Share

บทที่ 4

Author: เย่ชิงขวง
หลังจากกลับมาถึงห้อง กู้ชูหน่วนปลดผ้าคลุมหน้าออก เมื่อเห็นใบหน้าขี้เหร่เป็นหลุมเป็นบ่อของตัวเองก็กินข้าวไม่ลง

เพียงเถ้าธุลี

พิษที่นางโดนเรียกว่าเพียงเถ้าธุลี เธอถอนได้ เพียงแค่ต้องใช้ยาหลายชนิด มีสองชนิดที่ค่อนข้างหายาก

กู้ชูหน่วนนึกย้อนในความทรงจำ แต่กลับหาไม่เจอว่าใครเป็นคนวางยานาง

ในความทรงจำ ก่อนอายุได้สิบขวบนางก็หน้าตาน่ารักน่าชัง หลังจากสิบขวบก็ถูกผึ้งต่อยครั้งหนึ่ง ทั้งใบหน้าก็เริ่มเน่าเฟะ จนสุดท้ายก็กลายเป็นผีเดินได้แบบนี้

อ๋อ พิษผึ้ง...

ให้มันได้อย่างนี้สิ

"คุณหนูเจ้าคะ ครั้งนี้เรามีเรื่องกับอี๋เหนียงห้ากับคุณหนูห้าเข้าแล้วจริงๆ หากนางมาหาเรื่องเราอีกจะทำอย่างไรเจ้าคะ? ไม่อย่างนั้น พวกเราไปขอร้องเจ๋ออ๋อง ให้เจ๋ออ๋องช่วยพวกเราดีไหมเจ้าคะ"

"สาวอนุหนึ่งกับลูกสายตรงหนึ่ง เจ้าต้องกลัวขนาดนั้นเชียวหรือ?"

ชิวเอ๋อร์ตกใจ "คุณหนูของบ่าว อี๋เหนียงห้าเป็นถึงคนโปรดของนายท่านเชียวนะเจ้าคะ ฐานะของนางในจวนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าฮูหยินใหญ่เลย หากนางอยากจะบีบเราให้ตาย ยังง่ายยิ่งกว่าขยี้มดตัวหนึ่งอีกเจ้าค่ะ"

"วางใจเถิด แค่พวกนางสองคนไม่มีทางทำอะไรเราได้หรอก"

"คุณหนูเจ้าคะ หลังจากท่านกลับมาครั้งนี้ ข้ารู้สึกเหมือนว่ามีอะไรเปลี่ยนไป"

"อืม... มีเนื้องอกขึ้นมา หรือว่ามีเนื้อตรงไหนแหว่งไปล่ะ"

ชิวเอ๋อร์ขยับเข้ามาใกล้พลางมานางหัวจรดเท้า "ข้าทาสเองก็บอกไม่ถูก แต่เหมือนว่าคุณหนู...บ้าบิ่นยิ่งขึ้น"

"แบบนี้เรียกว่าบ้าบิ่นแล้วหรือ?"

"แน่นอนสิเจ้าคะ ก่อนหน้านี้แค่คุณหนูเห็นคุณหนูห้ากับอี๋เหนียงห้า ก็กลัวจนแทบไม่กล้าเงยแล้ว แต่ยามนี้คุณหนูถึงขั้นกล้าเถึยงพวกนางด้วยซ้ำ"

"ไปเอาเงินทั้งหมดของข้าออกมา"

"คุณหนู พวกเรามีเงินเสียที่ไหนเจ้าคะ ปิ่นปักผมบนหัวท่าน ใช้เงินเดือนของข้าทาสซื้อมาด้วยซ้ำ ข้าปวดใจนัก"

กู้ชูหน่วนชะงักไป "ข้ามิใช่คุณหนูสายหลักหรอกหรือ? เจ้าอย่าบอกนะว่าข้าไม่มีเงินแม้แต่เหวินเดียว"

"ฮูหยินใหญ่ไม่ให้เงินเราแม้แต่เหวินเดียวมาหลายปีแล้วเจ้าค่ะ แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่เงินเลย"

ให้ตายสิ

นี่มันคุณหนูสามสายตรงแบบไหน ชีวิตน่าสงสารเกินไปหรือเปล่า

ชิวเอ๋อร์ล้วงเงินหนึ่งร้อยเหวินออกมาจากตัวแล้วยื่นให้ตรงหน้ากู้ชูหน่วน เอ่ยปลอบใจ "คุณหนู ข้าทาสยังมีเงินอยู่บ้าง ให้ท่านทั้งหมดเลย หากสิ้นเดือนข้าทาสได้เงินเดือนมาเมื่อใดจะยกให้คุณหนูหมดเช่นกัน"

กู้ชูหน่วนมองรอยยิ้มจริงใจนั้น ในใจก็พลันอุ่นซ่านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เจ้าของร่างเดิมใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ข้างกายนางกลับมีสาวใข้อย่างชิวเอ๋อร์คนเดียวที่ซื่อสัตย์ ไม่รู้ว่านางโชคดีหรือโชคร้าย

"วันหลังหากไม่มีคนอยู่ เจ้าไม่ต้องเรียกตัวเองว่าข้าทาสแล้ว"

ชิวเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างรู้สึกผิด "คุณหนูบอกข้าหลายหนแล้ว ข้าลืมอยู่เรื่อย จากนี้ข้าจะจำขึ้นใจ คุณหนูเจ้าคะ ท่านยังขาดเงินอีกเท่าใด ข้าจะไปยืมคนอื่นมาให้"

"ไม่ต้องหรอก เจ้าเก็บเอาไว้เถอะ"

จากความทรงจำในหัวของเธอ ในเมืองนี้มีคนรู้วิชาการแพทย์น้อยมาก ยาก็แพงแสนแพง แค่ของธรรมดาอย่างยาห้ามเลือดยังต้องใช้เงินหลายตำลึง เงินหนึ่งร้อยเหวินเอามาแคะฟันยังไม่ได้เลย จะพอให้เธอซื้อยารักษาหน้าได้อย่างไร?

ดูท่าแล้วเธอคงต้องหาเงินจากทางอื่น

"คุณหนู ข้าจะไปต้มน้ำให้นะเจ้าคะ"

ชิวเอ๋อร์ยิ้ม หิ้วกาน้ำแล้วเดินจากไป ไม่นานก็กระวีกระวาดวิ่งกลับมา เอ่ยเสียงตื่นเต้นดีใจ "คุณหนู ข้าได้ยินพี่ชุนเฉ่าในครัวบอกว่า เจ๋ออ๋องเสด็จเจ้าค่ะ"

"เจ๋ออ๋องเสด็จหรือ?" กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว นางยังไม่ทันไปหาเขา เขากลับมาหาเองถึงที่

ชิวเอ๋อร์ดีอกดีใจ ค้นหีบรื้อตู้ช่วยนางเลือกเสื้อผ้า "คุณหนู ท่านว่าสวมชุดใดดีเจ้าคะ? ชุดนี้ดีไหม? อืม ไม่ได้ เรียบเกินไป เช่นนั้นชุดนี้ไหมเจ้าคะ สีสดหน่อย"

เมื่อมองเสื้อผ้าในหีบ ชิวเอ๋อร์ก็ปวดใจ

แม้คุณหนูจะเป็นคุณหนูสายตรง แต่เสื้อผ้าของนางนั้น อย่าว่าแต่คุณหนูสายรองเลย ยังเทียบไม่ได้กับสาวใช้ด้วยซ้ำ เลือกไปเลือกมาก็มีแค่ไม่กี่ชุด

เรียวนิ้วขาวของกู้ชูหน่วนเลือกอย่างขอไปที เป็นชุดลายหูลายตาสีสดที่ถูกซุกอยู่ใต้หีบ มุมปากยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ "ชุดนี้ละกัน"

ชิวเอ๋อร์ตกใจจนผงะ ราวกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง "คุณหนู ท่านเลือกผิดหรือเปล่า นี่มันชุดแสดงละครนะเจ้าคะ"

"เจ้าจะรู้อะไร"

"แต่ว่า..."

ชิวเอ๋อร์อยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ถูกนางไล่ออกไปแล้ว เมื่อกู้ชูหน่วนเปิดประตูอีกครั้ง นางก็ถึงกับนึกอยากตาย

คุณหนูของนางแม้จะขี้เหร่ไปบ้าง แต่รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ยามสวมชุดแสดงละครในตอนนี้ นอกจากจะมองไม่เห็นรูปร่างแล้ว กลับกันยังดูหลวมโพรก ไม่เหมาะกับกาลเทศะ

เครื่องประดับบนหัวยิ่งแล้วใหญ่ ปักตั้งหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ดอกโบตั๋นทั้งหมดห้าดอก

"ชิวเอ๋อร์ ข้าสวยหรือไม่?"

กู้ชูหน่วนขยิบตาให้นาง ยิ้มอย่างมีเลศนัย

ชิวเอ๋อร์ตกใจจนแทบเป็นลมล้มพับไป นางน้ำตารื้น "คุณหนูเจ้าคะ เราอย่าก่อเรื่องเลยเจ้าค่ะ นานทีเจ๋ออ๋องจะเสด็จจวนเราสักหน ครานี้อาจจะมาสู่ขอก็ได้"

"ไปกัน ไปหาว่าที่คู่หมั้นของข้ากัน"

"คุณหนู ท่านเปลี่ยนชุดเถอะเจ้าค่ะ ข้าแต่งตัวให้ท่านใหม่แล้วค่อยออกไปกัน"

"แต่งตัวอะไรอีกเล่า บางทีเจ๋ออ๋องอาจจะชอบแบบนี้ก็ได้ ข้าว่าชุดนี้เหมาะกับข้าดีออก"

เดินวนไปมาบนระเบียงอยู่หลายหน กู้ชูหน่วนถึงได้เห็นเจ๋ออ๋องที่กำลังดื่มชาอยู่ที่ศาลารับลมกลางสวนดอกไม้

เพราะอีกฝ่ายหันหลัง กู้ชูหน่วนจึงไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เพียงเห็นแค่แผ่นหลัง ด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรา และมาดองอาจของเจ๋ออ๋อง ดูท่าแล้วหน้าตาคงไม่แย่

ข้างเขายังมีน้องห้า น้องเจ็ดของเธอ และเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง

เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา สวมชุดยาวสีฟ้า ประดับเข็มขัดหยกที่เอว ในมือถือพัดหยก รอยยิ้มบางแต้มบนใบหน้า ไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน

ชิวเอ๋อร์บ่นอุบอิบ "ทุกครั้งที่เจ๋ออ๋องเสด็จ คุณหนูห้ากับคุณหนูเจ็ดมักจะเกาะแกะเจ๋ออ๋องไม่ห่าง พวกนางอยากเป็นที่โปรดปรานของเจ๋ออ๋อง คุณหนู ประเดี๋ยวข้าแต่งตัวให้ท่านแล้ว ท่านก็ไปเอาใจเจ๋ออ๋องสักหน่อย จะยอมยกเจ๋ออ๋องให้พวกนางไม่ได้"

กู้ชูหน่วนยิ้มลำพองใจ

แต่ก่อนมีแต่คนอื่นที่เอาใจเธอ แต่คนที่เธอต้องเอาใจนั้นคงยังไม่เกิดมั้ง

"เจ๋ออ๋อง ท่านคิดถึงข้าหรือเพคะ ถึงได้เสด็จมาหาข้าที่จวน"

เสียงของกู้ชูหน่วนดังลั่น ประกอบนางในชุดการแสดงหลวมโพรกที่กระโจนเข้าใส่เจ๋ออ๋อง ทุกคนต่างตกใจเพราะการกระทำนั้น

ชิวเอ๋อร์ปิดตา นางไม่กล้าแม้แต่จะมองสีหน้าของเจ๋ออ๋อง

"เจ้าเป็นใคร?"

เจ๋ออ๋องเบี่ยงตัวหลบในทันใด มองหญิงสาวสวมชุดลายพร้อยตรงหน้าด้วยยิ้มบางแฝงความขุ่นเคือง

"ข้าคือคู่หมั้นของท่านอย่างไรเล่า เจ๋ออ๋อง ท่านไม่ได้เสด็จมาที่จวนนานมากแล้ว ข้าจะพาท่านเดินเที่ยวเอง พวกเราจะได้กระชับความสัมพันธ์กันด้วย"

กู้ชูหน่วนเล่นหูเล่นตา นางในชุดตัวโคร่งสีแดงเขียวฉูดฉาด บวกกับดอกโบตั๋นห้าดอกบนหัว ดูแล้วเหมือนนกยูงรำแพนหางอย่างไรอย่างนั้น ไร้รสนิยมเสียไม่มี

"โอ้โห... ฮ่าๆ...เจ๋ออ๋อง ดูท่าแล้วคู่หมั้นของท่านนั้นไม่เหมือนใครจริงๆ"

ชายหนุ่มในชุดสีฟ้า เซียวอวี่เชียนหัวเราะยกใหญ่เสียจนตัวงอ

วันนี้เขาเพิ่งรู้ว่าเหตุใดเจ๋ออ๋องถึงได้อยากถอนหมั้นให้เร็วที่สุด รสนิยมเช่นนี้ ใช่ว่าจะถูกใจคนทั่วไป

กู้ชูหลันและกู้ชูฉิงชะงักไป ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าจะได้สติกลับมา

พี่สาวของนางอาการบ้ากำเริบอีกแล้วหรือไร? แต่งตัวแบบนี้ตั้งใจจะให้คนกลัวหรือ

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 5

    หากเป็นแต่ก่อน พวกนางคงตวาดลั่นไปแล้ว แต่เพราะวันนี้เจ๋ออ๋องอยู่ด้วย พวกนางคงอยากจะฆ่ากู้ชูหน่วนให้ตายไปเสียกู้ชูหลันจงใจตำหนิเสียงเบา "ท่านพี่ เหตุใดท่านถึงได้แต่งตัวเช่นนี้อีกแล้ว ต่อหน้าเจ๋ออ๋อง ท่านจะทำอะไรตามใจเช่นนี้ไม่ได้ เจ๋ออ๋อง ท่านพี่เป็นเช่นนี้อยู่บ่อยๆ ขอท่านอย่าได้ถือโทษเลยนะเพคะ"กู้ชูหน่วนกลอกตาอีกแล้วอะไรเล่า?เสียบริสุทธิ์แล้ว แต่นางยังมีหน้ามาเกาะแกะเจ๋ออ๋องอีก ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน"น้องสาว เจ้าก็พูดเสีย เพราะรู้ว่าเจ๋ออ๋องจะเสด็จ ข้าถึงได้ตั้งใจแต่งตัว พวกเจ้าดูชุดข้าสิ สวยหรือไม่"สวย?ทุกคนอยากจะสำรอก"เจ๋ออ๋อง พวกเราก็ถึงวัยเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว เมื่อไหร่ท่านถึงจะมาสู่ขอข้าอย่างเป็นทางการที่บ้านสักที"กู้ชูหน่วนกระแซะเข้าไปใกล้เจ๋ออ๋อง จงใจแสร้งล้มเซ ผ้าคลุมบนใบหน้าปลิวไปตามลม เผยใบหน้าแสนอัปลักษณ์อันน่าเกลียดน่ากลัวให้เจ๋ออ๋องได้เห็นเต็มตาเจ๋ออ๋องตกใจจนถอยกรูไปหลายก้าว หัวใจเต้นถี่รัวนั่นมันใบหน้าอัปลักษณ์แบบใดกัน บนหน้าเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่ว่าจะแนวตั้งแนวขวางก็มีแต่ตุ่มหนองเล็กใหญ่เต็มไปหมด ไร้ซึ่งพื้นที่ว่างและที่น่าขยะแขยงที่สุดก็คือ น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 6

    หากเป็นหลายปีก่อน การได้แต่งงานกับหานอ๋องถือว่าได้รับมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง แต่บัดนี้... หานอ๋องโดนยาพิษ อาการหนักถึงชีวิต มีข่าวลือว่าจะคงจะอยู่ไม่ถึงสิ้นปีนี้ยิ่งไปกว่านั้น หานอ๋องอารมณ์แปรปรวน โหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนเป็นผักปลา การแต่งงานกับพระองค์ ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตายหรอกหรือ?อัครเสนาบดีกู้พิจารณาพระราชประสงค์อย่างถี่ถ้วนลูกสาวคนที่สามของเขา ไม่เพียงแต่รูปโฉมอัปลักษณ์ ยังอ่านหนังสือไม่ออกสัก หานอ๋องมีกำลังทหารในมือ อำนาจเทียมฟ้า การมอบลูกสาวของเขาให้กับหานอ๋อง ไม่ใช่การดูหมิ่นหานอ๋องซึ่งหน้าหรือ?ก่อนหน้านี้แม้ฮ่องเต้และหานอ๋องจะไม่ลงรอยกัน แต่ก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ แต่การแต่งงานครั้งนี้ อาจทำให้ฮ่องเต้และหานอ๋องต้องแตกหักกันมุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุก หน้ามุ่ยคอตกฮ่องเต้แห่งแคว้นเย่ชอบจับคู่ให้คนอื่นเขาขนาดนั้น?เพิ่งจะยกเลิกการหมั้นหมายไปหนึ่ง ก็มาอีกหนึ่ง หากฉันขายไม่ออกท่านคงไม่ยอมเลิกราสินะ?ขันทีหม่าผู้มาประกาศราชโองการหัวเราะพลางเอ่ย “ฝ่าบาทตรัสว่า การแต่งงานของคุณหนูสามนั้นเป็นพระราชประสงค์ของฮ่องเต้พระองค์ก่อน บัดนี้... บัดนี้เจ๋ออ๋องประชวรอาการหนัก เ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 7

    กู้ชูหยุน ลูกสาวที่สองของเขานั้นรอบรู้ศิลปะแขนงต่างๆ ทั้งฉิน หมากล้อม ตำรา วาดภาพ จึงถูกบังคับให้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง จวบจนตอนนี้ขุนนางเล็กใหญ่ในราชสำนักยังคงอิจฉาเขา อัครเสนาบดีกู้เองภาคภูมิใจเไปได้อีกนานแต่ว่า...ลูกสาวคนที่สามของเขา ไม่รู้หนังสือแม้สักแต่ หากเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวงท่ามกลางเหล่าปัญญาชนมากมาย คงเสียหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นนางยังหน้าตาขี้อัปลักษณ์ชวนอาเจียนเมื่อมีราชโองการ นางจึงเป็นหานเฟยโดยสมบูรณ์ ดังนั้นหากนางเสียหน้า ก็เท่ากับหานอ๋องเสียหน้าไปด้วยหากอัครเสนาบดีกราบทูลฝ่าบาท ฝ่าบาทจะต้องพอพระทัยและสรรเสริญเขาอย่างมากแต่เขาก็เท่ากับตั้งตัวเป็นศัตรูกับหานอ๋องโดยสิ้นเชิงอัครเสนาบดีกู้ถอนหายใจเบาๆ หวังว่าการเลือกข้างฝ่าบาทจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง“หากหลันเอ๋อร์ฉลาดได้เจ้าสักครึ่งหนึ่ง ก็คงไม่ต้องเสียความบริสุทธิ์”อี๋เหนียงห้าซบใบหน้าเข้าหาอ้อมกอดของอัครเสนาบดีกู้ เอ่ยเสียงอ่อนหวาน “หลันเอ๋อร์ยังเด็ก คิดอะไรไม่รอบคอบ จึงถูกใส่ร้าย โชคดีที่รู้เรื่องนี้ไม่กี่คน หากปกปิดได้ดี เรื่องที่หลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ก็จะไม่มีผู้ใดรู้ ต่อจากนี้ไปข้าจะอบรมห

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 8

    คุณ...คุณหนูสาม... กล้าตบ...ตบหน้าอี๋เหนียงห้าเลยหรือ...แม่เจ้า พวกเขาไม่ได้ตาฟาดใช่ไหมอี๋เหนียงห้าเป็นถึงอนุคนโปรดของนายท่านเชียวนะอี๋เหนียงห้าโดนตบจนเห็นดาว เกือบเซล้ม นางกุมใบหน้าบวมแดงอย่างตกตะลึง ทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาแปลกประหลาดอี๋เหนียงห้าเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ตวาดลั่น "นี่เจ้ากล้าตบข้าหรือ?""ก็ตบเจ้าอย่างไรเล่า""สามหาว! สามหาว! ใครก็ได้ จับตัวคุณหนูสามเอาไว้ วันนี้ข้าจะสั่งสอนนางให้เข็ด""กล้าก็เข้ามา"กู้ชูหน่วนที่เคยอ่อนแอ กลับแผ่รังสีทรงอำนาจไปทั่วร่างแววตาของนางเย็นยะเยือก เย็นชาไร้ซึ่งตวามรู้สึก เมื่อถูกนางจ้องมอง เหล่าบ่าวรับใช้ตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับก้าวเท้าข้างหนึ่งลงนรกไปแล้วอย่างไรอย่างนั้นกู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเย็นชา "ท่านแม่ข้าคือน้องสาวบุญธรรมของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ได้รับแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเจาหลิง ส่วนข้านั้นเป็นลูกสาวแท้ๆ ขององค์หญิง คุณหนูสามสายตรงแห่งจวนอัครเสนาบดี อี๋เหนียงห้าจะเทียบอันใดได้? ก็แค่อนุภรรยาชั้นต่ำในจวนอัครเสนาบดี อย่าว่าแต่ข้าตบเจ้าวันนี้เลย ต่อให้วันนี้ข้าฆ่าเจ้า ก็ไม่มีใครทำอะไรข้าได้"ตาลายทุกคนต่างตาลายหากการที่นางปฏ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 9

    ฮูหยินใหญ่หัวใจกระตุกวูบนางคิดบัญชีกับอี๋เหนียงห้าเสร็จแล้ว ก็หันมาคิดบัญชีกับนางงั้นหรือ?ฮูหยินใหญ่ส่งสายตาให้แม่นมผู้ดูแล ตวาดเสียงลั่น "เงินเดือนของคุณหนูสามเล่า เหตุใดนางถึงไม่ได้รับ? หรือว่าพวกเจ้าแอบยักยอก""ฮูหยินโปรดตรวจสอบ ต่อให้ข้าทาสจะใจกล้าเพียงใด ข้าทาสก็ไม่กล้ายักยอกเงินเดือนของคุณหนูสามหรอกเจ้าค่ะ ข้าทาสจะตรวจสอบให้แน่ชัดเจ้าค่ะ""แม่นมไป๋ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนละ ในเมื่อบัดนี้ข้าคือว่าที่พระชายาของเทพสงครามหานอ๋อง หากหานอ๋องรู้เข้าว่าพระชายาของเขาใช้ชีวิตอย่างลำบาก เกรงว่าเขาคงจะไม่พอใจนัก""เจ้าค่ะๆ..."คนทั้งจวนสีหน้าไม่สู้ดีนักยังไม่ทันได้เป็นหานอ๋องเฟย ก็เริ่มวางท่าเป็นหานอ๋องเฟยแล้ว ใครก็รู้ว่าหานอ๋องมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หากหานอ๋องไม่อยู่แล้ว คอยดูซินางจะอวดดีเช่นนี้หรือไม่กู้ชูหน่วนกวาดตามองทุกคน ณ ที่นั้น ก่อนจะประกาศตนเสียงทรงอำนาจ "นับแต่วันนี้เป็นต้นไป หากผู้ใดกล้ารังแกชิวเอ๋อร์ ก็เท่ากับรังแกข้า แม้ในจวนนี้ข้าจะฐานะต่ำต้อยไปสักหน่อย แต่ข้าคิดว่าด้วยฐานะของธิดาแห่งองค์หญิงเจาหลิง หากจะสั่งประหารชีวิตใครสักคนคงพอมีอำนาจอยู่บ้าง"ทุกคนหวาดผวาตัวสั่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 10

    กู้ชูหลันชะงักไป ไม่รู้จะโต้กลับอย่างไรจะบอกว่านางจงใจไม่ปลุกตัวเอง แต่กลับมาสำนักบัณฑิตแต่เช้างั้นหรือ?คำพูดแบบนั้น จะให้นางพูดออกไปได้อย่างไรกู้ชูหน่วนยิ้มเอ่ย "อีกอย่างเจ้าไม่ได้อาบน้ำจุดธูปหอม ไม่ตามข้าไปไหว้พระขอบพระทัยฝ่าบาท ถึงได้จงใจว่าร้ายข้า""ข้า..."ให้ตายสิ นางสารเลวนี้ ติดกับนางอีกจนได้สีหน้าของกู้ชูหลันเปลี่ยนไปตามอารมณ์ ทว่าตัวนั้นกลับนั่งไม่ติดที่เซียวอวี่เชียนหันไปหากู้ชูหน่วนแล้วยกนิ้วให้ เพราะกู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างเขา เขาจึงเอ่ยกระซิบ "สาวน้อย ไม่เจอกันวันเดียว ฝีปากเหนือชั้นยิ่งกว่าเดิมอีกนะ"กู้ชูหน่วนกะพริบตาปริบๆ อย่างใสซื่อ ยกตำราขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเอง หันหน้ามายิ้มเอ่ยกับเซียวอวี่เชียน "ชมกันอีกแล้ว หากฝีปากไม่ดี ท่านจะมาสู่ขอหรือ""โครม..."เซียวอวี่เชียนล้มลงในทันที สีหน้าพลันถมึงทึงหญิงผู้นี้ เกิดปีลิงหรืออย่างไร ถึงได้เล่ห์เหลี่ยมปานนี้นางรู้จักทำคำว่าจริงจังหรือไม่ลองนึกว่าหากตัวเองแต่งงานกับหญิงอัปลักษณ์ ท่านพ่อคงตีเขาจนขาหักกู้ชูหลันนั่งข้างเจ๋ออ๋อง นางลอบมองกู้ชูหน่วนไม่ได้กลับบ้านไม่นาน น้องสามของนางเปลี่ยนไปยิ่งนักก่อนหน้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 11

    เหอะ ตัวยาสามสิบสองชนิด แถมยังเติบโตในสภาพแวดล้อมต่างกันทั้งหมด กว่าเธอจะเก็บได้ทุกชนิด สู้หาเงินแล้วไปซื้อเอายังจะง่ายกว่าเสียงพูดของอาจารย์สวีเหมือนยานอนหลับ บวกกับตั้งแต่ข้ามกาลเวลามาก็ยังไม่เคยได้พักผ่อนเต็มที่ กู้ชูหน่วนจึงผล็อยหลับไปจนกระทั่งนางสะดุ้งตื่นเพราะเซียวอวี่เชียนสะกิดนางเงยหน้าพรวดขึ้น "เช้าแล้วหรือ?"อาจารย์สวีเดือดดาล "กู้ชูหน่วน เจ้ายังเห็นอาจารย์เฒ่าผู้นี้อยู่ในสายตาหรือไม่?"กู้ชูหน่วนเกาหูตาเฒ่านี่ อายุปูนนี้แล้วยังขี้โมโหอีกทุกคนในห้องเรียนต่างหัวเราะอย่างอดไม่ได้มาสายก็แล้วไป แต่ยังกล้าหลับในห้องเรียนอีกอาจารย์สวีขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว"ที่นี่คือห้องเรียนแห่งสำนักบัณฑิตหลวง แผ่นดินนี้มีคนไม่รู้เท่าไหร่เฝ้าฝันอยากจะเข้ามาเรียน แต่เจ้า... เจ้ากลับหลับในห้องเรียน เจ้า...เจ้าอยากจะให้ข้าอกแตกตายหรืออย่างไร?"เซียวอวี่เชียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเขาควรจะดีใจ หรือว่าควรจะสงสารนางดี?ตอนกู้ชูหน่วนยังไม่มา คนที่ถูกอาจารย์ต้อนถามทุกครั้งคือเขา ตอนนี้เหมือนลมจะเปลี่ยนทิศเสียแล้ว ยัยขี้เหร่นี่ ไม่เอาอ่าวยิ่งกว่าเข้าเสียอีกอย่างมากเขาก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 12

    ทุกคนล้วนแต่คาดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะท่องได้ทุกคำ"เถาวัลย์พันเครือ เมล็ดพันธุ์แตกยอด ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?"เฮือก...ทั้งห้องเรียนตกตะลึงนาง...นางท่องได้อย่างไร?บทกลอนของซูหลีสาบสูญไปแล้วมิใช่หรือ? พวกเขารู้แค่ครึ่งท่อนแรกเท่านั้นเองเฒ่าสวีตาค้างกู้ชูหลันกับกู้ชูอวิ๋นและคนอื่นๆ นิ่งอึ้งเจ๋ออ๋องมองกู้ชูหน่วนอย่างไม่เชื่อสายตาแม้แต่ซ่างกวานฉู่ข้างอาจารย์สวีที่ถือตำราอยู่ยังมือสั่น เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาอันงดงามคู่นั้นราวกับกำลังสำรวจกู้ชูหน่วนคนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภอย่างนั้นหรือนาง...รู้กลอนซูหลีได้อย่างไร"เถาวัลย์พันเครือ พืชพันธุ์ออกผล ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?"สายตาแปลกประหลาดของทุกคนทำเอากู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิกนี่ไม่ใช่กลอนของซูหลีหรือไงเธอไม่กล้าท่องวรรคที่สามแล้วทำได้เพียงเอ่ยอย่างเก้อเขิน "คือว่า...อาจารย์เจ้าคะ ข้าไปวิ่งห้าสิบรอบก็ได้ แต่กู้ชูหลันเป็นบัณฑิตผู้ติดตาม หากข้าต้องถูกทำโทษ นางมีเหตุผลอะไรจะไ

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 258

    ขณะที่เยี่ยเฟิงเดินมาถึงประตูวิหารใหญ่ ซิ่งเอ๋อร์และฮองเฮาฉู่ได้พูดคุยกัน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ม่านตาหดเล็กลง ราวกับว่าเท้าของเขามีน้ำหนักเป็นพันชั่ง เขาจึงก้าวต่อไปไม่ได้"ฮูหยิน ท่านชายน้อยหายตัวไปนานหลายปีแล้ว แม้ว่ายามนี้เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านก็อาจจะจำเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?""ยามนั้นที่ข้าคลอดบุตรยากและสลบไป ข้าเห็นดอกเหมยที่บริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา ดอกเหมยที่กำลังเบ่งบาน ข้ายังคิดว่าทำไมเด็กชายถึงมีปานรูปดอกเหมยที่ไหล่ได้"ปาน......ดอกเหมย?เยี่ยเฟิงหายใจเร็วขึ้นเขาใช้ความพยายามอย่างมากจึงสามารถยืนอยู่หลังประตูได้ร่างกายเย็นเฉียบแนบชิดประตู ราวกับว่าหากไม่แนบชิดประตู เขาก็จะยืนไม่ไหวไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา......ก็มีปานเป็นรูปดอกเหมยเช่นกัน และยังเป็นดอกที่กำลังเบ่งบาน......แม่เฒ่าบอกว่า ตั้งแต่เขาเกิดก็......มี......"แค่ปานรูปดอกท้อ จะสามารถระบุตัวท่านชายน้อยได้อย่างไร? แล้วหากมีคนปลอมตัวล่ะเจ้าคะ?""เป็นไปไม่ได้ ดอกเหมยดอกนั้นแตกต่างจากดอกเหมยอื่นๆ กลีบดอกน้อยกว่าดอกเหมยทั่วไปหนึ่งกลีบ นอกจากข้าและแม่นมแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 257

    เมื่อได้ยินคำพูดของสาวใช้ เยี่ยเฟิงหันมองเล็กน้อยฮูหยินผู้นั้นกับลูกชายแท้ๆ ถูกพรากจากกันมานานถึงสิบแปดปี และเขาก็พลัดพรากจากพ่อแม่แท้ๆ มาสิบแปดปี นางอาจเป็นแม่ของเขาใช่หรือไม่?เมื่อมองดูฮูหยินอีกครั้ง ท่าทางสง่างาม พูดจาไพเราะ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ดูแลอย่างดี ไม่เหมือนคนยากจนเลยฮูหยินสูงศักดิ์เช่นนี้ จะเป็นแม่แท้ๆ ของเขาได้อย่างไรกันเยี่ยเฟิงหัวเราะเสียงเบาเขาคงคิดถึงพ่อแม่จนเพี้ยนไปแล้วฮองเฮาฉู่ตาแดงก่ำ ความเศร้าโศกแวบผ่านไป "ยามนั้น ลูกชายคนเล็กของข้าหลินเอ๋อร์ถูกขโมยไปที่นอกเมืองชิงหง ราชครูบอกว่า หากอยากจะตามลูกชายคนเล็กกลับมา ก็ต้องมาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋น ราชครูชำชองวิชาห้าธาตุแปดทิศ สามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้ เขาไม่โกหกข้าแน่นอน""แต่ท่านมาไหว้พระที่นี่ทุกปี และเมื่อก่อนก็มาสวดมนต์ที่วัดไป๋อวิ๋นทุกวัน ไม่ใช่ว่ายังหาเด็กชายคนนั้นไม่เจอหรอกหรือ"พอนึกถึงเรื่องในอดีต ซิ่งเอ๋อร์ก็ร้องไห้เมื่อเด็กน้อยถูกขโมยไป ฮองเฮาก็คิดถึงทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ในช่วงสิบปีแรก อยู่ที่วัดไป๋อวิ๋นสวดมนต์ทุกวัน เพื่อเพิ่มบุญให้กับท่านชายน้อย หวังว่าจะได้กลับมาเป็นครอบครัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 256

    กู้ชูหน่วนพยักหน้าเบาๆ “เช่นนั้นไปพักที่วัดไป๋อวิ๋นก่อนก็แล้วกัน”กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้จะปลอบเยี่ยเฟิงอย่างไรเรื่องแบบนี้ต้องให้เขาคิดเองนางก็ไม่ได้ตั้งใจจะเห็นฉากนั้น เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆเยี่ยเฟิงแม้จะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่นางก็รู้สึกได้เขามองนางเป็นเพื่อน และเพราะว่ามองนางเป็นเพื่อน จึงไม่อยากให้นางเห็นฉากที่น่าอับอายที่สุดของเขา“ร่างกายยังไหวหรือไม่? ห่กไม่ไหว เราพักที่นี่ก่อนก็ได้”“ไหว ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวเหล่าทหารจะไล่ตามมา”เยี่ยเฟิงเดินนำไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ปรากฏสีหน้าใดๆฝูกวงอธิบาย “วันนั้นในป่าไผ่ที่พลัดหลงกับนายหญิง พวกข้าเจอกับนายท่านของเผ่าหมอหลายคน พวกข้ายืนหยัดต่อสู้ไม่ไหว เยี่ยเฟิงขาช้าก็เลยถูกจับไป ข้าน้อยหานายหญิงไม่เจอ จึงแอบแฝงตัวเข้าไปในเผ่าหมอเพื่อไปช่วยเยี่ยเฟิง แต่ไม่นึกว่าจะเจอนายหญิงในเผ่าหมอ เรื่องต่อจากนั้น นายหญิงก็รู้แล้ว”“อืม ไปกันเถอะ”วัดไป๋อวิ๋น ที่นี่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของวัดชิงหง มีผู้มาทำกราบไหว้ไม่ขาดสาย ภายในวัดมีสามเณรน้อยเดินไปมาให้เห็นกู้ชูหน่วนประนมมือด้วยท่าทางนอบน้อม "ท่านเณรน้อย ได้ยินมาว่าวัดไป๋อวิ๋นศักดิ์สิทธิ์มาก พ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 255

    เมื่อพลังของค่ายกลลดลง กู้ชูหน่วนจึงพบทางลับเข้าไปได้แต่ทางลับนี้กลับไม่ใช่ทางลับที่เพิ่งแยกจากหัวหน้าเผ่าหมอมานางรู้สึกสงสัยค่ายกลนี้แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้?เมื่อครู่ยังป้องกันได้อย่างแน่นหนา ไม่มีที่ให้โจมตี แต่ยามนี้กลับกลายเป็นค่ายกลที่พุพังไปได้?มีใครมาช่วยนางทลายค่ายกลไปครึ่งหนึ่งหรือไม่?มีใครในเผ่าหมอช่วยนางทลายค่ายกลหรือไม่?หรือว่าจะเป็นอาโม่?"นายหญิง เราพบทางลับเข้าไปแล้ว ทำไมยังไม่รีบออกไป หรือว่าจะต้องตามหาอะไรอีกหรือ" ฝูกวงถามด้วยความมึนงงไม่ไกลนัก หัวหน้าเผ่าหมอยกมุมปากด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งยโส แล้วยกมือขาวขึ้นเบาๆ ดมกลิ่นดอกไม้ในมือด้วยท่าทางกระหาย และเปล่งเสียงออกมาจากมุมปาก"โง่นัก นางกำลังตามหาข้าอยู่แน่นอน หากหาข้าไม่เจอ นางจะหนีไปได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีเงาของใครเลย แต่ไกลออกไปมีแสงไฟลุกโชน ไม่รู้ว่ามีทหารจำนวนเท่าใดกำลังตามล่าพวกนางอยู่นางเหลือบมองทางลับ แล้วมองไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลออกไป กัดฟันแน่น "ไป"อาโม่เดินเล่นในเขาดูดวิญญาณราวกับเดินเล่นในสวนของตัวเอง คงจะรอนางไม่ไหวแล้วน่าจะจากไปแล้วแล้วนางก็รู้ทางลับหลาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 254

    กู้ชูหน่วนเดินวนกลับมาอีกรอบนางเอามือลูบขมับที่ปวดตุบ แล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาว่า "พวกเราติดอยู่ในค่ายกลแล้ว และเป้นค่ายกลที่ทรงพลังมากๆ ด้วย""นายหญิง ท่านมีวิธีทลายค่ายกลนี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะนางไม่เคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อนในชีวิต หากจะให้ทลายคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี"หากทางลับออกไปไม่ได้ ข้าขออาสาคุ้มกันให้พวกเจ้าออกทางประตูใหญ่""ข้าจำได้ว่ามีทางลับหลายทาง ไปทางนี้กันก่อนดีกว่า แล้วค่อยออกทางประตูใหญ่""ได้"หัวหน้าเผ่าหมอถูกตบหน้าเข้าอย่างจังเซวี่ยซาก้มศีรษะลงต่ำ แทบอยากหายตัวไปเลยเสียประเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะโกรธ แต่กลับได้ยินเสียงของหัวหน้าเผ่าหมอที่เรียบเฉยดังขึ้น"ถูกต้องแล้ว ไปทางนี้แหละ เมื่อครู่ข้ารอนางอยู่ที่ทางลับนั่นเอง"เซวี่ยซา "เอิ่ม......""เซวี่ยซา ไปดูกันดีกว่า""ขอรับ"เซวี่ยซาเดินตามหัวหน้าเผ่าหมอ และตามพวกกู้ชูหน่วนติดๆทว่าพวกกู้ชูหน่วนเดินวนไปวนมา ราวกับอยู่ในเขาวงกตขนาดใหญ่ นางทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง แต่ก็ยังวนกลับมาอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเปิดทางให้ คงปะทะกับยามเฝ้าเวรไปแล้วเขาเตือนด้วยความระมัดร

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 253

    เยี่ยเฟิงยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ก็ได้ยินเสียงดังปัง! โย่วหู้ฝ่าถอยหลังไปชนกับศาลาไม้ด้านนอกด้วยอย่างแรงจนทำให้ศาลาพังทลาย"เฮือก......"เขากระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ แล้วก็หายใจรวยรินฝูกวงยังคงสภาพสมบูรณ์ ดวงตาจ้องไปที่ลำคอของโย่วหู้ฝ่า ยืนมองลงมาจากที่สูงชัยชนะเป็นที่ประจักษ์เส้นประสาททั้งหมดของโย่วหู้ฝ่าได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดแปดจะมีพลังมากขนาดนี้"ข้าเป็นถึงโย่วหู้ฝ่าของหัวหน้าเผ่าหมอ เจ้ากล้าที่จะฆ่าข้า ก็เท่ากับว่าเจ้ามาขัดขวางเผ่าหมอทั้งเผ่า"ฝูกวงยิ้มเยาะ "สู้กันมานานขนาดนี้ มีคนจากเผ่าหมอมาช่วยเจ้าสักคนหรือไม่?"คำพูดประโยคนี้ทำให้โย่วหู้ฝ่าตระหนักขึ้นทันทีวังที่ปกป้องอย่างแน่นหนา ทำไมถึงไม่มีทหารเฝ้าสักคน?หัวใจของเขาเต้นถี่ขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกทว่าสิ่งที่เขาไม่สามารถเชื่อได้ยิ่งกว่าก็คือกู้ชูหน่วนชักดาบอีกเล่มของฝูกวงออกมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาเย็นชาราวกับน้ำแข็งเผยให้เห็นความเย็นเยือกราวกับความตายนางเอ่ยย้ำทีละพยางค์ว่า "กล้าแตะต้องเยี่ยเฟิง เจ้าต้องพร้อมที่จะตาย"โย่วหู้ฝ่าพยายามจะขัดข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 252

    ในห้องนอน เยี่ยเฟิงถูกกางแขนขามัดติดกับเตียง มือและเท้าถูกโซ่ตรึงไว้ เสื้อผ้าที่ขาดหลุดลุ่ยกระจายอยู่เต็มพื้นโย่วหู้ฝ่ากำลังจะทำตามอำเภอใจเยี่ยเฟิงพยายามดิ้นรน แต่ก็ทำไม่ได้ กลับยิ่งทำให้แผลฉีก เลือดไหลซึมออกมา"เพียะ......"โย่วหู้ฝ่าตบเยี่ยเฟิงด้วยฝ่ามือแล้วด่าทอ“ถุย มาทำเป็นสูงส่งอะไรห้ะ คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเคยรับใช้นายท่านหลันอย่างไร ด้วยหน้าตาของเจ้า ข้ายอมลดตัวลงมา เจ้าก็ควรจะดีใจได้แล้ว”ประโยคนี้แทงใจเยี่ยเฟิงอย่างเจ็บปวดความทรงจำในอดีตพรั่งพรูเข้ามาในสมองราวกับคลื่นซัดสาดทุกฉากทุกตอนทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่มีค่าหากชีวิตเลือกได้ ใครจะอยากมีชีวิตแบบนี้ใครอยากอยู่ใต้อำนาจของคนอื่น และยอมรับชะตากรรมอย่างเต็มใจ“ไอ้ชาติชั่ว! แค่ดอกไม้ริมทาง ยังจะกล้าจ้องหน้าข้าอีก บอกให้รู้ไว้ว่าคืนนี้ผ่านไป ข้าจะให้เจ้าไปรับใช้ลูกน้องข้า เจ้าชอบทำเป็นสูงส่งนักใช่หรือไม่ ดูซิว่าเจ้าจะทำได้อีกนานแค่ไหน”โย่วหู้ฝ่าตบเยี่ยเฟิงไปอีกหลายครั้ง พร้อมกับคำด่าและเร่งความเร็วในการกระทำ"ติ๊ง......"น้ำตาหยดหนึ่งไหลอาบแก้มของเยี่ยเฟิง แผลบนร่างกายเจ็บปวดเพียงใดก็ไม่เท่ากับหัวใจท

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 251

    เซวี่ยซาตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาขบคิดอย่างหนัก แต่นึกไม่ออกว่าแม่นางกู้คล้ายกับเพื่อนเก่าคนไหนของนายท่านกันแน่เขาอยู่เคียงข้างนายท่านตั้งแต่เด็ก นายท่านดูเหมือนจะ......ไม่มีเพื่อนเลยสักคน......เซวี่ยซาก้มศีรษะลง ไม่กล้าเอ่ยคำใดและรอรับคำสั่งเงียบๆทว่าหัวหน้าเผ่าหมอกลับยังไม่ออกคำสั่ง เพียงแต่เเอ่ยกับตนเองเบาๆ ว่า "นางไม่เหมือนกับผู้หญิงคนนั้น นางกระฉับกระเฉงกว่ามาก ที่เหมือนกันก็คือ......ดวงตาคู่นั้น"ผู้หญิง?หรือว่าจะเป็นเจ้าสำนักซิวหลัว?นายท่านมิใช่สังหารนางไปแล้วรึ?เงียบอยู่นาน เซวี่ยซาจึงเอ่ยออกมาด้วยความระมัดระวังว่า “นายท่าน ท่านบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับเจ้าสำนักซิวหลัว และไปรักษาตัวที่ป่าไผ่ เรื่องนี้เป็นฝีมือของนายท่านชิ่งฮวาที่แพร่งพรายออกไป”“ผู้ที่เข้าร่วมก่อกบฏมีทั้งนายท่านชิ่งฮวา นายท่านดอกท้อ นายท่านทับทิม และนายท่านดอกบัว รวมถึงโย่วหู้ฝ่าด้วย ไม่ทราบว่านายท่านจะลงโทษพวกเขาอย่างไร”“พวกสวะ กล้าหักหลังนายท่าน ฆ่าทิ้งเสียเถอะ”“นายท่านทั้งสี่......ฆ่าหมดเลยหรือ?” เซวี่ยซาหายใจถี่ขึ้นสิบสองกองธงสังหารไปสี่ เช่นนั้นเผ่าหมอก็แทบต้องเปลี่ยนเลือดใหม่หมดเลย"ท่าน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 250

    ทหารเวรยามทั้งสองตกใจมาก กำลังจะถามว่าเป็นใคร ก็เห็นหัวหน้าเผ่าหมอผู้สูงส่งยืนอยู่ตรงหน้าคนทั้งสองขาอ่อน คุกเข่าลงไปกับพื้นด้วยเสียงดังโครม ร่างกายสั่นเทาคล้ายใบไม้สั่นในตะแกรง พูดออกมาแต่ละคำก็สั่นจนฟันกระทบกัน"ข้า......ข้าน้อย......ขอคารวะท่านหัวหน้าเผ่าหมอ"หัวหน้าเผ่าหมอยืนหันหลังให้พวกเขา ด้วยท่าทางสง่างาม มองดูมือที่เรียวยาวและขาวดั่งหยกของตน เขายืนอยู่ที่นั่นเพียงแค่คนเดียว แต่กลับมีอำนาจอันน่าเกรงขามราวกับเทพเจ้าผู้สูงส่งที่ทำลายล้างทุกสิ่งได้ด้วยการดีดนิ้วหัวหน้าเผ่าหมอเอ่ยด้วยเสียงเกียจคร้านว่า "รู้หรือไม่ว่าพวกเจ้าทำความผิดอะไร?"เมื่อได้ยินคำถามนี้ ยามทั้งสองแทบตกใจจนฉี่ราดด้วยสถานะของหัวหน้าเผ่าหมอ คงไม่แม้แต่สนใจที่จะพูดคุยกับพวกเขา แต่วันนี้หัวหน้าเผ่าหมอเลือกที่จะพูดคุยกับพวกเขาไม่ ไม่ใช่พูดคุย แต่เป็นการซักถามพวกเขาคิดว่าอาจเป็นเพราะพวกเขาคุยเรื่องของโย่วหู้ฝ่าและหัวหน้าเผ่าหมอได้ยินเข้า?ยามคนแรกสั่นกลัวจนพูดไม่ออก "เพราะ......เพราะข้าพูดถึงโย่วหู้ฝ่า.....""ไม่ใช่" หัวหน้าเผ่าหมอให้คำตอบที่ไม่ค่อยพบเห็นนักด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขคนที่สองกลืนน้ำลาย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status