่กำลังขยับไม่ได้ “ความรักอะไรเหลวไหลทั้งเพ นังจิ้งจอกชิงหลัวก็แค่อยากจับท่านเจ้าเมืองเท่านั้นแหละ ท่านเจ้าเมืองเป็นคนฉลาดจะดูแผนการต่ำช้าของนางไม่ออกหรืออย่างไร คิดว่ามาเปลื้องผ้าเล่นงิ้วให้คนอื่นดูงั้นรึ ก็ไม่รู้ว่านังนั่นทำอีท่าไหนท่านเจ้าเมืองถึงยอมรับนางเข้าจวน คงจะยั่วยวนจนนายท่านหลงมันนั่นล่ะ แพศยา!”ควา

  • ชายาอสรพิษ   หอซุนเซียง

    “แม่นางน้อยหากไม่สบายก็ไปหาหมอ อยากจับโจรก็ไปที่ว่าการ ที่แห่งนี้ไม่ต้อนรับสาวน้อยที่ยังไม่ออกเรือนหรอกนะ” สาวงามหน้าประตูสองสามนางรายล้อมสามนายบ่าว หัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน“ดูท่าหลายปีมานี้กิจการของหอซุนเซียงไม่เลวเลย” ทั้งสามชะเง้อคอดูความคึกคักด้านใน ขนาดหัววันผู้คนยังแน่นขนาดนี้ ตึกดึกคงไม่มีที่ยืนเลยกระมัง“แน่นอน หอซุนเซียงของเราเป็นหอคณิกาอันดับหนึ่งที่แม้แต่เมืองหลวงยังต้องยอมแพ้” สาวงามนางหนึ่งจีบปากจีบคอ ยิ้มมองสาวน้อยหน้าสวย สงสัยมาจับว่าที่สามีกลับจวนกระมังสาวงามอีกนางส่งสายตากรุ้มกริ่มให้กับบุรุษหนึ่งเดียวในกลุ่ม “คุณชายอย่าเสียเวลาอยู่นี้เลย พวกเราเข้าไปสนุกกันข้างในดีกว่าเจ้าค่ะ”เหลียงเฉินถึงกับตัวสั่น ถอยกรูดหลบหลังสองสตรีโดยไว คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นกลุ่มของหลี่หลิงเฟิ่งนั่นเอง หลี่หลิงเฟิ่งเหลือบมองแวบหนึ่ง “ข้ามาพบเถ้าแก่ของพวกเจ้า”“เถ้าแก่เนี้ยยุ่งทั้งวันไม่ว่างมาสนใจคนไม่สำคัญหรอก ใช่ว่าใครก็เข้าพบได้โดยง่าย หากแม่นางอยากเปิดหูเปิดตาก็ไ

  • ชายาอสรพิษ   ร่องรอยในอดีต

    หลี่หลิงเฟิ่งนอนขดอยู่บนเตียง มือขวากำกำไลบนข้อมือซ้ายแน่นโดยไม่รู้ตัว กำไลวงนั้นเรืองแสงสีแดงผสมสีขาวซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของนาง หญิงสาวหอบหายใจแรง เหงื่อผุดพลายเต็มใบหน้า สีหน้าเปลี่ยนเกือบทุกวินาที บ้างหัวเราะ บ้างร้องไห้ บ้างโกรธเคือง เป็นแบบนี้อยู่หนึ่งชั่วยามก่อนจะรู้สึกตัวอีกครั้งขนตางอนขยับสองสามทีก่อนจะเปิดขึ้นพบกับดวงตาเมล็ดซิ่งที่ฉายแววหนักใจ มือเรียวถอดกำไลเจ้าปัญหาออกมาจ้องมอง ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างทันใด“ลวดลายพวกนี้มากไหน” ลวดลายมังกรปรากฏบนกำไลสีม่วงเรียบง่าย ทั้งยังมียันต์ใบหนึ่งแปะอยู่ก่อนจะร่วงหล่นลงบนเตียง หัวใจของหลี่หลิงเฟิ่งเต้นตึกตัก นี่ไม่ใช่ว่ากำไลวงนั้นที่นางตามหาหรอกหรือ ที่แท้ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม!“เสี่ยวมู่!” หลี่หลิงเฟิ่งร้องเรียกกูรูรู้ทุกเรื่องอย่างร้อนใจ“วันนี้ข้าใช้แรงไปมาก ท่านจะรบกวนพักผ่อนของข้าไม่ได้นะ” เสี่ยวมู่หน้ายู่ แคะหูเพราะเสียงทรงพลังของนาง เจ้านายไม่สงสารเด็กกำลังโตอย่างมันบ้างเลยหลี่หลิงเฟิ่งไม่สนใจ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เจ้าดูก่อน สิ่งนี้ใช่กำไล

  • ชายาอสรพิษ   ห่อผ้าห่อหนึ่ง

    เสี่ยวมู่หน้าดำคล้ำ ยิ่งเห็นหลี่หลิงเฟิ่งคลึงผลบนไม้สีทองเล่นบนมือ หัวใจดวงน้อย ๆ ยิ่งเจ็บปวด ปิดหน้าร้องไห้กระซิกราวกับอนุภรรยาที่โดนรังแก บั้นท้ายงอนงามเจ็บร้าวระบมฮือ ท่านอยากหาเงิน ทำไมต้องบังคับให้ข้าเบ่งพวกมันออกมาด้วย“เอาล่ะๆ ไว้ข้าจะชดเชยเจ้าทีหลัง” หลี่หลิงเฟิ่งลูบศีรษะปลอบประโลม“ฮึก ท่านลำเอียง! ขนาดเจ้านั่นทำร้ายร่างกายข้าท่านยังไม่ห้ามปรามเลย” ยิ่งพูดยิ่งน้ำตาไหล เบ้ปากน้อยใจ มือเล็กป้อมจับผมที่เหลืออยู่น้อยนิดบนศีรษะ แหกปากร้องอีกครา“เสี่ยวไป๋ ต่อไปห้ามรังแกเสี่ยวมู่เป็นอันขาด เสี่ยวมู่มาก่อนเป็นพี่ชาย เจ้าเด็กกว่าต้องเชื่อฟัง เข้าใจหรือไม่” หลี่หลิงเฟิ่งเอ่ยเสียงดุอ๊าวเสี่ยวไป๋ก้มหน้าสลด น้ำตาคลอเบ้า ผงกศีรษะอยู่หลายที“เจ้าก็เหมือนกัน ถึงแม้เจ้าจะมีพละกำลังมาก แต่เสี่ยวมู่มีส่วนช่วยหาอาหารมาให้เจ้า นับว่าเป็นผู้มีพระคุณ วันหน้าต้องกตัญญูต่อพี่ชายให้มาก” เสี่ยวจูจูตอบรับอย่างรู้ความ เชื่อฟังคำพูดหลี่หลิงเฟิ่งทุกคำ“สำหรับข้าพวกเจ้าไม่ใช่แค่ส

  • ชายาอสรพิษ   หาเลี้ยงจอมตะกละ

    “คุณหนูสำรับอาหารพร้อมแล้ว ท่านจะทานเลยหรือไม่เจ้าคะ” เสี่ยวเซียงเดินเข้ามาในห้อง ยอบกายคำนับและกล่าวด้วยรอยยิ้ม“อืม ยกเข้ามาเถิด” หลี่หลิงเฟิ่งวางคัมภีร์โอสถที่อยู่ในมือลง ลุกจากเตียงเดินไปยังโต๊ะที่เสี่ยวเซียงกำลังจัดสำรับอาหารกลางวันอยู่"ไม่เป็นไร ข้าจัดการเอง เจ้าออกไปก่อน"หลี่หลิงเฟิ่งโบกมือให้นางถอยออกไป ก่อนจะนั่งลงและลงมือเริ่มทานอาหารตั้งแต่กลับมาสาวใช้ของนางก็ไม่เคยอยู่ห่างนางแม้แต่ก้าวเดียว วันนี้เริ่มดีขึ้นมาหน่อย ไม่เคยจับตามองตอนนางทานข้าวอีกแล้ว นางยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความอารมณ์ดี ดังนั้นระหว่างคีบอาหารเข้าปากคำแล้วคำเล่า สมองจึงแล่นไม่หยุดหย่อนด้วยเหมือนกัน หวนนึกถึงเรื่องราวไม่กี่วันที่ผ่านมาจากเหตุการณ์ของปรมาจารย์หม่าเจิ้ง เจ้าสำนักทำการจัดระเบียบสำนักแพทย์โอสถขึ้นมาใหม่ กฎการรับศิษย์เข้มงวดขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า พร้อมกันนั้นยังตรวจสอบพื้นเพย้อนหลังของศิษย์สายในของสำนักทุกคน คนไหนมีที่มาที่ไปน่าสงสัยจะถูกขับออกจากสำนักทันที นับเป็นการเก็บกวาดสิ่งสกปรกของสำนักครั้งใหญ่หลี่หลิงเฟิ่งวา

  • ชายาอสรพิษ   ทุกการทรยศมักเจ็บปวด

    “เจ้าโกหก!” ถงหนิงซีตะโกน มองหน้าหลี่หลิงเฟิ่งเขม็งหลี่หลิงเฟิ่งเลิกคิ้ว หัวเราะทีหนึ่ง เป่าน้ำชาร้อนในถ้วย ไม่สนใจถงหนิงซีอีกต่อไปนางไม่อยากคุยกับคนสมองหมู“บัดซบ! เป็นเจ้านั่นล่ะไม่ยอมรับความจริง” หรงอู่คำรามอย่างเหลืออด “ผู้อาวุโสสามถูกขังอยู่ในคุกตั้งแต่ก่อนงานประลองจะเริ่มแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปทำตัวมีพิรุธให้เจ้าจับได้กัน เจ้าคิดว่าคนในสำนักแพทย์โอสถโง่เง่าขนาดนั้นรึ! โดนหลอกใช้แล้วยังไม่รู้ตัวอีก”“ไม่จริง ก็คนผู้นั้นบอกว่า...” ถงหนิงซีอึกอักอยู่นาน สุดท้ายก็หุบปากไม่กล่าวอันใด“บอกอะไร เจ้าพูดออกมาสักทีสิ” ผู้อาวุโสแปดฟังอยู่นานก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ เมื่อเห็นถงหนิงซีมัวแต่อ้ำอึ้งก็ร้อนใจขึ้นมาอีกรอบ“รู้อะไรมั้ย เพื่อพวกเจ้าแล้ว ถงลี่เลือกทรยศสำนักที่เขารับใช้มาหลายสิบปี เพราะพวกเขาเอาชีวิตของคนในครอบครัวมาข่มขู่ น่าเสียดายที่เขาเลือกเจ้านายผิดคน สุดท้ายเมื่อทำงานล้มเหลวถึงได้โดยฆ่าปิดปาก คนใกล้ชิดก็ไม่เหลือทางรอดเช่นเดียวกัน” สวีคุนเอ่ยขึ้นเบาๆ เขา

  • ชายาอสรพิษ   เหนือการควบคุม

    ภายในคุกใต้ดินของสำนักแพทย์โอสถแฝงไปด้วยบรรยากาศอันน่ากลัว เสียงน้ำหยดจากผนังดังเป็นจังหวะในความเงียบสงัด ร่องรอยความมืดเกือบจะครอบคลุมทุกพื้นที่ มีเพียงเงาของคนกลุ่มหนึ่งที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในเงามืดนั่นคือกลุ่มของหลี่หลิงเฟิ่ง ซึ่งกำลังเดินเข้าไปยังห้องขังที่กักขังผู้อาวุโสสามเอาไว้พวกเขาเดินไปตามทางเดินหินที่แคบและมืด อากาศเยือกเย็นที่ออกมาจากหินในร่องทางเดินทำให้ทั้งกลุ่มรู้สึกหนาวเหน็บอยู่บ้าง แม้แต่ลมหายใจยังคงเป็นไอเย็นกรุ่นออกมาเสียงฝีเท้าของทั้งกลุ่มค่อยๆ ดังขึ้นขณะที่เดินผ่านห้องขังหลายห้อง จนกระทั่งถึงประตูไม้เก่าแก่บานหนึ่ง ประตูนี้มีรอยขีดข่วนและความเสื่อมโทรมของมัน เห็นได้ชัดว่าถูกเปิดและปิดบ่อยครั้งสวีคุนหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตู ก่อนจะหันไปมองหลี่หลิงเฟิ่ง “คนร้ายคงต้องการฆ่าตัดตอนเพื่อปกปิดความจริงกระมัง ทุกครั้งที่พวกเราเข้าใกล้ความจริง มักจะมีเท้าคู่หนึ่งก้าวนำหน้าพวกเราไปก่อนเสมอ ถ้าผู้อาวุโสสามยังมีชีวิตอยู่ เราคงจะรู้คำตอบในไม่ช้า”“พวกเราอยู่ในที่แจ้ง ศัตรูอยู่ในที่มืด เรื่องมันไม่ง่ายดายอย

  • ชายาอสรพิษ   เปิดเผยทีละนิด

    ท้องฟ้านอกหน้าต่างอาบแสงแดดจางๆ ผสมกับสายหมอกยามเช้าที่ยังปกคลุมยอดเขา ก่อนจะค่อยๆ จางหายไปเมื่อตะวันเริ่มตั้งสูงขึ้น สถานที่เงียบสงัดภายในห้องนอนของเจ้าสำนักมีเพียงสามชีวิตที่กำลังนั่งจิบชาหันหน้าเข้าหากัน อารมณ์ตึงเครียดของแต่ละคนลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง ยกเว้นหลี่หลิงเฟิ่งที่นั่งเอนตัวพิงกับเก้าอี้ดื่มด่ำกับชาชั้นยอดอยู่ในห้วงฝันส่วนตัวความเงียบดำเนินไปหลายชั่วยาม คนในห้องต่างรอคอยศิษย์ในสำนักบางส่วนที่ออกไปทำภารกิจของค่ำคืนที่ผ่านมา เนื่องจากเมื่อคืนนี้มีผู้บุกรุกเข้าไปในเขตหวงห้ามของสำนัก เจ้าสำนักและอาจารย์อาเล็กจับสิ่งผิดสังเกตได้จึงสั่งให้พวกเขาออกไปค้นหาคนร้ายอย่างลับๆเจ้าสำนักที่ตอนนี้กลับมาเป็นชายหนุ่มรูปงามดังเดิมนั่งนิ่ง แผ่นหลังเหยียดตรงทว่ากลับให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แฝงความเย็นชา แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเพราะรู้ดีว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีแฝงตัวอยู่ในสำนัก อย่าว่าแต่จับคนร้ายเลย ตัวเขาก็เกือบตายด้วยน้ำมือของคนผู้นั้นด้วยซ้ำต่างจากหรงอู่ที่ภายในใจคิดอย่างไรก็แสดงออกมาทางสีหน้าทั้งหมด หยาดเหงื่อผุดขึ้นเต็มสองขยับ เขายกมือขึ้นปาดมันอ

  • ชายาอสรพิษ   เสี้ยวหนึ่งของชาติกำเนิด

    สวีคุนเริ่มสำรวจภายในห้องโถงอย่างตื่นเต้นโดยมีหลี่หลิงเฟิ่งเดินตามอยู่ด้านหลัง เนื่องจากนางเข้าออกโถงแห่งนี้เป็นประจำ จึงรู้สึกเฉยชาอยู่มาก แต่เมื่อเดินเข้ามายังใจกลางห้อง สีหน้าของนางกลับแปรเปลี่ยนจากปกติโดยสิ้นเชิง หันไปมอบรอบ ๆ อย่างน่าประหลาดใจหลี่หลิงเฟิ่งเริ่มสำรวจอีกรอบ จากที่เคยเป็นโถงไม้ธรรมดา เวลานี้กลับแวววาวระยิบระยับดั่งประสาททอง สะท้อนเข้าสู่ดวงตาจนปวดแสบ“โดยปกติแล้วสำนักของเราก็ไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ก่อตั้งจะเป็นบุคคลร่ำรวยผู้หนึ่ง ขนาดที่พำนักยังสร้างมาจากทองคำ!” สวีคุนเก็บอาการไม่ไหวอุทานออกมา ท่ามกลางของมีค่ามากมายเรียงรายอยู่ตรงหน้า ทำให้เขาตาลายอย่างช่วยไม่ได้เมื่อมองไปรอบตัวนอกจากจะเห็นทองคำและเพชรนิลจินดาแล้ว บนผนังห้องยังมีรูปภาพของผู้ก่อตั้งแขวนไว้หลายรูป ช่างน่าเหลือเชื่อ หรือคนผู้นี้ชอบชื่นชมรูปโฉมของตัวเอง ท่วงท่าแต่ละภาพออกจะพิสดารอยู่บ้าง แต่ไม่อาจบดบังความงามของนางได้ปัง! ขณะที่ทั้งสองตกอยู่ในภวังค์ความคิด ประตูที่เคยเปิดอยู่กลับปิดกะทันหัน ตัวอักษรสีแดงตัวโตแสดงอยู่บนผนังห้อง‘บทเพลงเพลิงพิรุณลืมเลือนสยบใต้หล้า ’“ที่แท้ก็ไม่ใช่ภาพวา

DMCA.com Protection Status